ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สายลมยุทธภพ

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่4

    • อัปเดตล่าสุด 26 ธ.ค. 56


    จูเจียวจินหยิบน้ำชาขึ้นที่ลูกศิษย์รินให้ขึ้นดื่ม นัยน์ตาคู่คมจ้องมองไปยังเจ้าพรรคที่เดินออกไปนิ่งเรียบ จนร่างนั้นลับตาไป นางจึงละสายตากลับมามองจอกในมืออย่างครุ่นคิด

    “เหล่าซือ ท่านผู้นั้น...”

    “เตรียมตัวเสียผู่เยว่ เจ้าจะต้องไปเมืองหลวง” นางกล่าวขัดน้ำเสียงไร้อารมณ์ ผู่เยว่นิ่งเงียบเพียงชั่วครู่ “ศิษย์ไม่รับงาน ท่านย่อมทราบ”

    “เจ้ามาถึงนี่ย่อมมีเรื่องรบกวนข้า จงถือเป็นการแลกเปลี่ยนเสีย” มารร้ายไร้เงากล่าวไม่อ้อมค้อม ผู่เยว่ถอนหายใจ อาจารย์นางตรงไปตรงมาขวานผ่าซากแต่ไหนแต่ไร ที่กล่าวล้วนตรงกับใจเหล่าซือ มิต้องครุ่นคิดแปลความเช่นสนทนากับคนท่านอื่น หากนางเองล้วนมิอยากรับงานที่ขัดกับคติตน “เหล่าซือ ท่านทราบดีศิษย์ไม่นิยมฆ่าคน”

    “เพียงลักพาตัว” มารร้ายไร้เงาว่า พลางยกน้ำชาขึ้นดื่ม “ข้าไม่ทราบ หากผู้จ้างวานระบุชัดเจน ว่าต้องเป็นศิษย์เอกของมารร้ายไร้เงา”

    “นั่นย่อมน่าสงสัย ท่านมิคาดหรือว่าคนผู้นี้อาจจะปรารถนาร้ายกับท่านและข้า” ผู่เยว่เอ่ยเตือน ผู้สูงวัยกว่าพยักหน้าถอนหายใจบางเบา “งานนี้โดยตรงจากเจ้าพรรค งานเร่งด่วน ย่อมเกี่ยวพันกับทิวาไร้ตะวัน ข้าเองก็เป็นหนึ่งในเงาของพรรค เจ้าเป็นศิษย์ข้าย่อมเข้าใจ”

    ผู่เยว่มองใบหน้างดงามอย่างวิตกกังวลหลายส่วน แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค หากนางทราบดี สี่เงาไม่ต่างจากสี่เสาหลักคอยค้ำจุนพรรค สลักสำคัญรองจากเจ้าพรรค อาจารย์รับหน้าที่สำคัญนี้ย่อมต้องกังวลถึงทิวาไร้ตะวันเป็นสำคัญ

    จูเจียวจินสั่งสอนวิชาผู่เยว่ เลี้ยงดูนางหลายปี ผูกพันมิแพ้มารดากับบุตรแท้ๆ แม้จะเย็นชานิ่งเงียบหากล้วนเป็นห่วงในตัวศิษย์ผู้นี้ไม่น้อยเช่นกัน ครั้นเห็นมันนิ่งเงียบไม่เอ่ยอันใดจึงกังวลอยู่หลายส่วน “กระนั้น ข้าจะให้คนในพรรคไปจัดการเอง”

    “เหล่าซือ ข้าต้องลักพาตัวผู้ใด” ผู่เยว่นิ่งเงียบชั่วครู่ ในใจนางล้วนสงสัยตัวตนผู้ว่าจ้าง หากงานสำคัญถึงขนาดเจ้าพรรคสั่งงานด้วยตนเองเช่นนี้ กระทั่งเหล่าซือก็คงจะไม่ทราบว่าผู้ใดอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ ถึงทราบก็คงมิอาจกล่าวแก่นางได้

    “ท่านอ๋องสิบสี่ หลงหานเฟิง” มารร้ายไร้เงาตอบ “ค่าตอบแทนคือป้ายหยกดำ เจ้าตกลงรับงานนี้แล้วใช่หรือไม่”

    “ป้ายหยกดำ” ผู่เยว่ทวนคำอย่างสงสัยปนตระหนก “เหล่าซือ นั่นใช่หยกดำขององค์ฮ่องเต้กระนั้นหรือ”

    “ใช่ เจ้าทราบเยี่ยงไร” นางเอ่ยถามเหลียวมองลูกศิษย์ที่ครุ่นคิดอยู่ ผู่เยว่ถอนหายใจยืดยาวคล้ายเบื่อหน่ายเรื่องวุ่นวายเหล่านี้เต็มทน “ย่อมเป็นธุระที่ศิษย์อยากรบกวนท่าน...ตกลง ศิษย์รับงานนี้”

