NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    END; ONE PIECE - a million ways to fall in love with you | Doflamingo x Violet/Viola

    ลำดับตอนที่ #10 : How should I know!? (ถึงเรื่องราวระหว่างนั้น) - 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 949
      107
      12 ก.ค. 63




    ตอนที่ 7: How should I know!?

    (ถึงเรื่องราวระหว่างนั้น)

    2






    โดฟลามิงโก้มองค้างอยู่ที่ประตูห้องเนิ่นนานตั้งแต่ไอ้หน้าละอ่อนออกไป ถือว่ามันคิดถูกแล้วที่รีบ ๆ ไสหัวไปเสียที เพราะเขาเองก็ไม่รู้จะทนนั่งมองมันยืนส่งสายตาหวานเยิ้มไปอีกนานแค่ไหน


    เห็นหน้ามันครั้งแรกก็รู้สึกตะหงิด ๆ แล้ว แต่มันมาชัดเจนก็ตอนบัฟฟาโลกับเบบี้ไฟว์เล่าให้ฟังว่ามีหมอคนหนึ่งชอบแอบมาหย่อนขนมจีบให้ไวโอเล็ตตลอดทั้งวัน พยายามคิดว่ามันเป็นเจ้าของไข้น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ขนาดแอบดอดเข้ามาหาช่วงเวลาดึกดื่นแบบนี้


    ดูท่าโรงพยาบาลนี้เตียงห้องดับจิตจะไม่ว่างเพิ่มไปอีกหนึ่งเตียง


    เสียงสวบสาบของเนื้อผ้าบังคับให้ต้องหันกลับไปมองที่เตียงทันที หล่อนยังคงไม่ตื่น ทั้ง ๆ ที่คุยกันชิดขอบเตียงขนาดนี้ก็ยังไม่มีแม้แต่เผยอเปลือกตาขึ้นมา ...สงสัยยาที่กินไปคงจะแรงน่าดู


    น่าหาเอามาติดบ้าน จะได้เอาไว้ยัดปากพวกขี้แซวให้หลับ ๆ ยันสว่าง


    นึกโล่งอกอยู่พอสมควร เพราะตอนนี้บอกตามตรงว่าคนคารมดีอย่างเขายังไม่รู้จะเริ่มต้นพูดคุยอย่างไรหากโจทก์ตื่นขึ้นมาพบจำเลยอยู่ในห้อง ถึงได้ตัดสินใจแวะมาหาหลังเธอพ่ายแพ้ต่อฤทธิ์ยาแล้วเท่านั้น ส่วนเวลาตื่นน่ะหรือ อย่าหวังว่าเขาจะมา


    ถอนหายใจแล้วเหลือบมองนาฬิกาบนผนังก็พบว่าเป็นเวลาเกือบตีสามแล้ว ปกติชายหนุ่มมักจะนอนในช่วงเวลานี้ ดูท่าคงได้เวลาต้องกลับ ยันกายลุกขึ้นแล้วเดินเข้าใกล้อีกลมหายใจที่นอนอยู่บนเตียง ไล้มือเกลี่ยพวงแก้มใส ปัดไรผมที่บดบังวงหน้างามอย่างเชื่องช้า ไม่รู้ว่าหากเธอตื่นขึ้นมาจะยังมีโอกาสได้สัมผัสอยู่อีกไหม


    ยืนมองอยู่ช้านานก่อนต้องข่มใจเดินจากไป จำได้ว่าเหลาจีเคยบอกว่าหล่อนตื่นเช้ามาก คงต้องรีบจรลีหนีหายไปก่อนนกน้อยจะรู้สึกตัว


    ไม่วายแวะทำธุระบางอย่างก่อนเตะปลุกคนขับรถให้พากลับบ้านทันที


    วงล้อเคลื่อนตัว รถสีดำแล่นไปอย่างเงียบเชียบบนท้องถนนที่แทบร้างไร้ผู้คน ผ่านมาได้ครึ่งทางก่อนคนขับจะเอ่ยปากถามบางสิ่งกับเจ้านาย


    พรุ่งนี้นายน้อยจะมาหาคุณไวโอเล็ตอีกไหมครับ?”


