ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ;BEAST-JUNSEUNG ชุดวิวาห์

    ลำดับตอนที่ #2 : ชุดวิวาห์ 02

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 58


    ชุดวิวาห์

    ยงจุนฮยอง จางฮยอนซึง

    .

    .

    .

    มันจะเป็นไปได้รึเปล่า would you be my baby?

     

     

              เพ้อวะ เพ้อแบบโคตรเพ้อ ประตูก็น้องซึง หน้าต่างก็น้องซึง เข็ม ด้าย กรรไกร ทุกอย่างแม่งเป็นหน้าน้องซึงหมดเลยวะ  ผ่านมาครบอาทิตย์แล้วหลังจากที่ผมเจอกับน้อง ครบอาทิตย์แล้วที่ไอ้พี่ดูจุนมัน           กีดกันผมกับน้องซึง... ใจร้ายพี่ดูจุนคนใจร้าย

     

                เวลานอนผมก็คิดไม่น่าออกตัวแรงเลย แล้วผลออกมาเป็นไง.... หมาหวงก้างดีๆนี่เอง คือน้องน่ารักไงอยู่ด้วยแล้วมีความสุข เฮียหวงน้องมากไป ไอ้พี่ดูจุนมันสั่งผมให้ห่างจากน้องซึงระยะ 5 เมตร คือร้านก็ร้านกูปะ ทำไมต้องทำตามมันวะ.......

     

     

     อ้อลืมไป นั่นว่าที่พี่เขย ถุ้ย!

     

     

                ใช้เวลาไปค่อนวันบนโต๊ะทำงานเน่าๆของตัวเองแบบร่างชุดเจ้าสาวถูกขยำและโยนส่งๆไปรอบโต๊ะให้ฮยองนิมมันเล่น ก่อนจะถอดแว่นสายตาออกแล้วไถหน้าไปกับโต๊ะอย่างหมดแรง

     

                “ฮยองนิมลูกป๊าคิดถึงน้องซึงง่ะ” ใช้เท้าเขี่ยๆเบาะของหมาหน้ามึนที่เอาแต่นอนทั้งวัน ฮยองนิมหันมามองหน้าเขาครู่เดียว ก่อนเจ้าตัวจะพาก้นใหญ่ๆของตัวเองลุกออกจากเบาะ เดินไปนอนแผ่ที่หน้าประตูร้าน

     

              หมาเมิน.....

     

                “ป๊าจะทำไงดีลูก หนูก็อยากได้น้องซึงมาเล่นด้วยให้มั้ยป๊ารู้นะ”

     

              หลังจากไม่ได้คำตอบจากลูกชายตัวเอง จุนฮยองก็ไถหน้าลงมากับโต๊ะอีกครั้ง ขนาดหมายังไม่สนใจจุนฮยองเลย แล้วจะนับประสาอะไรกับน้องซึงวะ....

     

                กรุ้งกริ้ง

     

     

     

                เดี๋ยว...นี่จุนฮยองคนนี้เพ้อมากไปปะหรือยังไง ทำไมเห็นเหมือนน้องซึงเปิดประตูร้านเข้ามา แล้วกำลังเดินมาทางนี้ด้วย เข้ามาแล้ว เข้ามาแล้ว น่ารักอะ น่ารักสุดๆ ยิ่งมาใกล้ๆยิ่งน่ารัก..... น้องกำลังยื่นมือมาหน้าพี่ โอยยยนี่กูพัฒนาความเพ้อเห็นน้องแบบ3มิติแล้วหรอ

     

                “คุณเจ้าของร้าน”

     

                เสียงน้องซึง.....

     

                “คุณเจ้าของร้านครับ...” เอาเสียงนี้ออกไปเดี๋ยวนี้นะ นี่จะร้องไห้แล้วนะ คิดถึงน้องซึงขนาด..

     

                งั่ม!

     

              “โอ๊ยยยยยย ฮยองนิมกัดขาป๊าทำไม” ด่าไปเถอะมันไม่สนใจหรอก ฮยองนิมหันมาจิกตาแรงใส่คุณเจ้าของร้านก่อนจะเดินไปหาคนที่เข้ามาใหม่

     

                เสียงหัวเราะเล็กๆที่ดึงความสนใจจากก้นของฮยองนิมไปมองไปหน้าน่ารักของคนที่จุนฮยองกำลังเพ้อถึงอยู่

     

                “ผมเรียกคุณเจ้าของร้านตั้งนานแล้ว คุณเจ้าของร้านไม่ตอบ ฮยองนิมเลยช่วยเรียกน่ะครับ”

     

                “อะ....เอ่อ” ทำไมประหม่างี้วะไอ้จุนฮยอง เลิกตื่นเต้นได้แล้ว “ละ...แล้วเรามาทำอะไรที่นี่ มาคนเดียวหรอ แล้วรีบกลับรึเปล่า มายังไงล่ะ ทานข้าวมารึยัง แล้ว....”

