ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf/os serendipity | nct lumark

    ลำดับตอนที่ #4 : (OS) The gravity between us

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.18K
      172
      24 มิ.ย. 61

    Short fiction

    Pairing: nct lucas x mark

    Rate: PG15

    Total words: 1,914 words

     

     

     

    มีบางคนบอกว่าตัวเราก็เหมือนขั้วของแม่เหล็ก

    ที่จะมีแรงดึงดูดเข้าหากันเมื่ออยู่ใกล้ๆ

     

    บริเวณห้องน้ำชายชั้นห้าของโรงเรียนมัธยมชายล้วนแห่งหนึ่งกำลังถูกชายหนุ่มที่ร่างเล็กกว่าร่างกายผู้ชายทั่วไปกำลังนั่งห้อยขาอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าลายแกรนิตอยู่ด้านในสุด ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นแล้วก็คงจะโดนคนอื่นต่อว่าในความไม่มีกาลเทศะต่อสถานที่ที่เหยียบอยู่

     

    แต่นี่คือมาร์คลีที่เป็นบุตรชายของนักการเมืองชื่อดังระดับประเทศก็เลยไม่มีใครกล้ามีเรื่องหรือมีปัญหากับมาร์คเลยสักคนและเพราะบุคลิกที่ไม่สุงสิงกับใครและไม่แคร์ใครเลยทำให้มาร์คลียิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้นกว่าเดิม

     

    เหมือนผีเสื้อแสนสวยที่มองได้แต่จับต้องไม่ได้

     

              ภาพกลุ่มควันสีเทาพวยพุ่งออกมาทางปากสีแดงเชอรี่ที่ดูขัดแย้งกับมวนบุหรี่มาโบโล่ดีพซีอยู่ในมือมาร์คนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้สิ่งทุกสิ่งทุกอย่างรอบข้างดูเพอร์เฟกต์ราวกับงานศิลปะชื่อดังที่ศิลปินบรรจงสร้างสรรค์มันขึ้นมา

     

              มาร์คลีนั่งห้อยขาลงเพียงข้างนึงส่วนอีกข้างนึงก็ชันขึ้นเพื่อเป็นที่พักคางของตนเอง ใบหน้าที่แสนจะเฉยชามองรอดออกไปยังช่องหน้าต่างเล็กๆเพียงบานเดียวเฉกเช่นทุกวัน เพียงแต่วันนี้ที่แปลกไปก็คงจะเป็นเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามาใกล้ห้องน้ำเรื่อยๆแค่นั้นแต่คนตัวเล็กก็หาได้สนใจสิ่งรอบข้างไม่ มือเรียวยกมวนบุหรี่ทุกถูกจุดไปแล้วครึ่งนึงขึ้นมาสูบอีกครั้ง ก่อนจะต้องหลุดออกจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงนุ่มทุ้มขึ้นมา

     

              เฮ้

     

              “..”

     

              ไม่ได้ยิน? ชายหนุ่มมาใหม่เอ่ยถามพลางยกคิ้วอย่างกวนประสาท

     

              ได้ยิน แต่ไม่รู้จะตอบอะไร มาร์คลีตอบไปตามสัตย์จริงทำให้อีกฝ่ายหัวเราะหึ

     

              เด็กโรงเรียนนี้เขาเป็นแบบนี้กันหรอ?

              สิ้นสุดคำถาม มาร์คลีจึงหันไปมองอีกฝ่ายอย่างชัดๆ ใบหน้าคมเข้มที่ต่างจากพิมพ์หน้าของคนเกาหลีอย่างชัดเจนบวกกับผิวสีแทนนั้นยิ่งทำให้ผู้ชายคนนั้นน่ามองเข้าไปอีก แล้วไหนจะรอยยิ้มที่แสนจะร้ายกาจนั่นด้วย

     

              มาร์คลีก็ไม่อยากจะยอมรับหรอกนะ

     

              แต่ว่าหมอนั่นหน่ะฮอตจริง

     

              แววตาสีนิลสบเข้ากับดวงตากลมโตสีฟ้าโดยธรรมชาติทำให้ทั้งคู่รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุนเพียงชั่วครู่ เป็นคนตัวเล็กที่เสหน้าหลบก่อนจะหยิบมวนบุหรี่ตัวใหม่ขึ้นมาจุดไฟจากซิปโปอันโปรดของตน

     

              นี่ ยังไม่ตอบคำถามเลยนะ

     

              ไม่

     

              ไม่ตอบ?

