คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #36 : #fictober ( 1 4 ) sport
#fictober2019
Drabble
fiction
Pairing
lucas & marklee
Rate
PG
Note เซ็ตคุณไนท์ค่ะ
no.
14 (sport)
“หา!? กูถามจริง ๆ เลยนะ” เสียงสูง ๆ
ของเฉินเล่อตะโกนออกมาเมื่อเพื่อนตัวเล็กเล่าสิ่งที่ตนพบเจอมา
“เออดิ”
“เขาเอาอะไรคิดวะ
ใช้ตาตุ่มมองมึงหรือเปล่า”
“พูดแบบนี้ด่ากูกระจอกแทนก็ได้นะ”
มินฮยองพูดพลางจ้องอีกฝ่ายด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“โทษทีเพื่อนรัก” คนตัวขาวพูดขอโทษขอโพยเพื่อนรักพร้อมกับหัวเราะเก้อ “แต่แบบโคตรเหลือเชื่อเลยว่ะ”
“อะไรมันจะขนาดนั้นวะ
กะอีแค่กูเป็นตัวแทนสีไปแข่งยิงธนูเนี่ย”
“เอออออ
ขนาดนี้เลยแหละ กูถึงบอกไงว่าอิหัวหน้าห้องมึงมันเอาอะไรคิด!
”
“…”
“แขนสั้นไม่พอยังสายตาสั้นอีก
กูล่ะท้อเลย”
มินฮยองได้ยินดังนั้นจึงผุดลุกขึ้นและวิ่งเข้าไปล็อกคอเพื่อนคนจีนทันทีโดยที่อีกคนไม่ทันระวัง
ทั้งสองคนเล่นกันอยู่กลางโรงอาหารโดยที่ไม่มีนักเรียนคนไหนสนใจพวกเขาเลยสักนิด
เว้นเสียแต่ไนท์คนดังของโรงเรียน
ดวงตาคมเข้มฉายแววอารมณ์ดีตั้งแต่เดินเข้าโรงอาหารมาเพราะมันจะทำให้ตนได้เห็นเลดี้ที่แสนจะน่ารักของเขากำลังเคี้ยวข้าวแก้มตุ่ย
ๆ แต่วันนี้กลับมีอะไรมากกว่านั้นเมื่อเขาเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังลุกขึ้นรัดคอเพื่อนท่ามกลางเสียงจอกแจกจอแจของนักเรียนที่กำลังกินข้าวกันในช่วงพักกลางวันแบบนี้
ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่มองที่เฉินเล่อและมินฮยองเล่นกันด้วยซ้ำ
แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ
ในเมื่อสายตาของลูคัสนั้นมีไว้มองเลดี้ของเขาเท่านั้น
ดวงตากลมโตที่จ้องมองเพื่อนสนิทอย่างประทุษร้ายเมื่อหันไปสบเข้ากลับดวงตาคมเข้มของคนที่มีตำแหน่งเป็นไนท์ที่เด็กที่สุดในโลกก็ยิ้มออกมาอย่างเล็กน้อยพร้อมกับผงกหัวทักทายอีกคนเร็ว
ๆ จนคนที่มองอยู่ถึงกับหลุดขำออกมา
“ขำอะไรวะ” เฮนเดอรี่ชะเง้อหน้ามองไปทางที่เพื่อนตัวสูงของตนหลุดขำออกมา
“ขำคนน่ารัก”
“ขำคนน่ารัก?
