คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ลำดับตอนที่ 15
:) Shalunla
Okita Shun’s Side story
Me and my brother.
“ชุน! ฉันเพิ่งจัดตรงนั้นไปนะ นายทำมันหล่นอีกแล้วเรอะ!?”
“อ่ะเจ๊ย!! ขอโทษครับพี่! พอดีมือ...มือมันลื่นอ่ะ!”
“...นายออกไปจัดตรงอื่นก่อนเลยไป!”
เสียงทะเลาะจากสองพี่น้องในยามเช้าถือเป็นนาฬิกาปลุกชั้นดี...โชคดีที่วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากพวกเขา ไม่อย่างนั้นคงได้ตื่นกันทั้งบ้านตอนหกโมงเช้าแน่ๆ
เรื่องมันเกิดจากโอคิตะ ชิโร่ พี่ชายสุดที่รัก (?) ของโอคิตะ ชุนที่เริ่มจะอดทนไม่ไหวกับสภาพห้องรกๆ ของทั้งสอง จึงปลุกน้องชายบังเกิดเกล้ามาจัดห้องใหม่ด้วยกัน ซึ่งส่วนหนึ่งของความรกเละเทะมันก็มาจากคนน้องเองนั่นแหละ!
ทั้งสองพี่น้อง...จะเรียกกันว่าสนิทกันก็ไม่แน่ใจนัก เพราะคนน้องก็ช่างขยันกวนประสาทคนจริงจังอย่างคนเป็นพี่ แถมยังชอบเซ้าซี้เรื่องโน้นเรื่องนี้ซะจนชิโร่คิดอยากจะฆ่าน้องตัวเองทิ้งไปไม่ไม่รู้กี่รอบ
แถมเห็นอย่างนั้น ชุนก็ยังไม่วาย ขยันกวนประสาทคนพี่ได้อย่างไม่หยุดหย่อน...
“เอาล่ะ เสร็จแล้ว~”
“ยังจะมาทำหน้าระรื่นอยู่อีก! ถ้านายไม่มาเกาะแกะฉันป่านนี้เสร็จไปนานแล้ว!”
“หวา หวา~ พี่อย่าคิดมากเลย เดี๋ยวก็หน้าแก่หัวหงอกไปเปล่าๆ น่า”
“ถ้ายังพูดมากอยู่อีกฉันจะไม่ทำข้าวเช้าให้กินนะ”
“แหงะ! ใจร้ายยย!!”
หลังจากเปิดศึกน้ำลายกันไปหลายยก...ทั้งสองคนก็ได้นั่งทานข้าวเช้ากันอย่างสงบๆ ก็คราวนี้…ปกติแล้วคนที่ทำอาหารจะเป็นแม่ของทั้งสอง ทว่าช่วงนี้คุณพ่อต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด ส่วนคุณแม่ก็ติดธุระนอกเมือง ทำให้ชุนมีโอกาสได้กวนประสาทชิโร่ได้อีกยาว...
“ถ้านายคิดจะทำอะไรบ้าๆ อยู่ล่ะก็ ฉันขอให้หยุดซะเถอะ”
“พี่รู้ได้ไงอ่ะ!?” คนเป็นน้องกระแทกโต๊ะด้วยความตกใจเสียจนชามข้าวเกือบหล่นลงจากโต๊ะ “พี่รู้ได้ไงว่าผมคิดจะแกล้งพี่อีกแล้ว?”
“อันที่จริงไม่ต้องบอกหน้านายมันก็ฟ้อง...” ว่าแล้วชิโร่ก็ขยับแว่นพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงนาบเนิบ
“ว่าแต่นายไม่ต้องย้ำฉันก็ได้นะ”
หลังจากเก็บจานชาม อาบน้ำ และจัดการธุระส่วนตัวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองคนก็ว่างสนิท...ชิโร่เลือกที่จะนั่งอ่านหนังสืออยู่เงียบๆ ส่วนชุนเลือกที่จะ...
“พี่ๆ เมื่อคืนตอนผมตื่นมาตอนดึกอ่ะ...”
“แล้ว...ทำไมเหรอ?”
“ผมไปถ่ายไอ้นี่มาแหละ แป๊ปนะ ขอหยิบมือถือก่อน”
กวนประสาทพี่ชายตัวเองต่อไป...
“ถ่าย? ถ่ายอะไรของนาย?” ชิโร่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย...ระคนระแวงแปลกๆ
“นี่ไงคร้าบ~”
และภาพที่ได้เห็นก็คือ...
“นี่ไงๆ โอคิตะ ชิโร่กับเป็ดน้อยและหมวกคลุมผมลายหัวใจ~ <3 ”
พรืด!
ภาพที่ได้เห็นทำเอาชิโร่พ่นโค้กที่กำลังดื่มอยู่ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เดี๋ยวสิ! เขาไม่มีวัน และไม่มีทางที่จะทำอะไรแบบนั้นตอนนอนแน่ๆ ...ถ้าไม่ใช่ว่า...ไอ้น้องชายบังเกิดเกล้ามันเล่นอะไรบ้าๆ อีกแล้ว!!
