ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายลมยุทธภพ

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่1

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ย. 56


     

    ชาวยุทธล้วนแต่ปรารถนาความยิ่งใหญ่ ลาภยศสรรเสริญ สมบัติมีค่า เคล็ดวิชาลี้ลับ อาวุธทรงอานุภาพ

    ประการนี้ผู้คนทั้งหลายจึงพากันหลงทางมัวเมาอยู่ท่ามกลางความฝักใฝ่ในอำนาจ แบ่งแยกสำนักเป็นซ้ายขวาบ้าง ชั่วดีบ้าง เหนือใต้บ้าง เพื่อเป็นข้ออ้างในการรบราฆ่าฟัน

    ยุทธภพจึงมิเคยปราศจากความวุ่นวาย ผู้คนล้วนแก่งแย่งชิงดีกัน ทั้งนอกสำนักและในสำนัก ต่างก็เข่นฆ่ากันและกันอย่างบ้าคลั่งวุ่นวายไร้จุดหมาย

    หลิ่ง เป็นคำที่ใช้เรียกขานคนผู้หนึ่ง มันมักปรากฏตัวในชุดขาว ห้อยขลุ่ยไม้ไผ่ที่เอว ใส่หมวกสานใบใหญ่คาดผ้าขาวปิดหน้า คนผู้นี้ราวกับภูตแห่งสายลมที่พัดผ่านไปทั่วในยุทธภพ เข้าออกประตูสำนักตระกูลต่างๆราวกับไร้กำแพงขวางกั้น ผู้คนกล่าวว่าคติของมันคือทำทุกอย่างตามใจตน 

    มันย่อมเป็นบุคคลประหลาดผู้หนึ่ง หากจะว่ามันฝักใฝ่ในอำนาจที่น่าปวดหัวนั่นก็ใช่ จะว่ามันฝักใฝ่ความสงบก็ใช่ จะว่ามันเป็นขโมยก็ใช่ จะว่าเป็นจอมยุทธผู้องอาจผู้หนึ่งก็ใช่ จะว่าเป็นปราชญ์เปี่ยมปัญญาก็ใช่ จะว่าเป็นตัวขี้เมาโง่งมก็ใช่

    ชาวยุทธล้วนมองมันต่างกัน ชื่นชมมันก็มาก เกลียดมันก็มาก มันเข้ากับทั้งอธรรมธรรมะตามแต่ใจตนไร้หลักการ เข้าต่อสู้โรมรันฆ่าฟันเคียงบ่าเคียงไหล่ผู้คนหลายท่าน จอมยุทธและมารร้ายทั้งหลายล้วนเรียกขานมันเป็นสหายพี่น้องไม่ขัดข้อง

    บางครามันเข้าปล้นสะดม ช่วงชิงสิ่งของ สุรารสเลิศ ทรัพย์สินมีค่า บางครากลับกำจัดโจรร้ายและกังฉิน ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างองอาจ

    แม้กระทั่งวังหลวงมันยังอาจหาญบุกเข้าไปถึงท้องพระโรง หยิบฎีกาถวายองค์ฮ่องเต้มาอ่านราวกับเรื่องราวทั่วไปเล่มหนึ่ง เขียนหนทางแก้ไขอย่างเชี่ยวชาญ ลายมือหนักแน่นงดงามไม่สามัญคล้ายจอหงวนทรงภูมิท่านหนึ่ง

    ตกดึกผู้คนหลายท่านมักพบเห็นมันมัวเมาเข้าไปในหอคณิกา โอบหญิงสาวแน่งน้อยซ้ายขวาหัวเราะฮาฮาคล้ายชายเจ้าสำราญ ยามเช้ากลับเห็นมันเป่าขลุ่ยเล่นด้วยอารมณ์สงบบนเก๋งตามเทือกเขา

    หลายครานักที่พบเห็นมันแอบฟังคนอื่นคุยกันอย่างนึกสนุกราวกับเป็นเรื่องของตัวมันเองก็ไม่ปาน มันย่อมเป็นบุคคลที่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นด้วยอีกประการหนึ่ง

    กระนั้น แม้ว่ามันจะมีนิสัยประหลาด แต่มันค่อนข้างเป็นบุคคลเปิดเผยคนหนึ่ง นิยมตรงไปมาไม่นึกอายนึกเกรงสายตาใคร แม้กระทั่งเวลาเข้าวังหลวง มันยังมิเคยกระโดดข้ามกำแพง กลับเดินเข้าไปทางประตูราวกับบ้านของตนก็มิปาน

