ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    got7 。.·♡ ˋ HELLO MY EX ˊ #jark #yugbam #bnyoung

    ลำดับตอนที่ #10 : HELLO MY EX ♡ CHAPTER 9

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 60






     
     

     
    HELLO MY EX
    CHAPTER 9





     

     



     

     

     

    “ผมไม่อยากเจอเธอ คุณพอจะจัดการอะไรได้มั้ย” 

     

    (แต่เธอนัดไกล่เกลี่ยมา ฉันคิดว่าคุณควรจะไปเจอเธอ)

     

    “แต่ผมไม่อยากเจอ” 

     

    (ฉันรู้ แต่คุณรู้มั้ย ผู้หญิงน่ะซับซ้อนกว่าที่คิด ไม่แน่ถ้าคุณยอมไปคุยกับเธอดี ๆ เธออาจจะยอมเซ็นต์ใบหย่าให้คุณง่าย ๆ ก็ได้)

     

    “ผมไม่คิดว่าเธอจะทำแบบนั้นเลย” 

     

    (ฉันก็ไม่คิด... แต่ในฐานะทนาย ฉันอยากให้คุณลอง)

     

    “...งั้นผมขอตัดสินใจอีกที”

     

    สัญญาณโทรศัพท์ตัดไปพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้ง แจ็คสันไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อขนาดนี้ แต่เธอก็เหมือนจะไม่เข้าใจ... 

     

    เอกสารบนโต๊ะถูกกวาดลงกระเป๋าเงียบ ๆ เสียงทุ้มบอกลาเลขา แจ็คสันหิ้วกระเป๋าทำงานเดินออกไปลานจอดรถอย่างซังกะตาย... 

     

    ทั้งที่มันเป็นเวลาเลิกงานแล้วแท้ ๆ 

     

    ตลอดสองปีที่ผ่านมาชีวิตคู่ของแจ็คสันล้มเหลว... จะว่ามันเป็นความผิดของแจ็คสันเพียงคนเดียวก็ได้ แต่การที่จะต้องอยู่กินกับคนที่ไม่ได้รัก ก็เหมือนอยู่เพื่อรับผิดชอบตามหน้าที่ไปเรื่อย ๆ ลำบากตัวไม่เท่าไหร่... 

     

    แต่ใจมันแห้งผากลงทุกวัน

     

    ถึงจะเป็นแบบนั้น...แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้แจ็คสันหย่ากับเธอหรอก... 

     

    “ฮาโหล...ยูคยอมหรอ คืนนี้ออกมากินเหล้ากับเฮียหน่อย” 

     

    กลับไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไร กินเหล้าย้อมใจกลับบ้านไปจะได้นอนหลับสนิทก็แล้วกัน 

     

     

     

     

     

     

    มาร์คถอดแว่นตาออกก่อนจะใช้ปลายนิ้วคลึงด้วยความเมื่อยล้า ตัวเลขบนนาฬิกาชี้บอกเวลาใกล้ตีหนึ่ง ตอนนี้ป่านนี้เจ้าลูกหมูตัวอ้วนคงกำลังนอนกรนครอกฟี้ิอยู่ในเปลนอน... 

     

    งานของมาร์คพึ่งเสร็จ... 

     

    รายจ่ายของแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องที่ล้อเล่น รายได้ของมาร์คไม่ได้น้อย แต่ก็ไม่ได้สูงอะไรเมื่อเทียบกับภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น คอนโดห้องนี้ก็ต้องผ่อน ไหนจะเงินสำหรับการศึกษาของเจ้าอ้วนที่มาร์คอยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ การทำงานจนถึงดึกดื่นหลังจากเวลาที่กล่อมเจ้าลูกหมูนอนจึงเป็นเรื่องปกติ

     

    “นอนนอน ได้เวลาอาบน้ำไปนอนกอดลูกหมูแล้ว” 

     

    ความเหนื่อยมันคลายหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อคิดถึงเจ้าหมูอ้วนตัวน้อยที่นอนตุ้ยรออยู่บนเตียงนอน แขนเรียวยกบิดขี้เกียจก่อนชุดใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นยืน 

     

    ถึงมาร์คจะทำเป็นไม่สนใจว่าคืนนี้แจ็คสันกลับมาที่ห้องนี้ไม่ แต่ก็อดบ่นในใจไม่ได้ แต่ก็ช่างเค้าเถอะ แค่เมื่อเช้ามาร์คไม่ได้ว่าอะไรเรื่องมานอนในห้องด้วยมันก็น่าจะพอแล้ว

