คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Something in the shadow (ภัยร้ายในเงามืด) - 2
ตอนที่ 4:
Something in the shadow
(ภัยร้ายในเงามืด)
2
เสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอดในบ้านเรียกสายตาของเด็กหญิงอายุ 15 ให้ชะเง้อคอมองผู้มาเยือน พอเจ้าตัวเห็นว่ารถที่เข้ามาเทียบท่าเป็นรถของเวอร์โก้ จึงฉีกยิ้มกว้างก่อนปรี่เข้าไปหาเจ้าของหุ่นเพรียวลมที่ก้าวขาลงจากรถมาพร้อม ๆ กับคนขับ
“ไวโอเล็ตมาแล้ว โธ่เอ๊ย...นึกว่าจะโดนลืมนัดซะแล้วสิ ช่วยสอนวิชาวิทยาศาสตร์หน่อยสิ เรื่องแรงกิริยาปฏิกิริยาอะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจเลย” เบบี้ไฟว์หัวเราะร่าเมื่อพบว่าตัวเองไม่ต้องสู้รบกับการบ้านมหาโหดเพียงลำพัง รีบวิ่งนำไปที่สวนกระจกเพราะรู้ดีว่าพี่สาวหน้าสวยต้องดูแลต้นไม้เป็นประจำเมื่อกลับมาถึงบ้าน
“แล้วคุณเวอร์โก้จะตามมาด้วยทำไมเนี่ย!?”
“ฉันจะเข้าไปกินคุกกี้ที่สวนกระจกน่ะ”
“แต่ที่นั่นไม่มีคุกกี้นะ”
“อ้าว ไม่มีเหรอ...งั้นดื่มชาก็ได้”
“ชาก็ไม่มี แต่ดื่มตอนนี้มันจะดีเหรอ? เดี๋ยวก็ตาค้างหรอก“
“เป็นผู้ใหญ่แล้ว ตาไม่ค้างง่าย ๆ หรอก”
“เอ๋~~"
“ถ้ายังไง เดี๋ยวฉันเข้าไปเอาคุกกี้กับชาในบ้านมาให้นะคะ ทั้งสองคนไปรอข้างในก่อนดีกว่าค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจเบรกการสนทนา เมื่อเห็นทั้งคู่เอาแต่เถียงกันไปมาระหว่างเดินไปยังจุดหมาย รีบหมุนตัวเปลี่ยนทิศทางเข้าไปในบ้านแต่ก็ไม่วายได้ยินเสียงทั้งสองต่อล้อต่อเถียงกันไม่เลิกรา
………………………
“แรงกิริยากับแรงปฏิกิริยามักจะเท่ากันเสมอนะ ตามกฎการเคลื่อนที่ข้อที่ 3 ของนิวตัน เมื่อวัตถุหนึ่งออกแรงกระทำต่ออีกวัตถุหนึ่ง วัตถุที่สองจะมีแรงขนาดเท่ากันแต่ทิศทางตรงข้ามกับวัตถุแรก หรือเรียกว่า Action = Reaction” ครูสาวจำเป็นสอนเสียงนุ่ม พร้อมวาดภาพประกอบเพื่อให้เบบี้ไฟว์เข้าใจภาพรวมได้มากขึ้น ยิ้มบางเมื่อเห็นเด็กนักเรียนทำสีหน้าปั้นยากคล้ายสิ่งเหล่านั้นเป็นของแสลง
“ถ้าแรงเท่ากันแล้ววัตถุมันเคลื่อนที่ได้ยังไงล่ะ?”
“เพราะวัตถุนั้นมีแรงขับเคลื่อนมากกว่าแรงต้านทานน่ะ แต่มันก็แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นแรงทั้งสองจะกลับมาเท่ากันอีกครั้ง พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็เหมือนอัตราเร่งของเครื่องยนต์นั่นแหละ”
“อ๋อ แบบนี้เอง ถ้างั้นก็เหมือนกับตอนกระสุนพุ่งออกไปเพราะมีแรงมากระทำสินะ?”