     

              ไม่ได้เป็นแบบฉัน ถามมากจังเด็กใหม่ มาร์คลีมุ่นคิ้วเพียงเสี้ยววิก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบนิ่งในเวลาต่อมา

     

              รู้ด้วยหรอว่าเป็นเด็กใหม่? คนมาใหม่ก็ยังคงถามไม่เลิก

     

              ก็ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน อีกอย่างนี่ก็กลางเทอมแล้วด้วย อย่างน้อยก็ต้องเห็นหน้ากันบ้างแหละ

     

              อ่าหะ เก่งดี

     

              ชายหนุ่มตรงหน้าแสร้งทำเป็นตกตะลึงและโปรยยิ้มใส่คนตัวเล็กกว่า ซึ่งมาร์คลีก็ไม่ได้สนใจคำพูดหรือท่าทางที่แสนจะกวนประสาทเท่าไหร่นัก เขายกมวนบุหรี่ขึ้นมาสูบ ค่อยๆสูดควันสีเทาเข้าไปช้าๆเพื่อให้มันกระจายไปทั่วปอด ก่อนจะพ่นลมออกมาน้อยๆพร้อมกับส่งเสียงหอบหายใจออกมาอย่างไม่ดังมากนัก


              ลูคัสมองภาพนั้นอย่างไม่วางตา แล้วผิวปากออกมาแล้วเดินเข้าไปใกล้อีกคนมากขึ้นกว่าเดิมโดยที่เจ้าตัวไม่ได้รับรู้ถึงภยันตรายที่ย่างกรายเข้ามาใกล้ตัว กว่าที่มาร์คลีจะรู้ตัวอีกทีก็โดนผู้ใหม่ท้าวแขนอยู่ที่กำแพงด้านข้างพวกเขาและเหลือช่องว่างเพียงแค่นิดเดียว

     

              นี่ เป็นลูคัสที่เอ่ยขึ้นมาก่อน

     

              “…” มาร์คไม่ได้ตอบอะไรออกไป แต่จ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งๆแทน

     

              อยากว่ะ

     

              พูดให้ดีหน่อย แววตาของคนที่นั่งอยู่บนอ่างล้างมือแข็งกร้าวขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่เข้าหู มาร์คเตรียมจะยกเท้าถีบคนตรงหน้าแต่ก็ช้ากว่าอีกคนที่คว้าขาเล็กๆของมาร์คเอาไว้ก่อนที่จะแทรกตัวเข้าไปอยู่ที่หว่างขาของคนตัวเล็ก

     

              เฮ้ ใจเย็นดิ

     

              น้ำเสียงนุ่มทุ้มแกมหยอกล้อของลูคัสทำให้มาร์คต้องพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด ลมหายใจจากคนตัวเล็กที่มีกลิ่นของดีพซีเจือปนอยู่ทำให้ลูคัสรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาลอบมองใบหน้าของอีกคนอีกครั้ง

     

    คนตรงหน้าเขามีดวงตากลมโตสีซัฟไฟร์บลูที่พบได้น้อยในเกาหลี มีริมฝีปากที่อวบอิ่มและแดงสด และมีผิวที่ขาวราวกับหิมะ ทำให้เขารู้สึกตกอยู่ในภวังค์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า นึกอิจฉาอีกฝ่ายที่ถูกพระเจ้าสร้างขึ้นมาอย่างเพอร์เฟกต์ เพียงแค่ลูคัสคิดว่าคงมีผู้คนอีกมากมายที่ชื่นชมและหลงใหลเสน่ห์ของคนตรงหน้านี้ เขาก็หวงแทบแย่

     

    หวงจนอยากจะทำลาย

     

    หวงจนอยากให้มีร่องรอยหรือตำหนิอะไรก็ได้ที่มาจากเขา

     

    หวงจนอยากจะครอบครองไว้เพียงคนเดียว

     

    ลูคัสยอมรับว่าเขาหวงคนตรงหน้าเอามากๆทั้งที่เขาเพิ่งจะเจออีกฝ่ายไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้ก็ตามและเขาก็เป็นพวกที่ถือคติว่าถ้าอยากได้อะไรแล้วต้องได้

     

    แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้หรอก เพราะถ้าเขารุกมากเกินไปเดี๋ยวไก่จะตื่นเสียก่อน

     

              ที่บอกว่าอยากหน่ะหมายถึงบุหรี่

     

              “…”

     