    เสือก


    แค่ถามเฉย ๆ เอง’ สารถีหน้าหดลงเหลือสองนิ้วก่อนบ่นกระปอดกระแปดในใจ ที่ถามก็แค่อยากจะจัดสรรเวลาไปกลับให้ถูก แต่ตอบมาอีหรอบนี้คงต้องสงบปากสงบคำแล้วตั้งใจขับรถด้วยความเงียบต่อไป


     



    ………………………




     

    ไวโอเล็ตนั่งมองแพทย์หนุ่มวัดไข้เธอเป็นครั้งสุดท้ายก่อนออกจากโรงพยาบาล เธอสังเกตเห็นว่าตาคุณหมอดูช้ำ ๆ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรมากมายเพราะคาดว่าเจ้าตัวคงเข้าเวรจนโต้รุ่ง


    ขอบคุณค่ะ


    ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่จะไม่รอพี่ชายผมดำเหรอครับเห็นบอกว่าจะมารับ” เก็บอุปกรณ์ทุกอย่างให้เข้าที่ ไม่วายเผลอพูดคุยทั้ง ๆ ในใจคิดว่าจะตัดใจแล้วแท้ ๆ


    พอดีมีธุระจะรีบไปจัดการน่ะค่ะ ว่าจะรีบไปแล้วรีบกลับมาให้ทันก่อนทั้งสามคนมา” เจ้าหญิงวางเท้าลงบนพื้นเมื่อพบว่าไม่จำเป็นต้องนั่งอยู่บนเตียงอีกต่อไป หล่อนเอ่ยพูดไปด้วยจัดการเก็บสัมภาระไปด้วย แล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับคุณหมอที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ รออยู่ตรงประตู


    ถ้ายังไงก็โชคดีนะครับ ผมคงต้องไปแล้ว ไว้มีโอกาสค่อยเจอกันที่อื่นที่ไม่ใช่ในโรงพยาบาลนะครับ


    ค่ะ” สาวน้อยตอบยิ้ม ๆ นึกขันกับคำพูดที่ว่า ไว้เจอกันอีกที่อื่น’ ในเมื่อเขาเป็นหมอแล้วจะให้ไปเจอกันที่ไหนถ้าไม่ใช่ในสถานรักษาพยาบาล ก่อนคนหายป่วยจะเอ่ยขอตัวแล้วเลือกเดินไปยังแผนกธุรการเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล


    ตอนนี้เธอมีเงินติดตัวพอสมควร เพราะอยู่ดี ๆ ตอนสิ้นเดือนก็ได้รับบัตรเอทีเอ็มพร้อมเงินเดือนอย่างกับพนักงานบริษัท แถมจำนวนมันไม่ใช่น้อย ๆ เสียด้วย


    เอ่ยปากถามชายสวมแว่นกันแดดสีดำก็ได้คำตอบว่า ระดับผู้จัดการก็เงินเดือนเท่านี้อยู่แล้ว จะตกใจทำไม?’ เธอจึงเลือกที่จะไม่ต่อความยาวสาวความยืด เพราะให้พูดตามตรง เวลาไม่มีอะไรติดตัวเลยค่อนข้างจะลำบาก แต่ก็อดหวั่นใจกับตัวเลขยอดเงินไม่ได้ จึงหวังไว้ว่าจะรีบหาทางใช้คืนหลังจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว


    คนไข้ห้อง 304 นะคะ เอไม่มียอดค้างชำระแล้วนะคะ กลับบ้านได้เลยค่ะ” คนมาจ่ายเงินจำต้องขมวดคิ้วเพราะมั่นใจว่ายังไม่ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลแน่นอน แล้วทำไมเจ้าหน้าที่ถึงแจ้งว่าไม่มียอดค้างชำระไปได้


    ไม่น่านะคะ มีคนจ่ายแล้วเหรอคะ?”