หมายถึงสองคนนั้นที่เล่นกันอยู่ปะ” เฮนเดอรี่หันกลับไปมองอีกครั้ง
ก็พบว่าหนึ่งในคนที่กำลังเล่นกันอยู่กำลังส่งยิ้มมาให้เพื่อนผิวแทน “เดี๋ยวนะ อย่าบอกว่า…”
“เออ คนนี้แหละ
:-)”
“สุดยอดเลยว่ะ ไปคว้าหัวใจคนน่ารักมาได้เนี่ย
ธรรมดาที่ไหนกันเพื่อนผม”
เฮนเดอรี่ยิ้มหยอกล้ออีกฝ่ายและพากันกอดคอไปต่อแถวยังร้านข้าวร้านประจำของทั้งคู่
โดยที่ลูคัสก็ยังเหลือบมองคนตัวเล็กเป็นระยะ ๆ แล้วก็พบว่าทั้งสองคนนั้นเลิกเล่นกันแล้วและเริ่มจัดการข้าวที่อยู่ในจานต่อแทน
แน่นอนว่าเรื่องที่ไนท์คนดังกับเด็กเนิร์ดห้องอาร์ตคบกันยังไม่มีใครรู้
ถึงแม้ว่าลูคัสกับมินฮยองจะเป็นแฟนกันได้หลายวันแล้ว
แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่คิดจะประกาศออกไป เพราะคนตัวสูงทำตามคำขอของมินฮยอง
เพราะคนตัวเล็กยังไม่ชินกับการถูกจับจ้องเพราะเป็นคนธรรมดาตั้งนาน
จะให้ประกาศปุบปับเหมือนคู่อื่น ๆ ก็กะไรอยู่
ซึ่งลูคัสก็เห็นด้วยกับที่แฟนตัวเล็กคิด
เรื่องนี้จึงมีเพียงแค่ ลูคัส มินฮยอง
เฉินเล่อ ผู้ซักเพื่อนสนิทซะขาวและไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของคนที่ไม่รู้ต่อไป และเฮนเดอรี่เพื่อนสนิทของลูคัส
ผู้ที่ระแคะระคายเองและเพิ่งเห็นหน้าแฟนเพื่อนเป็นครั้งแรกเมื่อกี้
ที่รู้ว่าไนท์คนดังมีแฟนแล้วแถมทันพิธีแต่งตั้งเลดี้อีกด้วย
“โอ้โหหห
ละสายตาไม่ได้เลยเนอะ” จงเฉินเล่อทำทีเป็นพูดกระแนะกระแหนเพื่อนของตน
“เพราะมึงเป็นแบบนี้เนี่ย
กูเลยอยากจะเลิกคบมึง” คนตัวเล็กพูดด้วยน้ำเสียงเอือม ๆ
“เค ๆ ไม่พูดแล้วครับ” เพื่อนสนิทของมินฮยองยกมือเป็นเชิงยอมแพ้ “แต่ว่านะมึง!!”
“อะไร”
“มึงแข่งยิงธนูไม่ใช่ไงวะ
ไม่ให้แฟนมึงเทรนให้อะ”
“เออว่ะ”
“แหม
มีแฟนเป็นนักกีฬาตัวท็อป ๆ นี่มันดีจังเลยน้า ได้รู้ทริคการแข่งไม่พอ ยังได้อ้อนแฟนอีก”
“สัด มึงจะย้ำคำว่าแฟนอะไรนักหนาวะ”
“เขินก็บอกมา กิ๊ว ๆ” เฉินเล่อเขี่ยแก้มนุ่ม ๆ
ของเพื่อนสนิทที่กำลังเห่อแดงเพราะคำพูดหยอกล้อของตนไปมา
จนมินฮยองต้องเบี่ยงตัวเองและปัดมือขาวออกจากใบหน้าของตน
“เออ รู้แล้วก็เลิกแซว”
“ก็ได้ แต่มึงต้องบอกลูคัสเรื่องที่มึงลงแข่งธนูนะเว้ย
เขาจะได้ช่วยสอนมึง”
“เออ กูจะบอกเขา”
“ดีล”
และเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนมินฮยองก็แบกกระเป๋าใบใหญ่ไปยังห้องสมุดเหมือนทุก
ๆวัน ซึ่งพักหลัง ๆ ก็มักจะมีคนมาร่วมโต๊ะด้วยอีกคนนอกจากเพื่อนสนิทของคนตัวเล็ก
ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูคัสแฟนปากหวานของมินฮยองนั่นเอง