     

    มันแทบจะพอดีกัน...เสียงประตูปลดล็อคดังมาจากทางหน้าบ้าน มาร์คถอนหายใจออกมาทั้งที่ข้างในค่อนข้างโล่งใจ ไม่จำเป็นต้องหันไปมองก็รู้ แจ็คสันคงกลับมาแล้ว แต่ทว่าเสียงเท้าที่กระทบลงกับพื้นไม้หน้าประตูกับเสียงของร่วงหล่นทำให้มาร์คจะต้องหันหลังกลับไปมอง

     

    “กลับดึกเราไม่ว่านะ แต่ช่วยเสียงเบา ๆ หน่อย มาร์เจย์นอนหลับไปแล้ว”

     

    หางตาเหลือบไปมองคนเดินงุ่นง่านเซไปเซมาอยู่หน้าประตูอย่างดุ ๆ  สภาพที่เห็นมันเป็นภาพที่มาร์คเคยเห็นเป็นประจำตั้งแต่สมัยที่คบกัน หน้าแดงตาปรือแบบนี้ ท่าทางวันนี้แจ็คสันจะดื่มเข้าไปหนัก

     

    “มาร์ค...มาร์ค...ยังไม่นอนหรอ” 

     

    กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งลอยมาพร้อมกับร่างหนาแน่นที่เดินเซแท่ด ๆ เข้ามาใกล้ คนเมาในตอนนี้มีความสามารถในการเดินไม่ต่างอะไรกับลูกปูถูกคลื่นทะเลซัด 

     

    “ยังไม่นอนถึงนอนก็ต้องตื่นเพราะเสียงของหล่นนี่อยู่ดี รีบเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองไป” 

     

    กลิ่นแอลกอฮอร์ฉุนจนมาร์คเบ้หน้า คุณแม่ลูกหนึ่งยอมเสียสละให้คนที่พึ่งมาใหม่จัดการตัวเองก่อน ส่วนตัวก็จะออกไปดูตรงประตูสักหน่อยว่าคนเมาก่อความพินาศอะไรไว้บ้าง 

     

    “มาร์คคคค” 

     

    แต่เสียงแจ็คสันยานคางกลับเรียกรั้งมาร์คไว้ และเพราะง่วนอยู่กับการเก็บตรวจเช็คประตูบ้านไม่ได้หันไปมองจนโดนแรงกอดหนัก ๆ โถมทับ

     

    “อะไรเนี่ยแจ็คสัน” 

     

    มาร์ครับคนเมาปลิ้นที่โผเข้าหาจนเนื้อตัวใกล้ชิด กลิ่นน้ำหอมผสมกับแอลกอฮอร์ตลบอบอวลอยู่ที่ปลายจมูก มาร์คย่นคอหนีเจ้าของริมฝีปากสีก่ำที่พยายามจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อพูดอะไรบางอย่าง

     

    ซึ่งมันก็ยังใกล้จนผิวแก้มของมาร์คสัมผัสได้ถึงความร้อน...

     

    “ขอโทษ”

     

    ...ลืมหายใจ...

     

    รู้ว่าไม่ควรคิดอะไรแต่เรี่ยวแรงพาลหดหายจนแรงโถมดันร่างกายผอมบางไปติดกับประตูบ้าน... 

     

    “ขอโทษที่ทิ้งไป” 

     

    ...เร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว...

     

    มือไม้ของมาร์คสั่นระริกอย่างทำตัวไม่ถูก นัยน์ตาของแจ็คสันปริ่มไปด้วยน้ำจนไม่เหมือนกับแววตาคนเมาชวนให้มาร์คหลบหนี 

     

    แล้วแจ็คสันยอมที่ไหนกัน

     

    “ขอโทษจริง ” 

     

    ผิวแก้มอุ่นไปหมดเพราะมือของคนเมาเอื้อมมาลูบเบา ๆ ที่แก้ม... แจ็คสันใช้หัวนิ้วโป้งปาดน้ำตา...มองตาสั่นระริกที่น้ำตากำลังจะล้นทะลักไม่ต่างกัน... ก่อนจะเป็นฝ่ายหนีหน้ามาร์คเอง โดยการซุกหน้าลงกับไหล่บางก่อนจะกอดกระชับเอาไว้แน่น... 

