NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END; ONE PIECE - a million ways to fall in love with you | Doflamingo x Violet/Viola

    ลำดับตอนที่ #62 : She’s drowning in her own tears (เรายังมีกันอยู่ใช่ไหม)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 346
      31
      10 มิ.ย. 63



    ตอนที่ 54: She’s drowning in her own tears

    (เรายังมีกันอยู่ใช่ไหม)





     

    หิมะตกลงมาไม่ขาดสาย ได้แต่เฝ้าหวังให้มันละลายลง เพราะหากเส้นทางปลอดโปร่ง เขาคงได้ไป

     

    เด็กหนุ่มเป่าลมใส่กระจกและวาดเป็นรูปพระอาทิตย์ อีกไม่นานเขาจะได้ไปอยู่ในประเทศที่เห็นมันตลอดทุกวันแล้ว ...คงเป็นการปรับตัวที่ยากพอดู

     

    น้องแน่ใจนะว่าอยากทำแบบนี้” สนามบินคนจอแจ แต่เพราะเลานจ์ส่วนตัวและคนคุ้มกันก็ทำให้เพียงกระซิบเขาก็ได้ยิน

     

    อือ

     

    ชีวิตน้องยังเจออะไรอีกเยอะนะ อย่าประชดด้วยการทำตามคำสั่งของคุณพ่อสิ

     

    มันเป็นสิ่งที่ผมเลือกเอง เขาสวยมากเลย และผมว่าผมรักเขา

     

    น้องรู้ตัวเองดีว่าน้องรักใคร” น้องชายทำหน้าเจื่อน หันมองเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นอย่างงดงามเป็นครั้งสุดท้าย พี่สาวเขารู้ทุกอย่าง อ่านใจเขาได้เหมือนแม่ และตัวเขาเองก็รู้ดีที่สุด

     

    ข่าวมันออกไปแล้ว ผมทำอะไรไม่ได้

     

    น้องกำลังทำให้เรื่องมันยุ่งยากนะซันจิ!” ซันจิ องค์ชายลำดับที่สามแห่งราชวงศ์วินสโมคกำลังอยู่ตรงนี้ ทำหูทวนลมไม่ฟังสิ่งที่พี่สาวเตือน

     

    เขาอยากอยู่ที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่ที่นี่

     

    ผมรู้ ...ผมไปได้รึยังครับ เพื่อนผมรออยู่นะ เครื่องดีเลย์คุณนามิต้องเขกหัวผมแน่ ๆ” ซันจิกระโดดลงจากเก้าอี้ครั้นสนามบินประกาศว่าสภาพอากาศพร้อมออกเครื่อง เด็กชายเตรียมของทุกอย่างให้เรียบร้อย แม้จะใกล้ไปแต่ครอบครัวที่เหลือของเขาก็ไม่มา

     

    ก็ไม่ได้อยากให้มา...

     

    ไว้เจอกันนะครับ

     

    อือ เดินทางดี ๆ นะซันจิ ดูแลตัวเองด้วย มีอะไรก็ติดต่อหาพี่นะ” เด็กผมทองพูดขอบคุณ ทั้งร่างโดนพี่สาวรั้งไปกอดไว้แน่น ซันจิยิ้มอ่อนใจ โบกมือลา ก่อนจะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง

     

    เหม่อมองปุยเมฆบนสายลม และเคลื่อนกายสู่มหานครกรุงเทพฯ ในทันที

     

    เขากำลังจะไปหาเจ้าหญิง

     

     


     

    ………………………

     

     


     

    ณ ตึกสูงระฟ้า

     

    หนึ่งอาทิตย์ เป็นเจ็ดวันแล้วที่ตัวเองไม่ได้ออกไปไหน ข้างนอกมีคนเฝ้า อยากกินอะไรก็มีคนหามาให้ ใช้ชีวิตเหมือนหญิงขายบริการทั่วไป เพราะค่ำคืนเธอต้องตอบแทนด้วยร่างกาย และเป็นการตอบแทนที่สาหัสสากรรจ์

     

    ไวโอเล็ตนั่งดูข่าวสารอยู่ในห้อง มันเป็นข่าวที่ไม่ได้จรรโลงจิตใจอะไรเลย

     

