คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : (OS) YOU
Title: YOU
Pairing: nct lucas x mark
Rate: PG
Genre: romance
“พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าคัส?”
“ไม่ว่างอะ มีอะไรหรือเปล่า” ลูคัสตอบออกมาทันทีที่อีกฝ่ายถามจบ มาร์คยิ้มแห้งๆกลบเกลื่อนความรู้สึกแย่ๆที่ตีรวนขึ้นมาภายในใจ
ลูคัสลืมวันเกิดมาร์ค
“อ๋อ เปล่าหรอก ที่จริงพรุ่งนี้นัดพวกเจโน่ไปเล่นที่บ้านน่ะเราเลยลองชวนลูคัสดู เผื่อ..จะว่างอะ” มาร์คแสร้งทำเป็นยิ้มแล้วตอบกลับมาอย่างกระตือรือร้น
“พรุ่งนี้คัสมีนัดอะดิ ขอโทษนะ”
“อ่า.. ไม่เป็นไรๆๆ ไปทำธุระเหอะ จริงๆมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรหรอก”
มาร์คอีอ้าปากพะงาบๆเมื่อเผลอหลุดพูดตัดพ้อน้อยใจใส่เพื่อนตัวสูง แต่ไม่วายโดนลูคัสจ้องมาอย่างจับผิด มาร์คทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาแล้วทำท่าลุกลี้ลุกลนใส่อีกฝ่ายเพื่อเบนความสนใจ
“เอ้ยๆ จะเข้าเรียนแล้วอะคัส เราไปก่อนนะ ตั้งใจเรียน! อย่าให้เจโน่มาฟ้องเราว่าคัสโดดเรียนนะ ไปแล้ววว” มาร์คพูดรัวใส่และไม่ลืมกำชับให้อีกฝ่ายตั้งใจเรียนก่อนจะวิ่งกลับห้องของตัวเองไป
มาร์คกับลูคัสรู้จักกันตอนไปเป็นนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่อังกฤษตอนเกรดสิบ ซึ่งพวกเขาทั้งคู่เป็นชาวเอเชียเพียงสองคนที่ได้ไปเรียนที่ประเทศอังกฤษจึงทำให้ทั้งคู่ตัวติดกันไปโดยปริยาย และกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในระดับนึงแต่พอพวกเขากลับจากที่ไปแลกเปลี่ยนก็ขาดการติดต่อกันด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้
จนพวกเขาทั้งคู่พบกันอีกครั้งตอนเกรดสิบเอ็ด มาร์คพบว่าลูคัสย้ายมาเรียนโรงเรียนของเขาที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการปั้นศิลปินและนักเต้นสู่วงการบันเทิง ลูคัสก็ย้ายมาด้วยเหตุผลนั้นเหมือนกัน
ลูคัสเป็นเด็กฝึกของค่ายใหญ่แห่งหนึ่งของเกาหลี..
ตอนนั้นมาร์คจำได้ว่าตัวเองดีใจมากๆที่ได้เจอลูคัสอีกครั้ง เขาเดินเข้าไปทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มซึ่งอีกฝ่ายก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่ได้เจอเขาเช่นกัน ทั้งคู่เลยกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันจนถึงทุกวันนี้
