NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END; ONE PIECE - a million ways to fall in love with you | Doflamingo x Violet/Viola

    ลำดับตอนที่ #47 : Every time eyes meet (ความรู้สึกที่เราพบ) - 100%

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 500
      61
      14 พ.ค. 64



    ตอนที่ 39: Every time eyes meet

    (ความรู้สึกที่เราพบ)




     


    แมกไม้เอนไหว ละอองแดดทะลุผ่านใบหญ้า เปลวลมไล้สัมผัสไปตามนวลแก้มก่อนจะส่งเสียงเพรียกแว่วทุ้มเป็นบทกวี ความอบอุ่นช่างน่าสุนทรียะ เสกสรรให้ที่แห่งนี้เปรียบเสมือนดั่งโลกนิทาน

     

    เจ้าหญิงกำลังนั่งอยู่กับไอดอล จิบน้ำชารื่นเริงแล้วพากันสนทนาไปด้วยเสียงหัวเราะ บรรยากาศแสนจรรโลงดึงให้เหล่าคนใช้ในละแวกอมยิ้มไปตาม ๆ กัน นึกเข้าใจแล้วว่าทำไมเด็กคนนี้ถึงเป็นที่รักใคร่ หากยามใดที่เธออ่อนหวานและอารมณ์ดี คนที่ได้สบตามีอันต้องหลงเคลิ้มตลอดทุกคน

     

    นี่ นอกจากเรื่องที่มิฮอร์คเคยอ่านหนังสือจนลืมกินข้าวไปหนึ่งวันแล้ว มีเรื่องอะไรอีกเหรอ?” เพโรน่าเท้าแก้มก่อนจะยิ้มระรื่นยามตัวได้รับฟังเรื่องลับ ๆ ของท่านเคานต์

     

    ก็... เพโรน่าเคยเห็นเคานต์ดราคูลเขินรึเปล่า?” ไวโอเล็ตถามพลางเลื่อนแก้วชามาใกล้ มองสาวน้อยทำท่าครุ่นคิดด้วยความแปลกใหม่

     

    ไม่เคยอ่ะ

     

    งั้นเหรอ ถ้างั้นแบบนี้แหละ ...เธอเคยเห็นท่านเคานต์ทำท่าทางแบบนี้รึเปล่า?” คนปล่อยความลับรีบยกมือขึ้นมาแตะคาง ก่อนจะเลื่อนนิ้วให้มาจรดริมฝีปากพร้อมเบือนหน้าหนี ท่าทางที่เธอทำส่งผลให้อีกฝ่ายต้องตาถลน ร้องเสียงดังเสียจนหลุดบุคลิก

     

    อ๊ะ! ท่าทางแบบนั้นเคย! ฉันเคยเห็น!” คนมองอ้าปากค้างยามท่วงท่าที่ไวโอเล็ตทำมันเหมือนกับท่าทางที่มิฮอร์คเคยทำ

     

    ฮิ ๆๆ ใช่เลยละนะ รู้รึเปล่าว่าเวลาท่านเคานต์ทำแบบนี้แสดงว่าเขาเขินล่ะ ต้องมีสักเรื่องที่ทำให้เขาประหม่าแน่ ๆ ...แหม หายากจริง ๆ สองสาวสบตากันก่อนจะพากันหัวเราะร่วนเพราะพวกตนพึ่งแบ่งปันวิธีอ่านความรู้สึกผู้ชายมาดขรึม

     

    ...หารู้ไม่ว่าผู้ชายมาดขรึมคนนั้นกำลังตีหน้าโหดพร้อมสาวเท้าเข้ามาขัดจังหวะยามตัวเองนิ่งฟังเจ้าหญิงเผาเขาต่อไปไม่ไหว

     

    นี่ยัยหนู! วันนี้มีงานต้องไปทำไม่ใช่เหรอ ไปเตรียมตัวได้แล้ว

     

    เอ๋~ อีกตั้งนานนะ ขอนั่งเล่นก่อนไม่ได้รึไง...อื้อ ๆ รู้แล้ว ๆ ไปก็ได้ เพโรน่าพยายามจะดื้อแต่พออีกฝ่ายดึงพวงแก้มเธอจนยืดสาวน้อยก็รีบทำตามคำบอกแต่โดยดี มิฮอร์คมองตามก่อนจะหันกลับมาหาน้องสาวต่างสายเลือดแล้วเอ่ยถาม

     

    แล้วเจ้าหญิงล่ะ อยากออกไปพร้อมกันเลยรึเปล่า เห็นบอกว่ามีธุระนี่?”

     

    ใช่ค่ะ ผ่านมาจะเดือนหนึ่งแล้วฉันเริ่มเป็นห่วงคุณพ่อกับแทงค์แล้วค่ะ ...ยังไงมันก็เป็นทางผ่านพอดีปล่อยฉันลงแถวนั้นก็ได้ ไวโอเล็ตรีบดื่มชาให้หมดแล้วบอกเขาอย่างแน่วแน่

     

    ยามนี้ให้นึกกังวลก็คงไม่แปลก หลังจากเริ่มต้นปีใหม่นี่ก็ผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว เธอไม่ได้ไปเรียนไม่ได้ไปทำงาน อย่าว่าแต่ติดต่อคนสำคัญเลย แม้แต่ก้าวขาออกจากบ้านหลังนี้เธอก็ยังไม่ได้ทำ ...รู้ดีว่าโดฟลามิงโก้มีเส้นสายเยอะ หากทะเล่อทะล่าไปเสนอหน้าตามท้องทุ่ง เรื่องไม่วายต้องรู้ถึงหูเขาแน่

     

    เด็กสาวจึงตัดสินใจหมกตัวอยู่แต่ที่นี่

     

    เพราะยังหวาดกลัวเธอจึงไม่กล้าออกไปไหน แม้บางส่วนในจิตใจจะบอกว่าเธอนั้นสำคัญตัว ในเมื่อเขาไล่กันขนาดนี้ทำไมถึงคิดว่าอีกฝ่ายจะตามหากันให้วุ่นวาย ...แต่ไม่ว่าสุดท้ายเรื่องมันจะออกหมู่หรือจ่า สาวน้อยก็ยังไม่กล้าเจอเขาอยู่ดี