    มือบางกดปิดเสียงทันทีเมื่อเห็นข่าวดอฟฟี่พาลูกสาวสส. ออกงานอีกแล้ว ความสัมพันธ์ที่บอกว่าเราเป็นแฟนกันนั้นหายไป เราทั้งคู่ไม่เคยเปิดเผยมันตั้งแต่ต้น แล้วจะมาแก้ต่างว่าอะไร ...เป็นมือที่สามก็ถูกแล้ว

     

    หลังจากงานเปิดห้าง นักข่าวก็เขียนเรื่องกันสนุกปาก พาดหัวว่าทั้งที่เจ้าพ่อกับลูกสาวคบหากันชื่นมื่น แต่จู่ ๆ ก็มีเจ้าหญิงหน้าด้านเข้ามาเป็นมือที่สาม

     

    เธอโดนโจมตีและไม่มีใครช่วย อำนาจของท่านสส. เริ่มมีมากขึ้น อันที่จริงหากเธอไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับดอนกิโฮเต้แฟมิลี่ ตามปกติก็คงจะโดนเล่นข่าวทำนองนี้

     

    ...นักแสดงโนเนมดังเป็นพลุแตก ใช้ร่างกายแลกงานเพื่อให้อยู่รอด ให้ท่าเจ้าพ่อจนฉุดกันออกงานไปกลางคัน จนมีฉายาว่าเจ้าหญิงใจแตก

     

    ใจแตก’ ตอนนี้ทุกคนคงว่าแบบนี้ คุณพ่อคงควันออกหูที่สื่อเล่นงานราชวงศ์จนย่อยยับ มีลูกสาวก็เหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน มันช่างดูถูกและยอกอกเธอพอสมควร เพราะจนถึงวันนี้เธอยังไม่ได้อธิบายให้ท่านได้ฟัง

     

    ตอนนี้โทรศัพท์ก็ไม่มี ออกไปไหนไม่ได้ งานก็ไม่ได้ทำ ร่างแน่งน้อยจึงตัดสินใจทำสิ่งที่พอทำได้ให้เสร็จ อย่างน้อยแค่เรื่องเรียนเท่านี้ที่ตัวเองต้องเดินหน้าต่อ

     

    หากเรียบร้อยก็ไม่มีอะไรค้างคาใจ เพราะมันคือสิ่งที่เธอตั้งใจมาตั้งนาน

     

    เปิดหนังสือเล่มโทรม ๆ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยซ่อมขึ้นมา นิ้วบางจับปากกาแล้วเขียนด้วยสมาธิ

     

    วันที่ 7 ที่ฉันเรียกคุณกลับมาไม่ได้’ ...ยิ่งเขียนก็รู้ว่าตัวเองทนเข้มแข็งไม่ไหว ไวโอเล็ตจึงปล่อยน้ำตาให้รินไหล เสียงสะอื้นไม่มีเพราะมันไม่จำเป็น ก่อนเธอจะกลืนมันกลับเข้าไปตอนได้ยินเสียงเปิดประตู

     

    เจ้าของห้องตัวจริงกลับมาแล้ว ได้ยินเสียงช้อนส้อมอยู่ด้านล่าง แน่แท้เขาไม่ได้มานั่งกินข้าวคนเดียว เพราะบัดนี้มันมีเสียงผู้หญิงสักคนลอยขึ้นมา ไม่ต้องลงไปดูก็รู้ว่าคือคน ๆ เดิมที่เขาปล่อยให้ทำร้าย เสียงหัวเราะดูครื้นเครงทำไมมันแสลงหูเธอเหลือเกิน

     

    เด็กสาวเลือกใส่หูฟังแล้วนั่งทำงานต่อไป แต่ทุกอย่างก็พังทลายครั้นรู้ว่าเสียงหัวเราะมันกลายเป็นเสียงครวญคราง

     

    แม้จะเปิดเพลงให้ดังแต่มันก็ลอยกระทบเข้าโสตประสาท ถ้อยคำน่ารังเกียจดังชัดไปทั่วชั้นล่าง เหมือนทั้งคู่รู้จึงจงใจร้องให้ดังกว่านี้ เสียงขาโต๊ะสั่นกึงกังตอกย้ำในจิตใจเธอว่าพวกเขานัวเนียเร่าร้อนกันปานจะกลืนกิน

     

    ไวโอเล็ตเปลี่ยนสองมือมาทึ้งหัว พยายามกลั้นทุกสิ่งเอาไว้แม้มันจะปริแตกไปแล้วก็ตามที

     

    อ๊า ...โดฟลามิงโก้ แรงอีกสิคะ

     

