คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สนามสอบ !!
สนามสอบ !!
แม้จะเป็นยามสายแล้วแต่ในเมืองหลวงก็ยังคงคึกคักไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ด้วยสาเหตุที่ว่ามีเด็กมาเข้าสอบที่โรงเรียนอัญเชิญหลวงชื่อดัง จึงมีทั้งสั่งจองที่พักจับจ่ายอาวุธตำราเรียนจำหน่ายอาหาร
เหล่าพ่อค้าแม่ขายทั้งหลายพากันเอาของออกมาโชว์เรียกลูกค้ากันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น อาวุธ สัตว์เวทย์ พาหนะ ตำรา และของอื่นๆอีกมากมาย
ร้านอาหารเล็ก ๆ ตกแต่งสไตล์น่ารักติดกับน้ำพุกลางสวนสาธารณะประจำเมืองพิย่า เด็กหนุ่มผมทองที่รวบไว้กลางหลังดวงตาสีทองคมนั่งคุยกับเด็กสาวผมฟ้าด้วยท่าทางสบายๆ มองเผินๆคงดูคล้ายกำลังคุยเรื่องสนุกไม่น้อย
แต่หากได้มีใครสักเกตุก็จะพบว่า บนหน้าสวยๆของเด็กสาวนั้นมีปมเชือกขมวดชนกันอยู่ด้วยท่าทางเคร่งเครียด
“ยังจะมาทำตัวตามสบายอยู่อีก” เมย์เอ่ยขึ้นอย่างหมั่นไส้กับเจ้าคนที่ทำตัวไม่รู้ร้อนรู้หนาว
เด็กหนุ่มดูดน้ำส้มในมือ แล้วยักคิ้วนิดๆให้เด็กสาว “ฮ๊า อร่อยจังเลยนะน้ำส้มคั้นร้านนี้เนี่ยเมื่อไหร่อาหารจะมานะหิวจะแย่ละ”
เด็กสาวเลิกคิ้วเล็กน้อยเมื่อเด็กหนุ่มไม่ใส่ใจกับสิ่งที่เธอพูดเลยแม้แต่น้อย “แรร์ เรทานอส ฉันกำลังถามนายอยู่ว่าจะทำยังไงกับการสอบภาคบ่าย”
‘กรี๊สส ทำไมฉันต้องมานั่งใส่ใจเรื่องที่เจ้าตัวยังไม่แยแสเลยเนี่ย หรือเขาจะมีวิธีแก้’
“โห ไม่ต้องเรียกชื่อฉันเต็มยศขนาดนั้นก็ได้ยัยคุณหนูรถประจำทาง รอดูไปก่อนถ้าพลังเวทย์ยังไม่กลับมาก็คงต้องถอนตัว” แรร์ตอบน้ำเสียงเรียบๆไม่แสดงอารมณ์
“ไม่กลัวคุณน้าเสียใจหรอ...” แม้จะหลุดปากแต่ก็ยั้งไว้ไม่ทันเสียแล้ว เด็กสาวได้เพียงตำหนิตัวเองในใจเท่านั้น
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วสีดำสนิทเข้าหากันด้วยท่าทางเคร่งเครียด ดวงตาสีทองคมเหม่อมองออกไปไร้จุดหมายความเงียบเริ่มปกคลุมโต๊ะของทั้งคู่
ริมฝีปากของเเรร์ขยับเล็กน้อยเหมือนกำลังพึมพำกลับตัวเองเด็กสาวทำตัวไม่ถูกในขณะที่กำลังจะอ้าปากขอโทษ
บริกรก็นำอาหารมาเสริฟ “ขอเก็บเมนูนะครับ”
เหมือนเสียงบริกรไปเรียกสติเด็กหนุ่ม แรร์จึงหันมาพยักหน้าให้บริกรนิดหน่อยหลัง จากนั้นก็เอ่ยชวนเด็กสาวที่นั่งเก้าอี้ตรงข้ามทานอาหาร
“ไม่ต้องเครียดหรอก มันต้องมีทางออก” เมย์พยายามเอ่ยปากปลอบใจ
เด็กหนุ่มพยักหน้า ยิ้มนิดๆดวงตาสีทองวูบไหวไปมาสายลมที่เคยสงบนิ่งเริ่มไหวเบาๆโดยไม่มีใครสังเกตอักขระเวทย์สีทองตัวหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝ่ามือด้านขวาของเด็กหนุ่ม
การทานอาหารยังคงดำเนินไปอีกสักพักแรร์และเมย์จึงเดินออกจากร้านมุ่งหน้าสู่โรงเรียนอัญเชิญซัมม่อนเพื่อเข้าสอบ ระหว่างทางเด็กสาวแอบชำเลืองมองเด็กหนุ่มที่ตัวโตกว่าด้วยสายตาเป็นห่วง
เสียงจ๊อกแจ๊กไม่ได้เข้ามาในโซนประสาทของเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย เขายังเดินตรงต่อไปโดยไม่มองเส้นทางแม้แต่น้อยแต่ที่น่าแปลกคือเขาไม่หลงเส้นทางไม่ชนสิ่งกีดขวางแม้แต่น้อย แม้แต่เด็กสาวที่เดินตามหลังมาด้วยยังอดสงสัยไม่ได้
เพียงแต่เธอไม่ได้เอ่ยถามเด็กหนุ่ม เพราะคิดว่าเขาคงต้องการสมาธิ ‘เขาต้องมาคิดมากเพราะเรื่องที่ฉันอ้างถึงคุณน้าแน่ๆ แงแง ยัยเมลานิล บ้า!!’
