NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END; ONE PIECE - a million ways to fall in love with you | Doflamingo x Violet/Viola

    ลำดับตอนที่ #54 : So, let’s go on (ต่อจากคืนนี้)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 413
      41
      21 ธ.ค. 63



    ตอนที่ 46: So, let’s go on

    (ต่อจากคืนนี้)




     

     

    วันนี้ฟ้าสว่างจังนะ” เสียงทุ้มเปรยยามแหงนมองฟ้า คืนนี้เป็นคืนเดือนหงาย พระจันทร์สว่างจ้าจนต้องหรี่ตา

     

    ชายหนุ่มยังอยู่ข้างนอก เพราะหลังจากผลักยัยองค์หญิงเข้าไปหาดอฟฟี่ เขาก็มายืนดูต้นทางอยู่ตรงนี้ มือหนาเสยผมที่ปลิวปกก่อนหันมองต้นเสียง ยามได้ยินใครเดินเข้ามา

     

    เดียมานเต้?”

     

    โย่ว ว่าไงโมเน่?” คนมาใหม่คืออดีตเลขาของบอส หญิงสาวที่มีผมมรกตเงางามเป็นลอน เรือนผิวเจ้าหล่อนแทบจะขาวซีดยามกระทบแสงจันทร์ ชุดเดรสผ่าข้างทำให้ใครต่างรู้ว่าหล่อนมีเรียวขาที่งดงามขนาดไหน

     

    ฉันมาตามหานายน้อยน่ะเห็นออกมานานแล้ว นายเจอบ้างรึเปล่า?”

     

    เจอสิเพราะเขาเจอดอฟฟี่ยืนอยู่คนเดียวกลางป่า ทำหน้าปลดปลงจนต้องไปลากองค์หญิงมาเพื่อดูอาการ ...แต่ดูเหมือนเขาจะคิดมากไป หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วในใจเจ้าพ่อกำลังหวานเลี่ยนจนชีวิตกลายเป็นสีชมพู

     

    เฮ้อ แต่เธอไม่ต้องเข้าไปหรอก เดี๋ยวจะเป็นก..ค. เสียเปล่า ๆ ...ไม่ชินเลยนะ

     

    อ๋อ อยู่กับใครสินะ” หลังจากโมเน่ทำทีจะเดินเข้าไปแต่ครั้นได้ยินชายร่างสูงพูดแบบนั้น เธอก็เปลี่ยนมายืนมองท้องฟ้ากับเดียมานเต้

     

    ความเงียบเข้าเกาะกุมก่อนชายหนุ่มจะถามเสียงนิ่ง

     

    โมเน่ เธอคิดยังไงกับไวโอเล็ต?”

     

    เป็นคนอ่านความคิดยากละนะ

     

    แค่นั้นเหรอ?” สาวผิวหิมะมองคนตั้งคำถามนิ่ง ไม่อาจรู้ได้เลยว่าสายตาตนกับผู้ชายตรงหน้ามองกันลึกล้ำขนาดไหน ...เธอยิ้ม หลับตาลงเล็กน้อยแล้วหันมองบรรยากาศรอบตัวที่ผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด

     

    ถ้าให้พูดตามตรงก็อิจฉาแหละ” ใช่ ความอิจฉา ไม่ว่าใครต่างก็ตั้งแง่กับเจ้าหญิงแบบนั้นตั้งแต่แรก

     

    ศูนย์กลางของพวกเราคือชายหนุ่ม และหญิงสาวเป็นใครจู่ ๆ นายน้อยถึงพาเข้ามา เธอมีสิทธิ์อะไรถึงดึงความสนใจจากเขาได้ทั้งหมด หล่อนเป็นใครถึงทำให้นายน้อยคลั่ง เธอเป็นใครกันถึงมาทำให้เขาเปลี่ยนไป

     

    ...เธอใช่แม่มดรึเปล่า

     

    พวกเธอระแวดระวังแต่หลังจากเฝ้าดูก็พบว่าสิ่งที่มีมันมากกว่านั้น ...เจ้าหล่อนวางตัวดี ทำงานเป็น และเก็บความรู้สึกเก่งเกินไป มันมากจนบางทีเธอก็รู้สึกอึดอัดแทน

     

    นายน้อยนั้นร้ายใคร ๆ ก็รู้ แต่ความร้ายของเขานั้นมีที่มา จนแล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็กลับตาลปัตร

     

    ทำไมจู่ ๆ ปิศาจถึงทำร้ายเด็กสาว ...ช่างไม่มีเหตุผลเลย

     

    การกระทำทิ้งบาดแผลเป็นความโหดร้าย เหลือไว้ให้เชือดเฉือนจิตใจ

     

    ความหวาดกลัวนั่นมีอานุภาพแสนยิ่งใหญ่แต่ถึงกระนั้นเจ้าหญิงก็ยังเก็บมันไว้คนเดียว ...พวกตนเริ่มหวั่นวิตก ...พวกตนไม่เข้าใจ ความกังวลดึงให้บางคนเริ่มเปลี่ยนแต่บางคนก็ยังถือทิฐิ ซึ่งคนที่ยึดทิฐินั้นรวมถึงเธอด้วย

     

    ปล่อยให้มันดำเนินต่อไป ทิ้งให้เด็กสาวอยู่คนเดียวและเริ่มพังทลาย ทุกคนรู้แต่เลือกที่จะเมินเฉย

     

    จนแล้ววันหนึ่งความคิดที่มองไวโอเล็ตเป็นคนนอกก็เปลี่ยนไป...

