ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายลมยุทธภพ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ย. 56



    ผู่เยว่เหลียวดูชมทิวทัศน์รอบกาย นางปล่อยให้ซือเล่อวิ่งออกตามสัญชาติญาณม้าป่าโดยอิสระ มันย่อมหลีกเลี่ยงเสียงดัง มุ่งออกห่างจากหมู่บ้าน เข้าหาสถานที่ปลอดผู้คนเงียบสงบ

    “เจ้าชอบที่แห่งนี้รึ” นางถามมันเสียงแผ่วเบา กระตุกสายบังเหียนชะงักฝีเท้าม้าตนทีหนึ่ง ด้านข้างล้วนเป็นป่าไม้ไม่โปร่งนัก หากไม่แน่นทึบจนเกินไป ผู่เยว่หลับตาซึมซับเสียงสรรพสัตว์กู่ร้องหากินในยามเช้าคล้ายบทเพลงอันรื่นรมย์น่าผ่อนคลาย

    นางกระโดดลงจากอานม้าท่าทางคล่องแคล่ว คว้าหยิบห่อผ้าห่อหนึ่ง ย่อมใส่ม้วนกระดาษพู่กัน ตั้งใจจะวาดบันทึกภาพตรงหน้าด้วยอารมณ์สุนทรีย์ประการหนึ่ง ยกวางสัมภาระห่อผ้าห่อใหญ่อีกสองห่อลงจากหลังม้า โบกมือปล่อยให้ซือเล่อวิ่งเล่นแทะเล็มหญาบริเวณนั้น มันอยู่กับนางมานาน มิจำต้องกลัวมันจะเตลิดหนี

    ผู่เยว่เดินห่างมาเพียงสี่ห้าก้าว ย่อกายวางของลงจากบ่านั่งลงกับพื้นด้วยท่าทางเรียบง่าย ฝนหมึกคว้าผู้กันออกมา ภาพแสงอาทิตย์ยามเช้าลอดผ่านใบหยาเจียวกระทบหยาดน้ำค้างส่องประกายล้วนงดงาม นางทอดถอนหายใจแผ่วเบา น่าเสียดายหากยามที่ใบไม้เปลี่ยนสีคงจะงดงามกว่านี้นัก

    “แสงสุริยากระทบใบพฤกษา คล้ายหยกงามล้ำค่าดังทาทอง” นางเอนกายพิงต้นไม้ด้านหลังเอ่ยกลอนขึ้นมา ล้วนเพิ่งแต่งเมื่อครู่ ครั้นแต่งได้เท่านี้ กลับไม่สามารถต่อได้ ผู่เยว่จรดพู่กันลงภาพวาด ย่อมเป็นกลอนที่ยังไม่จบเมื่อครู่

    “ราวสตรีเหลียวแลมองคันฉ่อง แสงย่อมส่องทอประกายเงาหญิงงาม”

    ผู่เยว่ชะงักพู่กันลง เหลียวมองรอบกายระแวดระวังสงสัย “ท่านใดมาร่วมแต่งกลอนกับข้า รบกวนท่านแสดงตนชี้แนะ”

    “มิกล้าๆ” ชายผู้หนึ่งกระโดดลงมาจากต้นไม้ที่นางนั่งเอนหลัง ผู่เยว่ตกใจผุดลุกขึ้นร้องอุทานสบถ มันผู้นั้นกลับหัวเราะฮาๆทอดมองนางราวเด็กน้อยอย่างขบขันไร้มารยาท

    นางชี้หน้ามันเอ่ยไม่ออกหลายคำ แม้จะติดนิสัยบุรุษมาแต่เล็ก นางย่อมเป็นหญิง มารดาสั่งสอนไว้เยี่ยงไร ภาพใบหน้าท่านลอยมาทุกครา คำหยาบคายได้แต่ติดอยู่ปลายลิ้น ได้แต่ชี้หน้าก่นด่าในใจ มันล้วนขำขันนาง “น้องชาย เหตุใดเจ้าถึงมาเที่ยวเตร่ในป่า”

    ผู่เยว่ชะงักปากเพียงครู่ เหลียวมองเครื่องแต่งกายตน ล้วนเป็นเสื้อผ้าเก่าปะชุนเช่นบุรุษชาวบ้านชาวนา หาใช่แต่งกายเช่นสตรีไม่ “ข้าเพียงท่องเที่ยวทั่วไป”

