คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ► ศิลปะอีโรติกา [งานศิลปะกามวิสัย]
Erotica art สำหรับคำว่า Erotica เป็น ชื่อเรียก ซึ่งใช้เรียกขานผลงานทางด้านศิลปะ งานเขียน หรือภาพถ่าย หรือการแสดงต่างๆ - ที่ได้จำลองเรื่องทางเพศออกมาอย่างแจ่มแจ้ง แต่ในเวลาเดียวกัน มันได้ครอบครองหรือคงไว้ซึ่งคุณค่ามากพอที่จะหนีรอดไปจากการตำหนิหรือประณาม ว่า เป็นภาพโป๊(pornography)หรืออนาจาร(obscenity)ไปได้
สำหรับคำว่า Erotica เดิมทีมาจากคำว่า Eros อัน เป็นชื่อเทพเจ้าของกรีกที่เกี่ยวข้องกับความต้องการ-ความปรารถนาในเรื่อง ความรักที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องทางเพศ เทพองค์เดียวกันนี้ชาวโรมันทั้งหลายเรียกว่า Cupid
ในส่วนของคำว่า Erotica จริงๆแล้ว ได้รับการประดิษฐ์ขึ้นมาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทั้ง นี้มันได้รับการคิดศัพท์คำนี้ขึ้นมาโดยบรรดาคนขายหนังสือและสิ่งพิมพ์ ต่างๆ ผู้ซึ่งต้องการที่ปรับให้งานวรรณกรรมที่ส่อไปในเรื่องทางเพศเป็นที่น่าเคารพ มากขึ้น เนื่องจากความลามก-อนาจารของมันดังกล่าว อาจจะถูกตำรวจจับกุมนั่นเอง
และจวบจนกระทั่งในคริสต์ศตวรรษที่ 20 มานี้นี่เอง บรรดาศิลปินหลายคนได้สร้างงาน Erotica ของ พวกเขาขึ้นมาอย่างประหม่าขวยเขิน แม้มันจะเป็นแนวคิดที่ได้ถูกนำมาใช้เพื่อจำแนกสิ่งที่มีคุณค่าซึ่งตกทอดมา ของอดีต. ผลงานต่างๆที่มีคุณค่าเชิงศิลปะ, เชิงสังคม, หรือประวัติศาสตร์ในแนวนี้ล้วนเรียกกันว่า ภาพ Erotica แต่ถ้าปราศจากซึ่งคุณค่าดังกล่าวแล้วก็จะเป็น"ภาพโป๊"(pornography)ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น
ความแตกต่างนั้น บ่อยครั้งเป็นเรื่องของรสนิยม และรสนิยมต่างๆก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา บรรดานวนิยายสมัยใหม่เป็นจำนวนมาก, รวมทั้งเรื่อง ULYSSES ของ James Joyce (1922), เรื่อง LADY CHATTERLEY'S LOVER ของ D.H. Lawrence (1928), และเรื่อง LOLITA ของ Vladimir Nabokov (1955) ถือ กันว่าเป็นเรื่องโป๊ทั้งสิ้น เมื่อแรกที่นวนิยายเหล่านี้ปรากฏขึ้นมา. แต่ต่อมาภายหลังกลับพบว่า นวนิยายเหล่านี้ต่างก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคุณค่าเชิงศิลปะและสังคม ซึ่งอยู่ในข่ายของงานศิลปะที่เรียกว่าอีโรติก
มี อยู่หลายต่อหลายกรณีมาก ที่ความตั้งใจของศิลปินได้ถูกนำมาใช้ในฐานะที่เป็นบรรทัดฐานเบื้องต้น. ถ้าหากว่าผลงานอันนั้นถูกตั้งใจเพียงเพื่อปลุกเร้าความสนใจหรือความพึงพอใจ ทางเพศอย่างเดียว โดยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นเลย ผลงานนั้นก็ไม่มีคุณค่าอะไร และสมควรที่จะละทิ้งไปได้ในฐานะที่เป็นเรื่องเหลวไหลหรือไร้สาระ แต่ถ้าหากว่า ศิลปินมุ่งที่ต้องการจะสำรวจในเรื่องทางเพศอย่างจริงจัง (ซึ่ง อาจไปเกี่ยวพันกับเรื่องทางจิตวิทยาหรือสังคมวิทยา ที่อาจไม่จำเป็นต้องชัดเจนเหมือนงานทางวิชาการ) ผลงานชิ้นดังกล่าวสมควรที่จะได้รับการเรียกขานว่า erotica. แต่อย่างไรก็ตาม สาระอันนั้นมันยังค่อนข้างจะคลุมเครืออยู่
ในช่วงปี 1989-1990 มีงานนิทรรศการของ Robert Mapplethorpe ในประเด็นที่เกี่ยวกับ homoerotic photographs (ภาพ ถ่ายเกี่ยวกับโฮโมอีโรติก หรือเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศกับเพศเดียวกัน) งานนิทรรศการครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดการปะทุทางอารมณ์และความเกรียวกราวของ สาธารณชนมาก และนอกจากนี้ มันยังได้นำไปสู่ความขัดแย้ง การทะเลาะกัน และความหัวเสียเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ที่ต่อเนื่องยาวนานต่อมาพอสมควร
[หมาย เหตุ :ความรังเกียจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่มีต่อเพศเดียวกัน หากสืบย้อนกลับไป จะไปเกี่ยวพันถึงแนวคิดในการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในช่วงต้น ที่ต้องอาศัยแรงงานเป็นจำนวนมากเพื่อมาทำงานกับเครื่องจักร และความเชื่อที่ถูกประณามในศาสนาคริสต์]
© Tenpoints !
ความคิดเห็น