NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END; ONE PIECE - a million ways to fall in love with you | Doflamingo x Violet/Viola

    ลำดับตอนที่ #34 : Sad story (วันที่เธอจากไป) - 100%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 739
      94
      21 ส.ค. 63



    ตอนที่ 27: Sad story

    (วันที่เธอจากไป)




     


     แสงไฟที่ข้างทางสลับสาดส่องให้ใบหน้าเนียนดูคล้ายเคลื่อนไหว ข้างนอกยังมืดมิดแถมรถสัญจรก็บางตาเสียจนรู้สึกเงียบเหงา ภายในรถไร้เสียง มือหนายกฝ่ามือลูบเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเบา ๆ ยามเจ้าของซบหน้าหลับใหลอยู่บนไหล่เขา

     

    ไวโอเล็ตกำลังอ่อนเพลีย เพราะเมื่อคืนวานจนถึงเช้าตรู่วันนี้พวกเขาทั้งคู่ก็เดินทางโดยไม่หยุดพัก รีบหาเที่ยวบินเร่งด่วนกลับกรุงเทพฯ ก่อนจะบินลัดฟ้าข้ามมายังบ้านเกิดของเจ้าหญิงโดยไม่รั้งรอ

     

    เสียงล้อแล่นไปตามพื้นถนน ยิ่งเข้าใกล้จุดหมายยิ่งดึงให้ใจเขาเต้นระส่ำ ยังคงเฝ้ามองวงหน้านั้นไว้เพราะไม่อาจคิดฝันได้ว่าหากปล่อยเธอผ่านประตูราชวังไปแล้ว เด็กสาวคิดจะทำการสิ่งใด

     

    ฝังจมูกลงหอมคนข้างตัวก่อนจะเอนมองนอกรถครั้นดวงไฟตามทางดึงให้เหมือนหลงอยู่ในเมืองมายา ตั้งแต่ก้าวพ้นสนามบินทั่วทุกหนแห่งต่างประดับประดาด้วยผ้าสีขาวสลับดำ ธงบนเสาถูกลดเอาไว้เหลือเพียงครึ่ง ร้านค้าหรือที่ไหน ๆ ก็ไร้สุ้มเสียงบันเทิงใจ ทั่วทุกมุมกำลังถูกปกคลุมด้วยบรรยากาศสีเทา เพราะทุกคนกำลังตกอยู่ในห้วงอาลัยที่ต้องสูญเสียคนสำคัญของประเทศ

     

    ริคุ สการ์เล็ต

     

    เธอเป็นพระราชธิดาลำดับที่หนึ่ง 1 แห่งราชวงศ์ริคุ เป็นผู้มีสิทธิ์ตามกฎมณเทียรบาลที่จะได้ขึ้นครองราชสมบัติ แต่พระเชษฐภคินีของไวโอเล็ตคงจะไม่อยากได้ เพราะจู่ ๆ นางก็สละฐานันดรแล้วปิดข่าวคราวเงียบหายไป คนรุ่นหลังไม่รู้ว่าเจ้าหญิงพระองค์แรกหายไปไหนหรือไปทำอะไร แต่คนรุ่นก่อน ๆ รู้ แน่นอนราชวงศ์รู้ ...และตัวเขาก็รู้

     

    แต่มาวันนี้เรื่องของเจ้าหญิงที่เงียบหายก็หวนกลับมา กลับมาพร้อมความโศกเศร้าที่รุมทึ้งคนทั้งประเทศให้ต้องหม่นหมอง


    และเขาก็รู้ดีว่าเด็กสาวข้างตัวก็คงมีความรู้สึกนั้นอยู่เต็มหัวใจ

     

    รถจอดสนิทแล้วแต่โดฟลามิงโก้ยังนิ่งอยู่ที่เดิม จ้องมองสิ่งก่อสร้างตรงหน้าที่เขาเคยเข้าไปเยือนมาเมื่อไม่นาน แล้วพลันก้มลงกระซิบบอกเธอเบา ๆ

     

    รถม้าฟักทองมาส่งถึงได้ตรงนี้นะ ตื่นได้แล้ว ...ซินเดอเรลล่า เจ้าหญิงตัวจริงขมวดคิ้วไปนิดก่อนจะผละตัวไปมองนอกรถแล้วก้าวขาออกไปทันที

     

    ขอบคุณที่มาส่งค่ะ หญิงสาวในชุดสีดำจ้องมองอาคารตรงหน้านิ่งแล้วหันกลับมายามอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยมือเธอ ปล่อยมือฉันได้แล้วล่ะน่า

     

    ทั้งคู่สวมชุดสีดำเหมือนกัน แต่ที่เหมือนกันน่าจะมีแค่ชุด เพราะคนหนึ่งมีสีหน้านิ่งสงบแต่อีกคนกลับจดจ้องคนตรงหน้าไม่ลดละ

     

    เหมือนไม่อยากปล่อยมือ เพราะหากปล่อยไปแล้วเธอจะกลับมาหาเขาหรือเปล่า

     

    โดฟลามิงโก้?”

     

    ไว้เจอกัน เจ้าของชื่อพูดเหมือนย้ำเตือนให้เธอกลับมา เด็กสาวยิ้มรับคำก่อนหันหลัง ทิ้งให้เขายืนกลมกลืนไปกับความมืดมิด

     

    เธอจากไป...

     

     



    ………………………

     

     



    แสนคำนึงถึง ทุกย่างก้าวช่างเต็มไปด้วยความทรงจำยามได้กลับมาเหยียบสถานที่ที่เรียกว่าบ้านอีกครั้ง น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวเพราะหันไปทางใดก็พบเจอแต่ภาพวันวานที่อบอุ่นอยู่ในขั้วหัวใจ เหล่าทุกคนในราชวังต่างเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือจะมีความสุขดี

     

    เธอคิดถึง

     

    ไวโอเล็ตพยายามปาดลำธารสายเล็ก ๆ ที่ไหลอาบแก้มพร้อมสาวเท้าเดินเข้าหาคนที่เธอคิดถึง คนที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งที่คิดจะมอบรอยยิ้มให้เขาเห็นเป็นสิ่งแรก แต่สุดท้ายแล้วลูกคนนี้ก็ทำได้เพียงส่งยิ้มหาคุณพ่อทั้งน้ำตา

     

    ลูกคิดถึงคุณพ่อ สองร่างโผเขากอดกันในบัดดล ไม่ต้องมีคำพูดมากกว่านี้ ไม่ต้องมีการแสดงออกมากกว่านี้ ตอนนี้สิ่งที่พวกเธอทำคือกอดอีกฝ่ายให้แน่นที่สุดเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่หายไป

     

    พ่อก็คิดถึงลูก รัชทายาทตัวเล็กกลับมาแล้ว ตอนนี้หล่อนกลับมาพร้อมความสุขเล็ก ๆ ที่ทำให้หัวใจชายชราแบบเขาไม่ต้องทนเจ็บปวดทรมาน

     

    ตอนนี้ลูกสาวคนเล็กกลับมาแล้ว เหลือไว้แค่เพียงลูกสาวคนโตที่จะไม่มีวันหวนกลับคืน

     

     



    ………………………

     

     



    เสียงลูกดอกเจาะบนผนังดังมาเป็นระยะ เข้าเป้าบ้างไม่เข้าเป้าบ้าง อันที่จริงมันจะไปเสียบอยู่ตรงไหนหรือจะไปเจาะหัวกบาลใครก็เรื่องของมัน เขาไม่มีอารมณ์จะมาสนใจ...