“ชุน...”
“ว่าไงครับพี่สุดที่เลิฟ?”
“แกไปตายได้แล้ว!!”
แล้วทั้งสองก็เปิดศึกวิ่งมาราธอนรอบบ้านกันอีกครั้ง...
“โหพี่ อย่างอนน้าอย่างอน โอ๋เอ๋~”
“ใครเขาจะงอนกัน ฉันอายุตั้งสิบแปดแล้วนะ ไม่ใช่เด็กอนุบาล”
“น่าๆ อย่างอนนะ คิโยชิอยากปลอบพี่จะตายแล้วอ่ะ เห็นเปล่า~”
ชุนอุ้มแมวสีน้ำตาลอมส้มลายทางขึ้นมาใกล้ๆ หน้าของชิโร่ เจ้าแมวตัวนี้มีชื่อว่าคิโยชิ เป็นแมวสุดที่รักของชุนที่ชิโร่เคยเก็บมาจากข้างทางเมื่อปีก่อน แล้วให้เป็นของขวัญวันเกิดของชุน ซึ่งแน่นอนว่าชุนติดคิโยชิแจยิ่งกว่าอะไรดี ส่วนคิโยชิเองก็ชอบมาคลอเคลียชุนกับชิโร่อยู่บ่อยๆ
“แมวพูดได้ที่ไหนกันล่ะ?”
“โหพี่! อิมเมจิ้นดิ จินตนาการไง บางทีในหัวใจมันอาจจะคิดอย่างนี้จริงๆ ก็ได้”
“งี่เง่า...”
“โห!”
“นายเอาเวลาที่มารังควาญฉันไปทำอย่างอื่นดีมั้ย”
หลังจากจบศึกขนาดย่อม (?) ไปได้ไม่นาน ชิโร่ที่เริ่มอารมณ์เย็นลงแล้วจึงมานั่งสงบสติอารมณ์โดยที่มีชุนคอยมาเป็นมารผจญอยู่ใกล้ๆ...
ถึงจะเห็นอย่างนี้ก็เถอะ ชิโร่เองก็เป็นห่วงชุน...เพียงแต่ว่าแสดงออกมาตรงๆ ไม่ได้เท่านั้นเอง...
“อย่ามาทำฟอร์มจัดเลยพี่~”
“เก็บปากไว้กินข้าวเถอะ”
เพราะเจ้าตัวดันปากแข็งฟอร์มจัดเกินไป...
“พี่ครับ คิดถึงรูปนี้เนอะ”
ในมือของชุนถือรูปถ่ายในกรอบไม้สีเข้มเอาไว้ ในรูปนั้นมีเด็กชายผมสีเข้มหน้าผากเถิกๆ...กับกำลังกอดคอเด็กชายสวมแว่นที่ดูสูงและอายุมากกว่าอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ข้างๆ ใช่...นั่นคือรูปถ่ายของชุนและชิโร่ตอนเด็กนั่นเอง
“อืม...ฉันจำได้ ตอนเด็กนายน่ะนิสัยดี๊ดี ไม่กวนประสาททำไมเกรนขึ้นแบบตอนนี้หรอก”
“โหพี่! เมื่อก่อนพี่ก็ไม่ฟอร์มจัดแบบนี้เหมือนกันอ่ะ!”
ทั้งสองเถียงกันซักพัก...ก่อนที่จะตกลงกันไปช่วยทำอาหารเย็นในเวลาต่อมา ถึงจะทะเลาะกันบ่อยๆ แต่ก็รักกันมากกว่าอะไร...
“พี่พูดเหมือนไม่รักผมเลยอ่ะ...”
“ฉันบอกตอนไหนว่าไม่?”
“อ๊ะ...”
ชิโร่นึกก่นด่าตัวเองในใจที่พลาดไป ส่วนชุนเมื่อได้ยินดังนั้นก็ถลาเข้ามาแซะตัวคนเป็นพี่ทันที
“ความจริงแล้วก็รักผมใช่มั้ยล่า~”
“ถ้ายังพูดมากอยู่อีกข้าวเย็นก็ไม่ต้องกิน”
“ขู่ยังกะเด็กประถมเลยอ่ะ...”
“นายไม่ต่างจากเด็กแปดขวบเท่าไหร่หรอก”
“ผมสัญญานะว่าจะไม่ทิ้งครอบครัวเราไปไหน~”
“พูดยังไงกะจะไปไหนไกลอย่างนั้นแหละ...”
“ไม่หรอก แค่พูดเผื่อเอาไว้ไง”
“...งี่เง่า”
ชิโร่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่พลางส่ายหน้าเบาๆ แวบหนึ่งที่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาพรายผุดขึ้นมา...ถึงคนเป็นน้องจะไม่เห็นก็เถอะ แต่ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องโดนกวนประสาทอีก
“ถ้านายหายไปล่ะก็ ฉันฆ่านายแน่”
“สัญญาด้วยเกียรติของความเป็นน้องชายที่ดีเลยครับ~”
ความคิดเห็น