     

    ตอนนี้เหมือนความรู้สึกมันพังลงไปนิดหน่อย

     

    งั้นเหรอ งั้นบอกที่อยู่แทงค์มาแล้วกัน ฉันจะให้คนของฉันจอดรออยู่แถวนั้น ...หยุด! ถ้าเธอดื้อฉันจะทำทุกอย่างตามที่ตัวเองคิด ที่ผ่านมาฉันตามใจเธอมามากแล้ว ครั้งนี้ถือซะว่าเป็นคำขาด หลังจากฟังเรื่องทั้งหมดคงไม่คิดว่าฉันจะปล่อยให้เธอไปไหนคนเดียวหรอกนะ ผู้เป็นน้องถึงกับทำหน้ามุ่ยยามผู้เป็นพี่นั้นไม่ผ่อนปรน ...จริงอยู่ที่เธอเอาแต่ใจ แต่ท่านเคานต์นี่มหากาพย์คนเอาแต่ใจ

     

    รู้แล้วล่ะค่ะ ดุเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะเนี่ย? เพโรน่าหงอแย่

     

    ที่ต้องดุเพราะพวกเธอมันรั้นไงล่ะ แล้วจะออกไปก็ใส่หมวกใส่แมสปิดหน้าด้วยนะ รู้ไหมว่าตอนนี้ตัวเองเป็นที่สนใจขนาดไหน

     

    อือ ไวโอเล็ตตอบรับโดยไม่อิดออด จริงอยู่ว่าการเป็นดาราหากไม่เป็นที่รู้จักก็ไปไม่รอด แต่วินาทีนี้เจ้าหญิงอยากให้ความสนใจต่อเธอมันเปลี่ยนเป็นเวลาอื่นจังนะ

     

    ...ใช่ เธอควรดีใจแต่ก็ไม่ ตอนนี้ทุกคนดันให้ความสนใจว่านางเอก MV คนนั้นเป็นใคร ช่างเป็นความโชคดีที่แฝงความโชคร้าย ...เธออยากได้ที่หลบซ่อนแต่เพราะสายตาของคนทั้งประเทศก็ทำให้ตกที่นั่งลำบาก หากทุกคนยังสอดส่องแล้วแบบนี้จะให้รอดพ้นจากสายตาเจ้าพ่อด้วยมันจะไปเหลืออะไร

     

    เด็กสาวทำใจแล้วคิดว่าเรื่องราวมันคงไม่แย่หรอกมั้ง แต่ไม่ว่าจะหลีกหนีสักแค่ไหน

     

    ...เรื่องที่กังวลมันมักลอยเป็นเงาตามตัว

     

    เธอออกมาข้างนอกตามที่บอก สาวน้อยแทบจะฝังตัวลงไปในเบาะรถยามเห็นเจ้าพ่อเดินอารมณ์เสียออกมาจากที่พักแทงค์ สีหน้าเขาดูไม่สบอารมณ์ มันไม่ต่างจากวันนั้นที่เราทะเลาะกันรุนแรง

     

    สภาพเขาผิดแปลก ผมเผ้าไม่เป็นทรงดั่งที่เคย เสื้อผ้าก็ยับย่นไม่ได้เนี้ยบเหมือนทุกครั้ง เธอเห็นโดฟลามิงโก้ก้มลงไปมองมือถือตัวเองก่อนจะกำมันแน่นแล้วยัดใส่กระเป๋า หัวใจเธอเต้นระส่ำตอนอยู่ ๆ เขาก็เงยหน้าแล้วเพ่งตรงมาทางนี้

     

    เขารู้ตัวเหรอ?’ เด็กสาวบีบแขนแน่น หากฟิล์มกระจกรถมันไม่มืดไม่แคล้วทั้งเธอและคนของท่านเคานต์ต้องตายอยู่ตรงนี้แน่ ...ไวโอเล็ตยังเห็นเขามองไม่วางตา อีกฝ่ายจะรู้ตัวไหมนะว่าสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเขากับคนที่อาจตามหาคือกระจกรถบาง ๆ

     

    แต่แล้วความหนักอึ้งทั้งหมดก็หายไปเมื่อกลาดิอุสเดินเข้ามาสมทบ ไม่อาจเดาได้เลยว่าเขาสองคนคุยอะไรกันแต่สุดท้ายเจ้าพ่อก็ยอมกลับขึ้นรถแต่โดยดี

     

    เขาจากไป ไวโอเล็ตเกือบเปิดประตูรถลงไปหาแทงค์แต่ต้องยั้งตัวไว้ตอนหางตาเหลือบไปเห็นใครด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ในที่ลับตาคน

     

    นี่เขาทิ้งลูกน้องไว้เหรอ?’ เด็กสาวจ้องมองอยู่ช้านานจนมั่นใจว่านั้นคือคนของเขา ตัดสินใจร้องบอกคนขับให้พากลับบ้านเหตุเพราะตอนนี้คงเข้าไปหาแทงค์ไม่ได้แล้ว ...เข้าไปก็โดนจับ ไม่มีช่องให้เข้าได้เพราะขนาดเขาจากไป ยังไม่วายทิ้งลูกน้องไว้เพื่อดักรอหรือเพื่อกดดันให้เธออกแตกตาย

     

    ...ตอนนี้เธอก็ไม่แน่ใจ

     

     


     

    ………………………

     

     

     


    อยากให้แอบติดต่อราชาริคุกับแทงค์ให้งั้นเหรอ?” มิฮอร์คทวนคำยามคำขอของหญิงสาวดูอ้อมค้อมจนไม่น่าเชื่อ ไวโอเล็ตพยักหน้า หลังจากที่ออกไปแล้วเข้าไปหาองครักษ์ไม่ได้ เด็กสาวจึงตัดสินใจกลับมาขอร้องคนที่ไว้ใจอีกครั้ง

     

    ใช่ค่ะ พอดีเมื่อครู่ที่ออกไปข้างนอกแล้วบังเอิญเจอเขา

     

    เจอมัน!? มันทำอะไรเธอรึเปล่า!?” จู่ ๆ น้ำเสียงคนสงบก็ตึงขึง แก้วตาดุจเหยี่ยวนั้นคมวาบจนเธอรู้สึกฝืดในลำคอ

     

    ไม่ได้ทำหรอกค่ะ เขาไม่รู้ว่าฉันอยู่ตรงนั้น ...แต่โดฟลามิงโก้สั่งให้ลูกน้องแอบซุ่มรอไว้ทำให้ฉันเข้าไปหาแทงค์ไม่ได้ เลยอยากจะวานให้ท่านเคานต์ช่วยหาทางติดต่อให้หน่อย และช่วยดูให้ด้วยได้ไหมคะว่าเขาทำร้ายคุณพ่อหรือแทงค์รึเปล่า?”