     

    ผ่านมาสองวัน เป็นสองวันที่เจ้าพ่อค้าอาวุธเอาแต่นั่งดื่มเหล้าไม่เป็นโล้เป็นพายอยู่ในห้อง ใช้มือขวาปาลูกดอกโง่ ๆ อยู่ในห้องทำงานที่ท่าเรือ มือซ้ายยกบุหรี่ขึ้นมาสูบเมื่อพบว่าตอนนี้เขาต้องเดินออกไปหยิบเจ้าเหล็กปลายแหลมที่ฝังอยู่บนเนื้อไม้หากคิดอยากกลับมาเล่นใหม่

     

    ช่างแม่ง กระแทกเสียงอยู่ในใจก่อนจะยกเท้าขึ้นมาพาดโต๊ะแล้วปล่อยควันสีเทาออกมายืดยาว

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะพลันปรากฏใบหน้าใหญ่ ๆ ของผู้ชายมีหนวดเลอะเทอะทั่วทั้งโครงหน้า

     

    นี่ ๆ ดอฟฟี่ฉันมีเรื่องจะถาม ...เหวอ อะไรเนี่ย!? ทำไมห้องมันเหม็นกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่ขนาดนี้เนี่ย!? ว่าแต่นายเลิกสูบแล้วไม่ใช่เหรอ?” เสนาธิการของกลุ่มร้องโวยวาย เขม็งมองบุรุษผมทองที่นั่งหาเรื่องอยู่ตรงโต๊ะทำงาน ท่าทางนั่งอ้าซ่ายกเท้าไว้บนโต๊ะ แถมยังมองพวกตนด้วยความเย้ยหยันชวนให้หวนนึกถึงดอฟฟี่ของพวกเขาเมื่อสมัยนู้นไม่มีผิด

     

    สมัยก่อนที่จะเปลี่ยนร่างเป็นคิตตี้ตัวเขื่องอยู่นานโข สมัยที่ยังโหดเหี้ยมเดินกลับบ้านด้วยร่างโชกเลือดไม่เว้นแต่ละวัน

     

    มีอะไร?” โดฟลามิงโก้เปลี่ยนท่านั่ง คว้าขวดเหล้ามารินใส่แก้วก่อนกลับไปเอนกายพิงพนักเฝ้ามองทั้งสองคน ตอนนี้คู่สนทนามีสองคนเพราะอีกคนหนึ่งคือ...

     

    ทำอะไรน่ะดอฟฟี่? ฉันว่านายควรจะไปอาบน้ำอาบท่าบ้างนะ หาอะไรรองท้องด้วย เอาแต่กินเหล้าเดี๋ยวกระเพาะก็ทะลุหรอกผู้มาใหม่อีกคนคือพิก้า เจ้าของคำพูดมีโทนเสียงแหลมสูงคล้ายตนเองเป็นนักร้องประสานเสียง ซ้ำยังมีร่างกายใหญ่โตขัดกับผมสีม่วงอ่อนที่ดูน่ารักแบบไม่เข้ากันเลย

     

    พวกแกจะมาคุยเรื่องงานหรือจะมาคุยเรื่องให้ฉันไปอาบน้ำกินข้าว? ถ้าเป็นอย่างหลังก็ไสหัวไป บอสของแฟมิลี่ชักสีหน้าใส่ ก่อนจะพ่นควันบุหรี่ออกมาลอยคลุ้งเหมือนสิงห์อมควัน

     

    ทำตัวไม่สมกับเป็นนายเลยนะ แล้วจะทำท่าหมดอาลัยตายอยากไปทำไม? ก็รู้ทั้งรู้ว่าหล่อนอาจจะไม่กลับมาก็ยังจะเลือกปล่อยไปอีก ...นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วนะ ตัดใจเถอะ นายโดนทิ้งแล้ว ...จ๊าก ๆๆ ร้อน ๆ ไหม้หมดแล้ว!” โดฟลามิงโก้โยนบุหรี่ใส่เทรโบลทันทีตอนมันพูดแทงใจดำ


    โธ่เว้ย! ก็รู้อยู่ ก็รู้อยู่แล้วเว้ย! แต่มันก็...เปลี่ยนมาเทเหล้าลงคอทีเดียวหมดแก้ว แล้วย้อนนึกถึงคำพูดที่ไวโอเล็ตเคยบอกเขาเมื่อตอนนั้น

     

    ...คำพูดที่ทำให้เขายอมให้เธอไป

     

     


    ขอฉันกลับไปประเทศตัวเองนะ

     

    หลังจากเจ้าหญิงพูดจบทุกอย่างก็นิ่งสนิท เขาไม่ทันตั้งตัว ไม่ทันได้เตรียมใจที่จะมาได้ยินคำขอร้องอะไรแบบนี้ จ้องลึกเข้าไปในนัยน์ตาเด็กสาว ลึกเสียจนเห็นตัวเขาเองสะท้อนอยู่ในดวงตาคู่งาม

     

    เธอคิดจะทำอะไร?” เลื่อนปลายนิ้วมาเกลี่ยเส้นผมออกจากวงหน้าพร้อมถามเธออย่างล่องลอย

     

    ฉันตัดสินใจบางอย่างได้นะ แต่ก่อนจะเริ่มฉันอยากขอเวลากลับไปจัดการปัญหาทุกอย่างที่บ้านเท่านั้นเอง โดฟลามิงโก้หยุดมือ ใช้สายตาเฝ้ามองเธออย่างอาวรณ์

     

    ถ้าเธออยู่กับฉัน จะไม่มีทางหักหลังฉัน ฉันจะยอมให้เธอสยายปีกได้เต็มที่ ...เธอรู้ใช่ไหม?”