“เอ่อ...ก็ใช่ ทำไมต้องเป็นเรื่องกระสุนด้วยล่ะ ไม่มีตัวอย่างอื่นที่สนใจเหรอ?”
“อือ ไม่มี” ไวโอเล็ตแทบอยากจะตีหน้าผากตัวเอง กระสุนปืนก็ต้องคู่กับพวกนอกกฎหมาย เธอลืมไปได้อย่างไรนะว่าเด็กคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น สาวน้อยแอบส่งสายตาท้อแท้ใจให้ชายหนุ่มที่นั่งอมยิ้มครั้นได้ยินคำถามแปลกประหลาดจากเด็กนักเรียน แล้วแกล้งทำเป็นจิบชาไม่สนใจ
“แล้วจะทำยังไงให้อานุภาพมันร้ายแรงขึ้นล่ะ ต้องเพิ่มความเร็วอะไรทำนองนี้รึเปล่า?”
“นี่ยัยเด็กม. ต้น เรื่องแบบนั้นเอาไว้ถามดอฟฟี่หรือกลาดิอุสดีกว่านะ เจ้าหญิงเขาไม่รู้หรอก”
“ก็ทั้งนายน้อย ทั้งกลาดิอุสไม่อยู่ทั้งคู่เลยนี่น่า แล้วจะให้ไปถามใคร?"
“งั้นก็เก็บไว้ถามตอนกลับมา มันไม่เกี่ยวกับบทเรียนไม่ใช่เรอะ แล้วการบ้านน่ะ...หัดทำเองซะมั่งนะ ไม่งั้นจะให้ไปเรียนหนังสือทำไม”
“โธ่เอ๊ย ชีวิตเด็กนักเรียนมันหนักนะ คนทำงานน่ะไม่เข้าใจหรอก ...ยังไงก็ขอบคุณสำหรับวันนี้มากนะไวโอเล็ต ไปล่ะ...เวอร์โก้”
“เติมคุณด้วยยัยเด็กแคระนี่!” เด็กสาวทำหน้ามู่ทู่ล้อเลียนก่อนจะรีบแจ้นออกจากเรือนกระจกที่สภาพภายในไม่ต่างจากคาเฟ่บรรยากาศดีเสียเท่าไหร่
“คุณเวอร์โก้จะเติมชาอีกไหมคะ?”
“ไม่ล่ะ เดี๋ยวกินข้าวเย็นไม่ลงพอดี” ชายหนุ่มที่บัดนี้มีเศษคุกกี้ติดอยู่ตรงแก้มลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นคุณครูเริ่มเก็บแก้วจานรวมถึงหนังสืออ้างอิงมาไว้ในมือ ก่อนจะเดินออกจากบ้านหลังเล็กไปพร้อมกัน
“ยังไงก็ขอบคุณเธอจริง ๆ นอกจากจะช่วยงานที่โรงงานแล้ว ยังต้องมาทนสอนเด็กดื้ออีก” เอ่ยพูด สายตาก็เหลือบมองคนข้างตัว มองอยู่เนิ่นนานเมื่อเห็นอะไรบางอย่างแปลก ๆ
“ไม่หรอกค่ะ ยินดีช่วยอยู่แล้ว ถ้าไม่มีอะไรแล้วงั้นขอตัวก่อนนะคะ” สาวน้อยกำลังจะเดินเลี่ยงจากไป แต่ก็ต้องหยุดเท้าเมื่อโดนอีกฝ่ายร้องห้ามเอาไว้ก่อน
“ไวโอเล็ต”
“คะ?”
