ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOARD OF ACADIA ผู้ครองหอคอยทั้งสี่

    ลำดับตอนที่ #2 : 2 เพื่อนเก่า ชาหอม 80% เหลือเช็คอีกรอบ อาจแก้เล็กน้อย

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 57


    “ก่อนอื่นคงต้องขอกล่าวว่านาร์! ผมยินดี!ยินดีกับทุกคนที่ผ่านมาได้! ผมคือครูใหญ่ของทุกคนจากนี้ไป โลว์แรน เดบาร์ เอาล่ะ! ขอให้พวกคุณจงภูมิใจในตราสัญลักษณ์บนเสื้อคลุม จงภูมิใจในเกียรติแห่งเอคาเดีย จงตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและนำความเจริญสู่แผ่นดินเกิดของคุณเอง”

    ลีอาตบมือเบาๆเช่นเดียวกันกับนักเรียนคนอื่น ขณะทอดมองไปยังครูใหญ่ในเสื้อผ้าสีสดใสแสบตาที่ยืนอยู่ตรงกลางเวที เธอมองดูชายหนุ่มที่ยิ้มให้กับนักเรียนคนนั้นคนนี้ด้วยสายตาสงสัย คำทักทายภาษาเอลฟ์และปลายหูแหลมทำให้เด็กสาวเดาได้ไม่ยากว่าชายคนนี้ต้องมีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ในกาย ดูเหมือนว่าภาพเอลฟ์ผู้รักสันโดษในคัมภีร์โบราณที่ใครหลายคนเคยอ่านจะถูกทลายอย่างรวดเร็ว

    “เอาล่ะ ต่อไปเป็นการประกาศหอคอยของพวกคุณ! ช่างน่าสนุกเสียจริง! น่าเสียดายที่ผมต้องอำลาไปก่อน แต่ว่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งเอคาเดียทั้งเก้าสิบเก้าดวงได้คัดเลือกกันไว้แล้ว! พวกเขาจะมอบเสื้อคลุมที่ติดเข็มกลัดสัญลักษณ์ให้คุณ! ผมขออำลา” เขาตบมือเบาๆสองครั้ง ก่อนจะหายวับไป แสงเทียนรอบห้องดับลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเห็นเปลวเทียนสว่างขึ้นลอยไปรอบๆห้อง

    หลายคนถึงกับส่งเสียงร้องออกมาอย่างตกใจปนหวาดกลัวเมื่อเห็นร่างโปร่งใสที่ถือเทียนลอยเข้ามาจากทางหน้าต่าง ลีอากลั้นหัวเราะอย่างขำขัน เมื่อเห็นผู้ชายหลายคนทำหน้าเหยเกขาสั่นพั่บๆตอนที่รับเสื้อคลุมมาจากร่างโปร่งใส

    “แม่หนูน้อย เราตกลงมอบเจ้าสู่หอคอยโกเมน ข้าขออวยพรเจ้า” วิญญาณของชายวัยกลางคนในชุดสีขาวสะอาดลอยเข้ามาหาลีอา ใบหน้าขาวซีดหากยังคงดูน่าเกรงขาม มือหนึ่งของชายคนนั้นถือตะเกียง ขณะที่แขนอีกข้างพาดเสื้อคลุมสีน้ำเงินเข้ม ปักลายคทาประสานดาบสีทองที่หน้าอกข้างซ้าย  มีเข็มกลัดเป็นโกเมนเม็ดเล็กติดอยู่ด้านขวา

    ลีอาผงะเล็กน้อยยามเห็นใบหน้านั้นซ้อนทับกับภาพขาวดำในหนังสือเล่มเก่า เด็กสาวโค้งหัวขอบคุณ วิญญาณดวงนั้นยิ้มแย้มเล็กน้อยที่มุมปาก ก่อนจะสวมเสื้อคลุมตัวยาวให้เด็กสาว “สง่างามนักแม่หนูน้อย ข้าต้องไปแล้ว จงมีความสุขในเอคาเดียเถิด...จงระวังพลังของเจ้าให้ดี”

    ประโยคคำเตือนสุดท้ายแผ่วเบาไม่ต่างจาดเสียงกระซิบ แสงไฟรอบห้องพลันค่อยๆสว่างขึ้น พร้อมกับร่างนั้นที่ค่อยๆกลืนหายไปกับอากาศ รุ่นพี่ประจำหอคอยต่างๆจึงค่อยเริ่มประกาศเรียกน้องใหม่ทั้งหลาย เด็กสาวจับไปที่เข็มกลัดอย่างแผ่วเบาอย่างครุ่นคิด “ขอบพระทัยสำหรับคำเตือนเพคะ องค์ราชา”

