คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : chapter 4. ปล่อยกลับไปไม่ได้
“แต่พวกเราคงปล่อยคุณกลับไปแบบนี้ไม่ได้”
คำพูดของคาลเดอร์ทำเอาเคนเนดี้เริ่มใจคอไม่ดี... เอาเข้าจริงเขาใจคอไม่ดีตั้งแต่เข้ามาที่นี่แล้ว ยิ่งเป็นองค์กรลับที่ยอมเปิดเผยข้อมูลง่ายๆ มาแบบนี้ด้วย
ก็ว่าทำไมถึงยอมตอบเราง่ายๆ
“เอาอย่างนั้นหรือครับคุณสเฟียร์...” ชายหนุ่มผมทองเอ่ย เขามองคนเป็นหัวหน้าสลับกับตัวเคนเนดี้ไปมา ดูเหมือนเขาเองก็คงไม่อยากทำแบบนี้ซักเท่าไหร่
โดนฆ่าปิดปากแน่นอน
ในหัวเคนเนดี้คิดภาพเลยไปถึงหนุ่มผมทองแทงเขาด้วยมีดสั้นไปแปดสิบแผลก่อนจะจับโยนลงแม่น้ำให้เป็นอาหารปลาและแบคทีเรียเล่น และอีกสองสามวันต่อมาเขาก็จะได้ลงข่าวการตายของตนหน้าหนังสือพิมพ์ แม่และน้องสาวร่ำไห้ในงานศพของตัวเขา และคนหล่อหน้าตาดีไม่มีภรรยาวัยยี่สิบเก้าก็จะจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถและน่าเศร้าจนท้องฟ้ายังต้องหลั่งน้ำตาให้… และแน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นแน่นอน
“เราจำเป็นต้องทำ เราปล่อยเขาไปไม่ได้ เราเอาเขามาเข้ากับเราก็ไม่ได้” คาลเดอร์กล่าวเรียบๆ เขาดูเหมือนเตรียมใจกับสิ่งที่จะทำไว้เรียบร้อยแล้ว... และนั่นทำเอาเคนเนดี้รู้สึกใจไม่ดี
“แต่ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา...” ชายผมทองแย้ง
“เท่าที่เราลองทำมา ก็ไม่เคยผิดพลาดไม่ใช่หรือคุณวิลส์เวิร์ธ”
เคนเนดี้เริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนพวกนี้จะฆ่าปิดปากคนนอกแน่นอน...
วิลส์เวิร์ธ... ชายผมทองคนนั้นหันมามองเคนเนดี้ด้วยสีหน้าปั้นยาก เขาทำท่าเหมือนจะแย้งคนเป็นนาย... แต่แล้วก็ได้แค่ผ่อนลมหายใจออกมาหนึ่งเฮือกแล้วยักไหล่น้อยๆ
“ได้ครับ” เขาว่า “เริ่มเลย”
คาลเดอร์พยักหน้ารับ พร้อมเดินเข้าไปล็อกตัวเคนเนดี้ไว้จากด้านหลัง ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกพลางพยายามสะบัดตัวออกจากแรงรัด ทว่าชายหนุ่มผมสีเข้มคนนี้กลับแรงเยอะกว่าที่เคนเนดี้คิดเอาไว้
“อย่า! อย่าฆ่าผม! ผมสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร!” เคนเนดี้ร้อง สีหน้าอ้อนวอนของเขาทำเอาคาลเดอร์หยุดกึกไปครู่หนึ่ง... ก่อนจะหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ
“เปล่า... คุณไคล์ม เราไม่ฆ่าคุณ”
และคำพูดนั้นทำเอาเคนเนดี้ถึงกับมึนตึบไปมากกว่าเดิม
“คุณแค่จะจำเรื่องของพวกเราไม่ได้อีกเลยเท่านั้นเอง”
“น้าครับ...”
ใคร...
“น้าครับ!”
ใคร... ใครเรียกฉัน
“น้า!”
เคนเนดี้ลืมตาลุกพรวดขึ้นมาฉับพลัน เหชื่อไหลท่วมกายจนเฉอะแฉะ ชายหนุ่มหายใจหอบดังด้วยความรู้สึกอึดอัดอย่างน่าประหลาด เมื่อลองสำรวจรอบข้างดูก็พบว่าตนนอนอยู่ข้างถังขยะในสภาพทรุดโทรมได้ที่พอดี
แต่เท่าที่เขาจำได้ ก่อนหน้านี้เขา...