แต่ด้วยความที่ลูคัสเป็นคนดังและที่นั่งประจำของมินฮยองอยู่ในส่วนที่นักเรียนคนอื่นชอบมานั่งติวกันเลยทำให้คนตัวเล็กต้องหาโต๊ะประจำตัวใหม่สำหรับเขา
ลูคัสและเฉินเล่อ
“วันนี้เฉินเล่อไม่มาหรอครับ”
มินฮยองที่นั่งทำการบ้านเงยหน้าขึ้นมาตามเสียงของผู้มาใหม่ก่อนจจะส่ายหน้าออกมาเป็นคำตอบ
ส่วนไนท์คนดังที่เพิ่งมาถึงก็ถอดกระเป๋าที่สะพายไหล่เอาไว้ข้างเดียวและวางมันตรงที่นั่งข้าง
ๆ ของตนและนั่งลงตรงข้ามกับเลดี้ตัวเล็ก
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
“วันนี้ก็เหมือนปกติครับ
แต่จะแย่หน่อย ๆ ตรงชอบเผลอคิดถึงมินฮยองตลอดเวลาเท่านั้นเอง”
“ขี้เว่อร์จริงๆ” มินฮยองส่ายหน้าออกมา
“:-) แล้วมินฮยองล่ะครับ”
“เหมือนกัน” มินฮยองพูดออกมาก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่จะต้องบอกอีกคน “อ๋อ แต่วันนี้ต่างจากวันอื่นหน่อยนึง”
“หือ อะไรหรอครับ”
“ก็หัวหน้าห้องน่ะ
มาขอให้เราช่วยลงแข่งกีฬา”
“จริงหรอครับ?
คาดไม่ถึงเลยแหะ”
ไนท์คนเก่งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แปลกใจจนมินฮยองง้างมือออกมาเตรียมจะตีอีกฝ่าย
แต่คนตัวสูงไม่ได้มีท่าทีที่กลัวเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังหัวเราะคนตัวเล็กอีกด้วย
“เดี๋ยวจะไล่ไปอยู่กับเฉินเล่อ
ขยันแกล้งกันนัก” คนตัวเล็กบ่นอุบ
“ไม่ไปหรอกนะครับ”
“เราก็ไม่อนุญาตให้ไนท์ไปหรอกนะ”
สรรพนามที่เปลี่ยนไปของคนตัวเล็กทำให้ลูคัสยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กพยายามปรับตัวเข้ากับเขา
ซึ่งเขาได้ยินมาสักพักแล้วที่มินฮยองมักจะแทนตัวเองว่าเรากับเขา
ไม่เหมือนที่แต่ก่อนใช้สรรพนามแทนตัวเองว่าฉัน และคนตัวสูงก็คิดว่าพอเลดี้ของเขาแทนตัวเองแบบนี้ยิ่งน่ารักขึ้นเป็นกอง
“น่ารักจังครับ :-)
ว่าแต่มินฮยองแข่งกีฬาอะไรเหรอครับ”
“อ่า… แข่งยิงธนูน่ะ”
“อ๋อ
กีฬาที่ทำให้ผมได้เป็นแฟนคุณนี่เอง”
“ไอ้บ้าเอ๊ย” มินฮยองแทบจะมุดหน้าลงกับโต๊ะเมื่ออีกคนรื้อฟื้นความทรงจำ
“เขินเก่งอีกแล้ว”
“หยุด
สรุปจะสอนหรือไม่สอน” คนตัวเล็กทำเป็นโมโหกลบเกลื่อน
“จะให้ผมสอนด้วยหรอครับ”
“หรือจะให้พี่โดยองสอนก็ได้นะ
เคยอยู่ชมรมห้องสมุดเหมือนกันกัน”
มินฮยองพูดประชดคนตัวสูงเมื่อเริ่มจะแหยเขามากเกินไปจนเขาเริ่มจะหงุดหงิดแล้วเหมือนกัน
คนตัวเล็กเมนชันถึงพี่ชายคนสนิทของตนที่รู้จักกันเพราะชมรม
แต่คนตัวสูงรีบส่ายและปฏิเสธเลดี้ของตัวเองอย่างทันควัน
“ไม่ครับ สอนครับสอน
เรื่องแค่นี้เองผมสอนมินฮยองได้อยู่แล้วครับ”
“ก็ดี” มินฮยองพยักหน้าออกมาอย่างพอใจ “แล้วจะเริ่มสอนวันไหนล่ะ”
“พรุ่งนี้เลย ดีไหมครับ?”