    “อ้าว นี่น้องได้มาอยู่หอคอยโกเมนงั้นหรือ” ลีอาปล่อยมือจากเข็มกลัด หันไปตามแรงสะกิด เด็กสาวพยักหน้าให้กับรุ่นพี่สาวที่คุมสอบเธอ เซอาร์ยิ้มอย่างยินดี ก่อนจะลากสาวรุ่นน้องไปทางกลุ่มคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก

    “กี่คนล่ะ บราล” เธอถามเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เขาชี้ไปที่เด็กใหม่ทีละคน เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เจ็ดคน”

    “งั้นก็เป็นแปด” หัวหน้าหอคอยโกเมนว่า คว้าเอาถาดเสิร์ฟน้ำใกล้ๆออกมาเคาะเสียงดังก้อง เรียกสายตาให้ทุกคนหันมามองด้วยความตกใจปนตำหนิ หากเจ้าหญิงแห่งรัฐเหนือกลับฉีกรอยยิ้มเป็นมิตร “ทุกคนคะ มาเล่นเกมส์กันหน่อยเป็นไง!”

    “นี่คุณจะทำอะไรคุณของอีกคะ คุณเซอาร์” รุ่นพี่สาวจากหอมรกตถาม เธอกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย หัวหน้าหอโกเมนยิ้มโบกมือไปมา “มิได้ค่ะ ดิฉันเพียงเห็นว่าเกือบทุกปีสมาชิกใหม่ต่างหอจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไรนัก และมีเรื่องอยู่บ่อยๆ นี่เป็นเพียงความปรารถนาดีจากดิฉันเท่านั้น เราควรจะแก้ไขปัญหานี้มิใช่หรือคะ”

    “คุณจะทำอะไรอีกล่ะ” คราวนี้เป็นคนจากหอเพทายว่า เขาหักข้อมือไปมาเบาๆ ยิ้มอย่างคนนึกสนุก ก่อนที่จะทำหน้าแหยๆ “แค่ไม่เอาเหมือนกางเกงในคราวก่อนก็แล้วกัน”

    “อะไรล่ะคะ ดิฉันแค่เห็นว่าทุกคนเคร่งเครียดกับการสอบ เลยอยากให้ผ่อนคลายกันบ้าง” เซอาร์ทำท่าเสียใจอย่างสุดซึ้ง หลายคนอดจะขยับปากต่อว่าเบาๆไม่ได้ หากเด็กสาวยังคงยิ้มแย้มเช่นเดิม “ก็ง่ายๆนะคะ คราวนี้เราก็จัดการประลองในพวกเด็กใหม่ของแต่ละหอ พอหมดแรงก็จะได้ไม่ไปมีเรื่องกันอีก อีกอย่างยิ่งทะเลาะกันก็ยิ่งสนิทกันนะคะ”

    ลีอาแอบเห็นนิ้วของรุ่นพี่สาวไขว้กันสองนิ้วด้านหลัง รุ่นพี่คนอื่นมองมายังคนข้างกายด้วยสายตาไม่ไว้ใจนัก ยกเว้นพวกปีหนึ่งที่ยังดูงงๆเหมือนเธอ

    “หอมรกตขอผ่...” เด็กสาวคนนั้นยกมือทันที เจ้าแม่แห่งหอโกเมนจึงใช้อีกมือรวบเสื้อคลุมกระชากเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้ๆเข้ามา “ผู้ชนะจะได้ของจากหอโกเมน เป็นดินเนอร์อันทรงคุณค่า กับสี่หนุ่ม”

    เธอจับเด็กหนุ่มโชคร้ายทั้งสามคนหมุนไปมา “บราล เลนาย ไพร์ อิซา ด้วยเกียรติของประธานหอ พวกคุณจะทำอะไรกรรมการหอโกเมนทั้งสี่นี้ก็ได้ พร้อมกันก็ไม่ว่า”