    ค่ะ ชำระไปเมื่อวาน


    ใครคะ?”


    ขอโทษด้วยนะคะ พอดีคนชำระไม่ได้แจ้งชื่อไว้ค่ะ” พนักงานตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนหันไปสนใจเอกสารใบเสร็จต่อ ไวโอเล็ตหรี่ตามองอีกครั้งก่อนตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง


    หวังว่าสิ่งที่คิดไว้จะไม่ใช่เรื่องจริง


    เอ่อ ขอร้องนะคะ ช่วยบอกหน่อยเถอะ พอดีมีพลเมืองดีช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันไม่มีญาติเลยคิดว่าเขาต้องจ่ายค่ารักษาให้ก่อนแน่ ๆ ฉันแค่อยากรู้ชื่อเสียงเรียงนามของเขาเท่านั้น หากมีโอกาสก็อยากจะตอบแทนให้ได้น่ะค่ะ ได้โปรดเถอะ” แปลกใจตัวเองเหลือหลายที่กล้าเล่นละครตบตาขนานใหญ่ ไม่คาดฝันว่าการต้องอยู่ตัวคนเดียวจะเปลี่ยนให้เธอกล้าทำอะไรมากขนาดนี้


    เขาไม่ได้แจ้งชื่อไว้จริง ๆ ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ


    ดูลายเซ็นได้ไหมคะหากจ่ายด้วยบัตรเครดิตน่าจะมีลายเซ็นอยู่ แค่ยื่นให้ดูก็ได้ค่ะ ขอร้องนะคะ ฉันอยากตอบแทนเขาจริง ๆ” บีบน้ำตาปลอม ๆ ครั้นพบว่าการตบตาเริ่มจะประสบผล พนักงานกะกลางวันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนใจอ่อนยวบเป็นฟองน้ำครั้นเห็นน้ำใส ๆ กลิ้งหล่นจากดวงตากลมโตคู่งาม คว้านหาสลิปบัตรเครดิตอยู่พักหนึ่งก่อนร้องดีใจแล้วยื่นใบดังกล่าวให้เธอดู


    นักแสดงจำแลงมองลายเซ็นบนกระดาษเขม็ง แม้จะดูหวัด ๆ เหมือนไม่ใส่ใจเซ็นแต่ก็พออ่านชื่อออก กลับมายิ้มขอบคุณพี่พนักงานก่อนปลีกตัวออกจากเคาน์เตอร์ไปด้วยอารมณ์ไม่พอใจ


    ทำไมต้องมาจ่ายค่ารักษาให้เธอด้วย เธอไม่อยากติดหนี้อะไรเพิ่มเติมจนต้องมาตามชดใช้ไปตลอดชีวิตหรอกนะ เพราะแค่สัญญาบ้อบอที่ต้องชดใช้มันก็มากมายมหาศาลเกินพอแล้ว ตั้งปณิธานไว้อย่างแรงกล้าว่าระหว่างที่อยู่ที่บ้านหลังนั้น จะไม่ยอมให้ใครมาอ้างทวงบุญคุณทีหลังได้เป็นอันขาด


    องค์หญิงเดินใบหน้าบึ้งตึงไปหยุดยืนอยู่แถวริมถนนเพื่อหาแท็กซี่ไปทำธุระตามที่ตั้งใจไว้


    แต่อนิจจา โบกเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรับเสียที สงสัยต้องยืนกำหนดลมหายใจสักพักแล้วเปลี่ยนไปทำสีหน้าให้นิ่งสงบดั่งเดิม

     




    ………………………




     