ยิ่งนานวันความผูกพันของทั้งคู่ยิ่งมากขึ้น ทุกคนต่างรู้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันมากแม้ว่าจะเรียนกันคนละเอกก็ตาม และความรู้สึกอะไรบางที่อยู่ภายในใจของมาร์คยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุดมาร์คก็ต้องยอมรับกับตัวเองว่าตนชอบเพื่อนสนิทตัวสูงเข้าให้แล้ว
“ไง โดนเทมาหรอ? หน้าหงอยเชียว” ดงฮยอกเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งเล่นเกมเพลย์อยู่ก็ชะโงกหน้าเข้ามาดูอีกฝ่ายหนำซ้ำยังพูดกระแนะกระแหนใส่อีกฝ่ายจจนหน้ามุ่ยมากกว่าเดิม
“อืม”
“ห้ะ? ถามจริง??? ลูคัสอะนะจะลืมวันเกิดเพื่อน อย่ามาอำ” ดงฮยอกทำหน้าตกใจสุดขีด ก่อนจะถามออกมาด้วยความไม่เชื่อ
“ดูหน้าด้วยว่าเล่นไหม” มาร์คถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ
“เฮ้ย เมื่อกี้พูดเล่นแต่ไม่คิดว่าจะจริง ขอโทษษษษ”
“อ่าหะ รู้ว่าแกล้งแต่มันเรื่องจริงอะจะทำไงได้”
“ไม่เอาดิมาร์ค ไม่ดราม่า บอกมันไปเลยว่าพรุ่งนี้วันเกิดนาย แค่นี้มันก็เคลียร์คิวทุกอย่างทิ้งให้นายแล้ว”
“ไม่เอาอะ ลูคัสอาจจะไปฝึกหรือเปล่า เราไม่อยากให้มันกระทบกับความฝันของลูคัส” มาร์คอีพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาทั้งๆที่ดวงตากลมโตมองลอดหน้าต่างออกไปอย่างไร้จุดหมาย
“เอางี้ เดี๋ยวเราไปบอกให้เอาไหม” ดงฮยอกยื่นข้อเสนอ
“อย่านะ ก็บอกเหตุผลแล้วไงเพราะงั้นอย่าไปบอกลูคัส”
“เอางั้นหรอมาร์ค ทนได้หรอมาร์ค ชอบมันมาตั้งแต่เกรดสิบจนตอนนี้พวกเราเกรดสิบสองกันแล้วนะ เราจะเรียนจบแล้วนะมาร์ค จะไม่บอกความรู้สึกนั้นออกไปจริงๆดิ?” ดงฮยอกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจังก่อนจะสบตามาร์คที่กำลังรู้สึกสบสนอยู่ภายในใจ
“ไม่..”
“ไม่ต้องตอบเราหรอก แต่เอาไปตอบตัวเองให้ได้ว่าจะทำยังไงต่อไปกับความสัมพันธ์และความรู้สึกแบบนี้ แต่เราจะบอกให้นะอย่าโกหกความรู้สึกตัวเอง คิดอะไรก็พูดมันออกมาบ้างเถอะนะ”
“อืม ขอบใจนะเจ้าดงฮยอก” มาร์คยิ้มและขอบคุณและลูบหัวทุยๆของเพื่อนรุ่นน้องอย่างดงฮยอก
เพราะตอนเกรดสิบเขาต้องเรียนซ้ำเลยทำให้ต้องเรียนกับรุ่นน้อง เขาและลูคัสจึงโตกว่าเพื่อนร่วมรุ่นหนึ่งปี เพราะแบบนี้มาร์คจึงมีเพื่อนสนิทเป็นรุ่นน้องอย่างดงฮยอกและดงฮยอกก็มีกลุ่มเพื่อนสนิทอย่างอินจุน เจโน่และแจมินที่เป็นเพื่อนร่วมห้องกับลูคัสทำให้พวกเขาทั้งหกคนกลายมาเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน
“ไม่เป็นไรครับสิงโตน้อย”
“เดี๋ยวเหอะ”
“โอ๋ๆ เรียนกันครับๆ ไม่ดุเค้าน้ามาร์ค” ดงฮยอกเอาหัวมาซบไหล่มาร์คพร้อมกับส่งสายวิบวับให้จนคนตัวเล็กหลุดหัวเราะออกมา
.