     

    ไม่ได้ทำหรอก ขอโทษที่ไม่ได้บอกเธอแต่ฉันเองก็ให้คนคอยตามสืบอยู่ตลอดว่าหมอนั่นมันทำอะไร ...สบายใจเถอะ ดูเหมือนมันจะไม่ได้ลงมือกับแทงค์หรือคนในครอบครัวเธอ อย่าห่วงเลย เอื้อมมือหยาบกร้านลูบหัวเด็กสาวแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าหญิงถึงดูกลัวหมอนั่นจนพาลให้สงสัย

     

    แสดงว่าเรื่องที่เธอเล่าให้เขาฟังมันไม่ได้มีแค่นี้สินะ

     

    สายตามิฮอร์คลึกล้ำก่อนจะคิดว่าต่อจากนี้เขาคงต้องตามค้นตามล้วงด้วยตัวเอง ในเมื่อเธอหวังดีไม่อยากให้เขาตกระกำลำบาก เขาเองก็จะหวังดีคิดช่วยเธอในแนวทางของตัวเองเหมือนกัน

     

    จุดอ่อนของเจ้าหญิงมันเด่นชัด จนคนไม่ประสีประสาอย่างเพโรน่ายังดูออก แล้วนี่เธอต้องไปอยู่ในน้ำมือของคนพวกนั้นเกือบปี

     

    ไอ้ห่านั้น! มันใช้จุดอ่อนนี้เอาเปรียบอะไรเธอไปบ้าง!?

     

     


     

    ………………………


     

     


    วันรุ่งขึ้น ทั้งที่วันนี้มันควรจะเป็นวันที่เธอจะทำให้ไวโอเล็ตสบายใจแท้ ๆ แต่มันเกิดอะไรขึ้น 


    สาวผมแกะยืนทำตัวไม่ถูก สถานการณ์รอบตัวเริ่มวุ่นวายตอนทุกคนที่ยืนแถวนี้เห็นภาพเหตุการณ์ชวนระทึก

     

    เพโรน่ายกสองมือขึ้นมาปิดปาก แววตาเธอสับสน พยายามแทรกตัวฝ่าฝูงชนหวังเข้าไปมองให้ชัด แม้จะตื่นตระหนกแต่ก็พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นไว้ รีบเพ่งมองไปยังท้ายรถที่ไกลห่างออกไปเรื่อย ๆ ก่อนจะจดจำภาพนั้นไว้ประหนึ่งต้องการฝังลึกลงในความทรงจำ

     

    มือบางคว้านหาโทรศัพท์อย่างสั่น ๆ เอ่ยขอโทษบรรดาแฟนคลับที่ยืมล้อมรอบก่อนเธอจะรีบต่อสายหาคนที่เป็นที่พึ่งในทุกช่วงเวลา

     

    [มีอะไรเหรอเพโรน่า วันนี้เลิกงานไวงั้นเหรอ?] เสียงนุ่มกล่าวทันทีที่กดรับ ปลายสายเว้นช่วงไปนิดเมื่ออีกฝ่ายไม่เอ่ยโต้เหมือนทุกครั้งที่โทรหา

     

    [เกิดอะไรขึ้นเพโรน่า?] ร่างน้อยกระตุก น้ำตาแทบรินไหลยามเธอไม่รู้ว่าตัวเองปล่อยให้เรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง!?

     

    ตอนนี้นายอยู่ไหนน่ะ? นายรีบมาหาฉันเลยได้ไหม?”

     

    [ใจเย็น ๆ เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้เธออยู่ไหน? ค่อย ๆ เล่าให้ฉันฟัง] ดราคูล มิฮอร์ครีบบอกปลายสายให้นิ่งเข้าไว้ ถามเด็กสาวทันทียามเธอออกอาการวิตก

     

    ฉันออกมาเดินเล่นกับไวโอเล็ตน่ะ... คือนายรีบมาหาฉันเลยได้ไหม? ฮึก มันน่ากลัวมากเลย ฉันไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แค่พวกเราสองคนยืนกันอยู่ดี ๆ แต่จู่ ๆ ก็มีใครไม่รู้เข้ามาประชิด

     

    แล้วพวกมันก็จับตัวไวโอเล็ตไปแล้วน่ะ!”

     

    [อะไรนะ!!?]

     

    ฮึกฮือ มิฮอร์คฉันจะทำยังไงดี มันต้องเป็นคนของไอ้เจ้าโดฟลามิงโก้แน่ ๆ ...นายรีบมาหน่อยได้ไหม ...ฉันกลัว ทำไมล่ะทั้งที่ขอร้องให้คนช่วยแล้วแท้ ๆ แต่ทำไมถึงไม่มีใครสนใจเลย? ...นี่มิฮอร์คตอนนี้ฉันควรทำยังไงดี?”

     

    เด็กสาวเริ่มร้องไห้ รู้สึกอยากประชดประชันโลกใบนี้ ก่นด่าทุกคนที่หล่อหลอมสังคมให้เน่าเฟะ ก่นด่าตัวเองด้วยที่ถึงแม้ปากจะบอกว่าอยากปกป้องแต่พอเจอพวกมาเฟียเข้าจริง ๆ กลับยืนโง่ทำอะไรไม่ได้!