     

    อือ คุณเคยพูดหลายรอบแล้ว

     

    เธอจะกลับมารึเปล่า?” มันคือสิ่งที่เขากลัว หากปล่อยมือนี้ไปแล้ว หากให้ไวโอเล็ตเป็นฝ่ายเลือกแล้ว... หญิงสาวจะกลับมาหาเขาหรือไม่?

     

    คุณเคยบอกให้ฉันเชื่อใจคุณแต่ตอนนี้ฉันอยากให้คุณเชื่อใจฉัน ...ขอฉันกลับไปประเทศนะคะ ยามนี้เธอเป็นฝ่ายเอื้อมมือขึ้นมาประทับข้างแก้มเขาบ้างแล้ว รอยยิ้มอ่อนหวานถูกถ่ายทอดตอนเธอใช้มันอ้อนวอนให้เขายินยอม เด็กสาวเริ่มจะจับจุดเขาได้เพราะตอนนี้เธอเป็นฝ่ายโน้มหน้าขึ้นมากระซิบกระซาบใกล้ชิดอีกหนึ่งริมฝีปากแล้วล่อลวงกัน

     

    ฉันขอเวลาสักพัก ให้ฉันกลับไปนะโดฟลามิงโก้

     

    “สักพักของเธอคือนานเท่าไหน?”

     

    “...ขอร้องนะคะ ให้ฉันกลับไปประเทศตัวเองนะ

     

     


    แพ้หมดท่า... โดฟลามิงโก้เหม่อมองก้นแก้วที่ว่างเปล่ายามคิดทบทวนเรื่องราวดี ๆ

     

    ...ไม่มีเหตุผลที่เธอจะกลับมา เป็นจริงดังนั้นเพราะนึกย้อนไปดี ๆ ไวโอเล็ตไม่ได้พูดว่าจะกลับมาหากันสักคำ

     

    โดนทิ้ง?’ นี่เขาโดนเธอหลอกงั้นเหรอ? ไม่ ...อาจจะไม่ได้ทิ้ง นี่มันผ่านมาแค่สองวันเอง แต่คิดอีกทีมันก็ผ่านมาตั้งสองวันแล้วต่างหากโว้ยที่เธอไม่ติดต่อไม่เคลื่อนไหวเลย! ตรวจดูสถานที่ก็พบว่ายังอยู่แต่ในราชวัง จะโทรก็ไม่ได้เพราะเขาสัญญาที่จะให้เวลาเธอแล้ว

     

    ไม่กลับมาหากันแล้ว???’

     

    แม่งเอ้ย!!!”

     

    อะไรดอฟฟี่? เส้นทางเดินเรือมันไม่ดีงั้นเหรอ?” พิก้าเลิกคิ้วถามเพราะหลังจากอธิบายเส้นทางหลีกเลี่ยงการตรวจจับให้ฟัง ดอฟฟี่ก็นิ่งเงียบไปเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ก่อนคนเมาจะกระแทกแก้วลงบนโต๊ะแล้วอุทานออกมาเสียจนสุดเสียง

     

    เออ โง่มาก! คิดจะผลาญเชื้อเพลิงกับค่าส่วยสักกี่ด่านถึงจะพอ อ้อมไกลขนาดนั้นไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวขึ้นมาล่องเรือด้วยเลยล่ะ!? ...พอ! ยัดข้อหาให้พวกมันก็หมดเรื่องแล้ว และก็ออกไปกันเลย! คนจะกินเหล้าย้อมใจ!” ผิดคาด... บุรุษสองร่างใหญ่ที่คิดว่าดอฟฟี่ไม่ได้ตั้งใจฟังกลับสับสวิตช์สมองมาแก้ปัญหาให้เสร็จสรรพ แต่ยังไงท่าทางฟาดงวงฟาดงาของเด็กตรงหน้าก็ทำให้เจ้าหนวดอยากแซวไม่เสื่อมคลาย

     

    อะไรเนี่ย!? กู่ไม่กลับแล้วนะดอฟฟี่ ตอนนี้นายนี่มันยิ่งกว่าผู้หญิงมีระดูอีก ...แต่ก็เข้าใจนะโดนเมียทิ้ง เฮะ ๆๆๆ เหวอ!” หากช้าไปเพียงนิดปลายจมูกที่เต็มไปด้วยน้ำมูกอาจต้องโดนขอบแก้วกระแทกหน้า เทรโบลหัวเราะลั่นห้องแล้วรีบพาตัวเองออกไปเพราะดันไปจี้จุดกดชนวนระเบิดเข้าเสียแล้ว

     

    ผู้บริหารระดับสูงที่ยังอยู่นิ่งมองหัวหน้าครอบครัวบ่นพึมพำพลางกระดกน้ำมึนต่อไม่หยุด พิก้าคิดว่ามันดูดิบเถื่อนสมกับเป็นเจ้าพ่อดีแต่ก็คิดว่าปล่อยไปแบบนี้มันน่าเป็นห่วงยังไงพิลึก

     

    พรุ่งนี้บ่ายสองจะมีพระราชพิธีศพของลูกสาวคนโตนะ จัดที่สวนหลวงทางทิศใต้ ทางการประกาศให้คนนอกเข้าไปร่วมงานได้เผื่อนายอยากไป... ชายร่างใหญ่เห็นดอฟฟี่หยุดแก้วในมือไปกะทันหันก่อนจะกลับไปยกมันเข้าปากเหมือนเดิม


    ฉันกลับไปทำงานก่อนนะดอฟฟี่ ...มีอะไรก็บอก แล้วถ้าจะไปก็ไปโกนหนวดให้เรียบร้อยด้วย เดี๋ยวคนจะหาว่านายเป็นผู้ร้ายไปถล่มงานศพเขา

     

    เออดี! คนจะได้รู้ว่าเป็นโจร จะได้ฉุดเมียมาปล้ำให้สมชื่อ โดฟลามิงโก้ทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะถอนหายใจยืดยาว ซดเหล้าปล่อยให้ความคิดมันจมอยู่กับตัวเอง

     

     



    ………………………


     

     


    เธอคือราชนิกุล ทุกท่วงท่ากิริยาช่างดูสง่าผ่าเผยยามอยู่ในชุดสีดำงดงาม เรือนผมสีเข้มถูกเกล้าเป็นมวยปล่อยไรผมข้างหน้าให้เอนไหวตามแรงลม

     

    บรรยากาศในพิธีศพช่างดูเศร้าหมองแต่ก็งดงาม สีฟ้าของดอกไฮเดรนเยียผสมกับสีขาวของดอกเบญจมาศทำให้ทั้งงานคล้ายอยากจะหลั่งน้ำตาแทนทุกคนที่เดินเข้ามา