    บอกตัวเองเป็นพันหนว่าเธอจะไม่ร้องแต่เธอก็ร้อง สองมือปิดหูให้แน่นขึ้นอีก กดหูฟังให้ลึกที่สุดเพราะเธอไม่อยากได้ยิน ...เธอไม่อยากได้ยินว่าพวกเขากำลังเสพสมกันมีความสุข

     

    ทำไมนะ ทำไมถึงไม่พากันไปทำที่อื่นที่อื่นก็มีเยอะแยะทำไมต้องมาทำกันในนี้ เธอท้อสิ้น ตัดสินใจพาร่างอ่อนแรงล้มลงนอน เลือกหนีความจริงพาสติลอยหาความฝัน พยายามกลืนยานอนหลับที่ไม่ได้กินมานาน

     

    จนบางทีก็คิดว่าเธอไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกเลย...

     

     


     

    ………………………

     

     


     

    จะไม่ไปส่งจริง ๆ เหรอคะ

     

    ส่งหล่อนให้ถึงบ้านด้วยโดฟลามิงโก้บอกปัดคำพูด เอ่ยเสียงเรียบสั่งให้ลูกน้องพายัยลูกสาวสส. กลับบ้าน แงะมือเรียวของหล่อนออก ก่อนหมุนตัวปิดประตูตามหลังทันที

     

    ได้ยินเสียงโวยวาย ...ก็แน่ล่ะ หลังจากหมดประโยชน์เขาก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ ตอนนี้ชักจะรำคาญความมักมากของผู้หญิงคนนี้เต็มทน ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายเขาก็ไม่คิดจะดึงหล่อนเข้ามาวุ่นวาย

     

    ไวโอเล็ตแสดงออกว่ามีผู้ชายมากหน้าหลายตาคอยอ้าแขนรับเธอ และเขาเองก็อยากให้รู้ว่าตัวเองก็มีเหมือนกัน

     

    ร่างหนายืนนิ่ง ก่อนจะก้าวขึ้นชั้นสองตอนทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ห้องนอนมืดเพราะเจ้าของห้องไม่เปิดไฟ แต่ก็ช่างนวลละอองยามได้รับแสงจากดวงจันทร์

     

    โดฟลามิงโก้นั่งอยู่ปลายเตียง เอื้อมมือมาถอดหูฟังของเจ้าหญิงแล้วนั่งมองอยู่แบบนั้น วันเวลาไหลช้าเสมอตอนมองหน้าเธอ คล้ายเคยเห็นภาพนี้ที่ไหนยามแสงนวลส่องกระทบใบหน้าเยาว์วัย

     

    ลมหายใจของเธอแผ่วเบา แม้จะไม่ชัดแต่เขาก็เห็นน้ำใส ๆ ประดับอยู่ที่แผ่ขนตา ...กวางน้อยร้องไห้ และหลับไปทั้งน้ำตาด้วยฝีมือของเขาเอง

     

    ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหนแต่ชายหนุ่มยังนั่งมองคนบนเตียงไม่ไปไหน แม้จะเสพสุขกับคนอื่นแต่ใจเขาก็ลอยมาหาใครอีกคน ส่งความปรารถนาที่ลุกโชนดึงให้เจ้าหญิงนิทราต้องลืมตาขึ้นมาพบความจริง

     

    ไวโอเล็ตสะดุ้ง เขยิบตัวชิดหัวเตียงยามเห็นใครนั่งอยู่ตรงนั้น สายตากวาดหาทางหนีครั้นพบว่าอีกฝ่ายกระตุกยิ้มเย็นชา

     

    เธอร้องไห้นี่สาวน้อยนิ่งค้างตอนเจ้าพ่อเขยิบเข้ามาใกล้ เกลี่ยน้ำใส ๆ ออกจากวงหน้า ทำอะไรดูนุ่มนวลแต่คำพูดกลับต่างกันสิ้นเชิง

     

    หึหึ อยากมากจนหนีมานอนร้องไห้เลยเหรอไวโอเล็ตปัดมือเขาออกทันที โดฟลามิงโก้หัวเราะ คว้าหมับเข้าที่กรอบหน้า แล้วจ้องหน้าเธอพลางถอดเสื้อตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป

     

    ชายหนุ่มลุกขึ้นสลัดกางเกงแล้วย่างสามขุมมาใกล้ เด็กสาวพยายามจะกระเถิบตัวหนีแต่อีกฝ่ายก็กักตัวไว้ ได้แต่ยินยอมพร้อมเอ่ยถามอะไรเขาลอย ๆ

     

    “...คุณคิดจะทำแบบนี้ต่อไปถึงเมื่อไหร่”


    ก็จนกว่าจะสะสางบัญชีกับพวกมันเสร็จ ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องนี้พ่อเธอไม่เกี่ยว หลังจัดการทุกอย่างเรียบร้อยฉันจะส่งเธอคืนหาพ่อเธอทันที แต่ระหว่างนี้เธอต้องชดใช้ที่กล้าทำเรื่องแบบนี้ลงไป!”