     

    “ขอโทษจริง ๆ”

     

    มาร์คสูดลมหายใจชื้นพร้อมกับปาดน้ำตา... 

     

    เมาแล้ว ไปอาบน้ำนอนเถอะแจ็คสัน” 

     

    มาร์คเปิดใจรับมันไม่ไหวหรอก... 

     

    แขนบางดันคนที่กอดอยู่ออกแม้จะหยดน้ำตาจะเปียกอาบหน้า 

     

    คำว่าขอโทษมันมีความหมายก็จริง...แต่เราจะเอาอะไรกับคำพูดของคนเมา แจ็คสันตอนนี้น่ะ ยังยืนให้ตรงด้วยตัวเองด้วยซ้ำ 

     

    หรือถึงมันจะมีความหมายก็แล้วไง...

     

    หัวใจมาร์คไม่มีสิทธิ์หวั่นไหวเพราะคำ ๆ นี้อีกแล้ว 

     

    “มาร์ค...” 

     

    เสียงลมหายใจสูดลึก มาร์คตั้งสติเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นที่กำลังตีขึ้นมาอีกระลอก แขนเรียวพยุงคนที่ยืนโงนเงนโดยที่ไม่มองหน้า...พาไปส่งห้องน้ำ... 

     

    “เดี๋ยวเราหยิบเสื้อผ้าให้นะ เปิดน้ำอุ่น ๆ อะ จะได้สร่างเมาไว ๆ” 

     

     

     

     

     

     

    หลังประตูปิดลง...

     

    ความเข้มแข็งที่มาร์คเคยมีมันก็หมดลง...

     

    ร่างบอบทรุดนั่งลงกองกับพื้นแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนไม่ต่างจากเด็ก

     

    มันมากเกินไป... 

     

    จากที่เคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่เคยพอเลยสำหรับเรื่องแบบนี้...

     

    มาร์ครู้ว่าตัวเองยังรักอยู่... มาร์คยังรักแจ็คสันอยู่อย่างเต็มหัวใจ 

     

    แต่การที่ยอมรับให้แจ็คสันกลับเข้ามาในชีวิตมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด... 

     

    มาร์คอยากให้ระหว่างเราเป็นแค่รูมเมทระยะสั้น ที่แจ็คสันไม่ต้องพยายามฟื้นฟูอะไรระหว่างเราให้มันดีขึ้นมาอีก... เพราะความเป็นเพื่อนมาร์คก็ให้ไม่ได้ 

     

    มันไม่ได้เพราะมาร์คยังรักอยู่เต็มหัวใจ...

     

    และหัวใจของมาร์คก็ไม่แข็งแรงพอที่จะให้แจ็คสันเป็นมากกว่านั้น...

     

    มาร์คไม่อยากจะถอยหลังกลับไปเจ็บอีกแล้ว.... 

     

     

     

     

     

     

    เช้านี้มันขุ่นมัว...และคุณแจ็คสันไม่พอใจอะไรทั้งนั้น..

     

    ไม่พอใจระดับที่ว่าตั้งแต่ยามหน้าบริษัทยันบอร์ดผู้บริหารระดับสูงก็ยังไม่มีใครเข้าหน้าติด... 

     

    “ถ้าศักยภาพในการทำงานของคุณมีแค่นี้ ผมว่าสัญญาล็อตนี้คงจะเป็นล็อตสุดท้าย” 

     

    “ตะ...ตะแต่คุณแจ็คสันครับ..”

     

    “ของที่คุณส่งให้ทางเรามันไม่ถูกสเปค ผมอนุญาติให้เปลี่ยนไม่รีเจ็คกลับยกล็อตยังไม่พออีกหรอครับ ?”