     

                โหยยยย พอกูเลิกประหม่าได้นี่ถามน้องซึงเป็นสั่งอาหารเลย แล้วดูหน้านน้องซึงสิ เอ๋อเลย ตั้ลลั้ค

     

                “ผมต้องตอบคำถามไหนก่อนครับ” ฮยอนซึงถามกลับมาด้วยรอยยิ้ม

     

                “อืม....งั้นคำถามแรก เรามาคนเดียวหรอ”

     

                “เปล่าครับผมมากับพี่ดูจุน”  หึหึหึ กูว่าแล้วเชียวทำไมไม่แทงหวยถูกแบบนี้บ้างนะ

     

                “แล้วพี่ดูจุนไปไหนครับ? จะเอาชุดมาให้พี่แก้หรอ”

     

                “อ้อพี่ดูจุนไปหาที่จอดรถครับ ส่วนที่มาวันนี้” ฮยองซึงหยิบการ์ดแต่งงานสีขาวสะอาดขึ้นมาแล้วส่งให้คุณเจ้าของร้าน “พี่ดูจุนให้เอาการ์ดแต่งงานมาให้คุณเจ้าของร้านก่อนครับ”

     

              จุนฮยองเปิดดูการ์ดแต่งงานของรุ่นพี่นิดหน่อยก่อนจะเอาไปวางไว้บนโต๊ะทำงาน มองตามเด็กชายตรงหน้าที่เดินซนไปทั่วร้านของเขาแทน

     

                “คุณเจ้าของร้านเก่งจังครับ ทั้งหมดนี่ทำเองหมดเลยหรอ” ฮยอนซึงยืนมองแบบชุดวิวาห์ในกรอบรูปที่แขวนผนัง พลางยกกล้องที่คล้องคอขึ้นมาถ่ายเก็บไว้

     

              “ใช่ แบบพวกนี้ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เราสนใจเรื่องนี้หรอ”

     

                “ก็ไม่เชิงครับ ผมสนใจเรื่องถ่ายภาพมากกว่า” ฮยอนซึงยกยิ้ม “คุณเจ้าของร้านตกแต่งร้านสวยครับผมชอบ”

     

                เดี๋ยวครับเดี๋ยวบอกว่าชอบร้านเนี่ยพี่ไม่ว่า แต่ส่งสายตาแบบนั้นมาเนี่ย น้องซึงกำลัง อ่อย พี่จุนอยู่ใช่ไหมครับ

     

              หรือกูคิดไปเองนะ?

     

     

                “คุณเจ้าของร้านจะว่าไหมครับ ถ้าผมจะมารบกวนใช้ร้านนี้ทำโปรเจ็คหน่อยครับ” คนตัวเล็กถามอย่างเกรงใจ พึ่งรู้จักกับคุณเจ้าของร้านไม่นานก็จะมาขอความช่วยเหลือซะแล้ว

     

                “ไม่ได้ครับ”

     

                “อะ...เอ่อครับ ผม...”

     

                “เพราะตอนนี้พี่กับเรายังไม่รู้จักกันเลย พี่ไม่ให้ยืมร้านหรอก”

     

                “ผมรู้จักคุณเจ้าของร้านนะครับ นี่ไงผมยังคุยกับคุณเจ้าของร้านอยู่เลย”

     

                “แล้วถ้ารู้จักคุณเจ้าของร้าน ทำไมไม่เรียกชื่อคุณเจ้าของร้านละครับ” จุนฮยองหัวเราะออกมา “ถ้าเรียกชื่อพี่ อืม...พี่อาจให้เรายืมร้านก็ได้นะ”

     

                หึหึหึ.... อย่าบอกให้ใครรู้นะครับ ว่านี้คือแผนตีเนียนเข้าหาน้องซึง ไอ้เราก็นั่งคิดนอนคิดตั้งนานจะเข้าหาน้องด้วยวิธีไหนดี แต่อยู่ดีๆฟ้าก็มาโปรดส่งเหยื่อ ไม่ใช่ๆ หมายถึงส่งน้องซึงมาให้จุนฮยองตีเนียนเข้าหาแบบนี้ เสร็จโจรสิครับ