     

    ชุดนอนถลกขึ้นยามข้อเท้าถูกดึงให้มาชิดขอบเตียง มันขาดวิ่น กลายเป็นเศษผ้าตัวที่เท่าไหร่ไม่รู้ตอนมือใหญ่กระชากด้วยเพลิงอารมณ์

     

    บทรักทรมาน... เป็นเช่นนี้ทุกครั้งตลอดหนึ่งอาทิตย์ เด็กสาวฝืนดันหน้าท้องคนตัวหนักไว้ แต่คนด้านบนก็ดึงออกแล้วตรึงเอาไว้กับพื้นเตียง

     

    เสียงอารมณ์เกิดขึ้นไม่มีหยุดพัก พยายามฝืนไว้แต่สัมผัสที่เขาสอดเข้ามาก็ลึกล้ำ ดอฟฟี่มักบังคับให้เธอมอง หากไม่มองหน้า เธอก็ต้องมองตรงนั้น แม้จะหลับตาแต่เขาก็บอกให้จำ ว่าทุกคืนเธอเป็นของเขาอย่างไร

     

    รู้สึกขยะแขยงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาพึ่งไปทำแบบนี้กับใครมา จนเธออยากจะควักหัวใจตัวเองออกแล้วให้เขาเอาเรือนร่างไปย่ำยีให้พอใจ

     

    ...เวลาก็ยังเดินต่อไป คุ้มคลั่งเหมือนทุกครั้ง ไวโอเล็ตจ้องตาเขาตรง ๆ ...เพราะสุดท้ายแล้วเธอก็ยังอยากอธิบายให้เขาฟัง

     

    ดอฟฟี่

     

    เงียบฉันไม่อยากฟังเธอแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ...ทำไม ทั้งที่ฉันให้ทุกอย่างกับเธอ แต่เธอก็ยังหักหลังฉัน!

     

    “…ฉัน กำลังช่วยคุณนะ

     

    อ่า ช่วยให้ฉันตาสว่าง ขอบคุณเธอมากจริง ๆ แบบนี้คงต้องตอบแทนให้สาแก่ใจแล้วล่ะนะ

     

    ร่างน้อยขยับไหวตามจังหวะของร่างหนา ทั้งเตียงสั่นไหวตอนเขาใส่น้ำหนักทั้งหมด ทุกสิ่งที่เธอทำ เขาไม่เคยมองเห็น ตลอดสามปีที่ผ่านมามันไม่มีความหมายเลยรึไง เหตุใดเขาถึงหันมาทำร้ายความรู้สึกของเธอโดยไม่รู้สึกอะไร

     

    ไวโอเล็ตไม่รู้จะหยุดอย่างไร ยิ่งพูดยิ่งแย่ ทุกวินาทีมีแต่ความเจ็บปวด ตัดสินใจโน้มหน้าเข้าไปใกล้ แม้จะโดนทำร้ายแต่เธอก็ยอม สองมือประคองแก้มสาก อยากให้รู้ว่ามีคำหนึ่งที่เธอไม่เคยพูดให้เขาฟัง เหตุผลที่เธอยังอยู่และให้เขาถาโถมให้พอใจ

     

    แม้จะเคยหลุดปากว่าเกลียดแต่แท้จริงแล้วเธอไม่ได้คิดแบบนั้นเลย ...เธอ

     

    ดอฟฟี่ ฉันรั...” ปากบางฉกวูบลงมาอุดปากเธอทันที อีกฝ่ายไม่ยอมให้เธอพูด แค่จะบอกว่ารักเขายังไม่ยอมให้พูดเลย

     

    โดฟลามิงโก้ตะโบมจูบให้สิ้นฤทธิ์ กลืนกินแม้กระทั่งลมหายใจ ก่อนจะผละหน้าออกมาพร้อมพลิกเด็กสาวให้นอนคว่ำ กดหน้าเธอให้แนบไปกับหมอนแล้วตั้งหน้าตั้งตาขยับสะโพกต่อไป