     

    วันนั้นที่ชีวิตเจ้าหญิงแขวนอยู่บนเส้นด้าย ก้ำกึ่งระหว่างความเป็นกับความตาย ทุกคนเจ็บปวด ทุกคนทรมาน ทุกคนเห็นนายน้อยยืนเป็นบ้าจ้องห้องไอซียูอยู่เป็นชั่วโมง

     

    วินาทีนั้นพวกตนก็รู้ดีว่าเด็กสาวได้กุมบางสิ่งในตัวเจ้านายเธอไปแล้ว

     

    แม้จะเป็นแฟมิลี่แต่นายน้อยก็มีกำแพง มีบางอย่างขวางกั้นที่ไม่ยอมให้ใครล่วงล้ำ หากก้าวไปหาก็จะตกลงเหว หากเอื้อมมือเข้าไปสัมผัสจะถูกเชือดเฉือน ถึงจะเป็นผู้บริหารระดับสูงก็ไม่เว้น

     

    ...นายน้อยขีดเส้นแบ่งพวกเราอย่างชัดเจน

     

    มีตัวตนบางอย่างที่ว่าใครก็ไม่สามารถแตะต้องได้เลย

     

    แล้วอยู่มาวันหนึ่งก็มีสะพานทอดมาหาพวกเรา มีหนึ่งในแฟมิลี่ลองข้ามไป พวกเขาบอกว่าเห็นนายน้อยยิ้ม

     

    ยิ้ม? ...รอยยิ้มจริง ๆ นั้นเป็นไปได้หรือ

     

    มีอีกคนทดสอบข้ามไปก็บอกว่าความตึงเครียดที่มีเริ่มเบาบาง เราทั้งหมดพากันข้ามไปจึงพบว่าที่ตรงนั้นชายหนุ่มไม่ได้อยู่คนเดียว

     

    สะพานไม้นั้นกวัดไกวตามพัดลมแต่หากใกล้ล้มก็จะมีมือใครคนหนึ่งคอยจับไว้

     

    จูงให้เราเข้าไป เพื่อให้พบว่าที่ตรงนี้คนที่ทุกคนรักนั้นไม่ได้อยู่คนเดียว

     

    ข้างอสูรร้ายมีภูตพิทักษ์ ...เติมเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะเพราะตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียวอีกต่อไป

     

    เมื่อก่อนใครก็คิดแบบนั้น ทั้งคุณและก็ฉัน แต่ตอนนี้ฉันว่าดีแล้วละ ...ดีแล้วละนะที่โชคชะตาทำให้ไวโอเล็ตมาอยู่ในแฟมิลี่” แม้จะมีกระทบกระทั่งกันบ้างแต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่าคนที่เรารักมีความสุขขนาดไหน แล้วพวกเธอจะหวังอะไรให้มากมาย

     

    หึ นางเอกจริง ๆ นะเธอนี่” เสียงหัวเราะดังปนเสียงใบไม้ พวกเขาแหงนมองท้องฟ้าอีกครั้งเพื่อเฝ้าดูว่าอีกไม่นานของขวัญสำหรับเจ้าหญิงคงใกล้จะแสดง

     

    ดอกไม้ไฟ’ นายน้อยบอกว่าเจ้าหญิงชอบดอกไม้ แต่ให้แค่ดอกไม้มันธรรมดาไปรึเปล่า เจ้าพ่อมาเฟียเลยมอบสิ่งสวยงามที่ลอยสู่ท้องฟ้าได้เป็นของกำนัล

     

    เขาเนรมิตมันให้เธอ และตอนนี้ของขวัญชิ้นนั้นก็ลอยค้างฟ้าอยู่ตอนนี้

     

    เปล่งประกายระยิบระยับ งดงามจนลืมความกังวล

     

    ทว่าหลังจากอิ่มเอิบชมความงามไม่ทันไร ทั้งคู่ต้องตวัดสายตามองตรงหน้าทันที

     

    มีผู้ชายท่าทางอารมณ์เสียเดินลิ่วมาทางนี้...

     

    พวกนายนี่มันหยามหน้ามากราชาริคุอุตส่าห์เชิญเข้าบ้านแท้ ๆ พวกนายก็ยังกล้าทำอะไรลบหลู่ท่านอีกไอ้พวกคนชั้นต่ำ!” เคานต์ดราคูล มิฮอร์คเดินมาพร้อมความโกรธ สองหมัดนั้นกำแน่นคล้ายไม่อาจใส่หน้ากากคนดีได้อีกแล้ว

     

    อีกฝั่งหยุดยืน มองทั้งซ้ายและขวาก่อนจะเห็นว่าข้างหลังสองคนนั้นเหมือนมีคนอยู่

     

    เจ้าหญิงอยู่ข้างหลังนั้นใช่ไหม! พวกนายเอาเจ้าหญิงวิโอล่าไปไว้ไหน!”

     

    โห้ ผู้ชายคนนี้น่ากลัวจังเลยนะเดียมานเต้ แล้วนายเอาเจ้าหญิงไปไว้ที่ไหนเหรอ?”

     

    แหม ตีโพยตีพายจังนะ การคุ้มกันรอบปราสาทแน่นหนาขนาดนี้ฉันจะพายัยนั่นไปไหนได้ ...อยู่แถวนี้แหละ ...มั้ง

     

    พวกนาย!” เสียงบดฟันดังไกลมาถึงตรงนี้ โมเน่แอบกลัวนิดหน่อยเพราะผู้ชายตรงหน้าคือ Rainmaker ทั้งบู๊หรือบุ๋นพวกเขานั้นเป็นเลิศ ตอนแรกก็คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นคนสุขุม ดูสุภาพบุรุษ แต่ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว

     

    มิฮอร์คอารมณ์เสียมาก หลังจากรับปากราชาว่าจะออกมาตามหาน้องสาว เขาก็เดินหาเธอ โถงทางเดินเงียบแปลก ๆ เดินสวนเด็กคนหนึ่งที่เค้าลางว่าเป็นคนใต้อาณัติโดฟลามิงโก้ ขาไปก็ไปด้วยกันแต่ทำไมขากลับถึงมาคนเดียว

     

    วินาทีนั้นเขาก็รู้สึกใจไม่ดี...

