ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Chaseric : Negotiate and Suppress Institute.

    ลำดับตอนที่ #7 : chapter 4. ปล่อยกลับไปไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 58


    O W E N TM.

     

     

                “แต่พวกเราคงปล่อยคุณกลับไปแบบนี้ไม่ได้

     

     

     

                คำพูดของคาลเดอร์ทำเอาเคนเนดี้เริ่มใจคอไม่ดี... เอาเข้าจริงเขาใจคอไม่ดีตั้งแต่เข้ามาที่นี่แล้ว ยิ่งเป็นองค์กรลับที่ยอมเปิดเผยข้อมูลง่ายๆ มาแบบนี้ด้วย

     

     

                ก็ว่าทำไมถึงยอมตอบเราง่ายๆ

     

     

                “เอาอย่างนั้นหรือครับคุณสเฟียร์...” ชายหนุ่มผมทองเอ่ย เขามองคนเป็นหัวหน้าสลับกับตัวเคนเนดี้ไปมา ดูเหมือนเขาเองก็คงไม่อยากทำแบบนี้ซักเท่าไหร่

     

     

                โดนฆ่าปิดปากแน่นอน

     

     

                ในหัวเคนเนดี้คิดภาพเลยไปถึงหนุ่มผมทองแทงเขาด้วยมีดสั้นไปแปดสิบแผลก่อนจะจับโยนลงแม่น้ำให้เป็นอาหารปลาและแบคทีเรียเล่น และอีกสองสามวันต่อมาเขาก็จะได้ลงข่าวการตายของตนหน้าหนังสือพิมพ์ แม่และน้องสาวร่ำไห้ในงานศพของตัวเขา และคนหล่อหน้าตาดีไม่มีภรรยาวัยยี่สิบเก้าก็จะจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถและน่าเศร้าจนท้องฟ้ายังต้องหลั่งน้ำตาให้และแน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมให้เกิดขึ้นแน่นอน

     

     

                “เราจำเป็นต้องทำ เราปล่อยเขาไปไม่ได้ เราเอาเขามาเข้ากับเราก็ไม่ได้” คาลเดอร์กล่าวเรียบๆ เขาดูเหมือนเตรียมใจกับสิ่งที่จะทำไว้เรียบร้อยแล้ว... และนั่นทำเอาเคนเนดี้รู้สึกใจไม่ดี

     

                “แต่ถ้าเกิดผิดพลาดขึ้นมา...” ชายผมทองแย้ง

     

                “เท่าที่เราลองทำมา ก็ไม่เคยผิดพลาดไม่ใช่หรือคุณวิลส์เวิร์ธ”

     

     

                เคนเนดี้เริ่มรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คนพวกนี้จะฆ่าปิดปากคนนอกแน่นอน...

     

                วิลส์เวิร์ธ... ชายผมทองคนนั้นหันมามองเคนเนดี้ด้วยสีหน้าปั้นยาก เขาทำท่าเหมือนจะแย้งคนเป็นนาย... แต่แล้วก็ได้แค่ผ่อนลมหายใจออกมาหนึ่งเฮือกแล้วยักไหล่น้อยๆ

     

                “ได้ครับ” เขาว่า “เริ่มเลย”

               

                คาลเดอร์พยักหน้ารับ พร้อมเดินเข้าไปล็อกตัวเคนเนดี้ไว้จากด้านหลัง ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกพลางพยายามสะบัดตัวออกจากแรงรัด ทว่าชายหนุ่มผมสีเข้มคนนี้กลับแรงเยอะกว่าที่เคนเนดี้คิดเอาไว้

     

                “อย่า! อย่าฆ่าผม! ผมสัญญาว่าจะไม่เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร!” เคนเนดี้ร้อง สีหน้าอ้อนวอนของเขาทำเอาคาลเดอร์หยุดกึกไปครู่หนึ่ง... ก่อนจะหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ

     

                “เปล่า... คุณไคล์ม เราไม่ฆ่าคุณ”

     

                และคำพูดนั้นทำเอาเคนเนดี้ถึงกับมึนตึบไปมากกว่าเดิม

     

                “คุณแค่จะจำเรื่องของพวกเราไม่ได้อีกเลยเท่านั้นเอง”

     

     

     

     

     

               

     

     

               

                “น้าครับ...”

               

                ใคร...

     

                “น้าครับ!

     

              ใคร... ใครเรียกฉัน

     

                “น้า!

     

     

     

               


                เคนเนดี้ลืมตาลุกพรวดขึ้นมาฉับพลัน เหชื่อไหลท่วมกายจนเฉอะแฉะ ชายหนุ่มหายใจหอบดังด้วยความรู้สึกอึดอัดอย่างน่าประหลาด เมื่อลองสำรวจรอบข้างดูก็พบว่าตนนอนอยู่ข้างถังขยะในสภาพทรุดโทรมได้ที่พอดี

     

                แต่เท่าที่เขาจำได้ ก่อนหน้านี้เขา...

