ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    LOARD OF ACADIA ผู้ครองหอคอยทั้งสี่

    ลำดับตอนที่ #1 : 1 หมากรถไฟและตุ๊กตา

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 57


    ประตูลวดดัดสวยงามเป็นลายเถาวัลย์พันดาบและคทาที่ส่วนปลายชนประกบกัน เบื้องหลังเป็นทางเดินหินเรียงทอดยาวรายล้อมไปด้วยต้นไม้มากมายไม่ต่างจากป่าเล็กๆ นำทางไปสู่อาคารหินอ่อนขนาดใหญ่ที่สร้างอย่างวิจิตรงดงามราวกับปราสาทแห่งหนึ่ง

    ลีอา ไลลา เดินชิดซ้ายหลบรถม้าต่างด้วยอารมณ์ง่วงงุนปนหงุดหงิดจากการแหกขี้ตาตื่นขึ้นมา การเดินทางจากแอชเดย์ถึงนครหลวงที่ล่าช้าจากการติดพายุ ทำให้เธอไม่มีเวลาท่องเที่ยวพักผ่อนในฟาทาร์สก่อนการสอบอย่างที่คิด เธอเพิ่งจะมาถึงเมืองนี้เมื่อคืน มิหนำซ้ำข้าวของของเธอก็เปียกชื้นจนต้องมานั่งตากอีก ร้ายที่สุด...ขนมปังของมาร์ธาก็ราขึ้นจนกินไม่ได้

    เด็กสาวหยุดลงที่โต๊ะหน้าอาคาร อันที่จริงต้องบอกว่าปลายแถวที่ต่อกันยาวไปยังโต๊ะลงทะเบียนตรงหน้าอาคารมากกว่า ลีอาถอนหายใจเบาๆ กวาดตามองชั่วครู่ก่อนจะคว้าหยิบนาฬิกาสายบรอนซ์เก่าๆของตนมาดู

    เด็กสาวเปิดปิดหน้าปัดนาฬิกาเล่นขณะมองไปรอบๆ ด้านหน้าเธอส่วนใหญ่จะเป็นหญิงในชุดกระโปรงขาวดำแบบแม่บ้าน หรือไม่ก็พวกชายรับใช้ ส่วนพวกที่จะมาสอบจริงๆส่วนใหญ่จะนั่งจิบน้ำชารออยู่รอบๆมากกว่า สมกับที่เป็นโรงเรียนหลวง มีแต่ลูกคนใหญ่คนโตไม่ต่างจากที่คิดนัก

    เธอค่อยๆสางเส้นผมสีเทาเข้มมัดเป็นเปียให้เรียบร้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลปนดำกวาดตามองหาเอกสารบัตรประจำตัวผู้สอบมาถือเตรียมไว้

    “ลีอา ไลลา จากแอชเดย์ค่ะ” เด็กสาวบอกพนักงานรับสมัครทันทีที่ถึงตาของเธอ พนักงานคนนั้นปรายตามองสำรวจเธอและเอกสาร ก่อนจะประทับตราประจำโรงเรียนลงไป มือเรียวชี้ไปทางประตูบานหนึ่ง “เชิญค่ะ”

    “ขอบคุณค่ะ” เด็กสาวโค้งหัวให้เล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตามที่พนักงานบอก มันเป็นห้องโถงกว้างที่มีโคมระย้าประดับอยู่ตรงกลาง รอบๆห้องเต็มไปด้วยของประดับมีราคาและโต๊ะราวยี่สิบตัวตั้งห่างกันประมาณหกเมตร กั้นกันเอาไว้ด้วยฉากไม้แยกเป็นสัดส่วน

    ลีอามองไปรอบๆ ก่อนจะสังเกตเห็นว่ามีเด็กสาวร่างเล็กคนหนึ่งที่ประจำอยู่ตรงโต๊ะตัวที่ไม่ไกลนักกำลังโบกมือเรียกเธอให้เดินเข้าไปหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ดูแล้วเธอคนนั้นน่าจะอายุมากกว่าเธอราวสองปีได้

    “นั่งเลยจ้ะ ขอเอกสารด้วยนะ” เด็กสาวคนนั้นชี้ไปที่โซฟาที่ตั้งอยู่ตรงกันข้ามของฝั่งโต๊ะ พร้อมกับเอื้อมมือไปรับเอกสารจากลีอามาดู ก่อนจะเก็บลงไปในหีบไม้ด้านข้าง เธอสะบัดข้อมือเล็กน้อย ปรากฏกระดานหมากรุกขึ้นมา “จะเริ่มการสอบแล้วนะ”