    แต่ตลอดมายังมิเคยมีผู้ใดที่เห็นใบหน้ามันแม้แต่คนเดียว ต่างร่ำลือว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามบ้าง อัปลักษณ์บ้าง เป็นหญิงสาวบ้าง หญิงชราบ้าง เทพเซียนบ้าง ปีศาจบ้าง

    วรยุทธมันเองก็เป็นที่สงสัย ร่ำลือ ท่วงท่า พลังปราณดูผิดแผกไปจากทุกสำนัก มันใช้เพียงกระบี่ไม้ กลับตีรันฟันแทงได้ทัดเทียมกับดาบฟ้าคำรามของเจ้าสำนักกระเรียนค้ำเมฆาดัชนีมันประหลาดชี้ตายบ้างสลบบ้างคล้ายตามอารมณ์มัน ทั้งวิชาตัวเบามันฝีเท้าหนักไม่แผ่วเบา กลับว่องไวยากติดตาม แม้แต่วิชาเหินฟ้าของมังกรเฒ่าเหวินซานยังตามได้เพียงครึ่งลี้ เด็กน้อยทั้งหลายล้วนอยากเป็นศิษย์มัน

    ผู้ใดปรารถนาจะได้มันมาทำงานหรือจ้างวานอันใด ล้วนต้องตามหามันให้เจอ เสนอค่าจ้างเป็นสิ่งที่มันต้องตาต้องใจ งานต้องถูกใจมัน ทำพลาดมันจะไม่คืนของ ห้ามถามอะไรให้มันรำคาญ ย่อมเป็นบุคคลเอาใจยากผู้หนึ่งอีกประการ

    สิ่งเดียวที่พอจะระบุที่มาของมันได้คือเพลงขลุ่ยของมัน เสียงคล้ายนกเร่ร้องประสานเสียงสูงต่ำในยามเช้า อดีตศิษย์ตระกูลชิวผู้หนึ่งยืนยันว่า ย่อมเป็นเพลงที่คุณหนูเล็กตระกูลชิวร่วมกับศิษย์พี่ศิษย์น้องนางประพันธ์ขึ้นมา ผู้คนที่รู้จักเพลงนี้นับได้น้อยนัก หากมันกลับบรรเลงอย่างเชี่ยวชาญ เจ้าหลิ่งนี่ย่อมเป็นศิษย์ตระกูลชิวคนหนึ่งที่ร่วมประพันธ์เป็นแน่แล้ว

    หากกว่าวถึงตระกูลชิว ย่อมเป็นตระกูลนักปราชญ์นักดนตรีตระกูลหนึ่ง เจ้าบ้านเชี่ยวชาญกาพย์กลอน ย่อมเป็นอาจารย์สอนสั่งจอหงวนหลายท่าน ฮูหยินที่เสียไปรำกระบี่งดงามจับตา บุตรชายคนโตเชี่ยวชาญพิณ เล่นถวายฮ่องเต้ฮองเฮาไทเฮาพระสนม ได้ป้ายพระราชทานเขียนตัวอักษรจือฉวี่ ส่วนคุณหนูรองแต่งออกสกุลหาน ผู้คนขนานนาม เอ้อหูหยกบรรเลง

    ครั้นคุณชายสกุลหานแต่งเมียเล็กเข้าบ้าน นางจึงขอหย่าขาดพาบุตรสาวในครรภ์กลับมาที่บ้านเดิมตน ผู้คนตระกูลชิวล้วนไม่ใส่ใจคำนินทา เพียงมีข้าวพอให้ท้องอิ่ม ได้เล่นดนตรี แต่งกลอน เรื่องอื่นหาควรเอามาใส่ใจให้ทุกข์ร้อนไม่

    ผู่เยว่น้อยจึงใช้แซ่เดียวกับมารดา ตั้งแต่จำความได้อยู่ตระกูลชิว ฝึกกาพย์กลอนกับตา มีมารดาและลุงคอยสอนดนตรี ทั้งมารดานาง ทั้งยายนางล้วนเป็นหญิงงาม ผู้คนต่างคาด โตขึ้นนางย่อมเป็นสาวงามผู้เชี่ยวชาญศิลปศาตร์นางหนึ่ง