2 Aug 20xx
“ม้าคคคคคคคคอี แฮปปี้เบิร์ดเดย์โบรรรร”
ฮวังอินจุนวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องเรียนทันทีที่เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น อินจุนวิ่งเข้ามาหยิกแก้มมาร์คก่อนจะแกล้งเจ้าของวันเกิดด้วยการพยายามจะหอมแก้มให้ได้ เรียกเสียงโวยวายจากมาร์คได้เป็นอย่างดีจนแจมินและเจโน่ที่เดินเข้ามาทีหลังต้องวิ่งไปแยกทั้งคู่ให้ออกจากกัน
ส่วนดงฮยอกก็ยืนหัวเราะและอัดคลิปเตรียมจะไปลงในโซเชียล ทำให้มาร์คต้องมองหน้าตาขวางใส่อีกคน ดงฮยอกถึงจะหยุดอัดคลิปแล้ววิ่งเข้ามาง้อเขาเหมือนทุกๆครั้ง
“วันนี้มัมทำอะไรให้กินอะมาร์ค”
“เดี๋ยวนะโน่ ใจคอจะไม่อวยพรวันเกิดเลยหรอวะ ถามหาของกินก่อนได้ไง” แจมินเอ็ดเพื่อนตัวสูงก่อนจะเดินเข้าไปเกาะแขนมาร์ค “มาร์คไม่ต้องให้โน่มันไปนะ เราจะได้กินข้าวของมัมคนเดียว”
“เดี๋ยวๆ นายก็พอกับโน่อะแจมิน”
“ใส่ร้ายอีกแล้วนะอินจุนนี่”
“เปล่าสักหน่อยเหอะ พูดความจริง”
“พอทั้งหมดแหละ” มาร์ครีบห้ามทัพ “วันนี้มัมทำซัมกยอบซัล(หมูสามชั้นย่าง)เตรียมเอาไว้พวกเด็กกำลังโตอย่างพวกนายกิน โอเค๊? แล้วไม่ต้องเถียงกันนะได้กินทุกคน ไอ้พวกลูกหมูเอ๊ย”
“โหหหห มัมรู้ใจพวกเราอะ งี้ต้องจุ๊บลูกชายมัมตอบแทน” ว่าแล้วอินจุนก็หอมแก้มมาร์คแล้วผละออกมายิ้มเผล่ใส่ จนมาร์คต้องส่ายหัวออกมากับความขี้แกล้งและอยากทำอะไรต้องได้ทำของคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่ม
“ไม่เล่นแล้ว กลับบ้านกันดีกว่า”
“ได้! ไปฉลองวันเกิดมาร์คกันเถอะ” ว่าแล้วทั้งห้าคนก็พากันไปที่บ้านมาร์ค จังหวะที่ไม่มีใครสังเกต เจโน่ที่เดินรั้งท้ายอยู่นั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความไปหาอีกคนที่คาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงวุ่นๆกับธุระที่ว่านั้นอยู่
‘พามาร์คกลับบ้านแล้วนะ’
.
.
.
เมื่อถึงบ้านแล้วมาร์คก็พากงกงจึ(แก๊งค์00ไลน์)ไปนั่งที่ห้องรับแขกพร้อมกับแกล้งเอ็ดว่าอย่าไปซนที่ไหนเดี๋ยวจะไม่ให้กินหมูเพียงเท่านั้นแหละ กงกงจึทั้งสี่คนก็นั่งเรียบร้อยจ้องมาร์คตาแป๋วแถมยังบอกให้มาร์คว่าจะทำอะไรก็ทำไปอีกต่างหาก
เมื่อมาร์คเดินเข้าห้องนอนมา เขาก็ถอนหายใจออกมาพร้อมทั้งพิงหลังกับประตูราวกับไม่มีความสุขในวันพิเศษอย่างนี้ มาร์คยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะสะบัดศรีษะเพื่อไล่ความคิดที่ติดค้างอยู่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วจึงเปลี่ยนเป็นชุดลำลองตัวโปรดของตนพร้อมกับคว้าสมาร์ทโฟนของตนลงไปหาพวกดงฮยอกที่นั่งรอเขาอยู่
ทันทีที่มาร์คลงมา เขาก็ต้องหลุดหัวเราะเมื่อเห็นเพื่อนอีกสี่คนของตัวเองกำลังกินของว่างที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้อย่างเต็มปากเต็มคำ
“นี่จะมาอวยพรวันเกิดหรือจะมากินเนี่ย”