“น้าจำชื่อตัวเองได้ไหมครับ?”
ชายหนุ่มหันไปมองคนถามพลางขยี้ตาไล่ความมึนงง พบว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กชายร่างเล็กที่กำลังย่อตัวลงนั่งยองๆ ข้างเขา อายุน่าจะประมาณสิบกว่าขวบ ผมสีบลอนด์อ่อนฟูๆ ยาวปรกหน้าเล็กน้อย ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมายังเขาไม่วางตา แต่ก็ระคนความสงสัยเอาไว้ในเวลาเดียวกัน…
“เคนเนดี้...” ชายหนุ่มว่าตอบ “ฉันจำชื่อตัวเองได้น่า ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน...”
“ลอนดอนครับ”
เอ้อ อันนั้นรู้...
“น้าเป็นคนต่างเมืองเหรอครับ?” เด็กชายยังคงกล่าวถามต่อไป
“เปล่า ฉัน...”
“แล้วน้ามานอนอะไรตรงนี้ล่ะ?” อีกฝ่ายถามตัดบท
เคนเนดี้นั่งนึกย้อนไปชั่วครู่... ภาพความทรงจำล่าสุดของเขาคือตัวเขาเองกำลังเดินเล่นอยู่แถวไหนซักแห่ง แล้วได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาดๆ ตามมา...
กลุ่มคนประหลาดๆ ... และปิศาจ
คุณแค่จะจำเรื่องของพวกเราไม่ได้อีกเลยเท่านั้นเอง
“น้าเป็นอะไรครับ ทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกเลย…”
“เปล่า...” เคนเนดี้พึมพำตอบ
แต่ตัวเขาเองก็ไมได้ลืมอะไรไปเลยนี่?
ทั้งชายหนุ่มที่ชื่อคาลเดอร์ ชายผมทองที่น่าจะชื่อวิลส์เวิร์ธ... หรืออะไรซักอย่าง องค์กรในสถานีตำรวจ สาวน้อยผมน้ำตาล --- เขาจำได้ทุกเหตุการณ์ ยันตอนสุดท้ายที่เขาถูกล็อกตัวและสติดับวูบไป
ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ... แค่โดนหลอกรึ?
“น้าหนีใครมาเหรอครับ?” เด็กชายผมฟูยังคงถามเขาไม่หยุดหย่อน เคนเนดี้เองก็อยากจะตอบให้มันจบๆ ไปจะได้กลับบ้านเสียที
“เปล่า... คือ---”
“งั้นก็ไม่สบายจนสลบไป?” อีกฝ่ายถามต่อ
“เอ่อ ไม่ใช่..”
“งั้นน้าก็ง่วงจนเผลอหลับไปสินะ?”
“คือฉัน...”
“ง่วงก็ไปนอนบ้านสิครับ”
เคนเนดี้ผละตัวออกมาจากเด็กชายคนนั้นโดยไม่ได้ตอบคำถามอะไรต่อ... อีกฝ่ายยังคงวิ่งตามเขามาเหมือนจะซักไซ้ให้ได้ความ แต่แล้วก็สลัดหลุดกันไปเมื่อซักครู่นี้เอง
ชายหนุ่มอยากจะกลับบ้าน... อยากกลับไปนอนไปซบแม่ซบน้องใช้ชีวิตปกติสุขอย่างที่เคยเป็นมา แล้วก็หางานทำให้ได้ซักที แม้จะยังคาใจกับเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ก็ตาม
เชสเซอริค...
มันดูเหมือนฝันแต่ก็ไม่ใช่ฝัน ดูสมจริงเสียจนน่ากลัว...
“วันนี้พอแล้วล่ะ นี่ค้าจ้างนะจ๊ะไซคี”
“อ๊ะ... ขอบคุณมากค่ะคุณป้าลอเรน!”
เคนเนดี้เดินผ่านร้านขนมปังไปอย่างช้าๆ กลิ่นแป้งอบหอมเตะจมูกทำเอาเขารู้สึกหิวขึ้นมา... จะว่าไปตอนนี้กี่โมงแล้วนะ รู้สึกเหมือนเวลาผ่านมายาวนานเหลือเกิน ---
“อ๊ะ...”
พลันดวงตาสีแดงสดของชายหนุ่มก็สบเข้ากับเจ้าของดวงตาสีเทาอ่อนที่ออกมาจากร้านพอดิบพอดี...