     

    “คะ..ครับ” 

     

    พนักงานที่มุงอยู่หน้าห้องสลายตัวกันเป็นพัลวันเมื่อประตูห้องทำงานบอสเปิดผลัวะออกมา คุณแจ็คสันก้าวฉับ ๆ สั่งเลขาเสียงเรียบให้เตรียมเอกสารสำหรับออกไปประชุมนอกสถานที โดยมีสายตาเห็นอกเห็นใจของพนักงานที่มอบไปให้เหยื่ออารมณ์ผู้โชคร้ายที่ได้แต่เดินตามหลังมาเอาผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อหัวล้านป้อย ๆ 

     

    คุณแจ็คสันระเบิดลงลั่นห้องแบบนี้...เป็นบ่อยที่ไหน 

     

    หัวหน้าแผนกมหาประลัยก้าวขึ้นรถตู้ที่มีคนขับรถคอยกระวีกระวาดวิ่งมาเปิดให้ ตำแหน่งที่หวังแจ็คสันอยู่ว่าจะใหญ่ก็ใหญ่เพราะความสามารถที่มีและตัวเงินที่ได้ก็รอเพียงการโปรโมทขึ้นไปเป็นระดับผู้บริหารเท่านั้น 

     

    แต่ตอนนี้ตำแหน่งและการยอมรับอะไรมันก็แทนที่ไม่ได้เลย...

     

    “ตรงไปที่ประชุมเลยนะ ระหว่างนี้ช่วยเงียบด้วย ผมอยากคิดอะไรเงียบ ๆ “ 

     

    คำขอโทษของแจ็คสัน...มาร์คไม่แม้แต่จะยอมรับมันเลย...

     

    ภายในรถนั้นเงียบจนแทบจะมีแต่เสียงลมหายใจ... เลขาสาวนั่งปากปิดสนิทจัดงานของตัวเองต่อภายในแท็บเล็ทขนาดเล็ก ไม่่ต่างอะไรกับคนขับรถวัยกลางคนที่วันนี้จำเป็นต้องขับรถให้นุ่มนวลเป็นพิเศษ ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มทอดสายตายาวมองออกไปนอกรถ... 

     

    บ้าเอ้ย... 

     

    แจ็คสันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยสักนิด... 

     

    พาลพาโล โมโหทุกอย่าง...เพียงเพราะว่าไม่อยากยอมรับว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว.... 

     

    หากเป็นเมื่อก่อน...เพียงแค่กอดมาร์คเบา ๆ กระซิบขอโทษอย่างจริงใจ คนแข็งนอกอ่อนในอย่างมาร์คก็มักจะให้อภัยเสมอ...

     

    แต่นี่เมื่อวานมันคืออะไร... แจ็คสันเมาหยำเป๋ ไม่ต้องคิดคาดหวังเลยว่ามาจะยอมยกโทษให้และถ้าสมองโง่ ๆ อันนี้จำไม่ผิด... 

     

    ภาพมาร์คสะอื้นฮักยังอยู่ในแววตา... 

     

    เอกสารที่ถือติดมือมาถูกกำจนยับ... 

     

    มือถือเตรียมจะสไลด์เพื่อปลดล็อคหน้าจอเพื่อโทรเรียกยูคยอมมาเป็นเหยื่อปรับทุกข์อีกครั้ง...

     

    แต่ก็ไม่ทันกับสายอีกสายที่โทรสวนกลับมาราวกับรู้ใจ...

     

     

     

     

     

     

    “กูจะทำยังไงดีวะเฮีย” 

     

    เหล้าในแก้วจืดไปเลยเมื่อยูคยอมพรั่งพรูปัญหาของมันออกมา... 

     

    คิมยูคยอมเป็นรุ่นน้องสมัยมหาลัยของแจ็คสัน ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทซอลฟ์แวร์ที่อยู่ใกล้กัน ทำให้แจ็คสันมักจะมียูคยอมคอยเป็นคนปรับทุกข์ด้วยเสมอ... 

     

    แต่ตอนนี้แจ็คสันแทบจะลืมปัญหาตัวเองออกไปจากหัว เพราะเรื่องที่น้องชายคนสนิทหอบมาปรึกษาทำเค้าที่เครียดอยู่แล้วแทบจะลงไปกุมขมับ

     

    เรื่องมันวุ่นวายไปหมดแล้ว...

     

    “ก็ทำไงอะมึง... ทำท้องแล้วก็ต้องรับดิวะ” 

     

    เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แค่การรับผิดชอบเด็กในท้องเท่านั้น ลำพังยูคยอมก็พอจะเริ่มสร้างครอบครัวได้แล้วล่ะ...แต่ปัญหาก็คือตัวแฟนของยูคยอมมากกว่า..

     

    “ปัญหามันไม่ใช่กูไม่รับ...แต่ปัญหาคือกูในสายตาพ่อแม่แบมแบมมีค่าเป็นแค่หมาขี้เรื้อน” 

     

    “ก็จริง...แล้วยังไม่นับที่มึงไปพรากผู้เยาว์น้องเค้าด้วยนะ...” 