    คนไข้ห้อง 304 ไปไหน!!!” เสียงทรงอำนาจเรียกให้พนักงานต้อนรับแทบลืมหายใจ ครั้นโดนเจ้าพ่อส่งเสียงลอดไรฟันถามทันทีหลังเดินปึงปังออกมาจากตึกผู้ป่วย โดฟลามิงโก้เดินกัดฟันหยุดหน้าเคาน์เตอร์หลังเดินเข้าห้องไปไม่เจอแม่ตัวดี


    คะคือ คนไข้พึ่งออกไปเมื่อสักครู่นี้เองค่ะ” พยาบาลหลบสายตาเป็นพัลวัน เหงื่อตกกันเป็นทิวแถวเพราะตามอารมณ์ชายหนุ่มไม่ทัน ทั้งที่ขามาพ่อคุณยังดูยิ้มแย้มอารมณ์ดีอยู่เลยแท้ ๆ แต่พอขากลับดันพกระเบิดมาด้วยเสียนี่


    คนหัวเสียส่งสายตาฟาดฟันทุกคนโดยไม่รู้ตัว เขาพลาดเองที่ชะล่าใจ ทั้ง ๆ ที่กะจะมารับคนป่วยตัดหน้าสามคนนั้นสักเล็กน้อยแต่ไม่คิดว่าแม่เจ้าประคุณจะมาเหนือเมฆ รีบบินออกจากโรงพยาบาลไปเสียตั้งแต่ไก่โห่ ดีที่พยาบาลบอกว่าเจ้าหล่อนพึ่งออกไป ชายอารมณ์ร้อนจึงรีบก้าวยาว ๆ ออกจากโรงพยาบาลแล้วบอกลูกน้องให้ออกรถขับหาตัวเจ้าหล่อนทันที


    เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ เขารึอุตส่าห์นอนทำใจอยู่ตั้งนานกว่าจะถ่อสังขารมาที่นี่ได้ แต่ครั้นเปิดประตูห้องแล้วไม่เจอคนที่หวัง ถึงได้ลงเอยด้วยการทิ้งระเบิดตูมใหญ่ไว้ที่โรงพยาบาล ...หงุดหงิดเหลือประดา


    จริงอย่างที่เวอร์โก้บอกว่าเจ้าหล่อนชอบไปไหนมาไหนคนเดียว... คอยดูเถอะ ไว้เจอตัวเมื่อไหร่ล่ะน่าดู


    นายน้อย เจอแล้วครับ!” ขับรถออกมาสักพักก็ได้ยินลูกน้องตะโกนบอก สายตาหลังแว่นกันแดดหันมองตามทันที ก่อนใบหน้าจะหยุดอยู่ที่ร่างผู้หญิงคนหนึ่งที่เด่นสะดุดตา


    เจ้าของร่างเดินเชื่องช้าหันมองถนนบ้างเป็นบางครั้งคล้ายกำลังมองหารถโดยสารอยู่ สีหน้าเจ้าหล่อนนั้นดูไม่รับรู้เรื่องราวรอบตัว ไม่ได้สนใจท่าทางหรือแววตาของพวกผู้ชายกลัดมันตามท้องถนนที่มองตามเลยสักนิด


    นี่คิดว่าตัวเองกำลังเดินอยู่บนทุ่งลาเวนเดอร์รึไงเนี่ย!?’ คิดเผ็ดร้อนก่อนสั่งให้ลูกน้องขับเข้าไปชิดตรงขอบถนนอย่างรวดเร็ว


    เสียงเบรกล้อกะทันหันเรียกไวโอเล็ตให้หันไปมอง สาวน้อยตกใจครั้นเห็นรถหรูเจ้าของเสียงจอดเทียบแทบจะประชิดตัวเธออยู่แล้ว ขมวดคิ้วเป็นปมสวยยามรู้สึกว่าคนขับรถช่างไร้มารยาท มีคนเดินอยู่บนทางเท้าแท้ ๆ ยังจะมาเบียดเบียนกันอีก ไม่ทันได้คิดคำบ่นในใจร่างทั้งร่างจำเป็นต้องแข็งทื่อครั้นเห็นใครบางคนก้าวลงมาจากรถ


