ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chu's box.

    ลำดับตอนที่ #15 : ลำดับตอนที่ 15

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 57


    Thx. for THEME
    :) Shalunla


    Okita Shun’s Side story

    Me and my brother.

     

                “ชุน! ฉันเพิ่งจัดตรงนั้นไปนะ นายทำมันหล่นอีกแล้วเรอะ!?

                “อ่ะเจ๊ย!! ขอโทษครับพี่! พอดีมือ...มือมันลื่นอ่ะ!

                “...นายออกไปจัดตรงอื่นก่อนเลยไป!
     

                เสียงทะเลาะจากสองพี่น้องในยามเช้าถือเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดี...โชคดีที่วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากพวกเขา ไม่อย่างนั้นคงได้ตื่นกันทั้งบ้านตอนหกโมงเช้าแน่ๆ

                เรื่องมันเกิดจากโอคิตะ ชิโร่ พี่ชายสุดที่รัก (?) ของโอคิตะ ชุนที่เริ่มจะอดทนไม่ไหวกับสภาพห้องรกๆ ของทั้งสอง จึงปลุกน้องชายบังเกิดเกล้ามาจัดห้องใหม่ด้วยกัน ซึ่งส่วนหนึ่งของความรกเละเทะมันก็มาจากคนน้องเองนั่นแหละ!

                ทั้งสองพี่น้อง...จะเรียกกันว่าสนิทกันก็ไม่แน่ใจนัก เพราะคนน้องก็ช่างขยันกวนประสาทคนจริงจังอย่างคนเป็นพี่ แถมยังชอบเซ้าซี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ซะจนชิโร่คิดอยากจะฆ่าน้องตัวเองทิ้งไปไม่ไม่รู้กี่รอบ

                แถมเห็นอย่างนั้น ชุนก็ยังไม่วาย ขยันกวนประสาทคนพี่ได้อย่างไม่หยุดหย่อน...
     

                “เอาล่ะ เสร็จแล้ว~

                “ยังจะมาทำหน้าระรื่นอยู่อีก! ถ้านายไม่มาเกาะแกะฉันป่านนี้เสร็จไปนานแล้ว!

                “หวา หวา~ พี่อย่าคิดมากเลย เดี๋ยวก็หน้าแก่หัวหงอกไปเปล่าๆ น่า”

                “ถ้ายังพูดมากอยู่อีกฉันจะไม่ทำข้าวเช้าให้กินนะ”

                “แหงะ! ใจร้ายยย!!
     

                หลังจากเปิดศึกน้ำลายกันไปหลายยก...ทั้งสองคนก็ได้นั่งทานข้าวเช้ากันอย่างสงบๆ ก็คราวนี้ปกติแล้วคนที่ทำอาหารจะเป็นแม่ของทั้งสอง ทว่าช่วงนี้คุณพ่อต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนคุณแม่ก็ติดธุระนอกเมือง ทำให้ชุนมีโอกาสได้กวนประสาทชิโร่ได้อีกยาว...

                “ถ้านายคิดจะทำอะไรบ้าๆ อยู่ล่ะก็ ฉันขอให้หยุดซะเถอะ”

                “พี่รู้ได้ไงอ่ะ!?” คนเป็นน้องกระแทกโต๊ะด้วยความตกใจเสียจนชามข้าวเกือบหล่นลงจากโต๊ะ “พี่รู้ได้ไงว่าผมคิดจะแกล้งพี่อีกแล้ว?

                “อันที่จริงไม่ต้องบอกหน้านายมันก็ฟ้อง...” ว่าแล้วชิโร่ก็ขยับแว่นพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงนาบเนิบ

                “ว่าแต่นายไม่ต้องย้ำฉันก็ได้นะ”

               

                หลังจากเก็บจานชาม อาบน้ำ และจัดการธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็ว่างสนิท...ชิโร่เลือกที่จะนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ส่วนชุนเลือกที่จะ...

                “พี่ๆ เมื่อคืนตอนผมตื่นมาตอนดึกอ่ะ...”

                “แล้ว...ทำไมเหรอ?

                “ผมไปถ่ายไอ้นี่มาแหละ แป๊ปนะ ขอหยิบมือถือก่อน”

                กวนประสาทพี่ชายตัวเองต่อไป...

                “ถ่าย? ถ่ายอะไรของนาย?” ชิโร่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย...ระคนระแวงแปลกๆ

                “นี่ไงคร้าบ~

     

                และภาพที่ได้เห็นก็คือ...
     


     

                “นี่ไงๆ โอคิตะ ชิโร่กับเป็ดน้อยและหมวกคลุมผมลายหัวใจ~ <3

                พรืด!

                ภาพที่ได้เห็นทำเอาชิโร่พ่นโค้กที่กำลังดื่มอยู่ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวสิ! เขาไม่มีวัน และไม่มีทางที่จะทำอะไรแบบนั้นตอนนอนแน่ๆ ...ถ้าไม่ใช่ว่า...ไอ้น้องชายบังเกิดเกล้ามันเล่นอะไรบ้าๆ อีกแล้ว!!