     

    สายตามองผ่านระเบียงก็ทันเห็นร่างเด็กสาวถูกฉุดออกไปแล้วลากเข้าป่า ไม่ต้องเดาเลยว่าคนที่ทำกิริยาทรามแบบนี้คงมีแต่คนของดอนกิโฮเต้

     

    กลางบ้านกลางเรือนมันยังกล้าทำอะไรอุกอาจ!’

     

    ชายหนุ่มก้าวฉับหวังตามตัว อยู่ในเขตราชวังจะวิ่งไม่ได้จึงต้องเดินเร็ว ๆ หาจนทั่วจนมาจบที่พบโจรร้ายยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ตรงนั้น

     

    ...ความโกรธตีปะทุ เห็นอยู่ตำตายังจะกล้าตีไขสือ และนั่นแหละคือสาเหตุที่ท่านเคานต์เดินอารมณ์เสียมาถึงตอนนี้

     

    หลีกไป เจ้าหญิงอยู่ข้างหลังใช่ไหม!”

     

    คงไม่ได้ว่ะตาเหยี่ยว โทษทีนะ” เหมือนฉากต่อสู้ที่รอสัญญาณเปิดเริ่ม ...ต่อ 2 ไม่หนักหนาแต่อีกฝั่งดันมีสตรีอีก ทำร้ายผู้หญิงไม่ใช่สิ่งที่ท่านเคานต์จะปฏิบัติทว่าหล่อนควรจะสิ้นสติเดี๋ยวนี้!

     

    มหรสพสุดประทับใจ...?

     

    สิ่งที่วิโอล่าคิดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างคุณพ่อกับโดฟลามิงโก้ ตอนนี้มันดันเกิดกับท่านเคานต์และเดียมานเต้แทน

     

    ราชวังเกิดการวางมวย หากเจ้าหญิงรู้คงได้แต่บอกว่า...

     

    ให้ตายสิ ท่านเคานต์หนอท่านเคานต์ งานเข้าเธออีกแล้ว

     

     

     


    ………………………

     

     


     

    เกิดการตะลุมบอน

     

    คุณเป็นผู้ชายแน่รึเปล่าทำไมถึงโหดร้ายปานนี้ อ๊าย~”

     

    เฮ้ยโมเน่เป็นอะไรรึเปล่าหน็อยแกตาเหยี่ยว

     

    พวกนายมันเกะกะ!”

     

    ว๊าย~”

     

    กรี๊ด~” คล้ายจะตึงเครียดแต่ก็ไม่เลย พริบตาเดียวมิฮอร์คก็ทะลุผ่านทั้งสองคนแล้วพุ่งเข้าไปในสวน พวกมันโดนเขาจัดการแต่รีแอคชั่นที่ตอบกลับมาเหมือนกำลังเล่นตลก

     

    ไม่มีความตึงเครียดสักนิด ไอ้พวกนี้มันล้อเขาเล่นรึไง!

     

    วิโอล่า ...!??” ชายหนุ่มตะโกนหาทว่าไร้วี่แวว เมื่อครู่ดูเหมือนจะอยู่ตรงนี้แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว ท่านเคานต์กวาดสายตาดูจนทั่วแต่สิ่งที่เห็นคือสวนสวยสุดจินตนาการ

     

    ไม่อยู่?”

     

    ห๊า อะไรนะไม่อยู่เหรอ ตายแล้วพวกฉันเข้าใจผิดรึเนี่ย?”

     

    บอกแล้วว่าอย่าทำให้เขาเข้าใจผิดน่ะเดียมานเต้ ดูสิโดนเหยี่ยวคลั่งอาละวาดจนบ้าเลย ฮึ ๆๆ น่าขันจัง” มิฮอร์คเส้นเลือดแตก พวกมันรู้อยู่แล้วว่าตรงนี้ไม่มีใครถึงยอมปล่อยให้เขาเข้ามาง่าย ๆ

     

    มันล้อเขาเล่นไอ้พวกดอนกิโฮเต้มันทำเขาเป็นไอ้โง่!

     

    ไอ้พวกนี้!!?’ พวกนายจบไม่สวยแน่! ...ว่าแต่ว่าแล้วเจ้าหญิงหายไปไหนกันล่ะเนี่ย!?

     

     

     

    ทว่าคนที่หายตัวแท้จริงแล้วกำลังอยู่ตรงนี้

     

    เสียงหอบหายใจดังมาเป็นระลอก เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มวงหน้ายามร่างกายต้องเคลื่อนไหวไม่หยุด

     

    เสียงรองเท้าส้นสูงดังตามท้องถนน ดึงเหล่าผู้คนที่ยืนอยู่ให้มองตาม พวกเขาเห็นชายหญิงที่แต่งตัวเป็นชุดสีเทาเข้าคู่กำลังวิ่งไปตามทางเดิน ...คงเป็นปาร์ตี้ที่น่าเบื่อสินะสองคนนี้ถึงพากันหนีออกมากลางคัน

     

    ทั้งสองจูงมือกันวิ่งไปตามถนน ทิ้งหางชุดและเสียงหัวเราะให้ลอยอยู่ข้างหลัง พวกเขาจะไปจบอยู่ที่ตรงไหน และร้านดอกไม้เล็ก ๆ อาจคือปลายทางของคำตอบนั้น

     

