คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : Behind the scenes (ความรู้สึกข้างใน) - 100%
ตอนที่ 14:
Behind the scenes
(ความรู้สึกข้างใน)
ไวโอเล็ตนั่งกุมขมับ
กำลังเค้นหัวสมองคิดอย่างหนักหน่วงในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เธอนั่งรออยู่
...กำลังนั่งอยู่บนวีลแชร์รอคนอื่น ๆ มาหาที่หน้าโรงพยาบาล
สาวน้อยกำลังท้อแท้
ไม่เข้าใจว่าตนเองลืมไปได้อย่างไรว่าเคยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ตั้งหลายหน
...เธอลืมมันไปได้ยังไงกันนะว่าค่ารักษาในโรงพยาบาลนี้มันแพงมาก!
เธอนอนโคม่าตั้งห้าวันแถมยังต้องนั่ง ๆ
นอน ๆ อยู่ที่นี่เป็นอาทิตย์อีก แถมคนในแฟมิลี่ก็ช่างแสนดีเหลือเกิน
บังคับเธอให้นอนในห้องหรูหราแสนอลังการ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ ...จะออกก็ออกไม่ได้อีก
ไม่ต้องดูก็รู้ว่าค่ารักษามันจะแพงหูฉีกขนาดไหน!?
เหมือนน้ำตากำลังไหลเลย
...ตั้งแต่มาอยู่ใต้อาณัติของดอนกิโฮเต้แฟมิลี่ นอกจากหนี้เธอจะไม่ลดลงแล้ว
นับวันมันมีแต่จะพุ่งสูงขึ้นจนทะลุฝ้าเพดาน
“อือ ขายไตดีไหมนะ?” เด็กสาวซบหน้าลงกับฝ่ามือก่อนพูดจาบั่นทอนจิตใจ
หันหลังกลับไปมองตอนได้ยินเสียงคุ้นหูลอยตามลมมา
คนในแฟมิลี่กำลังเดินมาหาแล้ว เจ้าหญิงหรี่ตาลงหนึ่งข้าง
แอบเห็นว่าชายผมทองเดินตัวลอยคล้ายคนไม่เจ็บป่วยก่อนจะทำท่าเซแล้วให้กลาดิอุสคอยพยุงให้ตอนมองเห็นเธอ
“ไงไวโอเล็ต ดีใจไหมจะได้กลับบ้านแล้ว? เธอไม่อยู่ตั้งหลายวันต้นไม้ที่บ้านเหี่ยวหมดแล้ว”
“อืม แต่เบบี้ไฟว์ วันนี้ไม่ไปเรียนเหรอ?” หญิงสาวถามกลับ
เพราะเพลานี้มันเลยเวลาเคารพธงชาติไปสักพักแล้ว ...เด็กมัธยมไปสายเกือบทุกวัน
ครูประจำชั้นจะไม่เรียกเธอไปดุเหรอ?
“ขอลาเช้าไง-ดัสยัน
เดี๋ยวรถมารับแล้วฉันก็ต้องไปส่งเบบี้ไฟว์ที่โรงเรียนเหมือนกัน”
“พูดถึงรถจะว่าไปคนขับมาช้าจัง ไปติดไฟแดงอยู่ที่ไหนรึเปล่า?” กลาดิอุสเปรยเบา ๆ
ขณะหิ้วปีกนายน้อยที่ยืนอมยิ้มเหล่สาวแขนหักเหมือนเฝ้าคอยอะไร
จะว่าไปมันก็ช้าจริง ๆ
...สิบห้านาทีผ่านไปรถก็ยังไม่มา
บุรุษผมสีฟ้าเริ่มจะลุกลี้ลุกลนเพราะตัวเองต้องรีบไปทำธุระต่อ
โดฟลามิงโก้เห็นอาการดังนั้นจึงไล่พวกก้างขวางคอให้กลับไปใช้ชีวิตกันได้แล้ว
“มีธุระก็ไปทำเถอะ”
“นายน้อยไหวแน่นะครับ?”
“นิดหน่อย” ไม่พูดเปล่าคนสูงกว่าก็ผละร่างออกแล้วไปยืนคล้ายคนหมดแรงอยู่ข้าง ๆ
ตัวไวโอเล็ต
ก่อนสายตาหลังแว่นกันแดดจะเฝ้ามองเด็กสองคนกระโดดขึ้นซ้อนบนมอเตอร์ไซค์คันจิ๋ว
“เดี๋ยว! พากลาดิอุสไปด้วย”
“เอ๋!”
“ซ้อนสามไม่เป็นไรเหรอ-ดัสยัน?”
“ถ้าฉันบอกว่าได้ก็คือได้ ...จำชื่อตำรวจมาถ้านายโดนใบสั่ง” เจ้าหญิงมองเห็นกลาดิอุสอ้าปากไปนิดหนึ่งก่อนขึ้นไปเบียดเสียดยัดเยียดกันบนยานยนต์สองล้อ เสียงโหวกเหวกโวยวายดังลั่น
ก่อนจะมองตามกลุ่มก้อนประหลาดที่ขับเคลื่อนพาหนะออกจากโรงพยาบาลไปด้วยความทุลักทุเล
‘รู้งี้ขับมอ’ไซค์มาเองก็ดีหรอก’ วินาทีนี้ไวโอเล็ตเดาว่ากลาดิอุสต้องคิดในใจแบบนี้แน่นอน
มองส่งทั้งสามคนออกไป
เผลอตัวสะดุ้งตอนโดฟลามิงโก้โค้งตัวลงมายันมือกับพนักแขนทั้งสองข้าง อยู่ดี ๆ
เขาก็โน้มตัวลงมายืนซ้อนหลังเธอเฉยเลย
“ขอพิงหน่อย รู้สึกไม่ค่อยมีแรง”
“คุณมานั่งแทนไหมคะ?”