    มารร้ายไร้เงาพยักหน้า นางวางจอกในมือลง ส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้ เอ่ยอธิบาย“ผู้จ้างวานต้องการให้เจ้าลักพาตัวคนผู้นั้น และดูแลอย่าให้หลบหนีราวสองเดือน ห้ามทำร้าย ดูแลอย่างสมพระเกียรติ ส่วนรูปวาดกับรายละเอียดทั่วไปอยู่ในซองนั่นแล้ว”

    “ดูแลอย่างสมพระเกียรติกระนั้นหรือ ช่างพิลึกนัก” ผู่เยว่พูดแผ่วเบา ปกติผู้คนเรียกหานักฆ่าย่อมมีความแค้น ล้วนแต่ประสงค์ร้ายต่อกัน ผู้จ้างวานท่านนี้กลับจ้างานให้นางดูแลท่านอ๋ององค์หนึ่งราวกับนักฆ่าเยี่ยงนางเป็นพี่เลี้ยงเด็ก คนผู้นี้ประสงค์สิ่งใดกัน..

    นางถอนหายใจโคลงหัวไปมาไม่อยากคิดอันใดให้วุ่นวายอีก คนแซ่ชิวล้วนไม่ชมชอบเรื่องน่าปวดหัวอย่างใจคนเช่นนี้แต่ไหนแต่ไร หากยามทำงานเช่นนี้เรื่องราววุ่นวายล้วนควรครุ่นคิดไปหมด  หากพลาดเพียงก้าวเท่ากับทั้งชีวิต ผู่เยว่ปรารถนาความสงบหาได้อยากวุ่นวายเรื่องเหล่านี้

    พลันนางรำลึกได้ หันไปมองยังเด็กน้อยข้างกาย จิ่วฮุยนิ่งเงียบตามที่นางบอกกล่าว หากนัยน์ตาเรียวเล็กจ้องมองเหล่าซืออย่างสงสัยครุ่นคิด มือเล็กๆเกาะขากางเกงนางแน่น

    มารร้ายไร้เงาเลิกคิ้ว เอ่ยถามลูกศิษย์สาวที่ถอนหายใจอีกครา “ลูกสุนัขจากแห่งใดกัน”

    “มันเป็นญาติของข้า” ผู่เยว่เอ่ย นางนิ่งเงียบชั่วครู่ “เหล่าซือ ข้าขอฝากมันกับท่านได้หรือไม่”

    “เหตุใด บิดามารดามันล่ะ” ใบหน้านางเรียบเฉย หากดูไม่สบอารมณ์นัก ผู่เยว่ทราบดีเหล่าซือล้วนไม่โปรดปรานเด็กเล็ก นางเอ่ยตอบ หากกล่าวประโยคสุดท้ายแผ่วเบา “ย่อมเกี่ยวกับงานนี้ ท่านจะว่าอันใดไหมหากข้าฝากมันสักสองเดือน”

    หญิงชราผู้ใบหน้างดงามถอนหายใจยืดยาวผิดกับยามปกติ “ยุ่งยากวุ่นวายไม่ต่างจากครานั้น เจ้าจะหาเรื่องให้ข้าอีกกี่ครากัน”

    ผู่เยว่อยากตอบเหลือเกินว่า หลายครา ตราบที่ท่านยังหางานมาให้ข้า นางกลอกตาไปมา มองเหล่าซือของตนอย่างวิงวอน เอ่ยออกเสียงออดอ้อน “เหล่าซือ”

    มารร้ายไร้เงาถอนหายใจอีกครา พยักหน้ารับอย่างเสียมิได้ ผู่เยว่จึงค่อยยิ้มแย้มโล่งใจ กล่าวกับเด็กน้อยข้างกาย “จิ่วฮุย ข้าฝากเจ้ากับเหล่าซือข้า จงเป็นเด็กดี”

    “ท่านจะไปที่ใด” เด็กน้อยถามหลังจากนิ่งเงียบมานาน ใบหน้าเล็กบูดเบี้ยวกลั้นสะอื้น ผู่เยว่ลูบหัวปลอบโยน มันยังเด็กนักกำพร้ามารดา ซ้ำบิดาก็มิรู้หายไปไหนฝากมันไว้กับคนท่านหนึ่ง ครานี้กลับถูกส่งต่อให้คนอีกท่านหนึ่ง ย่อมรู้สึกตระหนกกังวลหลายประการ

    “ข้าสัญญาว่าจะพาเจ้ากลับไปหาบิดาโดยเร็ว” นางกล่าวสัญญาเสียงหนักแน่นเพียงแค่นั้น หันไปคารวะเหล่าซือ ก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดออกนอกเรือนไม้ ควบซือเล่อสู่เมืองหลวงทันที...

     

    รู้สึกมันไม่น่าอ่านต่อเลยแฮะ คิดว่าเป็นคั่นตอนละกัน ไม่เม้นไม่อัพนะเออ ต่อไปจะ...(ฮ่าๆ ไม่บอก ไปเดาเอง)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×