“ทำไมรีบขนาดนั้นอะ
แข่งตั้งเดือนหน้า”
“ก็ถ้าเรารีบฝึกพื้นฐานและคุณทำได้เลย
เราก็จะได้ไปสเต็ปอื่นได้เร็ว ๆ ไงครับ คุณจะได้ไม่เสียเวลาทีหลัง
แล้วผมจะได้รู้สกิลของคุณด้วย…”
ซะที่ไหนล่ะ!
ที่ลูคัสพูดมาทั้งหมดคือข้ออ้างทั้งนั้น
ข้ออ้างที่อยากจะอยู่กับคนตัวเล็กในทุก
ๆ เย็นหลังจากวันนี้
“อืม แบบนั้นก็ดีนะ”
มินฮยองพยักหน้าออกมาโดยที่ไม่ได้ติดใจอะไรอีกฝ่าย
“งั้นพรุ่งนี้เราจะเริ่มซ้อมยิงธนูกันวันแรกนะครับ”
คนตัวเล็กพยักหน้าเชิงรับรู้ก่อนจะก้มหน้าทำการบ้านของวันนี้ต่อไป
ส่วนไนท์คนดังก็หยิบหนังสือมาอ่านฆ่าเวลาระหว่างรอคนตัวเล็ก
ถึงกิจวัตรประจำวันจะเหมือนเดิม มานั่งรอคนตัวเล็กสรุปนู่นสรุปนี่ที่เรียนมา
บางวันก็ทำการบ้าน แต่ลูคัสกลับไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อหน่ายเลยสักครั้ง
ความเคยชินแบบนี้กลับทำให้เขาชอบคนตัวเล็กมาขึ้นด้วยซ้ำ
เพราะเลดี้คนเก่งของเขามักจะถามเขาว่าเบื่อไหม เหนื่อยไหม หรือหิวหรือเปล่า
ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกชอบที่อีกคนแคร์และเป็นห่วงเขาอยู่ตลอดเวลา
ก็ลูคัสบอกแล้วไงว่าเลดี้ของเขาน่ะน่ารักกว่าที่คิด
วันถัดมามินฮยองได้นัดกับไนท์เอาไว้ที่โรงฝึกยิงธนู
ใช่…
ที่โรงเรียนของเขามีโรงยิมที่เอาไว้ฝึกยิงธนูโดยเฉพาะ
ซึ่งนี่เป็นสถานที่หลัก ๆ ที่คนอื่นจะสามารถเจอลูคัสได้
แต่สำหรับมินฮยองนั้นนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะเห็นอีกคนในคราบนักกีฬา
อาจจะดูแปลก ๆ
นะที่ก่อนหน้านี้เขาจะไม่เคยดูกีฬารวมถึงเห็นลูคัสมาก่อน
แต่ก็นั่นแหละ
จะเอาอะไรกับคนที่ไม่สนใจอะไรนอกจากหนังสืออย่างเขา
ก็ถึงได้บอกไงว่าการที่เขาและไนท์เจอกันนั้นเป็นพรหมลิขิต
คนตัวเล็กมาทำยักแย่ยักยันอยู่ตรงหน้าประตูอยู่นานสองนานแล้ว
แต่ก็ยังไม่กล้าเปิดเข้าไปอยู่ดี เพราะคนส่วนใหญ่ที่อยู่ในนั้นล้วนเป็นนักเรียนห้องกีฬามากกว่าห้องอื่น
ๆ ทำให้นักเรียนห้องอาร์ตแบบเขารู้สึกเกร็งกว่าปกติ
“จะเข้าไปหาลูคัสมันเลยไหม”
มินฮยองสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินชายคนนึงพูดชื่อลูคัสออกมา
เขาทำท่าจะส่ายหน้าใส่อีกคนแต่คนหล่อคนนั้นพูดขึ้นมาเสียก่อน
“ผมเพื่อนสนิทไอ้ลูคัสมัน
ไม่ต้องกังวลนะ”
“อ่า” มินฮยองพยักหน้าเชิงรับรู้
“ผมชื่อเฮนเดอรี่”
ตอนนี้มินฮยองมายืนอยู่บริเวณลานฝึกยิงธนูที่มีเป้าระยะต่าง
ๆ อยู่เป็นจุด ๆ เพื่อให้คนได้ฝึกกันอย่างทั่วถึง
ถัดจากเขาเป็นลูคัสที่กำลังยืนคุยกับเพื่อนสนิทอย่างเฮนเดอรี่กันออกรส
คนตัวเล็กเพิ่งเคยเห็นลูคัสในมุมที่อยู่กับเพื่อนเป็นครั้งแรก
ลูคัสเวลาอยู่กับเพื่อนฝูงจะเป็นคนที่ไนซ์และกวนประสาทเหมือนเดิม
เพียงแต่ดีกรีการเล่นและพูดจะต่างจากที่อยู่กับเขา
แต่มินฮยองก็ไม่ได้แปลกใจอะไรเท่าไหร่เพราะเวลาที่ตนอยู่กับเฉินเล่อก็จะต่างกับที่อยู่กับลูคัสเช่นกัน
“เรามาฝึกเลยไหม” มินฮยองเป็นคนเอ่ยถาม
“มินฮยองอย่างเพิ่งรีบสิครับ” ลูคัสหัวเราะออกมา “เราต้องทำความรู้จักกับอุปกรณ์ก่อนนะ”
“…”
“อีกอย่างผมต้องเลือกคันธนูที่เหมาะกับคุณด้วย”
“อ่าหะ”
“มาตรงนี้กันดีกว่าครับมินฮยอง”
คนตัวสูงลากแฟนตัวเล็กของตัวเองมายังโซนอุปกรณ์สำหรับยิงธนูและเริ่มอธิบายแต่ละอย่างให้มินฮยองได้ฟัง
คนตัวเล็กที่ฟังไปด้วยศึกษาอุปกรณ์ไปด้วยก็ทำตาโตอย่างตื่นตาตื่นใจผ่านกรอบแว่นกลม
ๆ
น้ำเสียงทุ้ม ๆ
และคำอธิบายง่าย ๆ ทำให้มินฮยองเข้าใจเรื่องการยิงธนูรวมไปถึงกฎกติกาได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนคุณครูตัวสูงก็มองลูกศิษย์ตัวเล็กด้วยความชื่นชมเมื่ออีกฝ่ายสามารถทำความเข้าใจกับการยิงธนูโดยที่เขาไม่ต้องอธิบายซ้ำ
“เก่งมากครับ” ลูคัสพูดชม “งั้นเรามาลองจับคันธนูกันนะครับมินฮยอง”
“เอาสิ”
มินฮยองพยักหน้ารัว ๆ
พลางเดินอ้อมซ้ายอ้อมขวาดูไนท์คนเก่งกำลังเลือกคันธนูที่เหมาะกับตนให้อยู่
เมื่อคนตัวสูงเลือกได้แล้วจึงยื่นไปให้คนตัวเล็กได้ลองถือ
และเมื่อมินฮยองได้ลองถือเป็นครั้งแรกถึงกับตกใจกับน้ำหนักของมัน
“โห หนักกว่าที่คิดอีก”