“อ๊ะถึงแล้ว” เด็กสาวอุทานเมื่อเห็นประตูทางเข้าโรงเรียนที่ใหญ่โตสลักลวดลายสัตว์อสูรในตำนานไว้หลายตัว ทั้งการูด้า ทรีอาร์ดราก้อน ไซโดเรนท์ แต่ละตัวนั้นขนาดไม่ต่างจากของจริงแม้แต่น้อย
ความตระกาลตาไม่ได้เกิดขึ้นเพียงกับเด็กสาวแต่เกิดขึ้นกับทุกคนที่มาเยือนโรงเรียนอัญเชิญชื่อดังแห่งนี้ครั้งแรก แต่ดูเหมือนว่าต้องยกเว้นเด็กหนุ่มคนหนึ่งไว้เสียแล้ว
“หืม ถึงแล้วหรอ”
“ใช่เข้าไปด้านในกันเถอะ เอ่อนายพร้อมหรือยังฉันหมายถึงพลังเวทย์ของนายคือแบบ...เอ่อ” เด็กสาวถามด้วยท่าทางตะกุกตะกักจนคนที่รอฟังยิ้มด้วยความขบขัน
“เวลาเปิ่น เธอก็น่ารักนะรถประจำทาง” แรร์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนผิดกับดวงตาสีทองที่ฉายแววระริกๆ อยู่
เด็กสาวหน้าแดงวูบ ‘แอร๊ย ย ยพระเจ้าขาทำไมหนูถึงต้องโดนหมอนี่ปั่นหัวเล่นด้วยเนี่ย’ เด็กสาวส่ายหน้าแรงๆเพื่อเรียกสติ “ชั่งเถอะนา ไม่เกี่ยวกับนายสักหน่อย ตกลงพลังเวทย์ของนายเอ่อ...กลั..”
“ไม่รู้สิ ถ้าไม่ไหวก็คงต้องถอนตัวแต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นฉันจะสู้ให้ถึงที่สุด” แรร์พูดตัดบท ดวงตาสีทองทอประกายมุ่งมั่น
เด็กสาวพยักหน้าพร้อมใช้มือหนึ่งจูงแรร์ ให้ออกเดินตามมา เด็กหนุ่มระบายยิ้มออกมาและเดินตามไปด้วยดี
“บัตรคิว ละเจ้าหนู” ทหารหลวงที่ทำหน้าที่ตรวจสอบผู้เข้าสอบ เอ่ยถามขึ้น ทั้งคู่ชูบัตรสีม่วง ที่มีหมายเลขกำกับไว้และตราโรงเรียนซัมม่อนให้นายทหารดู
นายทหารรับบัตรไปตรวจดูเมื่อพบว่าเป็นบัตรของทางโรงเรียน จึงพยักหน้าอนุญาตให้ทั้งคู่เข้าไป “สมกับเป็นโรงเรียนหลวงเข้มงวดจริงๆ” เมย์พูดกับแรร์เบาๆ
ทั้งคู่เดินตรงเข้าไปยังส่วนในของโรงเรียน “เธอรู้หรอว่าเขาจัดการสอบกันที่ไหน”
“อืมก็สเตเดี้ยมของโรงเรียนไง น่าจะอยู่ทางนี้นะ” เด็กสาวเดินนำออกไป เด็กหนุ่มรีบสาวเท้าตามไปอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษนะค่ะ คือพวกหนูสองคนเป็นผู้เข้าสอบเอ่อต้องเข้าประตูไหนของสเตเดี้ยมหรอค่ะ” เด็กสาวเอ่ยถามกับนายทหารวัยกลางคน นายทหารขอดูบัตรคิวจากนั้นก็เดินนำทั้งคู่เข้าสู่สเตเดี้ยม
“นั่งรอการประกาศคิวตรงนี้นะครับ อีกสักครู่พิธีกรสนามจะกล่าวเมื่อการประลองจบ” นายทหารโค้งให้ทั้งคู่ แล้วเดินจากไป
ทั้งคู่กล่าวขอบคุณจากนั้นจึงหันไปสังเกตุสเตเดี้ยม “อืมกว้างจริงๆ รู้จักหารายได้เข้าโรงเรียนเหมือนกันนะเนี่ย นอกจากจะขายบัตรสมัครสอบที่แสนจะแพงแล้วยังขายบัตรเข้าชมการคัดเลือกนักเรียนเข้าสู่โรงเรียนด้วย”
“แรร์ดูนั้นสิ” เด็กสาว ใช้นิ้วสะกิดพร้อมกับชี้ให้ดูการประลองบนสนาม แรร์ขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยดวงตาสีทองมองการต่อสู้อย่างประเมิน