“ก็เจ้าของวันเกิดลงมาช้า ก็เลยจิบน้ำหวานรอกันคอแห้ง เพราะถ้าคอแห้งก็จะอวยพรวันเกิดไม่ได้ไง” ดงฮยอกพูดออกมาแล้วหันไปแท็กมือกับเจโน่ที่หัวเราะตาปิดอยู่
“เด็กพวกนี้นี่ แต่เอาเถอะซัมกยอบซัลรออยู่ ใครช้าก็อดนะ” ว่าแล้วมาร์คก็วิ่งไปยังห้องอาหารเพื่อแกล้งทุกคนจนแก๊งค์เด็กปี00 ต้องวิ่งตามมาโวยวายมาร์คไม่หยุด
ทั้งห้าคนทักทายอีมิยอง แม่ของมาร์คด้วยความคุ้นเคยก่อน มิยองจะบอกให้เด็กๆทุกคนทำตัวตามสบายก่อนที่หล่อนจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเข้าเวรในตอนดึก
“มาร์ค มัมไปทำงานก่อนนะครับ ไม่ได้อยู่ฉลองกับยูเลย เสียใจจัง” มิยองพูดออกมาด้วยความเสียดาย แต่ด้วยภาระหน้าที่ของการเป็นหมอมันแบกเอาไว้ หล่อนก็เลยต้องไปทำงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไม่เป็นไรครับมัม ไปทำงานนะครับ ไว้ว่างๆเราค่อยมาฉลองย้อนหลังก็ได้”
“โอเคครับ มัมรักมาร์คนะ”
“รักเหมือนกันครับ” มาร์คกอดมารดาของตัวเองเมื่ออีกฝ่ายหอมแก้มเขา
“ไปแล้วนะครับ” มิยองบอกลูกชายก่อนจะหันไปหาเพื่อนลูกชาย “ขอให้สนุกนะคะ เด็กๆ”
ทันทีที่มิยองออกไปเด็กๆทุกคนก็ล้อมหน้าล้อมหลังมาร์คและปิดตาเจ้าของวันเกิดและพากันเดินไปยังจุดหมายแห่งหนึ่งในบ้าน
“เฮ้ ปิดตากันทำไมเนี่ย” มาร์ครู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดเขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เพื่อนรุ่นน้องจะทำเซอร์ไพร์สให้แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะถามออกมา
“เอาหน่า เดี๋ยวอีกไม่กี่นาทีก็รู้แล้ว” แจมินบอกแล้วรุนหลังมาร์คให้เดิน
“ตื่นเต้นอะ”
“นั่นดิ ปีนี้เซอร์ไพร์สแบบเล่นใหญ่ด้วย”
“เออ กูก็เพิ่งรู้จักมึงนี่แหละโน่ว่าจะมีเซอร์ไพร์ส แหมไม่บอกกูเลยนะ”
“ถ้าบอกเดี๋ยวมึงก็หลุดปากอะ”
บทสนทนาระหว่างเจโน่และดงฮยอกทำให้มาร์คขมวดคิ้วด้วยความงุนงง เขานึกว่าปีนี้ทุกคนจะอวยพรเขาและให้ของขวัญกันเป็นปกติ แต่ปีนี้มีอะไรที่พิเศษกว่านั้นอีก ทำให้มาร์ครู้สึกตื่นเต้นกับเหตุการณ์นี้ขึ้นมาทันที
“จะพาเดินไปถึงไหนอะ”
“เอาหน่า เดี๋ยวก็ถึงแล้วเนี่ย” เจโน่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สุดจะกวนประสาท ไม่ทันที่มาร์คจะได้เอ่ยปากโต้ตอบอะไรออกไป เขาก็ได้ยินเสียงของอินจุนพึมพำว่าสุดยอดๆไม่หยุด ก่อนที่ทั้งสี่คนจะพาเขามาหยุดจุดที่จะเซอร์ไพร์สเขา
“ถ้าเปิดตาก็อย่าตกใจนะ ไม่ดิ อย่าเขินดีกว่า” แจมินพูดก่อนจะคลายผ้าที่พันเอาไว้ออกมา
เมื่อมาร์คลืมตาขึ้นมาเขาก็พบกับไฟประดับหลากสีสันถูกแขวนอยู่ทั่วห้องเปียโน บนผนังห้องมีรูปโพลาลอยด์ที่เป็นรูปเขาในอิริยาบถต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปเดี่ยว รูปคู่หรือแม้กระทั่งรูปรวมกลุ่มซึ่งเขียนวันที่กำกับไว้อย่างชัดเจน
ช่อดอกทานตะวันที่มาร์คชื่นชอบถูกวางไว้ตรงโต๊ะกระจกกลางห้อง แล้วภายในห้องนี้ก็ยังมีคนที่บอกกับเขาว่ามีธุระในวันนี้ยืนส่งยิ้มมาให้เขาอบอุ่นนั่นอีก..