     

    คนสะอื้นได้ยินเสียงเหมือนมิฮอร์คบันดาลโทสะ ได้ยินเสียงกุกกักเหมือนเขากระชากอะไรสักอย่าง

     

    ชายหนุ่มถามว่าแล้วเธอนั้นไม่เป็นไรใช่ไหมยิ่งดึงให้สาวน้อยปล่อยโฮหนักกว่าเก่า สุดท้ายเขาก็บอกให้เธอรีบไปโรงพักแล้วยืนยันว่าอีกไม่ถึงสิบห้านาที

     

    เขาจะอยู่ที่นั่น!



    ………………………

    - 45% -

     


     

     

    คล้ายความฝันสู่อนันตรกาล ยามลืมตาก็พานพบแต่ความมืดมิด

     

    แม้จะรู้ว่าตื่นอยู่แต่ความมืดคือสิ่งที่เธอจ้องมอง แผ่นหลังสัมผัสเตียงและข้อมือก็บาดลึก เธอทั้งถูกมัดและถูกปิดตา ...นี่คือสิ่งที่เธอต้องเข้าใจ

     

    หัวสมองรู้สึกอื้ออึง ร่างกายเธอร้อนรุ่มมาตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว จำต้องฝืนสลัดความปวดหนึบที่กลางร่างก่อนเฝ้าถามว่าเหตุใดตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่

     



    ต้องเฝ้านึก พยายามคิดให้ออก

     

    ...อ่าใช่ ตอนนั้นเธอจำได้แค่ว่าตัวเองโดนเพโรน่าเด็กสาวผู้น่ารักเอ่ยชวนไปช้อปปิ้ง

     

    ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปแต่พอโดนอีกฝ่ายรบเร้าสุดท้ายทั้งสองก็แอบหนีมาเดินเตร่อยู่ที่ศูนย์การค้าอันดับหนึ่ง

     

    ที่นี่คนมากหน้าหลายตาแต่งตัวสวยงามเดินขวักไขว่ สถานที่ท่องเที่ยวมักไม่เคยเงียบเหงา ไวโอเล็ตสวมทั้งหมวกทั้งแมสปิดหน้า ยังคงทำตามที่ท่านเคานต์บอกเสมอว่าหากจะออกไปไหนให้ปิดบังตัวเอง

     

    เธอต้องปิดให้มิดเพื่อใครต่อใครจะได้ไม่รู้ จะต้องไม่ให้ใครเห็นว่าตัวเธอคือใคร แต่สำหรับสาวข้างกายกลับไม่ทำแบบนั้น

     

    เพโรน่าเป็นไอดอลและหล่อนไม่เคยปกปิดตัวตน แน่นอนยามเดินไปไหนทุกคนต้องหันมามอง มีบ้างที่พวกหล่อนเดินดูของอยู่บรรดาแฟนคลับก็เข้ามาทัก เด็กสาวบอกว่าตัวเองไม่จำเป็นต้องหลบซ่อนเพราะการเป็นกันเองกับคนที่คอยสนับสนุนก็คือการขอบคุณพวกเขาไปในตัว

     

    ไวโอเล็ตได้ยินดังนั้นจึงเคารพการตัดสินใจของเธอ แม้บางทีจะแสดงออกว่าเป็นเด็กแต่บางทีก็มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ...เด็กคนนี้มีหลากเฉดสี ช่างดูมิติและน่าค้นหาคล้ายคลึงกับผู้ชายบางคนที่มีผีเป็นพันตน

     

    เจ้าหญิงยืนหลบมุมอยู่ที่ร้านเล็ก ๆ มุมหนึ่ง เลือกปล่อยให้เพโรน่าได้ทักทายเหล่าแฟนคลับโดยไม่คิดไปวุ่นวาย สายตาเริ่มกวาดไปเรื่อยก่อนจะทำตัวลีบเมื่อเห็นคนคุ้นตาเดินตรงมาทางนี้

     

    กลาดิอุสนี่!?’ สาวมีประเด็นรีบหลบเข้ามุม ดึงหมวกลงมาปิดให้มิดก่อนยืนก้มหน้าด้วยหัวใจที่ลุ้นระทึก รู้แล้วว่าโดฟลามิงโก้กำลังตามหาตัวเธอ ได้ข่าวจากท่านเคานต์ว่าอีกฝ่ายสั่งให้กลาดิอุสออกค้นหาทุกตารางนิ้ว

     

    ‘Put the right man on the right job’ เขายังคงเลือกคนได้เข้ากับงานเสมอ นอกจากจะยิงปืนแม่นแล้วกลาดิอุสยังมีความสามารถในการตามหาคน ...ใช่แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ได้รับมอบหมายให้ตามทวงหนี้กับทุกผู้ที่คิดหลบหนีจากดอนกิโฮเต้แฟมิลี่หรอก

     

    ไวโอเล็ตเลิกคิดเพ้อเจ้อ เหลือบตาขึ้นมามองนิดหน่อยตอนอีกฝ่ายเหล่มองเพโรน่าแล้วมองเลยมายังเธอ สาวน้อยพยายามทำทีเป็นดูของในร้านก่อนจะนึกโล่งใจที่อีกฝ่ายเลิกสนแล้วหันกลับไปคุยกับบรรดาลูกน้องสองสามคน

     

    แม้จะยืนอยู่ไกล ๆ แต่เจ้าหญิงก็ได้ยินพวกเขาพูดกันว่าแถวนี้ก็ยังไม่เจอ รู้สึกปั่นป่วนข้างในอกยามคิดว่าคนจากโลกมืดช่างมีเซ้นส์ที่ดีมาก ...นี่อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเขาอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้รึเปล่านะ

     

    ความไม่สบายใจเริ่มกัดกิน รีบสะกิดบอกเพโรน่าให้รีบกลับ เธอบอกว่าตอนนี้ไม่ค่อยดีแล้ว เราควรไปจากที่นี่ก่อนอีกฝ่ายจะรู้ตัว ...เธอต้องไปให้พ้น ๆ ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป

     

    แต่ในระหว่างที่กำลังเดินอยู่ริมถนนทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงเบรกล้อกะทันหัน พวกเธอตกใจยามคนบนรถกรูกันลงมาโอมล้อมเธอมิดชิด ...ใช่ พวกเขาล้อมกรอบเธอคนเดียว ก่อนหนึ่งในนั้นจะอุดปากเธอไว้แล้วลากขึ้นรถโดยไม่ถามความสมัครใจ