    สการ์เล็ตแปลว่าสีแดงสด ทุกคนต่างประดับกุหลาบสีนั้นไว้ที่อกเสื้อยามเฝ้ามองพระองค์หญิงที่มีชื่อเดียวกันนิทราสู่ชั่วกัลปาวสาน

     

    ไวโอเล็ตไม่ร้องไห้ ยืนนิ่งมองตรงแน่วแน่โดยมือขวาคอยประคองแขนผู้เป็นพ่อไว้ จำต้องรีบก้มลงไปปลอบโยนเด็กข้างตัวยามอีกฝ่ายทำท่าจะสะอื้นไห้ออกมาอีกครั้ง องค์รักษ์นั้นก็อยู่แต่ตอนนี้กลับดูไม่เหมือนผู้ชายร่างกำยำที่แข็งแกร่งมั่นคง ตอนนี้หมอนั่นกลับยืนน้ำตาไหลเป็นสายเลือดถือไม้ค้ำยันเพราะขาซ้ายใช้การไม่ได้อีกต่อไป

     

    เขาพาให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ โดฟลามิงโก้หรี่ตา... นั่นคือภาพครอบครัวของคนที่เขาอยากให้อยู่ด้วยกันเหรอ? สภาพของคนที่เขารั...

     

    กลับได้แล้ว หยุดความคิดกะทันหัน เอนศีรษะลงกับเบาะแรง ๆ ก่อนจะเอ่ยปากบอกคนขับรถให้กลับไปที่ท่าเรือเสียที ยกฝ่ามือขึ้นมาปิดทั้งหน้าเพราะขนาดเธออยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่หากคว้ามือไปก็ไม่อาจจับได้แม้ปลายเส้นผม ได้แต่เฝ้ามองอยู่บนรถ เฝ้ามองเธอจากในที่ ๆ ไกลแสนไกล

     

    เธอบอกว่าถ้าฉันทำตามความต้องการของเธอ เธอจะทำตามความต้องการของฉัน... เธอบอกให้ฉันเชื่อใจเธอเพราะเธอเคยเชื่อใจฉัน... หากครอบครัวของฉันทำร้ายครอบครัวของเธอ เธอจะกลับมาเป็นครอบครัวของฉันไหม?

     

    หากเธอไม่กลับมาหรือว่านี่จะคือปลายทาง... ที่ฉันควรจะปล่อยเธอไป...




    ………………………

    - 50% -



     

     

    วันที่สี่ ช่างเป็นสี่วันที่ล่วงเลยไปอย่างทรมาน การเฝ้ารอใครสักคนให้กลับมามันบีบคั้นจิตใจถึงเพียงนี้เชียวหรือ? หลอกตัวเองคิดในแง่ดีว่าหลังพิธีศพจบลงเจ้าหญิงจะปรากฏกาย แต่จนแล้วจนรอดแฟรี่ก็คงจะไม่ลดตัวลงมาเกลือกกลั้วโลกโสมมที่ปิศาจร้องขอ

     

    นั่งทับถมกับตัวเองก่อนจะฟังวิทยุออนไลน์ที่พิก้ามันเปิดทิ้งไว้ในคอมฯ แบบเลื่อนลอย

     

    [[ …แต่คนถูกทิ้งก็เป็นอย่างเนี๊ยะ จะมีทางไหนให้ฉันหลีกหนีให้ดีไปกว่าจมอยู่กับน้ำตา... ]]

     

    [[ …แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม เลือกให้เธอไม่ไปได้รึเปล่า... ]]

     

    [[ …เพราะคนไม่จำเป็นก็ต้องเดินจากไป ถึงแม้ว่าภายในใจจะรักเธอแค่ไหน... ]]

     

    [[ …ทำถูกแล้ว ที่เธอเลือกเขาและทิ้งฉันไว้ตรงกลางทาง... ]]

     

    [[ …ขอบใจนะที่ครั้งหนึ่งเธอก็ยอมฝืนใจตัวเอง ขอบใจนะฉันรู้ว่าเธอทำดีที่สุดแล้ว... ]]

     

    ห่าขั่วมึงเอ้ย!!! มีแต่เพลงอกหักรึไง! รวมหัวกันเปิดใช่ไหม? คลื่นอะไรมั่งวะจะยุบให้หมด ...เวร! คนฉุนเฉียวกัดฟันก่อนจะลุกไปจ้องหน้าจอด้วยแรงอารมณ์

     

    คนยิ่งคิด ๆ มากอยู่ด้วยดันมาเปิดเพลงบั่นทอนจิตใจซะเกือบทุกคลื่นเลย!’ แต่ระหว่างที่กำลังระบายโทสะลงบนแป้นพิมพ์ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู


    โดฟลามิงโก้เดินขยี้ผมอย่างหัวเสีย ตลอดสี่วันนี้มีแต่พิก้ากับเทรโบลนั่นแหละที่กล้าขึ้นมา ...ก็ดี เดินมาให้ด่าถึงที่จะได้ระบายอารมณ์เสียหน่อยว่าเปิดเพลงให้หมูหมากาไก่ที่ไหนฟัง

     

    จะฟังเพลงก็ฟังไปคนเดียวสิเว้ย! จะมาเปิดทิ้งไว้ทำ... !!!”

     

    เอ๊ะ ก็ไม่นะคะโทรศัพท์ฉันก็ไม่ได้เปิดเพลงอยู่ ...ว่าแต่ทำไมคุณอยู่ชุดเดิมล่ะเนี่ย?”

     

    ทั้งคู่จ้องกันนิ่ง ตอนนี้ทุกอย่างกำลังหยุดเคลื่อนไหว...

     

    เธออยู่ตรงนี้...? เหมือนหัวใจกำลังหยุดเต้น

     

    เธออยู่ตรงนี้ คนที่เขาคิดถอดใจว่าเธอจะไม่กลับมาหากันแล้ว

     

    ...แต่ตอนนี้เธออยู่ตรงนี้

     

    ไม่ได้ตาฝาดไป เขาไม่ได้คิดไปเอง?’ โดฟลามิงโก้ยกมือขึ้นไปสัมผัสคนตรงหน้าเพราะตัวเขาไม่แน่ใจว่าเธอคือภาพจริงหรือความฝัน

     

    อะไรคะ? เป็นอะไร? ดึงแก้มฉันอยู่นั่นแหละมันเจ็บนะ ไวโอเล็ตหลับตาเอ่ยบอกเพราะจนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็มีสีหน้าตะลึงพรึงเพริดพร้อมหยิกแก้มเธออยู่แบบนั้น

     

    ตัวจริงใช่ไหม?”