     

                ฮยอนซึงนิ่งไปครู่นึงกำลังตบตีอยู่กับความคิดตัวเองอยู่ ร้าน The J Studio มันสวยจริงๆนะ ฮยอนซึงอยากถ่ายรูปร้านนี้เข้าประกวด มันต้องออกมาดีแน่ๆ แต่....ฮยอนซึงเองก็ยังไม่สนิทกับคุณเจ้าของร้านขนาดจะมาเรียกชื่อกัน แต่....ร้านมันสวยจริงๆนะครับ....

     

                “พี่จุนฮยอง....” เสียงเล็กๆที่ออกมาจากปากน้องทำให้ผมค้างไป

     

                เสียงโคตรน่ารัก แล้วยิ่งเรียกชื่อผมอีก น้องซึงรอพี่ก่อน พี่ขออัดเสียงได้ไหม

     

                “จะรบกวนพี่จุนฮยองมั้ยครับ ถ้า...”

     

                “น้องซึงจะเข้ามาร้านเมื่อไหร่ก็ได้” คุณเจ้าของร้านขัดขึ้นมา กูยอมตั้งแต่เรียกพี่จุนฮยองแล้ว ไม่ต้องพิเศษรอยยิ้ม แถมด้วยสายตาอ้อนๆแบบนี้หรอก “แล้วก็.......”

     

                “ครับ?”

     

                “พี่ขอโทรศัพท์เราหน่อยครับ เดี๋ยวพี่พิมพ์ไลน์กับเบอร์โทรไว้ให้ เวลาเราจะเข้าก็ไลน์มาหรือโทรมาบอกก่อน พี่จะได้เตรียมพวกขนมไว้ให้เรา” ยิ้มใสๆให้คนน้องที่ส่งโทรศัพท์ตัวเองมาให้

     

                แต่ใครจะรู้ว่าที่ทำความดีบังหน้าเนี่ย.........

     

                กูหลอกขอไลน์กับเบอร์น้องซึงได้แล้วเหอะ

     

                หลังจากล่อลวงเด็ก....หมายถึง ทำความรู้จักกันครับ ก็ได้ความว่าที่น้องซึงมาของยืมร้านผม น้องมาถ่ายรูปส่งเข้าประกวด แต่ยังไม่ทันคุยอะไรได้มากมาย พี่ชายของน้องก็เข้ามาซะก่อน แล้วก็ตามประสาผู้ชายแมนๆคุยกันนะ  สัตว์ป่าสัตว์เลื้อยคลานอะไรออกมาวิ่งเป็นเพื่อนฮยองนิมกันให้ว่อนร้าน ส่วนน้องซึงก็เข้ามิติตัวเองถ่ายรูปมุมต่างๆของร้านผมไปเรื่อย จนถึงประมาณ5โมง พี่ดูจุนก็เป็นเจ้ามือเลี้ยงเนื้อย่างพวกเรา

     

     

                “ไอ้จุนกูมีเรื่องรบกวนมึง” ดูจุนพูดขึ้นระหว่างมื้ออาหาร

     

                “ว่า?”

     

                “กูจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์”

     

                “แล้วเฮียบอกผมไม” คือไม่เข้าใจจริงๆ เริ่มเมาแล้วอ่อ พูดมากวะ

     

                “ฟังกูสิ! คืองี้กูจะไปตามโยซอบที่เยอรมัน อีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงานกันแล้ว เรื่องงานแต่งยังไม่คืบหน้าเลย” น้ำเสียงตัดพ้อเล็กๆของรุ่นพี่ทำให้จุนฮยองต้องเงยหน้าขึ้นมามอง

     

                “คิดถึงเมียว่างั้น”

     

                “เออดิวะ” ดูจุนละเกลียดรุ่นน้องคนนี้นัก รู้ดีรู้เยอะกว่าชาวบ้านตลอด

     

                “แล้วจะให้ผมช่วยไร จะให้ผมบินไปเยอรมันกับพี่แล้วเอาตัวพี่โยซอบกลับมาหรอ ขอบายนะกลัวเครื่องบิน”  พูดยังไม่ทันจบประโยค ดูจุนก็ปาผักใบเขียวๆใส่หน้ารุ่นน้องจอมกวนประสาท ขยับปาด่าแบบไม่มีเสียงว่า   ไอ้สัส   เพราะไม่อยากให้ฮยอนซึงที่นั่งทานอาหารอยู่ข้างๆ มารับรู้เรื่องแบบนี้เท่าไหร่

     

                “ถ้ามึงฝันมึงก็ตื่นเถอะจุนฮยองกูเพลียกับมึงมาก เอาจริงๆคือกูอยากฝากฮยอนซึงไว้กับมึงอะ”

     

                “ห๊ะ!!!