“ไม่อยากนั่ง อยากยืน” ชายร้อยเล่ห์รีบแสดงความจำนง
ก่อนซบหน้าลงบนหัวไหล่บางแล้วแน่นิ่งอยู่แบบนั้น
สาวน้อยเอียงคอเพราะเธอได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ
ชวนพิศวง เลือกปล่อยให้เขาใช้บ่าเธอเป็นที่พักพิงแล้วเฝ้าดูที่ทางเข้าว่ายามใดกัน
...คนขับรถถึงจะเข้ามาหาเสียที?
ทว่านั่งสงบได้ไม่นานร่างกายต้องรีบลุกตามคนสูงกว่ายามเขาเงยหน้าพรวดแล้วขึ้นไปยืดตัวตรง
โดฟลามิงโก้ทำท่าจะล้มเล็กน้อยประหนึ่งคนไร้เรี่ยวแรง
ก่อนจะแกล้งทำสำออยเรียกคะแนนความสงสารไปแบบไม่มีลิมิต
“ไหวไหมคะ?” รีบเข้าไปประคองเอาไว้
แสนกลัวว่าหัวชายหนุ่มจะโหม่งโลกแล้วสิ้นใจไป
“ไม่ไหว ช่วยพยุงหน่อย ...เมื่อกี้หัวเกือบฟาดพื้นแหนะ อันตรายมาก” อีกฝ่ายซ่อนยิ้ม
ตวัดแขนโอบรอบไหล่บางตอนตัวเองโดนเจ้าหญิงเอื้อมมือมาประคองที่เอวแผ่วเบา
โดนเธอกอดซะแล้ว...
กำลังนึกสงสัยว่าหากแขนขวาเธอว่าง ข้อมือตนก็คงจะโดนเจ้าหล่อนเอื้อมไปคว้าแน่นอน
พยายามไม่ทิ้งน้ำหนักมากเกินไปเพราะรับรู้ว่าเธอจะทนรับไม่ไหว
“รถยังไม่มาเลยนะคะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า?” เห็นแม่เต่าน้อยชะเง้อคอมองอย่างสงสัย
‘ให้ตายสินะ ช่างไม่รู้ตัวเลย’ ...เธอช่างไม่ได้รู้ตัวเอาเสียเลยว่าตัวเองกำลังโดนแต๊ะอั๋งทางอ้อมอยู่
ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ตอบก่อนจะค่อย ๆ ฝังหน้าลงกับเรือนผมสีเข้ม
แม้นหางตาจะเห็นว่ามีรถใครสักคนแล่นเข้ามาแล้ว แต่เขาก็ไม่สนใจ...
เลือกปล่อยให้ตัวเองได้ฉกฉวยความขี้สงสารจากเธอให้เต็มที่ก่อน
เด็กสาวมองรถสีดำป้ายแดงที่เข้ามาเทียบท่าแล้วละสายตาจากไป
เธอไม่ใส่ใจเพราะมันไม่ใช่รถของเจ้าพ่อมาเฟีย
ถึงจะยี่ห้อเดียวกันรุ่นเดียวกันและสีเดียวกันอีกก็เถอะ
แต่ว่ารถคันนี้มันปีใหม่กว่า...