แบบนี้สินะที่เรียกว่าเซอร์ไพรส์…
แม่งโคตรเซอร์ไพร์สเขาเลย…
“มาได้ไงเนี่ย ไหนบอกว่าไม่ว่างไง?” มาร์คเดินเข้าไปหาลูคัสอย่างงุนงง
“ก็ไม่ว่างจริงๆ ต้องมาจัดห้องเซอร์ไพรส์ใครบางคนนี่แหละ”
“…”
“เงียบไปเลย?” ลูคัสพูดออกมาขำๆ
“ช็อกอยู่อะดิ ก็แบบมึงเล่นใหญ่ไปหน่อย” เจโน่เดินมาตบบ่าลูคัสพร้อมกับแซวจนเจ้าของวันเกิดต้องมองค้อนใส่
“ไปมองค้อนคนอื่นเขาเนี่ย เก่งนักหรอเรา หือ?” ลูคัสหัวเราะออกมาก่อนจะวาดแขนยาวๆของตนมาโอบรอบคอมาร์คแล้วดึงก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของคนตัวเล็ก
“ระวังตัวเองไว้เหอะคัส เดี๋ยวนี้กล้าโกหกเรานะ” คนตัวเล็กชี้นิ้วอย่างคาดโทษ
“ไม่ทำแบบนี้แล้วจะเรียกว่าเซอร์ไพร์สหรอครับ เป็นไงสุดยอดไหม?”
มาร์คพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะมองไปรอบห้องอีกที เขาค่อยๆไล่ดูภาพตัวเองอย่างช้าๆ แล้วหันมามองคนตัวสูงที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนออกจากบ่าของเขาสักทีก่อนจะหันกลับไปดูรูปอีกครั้งแล้วหันกลับไปมองที่คนตัวสูงอีกที มาร์คอีทำอยู่อย่างนั้นจนลูคัสหลุดหัวเราะออกมา
“มองแบบนี้ไหนสงสัยอะไรครับ”
“ไปเอารูปพวกนี้มาจากไหน?”
“ก็คัสถ่ายเองไง”
“หือ? ถ่ายเองคนเดียว” ลูคัสขานรับในลำคอ “ถ่ายเราไว้เยอะขนาดนี้เลยหรอ???”
“ก็น่ารักไงเลยถ่ายเอาไว้”
เมื่อมาร์คได้ฟังเหตุผลแล้วก็ถึงกับหน้าขึ้นสีระเรื่อจนแก๊งค์00ไลน์ต้องโหร้องแซว แต่มาร์คไม่ได้สนใจเสียงร้องของทั้งสี่คนเท่าไหร่ เขาเดินไปยังผนังนึงด้านนึงที่ติดรูปภาพของเขาไว้ตั้งแต่สมัยไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อังกฤษ ก่อนจะหยิบรูปที่เขากำลังถูกจัดท่าทางเพื่อถ่ายลงหนังสือรวมรุ่นขึ้นมา
“แอบถ่ายตอนไหนเนี่ย”
“จริงๆก็ไม่ได้แอบแต่มาร์คไม่ได้สนใจเราอะ”
“จะแบล็กเมลล์เราอะดิ”
“เปล่า… เห็นว่ามาร์คน่ารักดีเลยถ่ายเก็บเอาไว้”
“….”
“แหนะ เขินอีก”
“…”
“จะไม่ถามหรอว่าแล้วทำไมคัสถึงคิดว่ามาร์คน่ารักอะ”
“ไม่เอา ไม่ถามแล้ว” มาร์ครีบพูดตัดจบ
“แต่คัสอยากบอกอะ” ลูคัสสบตามาร์คอย่างจริงจัง “ก็คัสชอบมะ..”
