มันคงคล้ายกันมากเลยเนอะ ...

เนื้อเรื่อง

มันคงคล้ายกันมากเลยเนอะ  สิ่งที่กูชอบกับสิ่งที่คนอื่นอยากให้กูเป็น
 ปัญหามันอยู่ที่ว่าคุณจะไปได้ไกลแค่ไหน ปัญหาคือคุณใส่ใจประเด็นที่เป็นอุปสรรคมากน้อยเพียงใด และที่สำคัญคือ คุณพร้อมจะผ่านมันไปจริง ๆ หรือเปล่า
 มันคงคล้ายกันมากเลยเนอะ  สิ่งที่กูชอบกับสิ่งที่คนอื่นอยากให้กูเป็น
 เข้าใจมั้ยล่ะ  จริง ๆ อ่ะ  อยากจะเรียนภาษา  อยากจะอยู่กับไอ้ห้องที่มันโชคดีได้เรียนภาษาแทบทุกวัน  ถ้าเป็นไปได้ ไม่ได้อยากมาอยู่ห้องหนึ่งเลย  มันเป็นมาตรฐานสากลไปแล้วเหรอว่าไอ้ห้องเก่งเนี่ย มันต้องเรียนวิทย์  มันก็ดีหรอกนะที่ได้เกรดดีอะ แต่จะมาเลือกให้เราเรียนวิทย์ทำไมล่ะ  ถ้าดูเกรดรวมน่ะ มันก็โอเค  แต่เกรดเลขกะวิทย์เฉลี่ยก็ได้แค่ 2-3 ไม่เหมาะหรอก  ความจริงไม่สมควรจะมาเลือกให้ด้วยซ้ำ “คนเก่งต้องเรียนวิทย์” ไม่เห็นด้วย ! ใช่สิ มันคล้ายกันมาก  สิ่งที่กูชอบกับสิ่งที่คนอื่นอยากให้กูเป็น ... เข้าทำนอง  “อยากจะอยู่กับสิ่งที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข มากกว่าต้องทนทุกข์กับสิ่งที่ไม่ต้องการ”
 อย่างน้อยที่สุด  มันก็มีความดีอยู่สองอย่าง  อย่างแรกคือ  คนที่ไม่เก่งวิทย์  มันก็สมควรจะได้เรียนวิทย์เพิ่มเติม ดี ! ยังไงก็ได้ปรับปรุงวิชาห่วย ๆ ไปได้ ... อย่างที่สอง  อย่างน้อยเราก็ได้รู้ละ  ว่าเราชอบอะไร  ไม่ชอบอะไร  อย่างน้อยก็ทำให้เรามองเห็นจุดมุ่งหมายบางอย่างที่จะเรียนต่อ   แต่ไม่ใช่กับทุกอย่าง   มันไม่ใช่กับความคิดที่ว่า  “อนาคต”  เราจะเป็นคนรับจ้างตัดหญ้าที่ปารีสหรือเปล่า .... นั่นแหละปัญหา
 มันคงคล้ายกันมากเลยเนอะ สิ่งที่กูชอบ กับสิ่งที่คนอื่นอยากให้กูเป็น
 เราไม่ได้เก่ง  โง่มากด้วยซ้ำ  แต่ไอ้ที่ออกมาว่า  “มึงอ่ะ ต้องเรียนวิทย์”  มันทำให้กดดันมั้ย  ใช่  หงุดหงิดมั้ย  ใช่ ... ใช่ มันทรมาน