ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sf/os serendipity | nct lumark

    ลำดับตอนที่ #38 : #fictober ( 1 6 ) rain

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 668
      71
      22 ต.ค. 62

    #fictober2019

    Drabble fiction

    Pairing lucas & marklee

    Rate PG

     

    no. 16 (rain)

     

     

     

     

    note: บทสนทนาตัวเอียง คุยกันผ่านจิตใต้สำนึกนะคะ

     

     

     

     

     

    มาร์คอีเกลียดเวลาที่ฝนตก

     

     

    ขาทั้งสองข้างของเขาย่ำไปกับน้ำที่เจิ่งนองอยู่บนท้องถนน ร่างเล็กกะทัดรัดเดินลัดเลาะฝ่าฝูงชนมากมายที่กำลังเดินสวนกันไปมาในเช้าของวันเริ่มต้นสัปดาห์นี้ เสียงเพลง R&B ที่กำลังดังมาก ๆ ในช่วงนี้ดังลอดออกมาจากเฮดโฟนรุ่นดังชนิดที่ว่าคนที่เดินตามหลังคนตัวเล็กยังรู้ว่าเป็นเพลงอะไรเลย

     

    แต่ช่างตลกร้ายกับโชคชะตาของหนุ่มน้อยคนนี้เสียเหลือเกิน

    เพราะมาร์คอีนั้นไม่ได้ยินอะไรเลยสักนิดนอกจากเสียงสายฝนที่โปรยปรายลงมาอยู่เรื่อย ๆ

     

    ทั้งเสียงฝีเท้า

    เสียงพูดคุยหยอกล้อของคู่รักด้านหน้า

    หรือแม้กระทั่งเสียงเพลงจากเฮดโฟนตัวเอง

     

    ที่จริงเขาก็เป็นคนปกติทั่วไปที่ได้ยินเสียงนู่นนี่เป็นปกติ แต่เมื่อยามที่สายฝนโปรยปรายลงมา

    มาร์คอีกลายเป็นคนที่อยู่ใน 'โลกแห่งความเงียบ'      

     

    เขาพยายามหาวิธีต่าง ๆ ที่จะรักษาให้เขาหายจากอาการนี้ ไม่ว่าจะเป็นการหาหมอทั่วไปหรือการไปหาหมอเฉพาะด้านที่เกี่ยวกับประสาทวิทยาก็แล้ว แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถช่วยเขาได้

     

    คุณหมอทุกคนต่างบอกว่ามาร์คเป็นเคสที่หายาก

    เขาบอกว่ามาร์คเป็น 1 ในล้านที่เป็นแบบนี้ ซึ่งแทบจะไม่มีคนแบบนี้อยู่ในเกาหลีเลยด้วยซ้ำ ไอ้โรคที่หูดับระหว่างที่ฝนตกเนี่ย ชายหนุ่มถึงคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ตลกร้ายสุด ๆ

     

    ต่งซือเฉิงเพื่อนร่วมบริษัทแถมยังเป็นเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยไฮสคูลบอกว่าตนน่ะเคยอ่านบทความเกี่ยวกับความเชื่ออะไรบางอย่างที่ว่า คนบนโลกจะมีคนที่อยู่ท่ามกลางความเงียบในวันที่ฝนตก เพื่อรอคอยให้ใครสักคนเข้ามาทำชีวิตของเราให้สมบูรณ์

     

    คนคนนั้นเรียกว่าโซลเมท

     

    แต่มาร์คอีกลับไม่เชื่ออย่างนั้น เขาก็แค่เป็นโรคที่บกพร่องทางการได้ยิน ไม่ก็เส้นประสาทในหูมีปัญหากับการได้ยินเสียงฝน

     

    ไอ้เรื่องโซลเมทหรือรักแท้หน่ะ

    มีจริงที่ไหนกัน โคตรจะไร้สาระ

     