     

    เขาจะไม่มีทางให้เธอพูด เพราะหากปล่อยให้เธอพูด

     

    จะเป็นเขาเองที่อ่อนแอ

     

    ความรักมันเป็นสิ่งจอมปลอม หลังจากนี้เขาจะไม่ไขว่คว้าอีกแล้ว จะไม่ยอมให้ใครมาล่อลวงจนตาบอดอีก ...เขาจะไม่เชื่อมัน

     

    ทิ้งมันลงพื้น ตอกมันให้แน่น โดยหารู้ไม่ว่าตะปูที่ตอกลงไป เขากำลังตอกมือตัวเอง ...ให้ไม่อาจไขว่คว้าเธอได้อีกตลอดกาล

     

     


     

    ………………………

     

     


     

    ณ สถานบันเทิง อึกทึกครึโครม

     

    พักหลังโดฟลามิงโก้มาขลุกอยู่ที่นี่บ่อย จะปล่อยให้ตัวเองคิดมากไม่ได้ เขาจึงมานั่งเทเหล้าลงคอและให้เสียงวุ่นวายทำให้ตัวเองไม่ฟุ้งซ่านไป

     

    ผู้บริหารของเขาทุกคนอยู่ที่นี่ แสยะยิ้มมองพิก้าหักข้อนิ้วซีซาร์ด้วยความรื่นใจ เสียงร้องโหยหวนทำให้รู้สึกดี เพลิดเพลินเหมือนได้เข้าออกในตัวเธอ

     

    ขอร้องล่ะโจ๊กเกอร์ ฉันทำงานให้นายนะ ทดลองยาแสนสำคัญให้นาย นายจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!” มาเฟียหนุ่มไม่สนใจ ผละตัวไปหยิบแท่งเหล็กเจาะน้ำแข็งแล้วแทงให้มันเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เอียงคอมองซีซาร์นิ่ง ระบายยิ้มละมุนแล้วด่ามันให้ถึงใจ

     

    ใช่ แต่แกทำเกินหน้าที่ ฉันเคยเตือนแกแล้วซีซาร์ แต่แกก็ยังแอบไปทำเรื่องระยำดึงปัญหาเข้ามาไม่หยุดหย่อน ฉันเตือนแกแล้ว” นักวิทยาศาสตร์เหงื่อแตก เห็นโจ๊กเกอร์เทวิสกี้ใส่แก้วก่อนคว้าแทงเหล็กสีเงินแล้วย่างสามขุมมาหา

     

    “...โจ๊กเกอร์

     

    แกรู้ไหมว่าเรื่องวิปลาสที่แกทำมันไปเตะตาชาวบ้าน และตอนนี้แกกำลังเรียกตีนคนอื่นให้มารุมกระทืบแฟมิลี่ฉันอยู่

     

    ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ใครจะรู้ว่าไอ้เด็กพวกนั้นมันเป็นลูกเต้าเหล่าใคร นายอย่าลืมสิว่าฉันทำให้ธุรกิจค้ายาของนายกว้างไกลนะ” ชายผิวซีดตอบลิ้นพันกัน ร้องเสียงหลงยามคอหอยโดนโจ๊กเกอร์เอาเหล็กปลายแหลมมาจี้

     

    แต่แล้วซีซาร์ก็พลันโล่งใจ ครั้นเห็นโดฟลามิงโก้อมยิ้มพลางครางรับว่า ‘นั่นสินะ

     

    ใช่ อย่างที่แกพูด ฉันลืมไม่ลงเลย

     

    จะ...โจ๊กเกอร์ นายจะไม่ทรมานฉันแล้วสินะ

     

    ใช่ ฉันจะไม่ทรมานแกแล้ว ...เพราะตอนนี้ฉันจะฆ่าตัดตอนแก เพื่อให้ไอ้พวกโง่นั้นมันได้ชมเป็นขวัญตา ว่าอย่ามาท้าทายฉัน!” พูดจบเจ้าพ่อก็แทงเหล็กลงบนมือซีซาร์ทันที เสียงร้องดังลั่นเรียกทุกคนให้หัวเราะ การทรมานดำเนินต่อไป ก่อนพวกเขาจะทำให้นักวิทยาศาสตร์กลายเป็นแพะ ที่มีสภาพเละเทะเหมือนเรื่องที่มันเคยทำ!