     

    ฮึ ๆ ไม่ใช่ค่ะ เป็นตัวปลอมเวอร์ชั่นอัปเกรด ว่าแต่คุณไหวไหมคะเนี่ย? ไปหา...

     

    ...นึกว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว” เหมือนโลกหยุดหมุน ทั้งร่างถูกรวบไปกอด อ้อมแขนนั้นกอดเธอแน่น มันแน่นเสียจนรู้สึกว่าเหมือนเขากำลังอดทนอะไรสักอย่าง สาวน้อยปล่อยให้เขากอดรัดไว้แบบนั้นแล้วหันมองอีกฝ่ายนิด ๆ พลางพูดกลั้วหัวเราะเบา ๆ

      

    อะไรคะเกิดอะไรขึ้น? ทำไมสภาพคุณดูไม่จืดเลยล่ะเนี่ย? ได้อาบน้ำบ้างรึเปล่า... ทำไมหนวดขึ้นเต็มหน้าเลย งานยุ่งเหรอคะ?”

     

    อืม

     

    แปลกจริงด้วย ปกติเห็นเนี้ยบอยู่ตลอดเวลา แบบนี้ต้องถ่ายเก็บไว้แบล็คเมล์ไหมนะ?”

     

    มันไม่มีกะจิตกะใจทำ ...อยากลองไว้หนวดเป็นตัวร้ายบ้าง เดี๋ยวโกนแล้วจะกลายเป็นพระเอก

     

    ฮึ ๆ กลับมาพูดจาแบบเดิมแล้วนี่... ถ้างั้นคุณพระเอกควรจะไปลอกคราบตัวร้ายออกได้แล้วนะคะ... เหม็นกลิ่นเหล้ากลิ่นบุหรี่มากเลยเนี่ย แล้วเดี๋ยวฉันจะหาอะไรให้ทาน โดนฟ้องมาว่าคุณไม่ยอมกินข้าว... เด็กดื้อจะโดนตีนะรู้ไหม?” เจ้าหญิงค่อย ๆ แกะตัวออกแต่ก็พบว่าเขายังคงกอดเธอไว้แน่นเหมือนเดิม


    โดฟลามิงโก้?”

     

    ยอมให้ตีเลย... แต่ขอสักพัก ขอฉันอยู่แบบนี้สักพักนะ อย่าพึ่งไปไหน... คนร่างเล็กปล่อยให้เขาโอบกอดซบไหล่เธอต่อไป ไม่รู้ว่าเขาจะกอดเอาไว้สักหนึ่งชั่วโมงหรือถึงแรมปีแต่เธอก็ปล่อยให้เขาทำ สองมือเคลื่อนมากอดตอบเขาเบา ๆ เพราะจู่ ๆ เวลานี้คนที่แข็งกระด้างเสียจนสุดทนกลับอ่อนไหวเสียจนสุดใจ

     

    ไม่เป็นไร... ฉันกลับมาแล้วนะคะ ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว

     

     เขาดูอ่อนแอ





    ………………………

     

     



    นี่พิก้าแกว่าพาดอฟฟี่ไปเจอเจ้าหญิงอีกสักประเทศดีไหม? เผื่ออาการจะดีขึ้น


    ไม่น่าช่วยได้ น่าจะอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า มาเฟียสองคนยืนกอดอกคุยกัน เฝ้ามองลูกน้องทำงานอย่างขยันขันแข็งครั้นพบว่าเจ้านายกำลังมองดูอยู่

     

    แบบว่าไม่ค่อยชินที่ดอฟฟี่มีหนวด ...นี่ ๆ โจรเลยนะ ไรหนวดขึ้นเขียวเลย ทำไมไม่ keep look เป็นเพลย์บอยต่อล่ะ?”

     

    มีหนวดก็ดูเถื่อนดีออก

     

    แกนี่รสนิยมแปลก ๆ นะ ชายมีหนวดตัวจริงสูดจมูกยามคู่สนทนาตอบรับเสียงหลงในคอ ทั้งคู่ปล่อยบทสนทนาไว้แค่นั้นเพราะต่างจนปัญญาว่าจะบังคับให้คนซกมกลุกขึ้นมาอาบน้ำกินข้าวได้อย่างไร

     

    สุดท้ายแล้วตัวเลือกเดียวที่เหลืออยู่ก็คือไปลักพาตัวเจ้าหญิงออกมาจากหอคอยเท่านั้นนั่นแหละ

     

    ระหว่างที่กำลังยืนจนแต้มอยู่ในท่าเรือก็มีเสียงผู้หญิงเอ่ยทักทาย

     

    เอ่อ สวัสดีค่ะ เจ้าของเสียงถอยหลังไปหนึ่งก้าว นึกกลัวสายตาของชายร่างใหญ่ทั้งสองที่ถลึงขวับมาหาทันที ฉันมาผิดเวลารึเปล่าคะ?”

     

    อ่า! ยัยเจ้าหญิง นึกว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว ไปเลย...ขึ้นไปเลย ช่วยไปดูดอฟฟี่เร็ว ๆ เลย พวกฉันนี้ประสาทจะกินกันอยู่แล้ว ไวโอเล็ตเอี้ยวตัวหลบหยดน้ำมูกที่ลอยคว้างมาก่อนจะยิ้มแหย ๆ ยามอีกฝ่ายพูดอะไรชวนหัวหมุน

     

    อะไรคะ? เกิดอะไร? เขาเป็นอะไรเหรอ?” องค์หญิงเลิกคิ้วก่อนจะโดนมือหนักของพิก้าบีบมั่นที่หัวไหล่มน

     

    วานเธอที ดอฟฟี่นอนเป็นผีตายซากอยู่ข้างบน ...ช่วยไปพูดอะไรหน่อย พวกฉันเป็นห่วงมาก เธอพยักหน้าเข้าใจเพราะนอกจากจะรู้ว่าโดฟลามิงโก้อาการไม่ปกติแล้ว คนที่ชื่อพิก้าที่สาวน้อยพึ่งเคยเจอวันแรก ดันมีเสียงแหลมจนอยากจะพาไปเดบิวต์สักรายการ

     

    ทุกคนในดอนกิโฮเต้มีเอกลักษณ์กันจริง ๆ ด้วย เด็กสาวเดินเกาหัวนิดหน่อย ไม่วายได้ยินทั้งสองคนตะโกนบอกให้เธอบังคับให้ชายหนุ่มกระเดือกข้าวด้วย ก่อนสองขาจะเลือกทิ้งเสียงหัวเราะชั่วร้ายที่ไล่หลังมาแล้วเดินขึ้นชั้นลอยไป

     

    ด้วยเหตุนี้หลังจากเคาะประตูแล้วพลันประจักษ์ร่างของเจ้าพ่อแก่สายตา ทุกข้อสงสัยที่เธอเคยมีมันก็ไขความจริงออกมาหมด

     

    คุณพ่อคะ หลังลูกกลับมาก็เจอมนุษย์โครมันยองตัวเป็น ๆ เลยค่ะ

     

    เอ๋~ ทำไมโดฟลามิงโก้ไว้หนวดแล้วล่ะ!?’