    เด็กน้อยหลุบสายตาลงต่ำ คิดไม่ออกว่าเหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ ได้ยินเสียงก้าวเดินเข้ามาใกล้ยิ่งส่งผลให้ร่างกายเธอออกอาการสั่นเทา ตอนนี้มันยังเร็วเกินไป เธอยังไม่พร้อมจะรับมือ


    “...ขึ้นรถ” ตอนแรกโดฟลามิงโก้ก็คิดว่าตัวเองหงุดหงิด แต่มันก็กระเด็นหายไปตอนเห็นคนตรงหน้าเก็บอาการสั่นไว้ไม่อยู่ เจ้าตัวก้มหน้าไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาทักทายกัน ความแข็งกระด้างอ่อนยวบลงทันทีเมื่อพบว่าอีกฝ่ายกำลังกลัวเขามากมายขนาดไหน


    ไม่ได้ยินรึไงบอกให้ขึ้นรถ หรืออยากให้อุ้มไป?”


    สาวน้อยสะดุ้งเล็กน้อยก่อนรีบก้าวขึ้นรถด้วยความหวาดระแวงเพราะอีกฝ่ายเอื้อมมือมาคล้ายจะบังคับเธอให้ทำตาม ไวโอเล็ตจำต้องนั่งชิดประตูอีกด้านเพราะคนตัวโตกว่าก้าวขึ้นมานั่งปิดทางเข้าโดยไว ก่อนเจ้าของรถจะสั่งให้คนขับพายานพาหนะสีดำเคลื่อนตัวออกไปทันที


    โดฟลามิงโก้หันมองคนข้าง ๆ ตลอดตั้งแต่รถออกตัว แกล้งนั่งกินพื้นที่เบียดอีกคนจนชิด เมื่อเห็นว่าผู้ร่วมเดินทางเขยิบไปนั่งตัวติดประตูจนแทบจะหลอมละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกัน จำต้องเอ่ยทำลายความเงียบ ครั้นเห็นมันส่งผลให้เจ้าหญิงยังคงสั่นไม่หยุดจนต้องระบายออกมาด้วยการกำชายกระโปรงเอาไว้แน่น


    “...นี่ ของเธอ” เธอสะดุ้งอีกแล้ว คนกลัวหันมองซองเอกสารสีน้ำตาลที่ถูกยื่นมาให้ก่อนรับมันมาไว้ในมือ เปิดดูก็พบว่าข้างในคือพวกโทรศัพท์มือถือ บัตรประชาชน หรือบัตรเอทีเอ็มต่าง ๆ คนมากเล่ห์เห็นอีกฝ่ายมองหน้าเขาในรอบหลายวันคล้ายอยากจะพูดอะไร แต่มันก็เปลี่ยนเป็นหวาดกลัว สุดท้ายเจ้าหล่อนก็เลือกเงียบแทน


    เวอร์โก้บอกว่าจะมารับไม่ใช่เหรอทำไมออกมาก่อน?”


    “…พอดีมีธุระต้องไปทำค่ะ” ในรถนั่นเงียบไปนานมาก กว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมา


    ธุระอะไร?”


    “...ธุระส่วนตัว


    ธุระส่วนตัวคืออะไร?” ไวโอเล็ตพยายามควบคุมจังหวะลมหายใจ ไม่เผลอใช้อารมณ์ตอบโต้ด้วยกลัวว่าเรื่องจะลงเอยด้วยรูปแบบเดิม ๆ ไม่เข้าใจว่าคำว่า ‘ธุระส่วนตัว’ มันเข้าใจยากตรงไหน


    ธุระส่วนตัว พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือไม่อยากให้ถาม แต่พ่อคุณยังจะตะบี้ตะบันถามอยู่อีก


    ทำไมไม่ตอบ?”