    ทุก ๆ ครั้งที่ฝนตกมาร์คจำเป็นต้องใส่เฮดโฟนเอาไว้ตลอดเวลา เพราะทุกครั้งที่ฝนตกเขาจะกลายเป็นคนที่หมดความมั่นใจไปเลยดังนั้นสิ่งที่เรียกความมั่นใจตัวเองขึ้นมาได้ก็คือเฮดโฟนสีเข้มอันนี้ เพราะมันทำให้เขารู้สึกกลมกลืนไปกับผู้คนทั่วไปและเวลาที่ทำอะไรป้ำๆ เป๋อ ๆ ไปจะได้อ้างว่าเพราะตนนั้นสวมหูฟัง

     

    มาร์คเร่งฝีเท้าขึ้นเร็วกว่าเดิมเมื่อก้มมองนาฬิกาข้อมือแล้วพบว่าวันนี้ตัวเองกำลังใกล้จะสายแล้ว และจังหวะที่มาร์คกำลังข้ามทางม้าลายนั้น ด้วยความที่เขาเป็นคนท้าย ๆ จึงต้องเร่งฝีเท้ามากขึ้นกว่าเดิมเมื่อเวลาของไฟสัญญาณคนเดิมข้ามทางม้าลายใกล้หมดแล้ว

     

    จะสายตั้งแต่วันแรกไม่ได้หรือเปล่าวะ

     

    มาร์คหยุดเดินเมื่อเขาได้ยินเสียงของใครก็ไม่รู้ดังรอดเข้ามาในความคิดของเขา ก่อนจะสะดุ้งตกใจเมื่อตัวเองได้ยินเสียงแตรรถยนต์ที่กำลังบีบไล่เขาให้เดินออกจากถนนเสียที นั่นทำให้คนตัวเล็กจำใจวิ่งข้ามฝั่งทันที

     

    บ้าหรือเปล่า ไปยืนกลางถนนแบบนั้นน่ะ

     

    ถ้ามันจะทำให้ได้ยินเสียงรอบข้าง ฉันก็ยอมบ้าแล้วกัน มาร์คโต้ตอบไปในใจเมื่อได้ยินความคิดของใครบางคนไม่หยุด

     

    หลังจากที่เขาเจอเหตุการณ์ประหลาดในวันที่ฝนตกแบบนี้ มาร์คก็คิดอะไรต่าง ๆ นานาจนแทบจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้เลย เขาตั้งคำถามกับตัวเองว่าเพราะอะไรตนถึงได้ยินเสียงรอบข้างตอนที่ฝนตกแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะได้ยินมันเบามาก แต่อย่างน้อยมาร์คก็ยังได้ยินเหมือนคนทั่วไปสักที

     

    แต่ที่ประหลาดใจไปยิ่งกว่านั้นคือเสียงทุ้ม ๆ ที่เข้ามาในหัวเขานั้น

    มันชัดเจนยิ่งกว่าเสียงไหน ๆ

     

    มาร์คคิดได้ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแอปพลิเคชันแชทยอดฮิตก่อนจะพิมพ์ข้อความส่งไปหาซือเฉิงเพื่อนสนิทที่อยู่คนละแผนกของตัวเองทันที

     

    Mark L.

    มึง

    10:11 AM ว่างปะ

    Ssicheng

    ว่าง

    มีอะไรวะ 10:12 AM

     

    Mark L.

    10:13 AM กูได้ยินเสียงตอนฝนตกว่ะ

     

    Ssicheng

    ถามจริง

    ? 10:14 AM

     

    Mark L.

    10:14 AM เออดิ

     

    Ssicheng

    หายแล้วหรอวะ 10:14 AM

     

    Mark L.

    10:14 AM ไม่แน่ใจเท่าไหร่

    แต่ก่อนที่ได้ยินเสียงอื่น ๆ

    10:15 AM ได้ยินเสียงผู้ชายขึ้นมาก่อนอะ

     

    Ssicheng

    อืม

    พูดยากว่ะ 10:16 AM

    แต่ว่า

    มึงจำที่กูเคยเล่าเรื่องโซลเมทให้มึงฟังได้ปะ 10:17 AM

     

     

    Mark L.