เด็กหนุ่มผมเขียว ร่างโฉกเลือดมีวิญญาณนักรบอัญเชิญคอยคุ้มกันอยู่ ดวงตาของเด็กหนุ่มฉายแววเด็ดเดี่ยวมองมายังคู่ต่อสู้ที่ใช้สัตว์อสูรหมาป่าสามตัวคอยลอบกัดเขาทำให้วิญญาณอัญเชิญของเขาไม่สามารถสู้เต็มที่ได้เนื่องจากต้องคอยคุ้มกันเขาด้วย
“จะยอมแพ้หรือยัง” เสียงคู่ต่อสู้ท่าทางอันธพาลถามมายังเด็กหนุ่มผมเขียวด้วยเสียงห้วนๆ เด็กหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ คู่ต่อสู้ของเขายิ้มเหี้ยมสั่งหมาป่าทั้งสามตัวรุมขยี้เด็กหนุ่มทันที
“ระวังซ้ายสอง บนหนึ่ง” แม้จะเป็นเสียงกระซิบแต่วิญญาณนักรบอัญเชิญของเขาก็ได้ยินชัดถนัดหู วิญญาณนักรบอัญเชิญใช้ดาบตวัดขึ้นจากด้านบนลงมาด้านซ้าย ในแนวเฉียงเลือดสีแดงสาดกระเซ็น
ใบหูหมาป่าทั้งสามตัวหลุดลงมากองกับพื้น “เก่งมากขอรับเจ้านาย”
“อะไร นายสิเก่งฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”
วิญญาณอัญเชิญขมวดคิ้วเข้าหากัน แต่ดวงตายังคงจ้องไปยังคู่ต่อสู้ทั้งสาม “ก็เจ้านายบอกทิศทางกับผม”
“ฉันไม่ได้เป็นคนพูดนะ ไรกิระวัง !! ท่าดาบวิญญาณ!!” เด็กหนุ่มผมเขียวกล่าวปฎิเสธแต่ในขณะเดียวกันก็เอ่ยเตือนวิญญาณนักรบอันเชิญของเขาพร้อมกับออกคำสั่งใช้พลังดาบเวทย์
ดาบซามูไร สีขาวเปร่งแสงเจิดจ้า คมดาบตวัดไปด้านหน้าอย่างรวดเร็วประกายแสงสีขาวสามสายเชือดเฉือนหมาป่าที่กระโจนเข้ามาหาวิถีดาบ
กรร กรร !! หมาป่าทั้งสามคำรามลั่น มันพยายามพุ่งหลบวีถีดาบสีขาว แต่ดูเหมือนจะสายไปเสียแล้ว...
ตูม ๆๆๆ เสียงระเบิดดังติดๆกัน เด็กหนุ่มผมเขียวนั่งลงไปนอนกองกับพื้นพร้อมหายใจอย่างหนักหน่วงในขณะเดียวกันคู่ต่อสู้ของเขาก็ไม่ต่างกับเขาเท่าไหร่นักเพียงแค่บัดนี้วิญญาณอัญเชิญของเขายังคงอยู่
แต่สัตว์อสูรอัญเชิญของอีกฝั่งได้หายไปแล้ว....
“ผู้ชนะคือ คุณ กรอท กรอเทีย เชิญพักและรอแข่งในรอบทัดไปของวันพรุ่งนี้คะ” ทันทีที่พิธีกรกล่าวประกาศชัยชนะของเด็กหนุ่มเหล่าคนดูบนสเตเดี้ยมต่างปรบมือกันดังสนั่น เสียงผิวปากเสียงโห่ร้องดังก้องไปทั่วสเตเดี้ยม
คู่ต่อสู้ของเด็กหนุ่มมองมาที่เด็กหนุ่มอย่างคาดแค้น จากนั้นจึงมีพวกมาลากลงจากสนามประลอง
“ขอบคุณมากนะไรกิ ไม่มีอะไรแล้วละนายไปพักเถอะส่วนเรื่องเสียงที่บอกนายคืนนี้เราค่อยมาคุยกันนะ”เด็กหนุ่มเอ่ยขอบคุณวิญญาณนักรบเบาๆ
จากนั้นวิญญาณนักรบก็สลายหายไป ขณะที่กำลังเดินลงจากสนามประลองก็หมดสติลงอย่างกะทันหัน ร่างเด็กหนุ่มลอยลงเตรียมโหม่งพื้นโลกแล้ว !!!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ติชมกันได้นะครับ แนะนำได้ ผมยินดีจะปรับปรุงขอบคุณทุกเม้นทุกวิวครับ
ความคิดเห็น