    “...ไม่ต้องทำแล้วล่ะค่ะ ก็คุณคืนของใช้จำเป็นมาให้หมดแล้ว” เธอหมายความตามที่พูด ที่รีบออกมาก่อนก็เพื่อมาจัดการบรรดาของใช้จำเป็นที่ต้องเอาไว้ดำเนินชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่พออีกฝ่ายส่งคืนให้แบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปติดต่อขอแจ้งทำอะไรใหม่อีก รู้สึกโล่งใจไปเป๊าะหนึ่งก่อนเลือกเปิดโทรศัพท์มือถือครั้นพบว่ามันถูกปิดเครื่องไว้


    เสียงข้อความกับสายที่ไม่ได้รับเด้งเข้ามารัว ๆ จนสาวน้อยกดปิดเสียงแทบไม่ทัน หันมองคนข้างตัวทันทีก็พบว่าอีกคนนั่งมองอยู่ก่อนแล้ว เด็กสาวชั่งใจก่อนตัดสินใจพูดอะไรบางอย่าง


    โทรศัพท์ฉันไม่ได้ล็อก


    “...แล้วไง?”


    “…...” เก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจก่อนกดตั้งรหัสผ่านใหม่ แม้จะรู้อยู่ว่าเต็มอกว่ามาตั้งใหม่เอาป่านนี้ก็คงซ่อนความลับอะไรไว้ไม่อยู่อีกแล้ว ไม่รู้ว่าเขาปลดล็อกไปได้ยังไงแล้วจะปลดล็อกไปเพื่ออะไรแต่วิธีการมันคงไม่สำคัญ


    พยายามไม่สนใจเมื่อหางตาเห็นคนร้ายเปลี่ยนมานั่งหันข้างจ้องเธออย่างจริงจัง เจ้าตัวกำลังแสยะยิ้มท่าทางเหมือนนึกสนุกอะไรอยู่ในที เธอเกลียดพฤติกรรมแบบนี้มาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันแล้ว จึงเลือกเปิดประเด็นขึ้นมาใหม่แทน


    ค่ารักษาพยาบาล... เดี๋ยวฉันจะรีบคืนให้คุณนะคะ ไม่อยากรบกวน” พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นเครือตามร่างกายยามที่ต้องเอ่ยคุยกับเขา 


    “…...” คนสวมแว่นหน้าตึงเมื่ออีกฝ่ายโพล่งถึงเรื่องนั้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ขมวดคิ้วทันทีตอนหาคำตอบไม่ได้ว่าเธอรู้ได้ยังไงอุตส่าห์ปิดบังไม่ออกนามตอนจ่ายเงินแล้วแท้ ๆ นี่เขาพลาดอะไรไป?


    เด็กคนนั้นฉลาดมากนะ’ จู่ ๆ แว่วเสียงของเวอร์โก้ก็ผุดขึ้นมาย้ำเตือนความคิด ก่อนสมองจะนึกย้อนถึงสลิปบัตรเครดิตที่จำต้องเซ็นแล้วยื่นให้พนักงาน


    เห็นจากสลิปรึ?” ไม่มีคำตอบรับ สาวน้อยเพียงแค่หันหน้ามองเพียงนิดแล้วเสมองออกนอกหน้าต่าง ก่อนนึกเอะใจว่ามันไม่ใช่ทางกลับบ้าน กำลังอ้าปากเพื่อถามไถ่แต่ชายหนุ่มชิงพูดเสียก่อน “10 โมงกว่าแล้ว จะไม่ให้ฉันไปทำงานทำการเลยรึไง?”