              ขอบุหรี่ตัวสิ ถือว่าเป็นการต้อนรับเพื่อนใหม่ ลูคัสโน้มตัวเข้าไปพูดใกล้ๆแล้วแสร้งยิ้มออกมาอย่างบริสุทธิ์ใจ

     

              ก็ได้ แต่ถอยออกไปหน่อย มันอึดอัดมาร์คลีพูดจบแล้วกดปลายบุหรี่ลงไปที่มุมอ่างล้างหน้าเพื่อให้มันดับทั้งๆที่ตัวเองยังสูบได้ไม่ถึงครึ่ง

     

    ท่าทางที่ดูล่อแหลมของทั้งคู่ทำให้มาร์ครู้สึกอึดอัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและด้วยความที่คนมาใหม่สูงกว่าเขามากทำให้มาร์คเผลอช้อนตามองอีกฝ่ายอย่างไม่ได้ตั้งใจ ยิ่งทำให้ลูคัสอยากแกล้งมากขึ้น คนตัวสูงเบียดเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิมก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากใส่คนตรงหน้า

     

    ไม่อะ แค่ขอบุหรี่เฉยๆต้องรังเกียจกันด้วยหรอ

     

    ขอบุหรี่แล้วเกี่ยวอะไรกับการที่นายมากักตัวฉันไว้แบบนี้

     

    เถียงจังวะ ลูคัสแกล้งบ่นเบาๆ ถ้านายยื่นบุหรี่ให้ฉันก็จบแล้ว

     

              มาร์คนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจแรงๆออกมาอีกครั้ง เขาล้วงไปที่เสื้อสูทด้านในแล้วหยิบซองบุหรี่ขึ้นมาและยื่นไปให้คนตรงหน้า

     

              พอใจยัง

     

              อ่าหะ ขอบใจมาก มาร์คลี? ลูคัสไล่อ่านป้ายชื่อที่ติดอยู่บนเสื้อสูทสีเข้ม

     

              ถอยออกไปได้แล้ว มาร์คผลักไหล่คนตรงหน้าให้ออกห่างจากตัว

     

              เดี๋ยวๆ ได้มาแต่บุหรี่เนี่ย จะสูบยังไงล่ะ

     

              เป็นอีกครั้งที่มาร์คต้องรู้สึกหงุดหงิดกับคนตรงหน้านี้ เขาหยิบซิปโปแล้วส่งไปให้อีกฝ่ายที่ตอนนี้คาบบุหรี่ไว้ในปากแต่ไม่ยอมรับซิปโปไปจุดสักที

     

              เอาไปดิ

     

              จุดให้หน่อย

     

              ทำไมเรื่องมากจังวะ

     

              เร็วๆ คาบรอจนเมื่อยแล้ว

     

    ลูคัสไม่ฟังเสียงของอีกฝ่าย หนำซ้ำยังเร่งให้มาร์คทำตามที่ตัวเองขออีกด้วย ส่วนมาร์คที่ไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปก็เหมือนพูดใส่กำแพงก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนจะจุดซิปโปแล้วยื่นไปจ่อที่ปลายมวนบุหรี่ที่อีกฝ่ายคาบไว้อยู่โดยไม่ทันสังเกตสายตาของอีกฝ่ายที่เหมือนหมาป่าที่จ้องจะตะครุบเหยื่ออยู่

     

    มือเล็กๆเอื้อมไปบังไฟที่ออกมาจากซิปโปตัวโปรดเพื่อไม่ให้มันดับก่อนที่บุหรี่จะติด เมื่อมาร์คเห็นว่าบุหรี่ติดไฟแล้วเลยจะชักมือออกแต่ก็ถูกมือหนาคว้าเอาไว้และดึงเข้าหาตัว ร่างสูงสูดควันเข้าไปเต็มปอดก่อนจะโน้มคออีกคนเข้ามาใกล้ตัวแล้วบดเบียดริมฝีปากลงไป

     

              ลูคัสอาศัยจังหวะที่มาร์คยังคงตกใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนี้อยู่บีบแก้มคนตัวเล็กเพื่อให้อีกฝ่ายเผยอปากออกมาก่อนจะส่งควันสีเทาที่อยู่ในปากของตนให้กับคนตัวเล็กซึ่งเขาก็ไม่ได้ส่งทีเดียวทั้งหมดเพื่อป้องกันอีกฝ่ายสำลักควันแต่ก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายหาทางเลี่ยงได้เหมือนกัน

     