ทว่าความนึกคิดต้องปลิวหายยามคนที่เปิดประตูออกมาดึงให้ไวโอเล็ตทำสีหน้าสุดจะบรรยาย
“โทษทีครับพอดีรถติดหนักมาก... อ้า สวัสดีครับคุณไวโอเล็ต
แล้วก็นายน้อยอยากให้ผมช่วยพยุงขึ้นรถไหมครับ?” องค์หญิงตาโต
เธอกำลังจ้องมองคนกล่าวด้วยความรู้สึกตื้นตันใจก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้
แสนดีใจว่าคนขับรถของโดฟลามิงโก้ยังไม่ตาย และก็แสนตกใจว่าคุณเจ้าหนี้มีเงินมากขนาดไหนกัน เขาถึงเลือกที่ซื้อรถใหม่แทนที่จะเอาไปซ่อม
“หึ ๆ อึ้งละสิ... รถใหม่ฉันสวยไหม? ยอมให้เธอมานั่งเจิมคนแรกเลยนะ”
“คนนั่งคนแรกคือคนขับรถของคุณต่างหากล่ะคะ”
“แหะ ๆๆ นุ่มสบายสุด ๆ เลย ...จึ๋ย!” ลูกกะจ๊อกรีบมุดหัวหลบตอนโดนรังสีอาฆาต ก่อนจะกระวีกระวาดไปเปิดประตูรถให้เจ้านาย ...คนขับยืนเงอะงะ
หาช่องเข้าไปช่วยไม่ค่อยได้เพราะคนตัวสูงกว่าไม่ยอมให้ถูกเนื้อต้องตัว
แถมสุดท้ายยังโดนบาทาประทับเป็นของชำร่วยอีก เพราะดันเผลอไปสัมผัสถูกนวลเนื้อแม่สาวงามเข้า
‘ขี้หวงจังนายน้อยเรา’ คนโดนถีบเดินแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์เนื่องจากร่างตนก็โดนยิงพรุนมาเหมือนกัน รีบก้าวขาอ้อมไปประจำที่คนขับแล้วพารถยนต์ป้ายแดงออกจากที่ตรงนี้ไป
...แสนข้องใจว่ารถรุ่นนี้ที่นั่งตอนหลังมันไม่สบายหรืออย่างไรนะ? นายน้อยถึงได้เอนตัวพิงคุณไวโอเล็ตแทนที่จะนั่งเอนกายสบาย ๆ บนเบาะนุ่ม ๆ แทน
‘แบบนี้เรียกว่าอ้อนรึเปล่านะ?’ เก็บคำพูดเอาไว้
เพราะตอนนี้ตนเองมั่นใจว่ายังอยากมีชีวิตอยู่
ไม่อยากให้ยมบาลมาจีบอีกเป็นครั้งที่สองในเร็ววันแน่นอน
………………………
“อยากอาบน้ำ” โดฟลามิงโก้โพล่งขึ้นทันควันหลังโดนสาวน้อยหิ้วเข้ามาในบ้าน
ไวโอเล็ตมองซ้ายมองขวาก่อนจะมีใบหน้าซีดเผือดเพราะหล่อนไม่อยากทำตามคำสั่ง
...มันดูคล้ายเธอจะเสียเปรียบยังไงชอบกล!?
“เดี๋ยวเรียกสาวใช้ให้นะคะ”
“ไม่ เธอต้องดูแลฉันเพราะเธอทำฉันเจ็บ ...เอาน่า แค่อยากอาบน้ำเอง
เปิดน้ำใส่อ่างมันไม่ได้ยากอะไรหนิ?”
“งั้นคุณก็น่าจะทำเองได้”
“เมื่อกี้ว่าไงนะ?” เด็กสาวแกล้งทำหน้าเหลอหลาประหนึ่งตนไม่ได้เอ่ยเถียงอะไร
ก่อนจะขืนตัวไว้เล็กน้อยยามโดนเกี่ยวให้เดินตามแล้วมาจบลงที่หน้าประตู
“เอ่อ... ฉันว่าฉันไปเรียกคนมาทำให้ดีกว่าค่ะ” พยายามจะแกะร่างตัวเองออกแต่ก็โดนโอบไว้แน่น เธอเผลอกัดฟันเบา ๆ
เพราะตนเองไม่อยากเข้าไป
...สาวน้อยไม่อยากเข้าไปในที่ ๆ
ฝันร้ายมันเริ่มต้นขึ้น
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ฉันแค่อยากให้เธอช่วยดูเท่านั้นเอง
ตอนนี้ไม่ค่อยมั่นใจสภาพร่างกายตัวเองเลย กลัวจะเผลอลื่นหัวทิ่มฟาดขอบอ่างตาย
...สมองไหลตายคาห้องน้ำเลยนะ นึกสภาพดูสิ? มันไม่น่ามองเท่าไหร่เลย”
“ไม่เห็นจะต้องบรรยายบทการตายขนาดนั้นเลย”
“กลัวผีเหรอคะ?”
“แล้วทำไมตีความเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะคะ?”
“ไม่เอาน่า ไม่ร้อง ผีมีจริงที่ไหน มา...เดี๋ยวจูบปลอบขวัญให้” ไม่พูดเปล่าก็ฝังจมูกโด่งลงขมับสาวน้อยทันที
จำต้องรีบผละหน้าออกมาโดยด่วนเพราะดันโดนแม่คนงามหันมาขมวดคิ้วใส่
“ก็บอกว่าไม่ได้กลัวไงคะ”
“อืม ๆ แต่ฉันกลัว อยู่เป็นเพื่อนหน่อยนะ ห้องมืดน่ากลัวจัง ...บางทีผีร้ายก็ชอบมาให้เห็นแบบไม่ทันตั้งตัว” ไวโอเล็ตมองเขานิ่ง กำลังพิจารณาอยู่ว่าอีกฝ่ายพูดเล่นหรือพูดจริง
…เผลอหลุดอุทานประหลาด
เพราะรู้ตัวอีกที ทั้งเธอและเขาก็เข้ามาอยู่ในห้องเรียบร้อยแล้ว
‘โอ๊ย! ตอนไหนเนี่ย!?’ ลนลานรีบหาทางรอด
แต่ก็ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะน่าหมั่นไส้ก่อนร่างจะโดนพาให้เดินลึกเข้าไปด้านใน
เธอหวั่นเกรง
พยายามบังคับตัวเองไม่ให้หันไปมองเตียงกว้าง
นึกเบาใจที่เขาพาเธอเดินผ่านไปแบบไม่มีเหตุการณ์ชวนระทึกขวัญ
“กลัวอะไรหือ? ...รู้หรอกน่าว่าเธอคิดอะไรอยู่
แต่บอกเลยนะว่าถ้าฉันจะทำจริงที่ไหนก็ทำได้ทั้งนั้น
ไม่จำเป็นต้องลำบากพามาถึงในห้องหรอก... หึ ๆๆ ของแบบนี้มันต้องเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”
“จะอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นคะ?”