    งั้นขอลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหาทางกลับเองยกมือขึ้นขวางทันควันตอนอีกฝ่ายขยับพรวดพราดเข้ามาใกล้ สายตาเริ่มหาทางหนีแต่ก็พบว่าเธอโดนขังอยู่ในวงแขน ที่ข้างหน้าคือเขาและข้างหลังคือทางตัน พยายามจะปลดล็อกประตูแต่ก็โดนมือหนาหยุดไว้ไม่ให้เธอคิดสั้นกระโดดออกไป


    อุตส่าห์มารับทั้งที ไปส่งที่ทำงานหน่อยไม่ได้รึไง?” สาวน้อยเลี่ยงไม่สบตา ไม่เข้าใจการกระทำของเขาในตอนนี้เสียเท่าไหร่ เธออยากกระโจนออกไปนอกรถจริง ๆ เมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ไม่ต้องรอให้เสียเวลา คนผมทองก็ฝังริมฝีปากลงซอกคอหอม ๆ ทันที ลิ้มรสกลิ่นอายชวนหลงใหลที่ยั่วยวนทุกครั้งยามอยู่ใกล้


    อะไรไม่เจอกันตั้งนาน คิดถึงฉันบ้างไหม?” พูดเสียงอู้อี้อยู่แถวซอกคอเพราะตอนนี้ปากกำลังไม่ว่าง ที่จริงเขาก็แอบมาเจอเธอทุกคืน แต่โดฟลามิงโก้โกหก แกล้งพูดเพื่อให้อีกฝ่ายตายใจก็เท่านั้น


    ถ้าเป็นไปได้ ก็ไม่อยากเจออีกตลอดชีวิตไวโอเล็ตบอกเขาในความคิด ตอนนี้หัวกำลังระเบิด กำลังบังคับตัวเองอย่างสุดความสามารถไม่ให้เผลอร้องไห้ ยกมือดันแผงอกอย่างสิ้นหนทาง เพราะตนเองกำลังหวั่นวิตกว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายอีกจนคิดได้เพียงเท่านี้


    คนจู่โจมฝังจุมพิตอยู่เนิ่นนาน รู้แล้วว่าอีกคนนั้นตื่นกลัว มือเท้าเจ้าหล่อนสั่นเทาจนน่าสงสาร ได้ยินเสียงหอบหายใจคล้ายเจ้าตัวกำลังอึดอัดทรมาน


    ...ห้าวินาที ...สิบวินาที ซบใบหน้าอยู่ตรงนั้นช้านานคล้ายแสนคิดถึง ก่อนฝืนใจผละตัวออกอย่างเชื่องช้าแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ชายหนุ่มเว้นระยะห่างมากกว่าเก่ายามสบตาเจ้าหญิงแล้วพบเจอแต่ความหวาดหวั่น เจ้าของใบหน้าเบนหน้าหนีแล้วขยุ้มเส้นผมตรงต้นคอคล้ายบริเวณนั้นมีแผลแสบร้อน ก่อนฝังตัวชิดขอบประตูรถประหนึ่งต้องการหายไปจากสายตา


    ปฏิกิริยาดังกล่าวส่งผลให้เขาอยากจะพูดอะไรแต่จู่ ๆ ก็ดันนึกไม่ออก ถอนลมหายใจก่อนหันมองนอกรถเมื่อภาพคนตื่นกลัวไม่ได้น่าชมมากนัก นั่งดูภาพสิ่งเคลื่อนไหวข้างนอกด้วยความรู้สึกสั่นไหวพอ ๆ กับอาการสั่นเทาของคนด้านข้าง


    คิดไม่ออกว่าต่อจากนี้ควรจะทำตัวอย่างไร?


    จะร้ายต่อ... หรือจะกลับไปเริ่มต้นใหม่ดี?


               

    แล้วเขา... จะรู้เรื่องแบบนี้ได้อย่างไร!?






    ─────── Talk with write ( ̄▽ ̄)ノ ───────


    ไม่รู้เหมือนกันโดฟลามิงโก้ นายไปคุยกับตัวเองก่อนก็ได้นะ เราอนุญาต

    แต่อย่ามาทำบ้าบอกับองค์หญิง เดี๋ยวตีตายเลย 


    ปล. มีใครหาเจอ Easter Egg ไหมเอ่ย ไว้ตอนหน้าจะมาเฉลยนะ อิ ๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×