     

    “โอ้ย มึงพี่กูจริงปะเนี่ย” 

     

    “ก็มึงเรียกกูเฮีย ๆ มึงเรียกพ่อมึงรึไง” 

     

    “โว้ย...​กูปรึกษามึงแล้วกูเครียดกว่าเดิมอีก...วันนั้นกูไม่น่าออกมากินเหล้ากับมึงเลย...” 

     

    แบมแบม แฟนของยูคยอมเป็นนักศึกษาปีสอง คณะนิเทศน์ศาสตร์ที่มีครอบครัวรวยล้นฟ้าเป็นถึงกลุ่มเศรฐกิจยักษ์ใหญ่ในประเทศเกาหลีและไทย...และใช่ สำหรับสายตาของครอบครัวอีกฝ่าย ยูคยอมเป็นแค่หนูรอวันตกถังข้าวสารเท่านั้นเพราะเมื่อเทียบกับครอบครัวแบมแบมแล้วทรัพย์สินที่ยูคยอมมียังน้อยกว่าเงินแต๊ะเอียที่จ่ายให้คนในครอบครัวปี ๆ หนึ่งด้วยซ้ำไป 

     

    จะว่ามันเป็นความผิดของแจ็คสันมั้ย...มันก็ร่วมด้วยช่วยกันอยู่กึ่งหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองก็ลากคิมยูคยอมออกมาเมาด้วยบ่อย จนมันเมากลับห้องไปฟัดแฟนอีท่าไหนไม่รู้จนลืมป้องกัน...

     

    “นี่ไง ตอนนี้กูก็นั่งปลอบมึงอยู่นี่ไง”

     

    แจ็คสันตบไหล่รุ่นน้องที่นั่งห่อเหี่ยวอยู่ข้าง ๆ สภาพยูคยอมตอนนี้ดูได้ที่ไหนกัน... 

     

    แก้มมันโดนแบมแบมตบจนเป็นปื้น ดูก็รู้ว่ายอมเมียมากอยู่ ไหนจะน้ำตาที่คลอ ๆ จะไหลลงมาอีก ที่ทำเป็นปากดีเข้มแข็งอยู่ตอนนี้ก็เพราะไม่อยากจะให้เค้าเป็นห่วงมากกว่า... 

     

    “เฮียมึง...กูก็ดีใจนะที่แบมแบมท้อง...แต่พอเห็นเค้าสะอื้นฮัก ๆ คิดถึงอนาคตเค้าแล้วกูนี่รู้สึกว่าตัวเองเลวเหี้ย ๆ เลยว่ะ...” 

     

    หมดสภาพน้องชายมาดกวนของแจ็คสัน หยาดน้ำตาเม็ดใสกลมร่วงลงอย่างกับห่าฝน แจ็คสันเปลี่ยนจากตบหลังเป็นลูกหัวทุยเบา ๆ มองน้องชายที่ค่อย ๆ เริ่มระบายทุกอย่างออกมาอย่างเก็บไม่ไหว 

     

    “เค้าต้องหยุดเรียนมาอุ้มลูกในคนอย่างกู...ฮึก... แล้วถึงกูจะโง่ติ๊งต๋องแต่กูก็จำได้นะเว้ย ว่าฝันของแบมแบมคือการเป็นผู้กำกับ”

     

    “…”

     

    “ถ้าเลือกได้กูก็อยากจะเป็นคนที่มาอุ้มท้องเอง ให้แบมแบมได้กลับไปเรียน ได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างที่เด็กวัยรุ่นทั่วไปควรได้ทำ” 

     

    “…”

     

    “แต่กูทำแบบนั้นไม่ได้ไง”

     

    “…”

     

    “…ฮึก…ถึงเค้าจะมาตอนไม่พร้อมแต่เค้าก็ไม่ผิดใช่มั้ยอะมึง...ลูกกูก็รัก แบมแบมกูก็รัก”

     

    “…”

     

    “แต่ถ้ากูจะรั้งน้องไว้ กูจะไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหรอวะมึง” 

     

     

     

     

     

     

     

     

    มันยากจริง ๆ ที่จะทิ้งยูคยอมเอาไว้ที่ร้านเหล้า... 