     

    เธอได้ยินเสียงเพโรน่าร้องโวยวายก่อนดวงตาทั้งคู่จะถูกปิดไว้ด้วยผ้าสีดำ แน่นอนเธอต้องสู้ ดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตายแต่สุดท้ายทั้งร่างก็โดนขึง รู้สึกว่าคอตัวเองโดนอะไรสักอย่างทิ่ม ความรู้สึกชาวาบไหลไปทั่วร่าง

     

    ...ก่อนสติทุกอย่างที่พยายามเก็บไว้จะสูญสิ้นพร้อมกับตัวเธอ

     

     


    ยาสลบ เป็นความคิดที่พุ่งตรงยามหวนนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พวกมันฉีดยาสลบใส่เธอ แน่แท้ว่าฤทธิ์ยาตอนนี้ก็ยังทำให้เธอรู้สึกง่วงงง แต่ถ้าเป็นยาสลบมันไม่น่าจะมีผลทำให้ร่างกายเธอทรมานแบบนี้สิ

     

    ถ้าเป็นยาสลบมันไม่น่าจะทำให้ตัวเธอกระสันซ่านแปลก ๆ

     

    ทำไมตอนนี้รู้สึกเหมือนกึ่งกลางร่างกำลังระเบิด แม้จะพยายามทนเอาไว้แต่ไม่อาจสลัดอีกหนึ่งความคิดที่แล่นเข้ามาในหัวได้

     

    อย่าบอกนะว่าเธอ...!?

     

    หึหึ ตื่นแล้วนี่ สาวน้อยลุกขึ้นนั่ง หันตามเสียงทันทีตอนมีคนพูด กัดริมฝีปากแน่นหวังหยุดอารมณ์เลวร้ายที่กำลังกลืนกินร่าง เธอพยายามไม่ร้องเพราะรู้ดีว่าหากร้องมันก็คงไม่ช่วยอะไร นิ่งงันเฝ้ารอว่าอีกฝ่ายจะขยายความยังไงให้เธอฟัง

     

    รู้รึเปล่าว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่?”

     

    ...ไม่ค่ะ

     

    เตโซโรไม่ได้บอกเธอเหรอ?” รู้สึกไม่ดี! ยามมีชื่อผู้ชายคนนั้นออกมาเรื่องราวมันมักจะไม่ดี เอาเถอะ เธอพึ่งเข้ามาใหม่เลยอาจจะยังไม่รู้ แต่เธอรู้ไหมว่าวงการบันเทิงมันไม่ได้เข้ามาง่าย ๆ เพราะฉะนั้นเราสองคนต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกัน

     

    แลกเปลี่ยนอะไรคะ?” ไวโอเล็ตบังคับเสียงตัวเองให้นิ่ง รีบขืนข้อมือที่ถูกไขว้ไว้ด้านหลังอย่างสุดชีวิต แต่อีกฝ่ายรู้ทัน คว้าหมับเข้าที่ข้อแขน ก่อนจะโน้มตัวมาพูดใกล้ ๆ จนเด็กสาวต้องขนลุก

     

    มีหลายคนคิดว่าแค่ใช้ความสามารถก็อยู่ในวงการนี้ได้ แต่เธอไม่คิดว่าวงการที่พวกเราเพียรสร้างมากับมือแล้วให้คนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าย่ำเข้ามาในบ้าน แบบนี้มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ?”

     

    ฉันต้องขอโทษนะคะ แต่ฉันไม่เคยสวมรองเท้าเปื้อนโคลนเดินเข้าบ้านใคร

     

    อืม เปรียบเปรยได้ดีจัง อย่างน้อยก็รู้ว่าเธอไม่ได้โง่ ...ดูจากความคิดแล้วเธอนี่ก็โลกสวยเหมือนกันนะ หลังจากจบนี้ฉันรับปากว่าจะอนุญาตให้เธอไปสร้างโลกที่มีม้ายูนิคอร์นวิ่งเล่นอยู่บนทุ่งสายรุ้ง ไวโอเล็ตสะดุ้งตอนคนแปลกหน้าหยุดพูดแล้วเลียหูเธอเบา ๆ

     

    ทำอะไรคะ!?”

     

    พยายามจะให้เธอเข้าใจง่าย ๆ ไง ...เธอรู้ไหมถ้าจะเป็นดาราแล้วไม่มีคนหนุนหลังมันมักจะจบไม่สวย ...ฉันถึงได้ถามไงว่าเตโซไรไม่ได้บอกเธอเหรอ?”

     

    ไม่ค่ะ ขอบคุณที่คุณมีน้ำใจ ข้อเสนอของคุณดีมากแต่ฉันไม่คิดจะทำแบบนั้น เธอปะติดปะต่อทุกอย่างได้แล้ว ที่แท้เบื้องหลังคือแบบนี้นี่เอง นึกเจ็บใจอยู่มากนักว่าคนตรงหน้าหาตัวเธอเจอก่อนได้อย่างไรทั้งที่เจ้าพ่ออีกคนยังพบทางตัน

     

    คุณหาฉันเจอได้ยังไง?”

     

    เป็นเรื่องที่ฉันสงสัยเหมือนกันนะว่าหลังจากโปรโมทเพลงแล้วเธอซ่อนตัวทำไม? แต่ก็ช่างมันเถอะ หาตัวเธอมันไม่ยากหรอก ลืมแล้วเหรอว่าวันนี้ตัวเองเดินกับใครทั้งวัน

     

    โง่มาก! ไวโอเล็ตด่าตัวเองว่าโง่มาก ไม่ทันฉุกคิดว่าอีกฝ่ายคงจับตาดูทุกคนในแวดวงมายาจนคว้านหาตัวเธอจนเจอ พอคิดแบบนี้เรื่องทุกอย่างมันก็ง่ายเพราะตลอดทั้งวันนี้เธอดันอยู่กับคนดังทั้งวัน พวกเขาจับตัวเธอไม่ได้สิแปลก!