                “ชุน...”

                “ว่าไงครับพี่สุดที่เลิฟ?

                “แกไปตายได้แล้ว!!

                แล้วทั้งสองก็เปิดศึกวิ่งมาราธอนรอบบ้านกันอีกครั้ง...
     

                “โหพี่ อย่างอนน้าอย่างอน โอ๋เอ๋~

                “ใครเขาจะงอนกัน ฉันอายุตั้งสิบแปดแล้วนะ ไม่ใช่เด็กอนุบาล”
                


     

                “น่าๆ อย่างอนนะ คิโยชิอยากปลอบพี่จะตายแล้วอ่ะ เห็นเปล่า~

                ชุนอุ้มแมวสีน้ำตาลอมส้มลายทางขึ้นมาใกล้ๆ หน้าของชิโร่ เจ้าแมวตัวนี้มีชื่อว่าคิโยชิ เป็นแมวสุดที่รักของชุนที่ชิโร่เคยเก็บมาจากข้างทางเมื่อปีก่อน แล้วให้เป็นของขวัญวันเกิดของชุน ซึ่งแน่นอนว่าชุนติดคิโยชิแจยิ่งกว่าอะไรดี ส่วนคิโยชิเองก็ชอบมาคลอเคลียชุนกับชิโร่อยู่บ่อยๆ

                “แมวพูดได้ที่ไหนกันล่ะ?

                “โหพี่! อิมเมจิ้นดิ จินตนาการไง บางทีในหัวใจมันอาจจะคิดอย่างนี้จริงๆ ก็ได้”

     

                “งี่เง่า...”

                “โห!

                “นายเอาเวลาที่มารังควาญฉันไปทำอย่างอื่นดีมั้ย”

                หลังจากจบศึกขนาดย่อม (?) ไปได้ไม่นาน ชิโร่ที่เริ่มอารมณ์เย็นลงแล้วจึงมานั่งสงบสติอารมณ์โดยที่มีชุนคอยมาเป็นมารผจญอยู่ใกล้ๆ...

                ถึงจะเห็นอย่างนี้ก็เถอะ ชิโร่เองก็เป็นห่วงชุน...เพียงแต่ว่าแสดงออกมาตรงๆ ไม่ได้เท่านั้นเอง...

                “อย่ามาทำฟอร์มจัดเลยพี่~

                “เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ”  

                เพราะเจ้าตัวดันปากแข็งฟอร์มจัดเกินไป...

                พี่ครับ คิดถึงรูปนี้เนอะ 
     

     

                ในมือของชุนถือรูปถ่ายในกรอบไม้สีเข้มเอาไว้ ในรูปนั้นมีเด็กชายผมสีเข้มหน้าผากเถิกๆ...กับกำลังกอดคอเด็กชายสวมแว่นที่ดูสูงและอายุมากกว่าอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ข้างๆ ใช่...นั่นคือรูปถ่ายของชุนและชิโร่ตอนเด็กนั่นเอง

                “อืม...ฉันจำได้ ตอนเด็กนายน่ะนิสัยดี๊ดี ไม่กวนประสาททำไมเกรนขึ้นแบบตอนนี้หรอก”

                “โหพี่! เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ฟอร์มจัดแบบนี้เหมือนกันอ่ะ!

                ทั้งสองเถียงกันซักพัก...ก่อนที่จะตกลงกันไปช่วยทำอาหารเย็นในเวลาต่อมา ถึงจะทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ก็รักกันมากกว่าอะไร...

                “พี่พูดเหมือนไม่รักผมเลยอ่ะ...”

                “ฉันบอกตอนไหนว่าไม่?

                “อ๊ะ...”

                ชิโร่นึกก่นด่าตัวเองในใจที่พลาดไป ส่วนชุนเมื่อได้ยินดังนั้นก็ถลาเข้ามาแซะตัวคนเป็นพี่ทันที

                “ความจริงแล้วก็รักผมใช่มั้ยล่า~

                “ถ้ายังพูดมากอยู่อีกข้าวเย็นก็ไม่ต้องกิน”

                “ขู่ยังกะเด็กประถมเลยอ่ะ...”

                “นายไม่ต่างจากเด็กแปดขวบเท่าไหร่หรอก”
     


     

                “ผมสัญญานะว่าจะไม่ทิ้งครอบครัวเราไปไหน~

                “พูดยังไงกะจะไปไหนไกลอย่างนั้นแหละ...”

                “ไม่หรอก แค่พูดเผื่อเอาไว้ไง”

                “...งี่เง่า”

                ชิโร่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางส่ายหน้าเบาๆ แวบหนึ่งที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาพรายผุดขึ้นมา...ถึงคนเป็นน้องจะไม่เห็นก็เถอะ แต่ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องโดนกวนประสาทอีก

                “ถ้านายหายไปล่ะก็ ฉันฆ่านายแน่”           

                “สัญญาด้วยเกียรติของความเป็นน้องชายที่ดีเลยครับ~”       
     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×