    “ค่ะ” ลีอาส่งเสียงตอบ พร้อมกับนั่งลงบนโซฟา กระดานหมากรุกปรากฏตัวเบี้ยฝั่งละแปดตัวเรียงกันเป็น...หมากรถไฟ

    “เคยเล่นสินะ ก็ง่ายๆนะ เราจะถามตอบแทนการเป่ายิงฉุบ ถ้าน้องตอบได้น้องได้เดิน ถ้าตอบไม่ได้พี่ได้เดิน แน่นอนว่าเวลามีจำกัด คำถามละหนึ่งนาที”

    “นอกนั้นกฎเหมือนปกติใช่ไหมคะ” ลีอาถาม มองดูเบี้ยสีขาวในฝั่งตนทั้งแปดตัว พี่คนนั้นยิ้มเล็กน้อย “ไม่จ้ะ เราสามารถขัดขวางการเดินของอีกฝ่ายได้ด้วย และถ้าไม่สามารถเดินในสองนาทีจะต้องผ่านตานั้นไป”

    “คือถ้าตอบได้แล้วยังต้องสู้กับพี่อีกรอบสินะคะ ชนะถึงได้เดิน ถ้าแพ้ก็ไม่ได้เดิน”

    “จ้ะ แต่แค่เวทย์เบื้องต้นนะ พวกอาวุธก็นั่น...” ลีอามองไปยังดาบไม้ที่ตั้งอยู่ในตระกร้าใกล้ๆ เธอพยักหน้าเล็กน้อย “พร้อมแล้วค่ะ”

    เด็กสาวรุ่นพี่ยิ้ม ก่อนจะกางวงเวทย์ป้องกันความเสียหายนอกบริเวณที่กำหนด “งั้นเริ่มเลยนะ คำถามแรก แสงสุริยาสาดส่องไม่ถึงจิตใจข้า เป็นคำพูดของใคร ในเรื่องใด จับเวลา!

    “เรื่องคนบาปแห่งสวรรค์ ผลงานของออฟเวล นักประพันธ์ที่โด่งดังในยุคกลาง เป็นเรื่องที่ได้รับการทำเป็นอุปรากรหลายครั้ง คำพูดนั้นเป็นของนักฆ่าชื่อเบรย์ เมดจาร์ ที่พูดกับโรซิลีนนางเอกของเรื่อง ที่พบอยู่ในการแสดงฉบับคณะเมอร์รายเท่านั้นค่ะ” ลีอาตอบก่อนจะมองหน้ารุ่นพี่ “ถูกไหมคะ”

    “ถูกจ้ะ สี่สิบวินาที เดินได้”

    ลีอาพยักหน้ารับ ก่อนจะวางนิ้วลงบนเบี้ยสีขาว ไอเย็นของน้ำแข็งพุ่งสู่ปลายนิ้วจนเด็กสาวต้องร่ายเวทย์ไฟเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ รุ่นพี่สาวจึงใช้โอกาสนั้นร่ายเวทย์ลมใส่เธอโดยตรง ทำให้เด็กสาวเอียงตัวหลบเอื้อมมือซ้ายไปคว้าดาบไม้มา ก่อนจะพาดเอาไว้ที่คอของรุ่นพี่สาวอย่างรวดเร็ว

    “หึๆ ดูถูกไม่ได้เลยนะ คำถามต่อไป รัฐเหนือกับรัฐใต้ มีจุดเหมือนกันตรงไหน” เด็กสาวละดาบลง รุ่นพี่คนนั้นหัวเราะเบาๆ ถามคำถามทันทีที่ลีอาลากหมากไปวางเสร็จ เธอกรอกตาไปมาเล็กน้อย “ทั้งสองรัฐตั้งห่างจากกันสามร้อยห้าสิบกิโลเมตร สภาพภูมิอากาศต่างกัน รูปร่างเมืองต่างกัน สินค้า ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างกัน”

    เด็กสาวเจ้าของคำถามยกยิ้มกับคำตอบ ลีอาหยิบนาฬิกาของตนออกมาดูเวลา “แต่ถ้านับไล่ไป ผู้ครองรัฐเหนือกับผู้ครองรัฐใต้องค์ปัจจุบันทั้งสองพระองค์ ต่างก็สืบเชื้อสายมาจากบุตรชายคนที่สิบสาม ของกษัตริย์คีราย์ ใช่ไหมเพคะเจ้าหญิงแห่งรัฐเหนือ”