     

    เด็กติดกับรีบสรรหาทางรอดแต่อีกฝ่ายก็ไม่คิดจะปล่อยเงื่อนที่ผูก

     

    ไม่เอาน่า ฉันพยายามช่วยเธออยู่นะ ...อย่าดื้อสิเพราะฉันว่าร่างกายเธอมันไม่อยากดื้อกับฉันหรอกนะ เกือบร้องเสียงหลงยามบั้นท้ายถูกดึงให้ล้มลงไปบนฟูก เธอเริ่มบิดตัวหนียามอีกฝ่ายเริ่มลูบไล้เข้าไปในร่มผ้า ฝ่ามือนั้นวกกลับมาปลดกระดุมกางเกงแล้วกระชากออกแบบไม่ไยดี

     

    ไวโอเล็ตตัวสั่น พยายามต่อต้านสุดชีวิตแต่ก็พบว่ายิ่งเขาล้วงลึกเข้ามาแตะต้องกายสาวมากเท่าใด ก็ยิ่งดึงให้เธอขาดสติมากเท่านั้น

     

    หยุด! ก็ฉันบอกว่าไม่อยากทำไง!”

     

    หึหึ พยศเก่งจัง แรก ๆ ก็ร้องปฏิเสธกันทุกคนนั่นแหละแต่หลังจากโดนฤทธิ์ยาทำให้สิ้นฤทธิ์ ก็อ้อนวอนขอให้ฉันเข้าไปในตัวใจแทบขาด สาวน้อยรังเกียจ อาการสั่นจนหยุดไม่อยู่เกิดขึ้นตอนโดนกระชากเสื้อผ้าออก อีกฝ่ายเริ่มรุกล้ำจนดึงให้ร่างกายเธอหวาดหวั่น

     

    น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว นึกเกลียดตัวเองที่โอนอ่อนให้ฤทธิ์ยา นึกเกลียดตัวเองที่เวลาแบบนี้อาการแพนิคก็กลับมากำเริบ

     

    เด็กสาวเริ่มหายใจไม่ออกยามอีกฝ่ายกระทำหยาบคายใส่ร่าง สกัดกั้นเสียงร้องเอาไว้ตอนคนต่ำช้ากำลังใช้ฟันครูดไปตามหน้าท้องแล้วหยุดวนเวียนที่กึ่งกลางเธอ

     

    หอมจังนะ ...ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าตัวเธอจะหวานเหมือนหน้ารึเปล่า คล้ายกำลังหยุดหายใจยามอีกฝ่ายสัมผัสโดยไม่ถามความยินยอม เกือบกัดลิ้นให้สิ้นชีวิตแต่ก็ยั้งความคิดแล้วเปลี่ยนมากัดปากตัวเองแทน

     

    คนโดนกระทำสั่นสะท้านปนหวาดกลัว จิตใต้สำนึกกำลังตะโกนขอให้คนช่วยแต่ร่างกายกลับรู้สึกยินดียามโดนลิ้นตวัดต้อนให้ยิ่งชุ่มฉ่ำ ...เธอเกลียดตัวเองเพราะโดนยาบ้า ๆ นี่ทำให้ต้องพ่ายแพ้ต่อแรงราคะ

     

    ขอร้อง... หยุดเถอะ... ฉันไม่อยากทำ

     

    ไม่เอาน่า หวานขนาดนี้ฉันรับรองว่าหลังจากนี้จะช่วยให้เธอดังนะ ยอมฉันสิ ได้ยินเสียงตึงตังที่ด้านนอกแต่ทั้งคู่ก็ไม่สนใจ รับรู้ว่าวินาทีต่อจากนี้เธอจะกลายเป็นของใครก็ไม่รู้ยิ่งดึงให้ตัวเองอยากหยุดหายใจ ...ในทันทีที่หัวสมองขาวโพลน อยู่ดี ๆ ชื่อของผู้ชายคนหนึ่งที่วนเวียนรอบตัวก็ลอยเข้ามาในความคิด

     

    เขามักอยู่ข้างเธอเสมอ แล้วถ้าหากตอนนี้เธอร้องขอให้ช่วย ...เขาจะโผล่มาไหม?

     

    ...โดฟลามิงโก้ ช่วยฉันด้วย

     

    อะไรกัน เธอต้องเรียกชื่อฉันให้ช่วยสิ...

     

    ใช่! แกควรเรียกชื่อตัวเองตอนอยู่ในนรกเป็นพันครั้ง!!! ไอ้เวรเอ๊ย!!!” เหมือนหูอื้อไปชั่วขณะยามได้ยินเสียงปืนที่ดังลั่น เธอไม่รับรู้เรื่องราว ได้แต่นอนนิ่งหายใจรวยรินตอนน้ำหนักที่กดทับหายไปทั้งหมด

     

    เธอไม่แน่ใจว่าใครเข้ามาแต่ม่านน้ำตากลับชุ่มอยู่รอบดวงตา ถ้าปลดแถบผ้าออกหยดน้ำนั้นต้องทะลักออกมาเป็นสาย

     

    ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่เข้ามาล่ะ? ทั้งที่ร่างกายเธอร้อนปานขาดใจไวโอเล็ตปวดระบม อยากให้ใครสักคนช่วยปลดเปลื้องเธอจากห้วงตัณหาอันหอมหวาน รู้ถึงมือใครบางคนที่ปลดพันธนาการออกจากข้อมือ รับรู้ได้โดยพลันว่ายามนี้ตัวเองได้หมดสิ้นต่อยาปลุกเซ็กซ์เรียบร้อยแล้ว

     

    สาวน้อยโผเข้ากอดอีกฝ่ายทันทียามรู้ว่าเขาอยู่ตรงไหน โน้มตัวลงไปตะโบมจูบคนตรงหน้าตอนความต้องการมันโหมแรงจนฉุดไม่อยู่ เธอนั่งคร่อมร่างนั้นไว้แล้วเป็นฝ่ายเบียดกายรุกเร้าจนอีกคนตั้งตัวไม่ทัน

     

    ทั้งที่ถูกปิดตาแต่ความต้องการก็ดึงให้เธอเคลื่อนไหว สองมือลูบไปตามแผ่นอกกว้าง วาดมันต่ำไปเรื่อย ๆ ก่อนจะถลกเสื้อเขาออกแล้วสัมผัสผิวเนื้อที่แท้จริง