“เปลี่ยนเรื่องเก่งจัง ...น้ำอะไรก็ได้แต่อยากให้เธอเข้าไปอาบให้น่ะได้ไหม?”
“หมอบอกแผลฉันห้ามโดนน้ำ”
“ก็ไม่ได้จะให้ลงไปทั้งตัวหนิ แขนเหลือตั้งข้างหนึ่งน่ะ
ใช้เป็นไหม?” เลือกยิ้มเบา ๆ หวังให้เธอคลายความกังวลแต่ดูเหมือนผลมันจะตรงข้าม
แม่ตากวางหลุบสายตาหนีก่อนจะหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“ล้อเล่นน่า ...ยืนรอตรงนี้นะ” เอนกายพิงผนังยามพาเดินมาถึงจุดหมาย
ปล่อยสายตาให้ทอดมองร่างบางเดินไปทำหน้าที่ของตนด้วยแววตากะลิ้มกะเหลี่ย
‘มันน่าปล้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด’ ตอนนี้คงได้แต่คิดเพราะถ้าทำจริง
มีหวังเขาต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่แบบติดลบเป็นแน่แท้
ไวโอเล็ตก้มหน้าก้มตาปฏิบัติภารกิจให้เสร็จ ๆ
จริงอยู่ที่เธอทำให้เขาบาดเจ็บแต่ชักคิดว่าอีกฝ่ายใช้งานสาวแขนเดี้ยงหนักข้อไปหน่อย
เด็กสาวปล่อยความคิดให้ละลายไปกับสายน้ำแล้วตระเตรียมทุกอย่างเอาไว้ให้พร้อมสรรพ
ยืนนิ่งอยู่ยาวนานก่อนจะหันมองข้างหลังยามรู้สึกว่าโดฟลามิงโก้เงียบไปจนผิดสังเกต
แต่ต้องหันคอกลับ! นวลแก้มนั้นแดงเถือกตอนหันหน้าไปแล้วดันเห็นสิ่งที่ไม่ควรจะเห็น!
“หึ!? แอบมองเหรอยัยคนลามก ฟ้องตำรวจแป๊บ” เจ้าหญิงอยากจะพลิกตัวไปฟาดให้หายโมโห
แต่ในใจก็คิดว่ารีบทำแล้วรีบไปดีกว่า
“ฮัลโหล ตำรวจเหรอ? ช่วยมาจับผู้หญิงวิตถารที่บ้านหน่อย
อยู่ดี ๆ ก็มาเนียนมองคนกำลังแก้ผ้าเฉยเลย ...กลัวจะโดนปล้ำจัง
ตัวเองยิ่งดูดีอยู่ด้วย” คราวนี้ไวโอเล็ตต้องหันไปอ้าปากเหวอใส่พ่อคนแจ้งความเท็จ
สายตาลุกลี้ลุกลนเพราะไม่รู้จะเลือกมองที่ตรงไหนยามต้องประจันหน้ากับชีเปลือย
“...นี่เธอ ตำรวจเขาไม่รับเรื่องฉันเลย แถมบอกให้จัดการเองด้วย” โดฟลามิงโก้ดึงโทรศัพท์ออกจากหัวไหล่พร้อมแกะกระดุมกางเกงไปแบบไม่ยี่หระ
“เอ่อ เรียบร้อยแล้วค่ะ ไปก่อนนะคะ” สาวน้อยรีบเอียงตัวไปปิดก๊อกน้ำ
ก่อนเดินมองเพดานหวังพาตนเองออกจากที่แห่งนี้
แต่เวรกรรม...
เธอดันไปไม่ได้!
“หืม ข้างบนมีอะไรเหรอ ผีรึเปล่า เห็นจ้องจัง …ไหนดูสิ” ไม่พูดเปล่า คนกวนอารมณ์ก็ก้าวเข้ามาประชิดตัวแล้วแหงนหน้ามองตามสายตาเธอ
เจ้าหญิงอยากจะตบกกหูให้เลือดอาบตอนได้ยินโดฟลามิงโก้ส่งหัวเราะยียวนกวนประสาท
สายตาแสนหลุกหลิก นึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยเพราะหางตาเหลือบไปเห็นว่าเขายังไม่สลัดทุกอย่างทิ้งไป...
‘แหม! เบาใจขึ้นเยอะเลยค่ะ!’ ก่นด่าคนโรคจิตแล้วพยายามเดินเบี่ยงไปอีกทาง
“เดี๋ยวสิน้องสาว แกะผ้าพันแผลให้ก่อน ฉันเจ็บหลังอยู่นะเอื้อมไปไม่ถึง” จำต้องหมุนตัวกลับ เหล่ตามองกำแพงก่อนยกมือคลำ ๆ หวังปลดแทบผ้าสีขาวออก “โอ๊ย...?”