              จนในที่สุดมาร์คก็คุมจังหวะการหายใจของตนและการรับส่งควันบุหรี่จากเด็กใหม่ได้ กลายเป็นว่าตอนนี้ทั้งคู่ไม่มีใครละริมฝีปากออกจากกัน ลมหายใจของทั้งคู่ผสมปนเปไปกับกลิ่นบุหรี่ที่เพิ่งสูบมาและเป็นมาร์คเองที่เผลอไผลไปกับสัมผัสใหม่ๆบวกกับกลิ่นของบุหรี่ที่ตนชอบจนต้องขบกัดริมฝีปากหนาของอีกฝ่ายเพื่อเป็นการระบายอารมณ์

     

              ทั้งคู่ต่างผลัดกันขบเม้มริมฝีปากกันไปมาโดยที่ไม่ได้แลกเปลี่ยนสัมผัสที่ลึกซึ้งไปมากกว่านี้ สุดท้ายทั้งคู่ก็ผละออกจากกัน ลูคัสที่เห็นนัยตาหวานฉ่ำของมาร์คก็อดไม่ไหวที่จะกดริมฝีปากตัวเองลงไปจุ๊บกับริมฝีปากเล็กๆแล้วลูบเบาๆที่หัว

     

              พอแล้วมาร์คปัดมือหนาออกจากหัวของตน

     

              ไม่ชอบหรอ

     

              ถ้าเป็นลูบหัวล่ะก็ไม่ชอบ

     

              แล้วถ้าเป็นอย่างอื่นอะ

     

              ก็ดี

     

              รู้สึกว่าตัวเองเก่ง ลูคัสแกล้งทำเป็นทุบอกตัวเองเบาๆก่อนจะส่งสายตาระยิบระยับไปให้มาร์คอย่างปิดไม่มิด

     

              เว่อร์จริงๆ มาร์คยันเท้าเบาๆไปที่สีข้างของอีกคน แต่ก็เอาเถอะ ถือว่าเป็นการรับน้องใหม่จากฉันแล้วกัน

             

              ปกติทำแบบนี้?ทันทีที่มาร์คพูดจบลูคัสก็ขมวดคิ้วฉับก่อนจะถามออกไปอย่างขุ่นเคือง

     

              ไม่นี่ กับนายคนแรกเลยลูคัส

     

              รู้จักด้วย?

     

              อื้อ ระดับนึง มาร์คยิ้มร้ายออกมาก่อนจะเตรียมเดินออกไปจากห้องน้ำ หว่องยกเหยลูกชายมาเฟียฮ่องกงมาเรียนทั้งที ทำไมจะไม่รู้จัก

     

              ร้ายนะเรา ทำเป็นไม่รู้จักกัน ลูคัสเดินตามมาหยุดอยู่ตรงหน้ามาร์คก่อนจะยิ้มพอใจออกมา

     

              ถ้าไม่ร้ายแบบนี้จะทันคนแบบนายไหมล่ะ ศีลเสมอกันนะ มาร์คเขย่งตัวไปกระซิบข้างหูคนตัวสูงแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำทันทีโดยทิ้งให้ลูคัสยืนมองแผ่นหลังเล็กๆด้วยความรู้สึกที่หลากหลายก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

     

    พอลูคัสรู้แบบนี้แล้วยิ่งทำให้ต้องการตัวอีกคนมากขึ้นยิ่งไปอีก เขาก็อยากจะลองพิสูจน์ดูเหมือนกันว่ามาร์คลีหน่ะจะร้ายแบบที่เจ้าตัวพูดจริงหรือเปล่าหรือก็แค่ลูกแมวที่อยากเป็นสิงโตเท่านั้น

     

              แต่ถ้าเป็นสิงโตจริงๆ เขานี่แหละจะเป็นคนถอดเขี้ยวให้มาร์คเอง

     

              End

     

     

              สวัสดีค่ะ เขียนด้วยความอยากเห็นน้องมาร์คในลุคนี้ พอเขียนออกมาแล้วก็แซ่บจริงด้วย ;;; แง้ โนพล็อตนะคะ 5555 แล้วคือจบไม่ลงและจบยากมากๆ ตอนจบเลยออกมางงๆแบบนี้แหละค่ะ;; แล้วก็ช่วงหลังๆมานี้มีรีดเดอร์มาพูดคุยกับเราในทวิตเตอร์เยอะมากๆ ขอบคุณมากๆนะคะ จะพัฒนาการเขียนให้ดีขึ้นนะคะ u__u เจอกันเรื่องหน้าค่ะ

     

              #serendipitylm



    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×