     

     



    ………………………

     

     



    ณ ห้องหรูสไตล์โมเดิร์นคลาสิก กลิ่นอบเชยลอยฟุ้งดึงให้ภายในห้องอบอวลไปด้วยความหอมติดตรึงใจ อุณหภูมินั้นคงที่ ได้ยินเพียงเสียงใบมีดขูดไปตามผิวเนื้อยามสิ่งที่กระทำมันนั้นสำคัญมากกว่าคำพูด

     

    เสียงตีมือดังเพียะกระจายกึกก้อง ขาปูจอมลวนลามจำต้องหยุดชะงักเพราะไม่อาจไต่สะเปะสะปะเข้าหาเนื้อตัวของคนที่นั่งบนขอบโต๊ะได้มากกว่าใจคิด

     

    หึ ๆๆ ที่ตรงนี้มีอดีตโจรขำค้างคอ พยายามยื่นหน้าเข้าคลอเคลียเด็กตรงหน้า แต่สุดท้ายก็ต้องรีบครางเสียงต่ำยามต้นคอถูกสันเหล็กกดเอาไว้เพราะอีกคน ไม่อยากให้ครีมโกนหนวดมันมาเลอะเธอเอาเสียเลย


    อยู่เฉย ๆ สิคะ อยากโดนมีดบาดรึไง?” เจ้าหญิงดุก่อนจะดันคางคนตัวสูงให้หันไปทางอื่น เธอทำหน้าที่ไม่ได้ยามพ่อคุณคิดจะลวนลามทั้งที่มีมีดจ่อคอหอยอยู่

     

    เจ้าพ่อนิ่งค้างแสนจำยอม ไม่มีอะไรจะดีไปกว่ามาขอให้เธอโกนหนวดให้อีกแล้ว และเมื่อเด็กสาวเห็นว่าอีกฝ่ายปฏิบัติตามแต่โดยดี เธอจึงเริ่มทำหน้าที่อีกครั้ง

     

    หึ ๆๆ โดฟลามิงโก้ขำอีกแล้ว ไวโอเล็ตทำหน้าปลดปลง เกิดหมั่นไส้ขึ้นมาก ๆ เดี๋ยวก็เอามีดโกนปาดคอเสียเลย ไม่เข้าใจว่าทำไมเขายอมให้เธอเอาของอันตรายมาจี้ลูกกระเดือกแบบนี้ นี่ไม่กลัวตัวเองขึ้นข่าวหน้าหนึ่งรึไง ...แต่เป็นข่าวหน้าหนึ่งในเรื่องฆาตกรรมน่ะนะ

     

    ให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้เข้าใจยากจริง ๆ

     

    หลังจากปล่อยให้มนุษย์โครมันยองกอดอยู่นานสองนาน คนดึกดำบรรพ์ก็ยอมนั่งรถกลับโรงแรมแต่โดยดี นึกโล่งใจคิดว่าห้องพักเขามันจะคลุ้งไปด้วยกลิ่นอบายมุขเหมือนท่าเรือเสียที ...นับว่าโชคดีที่ไม่ใช่ พูดให้ถูกน่าจะบอกว่าเขาน่าจะไม่ได้กลับมาใช้เลยมากกว่า เพราะทุกอย่างมันเหมือนพึ่งเข้ามาเช็คอินไม่ผิดเพี้ยน

     

    ไวโอเล็ตเดินเล่นมั่วซั่วไปทั่วห้อง เห็นแล้วว่าอีกคนเตรียมตัวจะเข้าไปอาบน้ำ เธอจึงตัดสินใจออกไปข้างนอกดีกว่า แต่ระหว่างที่ขาใกล้ถึงหน้าประตูห้อง เอวเธอก็ถูกสวมกอดเอาไว้ทันที...

     

    พยายามจะหันกลับไปมองแต่ก็ทำไม่ได้เพราะโดนมืออีกคนรวบปลายเก็บไปด้านซ้าย ก่อนเขาจะฝังริมฝีปากชื้น ๆ เข้ามาที่หลังต้นคอ

     

    จะไปไหน?”

     

    นึกว่าเข้าไปอาบน้ำแล้วเสียอีกนะต่างคนต่างเงียบ แต่ทว่าก็เพียงไม่นานเพราะคนที่เป็นฝ่ายยอมแพ้ก่อนก็คือเธอ ไวโอเล็ตเขยิบตัวพลิกกายหนียามคนด้านหลังเริ่มจะไม่จบเพียงแค่การกอด “…อือ ไม่ได้ไปไหน ฉันแค่จะลงไปซื้อของข้างล่างเท่านั้นเอง

     

    แน่นะ... งั้นซื้อครีมโกนหนวดสูตรอ่อนโยนต่อคุณผู้ชายมาด้วย ใช้ของโรงแรมไม่ได้ผิวหน้าฉันบอบบาง

     

    หน้าบอบบาง? ใครเขาบอกคุณเนี่ย?’ เจ้าหญิงไม่ต่อล้อต่อเถียง รีบตกปากรับคำก่อนจะลงไปซื้อของด้วยความรวดเร็ว แต่พอกลับขึ้นมาสุดท้ายเธอก็ต้องมานั่งโกนหนวดให้เขาแบบที่กำลังทำอยู่ตอนนี้

     

    นึกว่าจะทำเองเสียอีก เลี่ยงไม่ได้เลยสิเนี่ย?