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ” ลนลานรีบก้มมองทันทีครั้นอีกคนร้องเสียงเรียบ
...เธอแกะมันออกหมดแล้ว
พับผ้าพันแผลไว้ที่มือพร้อมสังเกตหาความผิดปกติบนร่างกายของโดฟลามิงโก้
นึกร้อนใจเพราะตอนแรกเธอเผลอดึงมันแรงไปหน่อย... ทำพ่อคุณเจ็บเพิ่มเดี๋ยวหนี้สินมันจะทับเธอตายเอา
“หึหึ หุ่นฉันดีใช่ไหม?” ขำใส่หน้าผากแม่เจ้าหญิงยามเธอเขม็งมองเนื้อตัวเขาไม่วางตา
“......รอข้างนอกนะคะ” ไวโอเล็ตบอกปัดด้วยใบหน้าร้อนเห่อ
ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจหรอกแต่พอเขาพูดมันก็เผลอมองขึ้นมาเลย...
รีบแจ้นออกประตูไปตอนร่างสูงลดมือหมายจะปลดทุกอย่างให้พ้นตัว
อยากจะหมุนตัวไปทำร้ายร่างกายให้ได้สักครั้งยามเขายังแซวตามหลังไม่เลิกรา
“อ้าวไปไหนล่ะ ไม่อยู่ดูก่อนเหรอ? ของดีเลยนะ โอกาสแบบนี้มีครั้งเดียว”
‘ประสาท ใครเขาจะอยากดู!’ เถียงไว้ในใจแล้วก้าวขาออกมา
อยู่กับผู้ชายคนนี้ปวดหัวเหลือเกิน
...ไวโอเล็ตออกมาแล้ว สาวน้อยยืนพ่นลมหายใจอยู่หน้าห้องน้ำ
เอียงคอมองซ้ายขวาพร้อมครุ่นคิดว่าต่อจากนี้จะหาอะไรทำฆ่าเวลาดี?
กวาดสายตามองรอบ ๆ
อย่างระวังตัว เด็กสาวพึ่งมีโอกาสได้สำรวจห้องเขาแบบเต็มตา
ต้องยอมรับว่าห้องชายหนุ่มเรียบมาก
และคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนบ้างานพอตัวเพราะแม้แต่ในห้องนอนก็ยังมีห้องทำงานอีก
เลือกเดินเข้าหากระจกบานใกล้ ๆ มองภาพยัยหัวกระเซิงที่สะท้อนออกมาด้วยความห่อเหี่ยวใจ
สภาพตัวเองดูไม่ได้เลย เละเทะเหมือนพึ่งไปฟัดกับหมามา
“น้องหมาเหรอ ฮึ ๆ” หลุดหัวเราะออกมาเล็กน้อย
ตอนคิดว่าตนเองเอาคนในห้องน้ำไปเปรียบเทียบได้เข้าท่าดีมาก
ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะยืนพิงกำแพงไว้เพื่อรอคอยเวลา
...หวังว่าเขาจะอาบน้ำไม่นานนะ? เพราะเธอเริ่มรู้สึกปวดแผลขึ้นมาแล้ว
- 30% -
………………………
“ดูนี่สิคะคุณผู้ชมขา~ สุนัขตัวนี้เป็นไอดอลของหมู่บ้านแห่งนี้เลยนะคะ ..ดูสิคะ? แสนรู้มากเลยค่ะ”
“มันชื่อชูน่ะครับ
หากถึงเวลาอาหารก็จะคาบชามข้าวตัวเองมารอที่ป้อมเป็นประจำ น่ารักดีนะครับ”
“ค่า~ น่ารักสุด ๆ เลยล่ะค่ะ”
“......” รายการโทรทัศน์?
ไวโอเล็ตนั่งดูรายการโทรทัศน์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เธอไม่อยากคิดอะไรอีกแล้วเพราะตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้...
เธอยังไม่ได้ออกจากห้องของคุณมาเฟียเลย
พิธีกรในรายการทีวีช่างดูมีความสุข
ทำไมมันดูขัดหูขัดตาพอ ๆ กับเจ้าพ่อค้าอาวุธที่นอนหนุนตักเธอด้วยความอารมณ์ดีแบบนี้
หลังจากชายหนุ่มอาบน้ำเสร็จ
ก็มิวายสั่งให้เธอพันร่างให้ใหม่
ก่อนเดินจูงออกมานอนเอกเขนกตรงส่วนห้องทำงานแล้วใช้ตักนุ่ม ๆ
ของเธอนอนหนุนต่างหมอนทันที
“โดฟลามิงโก้ ฉันยังมีงานที่โรงงานต้องไปทำนะคะ”
“สั่งปิดปรับปรุงไปแล้ว เสียหายขนาดนั้นจะไปทำอะไรได้” เจ้าของตอบพลางกดเปลี่ยนช่องไปเรื่อยเปื่อย
‘อย่าพึ่งขัดจังหวะสิ ฉันกำลังอิ่มเอมกับบรรยากาศชวนใจเต้นอยู่นะ’ นิ้วยาวไล่กดรีโมทคล้ายคนขี้เกียจก่อนหน้าจอจะปรากฎภาพข่าวสารที่ดึงให้ทั้งสองต้องตั้งใจฟัง
ในช่องทีวีเห็นโฆษกชายหญิงกำลังรายงานประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงกันแบบจริงจัง
เนื้อหาข่าวอาจไม่มีอะไรมากเว้นเสียแต่มันดันเกี่ยวข้องกับพวกเธอโดยตรง
“ครับ ตามที่ทางเราได้ติดตามประเด็นนี้กันมาตลอด
พบว่าทางกองปราบปรามได้ออกมาชี้แจ้งกันเรียบร้อยนะครับ อย่างที่ทราบกันมาว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนทางตำรวจได้บุกทลายแก๊งค้ายาเสพติดขนานใหญ่ที่บริเวณจุดท่าเรือ
พยายามไกล่เกลี่ยขอให้อีกฝ่ายยอมจำนนเพราะทางนั้นมีตัวประกันอยู่
แต่สุดท้ายก็เกิดการยิงปะทะกันครับ
...ทางกรมยืนยันมาแล้วนะครับว่าอีกฝ่ายนั้นได้เสียชีวิตลงหมดระหว่างการต่อสู้”
“นับว่าเป็นเรื่องน่าเศร้านะคะ แล้วทางกรมตำรวจเองก็ได้แถลงการณ์เพิ่มเติมว่าของกลางนั้นได้ถูกทำลายไปจนไม่เหลือหลักฐาน...