    เออ

    10:17 AM มึงว่ามันเหลือเชื่อเกินไปหรือเปล่าวะ

     

    Ssicheng

    อะไรก็เกิดขึ้นได้หรือเปล่าวะ

    ขนาดมึงยังไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยตอนฝนตกเลย 10:18 AM

     

    Mark L.

    10:18 AM ก็จริง

     

    Ssicheng

    บางทีมึงอาจจะเจอโซลเมทของมึงแล้วก็ได้ 10:18 AM

     

    Mark L.

    ก็ถ้าไอ้โซลเมทอะไรที่มึงพูดมันมีจริง ๆ

    แล้วมันทำให้กูเป็นปกติ

    10:18 AM กูก็อยากจะเจออีกครั้ง

    Ssicheng

    ก็ขอให้เจอเร็ว ๆ แล้วกัน 10:18 AM

    เออ มึง

    เดี๋ยวกูไปเตรียมตัวก่อน

    จะมีเด็กฝึกงานไปฝึกงานที่แผนกมึง

    เดี๋ยวกูขึ้นไปหา 10:20 AM

     

    Mark L.

    10:18 AM เออ

     

     

    หลังจากที่ซือเฉิงขอตัวไปทำงาน มาร์คก็ได้แต่นั่งอ่านข้อความของเพื่อนสนิทตัวเองอยู่อย่างนั้น เขาไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้มาก่อน และถ้าเกิดว่ามันมีเรื่องคู่แห่งโชคชะตาและจะมาพลิกชีวิตของเขาให้ดีขึ้น เขาก็อยากจะเห็นและลองเสี่ยงมันดู

     

    แต่ว่าเขาจะไปหาคนคนนั้นได้จากที่ไหนกันล่ะ?

     

    ตื่นเต้นชะมัด

     

    มาร์คชะงักอีกครั้งเมื่อตนได้ยินเสียงของใครก็ไม่รู้ดังเข้ามาในหัวอีกครั้ง เขามองซ้ายมองขวาก็พบว่าเพื่อนร่วมงานทุกคนของเขากำลังนั่งทำงานกันปกติ อีกทั้งไม่มีใครเข้ามาในแผนกด้วยซ้ำ คนตัวเล็กคิดว่าตนคงจะเก็บมาคิดจนมากเกินไปเลยเกิดอาการหูแว่ว

     

    แต่ของแบบนี้มันต้องลองหรือเปล่า?

     

    ตื่นเต้นอะไร คนตัวเล็กถามเจ้าของเสียงนิรนามนี้กลับไป หวังว่าอีกฝ่ายจะเหมือนตนเองและได้ยินเสียงเขาอย่างที่เขาได้ยินเสียงชายคนนั้น

     

    เดี๋ยวนะ ตื่นเต้นจนหลอนไปหรือวะ

     

    เสียงทุ้ม ๆ ที่มาร์คได้ยินนั้นดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้น้ำเสียงมันเต็มไปด้วยความแปลกใจและบ่นตัวเองแทนที่จะโต้ตอบกับเขานี่สิ ซึ่งคนตัวเล็กก็พอจะเข้าใจนะว่าทำไมชายคนนั้นถึงแปลกใจกับเสียงที่ดังขึ้นในหัว ขนาดเขาเองก็ยังอดแปลกใจไม่ได้เลย แต่ก็นั่นแหละ พอมาได้ยินสิ่งที่อีกคนคิดมันก็อดตลกไม่ได้เหมือนกัน

     

    คิดว่าอย่างไรล่ะ มาร์คแกล้งถามกลับไป

     

    เดี๋ยว มันเริ่มไม่ใช่แล้วว่ะ

     

    เชื่อในเรื่องโซลเมทไหม

     

    คุณเป็นใคร ทำไมเสียงของคุณมันดังในหัวของผมหรือคุณเป็นปีศาจหรือผี!?’ น้ำเสียงของอีกคนที่มาร์คได้ยินมันเต็มไปด้วยความกลัวที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ซึ่งเขาก็กลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหวเมื่อลองจินตนาการถึงสีหน้าของอีกคนว่าจะทำหน้าแบบไหนกันอยู่ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นหน้าค่าตากันเลยด้วยซ้ำ

     