     

    ไวโอเล็ตใช้สมาธิ นัยน์ตาคู่คมมองหญิงสาวไม่วางตายามเธอจดจ่ออยู่กับกรอบหน้าเขา

     

    ...เธอตัดผม กลับไปตัดเป็นผมสั้นที่ละอยู่แถวต้นคอแบบเดียวกับที่เคยเจอวันแรก แม้จะเป็นทรงเดียวกันแต่ในใจก็เฝ้าบอกว่ามันดูต่างไป ...เธอดูโตขึ้น นิ้วยาวเกี่ยวปอยผมขึ้นมาแบบเผลอใจ คิดจะเอ่ยทักตั้งแต่แรกแต่ก็ไม่ได้ถามมาจนถึงตอนนี้

     

    ฉันตัดผมนะ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ทำตามที่คุณบอก คนฟังทอดมองใบหน้าเธอ ยิ้มตอบตอนเธอส่งยิ้มมาให้ หักห้ามใจไม่ได้ทุกครั้งไปเวลาที่เธอยิ้มให้ทีไรเป็นอันต้องตอบรับอยู่ร่ำไป

     

    อืม แต่หลังจากนี้ห้ามตัดอีกเข้าใจไหม?”

     

    ครับผม ...เอาล่ะ เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ตัวประกอบ C เลื่อนขั้นมาเป็นตัวประกอบ B แล้วนะ หนวดไม่มีแล้ว ภารกิจแปลงโฉมเจ้าพ่อเสร็จสิ้น สาวน้อยเอียงคอดูผลงานตัวเองก่อนส่งสีหน้าบอกให้เขาไปล้างหน้าด้วย เพราะถ้าเธอจำไม่ผิดรู้สึกคนในครอบครัวโดฟลามิงโก้จะตะโกนบอกให้เธอพาเขาหาข้าวหาปลากิน

     

    ชายโดนสั่งน้อมรับคำ พลิกตัวหันหลังเข้าห้องน้ำปล่อยให้เด็กสาวนั่งเช็ดมีดโกนอยู่ที่เดิม

     

    ไม่บ่อยนักที่เขาจะอาบน้ำนาน สาวน้อยพิลึกใจเพราะจวบจนเธอซื้อของเสร็จแล้วกลับขึ้นมาตระเตรียมวัตถุดิบพร้อมนั่นแหละ เจ้าพ่อถึงจะนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมายื่นมีดโกนส่งให้เธอ

     

    ไวโอเล็ตเก็บด้ามโลหะให้เรียบร้อย รีบหมุนตัวไปเตรียมอาหารให้พร้อมก่อนเขาจะออกมา วางถ้วยสีขาวไว้บนโต๊ะยามทุกอย่างปรุงเสร็จ หางตาเหลือบไปเห็นมือคนเอาเสื้อมาวางพาดบนเก้าอี้ ก่อนจะต้องร้องเสียจนหลุดบุคลิกยามเห็นการกระทำจาบจ้วงของอีกคน

     

    เย้ย! อะไรเนี่ย!?” ดวงตาเบิ่งโต หันคอหนีแทบไม่ทันเพราะเจ้าของห้องไม่ยอมทำตามสามัญสำนึกของคนธรรมดาทั่วไป นี่มันครั้งที่เท่าไรแล้ว... ทำไมเขาต้องมายืนแก้ผ้าแต่งตัวต่อหน้าเธอด้วย!?

     

    เย้ยเหรอ? ศัพท์ตกใจแต่ละคำของเธอนี่ตลกดีนะชีกอพูดกลั้วหัวเราะ จงใจโยนผ้าเช็ดตัวไปทางเด็กตัวแดง ยิ่งอารมณ์ดีขึ้นไปอีกตอนเด็กสาวตกใจเอี้ยวตัวหลบเสียจนโอเวอร์

     

    ทำไมคุณไม่แต่งตัวในห้อง?”

     

    กลัวเธอหาย ต้องมายืนเฝ้าไว้ก่อน จงใจเดินเข้าใกล้ก่อนจะหยุดสวมกางเกงแล้วรูดซิปเสียงดัง จะเขินไปทำไม? ก็เคยเห็นไม่ใช่เหรอ? แถมทำมากกว่าเห็นด้วย

     

    ลามก หันมาถลึงตาใส่เพราะเห็นว่าเขายอมสวมท่อนบนแต่โดยดี หากไม่ใส่แม้เพียงกางเกงเธอจะไม่หันไปมองให้เขินอายหรอก

     

    แล้วทำอะไรให้ฉันกิน?” โดฟลามิงโก้ว่าพลางพับแขนเสื้อขึ้น ที่จริงเขาก็ถามไปงั้นเพราะเห็นแล้วว่าหล่อนทำอะไรให้เขากิน

     

    ข้าวต้มกุ้ง คุณไม่ได้ทานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมาหลายวันไม่ใช่เหรอ? กินอะไรอ่อน ๆ ไปก่อนนะ

     

    อืม

     

    อ่ะ นี่ค่ะ

     

    อืม

     

    อะไรคะ... ไม่อยากกินข้าวต้มเหรอ?” มือบางเลื่อนชามให้ นึกสงสัยว่าโดฟลามิงโก้ไม่ชอบอาหารเหลว ๆ หรือเปล่าเขาถึงได้เสตาไปทางอื่น

     

    อืม...แบบว่า ป้อนหน่อยได้ไหมคะ?” ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม รีบรั้งเอวบางไว้แนบตักยามไวโอเล็ตทำท่าจะเดินหนี

     

    เฮ้อ... กินเองนะคะ จะบอกว่าไม่มีแรงคงไม่ใช่เพราะตอนนี้ก็เห็นปกติดี

     

    ไม่ปกติเพราะสี่วันมานี้เธอทำให้ฉันไม่เป็นผู้เป็นคน ต้องรับผิดชอบ

     

    ฉันไปจับคุณมัดไว้ไม่ให้อาบน้ำกินข้าวรึไง?”

     

    เธอจับฉันมัดไปกับเธอต่างหาก สาวโดนใส่ความทำหน้าล้อเลียนก่อนจะหัวเราะขึ้นจมูก

     

    เจ้าชู้ เอ๊ย! ปากหวานจริงด้วย ...แต่ถึงยังไงก็กินเองนะไม่ป้อนหรอก เธอไม่ตกหลุมพรางหรอก เขาอ้างเหตุผลโดยเอาสีข้างเข้าถูชัด ๆ แค่เธอกลับบ้านแล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับกินข้าวกินน้ำไม่ลงกัน ...อ้อนน่ะสิ

     

    ก็ได้ ไม่ป้อนก็ได้... แต่ไม่กินแล้วทำอย่างอื่นดีกว่า อย่างที่เธอบอกนั่นแหละฉันยังเหลือแรงอีกเยอะ มาเถอะ เราไปนอนคุยกันบนเตียงนะ…” รีบเอาช้อนกระแทกปากเขาทันที!

     

    ไวโอเล็ต!”

