ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    indecentart ศิลปะกับอนาจาร

    ลำดับตอนที่ #1 : ❤❤ มารู้จักกับศิลปะหรืออนาจารกันเถอะ !!

    • อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 55


     

               เราได้ยินกันมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว ขณะที่พบภาพเขียนหรือภาพถ่ายซึ่งมีคนเปลื้องผ้าห่อหุ้มร่างกายออกหมด และแสดงท่าทางต่างๆ  มักมีคำถามปรากฏออกมาว่า เป็นภาพศิลปะหรืออนาจาร

     

    กระทั่ง หลังจากที่สังคมวางกฎระเบียบ ติดตามมาด้วยการใช้อำนาจควบคุม โดยที่คิดว่าถ้าเป็นงานศิลปะ ควรถือว่าคือการศึกษาที่ลึกซึ้งถึงจิตวิญญาณมนุษย์ หากเห็นว่าเป็นอนาจาร ย่อมถือว่าขัดศีลธรรมอันดีงาม

     

    ประเด็น ดังกล่าว ได้มีการนำมาถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง แต่แล้วในที่สุดก็ค่อยๆ เงียบหายไปเสมือนคลื่นกระทบฝั่ง วันดีคืนดีก็เกิดเรื่องราวเช่นเดียวกันขึ้นมาอีก

     

     

     

    หาก มองเห็นภาพรวม  อีก ทั้งใช้ความจริงจากธรรมชาติเป็นพื้นฐานการพิจารณา  น่าเข้าใจได้ว่า สิ่งที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด ไม่ว่าจะผ่านพ้นมาแต่อดีตหรือกำลังจะก้าวต่อไปสู่อนาคต  หากคิดว่าเป็นภาพคลื่นกระทบฝั่ง ลูกแล้วลูกเล่า ก็น่าจะเป็นไปได้  แต่ถ้าไม่สนใจค้นหาความจริงให้ลึกซึ้งถึงที่สุด ก็คงหาจุดจบยังไม่พบ

     

    หาก ใช้หลักธรรมชาติเป็นพื้นฐาน แล้วมองไปยังภาพรวมของปรากฏการณ์ทั้งหมด โดยไม่นำเอาเงื่อนไขในด้านกาลเวลาหรือสิ่งอื่นใดมาผูกติดไว้  ย่อมรู้ความจริงได้ว่า แท้จริงแล้วก็คือการกระจายสิ่งซึ่งเป็นปรากฏการณ์ อันมีสภาพที่เรียกกันว่า 2 ขั้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม

     

    ถ้า คิดที่จะค้นหาความจริงต่อไป  ก่อนอื่นควรเริ่มต้นสร้างความเข้าใจให้ตนเองรู้ว่าเรื่องนี้เกิดจากความ รู้สึกนึกคิดอันเป็นธรรมชาติของคนซึ่งอยู่ร่วมกันในสังคม  หาก สะดุดคิดลึกลงไปอีกขั้นหนึ่ง น่าจะช่วยให้มองเห็นความจริงว่า สิ่งที่เป็นของแท้ซึ่งทำให้เกิดเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ย่อมมีความจริงอยู่ในรากฐานจิตใจคนซึ่งมีธรรมชาติแตกต่างกัน

     

     

     

    หวน กลับไปนึกถึงชีวิตเราแต่ละคน จากยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งแต่ก่อนก็คงไม่มีสิ่งใดมาใช้ห่อหุ้มร่างกาย หากคงเป็นไปอย่างเปิดเผย โดยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาด

     

    ช่วง ถัดมา คนเริ่มมีการนำวัตถุจากธรรมชาติที่อยู่ภายนอกตัวเองมาใช้เสริมสร้างการดำรง ชีวิต  ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย และอาหาร อันถือเป็นธรรมชาติในด้านรูปวัตถุระดับพื้นฐาน มีผลทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งประกอบขึ้นเป็นภาพรวมของกระบวนการธรรมชาติรวม ถึงชีวิตคน  มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสานเหตุและผลถึงซึ่งกันและกัน

     