    ไอ้บ้า มาร์คพูดก่อนจะหัวเราะออกมา

     

    เริ่มกลัวแล้วนะ

     

    ไม่คิดว่าผมจะเป็นคนบ้างหรือไง

     

    คนบ้าอะไรจะโทรจิตคุยกันได้วะ

     

    คนที่เป็นโซลเมทกันไง

     

    มาร์คอีพูดจบก็หันไปมองยังผู้มาใหม่ยังแผนกของตนทันทีก็เห็นว่าเป็นซือเฉิงเพื่อนของเขาเองและชายหนุ่มอีกหนึ่งคนที่เดินตามซือเฉิงมาติด ๆ เขาสบตากับอีกคนครู่นึงก่อนจะเป็นอีกฝ่ายที่ก้มหน้าหนีเขาไปก่อน

     

    เชี่ย พี่คนนั้นเขามองกูด้วยว่ะ

     

    เดี๋ยวนะ?

     

    มาร์คจ้องไปที่อีกคนที่ยืนทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอย่างตกใจ เมื่อคนที่เขาเพิ่งสบตาด้วยคือไอ้เด็กฝึกงานที่เพิ่งเข้ามาทำงานวันนี้เป็นวันแรกและยังเป็นเจ้าของเสียงเดียวกันกับเสียงที่เขาได้ยินมาตลอดช่วงเช้านั่นเอง

     

    มันจะบังเอิญจนเกินไปแล้วนะ

    บังเอิญจนน่าขนลุก

     

    คุณมาร์คครับ เชิญทางนี้หน่อยครับ

     

    อ่า ครับ

     

    มาร์คเดินเข้าไปหาซือเฉิงที่เป็นคนที่เรียก คนตัวเล็กส่งยิ้มทักทายให้เพื่อนปกติก่อนจะหันไปยิ้มให้คนที่คาดว่าจะเป็นเสียงปริศนาที่เขาตามหามาตลอดหลายชั่วโมงมานี้และ

     

    ชายตรงหน้าสูงกว่าเขามากพอสมควร ใบหน้าคมเข้มที่ดูหล่อเหมือนนายแบบยิ่งกว่าการเป็นว่าที่สถาปนิกที่กำลังจะจบอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าทำให้ผู้หญิงในแผนกต่างก็แอบมองและชื่นชมหน้าตาของชายหนุ่มคนนี้ในใจ ผิวสีแทนที่ต่างจากคนเกาหลีทั่วไปทำให้มาร์ครู้ว่าชายคนนี้ไม่ใช่คนเกาหลีแท้ 100% แน่ ๆ

     

    หน้าตากินขาดจริง ๆ ขนาดเขาที่เป็นผู้ชายด้วยกันยังอดที่จะชมคนตรงหน้าไม่ได้เลย

     

    ทำความรู้จักกันไว้นะครับ มาร์คนี่ยกเหยนะครับ เป็นรุ่นน้องเรา 3 ปี ส่วนยกเหยนี่พี่มาร์คนะครับ เขาเป็นหัวหน้าทีมออกแบบครับ ยังไงถ้าอยากเรียนรู้งานอะไรก็ศึกษากับพี่เขาได้นะครับซือเฉิงพูดแนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกัน

     

    น่ารักแถมยังเก่งอีกด้วยว่ะ

     

    มาร์คถึงกับหน้าตึงเมื่อยกเหยคือคนที่เขาคาดเดาว่าเป็นเจ้าของเสียงปริศนานั่นแถมยังชมเขาว่าน่ารักอีกด้วย เขาสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มไปให้อีกฝ่าย

     

    อย่าปีนเกลียวครับ ผมไม่ใช่เพื่อนคุณ

     

    ยินดีที่ได้รู้จักครับน้องยกเหย

     

              มาร์คส่งยิ้มออกไปให้อีกฝ่ายที่กำลังทำท่าตาลีตาเหลือกใส่เขา เพราะคำพูดที่คนตัวเล็กพูดออกไปนั้นมันช่างสวนทางกับความคิดที่เขากำลังคิดเพื่อให้อีกฝ่ายได้ยินนั้นช่างสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง

     

              อ่า ครับ พะ-พี่มาร์ค

     

              คุณคือเจ้าของเสียงหลอน ๆ นั้นหรอ!?’