ผมยาวประบ่าสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีเทา แต่งตัวทะมัดทแมง...
“เอ่อ... คุณริชมอล?”
เขาจำชื่อเธอได้ หญิงสาวที่ห้องพยาบาลในหน่วยงานเชสเซอริคคนนั้น ไม่จำผิดคนแน่นอน... อีกฝ่ายเองก็ได้แต่มองเขาด้วยสีหน้าปั้นยาก เหมือนทั้งตกใจ สงสัย และพยายามตีหน้านิ่งไปพร้อมๆ กัน
“ไม่ทราบว่าเรารู้จักกันเหรอคะ ----” เธอเอ่ยเสียงสั่น
“ก็ต้องรู้จักสิครับ! ตอนนั้นเรา ---”
ตุบ
ร่างสูงของชายหนุ่มผมสีเข้มล้มลงตามแรงโน้มถ่วง ทว่าก่อนที่จะกระแทกลงกับพื้นก็มีมือคู่หนึ่งเข้ามาช้อนตัวรับไว้พอดิบพอดี
“คุณสเฟียร์... ดีที่คุณลองให้ตามมาดูนะเนี่ย”
“คุณลิทช์ฟิลด์!”
ไซคีร้องด้วยความตกใจ เธอรีบดันตัวเขาที่แบกร่างชายหนุ่มสลบเหมือดไปยังที่ที่คนบางตา เธอดูตื่นตกใจเสียจนน่ากลัวว่าจะเป็นลมล้มพับไปจริงๆ
“คุณมาทำอะไรที่นี่?”
“คุณสเฟียร์ให้ผมตามมาดูเขาเผื่อฉุกเฉิน... แล้วก็นี่แหละ” อลันเอ่ย เขาเปลี่ยนท่าแบกร่างชายหนุ่มมาเป็นพยุงตัวแทน ทางด้านไซคีจึงเข้ามาช่วยพยุงแขนอีกข้าง ทางด้านเคนเนดี้ยังคงสลบไสลไม่ได้สติ...
“ยาสลบ... ” ไซคีพึมพำ
“เอาเขากลับฐาน เราคงมีเรื่องต้องคุยกับเขาอีก เขารอดวิลส์เวิร์ธมาได้” ชายหนุ่มผมสีหม่นว่า ทั้งสองพากันพยุงร่างของเคนเนดี้ข้ามถนนตรงไปตามทางเดินเท้า ด้วยน้ำหนักตัวทำเอาหญิงสาวอย่างไซคีพยุงไม่ค่อยไหวซักเท่าไหร่
“แล้วนี่จะทำยังไงกับเขาคะ...”
อลันเงียบไปครู่หนึ่ง เขายกมือข้างที่ว่างล้วงกระเป๋าหาซองบุหรี่ ก่อนจะนึกได้ว่าครานี้ตนไม่ได้พกมา
“ยิงเป้า”
“...ล้อเล่นนะ”
(edit. 8/4/2015 :: แก้ไขเล็กน้อย)
และสัญญาว่าตอนต่อๆ ไปเคนเนดี้จะไม่เกิดมาสลบแล้วค่-----
เฮือก... ขอโทษนะคะ หายไปตั้งหลายวัน Orz
ช่วงเดือนเมษาอาจจะมาๆ หายๆ เยอะพอสมควรเลยค่ะ ; ;
เอาตอนสี่มาเดลิเวอรี่แล้วนะคะ แล้วจะส่งตอนห้ามาชดเชยกับที่หายไปค่ะโฮรววว
คาดว่าตอนหน้าสมาชิกหน่วยจะมาแล้วนะคะ
จากที่เลื่อนมานาน งานนี้จะครบค่ะ สัญญา (?)
และจนแล้วจนรอดปิศาจก็ยังไม่มากันเลย...
กราบอภัยผปค. ลูกๆ บทปิศาจทุกท่านนะคะ แต่ความแฟนตาซียังไม่มาเร็วๆ นี้ค่---- #โดนโบกดับ
แล้วเจอกันตอนห้าค่ะ!
ปล. มาอิจฉาทุกคนที่ไปงานหนังสือย้อนหลังนะค----
และเราก็ไปงานหนังสือมาเรียบร้อยแล้วค่---- เย่ะ------ #โดนโบกอเกน (...)
ความคิดเห็น