    เธอยิ้มให้เจ้าหญิงเบื้องหน้าเล็กน้อยที่มุมปาก รุ่นพี่คนนั้นหัวเราะเบาๆ “คนในราชวงศ์บางคนยังไม่รู้เลยนะ เดินได้จ้ะ”

    คราวนี้ดาบไม้ฉาบด้วยน้ำแข็งกลับพุ่งเข้ามาก่อนที่จะได้จับเบี้ยจนลีอาต้องกระโดดหลบ เด็กสาวตั้งสมาธิร่ายเวทย์กลับไป แต่ก็ถูกดาบไม้ปัดออกอย่างง่ายดาย ทำให้เธอต้องอาศัยจังหวะที่รุ่นพี่สาวเผลอร่ายเวทย์ใส่อีกบทใส่ เช่นเดียวกับเวทย์เบื้องต้นนับสิบบทที่ถูกสาดกลับมาทันที

    ตู้ม!!!

     

    “ลีอา ไลลา ผ่านจ้ะ บ่ายโมงตรงจะเป็นการสอบรอบสุดท้าย แสดงความสามารถพิเศษ ระหว่างนี้น้องจะไปนั่งเล่นในห้องโถงที่ทางโรงเรียนจัดเอาไว้ หรือในสวนก็ได้ แต่ห้ามออกนอกโรงเรียนเด็ดขาดนะ” เด็กสาวว่า ตบมือเบาๆเพื่อคืนสภาพรอบๆโต๊ะสอบให้เป็นเหมือนเดิม ลีอายิ้มแห้งๆให้ โค้งหัวเล็กน้อย ก่อนจะเดินออกมา

    เด็กสาวปัดฝุ่นที่เปรอะเปื้อนตามเนื้อตัวออก เดินไปตามทางที่พี่คนนั้นชี้ แต่เสียงพูดคุยหนวกหูของคนนับร้อยทำให้เธอไม่อยากนั่งในห้องโถงนั้นนัก เด็กสาวขึ้นไปนั่งบนต้นไม้ต้นหนึ่งในสวน หยิบรูปถ่ายใบหนึ่งออกมาดูแล้วถอนหายใจอีกครั้ง

    ลีอาพับรูปใบนั้นเก็บลงไปในกระเป๋ากางเกงก่อนที่จะหยิบนาฬิกาออกมาดูเวลา หมากรถไฟกระดานนั้นกินเวลาเกือบสองชั่วโมง...อีกยี่สิบห้านาทีถึงจะเริ่มการสอบรอบสุดท้าย เธอหาวเล็กน้อยด้วยความง่วง ก่อนที่ดวงตาสีน้ำตาลปนดำจะเบิกกว้างเล็กน้อย ความสามารถพิเศษ!?

    “เวรละ” เด็กสาวสบถเบาๆ ก่อนจะกระโดดลงมา ประทับฝ่าเท้าลงบนหญ้าสีเขียว...

    “เฮ้ย/เฮ้ย” สองเสียงประสานพร้อมกัน ลีอารีบกระโดดออกมาจากหัวเขียวๆของเด็กหนุ่ม ก่อนจะฉุดคนที่กำลังจะสลบขึ้นมาดูอาการอย่างรวดเร็ว

    “อ่า..โทษที มองไม่เห็น นึกว่าหญ้า แหะๆ ดีที่โดนไม่มาก” เมื่อเห็นว่าคนที่โดนบาทาพิฆาตเศียรของเธอไปยังไม่เป็นไรเด็กสาวจึงรีบเอ่ยขอโทษ ร่ายเวทย์แปะฝ่ามือเย็นเยียบไปที่หัวปูดๆ

    “เอ่อ...”  