     

     

     

                “น้าจำชื่อตัวเองได้ไหมครับ?

     

                ชายหนุ่มหันไปมองคนถามพลางขยี้ตาไล่ความมึนงง พบว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กชายร่างเล็กที่กำลังย่อตัวลงนั่งยองๆ ข้างเขา อายุน่าจะประมาณสิบกว่าขวบ ผมสีบลอนด์อ่อนฟูๆ ยาวปรกหน้าเล็กน้อย ดวงตาสีเหลืองอำพันจ้องมายังเขาไม่วางตา แต่ก็ระคนความสงสัยเอาไว้ในเวลาเดียวกัน

     

     

                “เคนเนดี้...” ชายหนุ่มว่าตอบ “ฉันจำชื่อตัวเองได้น่า ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน...”

     

                “ลอนดอนครับ”

     

                เอ้อ อันนั้นรู้...

     

     

                “น้าเป็นคนต่างเมืองเหรอครับ?” เด็กชายยังคงกล่าวถามต่อไป

     

                “เปล่า ฉัน...”

     

                “แล้วน้ามานอนอะไรตรงนี้ล่ะ?” อีกฝ่ายถามตัดบท

     

                เคนเนดี้นั่งนึกย้อนไปชั่วครู่... ภาพความทรงจำล่าสุดของเขาคือตัวเขาเองกำลังเดินเล่นอยู่แถวไหนซักแห่ง แล้วได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาดๆ ตามมา...

     

                กลุ่มคนประหลาดๆ ... และปิศาจ

     

                คุณแค่จะจำเรื่องของพวกเราไม่ได้อีกเลยเท่านั้นเอง

     

     

     
     

                “น้าเป็นอะไรครับ ทำหน้าเหมือนโดนผีหลอกเลย

               

                “เปล่า...” เคนเนดี้พึมพำตอบ

     

                แต่ตัวเขาเองก็ไมได้ลืมอะไรไปเลยนี่?

     

                ทั้งชายหนุ่มที่ชื่อคาลเดอร์ ชายผมทองที่น่าจะชื่อวิลส์เวิร์ธ... หรืออะไรซักอย่าง องค์กรในสถานีตำรวจ สาวน้อยผมน้ำตาล --- เขาจำได้ทุกเหตุการณ์ ยันตอนสุดท้ายที่เขาถูกล็อกตัวและสติดับวูบไป

     

                ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ... แค่โดนหลอกรึ?

     

                “น้าหนีใครมาเหรอครับ?” เด็กชายผมฟูยังคงถามเขาไม่หยุดหย่อน เคนเนดี้เองก็อยากจะตอบให้มันจบๆ ไปจะได้กลับบ้านเสียที

     

                “เปล่า... คือ---”

     

                “งั้นก็ไม่สบายจนสลบไป?” อีกฝ่ายถามต่อ

     

                “เอ่อ ไม่ใช่..”

     

                “งั้นน้าก็ง่วงจนเผลอหลับไปสินะ?

               

                “คือฉัน...”

     
     

                “ง่วงก็ไปนอนบ้านสิครับ”

     

     

     

     

     

                เคนเนดี้ผละตัวออกมาจากเด็กชายคนนั้นโดยไม่ได้ตอบคำถามอะไรต่อ... อีกฝ่ายยังคงวิ่งตามเขามาเหมือนจะซักไซ้ให้ได้ความ แต่แล้วก็สลัดหลุดกันไปเมื่อซักครู่นี้เอง

     

                ชายหนุ่มอยากจะกลับบ้าน... อยากกลับไปนอนไปซบแม่ซบน้องใช้ชีวิตปกติสุขอย่างที่เคยเป็นมา แล้วก็หางานทำให้ได้ซักที แม้จะยังคาใจกับเหตุการณ์เมื่อเช้านี้ก็ตาม

     

     

                เชสเซอริค...

     

                มันดูเหมือนฝันแต่ก็ไม่ใช่ฝัน ดูสมจริงเสียจนน่ากลัว...

     

     

     

               

                “วันนี้พอแล้วล่ะ นี่ค้าจ้างนะจ๊ะไซคี

     

                “อ๊ะ... ขอบคุณมากค่ะคุณป้าลอเรน!

     

                เคนเนดี้เดินผ่านร้านขนมปังไปอย่างช้าๆ กลิ่นแป้งอบหอมเตะจมูกทำเอาเขารู้สึกหิวขึ้นมา... จะว่าไปตอนนี้กี่โมงแล้วนะ รู้สึกเหมือนเวลาผ่านมายาวนานเหลือเกิน ---

     

     
     

                “อ๊ะ...”