     

     


     

    ………………………

     

     


     

    ห้องกลับมาเงียบสงบ บนโต๊ะคาวไปด้วยเลือด

     

    ผู้บริหารคนอื่นนั่งหน้าเครียด พยายามวางแผนว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี

     

    อย่างที่บอก เอาเจ้าซีซาร์มันเป็นแพะแล้วกันนะดอฟฟี่ เดี๋ยวจะให้นายจัดการในฐานะคนของรัฐบาล  เอาตำแหน่ง Rainmaker ไปใช้เครดิตดีเห็น ๆ

     

    แล้วกลุ่มหมวกฟางล่ะ” พิก้าเอ่ยถาม คิดไม่ตกเพราะไอ้พวกนั้นมันแสบจริง ๆ

     

    เห็นข่าวบอกว่าหัวหน้ากลุ่มมันชื่อ มังกี้ D. ลูฟี่ เป็นหลานของพลโทการ์ปน่ะ มิน่าล่ะโมเน่ถึงบอกว่าแบ็คมันดี นายว่าไงดอฟฟี่ เราจะเอายังไงดี” ทั้งสามหันไปมองหัวหน้าแฟมิลี่ที่นั่งสาดเหล้าลงคอไม่หยุด

     

    มันไม่สำคัญ กับรัฐบาลยังพอคุยได้ พลโทการ์ปเองก็ดูจะไม่ชอบใจที่หลานมันเป็นนักเลง ที่สำคัญคือไอ้เด็กลอว์ต่างหาก ไอ้เด็กนรก! ...พวกแกหามันเจอรึเปล่า ฉันล่ะอยากจะไปทักทายมันจริง ๆ

     

    ไร้ร่องรอย ใครเล่าจะคิดว่ามันคือ Rainmaker คนสุดท้ายที่ตาแก่เซ็นโงคุไม่ยอมเปิดเผยชื่อ ไม่แปลกที่เตโซโรมันกล้างัดข้อกับเรา มันได้ Rainmaker มาหนุนหลังนี่เองพวกเขารู้แล้ว เพราะตามสืบมันจากร่องรอยของไวโอเล็ต แต่คนผมทองไม่เกรงกลัว

     

    ลอว์มันก็มีแค่ชื่อตำแหน่งแหละ ดูไปแล้วไม่เห็นมันจะมีอะไรมาสู้กับเราได้ เงินหรืออำนาจก็ไม่มี แต่จะปล่อยมันไปก็รกหูรกตา หามันให้เจอแล้วฆ่ามันซะ! เตโซโรมันก็ด้วย คงต้องเริ่มเดินตามแผนที่วางไว้สักที กระชากพวกมันลงมาเอาให้สิ้นหวังกันไปเลย!”

     

    ดอฟฟี่แล้วเรื่องไวโอเล็ต...ทุกคนที่เหลือชะงัก พูดมาถึงตอนนี้ดอฟฟี่ก็กระแทกแก้วลงบนโต๊ะ ตวัดสายตาคมกริบกำราบทุกคน ชายขายาวลุกขึ้นก่อนเท้ากระจกมองความวุ่นวายในผับที่ด้านล่าง

     

    เวลานี้ทุกอย่างกลับมาเป็นในแบบที่ควรเป็น เขากลายมาเป็นนักธุรกิจสีดำคนเดิม แค่ปล่อยให้แสงสว่างมันเล็ดลอดเข้ามาหน่อยเท่านั้น แต่ทำไมข้างในถึงยังหงุดหงิด อารมณ์ที่เอาแต่ทะยานขึ้นสูงไม่มีทีท่าว่าจะลด ...เขาควรจะเอาไปลงที่ไหนดี!

     

     


     

    ………………………

     

     


     

    เป็นเช้าอีกวันที่ตื่นขึ้นมาด้วยอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ในห้องรกรุงรัง เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น เลอะไปด้วยคราบโลกีย์ที่ดอฟฟี่ละเลงไม่ปราณี

     

    เมื่อคืนเขาเมาหนัก เสียดสีและรุนแรง อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำเพราะเธอไม่รู้ว่าชายหนุ่มไปโดนรังแตนมาจากไหน

     

    ไวโอเล็ตลุกขึ้น เผลอครางออกมาเบา ๆ ยามรู้สึกระบม ไม่อยากก้มมองเพราะมันคงประทับด้วยร่องรอยน่าละเหี่ยใจ ที่เขาคอยตีค่าบอกว่าเธอไร้ราคา