    นางเติบโตท่ามกลางเหล่าบัณฑิตศิษย์พี่น้อง นิสัยคล้ายบุรุษอยู่หลายส่วน หยอกล้อเล่นเตะลูกหนังกันแต่เด็กไม่คล้ายสตรีนัก บัณฑิตศิษย์พี่หลายท่านมุ่งทางบู๋ มาที่ตระกูลชิวเพื่อสนทนาปรัชญาต่างๆได้สอนนางหลายประการ นางย่อมขี่ม้าใช้ธนูแกว่งดาบป้องกันตัวโดยคร่าวได้

    ครั้นผู่เยว่ครบสิบสามปี ตระกูลหานจึงได้ส่งจดหมายมาระบุให้พาผู่เยว่กลับตระกูล เพื่อหมั้นหมายกับลี่ฮุ่ยชิง

    ชิวเหม่ยหลิงไม่ยอมให้บุตรสาวใช้แซ่หาน ยิ่งไม่ยอมให้บุตรสาวแต่งตามสกุลหานต้องการ นางส่งจดหมายกลับไป ชิวผู่เยว่เกิดในตระกูลชิว ย่อมต้องแต่งกับศิษย์ตระกูลชิว ตายก็เป็นผีตระกูลสามี จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกลูกเต่าตระกูลหาน

    ชิวผู่เยว่คัดค้านการหมั้นยิ่งกว่าผู้เป็นแม่ ลี่ฮุ่ยชิงเป็นลูกสุนัขอันใด มีหรือนางจะยอมหมั้น นางเติบโตกับเหล่าเด็กชายและกาพย์กลอน ย่อมชมชอบการอยู่อย่างสงบมีอิสระเที่ยวเล่นไม่เรียบร้อย มิใช่เจ้าสาวในห้องหอที่จะนั่งปักผ้า ทำอาหาร หรือต่อสู้กับเหล่าอนุ หากให้นางใช้ดาบสับผักน่าจะดูถนัดมือกว่านัก

    ตระกูลชิวจึงจัดงานหมั้นหมายให้นางกับเว่ยเพ่ยอิง ศิษย์คนหนึ่งของตระกูลเพื่อตัดปัญหา โดยตั้งใจว่าจะถอนหมั้นในภายหลัง

    แต่ตระกูลชิวอยู่อย่างวิเวกมานานจึงไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แท้แล้วสกุลลี่เป็นตระกูลใหญ่ เจ้าบ้านกินยศเป็นถึงแม่ทัพ ย่อมห่วงชื่อเสียง ลี่ฮุ่ยชิงเป็นบุตรชายคนเดียว อายุสิบแปด ใจร้อน เอาแต่ใจ ไม่คาดจะถูกตระกูลหานตระกูลชิวหักหน้า ปฏิเสธการหมั้น พาพรรคพวกสกุลลี่ลอบเผาบ้านชิวในยามวิกาลหลังเชงเม้งได้สองวัน

    คนแซ่ชิวล้วนตกตายสิ้น เหล่าลูกศิษย์หลายคนกลับมาจากไหว้บรรพบุรุษถูกไฟคลอกตายตามอาจารย์ไปก็มาก ผู่เยว่ขี้ม้ากลับมาที่บ้านหลังจากไปซื้อพิณต่างเมืองเพื่อเอามาเล่นบูชาให้ยายที่เสียไปกลับพบแต่ซากปรักหักพัง แม้แต่ร่างของมารดาก็ไม่เห็น

    เด็กน้อยใบหน้าเปื้อนน้ำตา ทั้งงุนงงหวาดกลัว เกิดเหตุอันใดขณะนางไม่อยู่ ศิษย์พี่น้อยใหญ่คุ้นหน้าคุ้นตาล้วนตายตกไปมาก ที่เหลือล้วนพากันกลับบ้านเกิดตน เหลือเพียงกองกระดาษเงินกระดาษทอง สุราอาหารเย็นชืดวางหน้าป้ายสี่ป้าย หนึ่งในนั้นสลักชื่อนางชัดเจน

    เด็กหญิงทรุดตัวร่ำไห้หน้าป้ายศพของครอบครัว โขกหัวกับพื้น ด่าตนอกตัญญูมิทันได้แทนคุณ มิคาดจะได้พบหยกอย่างดีสลักลี่หนึ่งตัวใต้กองขี้เถ้า นัยน์ตาสีน้ำตาลทอประกายกร้าว เหตุนี้ย่อมเป็นฝีมือตระกูลลี่โดยแน่แล้ว
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×