“ครับ
เวลาคนที่ดูนักกีฬายิงธนูถือคันธนูจะนึกว่ามันเบา แต่ความจริงแล้วน้ำหนักมีผลต่อการส่งแรง
การทรงตัวรวมไปถึงการยืนด้วยนะครับ”
มินฮยองยืนมองคันธนูในมือก่อนจะเบ้หน้าออกมาเมื่อคิดถึงตอนที่ตัวเองต้องยืนถือและฝึกยิงกับเป้านิ่ง
เพราะเพียงแค่คิด คนตัวเล็กก็รู้สึกเหนื่อยรอแล้ว ส่วนลูคัสที่เห็นแฟนตัวเล็กแสดงสีหน้าเหนื่อยอ่อนออกมาทั้ง
ๆ ที่ยังไม่ได้เริ่มฝึกก็หัวเราะร่วนก่อนจะโยกหัวคนตัวเล็กเบา ๆ ท่ามกลางสายตานักเรียนคนอื่นที่แอบมองกันอยู่เป็นระยะ
ๆ
“ลองจับแล้ว
ลองฝึกเลยไหมครับ?”
“เอาสิ
อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะยากขนาดไหนกันเชียว”
“อย่าให้เสียชื่อแฟนนักธนูเหรียญทองนะครับ
:-)”
“บ้าบอจริง ๆ”
มินฮยองเบื่อนสายตาออกจากคนตัวสูงแล้วมองไปยังเป้านิ่ง
คนตัวเล็กจัดท่ายืนอย่างที่คุณครูตัวสูงบอก ใบหน้าน่ารักมองตรงไปที่เป้านิ่งอย่างมั่นคง
จังหวะที่กำลังจะง้างคันธนูออกมา จู่ ๆ คนตัวสูงที่น่าจะยืนอยู่ข้าง ๆ
เขากลับมายืนซ้อนหลังเล็กอยู่เสียอย่างนั้น
มินฮยองสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้ตัวว่าอีกฝ่ายกำลังยืนกำกับท่าทางของเขาอยู่อย่างใกล้ชิด
เจ้าเล่ห์ชะมัด
มินฮยองบ่นในใจเมื่อคุณครูตัวสูงเริ่มทำเกินหน้าที่รวมไปถึงทำตามใจตัวเองเกินไป
เพราะความจริงแล้วลูคัสไม่จำเป็นต้องยืนคุมเขาแบบนี้ก็ได้ แต่คนตัวสูงเลือกที่จะทำแบบนี้
ซึ่งมันเหมือนการกอดจากด้านหลังกลาย
ๆ ยังไงก็ไม่รู้…
“ไม่วอกแวกนะครับ” น้ำเสียงทุ้ม ๆ ดังขึ้นข้างหู
“เฮ้ ใกล้ไปแล้วนะไนท์”
“ตั้งใจมองเป้านะครับ”
ลูคัสเลือกที่จะเมินคำพูดของแฟนตัวเล็กจนมินฮยองอยากจะหยิกเข้าที่เอวหนาของอีกฝ่ายสักสองสามที! ถึงคนตัวเล็กจะอยากทำแบบนั้นแค่ไหนแต่ก็ต้องมองเป้าตามที่อีกฝ่ายบอก
เพราะขืนมัวแต่เถียงกับคนตัวสูงนี่ต้องเสียเวลาไปอีกนานเลย
“โอเคครับ
มองไปยังจุดกึ่งกลางของเป้านะครับ แล้วก็ล็อกสายตาเอาไว้ตรงนั้นเลย”
“อือ มองแล้ว”