นับว่าเป็นการบุกจับที่น่าเสียดายไปสักเล็กน้อยเพราะอีกฝ่ายไหวตัวทันจึงเกิดการนองเลือดขึ้นมาค่ะ”
“ถึงอย่างไรปัญหาดังกล่าวก็ยังมีอยู่มากมายตามสังคมของเรานะครับ เลยอยากจะขอให้ทุกท่าน รบกวนช่วยเป็นหูเป็นตา
หากพบเบาะแสอะไรสามารถติดต่อมาได้เลยนะครับ”
“แหม การบุกจับครั้งนี้ต้องขอบคุณดอนกิโฮเต้ โดฟลามิงโก้จริง ๆ เลยนะคะ
ที่ช่วยสนับสนุนเรื่องกับทางตำรวจมา หวังว่าเขาจะหายจากอาการบาดเจ็บโดยไวนะคะ
...เอาละค่ะ ข่าวต่อไป...” จู่ ๆ ช่องก็ถูกเปลี่ยน
เจ้าหญิงก้มมองใบหน้าชายหนุ่มก่อนจะเปิดปากถามสิ่งที่ติดอยู่ในใจ
“ของกลาง?” ลังเลชั่วครู่ยามโดนอีกฝ่ายหันหน้ากลับมามอง “...ทุกคนในแฟมิลี่ดูกระวนกระวายตอนของถูกขโมย”
“ก็ถ้ามันหายไปก็เรื่องใหญ่ไง”
“แล้วมันไม่เป็นไรเหรอคะ? ของมันถูกทำลายไปหมดแล้ว”
“...อา ยังไงดีล่ะ มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เองตอนเธอตามฉันไม่ทัน”
“?” ไวโอเล็ตเอียงคอสงสัยตอนมาเฟียมาดร้ายนอนส่งยิ้มกลับมาอย่างผู้ชนะ
“ยอมรับว่าเธอบริหารธุรกิจเก่งนะ แต่ถ้าคิดจะเอาชนะคู่แข่งจริง ๆ
เล่นเกมซื่อตรงแบบนั้นเป็นที่หนึ่งไม่ได้หรอก”
“ก็ไม่จำเป็นต้องเอาชนะทุกคนเสมอไป”
“โลกเบื้องหลังมันทำแบบนั้นไม่ได้ เป็นแหล่งชุกชุมที่ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
หากพลาดก็หมายถึงชีวิต... เพราะงั้นเราถึงต้องมีเส้นสายและใช้ลูกไม้นิดหน่อยไงล่ะ” ใช้มือเกลี่ยพวงแก้มเด็กสาวก่อนบอกต่อความคิด
จำต้องอมยิ้มเพราะคนตรงหน้าคาดเดาผลลัพธ์ถูก
“หลอกตำรวจสินะ?”
“แสนรู้จัง เย็นนี้จะกินอาหารเม็ดหรืออาหารเปียก?”
“เกรงใจจังเลยค่ะ!” ถลึงตาใส่ก่อนนั่งฟังบทเฉลยที่โดฟลามิงโก้บรรจงร้อยเรียงให้ฟัง
[ใจเย็นสิดอฟฟี่! นายรู้ตำแหน่งใช่ไหม? ดีเลย
ส่งมาหน่อย...เราต้องมีแผน]
เพราะแผนการเป็นสิ่งที่ต้องมี...
[ท่าเรือสินะคือแหล่งซ่องซุ่มของมัน? เบเฮะ ๆ]
“น่าจะพยายามหนีทางเรือเพราะเส้นแม่น้ำมันติดตามยาก
หากออกเรือไปแล้วพวกมันจะมุ่งไปที่ไหนก็สุดรู้แล้ว”
[กำลังส่งแผนที่ไปให้อยู่นะ-ดัสยัน] ทุกคนในแฟมิลี่กำลังประชุม เวอร์โก้อยู่ในสาย คนที่อยู่ที่บ้านก็อยู่ในสาย
คอยทำหน้าสนันสนุนและส่งต่อข้อมูล
“บัฟฟาโล? แถวนั้นมีจุดอับสังเกตไหม?”