“ไม่เอาๆ พอแล้วๆๆ ไปกินซัมกยอบซัลดีกว่าๆ หิวแล้วว”
มาร์คทำท่าจะเดินหนีออกจากคนตัวสูงแต่ร่างสูงไวกว่า ลูคัสคว้าแขนมาร์คแล้วพาเดินไปที่โต๊ะกระจกกลางห้อง แล้วจึงยื่นตะกร้าเล็กๆที่ใส่ฟอร์จูนคุกกี้อยู่ให้คนตัวเล็ก
“อะ สุขสันต์วันเกิดนะครับเบบี้ไลอ้อน”
“ฟอร์จูนคุกกี้?”
“อ่าหะ เนี่ยรู้ปะ คัสทำเองแหละ” ลูคัสยิ้มออกมาอย่างภาคภูมิใจ “คัสนั่งเสิร์ชจากยูทูปเองเลยเพราะกลัวว่ามาร์คจะเบื่อเค้ก เลยลองหาอะไรที่น่าจะแทนกันได้ดู แล้วก็ได้เจ้านี่แหละ”
“เก่งนะเนี่ย” มาร์คพูดชมอีกฝ่ายพร้อมกับยกตะกร้าขึ้นมาดูพร้อมกับพลิกไปมา “ไม่ได้ใส่คำทำนายอะไรพิลึกๆมาแกล้งเราใช่ปะ?”
“โหหหห ถ้าลูคัสแกล้งมาร์คแล้วพวกเราไม่ถึงขั้นทำร้ายเลยหรอ?” อินจุนโผลงออกมาพร้อมกับทำหน้าตาจริงจังใส่เจ้าของวันเกิดจนเรียกเสียงหัวเราะได้จากทุกคนในห้อง
“เห็นมะ ไม่มีใครสปอยล์เราได้เท่ามาร์คแล้ว”
“งั้นเราลองแกะดูเลยได้ปะ?”
“ตอนนี้เลยหรอ?” มาร์คพยักหน้า “พร้อมจะยอมรับผลของคุกกี้แล้วใช่ไหม?”
“ถ้าไม่ได้ใส่อะไรพิเรนทร์ๆลงไปอะนะ”
มาร์คพูดพร้อมกับหยิบคุกกี้ชิ้นบนสุดขึ้นมาสำรวจก่อนแล้วจึงบิคุกกี้ให้เป็นสองส่วนจนเห็นกระดาษคำทำนายที่สอดไส้เอาไว้ คนตัวเล็กหยิบมันขึ้นมาก่อนเงยหน้าขึ้นไปมองลูคัสที่มองเขาก่อนอยู่แล้ว จู่ๆมาร์คก็รู้สึกใจเต้นแรงขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อลองเดาคำทำนายที่อยู่ในมือ
“เปิดสิ”
“ไม่เอาอะ”
“อ้าว”
“ก็ตื่นเต้นอะ” มาร์คพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา “คัสเปิดให้หน่อย”
“เอางั้น?”
“อื้อ”
“เลือกแล้วนะ”
ลูคัสพูดแล้วจึงหยิบกระดาษคำทำนายขึ้นมาจากมือเล็กพร้อมทั้งแกะมวนกระดาษนั้นออกมาอย่างไม่รีบร้อน เขาเหลือบมองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก็ต้องหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวลและคาดหวังกับผลลัพธ์ของเจ้ากระดาษใบนี้ทำให้เขาอยากจะฟัดแก้มคนตัวเล็กสักสองสามที
แต่ว่าเก็บความคิดนั้นเอาไว้ก่อน เพราะหลังจากที่เฉลยคำทำนายก็คงได้ว่ากันอีกที…มั้ง?
“อะแฮ่ม… คำทำนายมันบอกว่ามาร์คอีจะมีแฟนในเร็วๆนี้”
“หา?”