“จากนั้นยกแขนที่จับคันธนูขึ้นมานะครับแล้วก็แยกสายธนูออกจากคันธนู
ครับแบบนั้นครับ” ลูคัสพูดพลางถอยออกมาเล็กน้อยเพื่อให้อีกคนจัดท่าทางได้สะดวกยิ่งกว่าเดิม
“…”
“โอเค นับ 123 ในใจแล้วยิงเลยนะครับ”
มินฮยองนับในใจแล้วก็ปล่อยสายธนูออก
คนตัวเล็กจ้องไปที่เป้านิ่งก่อนจะทำหน้าเสียดายออกมา
เมื่อลูกธนูของตรงไปอยู่ตรงสกอร์ 4 คะแนน
ส่วนลูคัสที่เห็นแบบนั้นก็ลูบมือเล็กเบา ๆ เป็นเชิงให้กำลังใจ
“เก่งแล้วครับมินฮยอง
สำหรับการยิงครั้งแรก” คนตัวสูงส่งยิ้มบาง ๆ ให้
“อื้อ เราก็ว่าอย่างนั้น”
“ที่ผมดูเมื่อกี้ จังหวะที่มินฮยองปล่อยสายธนูตัวด้ามธนูมันขยับหน่อย
ๆ ทำให้ทิศทางมันเคลื่อนน่ะครับ”
“อ่าหะ” มินฮยองพยักหน้ารับ “ไนท์”
“ครับ”
“เราจะทำมันได้ดีขึ้นใช่ไหม” คนตัวเล็กแสดงสีหน้ากังวลออกมา
“แน่นอนสิครับ มินฮยองของผมเก่งอยู่แล้ว”
“อืม”
“ไม่ต้องกังวลนะครับ
ผมจะสอนให้คุณจนกว่าคุณจะมั่นใจเอง”
“ขอบคุณนะ”
“ยินดีครับเลดี้”
สุดท้ายมินฮยองก็ทนอีกฝ่ายไม่ไหวเผลอหยิกเข้าที่เอวของอีกคนอย่างหมั่นไส้จนคนตัวสูงต้องร้องโอดโอยออกมาพร้อมกับเบี่ยงตัวหนีทันทีเพราะความเจ็บ
“พูดแล้วนะว่าจะสอนเรากว่าเราจะเก่ง”
“แน่นอนครับ” ลูคัสตอบ “เอ แล้วจะมีรางวัลให้กับครูฝึกคนนี้มั้ยนะ”
“เหรียญทองแดงดีไหม?”
“แค่นั้นเองหรอครับ”
“โลภมาก”
“กับมินฮยองแล้วผมยอมเป็นคนโลภ”
ไนท์ตัวสูงส่งสายตาแพรวพราวใส่อีกคนจนคนตัวเล็กเริ่มเขิน
“ก็…ไว้จะคิดดูแล้วกัน”
“ขอบคุณครับ แต่ตอนนี้…เรามาจัดท่ากันใหม่ดีไหมครับ?” ว่าแล้วคนตัวสูงเดินเข้ามาประกบหลังมินฮยองอีกครั้ง
หนำซ้ำครั้งนี้ยังใกล้กว่ารอบที่แล้วอีก…
กว่าที่มินฮยองจะยิงธนูได้คล่องแคล่วนั้น
แล้วเขาจะต้องเปลืองตัวให้ไนท์แสนเจ้าเล่ห์คนนี้ไปอีกนานแค่ไหนล่ะเนี่ย
Ended
Scream and
comment on #serendipitylm
Talk เส้นยาแดงผ่าแปดทุกวันเลย
จริง ๆ จะแต่งยาวกว่านี้แต่ไม่ทันแน่ๆ 55555 ;; เรื่อยๆกันไปเนอะคุณไนท์กับคุณเลดี้ของเขา
มาสังเกตความเปลี่ยนแปลงของตัวละครทีละนิด ๆ ไปด้วยกันนะคะ
ความคิดเห็น