[เดี๋ยวนะ ขอเช็คดูก่อนนะ-ดัสยัน]
[...มี นายน้อย! มีสะพานข้ามแม่น้ำอยู่ / เบบี้ไฟว์อย่าแย่งกันพูดสิ]
“อืม...ดี เวอร์โก้
ในบรรดาตำรวจที่แกรู้จักมีใครกำลังกระหายอำนาจอยู่รึเปล่า?”
[พอจะมีอยู่ แต่จะเอามาเป็นพวก... ข้อตกลงน่าจะยุ่งยากอยู่]
“แค่นั้นก็พอ... ติดต่อมันไปว่าเรามีเนื้อชิ้นใหญ่ให้มันได้หน้าไปเต็ม ๆ
หากอยากมีผลงานรีบไปบอกให้มันเคลื่อนไหวเดี๋ยวนี้ ...ซินญอร์ มัคไวส์ เหลาจี
พวกแกต้องล่วงหน้าไปก่อนแล้วเตรียมการตามที่ฉันบอก
กลาดิอุสฉันต้องให้นายใช้ฝีมือการยิงปืนอีกครั้ง …หากพวกลูกน้องมาครบแล้ว เราจะเริ่มกวาดล้างพวกมันให้สิ้นซาก!” เป็นแผนการที่รวบรัด วินาทีนี้ตัวเขาต้องคุมสติให้อยู่หากอยากรีบไปหาเธอ
ดึงความเยือกเย็นออกมาทั้งหมดก่อนปั้นแผนการทุกอย่างให้ลงตัว
ทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผน...
จะให้ผิดพลาดไม่ได้! เพราะหากทำพลาด... นั้นอาจหมายถึงหนึ่งชีวิตที่อาจดับสิ้นไป!
“สะพาน?”
“ใช่สะพาน...
ไม่สงสัยรึว่าทำไมฉันยอมให้กลาดิอุสยิงเรือทั้งที่ในนั้นมีสินค้าแสนล้ำค่า?”
“ตอนนั้นคิดอะไรไม่ค่อยออกค่ะ ตาก็มองไม่ค่อยเห็นด้วย” เลือกบอกความจริง
ไวโอเล็ตมองเห็นรอยยิ้มของโดฟลามิงโก้หายไปก่อนเขาจะเอ่ยพูดเสียงเรียบ
“ฉันให้พวกซินญอร์ไปซุ่มอยู่ที่สะพาน รีบจัดการพวกมันก่อนจะสลับเรือไป …ที่กระจุยไปน่ะเป็นเรืออีกลำที่บรรทุกอะไรไปก็ไม่รู้”
“งั้นของก็ยังอยู่”
“ไม่อยู่”
“!?”
“...เพราะส่งถึงมือผู้รับไปแล้ว” หัวเราะใส่หน้าตอนเจ้าหญิงมีสีหน้าเอือมระอา “หึ ๆๆ เป็นไง? ฉันฉลาดไหม? คิดออกมาในเวลาไม่กี่นาทีเองนะ”
“เจ้าเล่ห์มากกว่าค่ะ”
“ถ้าฉันเจ้าเล่ห์จริง เธอไม่ต้องมาเจ็บแบบนี้หรอก” สายตาเด็กสาวหวั่นไหว
อีกแล้ว...
เขาเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้าเธออีกแล้ว
“ไม่คิดว่ามันจะทำร้ายเธอ ...เจ็บรึเปล่า?” เอ่ยพูดพลางเกี่ยวเส้นผมสีน้ำตาลทัดหู ...จ้องมองเอาไว้
เขาอยากมองความผิดพลาดของตัวเองให้ชัด ๆ
แล้วจดจำให้ลึกในสมองว่ามันเคยเกิดเหตุอะไรขึ้น
“ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ”
“เธอเคยบอกว่าจะทำตามความต้องการของฉันทุกอย่างใช่รึเปล่า?”
“…ค่ะ” ร่างกายเธอกระตุกยามถูกย้ำเตือนถึงความยินยอมพร้อมใจ
“เพราะฉะนั้นจากนี้ไปฉันอยากรู้ความรู้สึกของเธอ เธอชอบเธอไม่ชอบอะไร
มีอะไรอยู่ในใจพูดออกมาให้หมด ...เงียบไปแบบนี้ ทำตัวไม่ถูกจริง ๆ” หญิงสาวหลบตา เธอกำลังประหม่า... รู้สึกแปลก ๆ กับบรรยากาศรอบตัว
ทำไมเขาถึงพูดแบบนี้ออกมาอีกแล้ว เธอไม่เคยเข้าใจเลยจริง ๆ
“ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปไวมาก จนรู้สึกปรับตัวไม่ทันก็แค่นั้นเองค่ะ” รีบบอกเขายามใบหน้าโดนรั้งให้หันกลับมามอง
“เปลี่ยนไปของเธอคืออะไร?”
“...ไม่รู้สิคะ คุณไม่ร้ายกาจเหมือนเมื่อก่อนมั้ง” ไวโอเล็ตลังเล ใจหนึ่งไม่อยากพูดแต่อีกใจก็อยากร้องบอกถึงความคิดข้างใน
“เมื่อก่อนฉันร้ายสินะ?”