     

    สาวน้อยนั่งนิ่งรอให้ความเจ็บปวดค่อย ๆ ทุเลา หัวใจกระตุกไปหลายจังหวะครั้นมองที่ข้างตัวแล้วเห็นดอฟฟี่ยังนอนอยู่ตรงนั้น

     

    ทำไมถึงไม่ไปเธออยากให้เป็นเหมือนที่ผ่านมา ที่เขามาหายามค่ำคืนแล้วจากไปในรุ่งเช้าของอีกวัน ความรู้สึกมันโดนทำลายจนชักจะชินชา ได้แต่เหม่อมอง สติหายไปนานมากจนจำไม่ได้ว่าตัวเองนั่งอยู่แบบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว

     

    มือบางยกขึ้นมากุมขมับ ทำไมเธอถึงรู้สึกปวดหัวขนาดนี้ เด็กสาวกดมันจนขึ้นเป็นรอยแดงก่อนตัดสินใจว่าทุกอย่างมันต้องจบเสียที...

     

    ก้าวขาย่องลงจากเตียง แอบควานหาโทรศัพท์กับกุญแจรถในกระเป๋ากางเกงเขา ทุกการกระทำเธอจ้องดอฟฟี่ไม่วางตา ภาวนาว่าอย่าพึ่งให้เขาตื่นขึ้นมาตอนนี้เลย

     

    ของในมือทุกอย่างครบ เผลอหันมองปืนสีเงินที่วางอยู่ข้างหัวเตียงเขา ไวโอเล็ตยืนลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนตัดสินใจทิ้งมันไว้แล้วรีบแต่งตัว ฝืนเดินเร็ว ๆ แม้กึ่งกลางร่างจะร้องเตือนทุกความเจ็บปวด รีบส่องออกไปนอกประตูเพื่อวางแผนการ แปลกใจไม่น้อยว่าลูกน้องเขาหายไปไหน

     

    แต่นี่แหละโอกาส!’ เธอใส่หมวกปิดหน้าก่อนพุ่งออกนอกห้อง ยืนกดลิฟต์ย้ำ ๆ หวังต้องการให้มันรีบเลื่อนลงมาหา หันซ้ายมองขวาตลอดก่อนจะเข้าไปนั่งในรถบีเอ็มเขาทันที ล้วงมือถือขึ้นมาแล้วปลดล็อกโทรศัพท์ชายหนุ่มโดยไว

     

    ไวโอเล็ตจำรหัสเขาได้ ถือว่าดอฟฟี่สะเพร่าที่ไม่คิดจะเปลี่ยนหลังทำเรื่องแบบนี้กับเธอ

     

    สาวน้อยโทรหาลอว์ ที่จริงเธอควรจะโทรหาท่านเคานต์ แต่เรื่องที่เริ่มเธอต้องจบมันด้วยตัวเอง หนีเสือปะจระเข้ชัด ๆ ไม่ว่าจะไปทางไหน คนที่เธอคิดติดต่อหลังจากนี้จะต้องซวย

     

    [......ลอว์รับแต่ไม่พูด เจ้าหญิงจึงรีบบอกเขาว่าเธอต้องการความช่วยเหลือ

     

    ลอว์นี่ฉันเองนะ

     

    [คุณไวโอเล็ตเหรอ นี่เบอร์ใครเกิดอะไรขึ้น ผมติดต่อหาคุณไม่ได้หลายวันแล้ว?]

     

    เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน แต่เธอช่วยติดต่อหาแทงค์ให้หน่อยได้ไหมคะ บอกให้เขาไปอยู่กับเคานต์ดราคูลด่วนเลย และอีกเรื่องหนึ่ง...

     

    [...?]