     

                “อะไรนะครับพี่ดูจุน!?”

     

                เสียงแรกเป็นเสียงของคุณเจ้าของร้าน เห้ยๆ นี่กูไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม หรือว่าที่กูทำบุญด้วยการให้อาหารฮยองนิมเพิ่มมันเป็นผลวะ นี่ไม่ได้หวังขนาดนั้นนะเว้ย ฮยองนิมลูกรักป๊า สัญญาเลยต่อให้หนูอ้วนมากแค่ไหน ถ้าหนูมีความสุขกับการกิน ป๊าก็ยอมทุกอย่าง

     

                ส่วนอีกเสียงเป็นเสียงของฮยอนซึง ที่ไม่ค่อยจะมีบทพูดเท่าไหร่ พี่ดูจุนคิดอะไรอยู่ถึงให้เขาไปอยู่กับคุณเจ้าของร้าน  รู้จักกันก็ไม่นาน ฮยอนซึงไม่เอาด้วยหรอก เกรงใจ.....

     

                “จะตกใจกันทำไมห้ะ แค่กูจะฝากน้องไว้ไม่กี่วันเอง” ดูจุนมองจุนฮยองอย่างเอื้อมๆ “แล้วฮยอนซึง เราไม่ต้องมาทำหน้าบึ้งใส่พี่เลย” ดูจุนให้ไปดุน้อง

     

                “ไม่เอานะพี่ดูจุน เราอยู่คนเดียวได้ พี่ดูจุนไม่ต้องรบกวน คุณเจ้าของร้านหรอก เราเกรงใจคุณเจ้าของร้าน”

     

    คือไม่ได้อะไรนะกับประโยคที่น้องพูด แต่ถ้าไอ้พี่ดูจุนใช้สมองซีกขวาและซ้ายในการคิดไตร่ตรองหาเหตุผลใคร่ครวญสักนิด ไอ้พี่ดูจุนจะสำเหนียกว่า น้องซึงไม่อยากมาอยู่กับกูจ้า ดูสิดูกระตุกชายเสื้อพี่ชายตัวเองยิกๆ ก็ไม่อยากขู่บังคับน้องปะวะ ถ้าคนมันจะยอม มันต้องยอมที่ใจใช่ร่างกาย

     

    แต่ที่เฟลจริงๆคือ น้องไม่เรียกกูว่า พี่จุนฮยองแล้วง่ะ อันนี้เสียใจแรงมาก น้องซึงคนร้ายกาจมาทำเสียอ่อนเสียงหวาน อ้อนขอใช้ร้านพี่พอพี่ยอม ก็ตีตัวออกห่าง มันน่าจับมาจูบให้ปากระบมจนน้องซึงไม่สามารถจูบใครได้อีก...

     

    ผิดๆโทษ ช่วงนี้อินกับคุณชาวีไปหน่อย แต่พี่จุนเป็นคนมีจุดยืน คือเท้าของตัวเอง บอกแล้วไงจะไม่ขืนใจน้อง

     

     

    พี่ก็ไม่ได้ให้เราไปอยู่กับไอ้จุนมันนะ” ดูจุนตอบ

     

    อ้าวววว... เดี๋ยวดิกูนี่ร้อนเลย อ้าวไงอ้าว แล้วไอ้พี่ดูจุนให้กูพล่ามอะไรมาครึ่งหน้ากระดาษวะ

     

    “ก็แค่ให้ไอ้จุนมันดูแลเราเฉยๆ ไม่ได้ไปอยู่ด้วยกัน เราก็นอนบ้านเรา ไอ้จุนก็นอนบ้านมัน พี่แค่ให้ไอ้จุนมันคอยดูเราเวลามีปัญหา นี่พี่บอกหรอว่าให้เราไปอยู่กับมันอะ”

     