    “เวร/เฮ้ย/ฮะ/อะไรนะ” เด็กหนุ่มโชคร้ายทั้งสี่สะดุ้ง สะบัดตัวหลุดออกมาชี้หน้าหัวหน้าของพวกตนแล้วเริ่มสบถด่ายาวเหยียดทันที หากเซอาร์กลับพูดเพียงคำว่า "คำสั่ง" เท่านั้น ก่อนจะเอาผ้าชุบยาสลบปิดจมูกทั้งสี่คนอย่างรวดเร็ว

    “กรี๊ด” เด็กสาวหลายคนเริ่มส่งเสียง เมื่อหัวหน้าหอโกเมนจับมือทั้งสี่ประทับยืนยันในเอกสารสัญญายอมรับเป็นของรางวัลที่ร่างออกมาอย่างรวดเร็ว “หนูร่วมค่า” “สาวมรกตปีสองร่วมด้วยค่า” “หออำพันสู้ตาย”

    “แต่...” เด็กหนุ่มจากหอเพทายคนหนึ่งเอ่ยอย่างไม่พอใจนัก เซอาร์ยกมือขึ้นชูสามนิ้วคล้ายสาบาน “นักเรียนหอที่ชนะ ดิฉันสัญญาว่าจะไม่แกล้งนักเรียนหอนั้น”

    หากริมฝีปากเล็กๆของรุ่นพี่ขมุบขมิบเพียงเล็กน้อยชนิดที่ว่าคนในหออื่นที่ยืนอยู่ห่างไปไม่มีทางได้ยินเป็นคำว่าสามวัน เจ้าหญิงรัฐเหนือยิ้มหวาน “แล้วจะแถมผ้าเช็ดหน้ากับจุมพิตของมิเลียน้อยให้ด้วยค่ะ”

    รุ่นพี่สาวสวยคนหนึ่งชี้หน้าตัวเองอย่างงงๆ ส่ายหัวไปมา ลีอามองเจ้าแม่หอคอยโกเมนอย่างอึ้งๆ เสียงพร้อมเพรียงจากเด็กหนุ่มหออื่นๆดังตกลงอย่างรวดเร็ว เซอาร์ยิ้มร่า “งั้นหัวหน้าหอคอยทั้งสามคงไม่มีใครคัดค้านนะคะ”

    “ก็ได้ค่ะ” เด็กสาวร่างเล็กจากหอมรกตหันไปมองรุ่นน้องของเธอที่มองมาอย่างบังคับกลายๆ ก่อนที่จะหันมาพยักหน้ายิ้มๆให้ชาวหอโกเมนเล็กน้อย “แล้วถ้าหอโกเมนชนะล่ะคะ”

    “เราขอเป็นคำสั่งหนึ่งคำสั่งให้หอคอยที่ได้ที่โหล่ละกันค่ะ แต่ไม่ต้องห่วง เราจะคัดเลือกนักเรียนมาแค่คนเดียวเท่านั้น และไม่เป็นอะไรร้ายแรงแน่ๆค่ะ”

    “หออำพันร่วมด้วยละกัน แต่ทางเราขอจัดการเรื่องสถานที่เอง วันแข่งเป็นอีกสักสองสัปดาห์ตอนวันเปิดเทอมเป็นไง” เด็กหนุ่มคนหนึ่งว่า ลีอาเผลอมองใบหน้าคมที่ยกยิ้มอยู่ จนกระทั่งรู้สึกตัวตอนได้ยินรุ่นพี่สาวตะโกนตอบตกลง

    “งั้นหอไพลินจะจัดการเกี่ยวกับกฎ และทำเรื่องขออาจารย์” ชายใส่แว่นอีกคนว่า เซอาร์ยักไหล่ “ตามสบายเลยค่ะ งั้นทางหอคอยโกเมนขอตัวนะคะ”

    จบคำรุ่นพี่สาวก็โบกมือทีหนึ่ง ไอน้ำลอยเข้ามาบดบังการมองเห็น ก่อนจะกลั่นเป็นหยดน้ำ พลันร่างทั้งยี่สิบห้าร่างก็หายไปกับสายน้ำที่ค่อยๆซึมลงสู่พื้นหินอ่อนหายไปราวกับไม่เคยมี...