     

    อ๊ะโทษทีค่ะ เห็นคุณอยากให้ป้อนก็เลยป้อนให้แล้วนี่ไง ทำไมไม่เปิดปากล่ะคะ? แบบนี้ช้อนมันก็กระแทกปากหกหมดสิ ...มาเดี๋ยวเช็ดให้นะ สาวน้อยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะหันมาเช็ดปากให้เป็นการเอาใจ บางทีเขาก็ชอบพูดอะไรโจ่งแจ้งจนเธอต้องสรรหาของมาอุดปากเขาเสียเลย

     

    งามหน้านัก!? คิดจะหาเรื่องกันใช่ไหม!?” ตบฝ่ามือลงบนโต๊ะก่อนจะมองหาเรื่อง กล้าดียังไงเอาช้อนมาตีปากเขา!

     

    กินอีกคำนะ ดูสิกุ้งตัวโตจะตาย เดี๋ยวเป่าให้นะคะ รีบยิ้มหวานก่อนจะบรรจงเป่าแล้วยื่นให้เขา อ้าปากสิคะ ป้อนให้แล้วนี่ไง

     

    อีกหนึ่งคดี โดฟลามิงโก้คาดโทษแม่ตัวดีไว้อีกครั้งแต่ก็ยอมเปิดปากรับของที่อยู่ในมือเธอไปกิน สายตาจดจ้องคนบนตักไม่ว่างเว้นก่อนจะคิดว่าเดี๋ยวนี้เจ้าหญิงใช้ลูกอ้อนเก่งมาก

     

    เล่นมาทีทำเอาเขากลายเป็นเด็กอนุบาลที่พึ่งเคยเจอเพศตรงข้ามอย่างไรอย่างนั้น

     

    เด็กอนุบาล...?

     

    เฮ้ยเดี๋ยวนะ! ฉันคือดอนกิโฮเต้ โดฟลามิงโก้ ชายผู้รวยรูปแถมรวยทรัพย์ ผู้หญิงทุกคนต้องหลงเสน่ห์ฉัน! ไม่ใช่นั่งเอ๋อเป็นเด็กภูมิต่ำแพ้ลูกอ้อนแบบนี้!’

     

    อะไรติดผมคุณน่ะ ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ สัมผัสอยู่ที่ปลายเส้นผม ก่อนเด็กสาวจะเป่าออกไปด้วยท่วงท่าละมุนละไมพร้อมส่งยิ้มมา

     

    อืม เปลี่ยนใจเป็นเด็กอนุบาลดีกว่า เผลอลวนลามไปสาวจะได้ไม่โกรธ

     

    แล้วคุณคิดจะกลับไปกรุงเทพฯ เมื่อไหร่คะ?” ไวโอเล็ตเอ่ยถามเพราะอยู่ดี ๆ โดฟลามิงโก้ก็หัวเราะตลอดระหว่างโดนป้อนข้าว ...เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก

     

    เราต้องกลับกรุงเทพฯ แล้วก็เมื่อไหร่ก็ได้ที่เธอพร้อมต้องอยู่ทำอะไรอีกรึเปล่า?” ยื่นหน้าเข้าไปรับข้าวต้มคำสุดท้ายพร้อมจ้องมองเธอแบบมีนัยยะ

     

    ไม่มีแล้วล่ะค่ะหือ อะไรคะ?” เธอกำลังจะยกถ้วยไปเก็บแต่ต้องหันตามแรงยามโดนเชยให้มาสบตา ทั้งสองมองกันนิ่งก่อนชายหนุ่มจะพูดอะไรให้เธอต้องส่งยิ้มบาง ๆ

     

    นึกว่าเธอจะไม่กลับมาแล้ว

     

    อืม ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะกลับมาเหมือนกัน ในเมื่อฉันทำตามที่คุณบอกแล้ว ถ้างั้นก็...

     

    ตามสัญญา

     

    ค่ะ ตามสัญญา

     

    อย่าทำแบบนี้อีกนะ สายตาเด็กสาวอ่อนลง ก่อนจะนิ่งงันรอรอยประทับที่เขายื่นเข้ามาตีตราบนหน้าผาก

     

    รอยประทับที่บ่งบอกว่าตอนนี้ทั้งเธอและเขาได้ทำตามคำมั่นที่เคยให้ไว้แก่กันแล้ว...

     

    เชื่อใจฉันนะ หลังจากนี้ฉันจะทำให้เธอเห็นว่ามันจะไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีก ใช้นิ้วโป้งคลึงริมฝีปากจากซ้ายไปขวา แล้วจ้องมองมันครั้นรู้สึกอยากครอบครอง เลื่อนสายตามองวงหน้านั้นไว้ก่อนจะถามเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    ...แต่ก่อนหน้านั้น ฉันมีเรื่องสำคัญต้องถามเธอ

     

    อะไรคะ?”

     

    ฉันโกนหนวดแล้วดูเป็นพระเอกรึยัง?”


    จะเป็นตัวร้ายที่โดนยิงตายเพราะคุณเล่นมุกแบบนี้นี่แหละค่ะ เด็กสาวหลุดขำจนยั้งไม่อยู่ ไม่ทันได้เตรียมตัวตั้งรับมุกหลงตัวเองแบบนี้ เสียงหัวเราะแสนกังวานดึงให้คนนั่งฟังต้องเกิดความรู้สึกนั้นขึ้นมาอีกครั้ง

     

    อ่า ความรู้สึกนี้แหละ ความรู้สึกแบบนี้...

     

    หากจะหาความเป็นสุภาพบุรุษจากตัวเขามันคงไม่เจอ แต่หากเป็นการเย้าหยอกให้เธอต้องหลุดยิ้มงดงามแบบนี้ล่ะก็

     

    เชื่อเถอะ... เขามีมันล้นอยู่ภายในใจนี้

     





    ───────────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ


    - 100 % -


    แชร์เพลงเก่ง (คนเขียนเนี่ย)

    ตอบเพลงถูกไม่มีรางวัลให้ เพราะมีแต่ใจให้ไปไม่คิดอะไร


    คำว่าห่าขั่วมึงเอ๊ย เป็นคำอุทานภาษาอีสาน

    มิงโก้อุทานภาษาอีสาน(?) Naniii~


    และมนุษย์โครมันยอง(?)



    - 50 % -

    เหงาก็เลยมาอัพให้เล็กน้อย

    เพราะเจ้าพ่อโดนทิ้งก็เลยอยากให้ได้อ่านกัน


    ฉากกลับบ้าน เป็นฉากบรรยายน้อยแต่ความรู้สึกมันมากมายเลยนะ


    และพระองค์หญิงช่างสง่างามมาก



    (เครดิตนักแสดงชาวจีนชื่อ: Dilraba Dilmurat)


     ─────────────

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×