    ...รสชาตินี้ช่างหอมหวนชวนคิดถึง ได้ยินเสียงเขาครางอืมในลำคอก่อนจะพลิกลิ้นแล้วเป็นฝ่ายไล่ต้อนเธออย่างกระหาย

     

    สาวน้อยเจ็บปวดเจียนบ้า เป็นครั้งที่สองที่เธอกล้าแตะต้องแก่นแท้ของผู้ชายก่อน กำลังจะถอดกางเกงให้คนใต้ร่าง ไม่คิดหวังแกะผ้าปิดตาเพราะเรื่องอัปยศแบบนี้เธอไม่อยากจำ

     

    เธอต้องการและต้องการ... แต่ในระหว่างที่กำลังจะทำในสิ่งไม่คาดคิดทุกอย่างก็ถูกหยุดไว้

     

    ชู่ววว เป็นไร ไม่ต้องทำแบบนี้ ...ฉันเคยบอกเธอแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก ...ฉันจะไม่มีอะไรกับเธอในตอนที่ร้องไห้หรอกนะ สิ้นคำพูดสายตาก็กลับมามองเห็น สิ่งที่สาวน้อยพบเป็นอย่างแรกคือผู้ชายผมทองที่ช่วงหลายสัปดาห์มานี้ตัวเองพยายามหลีกหนี

     

    โดฟลามิงโก้อยู่ตรงนี้ เขาส่งยิ้มบาง ๆ มาให้แล้วเอื้อมมือมาแตะแก้มเธอ ไม่เคยเชื่อว่ายามร้องขอเขาจะปรากฏตัว ไม่เคยคิดเลยว่ายามที่ต้องการเขาจะมาช่วยเธอจริง ๆ

     

    อีกฝ่ายโอบให้เธอนอนราบไปบนพื้นเตียง สองมือเกลี่ยน้ำใสออกจากวงหน้าแล้วประคองหน้าเธอไว้ เราทั้งสองกำลังจะเปิดปากพูดแต่ประตูห้องก็ถูกเปิดดังโครม!

     

    ไวโอเล็ตฉันมาช่วยแล้ว! ...!!?” เสียงผู้บุกรุกดังกังวาน คนมาใหม่กวาดตาไปทั่วก่อนจะช็อกค้างยามเห็นหญิงสาวที่ตัวเองตามมาช่วยอยู่ในสภาพล่อตะเข้ นอนสิ้นแรงอยู่ใต้ร่างผู้ชายคนหนึ่ง

     

    ถ้าจำไม่ผิดไอ้เจ้าผู้ชายคนนั้น!?’

     

    อีหน็อยแน่! ในที่สุดฉันก็เจอแกจนได้! เจอนี่หน่อยลูกถีบไอดอล!!!” ไม่ทันจะได้อธิบายอะไร โดฟลามิงโก้ก็โดนไอดอลถีบจนตกเตียงไป

     

     


     

    ………………………

     

     


     

    เพโรน่ากระสับกระส่าย หลังรุดหน้ามาที่นี่เธอก็อยากปรี่เข้าไปตบพวกผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าห้องให้หน้าหัน

     

    ตอนนี้เธออยู่ในโรงแรมสักแห่งที่ไม่คิดจะจำชื่อ จะจำทำไมไม่เห็นจำเป็นต้องจำสถานที่อัปมงคลที่ยอมให้พวกคนเลวลากใครต่อใครมาปู้ยี่ปู้ยำกันหน้าด้าน ๆ

     

    หลังจากเธอไปแจ้งความเบื้องต้นที่โรงพักมิฮอร์คก็ตามมาสมทบ พวกตำรวจต่างลุกขึ้นแสดงท่าทีอ่อนน้อมยามเห็นคนที่รัฐบาลสนับสนุนโผล่พรวดเข้ามา ชายหนุ่มไม่ตอบ ออกคำสั่งให้ทุกคนตรวจหารูปพรรณสัณฐานและทะเบียนรถต้องสงสัยทันทีตอนได้ฟังเรื่องจากเธอ

     

    โกสต์พริ้นเซสรู้ตัวในทันทีว่าเสียงที่เธอได้ยินเขากระชากของคือมิฮอร์คกระชากดาบดำคู่ใจออกมา เด็กสาวเขินอยู่มากนักตอนโดนมิฮอร์คชื่นชมว่าทำได้ดีมากที่สามารถครองสติแล้วจดจำลักษณะรถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุได้

     

    สุภาพบุรุษชุดดำกลายเป็นผู้บังคับบัญชาชั่วคราวยามอยู่โรงพัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า Rainmaker นั้นมีอำนาจขนาดไหน พวกตำรวจต่างสาละวนหาเบาะแสของรถได้ในเวลาอันรวดเร็วเพราะรู้ดีว่าหากทำตามความต้องการของอีกฝ่ายไม่ได้ ตัวเองนั่นแหละจะโดนคมดาบนั้นสะบั้นหัวหลุด

     

    ข้อมูลทุกอย่างอยู่ในมือเขาแล้ว เคานต์ดราคูลเลิกคิ้ว นึกแปลกใจว่าคนร้ายมันคงไม่ได้วางแผนรัดกุมมากนักเพราะการแกะรอยนั้นง่ายเกินทน ไม่ต้องใช้ไพร่พลฝีมือดีพวกตำรวจกินเงินเดือนก็สามารถสืบค้นเองได้

     

    หลังจากทั้งคู่ได้เบาะแสก็ไม่รีรอรีบรุดหน้าไปจุดหมายด้วยความไว ตอนแรกชายตาเหยี่ยวจะให้เด็กสาวรออยู่ข้างล่าง แต่ไม่ว่าจะห้ามยังไงแม่ตัวดีก็ตามหนึบเข้ายิ่งกว่าปลิงเพราะร้อนใจเกินกว่าจะทนรอเฉย ๆ

     

    ไอ้ตัวเขาก็โคตรจะเป็นห่วงแต่แน่นอนในเมื่อเธอดื้อชายหนุ่มก็ทำอะไรไม่ได้ ...มิฮอร์คไม่สะเพร่า สั่งให้คนของตัวเองดักทางเข้าออกไว้หมด กำชับว่าหากเกิดเหตุสุดวิสัยอะไรพวกมันต้องอยู่ช่วยได้ทัน!