     

     

                พลันดวงตาสีแดงสดของชายหนุ่มก็สบเข้ากับเจ้าของดวงตาสีเทาอ่อนที่ออกมาจากร้านพอดิบพอดี...

     


     

                ผมยาวประบ่าสีน้ำตาลแดง ดวงตาสีเทา แต่งตัวทะมัดทแมง...

     
     

     

                “เอ่อ... คุณริชมอล?

     

                เขาจำชื่อเธอได้ หญิงสาวที่ห้องพยาบาลในหน่วยงานเชสเซอริคคนนั้น ไม่จำผิดคนแน่นอน... อีกฝ่ายเองก็ได้แต่มองเขาด้วยสีหน้าปั้นยาก เหมือนทั้งตกใจ สงสัย และพยายามตีหน้านิ่งไปพร้อมๆ กัน

     

                “ไม่ทราบว่าเรารู้จักกันเหรอคะ ----” เธอเอ่ยเสียงสั่น

     

                “ก็ต้องรู้จักสิครับ! ตอนนั้นเรา ---”

     

     

     

                ตุบ

     



     

     

                ร่างสูงของชายหนุ่มผมสีเข้มล้มลงตามแรงโน้มถ่วง ทว่าก่อนที่จะกระแทกลงกับพื้นก็มีมือคู่หนึ่งเข้ามาช้อนตัวรับไว้พอดิบพอดี

     

                “คุณสเฟียร์... ดีที่คุณลองให้ตามมาดูนะเนี่ย”

     


     

                “คุณลิทช์ฟิลด์!

     

                ไซคีร้องด้วยความตกใจ เธอรีบดันตัวเขาที่แบกร่างชายหนุ่มสลบเหมือดไปยังที่ที่คนบางตา เธอดูตื่นตกใจเสียจนน่ากลัวว่าจะเป็นลมล้มพับไปจริงๆ

     

                “คุณมาทำอะไรที่นี่?

     

                “คุณสเฟียร์ให้ผมตามมาดูเขาเผื่อฉุกเฉิน... แล้วก็นี่แหละ” อลันเอ่ย เขาเปลี่ยนท่าแบกร่างชายหนุ่มมาเป็นพยุงตัวแทน ทางด้านไซคีจึงเข้ามาช่วยพยุงแขนอีกข้าง ทางด้านเคนเนดี้ยังคงสลบไสลไม่ได้สติ...

     

     

                “ยาสลบ... ” ไซคีพึมพำ

     

                “เอาเขากลับฐาน เราคงมีเรื่องต้องคุยกับเขาอีก เขารอดวิลส์เวิร์ธมาได้” ชายหนุ่มผมสีหม่นว่า ทั้งสองพากันพยุงร่างของเคนเนดี้ข้ามถนนตรงไปตามทางเดินเท้า ด้วยน้ำหนักตัวทำเอาหญิงสาวอย่างไซคีพยุงไม่ค่อยไหวซักเท่าไหร่

     
     

                “แล้วนี่จะทำยังไงกับเขาคะ...”

     

                อลันเงียบไปครู่หนึ่ง เขายกมือข้างที่ว่างล้วงกระเป๋าหาซองบุหรี่ ก่อนจะนึกได้ว่าครานี้ตนไม่ได้พกมา

     

     
     

                “ยิงเป้า”

     

     

     





     

     

     

     

                “...ล้อเล่นนะ”

               

               

               

    -------------------------------------------------

    (edit. 8/4/2015 :: แก้ไขเล็กน้อย)
    และสัญญาว่าตอนต่อๆ ไปเคนเนดี้จะไม่เกิดมาสลบแล้วค่-----

    เฮือก... ขอโทษนะคะ หายไปตั้งหลายวัน Orz
    ช่วงเดือนเมษาอาจจะมาๆ หายๆ เยอะพอสมควรเลยค่ะ ; ;
    เอาตอนสี่มาเดลิเวอรี่แล้วนะคะ แล้วจะส่งตอนห้ามาชดเชยกับที่หายไปค่ะโฮรววว

    คาดว่าตอนหน้าสมาชิกหน่วยจะมาแล้วนะคะ
    จากที่เลื่อนมานาน งานนี้จะครบค่ะ สัญญา (?)

    และจนแล้วจนรอดปิศาจก็ยังไม่มากันเลย...
    กราบอภัยผปค. ลูกๆ บทปิศาจทุกท่านนะคะ แต่ความแฟนตาซียังไม่มาเร็วๆ นี้ค่---- #โดนโบกดับ

    แล้วเจอกันตอนห้าค่ะ!

    ปล. มาอิจฉาทุกคนที่ไปงานหนังสือย้อนหลังนะค----
    และเราก็ไปงานหนังสือมาเรียบร้อยแล้วค่---- เย่ะ------ #โดนโบกอเกน (...)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×