    “เป็นอะไรม... อีกสิบห้านาที กรรมละ เฮ้ย! ฉันขอโทษนะเรื่องหัว เดี๋ยวนายไปประคบร้อนต่อละกัน อ่ะนี่ ไปละ” เด็กสาวเอ่ยขัดก่อนจะสั่งรัวๆ ยัดผ้าเช็ดหน้าที่ร่ายเวทย์ไฟให้อุ่นใส่มือของเด็กหนุ่ม ก่อนจะวิ่งจากไป

    โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่าเจ้าของเส้นผมสีเขียวดุจดังสนามหญ้าที่จ้องมองผ้าเช็ดหน้าในมืออย่างงงๆนั้น...คือเจ้าชายอันดับสองแห่งรัฐตะวันออก

     

    ลีอาสูดหายใจเข้าหอบแฮกๆเล็กน้อย  มาทันเวลาอย่างฉิวเฉียด เธอมองไปรอบๆหอประชุม ส่วนใหญ่ผู้ชายจะอยู่ในชุดสูท ขณะผู้หญิงจะอยู่ในชุดเดรสแต่งหน้าราวกับไปงานเลี้ยง เด็กสาวถอนหายใจปัดฝุ่นดินที่เปื้อนตัว ใช้เวทย์น้ำล้างคราบบางส่วนออก ก่อนจะสางผมที่ยุ่งเหยิง

    ชุดที่ลีอาใส่คือเสื้อฝ้ายดิบแขนยาวปักเล็กน้อยที่คอเสื้อ กับกางเกงหนังขายาว และเสื้อกั๊กหนังสีเข้มอีกตัว แถมยังแบกสัมภาระราวกับย้ายเข้ากรุงมา ไม่นับความเรียบร้อยราวกับผ้าเพิ่งซักจากที่เล่นหมากรถไฟบรรลัยโลกกระดานนั้นอีก

    เด่นดี เธอคิดในใจอย่างขำๆ ก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ที่เขียนเลขประจำตัว ดูการแสดงที่ผ่านไปแล้วเกือบสิบคนอย่างง่วงๆ ยิ่งเสียงดนตรีที่ผู้สอบแต่ละคนสรรหามาบรรเลง...เด็กสาวหลับตาลงก่อนจะนั่งเท้าคาง

    “เอทาน ไลท์” เสียงกรรมการคุมสอบประกาศผู้แสดงคนต่อไป ลีอาผงกหัวขึ้นมาดูเช่นเดียวกับใครหลายคน ปกติคนที่เข้าโรงเรียนนี้ก็มีแต่พวกลูกคนใหญ่คนโตอยู่แล้วล่ะ แต่นี่พระนามของเจ้าชายจากรัฐตะวันออก ว่ากันว่าพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพไม่แพ้พระเชษฐา คนใหญ่คนโตระดับนี้ก็ใช่ว่าจะหาดูได้ง่ายนัก

    เด็กสาวเพ่งสายตามองดูร่างของเด็กหนุ่มบนเวทีเบื้องล่างอย่างสนใจ ตำแหน่งที่อยู่ค่อนข้างไกลเล็กน้อย ทำให้เห็นเพียงพระเกศาสีเขียวตามแบบชาวตะวันออกของคนที่กำลังโปรยเมล็ดพืชลงกับพื้น ก่อนที่จะโบกพระหัตถ์ พลันเครื่องดนตรีที่ตั้งอยู่ก็บรรเลงโดยต้นไม้ที่งอกออกมา โดยมีพระองค์คอยโบกพระหัตถ์เป็นวาทยกร

    ใครได้แสดงต่อจากเจ้านี่โดนเปรียบเทียบเละแน่...โคตรโชคร้าย เด็กสาวคิดในใจ ฟังเสียงเพลงที่บรรเลงได้อย่างไร้ที่ติจนกระทั่งเสียงปรบมือที่ดังกว่าการแสดงทุกชุด หลังเสียงดนตรีจบลง กรรมการจึงประกาศผลการสอบตามด้วยชื่อผู้สอบคนถัดไป

    “ผ่าน...ต่อไปลีอา ไลลา”

    ลีอานิ่งชั่วครู่ วิเคราะห์ชื่อผู้โชคร้าย...ก่อนจะถอนหายใจ ลุกออกจากที่นั่งแล้วเดินขึ้นไปบนเวที

    เสียงซุบซิบของผู้สอบคนอื่นๆดังระงม ลีอาแกะห่อผ้าเตรียมการแสดงไม่ได้สนใจสายตาดูถูกที่ผู้ชมมองมา เธอปัดมือเล็กน้อยเมื่อเตรียมของเสร็จ และโค้งตัวให้กรรมการ

