คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER 3 TOMADO
CHAPTER 3 TOMADO
15 มิถุนายน 2020
เวลา 20.50 น.
Time Square
แพทริกซ์และลูกทีม Delta กำลังต่อสู้กับซอมบี้ที่เดินมากันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เสียงปืนและเสียงกรีดร้องของประชาชนดังแข่งกัน ระงมไปทั่ว
“หัวหน้าครับ ตกลงจะถอยหรือจะต้านครับ” แอนดรูว์ แฮริสัน หรือชื่อในหน่วยที่เรียกกันว่า ฟอร์สตี้ ผู้มีผมสีบรอน อายุราว 35 หน้าตากว้างและมีกรามที่ใหญ่ ถามแพทริกซ์ที่ในขณะนี้ยืนอยู่ที่หลังคารถเก๋ง ใช้ปืน HK คู่ใจของตัวเองยิงซอมบี้ที่เดินกันมาอย่างไม่ขาดสาย
“แกก็น่าจะรู้คำตอบดีนิ ฟอร์สตี้” หัวหน้าทีมกล่าวแบบไม่หันมาตอบ ฟอร์สตี้ยิ้มอย่างรู้คำตอบ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า แพทริกซ์ ถ้าจะยอมถอยและทิ้งให้ประชาชนตายละก็ เขายอมที่จะฆ่าตัวตายเสียดีกว่า! ซึ่งฟอร์สตี้ก็เช่นกัน ชีวิตคนจะต้องมาก่อนอันดับแรก
“เอรีน ป้องกันฉันด้วย” หัวหน้าทีม Delta บอกลูกทีมหญิงที่ตอนนี้อยู่บนอาคารสูง ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งตรงไปด้านหน้า มุ่งหน้าไปทางที่ซอมบี้เดินมา
“หัวหน้า! จะไปไหนนะครับ” แอนดรูว์หรือฟอร์สตี้ ถามด้วยความตกใจ และทำท่าจะตามไป แต่ต้องหยุดชะงักเมื่อแพทริกซ์หันมาสั่งอย่างเฉียบขาด
“อย่าตามมานะ! หน้าที่ของนายคือป้องกันประชาชนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ชายหนุ่มหน้าคมกระโจนลงจากรถและวิ่งไปตามถนน ใช้ปืน HK ยิงซอมบี้ที่เข้ามาใกล้อย่างแม่นยำ และไปหลบหลังรถคันหนึ่ง ที่ห่างจากกลุ่ม Delta ไปประมาณ 200 เมตร เขารีบหยิบระเบิด C4 ออกมาจากกระเป๋าประมาณ 3 ลูกและรีบแปะมันไว้ที่รถคันนี้ 1 ลูก หลังจากนั้นก็วิ่งไปแปะมันไว้ที่รถอีกคันหนึ่ง และวิ่งไปแปะไว้ที่รถห่างจากคันแรกไปประมาณ 50 เมตร
แต่แล้วระหว่างทางที่เขากำลังวิ่งไปวางระเบิดลูกสุดท้าย เขาก็ลื่นล้มลง
“อั่ก” แพทริกซ์ร้อง เพราะหลังกระแทกกับพื้นอย่างจัง และเมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ก็มีซอมบี้ตัวหนึ่งเดินเข้ามากำลังจะก้มลงกัดที่เท้าของเขา
โพละ!!!
หัวซอมบี้แตกกระจายด้วยกระสุนไรเฟิลที่พุ่งมาเจาะหัวของซอมบี้ที่จะมาทำร้ายเขา
“หัวหน้า เป็นอะไรไหมคะ” เอรีนนั้นเองที่ช่วยชีวิตเขาไว้
“ไม่เป็นไร แค่ลื่นล้มเฉยๆนะ แม่นมากเอรีน” ชายหนุ่มลุกขึ้นและรีบไปวางระเบิดลูกสุดท้าย ก่อนจะตีนหมาเผ่นกลับไปที่กลุ่ม Delta
“ไปไหนมาครับหัวหน้า” ฟอร์สตี้ถามด้วยความสงสัย หัวหน้าทีมไม่ตอบ แต่ยกมือขวาขึ้น เผยให้เห็นถึงปุ่มกดระเบิด
ตูมมมมมมม!!!