     

    “…เธอช่วยพาฉันไปหาคุณเซ็นโงคุหรือคุณอิชโชหน่อยได้รึเปล่า ฉันต้องการความช่วยเหลือของพวกเขา ตอนนี้เราช้าไม่ได้แล้วเธอต้องรีบ ทุกอย่างมันต้องทำให้เสร็จโดยไว

     

    ...ข้างหน้าคือหน้าผา แต่ข้างหลังคือปีศาจที่กำลังไล่ตาม หากเธอไม่กระโดดลงไป ตัวเองก็จะโดนอสูรย่ำยี

     

     

     


    ………………………

     

     

     


    โดฟลามิงโก้ยกมือขึ้นมากุมศีรษะ เมื่อคืนเขาเมาหนัก แถมใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดโถมเข้าใส่จำเลยจนเตียงแทบทรุด เวลานี้คงเช้าอยู่ ร่างหนารู้สึกหนาวประหลาดจึงวาดมือไปข้างตัวหวังสัมผัสหาไอกายจากอีกคน

     

    แต่แล้วตาต้องเบิกโพลง กระเด้งตัวขึ้นทันทีตอนรู้แล้วว่าบนเตียงไร้วี่แววของเจ้าหญิง กรามแกร่งบดหากันแน่น ลุกขึ้นสวมกางเกงลวก ๆ แล้วพลันใจหาย ยามข้างในไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์หรือกุญแจรถเขา

     

    เส้นเลือดปูดข้างขมับ รีบสาวเท้าลงไปชั้นล่างแล้วไล่หาทุกตารางนิ้ว เธอไม่หนีหรอก เธอไม่มีทางหนี ...แต่จะหายังไงมันก็ไม่มี หาเท่าไหร่ก็ไม่มี!

     

    เธอเล่นเขาแล้ว! เธอบังอาจปีกกล้าขาแข็งแผลงฤทธิ์แล้ว!’

     

    เจ้าพ่อปัดของทุกอย่างลงพื้น รีบคว้าเสื้อมาสวมก่อนเตรียมออกจากห้อง แต่แล้วประตูห้องก็ถูกทุบโครม ๆ ...ชายหนุ่มคว้าปืนขึ้นมา หวังจะใช้มันยิงแสกหน้าหากคนนอกประตูไม่มีเหตุผลที่ดีพอ

     

    นายน้อยครับ แย่แล้วครับนายน้อยอยู่รึเปล่าครับ!?” คิ้วบางขมวดขึ้น เดินไปกระชากประตูออกแล้วจ้องพวกมันตาแข็ง ลูกน้องลอบกลืนน้ำลายครั้นเห็นว่าเจ้านายขึ้นไกเตรียมพร้อมฆ่าทุกคน

     

    บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าแกจับตัวไวโอเล็ตได้!” พูดเสียงรอดไรฟัน ลูกน้องเหงื่อตก กลั้นใจเตรียมรับผลกรรมที่ตนเองปล่อยให้หน้าที่เฝ้ายามบกพร่องไป

     

    มะ...ไม่ทันครับ แต่หนึ่งในพวกเรากำลังขับรถตามไปอยู่ ทันเห็นว่าหล่อนใช้รถนายน้อยขับออกไปพอดีครับ ...อั้ก!” เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัดตอนคนรายงานโดนยิงสีข้าง ลูกกะจ๊อกที่เหลือหน้าเสีย กระวีกระวาดรายงานทุกอย่างแทนคนที่ล้มลง

     

    นายน้อยใจเย็น ๆ ก่อนครับ คือพวกเรากำลังไล่ตามไปอยู่ครับ

     

    แล้วตอนนี้ยัยนั่นอยู่ที่ไหน!!!”

     

    ดะ...ดูเหมือนเธอจะขับออกนอกเมืองครับ

     

    คนขายาวก้าวออกจากห้อง ต่อสายหากลาดิอุส นึกอยากฆ่าทุกคนที่มากล้าเกะกะขวางตา ลูกน้องรับสายแล้ว และตอนนี้เขาอยากจะไปปรากฏตัวต่อหน้าเธอจริง ๆ

     

    กลาดิอุส เอารถมอเตอร์ไซค์มาให้ฉันเดี๋ยวนี้! และแกก็ไปหาของที่ฉันบอกมาให้ด้วย!

     

    ...เพราะตอนนี้เขากำลังจะไปเด็ดปีกภูต!






     

    ───────────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ

     

    อิรุงตุงนังไปหมด

    และเจ้าดอฟ เจ้ากำลังทำตัวเองนะ

    หลังจากนี้พระเอกเรื่องนี้จะเป็นบ้าไม่ลืมหูลืมตา

    ต้องรอดูว่าเจ้าหญิงจะทนได้ถึงเมื่อไหร่


    #ใครสอบอยู่ ก็ขอให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีเน้อ


    ใกล้ปีใหม่แล้ว เตรียมพร้อมรับมหกรรมความสุขนะฮะ

    เลิฟ ๆ จ้า


    ─────────────

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×