     

    ท่านเคานต์ปรี่เข้าไปในโรงแรมก่อนกระชากคอเสื้อพนักงานต้อนรับแล้วขู่เข็ญให้บอกเลขห้องมาเดี๋ยวนี้ เกือบวิ่งไต่บันไดเป็นสิบ ๆ ชั้นตอนลิฟต์มันชักช้าไม่ทำกิน ถ้าไม่ได้เด็กข้างตัวปลอบประโลมป่านนี้เขาคงวิ่งขึ้นบันไดจนหืดขึ้นคอไปแล้ว

     

    ลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นเกิดเหตุ ชายหนุ่มทำมือบอกให้เพโรน่าหลบอยู่ด้านหลังตอนเลี้ยวพ้นหัวมุมแล้วเห็นลูกน้องมาเฟียสองคนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง

     

    สองคนเองเหรอ? ทั้งที่ก่อเรื่องโจ่งแจ้งขนาดนี้เนี่ยนะ มิฮอร์คนึกเห็นด้วย ก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมถึงมีคนเฝ้าแค่สองคน ...มีใครหนุนหลังเรื่องระยำแบบนี้อยู่รึเปล่า?

     

    เขาไม่ได้ปักใจเชื่อเต็มร้อยว่าเป็นฝีมือของดอนกิโฮเต้ตามที่เด็กข้างหลังบอก ...หมอนั่นมันฉลาด คงไม่ทำอะไรชุ่ย ๆ อย่างทิ้งกลิ่นให้คนอื่นตามได้ง่าย ๆ

     

    ในตอนที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่สักพักชายหนุ่มจึงฝากดาบไว้กับเพโรน่า ตัดสินใจเดินเข้าหาทำทีว่าตัวเองเป็นแขกที่มาเข้าพัก

     

    พวกมันถูกฝึกมาดี สองคนที่เฝ้าหน้าห้องปรี่เข้ามาหาเขาทันที หนึ่งในสองกำลังจะเอ่ยเตือนว่าหากยังรักชีวิตก็ไม่ควรเดินลึกเข้าไปมากกว่านี้

     

    แต่คนที่ไม่ห่วงชีวิตน่าจะเป็นพวกมัน

     

    เสียงกระดูกหัก เสียงชกดังอยู่ไม่นานทุกอย่างก็นิ่งสงบ อีกฝ่ายไม่ใช่คู่มือ คงจะดูไม่ออกว่าฝีมือลูกกะจ๊อกอย่างมันกับ Rainmaker อย่างเขามันคนละชั้น ในระหว่างที่กำลังตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งคู่หมดแรงที่ต่อต้านหางตาก็เห็นเด็กผมชมพูวิ่งแซงเขาไป

     

    เดี๋ยวเพโรน่า!” เผอเรอไปหน่อยเด็กที่เคยหลบอยู่ตรงหัวมุมก็วิ่งผ่านหน้าเขาแล้วผลักประตูเข้าห้องไปแบบไม่เกรงกลัว ชายผมดำตามสืบเท้าเข้าไปดาหน้า เลือดลมแทบออกหูตอนภาพที่เห็นมันยิ่งกว่าทำให้เขาเดือดดาล

     

    เจ้าหญิงอยู่ตรงนั้น ที่พื้นมีคนที่น่าจะตายแล้วนอนจมกองเลือดอยู่ แต่ที่บนเตียงมีคนที่เขารักดั่งน้องสาวกำลังนอนโป๊ร่ำไห้โดยที่ด้านบนมีหนึ่งใน Rainmaker ...คนที่เขาจำหน้ามันได้ขึ้นใจกำลังคร่อมเธอไว้

     

    ต่อให้เป็นคนซื่อบื้อที่สุดในโลกคงดูออกว่ามันเกิดอะไร!

     

    อีหน็อยแน่! ในที่สุดฉันก็เจอแกจนได้! เจอนี่หน่อยลูกถีบไอดอล!!!” นั้นเป็นกริยาที่ไอดอลไม่ควรทำแต่ครั้งนี้มิฮอร์คจะไม่ถือสา...

     

    แถมเขาจะชื่นชมเธออีกครั้งว่าทำได้ดีมากเพโรน่า!







    ───────────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ


    - 100% -

    Every time eyes meet


    เพโรน่าเป็นคนพูดจริงทำจริง

    บอกว่าจะถีบก็ถีบจริง ๆ นะเออ 5555


    และ ONE PIECE STAMPEDE รอบสื่อมาแล้วนะฮะ

    ใครสนใจยังจองทันหรือจะรอวันที่ 19 ก็ได้เด้อ

    ไม่มีไรมากแค่จะบอกว่าได้เจอพี่บอย ปกรณ์ด้วยแหละ 55555 (คนอะไรหล๊อหล่อ)

    ขิงแค่นี้ล่ะค่ะ สวัสดี

    อย่าลืมไปดูวันพีซมูฟวี่กันเยอะ ๆ นะคะ




    - 45% -

    เฮ้อ ออกมาข้างนอกแป๊บเดียวเจอเรื่องเฉย

    เป็นนางเอกเรื่องนี้แสนลำบาก


    และขอนอกเรื่องนิดหนึ่งนะฮะ คือมีนักอ่านท่านหนึ่งส่งข่าวมาให้ไรท์อ่าน

    เนื้อความก็ประมาณว่า



    โว้ย มีคนทะเลาะกันว่าเมียใครสวยกว่าจริงด้วยเว้ยเฮ้ย

    โอ๊ย ฮา 55555555 (นี่เค้าอ่านฟิคไรท์ใช่หรือไม่ ไหนตอบ)

    ครึ่งที่เหลือจะมาโดยไวนะจ๊ะ





    มุมขอบคุณนักอ่าน


    พอดีมีนักอ่านผู้น่ารักวาดแฟนอาร์ตมาให้ไรท์ด้วยแหละ

    ยังไงก็ขอขอบคุณ น้องแมมมอธฯ nmreality มากเลยนะฮะสำหรับรูปน่ารักเช่นนี้

    เลิฟยูวค่า






    ─────────────

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×