    โดย เฉพาะอย่างยิ่งเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ล้วนมีผลสืบเนื่องมาจากเงื่อนไขซึ่งอยู่ในรากฐานจิตใจคน  ดังนั้น จึงคงหนีไม่พ้นไปจากการที่รากฐานจิตใจคน จำต้องได้รับผลจากการกระทำ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงร่วมด้วย

     

    ภาย ในรากฐานจิตใจของแต่ละคน ต่างก็มีจิตวิญญาณที่มีเหตุผลสานถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง  ดัง นั้น หลังจากคนนำสิ่งต่างๆ จากภายนอกมาใช้ประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์เพื่อให้ความสะดวกสบายแก่ชีวิตตนเอง จิตใจคนจึงไม่อาจหลีกเลี่ยงพ้นไปจากอิทธิพลของวัตถุสำเร็จรูปซึ่งเปลี่ยน แปลงมาตามยุคสมัย ทำให้หลงไหลถึงกับยึดติดอยู่กับมันจนเป็นนิสัย ไม่ว่าใครจะรับเข้าไว้มากน้อยแค่ไหน

     

    แต่ ความจริงจากธรรมชาติก็ได้ชี้ไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่มีชีวิตใด สิ่งใด จะเปลี่ยนแปลงไปจนหมดสิ้น  ดัง นั้นส่วนที่สามารถยืนหยัดอย่างเข้มแข็งอยู่ได้ ย่อมยังคงมีอยู่ ไม่ว่าเหลือน้อยแค่ไหน  ดังนั้น ผู้ที่ไม่ยอมตกเป็นทาสอิทธิพลของสภาพดังกล่าวจึงมีโอกาสหยั่งรู้ความจริงได้ ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

     

      

     

                สำหรับ ผู้ที่หยั่งรู้ความจริงจากธรรมชาติที่อยู่ในใจตนเองให้มั่นใจได้ถึงระดับ หนึ่ง  ย่อมสามารถหยั่งรู้ความจริงของธรรมชาติจากใจเพื่อนมนุษย์ได้อย่างหลากหลาย  ดังนั้น แม้เรื่องราวจากภาพคนที่เปลื้องเครื่องนุ่งห่มออกจากร่างกายทั้งหมดและแสดง ท่าทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคนใดคนหนึ่งหรือหลายคน อีกทั้งเป็นคนชาติไหน ภาษาไหน ย่อมเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดจากใจคน  ทั้งผู้ปฏิบัติและผู้ที่มีโอกาสสัมผัสกับภาพดังกล่าว

     

    สำหรับ ภาพเขียนหรือภาพถ่ายซึ่งปรากฏออกมาในลักษณะที่กล่าวมาแล้ว แทนที่จะมุ่งความสนใจไปยังภาพเหล่านั้นด้านเดียว  ผู้ซึ่งมีรากฐานจิตใจอิสระย่อมสามารถหวนกลับมามองเห็นความจริงจากใจผู้เขียน หรือผู้ถ่ายภาพรวมถึงผู้ที่มองว่าเป็นศิลปะหรืออนาจารซึ่งเป็นอีก ด้านหนึ่งร่วมด้วย  นอกจากนั้นน่าจะให้ความสนใจมองมายังด้านนี้เหนือกว่าอีกด้านหนึ่ง  ทั้งนี้และทั้งนั้นเพื่อค้นหาความจริงให้ลึกซึ้งถึงที่สุด

     

    ยิ่ง ไปกว่านั้น หากผู้พิจารณาไม่ลืมความจริงจากใจตัวเอง  ถ้าสามารถหยั่งรู้ให้ถึงจุดอันเป็นเหตุที่ทำให้คนสนใจ ควรถือว่า ณ จุดนี้น่าจะมีความสำคัญอย่างที่สุด  ดังเช่นที่คนยุคก่อนเคยชี้แนะไว้ว่า ถ้ามองเห็นสิ่งอื่นใดก็ตาม มีสภาพเป็นอย่างไร    เงื่อนไขซึ่งฝั่งลึกอยู่ในรากฐานจิตใจผู้มองนั่นแหละที่กำลังคิดให้เป็นเช่น นั้น

     

      

     


    Creme brulee



    © Tenpoints !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×