    “ถ้ายังงั้นก็ได้ครับ เพราะเราเองก็ของยืมร้านจากคุณเจ้าของร้านมาถ่ายรูปส่งประกวดอยู่แล้ว” ฮยอนซึงบอกกับพี่ชายตัวเอง “ผมขอรบกวนด้วนนะครับ” ส่วนประโยคหลังหันมาบอกกับจุนฮยอง

     

                เหมือนเรื่องจะจบสวย แต่ไม่...ไอ้จุนฮยองนี่แหละไม่ยอมจบ

     

                “เฮียไปห้องน้ำเป็นเพื่อนหน่อยดิ” ส่งสายตาจิกกัดเต็มที่ไปให้

     

                “ไปเองดิ ทำไมของมึงใหญ่มากอ่อ ให้กูไปช่วยจับว่างั้น”

     

                โหยยยยย นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นพี่ เป็นลูกค้านะ ไอ้จุนฮยองคนนี้ตีเข่า สับศอกเข้าซอกคอไปแล้ว

     

                “เออดิพี่ ช่วงนี้เหมือนจะใหญ่ขึ้นวะ” จุนฮยองตอบเสียงทะเล้น แล้วดึงดูจุนไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน

     

     

     

    .......

     

                “เอาตรงๆแบบแมนๆคุยกันเลยนะ คือให้น้องซึงอยู่คนเดียวอะ มันอันตรายนะ น้องยังเด็ก อยู่คนเดียว สังคมเดี๋ยวนี้มีแต่อันตราย แล้วผมก็ไม่ได้อยู่กับน้องได้ตลอด ถ้าเกิดอะไรร้ายๆกับน้องตอนผมไม่อยู่อะพี่ ผมก็น้องพี่ น้องซึงก็เหมือนน้องผม ถ้าน้องซึงเป็นอะไรไป ผมก็รู้สึกแย่นะ พี่ดูจุนเป็นพี่ที่ผมเคารพรักตั้งแต่สมัยเรียน ผมก็เอ็นดูน้อง พี่จะให้น้องซึงอยู่คนเดียวจริงๆดิ”

     

     ยิ้มกว้างโชว์ฟันครบแผง บอกเหตุผล ที่น่าจะเป็นประโยชน์สุดๆให้รุ่นพี่ฟัง

     

    “กูให้มึงพูดอีกที่ยงจุนฮยอง ขอแบบบรรทัดเดียวจบ”

     

    “แหม่....รู้ทันเค้าตลอดอ่ะตัวเองก็” จุนฮยองหน้าเหยเก “เอาน้องซึงมาอยู่กับเค้าสิ สัญญาว่าจะดูแลดีๆ” เอานิ้วชี้จิ้มๆกันตรงอก ปากจู๋ส่งสายตาปิ๊งๆไปให้

     

    “ดูปากยุนดูจุนนะคะ ยงจุนฮยอง กู-ไม่-ให้” ชัดเจนทุกคำพูด ชัดกว่าภาพHDก็ยุนดูจุนคนหวงน้อง “ไม่ต้องมาทำหน้างั้นใส่กู มึงทำตัวมึงเอง ถ้ามึงไม่พูดจาหมาๆ กับกูก่อนตอนแรกก็จะให้ซึงไปอยู่ด้วยหรอก”

     

    “ผมพูดไรวะ” นี่ไม่รู้จริงๆนะปกติไม่เคยพูดหมาๆกับใครนะ ออกจะเป็นคนไสยๆ

     

    “ก็มึงบอกกูว่า จะมาเป็นน้องเขยกู แล้วสายตาที่มึงมองฮยอนซึง...บอกตามตรงไม่ไว้ใจ” ดูจุนเอ่ยเสียงเครียด

     

    “ก็พูดเล่นป้ะ ทำไมจริงจัง”

     

     

    โครม!

     

    “เฮีย ถีบผมไม” พี่ดูจุนเป็นอะไร อยู่ดีๆมาถีบเขา

     

    “เพราะมึงเป็นคนแบบนี้ไงไอ้ควาย มึงพูดแบบนี้แสดงว่ามึงไม่จริงจังกับน้องกูไง แม่ง ถ้ากูเอา ฮยอนซึงไปด้วยได้ กูไม่ฝากปลาไว้กับหมาแบบมึงหรอกไอ้จุนฮยอง!!! แล้วมึงอย่าเล่นแบบนี้อีกนะ มึงอย่าลืมว่ามึงมี คนที่มึงรออยู่ แล้ว..” ดูจุนพูดจบก็ปิดประตูห้องน้ำใส่หน้าเขาแรงๆ