     

    แจ็คสันใช้ไหล่พยุงน้องชายคนสนิทขณะที่ใช้มือกดลิฟต์ ในใจภาวนาให้มาร์คหลับไปแล้วแม้ว่ามันจะเป็นไปได้ยากอย่างน่าเหลือเชื่อ... 

     

    เรื่องเมื่อวานก็ยังไม่เคลียร์ แล้วแจ็คสันจะหาแต่เรื่องให้มาร์คไม่จบไม่สิ้น... 

     

    เสียงทีวีเบา ๆ ดังลอดออกมาทันทีที่เปิดประตูห้อง แจ็คสันกลืนน้ำลายเอื๊อก ก่อนจะเดินโงนเงนพาตัวเองและยูคยอมไปถอดรองเท้าหน้าห้อง... 

     

    “…คือเอ่อ...” 

     

    “ยูคยอมหรอ...” 

     

    “อืม…” 

     

    “งั้นเดี๋ยวเราไปเอาผ้าห่มมาเพิ่มให้”

     

    มาร์คไม่แปลกใจ ไม่เอ่ยปากถาม ทั้งที่มันควรจะมีเรื่องมากมายให้ซักไซร้ ดวงตากลมช้ำนั่นเพียงแค่หันมามองยูคยอมเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเดินเข้าห้องไปหยิบผ้าห่มออกมาให้

     

    กำแพงของมาร์คเหมือนจะหนาขึ้นแล้ว...

     

     

     

     

     

     

    คุณแม่ที่นั่งทำงานอยู่ที่ห้องนั่งเล่นหยัดตัวขึ้นจากโต๊ะทำงาน แง้มประตูเบา ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนเจ้าตัวอ้วนแก้มหอมที่นอนหลับปุ๋ย... 

     

    บางทีความเฉยชามันคงเป็นเกราะที่แข็งแรงที่สุดแล้ว... 

     

    มาร์คไม่อยากทำตัวเปลี่ยนไปมากกว่านี้เพื่อให้ระหว่างเรามันวางตัวยากขึ้นไปอีก อย่างน้อยการพยายามที่จะนิ่งะรักษาระยะห่างมันก็น่าจะดีกับสถานการณ์ตอนนี้มากกว่า... 

     

    วันเวลาค่อย ๆ นับถอยหลัง ภาวนาให้ตลอดสามเดือนหลังจากนี้กำแพงที่มาร์คสร้างจะยังคงอยู่อย่างนี้... 

     

    “…แอ้…จ๊อบแจ๊บ...”

     

    มาร์คเศร้าได้ไม่นาน... เสียงเคี้ยวน้ำลายกับเสียงครางน้อย ๆ ดังมาจากเปลเล็ก... ผ้าห่มที่พึ่งหยิบออกมาถูกวางทิ้งไว้บนเตียง

     

    ปลายนิ้วมาร์คเกลี่ยแก้มนุ่ม ๆ หอม ๆ ของลูกหมูเล่น...

     

    “เป็นกำลังใจให้มะผ่านมันไปด้วยนะครับ มาร์เจย์” 






    -2-

    กรี๊ดดดดดด
    มาอัพครบแล้วค่ะ
    เอาจริง ๆ ตอนนี้คู่หลักทั้งหมดพึ่งจะออกมาครบค่ะ ฮือ
    ใช่ค่ะ สองหมื่นกว่าคำที่ผ่านมาคือการเกริ่นเรื่อง
    มาอัพช้ามากเลย แต่เราไม่ทิ้งนะ
    ได้โปรดอย่าทิ้งเราปัยย์


    ด้วยรัก
    จากคยองอินที่รอคอมเม้นแฮชแทคและยุ่งชิบหายกับปริญญานิพนธ์

    -1-

    กรี๊ดดดดดดด ยังมีคนอ่านอยู่มั้ย
    ขอโทษจริง ๆ ที่มาต่อช้าขนาดนี้
    ฮือ อย่าทิ้งเค้าไปนะ เค้าขอโทษ 
    ตอนนี้เจ็บกันไปคนละดอกเน้าะ 
    มะก็พัง ป๊ะก็เละ เจ้าเจะนอนหลับปุ๋ย 
    เป็นกำลังใจให้ House กลายเป็น Home ด้วยนะคะ

    ด้วยรักและละอายใจเหลือเกิน 


    คยองอินที่รอคอยคอมเม้นและแฮชแทคของเธอ

     

    #jarkEX
     

     

     
     
    Ⓒ QRD
     
     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×