    ลีอานั่งบนโซฟานุ่มสีแดงของหอโกเมนพลางกินขนมเค้กที่รุ่นพี่สาวที่ชื่อมิเลียเป็นคนทำ นัยน์ตาสีน้ำตาลปนดำกวาดตามองรอบๆห้องโถงกว้างที่มีนักเรียนปีหนึ่งกระจายอยู่รอบๆห้อง ขณะที่รุ่นพี่สาวหัวหน้าหอคอยกำลังถูกรุ่นพี่อีกหลายคนต่อว่า ยิ่งรุ่นพี่หนุ่มทั้งสี่ที่ได้ขึ้นบัญชีดำกลายเป็นของรางวัลแบบจำใจ...เด็กสาวเห็น
    แต่ละคนแทบจะร่ายคาถาทำลายล้างหรือไม่ก็ฟาดดาบใส่ แม้กระทั่งรุ่นพี่มิเลียที่ดูสวยหวานและอ่อนโยนที่สุด...ยังเห็นว่าแอบเอายาเบื่อหนูใส่ในน้ำชาที่ยื่นไปให้เสียด้วยซ้ำ
    ส่วนปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่ถ้าไม่รวมเธอด้วยมีผู้ชายห้า ผู้หญิงสอง มีสองคนในนั้นที่เธอจำได้ว่าเป็นเจ้าหญิงจากรัฐตะวันตก และเจ้าชายจากรัฐตะวันออก ส่วนที่เหลือก็เคยมาเห็นบ้างตามหนังสือพิมพ์ น่าจะเป็นลูกหลานขุนนางใหญ่หรือมหาเศรษฐีอีก ยกเว้นคนสุดท้าย...
    ลีอาเลิกคิ้วเล็กน้อย เด็กหนุ่มคนนี้ดูแล้วน่าจะมาจากชนบทเหมือนเธอ อย่างน้อยเสื้อผ้าก็เป็นเพียงผ้าป่านเรียบๆ น่าจะเป็นชาวบ้านก็จริงอยู่ หากพลังที่สัมผัสได้ บุคคลิก ยิ่งนัยน์ตาสีฟ้าอ่อนนั่นกลับดูคุ้นตาเด็กสาวอย่างประหลาด...
    "ออโรร่า!?" เด็กสาวร้องออกมาเสียงดัง ลุกพรวดยกมือชี้ใบหน้าหล่อเหลาจนเผลอปล่อยจานเค้กในมือลง คนทั้งห้องหันขวับมาทางต้นเสียง จนลีอาต้องส่งยิ้มแหยๆก้มหัวเป็นการขอโทษไปให้ ขณะที่เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกด้วยชื่อของผู้หญิงก็เผลอพ่นน้ำชาออกมาอย่างตกใจ
    "ลีอา?"
    เด็กหนุ่มอุทานเบาๆ ขณะล้วงผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาเช็ดปาก ลีอาขมวดคิ้วก่อนจะเอามือเสยเส้นผมสีทองของเด็กหนุ่มขึ้น พิจราณาดูรอยแผลเป็นจางๆที่หน้าผากอยู่ราวสองนาที "ออโรร่าจริงๆด้วย เอ่อ...โทษทีนะ ชื่อจริงนายคืออะไร ฉันลืม"
    "เวรกรรมจริงๆ เอร์ออนไง ทำไมเธอถึงมาที่นี่ได้ล่ะ" เด็กหนุ่มถอนหายใจ ขณะที่เด็กสาวกรอกตาไปมา "สอบเข้าได้ ฉันนึกว่านายน่าจะอยู่ที่รัฐใต้ซะอีก แล้วสมเด็..."
    เอร์ออนเอามืออุดปากของเด็กสาว ก่อนจะกระซิบเบาๆ "ฉันก็หนีงานหมั้นที่สมเด็จพ่อจะจัดให้นั่นแหละ"
    "เข้าใจล่ะ แต่มือนายเค็มชะมัด สกปรก ว่าแต่ผู้โชคร้ายคนนั้นคือใครละ" ลีอาแลบลิ้นพลางทำหน้าแหย มองสำรวจคนข้างกายอีกครั้ง เอร์ออนเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทแม่ที่เป็นพระสนมในผู้ครองรัฐใต้ เพราะอายุไล่เลี่ยกัน ตอนเด็กๆเธอเลยได้รับการศึกษาจากพระอาจารย์ในวังในฐานะพระสหายคนหนึ่งของเจ้าชาย แม้ว่าที่บ้านจะไม่ได้สืบสายขุนนางเหมือนอย่างพระสหายคนอื่น