    นิ้วชี้กดกริ่งเพื่อเรียกคนที่อยู่ในนั้นออกมา เห็นเจ้าหญิงกระชับเสื้อทักซิโด้ของเขาให้เข้าที่แล้วหยิบผ้าเช็ดหน้ามาให้ หันไปคลี่ยิ้มตอนเธอส่งมันให้เขา ไม่วายต้องก้มลงไปให้ใบหน้าใกล้กันแล้วขอได้ไหมให้เธอช่วยเช็ดเหงื่อให้ที

     

    คะใครหรือคะ?” หญิงวัยกลางคนเปิดประตูออกมาหน้าร้าน ใบหน้าเจ้าหล่อนเริ่มมีริ้วรอยเพราะอายุอานามก็มิใช่น้อยแล้ว คิ้วนั้นขมวดนิดหน่อยคงเพราะไม่ชอบใจที่มีใครมาเรียกกลางดึก แต่เจ้าของร้านต้องมีอันสะดุ้งตกใจครั้นเห็นใครยืนอยู่หน้าประตู

     

    เจ้าหญิงวิโอล่า!?” ราชกุมารีส่งยิ้มแล้วโคลงศีรษะน้อย ๆ หญิงกลางคนออกอาการลนลานดึงให้เธอต้องถามชายข้างตัวว่าพาวิ่งออกมาจากปราสาทเพื่อรบกวนคนอื่นทำไมนะ

     

    โดฟลามิงโก้คืออะไรเหรอคะ?”

     

    เอาน่า เธอน่ะอยู่เฉย ๆ เถอะโดฟลามิงโก้หันมาตอบเธอก่อนหันไปหาเจ้าของร้าน “...ว่าแต่ลูกสาวเธอน่ะช่วยเรียกออกมาหน่อยได้ไหม พอดีฉันกับเด็กนั่น make a deal กัน

     

    ดีล?”

     

    “หม่าม้าใครเหรอคะ ...!!?” เจ้าพ่อยิ้มกว้าง แม่หนูที่กล้าท้าพนันโผล่มาแล้ว ยัยเด็กน้อยตาถลนก่อนจะวิ่งหัวเราะร่ามาหา เจ้าหล่อนกระโดดโลดเต้นแล้วชี้โบ้ยชี้เบ้ให้พ่อแม่ดูว่า ‘นี่ไง นี่เจ้าหญิงแหละ เจ้าหญิงตัวเป็น ๆ เลย

     

    พี่ชายเป็นเพื่อนเจ้าหญิงจริงเหรอเนี่ย!!!” 

     

    โดฟลามิงโก้ฉันยังงงอยู่นะวิโอล่ายิ่งกว่างงงันยามอีกฝ่ายไม่ตอบ ซ้ำยังทำเมินเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ

     

    นี่ยัยหนูของที่ตกลงกันล่ะ เอามาเร็ว ๆ เลยเดี๋ยวไม่ทัน

     

    อ๊า รอแป๊บหนึ่งนะ” เด็กหญิงผลุบเข้าไป หลังจากพวกเธอยืนคุยกับบรรดาพ่อแม่แห่งร้านดอกไม้สักระยะ คุณลูกสาวก็โผล่หน้าออกมา หล่อนขวักมือเรียกโดฟลามิงโก้ ...ไม่มีการอธิบาย ทุกผู้ต่างทิ้งวิโอล่าให้ยืนหมุนซ้ายหมุนขวารออยู่หน้าร้าน

     

    สายตากวาดมองไปเรื่อยก่อนจะสะกิดใจเล็กน้อยตอนมองเข็มนาฬิกา ...ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักแล้วทันใดเจ้าพ่อก็ปรากฏตัว

     

    เธอเข้าข้างตัวเองอยู่ใช่หรือเปล่าเพราะตอนนี้เขากำลังยื่นช่อดอกกุหลาบให้เธอ แถมเป็นช่วงเวลา 23:04 พอดีเป๊ะ ...เป็นช่วงเวลาที่เธอเกิดพอดีเลย

     

    ดอกไม้ไฟก็อย่างหนึ่งแต่อันนี้ต่างหากที่อยากจะให้ ...ห้าทุ่มสี่นาที สุขสันต์วันเกิดนะคะอีกแล้ว หัวใจเธอพองโตอีกแล้ว เด็กสาวหัวเราะไปทั้งตาก่อนจะปรามเขาว่าเรื่องตกใจน่ะเพลา ๆ หน่อยสิคะ

     

    โธ่ เลิกเซอร์ไพรส์กันบ่อย ๆ สักทีสิหัวใจจะวาย นี่รู้กระทั่งเวลาเกิดฉันเลยเหรอ แต่ให้เยอะขนาดนี้ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้วเนี่ย ...ขอบคุณมากนะคะ” ยิ่งได้ยินเสียงคนกรี๊ดอยู่ในร้านยิ่งทำให้เธออาย คนดูยังม้วนแล้วคนรับอย่างเธอเล่า กลายเป็นวงกลมไปแล้วล่ะ

     

    สาวน้อยก้มมองดอกไม้ในมือ มันเป็นช่อกุหลาบ 9 ดอก ที่ 8 ดอกนั้นคือสีขาวแต่หนึ่งดอกที่อยู่ตรงกลางเป็นสีม่วง

     

    ดอกความหมายคือเธอและฉันชั่วนิรันดร์ เป็นคำซ่อนเร้นที่แฝงอยู่ในรูปดอกไม้

     

    ชอบใช้ภาษาดอกไม้คุยกับเธออีกแล้วนะ จะโรแมนติกไปไหนล่ะเนี่ย

     

    อือ แต่แปลกนะคะทำไมถึงพามาร้านเล็ก ๆ น่ารักแบบนี้ล่ะ ปกติเห็นชอบทำตัวอลังการ

     

    ทำธุรกิจมันต้องได้กำไร และเผอิญชนะพนันก็เลยได้มาฟรี ...ชอบไหมคะ?”