     

    นี่กูผิดหรอ แค่น้องน่ารักอะแกล้งหน่อยก็ไม่ได้ แล้วที่เฮียพูดถึง คนที่ผมกำลังรออยู่หรอ เหอะไร้สาระสิ้นดี.....  เดินมึนๆออกมาจากห้องน้ำกลับมาโต๊ะ ก็เห็นน้องซึงกำลังตักไอติมเข้าปาก คือเจ้าตัวจะรู้อะไรมั้ยว่าเป็นต้นเหตุให้เขาโดนถีบมา

     

    “พี่ดูจุนยังไม่เสร็จหรอครับ”

     

    “.....” งอน...งอนน้องซึง

     

    “เอ่อ...คุณเจ้าของร้านครับ” ฮยอนซึงเรียกผมอีกครับ

     

    “.....”

     

    “ถ้าคุณเจ้าของร้านลำบากใจที่ต้องดูแลผม” คนตรงหน้าละมือออกจากของหวานที่ทานอยู่ “ผมบอกพี่ดูจุนให้ก็ได้นะครับ คุณเจ้าของร้านคงอึดอัด พึ่งรู้จักกันแท้ๆ แล้วเรื่องร้านก็....”

     

    “ไม่ใช่!

     

    “ไม่ใช่อะไรครับ”

     

    “ไม่ใช่ ไม่ได้รบกวนแต่งอน” ไม่กล้ามองหน้าน้องซึงตรงๆ คืออาย อายมาก มีที่ไหนผู้ชายตัวอย่างกับควายมาบอกงอนเป็นเด็กๆ

     

    “งอนเรื่องอะ...”

     

    “ทำไมเราไม่เรียกพี่ว่าพี่จุนฮยองแล้วล่ะ ไหนตกลงกันแล้วไงว่าถ้าให้ยืมร้านแล้วจะเรียกพี่ว่าพี่จุน ฮยองไงวะ” หันกลับมามองหน้าฮยอนซึงตรงๆ คนตรงหน้าอ้าปากค้างอาจคิดว่าผมโมโหหรือไม่ก็ตกใจที่ผมขึ้น วะ ใส่ เพราะปกติถึงผมจะพูดกับเฮีย แต่ก็ไม่เคยใช้คำเหล่านนี้กับน้อง

     

    “เรื่องนี้นี่เอง ผมลืม ขอโทษนะครับพี่จุนฮยอง” ฮยอนซึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แต่ประโยคต่อมาเหมือนกับว่าจุนฮยองโดนหมัดเสยเข้าหน้าอย่างแรง

     

     

     

     

     

     


     

     

     

    “แต่ไม่มีใครบอกพี่จุนฮยองหรอครับ ว่าเวลาคนกำลังพูดอยู่ไม่ควรเข้ามาพูดแทรก พี่จุนฮยองพูดขัดผมมาสองรอบและนะครับ ไม่ดีเลย.... แล้วคำไม่สุภาพเหล่านั้นอีก ผมไม่เข้าใจว่าทำไมพี่จุนฮยองกับพี่ดูจุนต้องอ้างว่า แมนๆคุยกัน ผมก็แมนนะครับยังไม่ใช้คำพวกนั้นเลย พี่ดูจุนน่ะผมบอกตั้งหลายครั้งไม่ยอมฟัง แล้วพี่จุนฮยอง อันนี้ก็ไม่มีใครบอกหรอครับ” รอยยิ้มที่เผื่อแผ่มาจากประโยคแรกทำเอาจุนฮยองหน้าชา

     

     

     

     

    ตรงกว่าไม้บรรทัด แรงกว่าแดดประเทศไทย ก็น้องซึงนี่แหละ กูคอนเฟิร์ม....

     

     

     

     

    สรุปบทนี้หลักๆคือ พี่ดูจุนจะให้อิพี่จุนดุแลน้องซึง แค่นี้แหละ

    ที่พิมพ์มาหลายหน้านี่มันเพลิน.... สาระไม่มีหรอก แล้วอย่าคาดหวังมากด้วย แต่ระวังมันจะมาโดยไม่รู้ตัว อี้อี้

    แท็ก #จุนซึงวิวาห์ (@_12198)

    (ในแท็กมีแต่ฉันฝากฟิคคนอื่นไปทั่ว จริงๆ555)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×