คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ► ภาพอีโรติกในวัฒนธรรมตะวันออก
วัฒนธรรมที่ไม่ใช่ตะวันตกอันหลายหลาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัฒนธรรมตะวันออก นับแต่โบราณเป็นต้นมา ต่างครอบครองหรือเป็นเจ้าของขนบประเพณีโบราณต่างๆบางอย่างที่เกี่ยวกับศิลปะ อีโรติกอันนี้เอาไว้ ซึ่งยังคงเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ที่โต้เถียงกันในตะวันตก
ในคริสตศตวรรษที่ 20 ชาวตะวันตกได้มีการตีพิมพ์ภาพ erotica art โดยทำขึ้นมาในรูปของหนังสือที่มีราคาแพง. ภาพสลักหินแบบเหมือนจริงที่มีคุณค่าอย่างสูงในรัฐ Orissa ในอินเดียตะวันออก, งานเหล่านี้นับอายุย้อนกลับไปถึง อย่างน้อยก็คริสตศตวรรษที่ 1 เลยทีเดียว. งานภาพสลักเหล่านี้ถูกทำให้สัมพันธ์กับลัทธิบูชาพระกฤษณะ(Krishna) ซึ่งยังได้ให้กำเนิดขนบประเพณีต่างๆของจิตรกรรมแบบอีโรติคด้วยรวมทั้งกวีนิพนธ์ และ การร่ายรำ.
ตัวอย่างเช่น กามสูตร(KAMA-SUTRA) คัมภีร์สันสกฤตเกี่ยวกับเรื่องความรักได้รับการเขียนขึ้นมาในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 4-7, ได้กลายเป็นเรื่อง erotic ของคนขายหนังสือเมื่อ Sir Richard Burton ได้แปลมันไปสู่ภาษาอังกฤษในปี ค.ศ.1883
สำหรับขนบประเพณีต่างๆเกี่ยวกับอีโรติกของจีน และญี่ปุ่นก็มีความเก่าแก่มานานแล้วเช่นกัน แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทางโลกมากกว่าเป็นเรื่องทางศาสนาหรือความ ศักดิ์สิทธิ์(secular rather than sacred). ในญี่ปุ่นสมัยเอโดะ(ราวคริสต์ศตวรรษที่ 17-19) เรา จะได้พบเห็นความเจริญและความเฟื่องฟูอันหนึ่งของกวีนิพนธ์อีโรติค รวมทั้งนวนิยายทำนองเดียวกันนี้ และงานจิตรกรรมในเนื้อหาดังกล่าว. สำหรับเรื่องที่แต่งขึ้นเกี่ยวกับอีโรติกของจีนและงานทางด้านทัศนศิลป์ นับย้อนกลับไปถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 และก่อนหน้านั้น. นอกจากนี้ยังมีภาพอีโรติกเป็นจำนวนมากในกวีนิพนธ์อิสลามิกในช่วงยุคกลางด้วย เช่นกัน.
และเมื่อมองในสายตาที่เป็นไปในด้านตรงข้ามเชิงผกผัน จะพบว่าว่า ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 บรรดาผู้จำหน่ายจ่ายแจกเรื่อง erotica ของตะวันออกไปสู่ตะวันตกได้บ่มเพาะความเป็น puritanical (เกี่ยวกับความเคร่งครัดในทางศาสนาอย่างบริสุทธิ์)อย่างมีนัยสำคัญขึ้นมาด้วย
© Tenpoints !
ความคิดเห็น