     

    อืม ชอบสิคะ” หน้ามันจะเกร็งไปหมดแล้ว คนตัวสูงพยายามเมินเฉยยามได้ยินเด็กข้างหลังพูดว่า ‘เห็นไหมล่ะบอกแล้วต้องชอบ’ ก่อนวิโอล่าจะขอบคุณทุกคนในร้านและพาเขาปลีกตัวออกมา

     

    ก็อยากจะค่อยเดินไปอยู่หรอกแต่หนีกันออกมาแบบนี้คงวุ่นวายใหญ่แล้ว กลับกันเลยนะโดฟลามิงโก้” อยู่ดี ๆ อีกฝ่ายก็เงียบไป วิโอล่าชะเง้อคอสงสัย ตะกี้ยังหวานใส่เธออยู่เลยแต่ทำไมตอนนี้ถึงเชิดหน้าใส่เสียเล่า

     

    เป็นอะไร

     

    โดฟลามิงโก้คะ?” เธอกลายเป็นวิญญาณล่องหนแล้วหรือเปล่าเหตุใดเขาถึงไม่มองหรือตอบคำถามเธอเลย ...เด็กสาวเดินตาม เรียกสองสามครั้งอีกฝ่ายก็ไม่หัน นี่เธอต้องเรียกยังไงเขาถึงจะหันมา

     

    หรือว่าเธอต้องเรียก...

     

    ดอฟฟี่คะ?”

     

    คะ ว่ายังไงคะ?” ทีงี้ล่ะหันมายิ้มกว้างเชียว สาวน้อยหัวเราะท้องแข็ง ไม่วายต้องโดนลากไปจูบขมับเสียหนึ่งที

     

    พระเจ้า ...ทำไมท่านถึงสร้างสิ่งมีชีวิตที่น่าหยิกได้ขนาดนี้นะ

     

    นี่เธอกำลังเดินเข้าสวนต้องห้ามแล้วรึเปล่า

     

     


     

    ………………………

     


     

     

    ห้าวันผ่านไป

     

    เป็นช่วงเวลาที่อยู่บ้านเกิดโดยไม่ได้ไปไหน ห้ามก้าวพ้นจากเขตราชวัง ห้ามติดต่อใครทั้งนั้น นั่นคือสถานะของวิโอล่าในปัจจุบัน

     

    โดนทำโทษ’ หลังจากกลับมาจากการหนีนอกปราสาทก็พบว่าราชวังวุ่นวายกันยกใหญ่ คุณพ่อโกรธเกรี้ยว ท่านเคานต์เลอะฝุ่น ไม่ต้องสืบเสาะให้มากมายก็รู้ว่าเขาไปมีเรื่องกับใคร สะใจลึก ๆ ที่เดียมานเต้สภาพยับเยินและก็ตกใจไม่เบาที่โมเน่ผมเผ้ายุ่งเหยิง

     

    ความโกลาหลไม่มากนักเพราะแขกส่วนใหญ่ได้กลับไปแล้ว แต่เรื่องที่ว่าเธอหายไปกับไอ้โจรห้าร้อยซ้ำยังเป็นด้วยความสมัครใจอีก ...กลับมาถึงระเบิดก็ลงทุ่งจนราบเป็นหน้ากลอง

     

    น่าแปลกที่โดฟลามิงโก้ไม่พูดอะไร ยืนอมยิ้มยอมให้คำด่าของคุณพ่อทะลุเข้าหูซ้ายออกหูขวา

     

    คิดว่าเรื่องมันจะดีขึ้นเสียอีกตอนชายหนุ่มไม่เถียง แต่พอเขาเอาแต่ทำเฉยคุณพ่อเลยคิดว่าโดฟลามิงโก้มายียวนกัน ส่งผลให้ ณ ขณะนี้ลูกสาวคนนี้ต้องโดนกักบริเวณตลอดห้าวันเต็ม

     

    อันที่จริงเจ้าหญิงไม่ทุกข์ร้อน ให้อยู่แต่ในห้องทั้งวันยังได้เพราะที่ประเทศมีงานให้ทำตลอด ก่อนที่จะกลับไปเธอต้องดูแลและวางแผนเรื่องในบ้านเมืองให้เรียบร้อย นั่งทำงานหลังคดหลังแข็งจนสุดท้ายทุกอย่างก็ลุล่วง

     

    เสียใจไหม’ ก็นิดหน่อยที่ไม่ได้เที่ยวชมความเป็นอยู่ของทุกคนข้างนอก แต่แค่วันนั้นที่เธอปีนกำแพงออกไปจึงพอเห็นมาบ้างว่าประชาชนของเธอยังมีความสุขดี ...เท่านี้ก็โล่งใจ

     

    ทุกอย่างราบรื่นทว่าพระกายาหารค่ำคืนนี้ เด็กสาวคงต้องงอนง้อพระบิดาอีกเป็นหลายชั่วโมง เรื่องเอาใจเธอคิดว่าตัวเองชักเริ่มจะถนัดขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ

     

    เป็นการเอาตัวรอดที่เริ่มจะชำนาญ คนที่ภูมิต้านทานไม่ดีอาจจะต้องระวังตัว เพราะคุณอาจเผลอเห็นฉันใช้มันในการแสดงไปแล้ว

     

    เด็กอยากลองวิชาโคลงหัวน้อย ๆ ก่อนเลือกลุกไปเปลี่ยนน้ำดอกไม้ในแจกันดีกว่า ดอกกุหลาบที่เขาให้ยังมีสภาพใกล้เคียงเดิม แล้วก็น่าประทับใจไม่หยอกเพราะโดฟลามิงโก้ไม่หยุดทำตัวน่ารักแต่เพียงแค่นั้น

     