     

    เชื่อหรือยังล่ะว่าเป็นคน

     

    เชี่ย จริงหรอวะเนี่ย

     

    เออ

     

    ยังไงก็ฝากดูแลน้องมันด้วยนะมาร์ค

     

    ครับ ผมต้องดูน้องไปอีกยาวเลยล่ะ คุณซือเฉิงวางใจผมได้เลย มาร์คยิ้มออกมาเรียกความมั่นใจเพื่อนสนิทที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเพื่อนสนิทและเด็กฝึกงานคนใหม่แต่ไม่ได้ทักท้วงอะไรออกมา

     

    -พี่อย่าทำให้ผมกลัวสิ

     

    คนตัวเล็กอยากจะหัวเราะให้ลั่นแผนกแต่ต้องเก๊กขรึมเอาไว้เมื่อเห็นคนตัวสูงทำหน้าแห้ง ๆ ยิ้มแหย ๆ ใส่และทำได้เพียงทะเลาะกับเขาเพียงในใจกันเท่านั้น

     

    แกจะกลัวอะไรกะอิแค่โซลเมทเนี่ย

     

    พี่..’

     

    เออเดี๋ยวเรามาพิสูจน์กันว่าไอ้โซลเมทบ้าบอเนี่ยมีจริงไหม

     

    ‘…’

     

    ก็บอกแล้วไงว่าเราน่ะต้องดูกันอีกยาวเลยล่ะ ยกเหย

     

    ฝากตัวด้วยนะครับ น้องยกเหย

     

    มาร์คยื่นมือไปทางคนตัวสูงก่อนจะส่งยิ้มที่ตนคิดว่าใจดีและจริงใจที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมาให้อีกฝ่าย แต่ดูเหมือนอีกคนจะทำหน้าผงะไปหน่อยนึงเมื่อเขายิ้มให้ แต่ยังคงยื่นมือหนามาจับเข้าที่มือของคนเป็นพี่ตามมารยาท

     

    อ่า ขอฝากตัวด้วยเหมือนกันครับ พี่มาร์ค

     

    เดี๋ยวได้รู้กันว่าปรากฏการณ์โซลเมทวันฝนตกจะมีจริงหรือเปล่า

    แต่ที่แน่ ๆ วันฝนตกของเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

     

    เพราะเด็กที่ชื่อ หว่อง ยกเหย คนนี้เลยจริงๆ

     

     

     

    Ended

    Scream and comment on #serendipitylm

     

     

     

    Note - อันนี้เสริมนิดนึง คือปกติมาร์คจะไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยใช่ไหมคะช่วงที่ฝนตก แต่ตอนนี้เจอโซลเมท(ยกเหย)ในระยะใกล้ๆเลยทำให้พลอยได้ยินเสียงอื่นๆในวันที่ฝนตกค่ะ ซึ่งถ้าอยู่ไกลกันก็จะกลับไปไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยเหมือนเดิมนะคะ

     

     Talk เรนเวิร์สค่ะเรื่องนี้ กรี๊ดด เป็นอะไรที่คิดว่าอยากจะแต่งมานานแล้ววว ที่จริงจะได้ลงฟิคช่วงหกโมงเย็นค่ะ แต่เผอิญที่บ้านชวนไปเดินงานบ้านและสวนก่อน.. ก็เลยมาลงดึกเหมือนเดิม แหะ ;;  ช่วงที่ผ่านมาหนักหนามากค่ะ แต่ฮึดสู้ขึ้นมาได้เพราะได้เจออะไรดีๆ ที่ทำให้มีแรงบันดาลใจในการเขียนต่อ อยากขอบคุณคนเหล่านั้นมากๆเลยค่ะ ขอบคุณเลยแล้วกัน ขอบคุณนะคะ แล้วก็ขอบคุณคนอ่านทุกคนของเราทุกคนจริงๆนะคะ ทุกคนทำให้เราอยากแต่งฟิคค่ะ y – y

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×