จังหวะร่างกายหยุดชะงัก ยืนตัวแข็งทื่อเมื่อคนตรงหน้าเอื้อมมือมาลูบผมเธอแผ่วเบา สาวน้อยยืนนิ่งปล่อยให้อีกคนเกลี่ยเส้นผมเล่นอย่างไม่เข้าใจความหมาย สัมผัสนั้นบางเบาคล้ายเจ้าตัวกลัวจะเผลอทำส่วนใดส่วนหนึ่งบนเส้นผมบุบสลาย ก่อนที่คนทำจะละมือออกพร้อมส่งยิ้มละมุนกลับมาให้
“พอดีว่ามีวัตถุประหลาดติดอยู่ตรงผมเธอน่ะ เลยถือวิสาสะเอาออกให้ กลัวว่าถ้าเอ่ยทักไปแล้วเธอจะเสียความรู้สึก” เวอร์โก้ยิ้มใส่ตา แล้วยื่นเกสรดอกไม้สีเหลืองสวยให้เจ้าหล่อนดูเป็นเครื่องยืนยัน
คนถูกกระทำร้องอ๋อก่อนจะหัวเราะร่วนที่คู่สนทนาเอาเรื่องในวันแรกที่เจอกันมาพูด ก่อนไม่วายบอกกับเจ้าตัวอีกครั้งว่าคราวนี้ก็ยังคงมีวัตถุประหลาดติดอยู่ข้างแก้มเขาเหมือนเดิม
ภาพทั้งคู่ยืนหัวร่อต่อกระซิกตกเป็นเป้าสายตาของใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในบ้าน ภาพเหตุการณ์การพลอดรักแสนหวานเรียกอารมณ์กรุ่นโกรธจากคนที่ยืนมองได้อย่างไม่ยากเย็น บรรยากาศที่เห็นสองคนสนิทสนมกันซะเหลือเกินช่างดูขัดหูขัดตาจนเผลอขบฟันแน่น สายตาคนมองแววโรจน์ เชือดเฉือนพอ ๆ กับอารมณ์หงุดหงิดที่พุ่งสูงจนหยุดไม่อยู่
‘ระริกระรี้ซะจริงนะ ไม่ทันไรก็กระสันหาผู้ชายใหม่ซะแล้ว’ แค่เขาไม่อยู่เพียงไม่กี่เดือน ดูเหมือนอะไร ๆ จะเปลี่ยนไปมาก ทั้งทุกคนที่เอาแต่พูดถึงเจ้าหล่อน เดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คำสรรเสริญเยินยอไปเสียหมด
‘คำก็ไวโอเล็ต สองคำก็ไวโอเล็ต มันอะไรกันนักหนา?’ แล้วดูสิ แม้กระทั่งเพื่อนสนิทที่โคตรจะไว้ใจ ตอนนี้กำลังยืนฉอเลาะอะไรอยู่ไม่รู้
โดฟลามิงโก้ยืนกำหมัดแน่น รู้สึกอยากเอาความโกรธประโคมใส่อะไรสักอย่าง สายตาลุกวาวเมื่อคิดขึ้นได้ว่าของรองรับอารมณ์ที่เหมาะสมที่สุด
...ก็อยู่ตรงหน้านี่เอง
“ดูท่าฉันกับเธอ เราคงต้องทำความรู้จักกันใหม่นะ ...ไวโอเล็ต” กัดฟันพูด มองว่าเมื่อไหร่เป้าหมายจะเดินเข้ามาหา สายตาจดจ้องที่ร่างบางไม่วางตา คล้ายผู้ล่าที่เฝ้ารอโอกาสขย้ำ คิดเพียงแค่ว่าเรื่องนี้ไม่ว่ายังไงจะต้องทำให้เจ้าหญิงรับรู้สถานภาพของตัวเองว่าอยู่ตรงจุดไหน
จะต้องทำให้ยัยผู้หญิงสุดแสนไร้เดียงสาได้รู้ซึ้ง... จนไม่กล้าไปหว่านเสน่ห์ปั่นหัวคนในครอบครัวได้อีกเป็นครั้งที่สอง
─────── Talk
with write ( ̄▽ ̄)ノ ───────
นางกลับมาแล้ว
แถมกลับมาพร้อมพายุดีเปรสชั่น
ตอนหน้าจะมีฉากรุนแรงนะคะ
รบกวนทำใจก่อนนะ
ความคิดเห็น