    จะไม่ได้เจอกันก็ตอนหลังแม่กับพ่อเธอประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตนั่นแหละ จะว่าไปลีอาก็ไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้มาหกปีได้แล้ว เด็กสาวถอนหายใจเบาๆ ขณะที่เอร์ออนก็ปล่อยตัวเพื่อนสาวที่ตอนนี้ตัวเล็กกว่าเขาเกือบคืบ ต่างจากเมื่อก่อนที่ชอบแกล้งยีหัวเขาเพราะสูงกว่า
    เด็กหนุ่มขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆอย่างสะใจ "เจ้าหญิงสักคนนี่แหละ แล้วเธอล่ะ...เป็นไงบ้าง ไม่ได้ข่าวเกี่ยวกับเธอเลย แม่เองก็ห่วงเหมือนกัน แต่ที่นั่นมีเรื่องยุ่งๆอยู่ตอนนั้นพอดี"
    "ไม่เป็นไรแล้วล่ะ ฝากขอบคุณท่านด้วย ตอนนี้ฉันสบายดี" เด็กสาวนิ่งไปสักพักก่อนหยิบรูปในกระเป๋าออกมา จนเด็กหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย "เขาเรียนที่นี่ด้วยงั้นเหรอ"
    "น่าจะเป็นอย่างงั้น...เขาหายไปตั้งแต่สองปีก่อน มาเจออีกทีก็บนรูปในหนังสือพิมพ์นี่แหละ"
    "ว่าไงนะ แล้วตอนรับน้องเธอเห็นเขาไหม" เอร์ออนถาม ไม่อยากเชื่อว่าคนๆนี้จะกล้าทิ้งลีอาให้อยู่คนเดียวได้ ทั้งๆที่เขาจำได้ว่าขี้เป็นห่วงเด็กสาวคนนี้ขนาดไหน
    "เห็นสิ"
    "งั้นที่เธอเข้าโรงเรียนนี้ก็เพราะ..."
    "ฉันอยากจะเอาดาบกระซวกสักทีน่ะสิ" ลีอาพูดขัด เด็กสาวหัวเราะหึๆขณะหักข้อมือไปมา เอร์ออนถอนหายใจเบาๆก่อนจะหยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาจากนัยน์ตาสีน้ำตาลโดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว "คิดถึงเขามากเลยล่ะสิ"
    ลีอานิ่งไป ก่อนจะหัวเราะแห้งๆเบาๆเป็นคำตอบ เด็กสาวผงะไปชั่วครู่ "ออโรร่า ผ้านี่มันที่นายใช้เช็ดชาที่พ่นออกมาหรือเปล่านะ?"
    เอร์ออนนิ่งไปบ้าง มือยังคงข้างอยู่ที่ใบหน้า...น้ำชาที่ซึมออกมาจนเลอะใบหน้าของลีอาเป็นการยืนยัน
    "ไอ้เอร์ออน อย่างแรกคือมันสกปรก อย่างที่สอง นี่มันชาเรนา ชาลิสเทน หรือว่าชาอะไร" เด็กสาวสะบัดหน้าออก ก่อนจะหันไปเช็ดหนาตนกับแขนเสื้อแทน
    "ชาหอมพริมาร์" เอร์ออนยัดผ้าเช็ดหน้ากลับไป ขณะที่ลีอาเบิกตากว้าง
    เด็กสาวอ้าปากเตรียมจะต่อว่า หากกลับทรุดลงกับพื้นเสียงก่อน ผิวที่สัมผัสผ้ากลายเป็นรอยแดง ก่อนจะกลายเป็นผื่นอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กเริ่มไออย่างแรง หากยังประคองสติที่เหลือรีบบอกกับเพื่อนที่ดูตกใจทำอะไรไม่ถูก "พริมาร์ ทำจากใบนิส..."
    ยังไม่จบประโยคเด็กหนุ่มก็เข้าใจทันที เขาเบิกตากว้างก่อนจะตวัดร่างของเพื่อนสนิทขึ้น... เด็กหนุ่มยังจำได้ดีว่าเพื่อนสาวคนนี้แพ้ต้นนิสเกอร์เรียขนาดแค่เห็นก็เป็นลม ได้กลิ่นก็สำลัก แล้วที่เขาเอาไปเช็ดหน้าเธอล่ะ...
    พระเจ้า! ลีอา! ฉันสาบานได้ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเธอนะ!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×