    “พบเจอล้วนเป็นวาสนา ได้คบหาล้วนมีบุญร่วมกัน” มันผู้นั้นกล่าวยิ้มๆ ใบหน้าล้วนปกปิดอย่างแน่นหนาราวสตรีในวันมงคลผู้หนึ่ง มันใส่ชุดผ้าไหมสีขาวเช่นผู้คนอันร่ำรวย กลับห้อยเหน็บขลุ่ยไม้ไผ่กระบี่ไม้ดูประหลาดตา ย่อมเป็นชายมีฐานะดีเชี่ยวชาญกาพย์กลอนอันสติไม่สมบูรณ์ผู้หนึ่ง นางถอนหายใจด้วยความเวทนา “คงเป็นเช่นนั้น”

    เช่นนั้นสุนัขข้างทางที่พบเจอกับพี่ชายย่อมเป็นวาสนา ล้วนควรนับมันเป็นสหายนางยั้งปากตนไว้ทัน คำหยาบคายนางไม่เอ่ยโดยสะดวกใจนัก หากเสียดสีเสียดแทง เพิ่งเคยกล่าวออกหลังเหตุการณ์นั้น ย่อมมิทราบมารดาจะว่ากระไร

    ชายสติไม่ดีผู้นั้นหัวเราะฮาๆอีกครา ผู่เยว่เหลียวมองตำแหน่งดวงอาทิตย์ ย่อมผ่านไปเกือบชั่วยาม นางหยิบสุราหมั่นโถวในห่อผ้าออก ล้วนปรารถนาจะเลี้ยงข้าวมันสักมื้อด้วยความสงสาร “อาหารพื้นๆ ขอพี่ชายอย่ารังเกียจ น้องชายผู้นี้ยังมีธุระต่ออีก”

    มันรับหมั่นโถวขวดสุราไป เอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้มที่นางไม่เห็น “ขอบใจน้องชาย เจอกันคราวหน้า พี่ชายจะเลี้ยงอาหารเจ้า”

    ผู่เยว่ยิ้มรับคำมัน หิ้วห่อผ้าสะพายบนไหล่ ผู้คนทั่วไปพบเจอจากลาย่อมเป็นเรื่องสามัญ นางเดินออกมาไกลขึ้นผิวปากเรียกซือเล่อหลายคำ รอราวครึ่งเค่อจึงเห็นมันวิ่งสุดแรงพุ่งมาพร้อมเด็กชายผู้หนึ่ง ย่อมปรารถนาจะสะบัดให้พ้น

    นางร้องอาหนึ่งคำ เด็กน้อยผู้นี้ใบหน้าคล้ายคนที่มันเคยรู้จักนัก ผู่เยว่พิเคราะห์มันเพียงครู่ รีบอุ้มมันลงมาจากหลังซือเล่อ “เจ้าหนู ม้านี่เป็นม้าป่า อย่าเที่ยวจับเล่นโดยง่ายนัก มันย่อมพยศต่างจากม้าบ้าน”

    “ท่านยังจับได้ เหตุใดข้าจะจับมันไม่ได้ มันล้วนคล้ายม้าของบิดาข้า นิสัยมันจะต่างกันเพียงใด” เด็กน้อยเอ่ยเถียงด้วยท่าทางถือดี มิได้หวาดกลัวนัก ผู่เยว่นิ่งเงียบชั่วครู่มองมันอย่างเหนื่อยหน่ายใจระคนนึกขัน ทั้งหน้าตานิสัย ล้วนคล้ายกับศิษย์พี่ผู้หนึ่งของนาง

    “มันเป็นม้าของข้า ข้าจับต้องขึ้นขี่มันได้มิแปลก หากผู้อื่นมันอาจทำอันตราย” นางเอ่ยอธิบาย ลูบหัวซือเล่อ มันล้วนโกรธเคืองเจ้าหนูนี่ไม่น้อย ไม่ถีบตกแต่แรกนับว่าโชคดีนักหนา

    “ท่านอย่าได้หลอกลวง ข้ายังจับต้องมันอยู่เมื่อครู่ ผู้คนท่านอื่นล้วนจับต้องมันได้ไม่ต่างกัน” ผู่เยว่หันไปมองแผงคอม้าโดยเร็ว ขนสีน้ำตาลของซือเล่อหลุดไปหลายกระจุก ย่อมติดมือเด็กน้อยนั่น นางกลับไปมองร่างเล็กอีกครา เจ้าหนูนี่นับว่ามีบุญมากนักแล้ว ซือเล่อล้วนจ้องมันอย่างอาฆาต แสดงออกเด่นชัดมิยอมให้เจ้าหนูนี่ขึ้นขี่มันอีก