    ไม่มีใครรู้หรอกว่าขากลับพ่อคุณจะช่างสังเกตแวะซื้อรองเท้าแตะให้เธอด้วย เขาบอกว่ายืนมาทั้งวันอาจจะเมื่อยพร้อมอาสาเดินหิ้วรองเท้าส้นสูงให้แล้วพากลับวังทันที

     

    กำแพงเธอไม่มีเหลือแล้วล่ะ?’ วิโอล่ายิ้มพลางเดินเข้าหาแจกัน กำลังจะหยิบมันออกมาเพื่อเปลี่ยนน้ำแต่แล้วประกายวาววับบางอย่างในดอกไม้ก็สะท้อนสายตา

     

    เด็กสาวก้มลงไปดู หยิบมันออกมาจากดอกสีม่วงที่อยู่ตรงกลาง สัมผัสเรียบลื่นนั้นทำให้ใจเธอสั่น

     

    วินาทีนี้เจ้าหญิงยืนนิ่งไม่ไหวติงยามเห็นแล้วว่าสิ่งใดที่อยู่ในมือเธอ...

     

    เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่สะท้อนประกายทุกล้านความหมาย

     

    คิดอยู่แล้วว่าคนอย่างเขาไม่ยอมให้อะไรธรรมดาเหมือนคนทั่วไปหรอก

     

     

     


    ………………………

     

     


     

    ท่ามกลางห้องประชุม

     

    ห้องสี่เหลี่ยมนั้นกว้างขวางแต่เพราะมีคนนั่งทุกเก้าอี้ทำให้ทางไหนก็อึดอัด บรรยากาศดูตึงเครียดเพราะไม่บ่อยที่ประธานบริษัทจะหันมาร่วมประชุม

     

    โดฟลามิงโก้นั่งอยู่ในบอร์ดผู้บริหาร หมุมปากกาเล่นพลางคิดว่าบริษัทเขามีพนักงานหน้าเหมือนซาลาเปาด้วยเหรอ

     

    คำบรรยายไม่เข้าหู อันที่จริงโครงสร้างและทิศทางของบริษัทหากไม่มีเรื่องสะดุดเขาก็วางแผนมาหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมประชุมอะไรให้เสียเวลา ทำงานตอนเช้ามันไม่ใช่นิสัยเพราะชีวิตมาเฟียของเขามันเริ่มตอนกลางคืน

     

    ทว่าพักหลังมานี้กลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ไม่รู้เลยว่าเผลอติดนิสัยตื่นเช้าจากไวโอเล็ตมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้ครั้นจะเอ้อระเหยลอยชายอยู่ที่บ้านก็ดูจะว่างเกิน หากไม่ทำงานปล่อยให้มีเวลาว่างเดี๋ยวจะคิดถึงใครไม่รู้ตัว

     

    สุดท้ายก็ลงเอยมาเป็นไม้ประดับอยู่ในห้องประชุมแบบนี้แหละ มานั่งดูอาการประหม่าของพนักงานตัวเองมันก็ตลกดี

     

    ร่างสูงนิ่งงัน มือขวาวางอยู่บนโต๊ะ เคาะหลังโทรศัพท์เป็นพัก ๆ เพราะกำลังฟุ้งซ่านว่าเจ้าหญิงความรู้สึกช้าไปรึเปล่า ผ่านมาตั้งนาน อ่อยมาตั้งหลายทีแต่ไวโอเล็ตก็ยังเฉย ๆ

     

    นี่ต้องบอกรักอีท่าเดียวใช่ไหมเด็กสาวถึงจะเขินได้ ว่าแล้วก็ลองเปิดเกมรุกหน่อยดีกว่า ไม่ได้หยอดเลยเดี๋ยวน้ำตาลจะไม่ขึ้น

     

    <ถึงรึยังคะ?>

     

    <แน่ใจนะว่าไม่อยากให้ไปรับ>

     

    เงียบเป็นเป่าสาก... ประธานชักขมวดคิ้ว จะว่าไปหลังวันเกิด ไวโอเล็ตไม่เคยทักทายสวัสดีวันจันทร์อะไรกับเขาเลยนี่หว่า เครื่องก็ปิด พิกัดก็ไม่เคลื่อนที่หรือว่า...

     

    เดจาวูนี่เขาโดนเมียทิ้งอีกแล้วเหรอ!?

     

    แบบนี้มันไม่ใช่แล้ว!?”

     

    ไม่ใช่เหรอครับ!? ขะ...ขออภัยครับท่านประธาน มันไม่ดีใช่ไหมครับเดี๋ยวผมจะไปแก้มาให้ใหม่ ...ขอโทษครับ!”

     

    ฮะ? ...อ๋อ เออ ให้ตายสิทำงานทั้งทีก็ให้มันดี ๆ หน่อย ฉันไม่ว่างมานั่งฟังความผิดพลาดของพวกแกหรอกนะอุตส่าห์คิดว่าตัวเองก็พึมพำในใจแต่อนิจจาทำไมเสียงหลุดออกไปนะ

     

    ไม่ได้การต้องเก๊กขรึมหน่อยเดี๋ยวคนจะรู้ว่าเขาไม่ได้หมายถึงเรื่องประชุม

     

    คนเนียนเลิกคิดมากก่อนจะหันมากอดอกทำทีเป็นตั้งใจทำงาน แต่สติต้องกระเจิงครั้นมือถือเขาก็มีความเคลื่อนไหวแล้ว

     

    เธอเปิดเครื่อง อยู่ที่สนามบินและกำลังตอบข้อความเขา

     

    <ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณประชุมอยู่ไม่ใช่เหรอคะ>

     

    <พอดีฉันกลับมาพร้อมท่านเคานต์ เดี๋ยวเขาไปส่ง>

     

    <...และนี่คือหลักฐานเผื่อคุณคิดมากนะว่าฉันสนิทกับท่านเคานต์เกินไป>

     