“ตอนนี้ก็ยังร้ายอยู่ค่ะ แค่เบาลง... มั้ง?”
“กำลังปรับตัวอยู่ เธอชอบไหม?” หัวใจเต้นแรง ใบหน้าเริ่มเป็นสีชมพูยามอีกฝ่ายยกตัวขึ้นมาถามชิดวงหน้างาม
บรรยากาศชวนคิดมากกำลังก่อตัวขึ้น พยายามเลี่ยงไม่สบตาตอนอีกฝ่ายยังย้ำคำถามเดิม “ว่าไง? ชอบรึเปล่า?”
“…จะว่าไปเมื่อกี้มีชื่อคุณออกทีวีด้วยนะคะ” เด็กใจสั่นรีบบ่ายเบี่ยง
เอียงคอหลับตาปี๋เพราะอีกหนึ่งลมหายใจยังเข้ามาใกล้ไม่ลดละ
“หึ ๆ แกล้งเฉไฉไปก็ไม่รอดหรอกนะ” อีกสองมิลลิเมตร...
อีกหนึ่งมิลลิเมตร เจ้าหญิงกำลังจะโดนผู้ทรงอิทธิพลลิ้มลองความหอมหวานอีกครั้ง
ใบหน้าใกล้กันเสียจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจแสนอุ่น
ทว่าจู่ ๆ
ประตูก็ส่งเสียงร้องดังก๊อกก๊อก!
“เอ่อ มีคนมาเคาะประตู”
“ช่างหัวมัน”
“...นายน้อยคะ คุณไวโอเล็ตคะ ใกล้ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ
ทุกคนมาพร้อมกันที่โต๊ะแล้วนะคะ พอดีคุณเทรโบลให้มาตามค่ะ” ไวโอเล็ตสบโอกาสรีบดีดตัวออก เธอลุกหนีจนคนจู่โจมต้องทิ่มหน้าลงกับเบาะโซฟา
“เดี๋ยวจะรีบลงไปค่ะ” หญิงสาวเปิดประตูร้องบอก
เกือบจะได้ออกไปจากกรงขังนี้แล้วแต่ต้องวกกลับเข้ามาใหม่ด้วยสีหน้าเก็บอาการสุดฤทธิ์
“เธอลืมคนเจ็บไว้ตรงนี้นะยัยคนหน้าบาง ...กลับมารับเดี๋ยวนี้”
“ทำไมรู้สึกเหมือนคุณเดินเองได้คะ?” เด็กสาวเอ่ยถามยามเห็นว่าบางทีชายหนุ่มก็ทำประดุจตัวเองไม่ได้เจ็บอะไรเลย
“อะไร๊! เธอคิดไปเอง”
“แล้วทำไมต้องเสียงสูง?”
“......” โดฟลามิงโก้แกล้งตีหน้าเข้ม
ปล่อยให้ความเงียบเข้ามาช่วงชิง
ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนร่างน้อยก่อนก้าวเดินออกจากห้องไป
‘แย่ละสิ! ดูท่าก่อนความจะแตก… คงต้องรีบกินทั้งหัวกินทั้งหาง แล้วกินกลางตลอดตัวแล้ว!’
───────────── Talk with
write ( ̄▽ ̄)ノ
ระบบ: ปิ๊งป่อง! ยินดีด้วยคุณได้รับ ‘คนสตอร์เบอร์รี่ 1 ea’
ไวโอเล็ต: คลิก Inventory > Drop item
ระบบ: ขออภัย ไอเทมชนิดนี้ไม่สามารถโยนทิ้งได้
กรุณาพาไปทุกที่
ไวโอเล็ต: เกมอะไรเนี่ย ไม่น่าเล่นเลย
มาก่อน 30% กับเนื้อเรื่องเบา ๆ สบายสมองนะ
เดี๋ยวที่เหลือจะตามมาในอีกไม่กี่วันนี้จ้า
หากถามว่าวันนี้เป็นวันอะไร? .
..เป็นวันเกิดของหนูเองจ้า Happy birthday to me~
เลยจะถือโอกาสนี้ปิดนิยาย (เฮ้ยไม่ใช่! หยอก ๆ)
เลยจะถือโอกาสนี้ขอให้ทุกวันของทุกคนมีแต่ความสุข เงินทองไหลมาเทมา
บิ้วตี้แอนด์แฮนซั่มกันทุกคนนะคะ
ไม่รู้จะพูดอะไรเลยอ่ะ หากนิยายของไรท์ทำให้ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน ก็ถือเป็นนิพพานของไรท์แล้วค่ะ
ส่วนของขวัญอีกชิ้นคือ สิ่งนี้จ้า
ภาพต้นกำเนิดของเรื่อง!
วาดเองกับมือ ...แต่วาดไว้นานแล้วสักสองสามปีได้
แค่เอามาแต่งสีใส่ฟ้อนต์เพิ่ม มันเลยจะดูแปลก ๆ สักหน่อย
ส่วนภาพปก(สีส้ม ๆ นั่น)ไรท์ก็วาดเองเหมือนกันนะครับ ><
สุดท้ายขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะ~
รัก <3
24.01.2019
─────────────
ความคิดเห็น