“ก็นายจะมีแฟนไง”
“เป็นไปได้ไงอะ” มาร์ครีบแย้งขึ้นมา เขาจะมีแฟนได้ไง ในเมื่อคนที่เขาชอบมันยืนหัวโด่อ่านข้อความนั้นอยู่
“เป็นไปได้ดิ”
“หา? ยังไง”
“ก็เป็นแฟนกับคัสไง”
“…”
“…”
“เหย…ไอ้โย่งมันเอาแน่ว่ะ” ดงฮยอกพูดออกมาทั้งๆที่ยังคงยืนอ้าปากตาค้างกับคำสารภาพรักของเพื่อนตัวสูง
“แม่ง…เขินอะ”
“ซัมกยอบซัลวันนี้สงสัยจะหวานว่ะ”
ยิ่งมาร์คได้ยิ่งคำแซวจากปากของเพื่อนอีกสี่คนที่เหลือ ใบหน้าของเขาเริ่มเห่อร้อนจนต้องรีบเอามือมาปิดไว้ ดวงตากลมโตเหมือนลูกแก้วก็เหลือบมองอีกฝ่ายอย่างกล้าๆกลัวๆ จนลูคัสต้องยกมือขึ้นมาลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ
“ไม่รู้หรือไงว่าชอบมานานแล้ว ชอบตั้งแต่ไปเรียนแลกเปลี่ยน ชอบจนต้องไปออดิชัน ไปเป็นเด็กฝึกเพราะว่ามาร์คบอกว่าชอบไอดอลของค่ายนี้ แล้วก็ชอบมากจนต้องย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับมาร์คเนี่ย คัสยังแสดงออกไม่พออีกหรอว่าชอบมาร์ค?”
เมื่อยิ่งได้ยินคำสารภาพจากอีกฝ่าย หัวใจของมาร์คที่ห่อเหี่ยวมาตลอดทั้งวันกลับฟูฟ่องขึ้นมาเหมือนลูกโปงที่ถูกอัดแก๊สจนแทบจะลอยได้ ไหนจะความรู้สึกของเขาที่ตอนแรกแทบจะเป็นศูนย์ เพราะว่าคิดว่าคงคิดไปเองเพียงฝ่ายเดียวนั่นอีก..
เขาพูดได้คำเดียวว่านี่มันเกินความคาดหมายของเขามากๆ!
ลูคัสรู้สึกเหมือนเขา…
ลูคัสชอบเขา…
“ทีนี้จะตอบคำถามคัสได้ยังหรือครับ”
“อื้อ”
“เป็นแฟนกันนะครับ”
“อืม เป็นแฟนกันนะ”
ลูคัสกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจเมื่อได้ยินคำตอบที่เฝ้ารอคอยมาตลอดสามปี วันนี้เขารู้สึกขอบคุณตัวเองมากๆที่กล้าเสี่ยงกับความรักในครั้งนี้ และคำตอบที่ออกมันยิ่งสมหวังแบบนี้ เขายิ่งมีความสุขมากๆ
ส่วนมาร์คอีที่เห็นท่าทางดีใจของลูคัสก็หัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่ได้ก่อนจะหลืบไปเห็นเพื่อนรุ่นน้องแต่ละคนที่กำลังยืนถือโทรศัพท์ไว้ในมือกันคนละเครื่องพร้อมทั้งยิ้มกริ่มออกมาจนมาร์คต้องขนลุกซู่ไปทั้งตัว
“ถ่ายคลิปไว้หรอ!? ลบเลยนะ!!”
“ป๊าวววว ไม่ได้ถ่ายคลิป” ดงฮยอกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สูงกว่าปกติพร้อมทั้งยักคิ้วหลี่ตาใส่มาร์ค
“ช่ายยยย ไม่ได้ถ่ายคลิปเลยยยย พวกเราก็แค่ไลฟ์สดเฉยๆ
“หา?!”
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ พี่มาร์ค : )”
End .
Happy birthday our baby lion <3 Hope you have a great memories in this 19th! Thank you for being Mark lee of NCT and I’m proud of you every time I mentioned to you. You are my inspiration, my Tylenol and my role model who extremely spend time to catch the dream!! Take care yourself and, I love you, boy : )
ปล. เรื่องอื่นๆเปิดให้อ่านแล้วนะคะ
#serendipitylm
ความคิดเห็น