    ว่าจบไวโอเล็ตก็ส่งรูปยัยเด็กเตี้ยทำสีหน้าทะเล้น แลบลิ้นปลิ้นตามาให้เขา โดฟลามิงโก้หัวเราะหึ ช่างเป็นคุณแฟนที่ทำตัวได้น่ารักจริง ๆ ...ดันมารู้เสียอีกว่าเมื่อกี้เขาเกือบโดนลมบ้าหมูตี

     

    <ฝากบอกยัยนั่นว่าน่าเกลียด>

     

    <และรู้ไหมเธอหายไปนานมากเลยนะ>

     

    <...นึกว่าหายสาบสูญไปแล้ว>

     

    <อือ โดนทำโทษน่ะ เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะคะ>

     

    บทสนทนาขาดช่วง เจ้าพ่อกะเวลาให้เธอถึงห้องก่อน แล้วเริ่มเตรียมตัวเปิดเกมรุกอีกครั้ง แต่ทว่า...

     

    <นาฬิกาใครเอ่ย? เห็นหล่นอยู่ที่โซฟา>

     

    <ป่านนี้เจ้าของคิดถึงแย่แล้วมั้ง?>

     

    โดฟลามิงโก้ยิ้มกว้าง

     

    อือฮึ เรื่องนี้แหละเรื่องที่ทำให้เขาคิดว่าเจ้าหญิงความรู้สึกช้า อันตัวเขาจงใจทิ้งนาฬิกาข้อมือไว้ที่ห้องเธอตั้งนานแล้วแต่แม่สาวพึ่งจะมารู้ตัว

     

    นี่เขาทำเซอร์ไพรส์เธอตั้งหลายอย่างเธอเอะใจอะไรบ้างไหมเนี่ย หรือวันหลังเขาควรจะทำอะไรให้โจ่งแจ้งไปเลย

     

    <ก็ว่าอยู่หาตั้งนาน ...เอามาให้ทีสิ>

     

    <ไม่ล่ะ จะเก็บไปขาย>

    <อืม เอามาเปลี่ยนดีกว่า>

     

    <เรือนนั้นมันถูกไป ฉันมีเรือนที่แพงกว่านั้นเยอะ>

     

    <ขี้อวดจริง ๆ เลยคุณเนี่ย>

     

    <ขอให้โจรขึ้นบ้าน>

     

     <โจรน่าจะขึ้นไปแล้วล่ะ>

     

    <เพราะตอนนี้จิตใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย>

     

    <คิดถึงใครตลอดเวลา>

     

    <…เป็นอะไรก็ไม่รู้>

     

    <เป็นบ้า>

     

    คนขายาวเกือบหัวเราะพรืดยามโดนแม่กวางเบรกหัวทิ่ม มุกหวานน้ำตาลจ๋าแบบนี้สาวที่ไหนโดนมีอันต้องหลง ทว่าก็ลืมคิดไปหน่อยว่าเจ้าหญิงน่ะชอบกินชาเย็นเลยเป็นคนเย็นชา

     

    การหยอกล้อดำเนินต่อไปและโดฟลามิงโก้เองก็รู้ไม่หรอกว่าสิ่งที่เขาทำนั้น คือจุดเริ่มต้นของเรื่องซุบซิบที่ว่าท่านประธานมาดร้ายกำลังแชทจีบแฟนสาวกลางห้องประชุม...

     

    โธ่ถัง ลือกันให้แซ่ดยิ่งกว่าปีนี้บริษัทจะแจกโบนัสกี่เปอร์เซ็นต์เสียอีก

     

    ท่านประธานจะรู้ตัวไหมนะ

     


     

     

    ………………………

     

     


     

    การประชุมจบไปแล้ว กินเวลากว่าที่คิด

     

    พนักงานต่างล่อกแล่ก เพราะเห็นขาเข้าท่านประธานก็ดูนิ่ง ๆ แต่ขากลับเนี่ยยิ้มแก้มปริ

     

    ทุกคนต่างเบาใจเพราะดูเหมือนวาระประชุมจะไม่กลายเป็นพายุดีเปรสชั่นถล่มไม่เหลือซาก ไม่แน่ใจว่าเรื่องที่อภิปรายมันถูกใจหรือเรื่องคุยกับแฟนมันถูกใจกันแน่ แต่ทุกคนก็คิดว่าหากงานไม่เข้าก็ช่างมันเถอะ

     

    โดฟลามิงโก้เดินลิ่วกลับขึ้นไปทำงานก่อนจะปรายตาเล็กน้อยยามเลขายิ้มแก้มแตกมาหา

     

    ท่านประธานมีแขกรออยู่ในห้องนะคะ

     

    แขก?”

     

    ค่ะ แขกสุดพิเศษ ซีอีโอเลิกคิ้ว จำไม่เห็นได้ว่านัดใครมา กำลังจะผลักประตูเข้าไปแต่ก็ต้องยืนค้างที่เดิมยามเห็นแล้วว่าแขกที่ว่าคือใคร

     

    ไวโอเล็ตอยู่ที่นี่... นั่งหันหลังอ่านอะไรสักอย่างคล้าย ๆ ว่าเป็นบทละคร แม่สาวยังไม่รู้ตัวถือว่าโชคดีที่ตอนเข้ามาไม่ได้ทำตัวโผงผางหนวกหู การประชุมมันใช้เวลาเยอะแน่ ๆ เจ้าหญิงถึงมีเวลากลับไปคอนโดฯแล้วมาหาเขาได้ทันอีก

     

    ชายหนุ่มเดินเข้าหา ย่องเข้าไปช้อนหลังก่อนจะโน้มตัวลงมาหวังจะหอมให้เต็มรักแต่ทว่าเด็กสาวกลับลุกขึ้นพรวด

     

    ...เสียงดังตุ้บ

     

    เจ้าหญิงผงะไป หันมองข้างหลังยามรู้สึกเหมือนได้ยินใครหัวทิ่ม

     

    เอ๊ะโดฟลามิงโก้... คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วเมื่อกี้ล้มเหรอคะ?”