    ผู่เยว่ลูบหัวมันเบาๆอีกครา หันไปถามเด็กน้อยผู้นั้นด้วยเสียงครุ่นคิด “บิดาของเจ้าผู้นั้นอยู่ที่ใดเล่า”

    “ล้วนมิใช่เรื่องของท่าน” ประโยคนี้ยิ่งคุ้นเคย ผู่เยว่เลิกคิ้วเล็กน้อย นอกจากจะขี่ม้าไปส่งมันไม่ได้ มันยังไม่ใช่เรื่องของนาง ดังที่เจ้าหนูนี่ว่า นางเองก็มิควรใส่ใจนักกระมัง นางโคลงหัวเบาๆขำขันกับตน เอ่ยถามเด็กน้อยผู้นี้ด้วยความสงสัยแต่แรก “จางจิ้นฮุย เจ้ารู้จักคนผู้นี้หรือไม่”

    มันนิ่งเงียบชั่วครู่ “ท่านรู้จักบิดาข้า”

    ผู่เยว่พยักหน้า ยิ้มแย้มแก่มันด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ประการหนึ่ง “เช่นนั้นมันย่อมเป็นเรื่องของข้าแล้วหลานชาย”

    “หลานชาย” มันทวนคำอย่างสงสัย ผู่เยว่คลายห่อผ้าห่อใหญ่ห่อหนึ่งของนาง หยิบพิณออกมานั่งดีดด้วยอารมณ์ผ่อนคลายประการหนึ่ง นางอธิบาย “ข้ารู้จักบิดาเจ้านับถือเป็นพี่น้อง เจ้ารออยู่นี่กับข้า บิดาเจ้าย่อมมารับเด็กหลงทางเยี่ยงเจ้า”

    “ท่าน...รู้” เด็กน้อยใบหน้าแดงผ่าวเป็นริ้ว ผู่เยว่หัวเราะอีกครา ยังคงไล่นิ้วไปตามเส้นสายพิณอย่างชำนาญ เสียงเพลงสูงต่ำไพเราะสดใส ย่อมเป็นเพลงวิหคเร่ร้องที่ยุทธภพร่ำลือ

    นางดีดทำนองช้าเร็วตามอารมณ์ แต่เดิมเพลงนี้ศิษย์น้องผู้หนึ่งแต่งเพื่อผ่อนคลายความเครียด นางกับศิษย์พี่หลายคนล้วนช่วยกันปรับปรุง สำเนียงทำนองเพลงสดใส เล่นช้าย่อมคล้ายนกขับเร่ร้องหากัน ยามเล่นเร็วย่อมคล้ายนกประสานร้องเพลงเป็นหมู่ ทำนองไม่ยากแต่พิสดาร ย่อมตามแต่ผู้บรรเลงจะรังสรรค์ช้าเร็วตามอารมณ์ตน

    ไม่นานนักเด็กน้อยก็นั่งเรียบร้อยฟังเสียงพิณอย่างตั้งใจ ผู่เยว่เล่นจนจบละสายตาจากเครื่องดนตรีในมือ เพิ่งจะสังเกตุบุรุษสามท่านใบหน้าคุ้นเคยมองนางด้วยสายตาต่างกัน

    นางวางพิณลงผุดลุกขึ้น ยิ้มแย้มแก่ทั้งสาม ไม่เอ่ยอะไรออก เพียงชี้ไปที่เด็กน้อยข้างกายด้วยท่วงท่าผ่อนคลาย

     

    ห่างไปไม่ไกลนักคนผู้หนึ่งลอบดูชมฟังเสียงพิณ มันย่อมเป็นชายชุดขาวผู้นั้น กล่าวกับตนด้วยเสียงยินดี “พบเจ้าแล้ว...เสี่ยวเยว่”

     


     

    เม้นด้วยนะเออ

    ปล. คุณชญตว์(อ่านว่าไรเนี่ย) เราไปอ่านให้แล้วนะ น่าสนุกดีจ้า แต่ยังอ่านไม่ครบ ไม่ค่อยว่าง ขอโทษด้วยนะ จะตามไปอ่านต่อทีหลังให้
    ปล.(อีกที) คุณLynne Ennyl ขอบคุณมากเลยน้าสำหรับเม้นแรกของเรื่องนี้ ดีใจมากๆ เม้นตอนตีสามประทับใจมากอ่ะ(ไม่ได้ประชดนะ แอบฮาเหมือนกัน เราลงตอนตีหนึ่ง ยังมาเม้นให้ตอนตีสาม) ยังไงก็อย่านอนดึกนะ รักษาสุขภาพด้วยจ้า


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×