    เด็กสาวเริ่มร่ายเวทย์น้ำกับลม ทำให้ดินพวกนั้นลอยขึ้นมาก่อนจะกลายเป็นโคลน ผู้ชมยังคงดูอย่างงงๆ ในขณะที่ลีอาขยับมือไปมาจนดินเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เด็กสาวโบกมืออีกรอบไล่น้ำบางส่วนออกไป ถอนหายใจหลับตาลง ร่ายเวทย์เสียงแผ่วเบา

    ก้อนดินแข็งอย่างรวดเร็ว มือข้างหนึ่งของเด็กสาวควบคุมเปลวไฟ ขณะที่อีกข้างขยับไปมาเพื่อเอียงก้อนดิน ปากก็พึมพำควบคุมเวทย์คอยแต้มสีและน้ำยาเคลือบใส่ เธอตบมือเบาๆครั้งหนึ่ง ตุ๊กตาดินก็ค่อยๆลอยลงสู่พื้น

    เด็กสาวมองดูผลงานทั้งสามตัวก่อนจะเดินไปที่แกรนด์เปียโนที่ตั้งอยู่ มือบางค่อยๆบรรเลงทำนอง ให้ตุ๊กตาดินเด็กผู้หญิงสามคนเต้นระบำไปหากรรมการ ปากบางพึมพำเวทย์ ขณะที่นิ้วยังคงกดไปตามแป้นต่างๆตามบทเพลงที่เธอเคยได้ยินมาร์ธาเล่นเปียโนให้ฟังอยู่บ่อยๆตอนเด็กๆ  และทันทีที่เพลงกล่อมเด็กบรรเลงจบ ตุ๊กตาทั้งสามก็หยุดนิ่งลงคล้ายตุ๊กตาดินปั้นธรรมดา

    ลีอายิ้มมุมปากให้กับกรรมการ และเดินลงจากเวที ถอนหายใจเบาๆ...ไอ้แบบนี้เรียกว่าความสามารถพิเศษหรือเปล่านะ

     

    ผู้ชมทอดมองการแสดงที่จบลงไปด้วยสายตาต่างกัน หลายคนฮัมเพลงตามทำนองที่เปียโนบรรเลงจบไป เพลงที่ฟังดูสดใสและอ่อนหวาน ทั้งยังสบายหูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด ในขณะที่เด็กสาวหลายคนแอบกรี๊ดเบาๆเมื่อเห็นตุ๊กตาตัวเล็กใกล้ๆ ทั้งๆที่สร้างจากเวทย์และดิน แต่กลับดูอ่อนช้อยน่ารักราวกับตุ๊กตาผ้าตัวหนึ่ง

    กรรมการทั้งห้าท่านมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า แม้การเปิดตัวจะไม่น่าประทับใจนัก แต่ความสามารถในการควบคุมเวทย์หลายบทพร้อมกันขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งการทดสอบรอบแรกที่เด็กสาวคนนี้เจอโชคดีได้ผู้คุมสอบเป็นหัวหน้าหอคอยโกเมน อย่างเจ้าหญิงเซอาร์ ซาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถ และงานอดิเรกแปลกๆของเจ้าตัวตามแบบฉบับชาวหอโกเมนอีก

    อย่างเดือนก่อน...ที่เจ้าหล่อนนำทัพชาวหอคอยโกเมนเอากางเกงในนักเรียนชายหอคอยมรกตไปใส่ไว้ในห้องของนักเรียนชายหอคอยเพทาย

    หรือเมื่อสามวันก่อน ที่เจ้าหญิงเซอาร์นำหนังสือระดับสูงชั้นสี่ที่เอาไว้สำหรับมหาศาตราจารย์เวทย์มานั่งท่องพร้อมกับชาวคณะหอคอยโกเมน...อาจารย์หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาในความภาคภูมิใจที่ศิษย์ทั้งหลายกลับตัวกลับใจ

    ความเพิ่งจะแตกเมื่อชั่วโมงก่อน ว่าพวกหอโกเมนมันเอาความรู้ระดับนั้นมาถามนักเรียนสอบเข้าอายุสิบหก...

    ที่สำคัญยังอุตส่าห์มีพวกบ้าอย่างเด็กสาวคนนี้ผ่านมาเกือบห้าคนด้วย แถมคะแนนยัง...

    อาจารย์ผู้รับหน้าที่เป็นกรรมการโคลงหัวไปมาอย่างหน่ายใจ ส่งผลการตัดสินของตนให้ชายหนุ่มประกาศเสียงดัง “ลีอา ไลลา...ผ่าน”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×