     

    เปล่านี่ไม่ได้ล้ม! ...ว่าแต่เธอเรียกชื่อฉันซะเต็มยศอีกแล้วนะ ไม่เมื่อยลิ้นบ้างรึไง!” โดฟลามิงโก้ทำหน้าเหลอหลาพร้อมจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ประหนึ่งไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความจริงพึ่งเอาหน้าไปวัดเบาะมา

     

    ร่างบางยิ้มอ่อนใจก่อนชูนาฬิกาเขาขึ้นมาให้ดู แถมเมื่อก่อนเธอก็เรียกชื่อเขาเต็ม ๆ มาเป็นปีไม่เห็นบ่น

     

    ฉันเอานาฬิกามาให้คุณน่ะ และถามจริงเถอะว่าคุณจงใจลืมรึเปล่า?”

     

    ฉันเองก็หาไม่เจอ เธอคิดว่าฉันจงใจลืมไหมล่ะ?”

     

    ก็มีคิดอยู่แต่อือช่างเถอะ แล้วจะว่าไปไม่ทราบว่าอันนี้คุณเองก็จงใจลืมรึเปล่าคะ? ...ฉันเกือบไม่เห็นแล้วนะรู้ไหม วันหลังก็ให้ดี ๆ สิ แหวนสีเงินทองส่องประกายอยู่บนนิ้วเจ้าหญิง

     

    ...อ่าใช่ แหวนเพชรวงเล็กวงนั้น เขาซ่อนมันไว้ในช่อดอกกุหลาบเองนั่นแหละ

     

    เป็นอีกเรื่องที่คิดว่าเจ้าหล่อนอาจจะไม่รู้ แต่ตอนนี้ก็ไม่อาจหุบยิ้มได้เพราะไวโอเล็ตหาเจอแล้ว

     

    เซอร์ไพรส์ไหมล่ะ?” แม่หญิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะจับวัตถุเย็น ๆ ที่นิ้วเล่น

     

    ที่จริงมันคับนะ เกิดใส่ไม่ได้เสียดายของแย่ ...เอาไปแก้ดีกว่าค่ะ

     

    เพราะเธอใส่ผิดนิ้วไงล่ะ แต่ก็เข้าใจนะอาจจะเป็นเพราะเธออ้วนก็ได้

     

    คุณเนี่ยน้า เอาคืนไปเลย

     

    ล้อเล่นน่า ถอดมาก่อนสิเดี๋ยวจัดการให้ การถอดทุลักทุเลแต่หลังจากส่งแหวนคืนให้เขาแล้ว อีกฝ่ายก็หมุนตัวไปยังโต๊ะทำงาน สาวน้อยเห็นเขาทำอะไรยุกยิกก่อนจะส่งคืนให้เธออีกครั้ง

     

    เอานี่ น่าจะได้แล้ว ไวโอเล็ตไม่เกี่ยงงอน รับมันกลับมาก่อนจะสวมไว้ที่นิ้วกลาง มันใส่ง่ายกว่าเดิมก็จริงแต่ทำไมมันถึงรู้สึกลื่น ๆ เหนียว ๆ

     

    คุณทาอะไรไว้ในนี้น่ะ?”

     

    กาวตราช้างสิบแปดตัว

     

    ฮะ!!?” เจ้าหญิงอ้าปากกว้าง รีบก้มไปแงะแหวนออกจากนิ้วตัวเองแต่ก็อย่างที่พูด ...นี่เขาทากาวไว้จริงรึ!? ทำไมถอดไม่ออกล่ะ!!?

     

    หึหึ เธอพลาดแล้วนะ โดนฉันจองแล้ว ...ถอดไม่ออกหรอก

     

    โอ๊ยอย่ามาล้อเล่นแบบนี้นะ!” ไวโอเล็ตบ่นพึมพำ ให้ถอดแหวนก็ยากแล้วแต่พ่อคุณยังมาขยี้หัวเธอเล่นอีก ทำไมถึงชอบกวนโมโหกันนักนะเดี๋ยวก็ก้านคอเสียหรอก

     

    สาวน้อยหัวเสีย

     

    ตัวเองบอกว่าให้ปิดความสัมพันธ์ของเราเป็นความลับแท้ ๆ แต่ให้ใส่แหวนเด่นหราขนาดนี้คงรอดหรอก

     

    โธ่เอ๊ย! เล่นอะไรพิเรนท์!’ แบบนี้ความแตกก็อย่ามาว่าเธอละกัน แช่งขอให้โดนแฟนทิ้ง!


    ...แต่เอ๊ะ ปัจจุบันเราก็เป็นแฟนเขาไม่ใช่เหรอ?

     

    ...หรือเราควรจะทิ้งเลยดีไหมนะ?




     

     

    ───────────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ

     

    ทิ้งเลย!

    และเซอร์ไพรส์เก่ง

    วัน ๆ งานการไม่ทำเอาแต่หมกมุ่น

     

    และแอบใส่เหตุผลว่าทำไมทุกคนในแฟมิลี่ถึงร้ายและกลับมาดีกับไวโอเล็ตได้นะ

    ก็ตามนั้นแหละ

     

    และหนทางของทั้งคู่จะเป็นเช่นไร โปรดติดตามจ้า

    ช่วงนี้ก็เบา ๆ สบาย ๆ ไปก่อนนะคะ หึหึหึ

    เจอกัน

     

    ─────────────

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×