ระเบิด C4 สามลูกแสดงประสิทธิภาพ ซอมบี้หลายตัวโดนแรงระเบิดร่างกายแหลกเป็นซาก หัวขาด แขนขาด เศษกระจายว่อน
“เท่านี้ก็ลดจำนวนได้มากพอละ” แพทริกซ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสะใจ ก่อนจะหันไปสั่งลูกทีม
“เอาละ อย่าเพิ่งวางใจ ต้านพวกมันไว้จนกว่าประชาชนจะหนีไปหมดแล้ว”
ไม่นานนักเอง ก็มีฮ.หนึ่งลำบินตรงมาหาพวกเขา ทีม CHARLIE นั้นเอง เนื่องจากว่าฮ.นั้นไม่มีที่ลงจอด พวกของครูซจึงต้องไหลเชือกลงมา และคนบนฮ.ก็ใช้ปืนกลหนักยิงสนับสนุน
ครูซ หัวหน้าทีม เดินไปหาแพทริกซ์หัวหน้าทีมของ Delta ก่อนทั้งสองจะจับมือกัน
“ไม่ได้เจอกันนานนะครับ แพทริกซ์ นิวแลนด์” ครูซทักทายก่อน
“ขอบคุณมากที่มาช่วย ถ้าไม่มาพวกผมคงแย่แน่”
“ไม่เป็นไร พวกเรามาช่วยกันต้านพวกนี้กันก่อนดีกว่าแล้วค่อยวางแผนกัน” ชายหนุ่มหัวหน้าทีม Charlie บอกและหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบตัวหนึ่งก่อนจะสั่งลูกน้องกลุ่มหนึ่งให้ต้านพวกซอมบี้ไว้ และอีกกลุ่มไปช่วยเหลือประชาชนที่หลงเหลืออยู่
15 มิถุนายน 2020
เวลา 20.50 น.
Central Park
“แฮ่กๆๆๆ” ลินดา ผู้ดูแลมาเรีย ลูกสาวของประธานาธิปดีเคนดริค อุ้มมาเรียวิ่งหนีไปตามสวนใหญ่ ก่อนจะหยุดพักลงที่หลังต้นไม้ วางมาเรียลง
“คุณหนูไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ” ลินดาถาม มาเรียซึ่งตอนนี้พูดอะไรไม่ออก ส่ายหน้าดิกอย่างเดียว
“ตอนนี้ดิฉันคงจะไปไหนไม่ได้แล้วละคะ” ผู้ดูแลหญิงเอ่ย บุ้ยปากไปที่ขาขวา ซึ่งมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก คาดว่าคงจะล้มแล้วโดนอะไรบาดเป็นทางยาว
“คุณหนูหนีไปก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวลินดาจะตามไป”
“ไม่เอา ลินดาจะต้องไปด้วย” มาเรียเอ่ย น้ำเสียงสั่นคลอน
ลินดายิ้มให้เธอ ก่อนจะหยิบปืนพกให้เธอ
“คุณหนูเคยเรียนมาใช่ไหมคะ เอามันไปป้องกันตัวนะคะ”
มาเรียรับมันมาถือด้วยสองมือ ดวงตาเล็กทั้งสองคลอไปด้วยน้ำตา
“ไปเถอะคะ แล้วค่อยกลับมาช่วยลินดา”
มาเรียกลั้นใจตัวเองไม่ให้ร้องไห้ ก่อนจะหันหลังเดิน แต่ก่อนหน้านั้นเด็กสาวหันหลังกลับไปพูดประโยคสุดท้าย
“มาเรียจะกลับมาช่วยลินดาให้ได้ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ”
“คะ ขอให้โชคดีนะคะ” ลินดายิ้มให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย และมาเรียก็เดินหายไป เสียงซอมบี้ร้องมาจากด้านหลังของหญิงสาว เธอหลับตาลง รับรู้ถึงชะตากรรมของตัวเอง
“ขอให้รอดปลอดภัยนะ คุณหนูมาเรีย”
นั้นคือสิ่งสุดท้ายที่เธอคิด
Event 3.1
มาเรียในตอนนี้กำลังเผชิญเหตุการณ์ร้ายอยู่เพียงลำพัง เธอจะทำเช่นไรดี!
1. เดินไปตามถนน ตามหาคนช่วยเหลือ
2. หลบซ่อนที่ปลอดภัย รอคนมาช่วย
Deadline วันพุธนะครับ
15 มิถุนายน 2020
เวลา 20.55 น.
Time Square
“ว้าว Delta ทีมและ Charlie มากันทั้งสองทีมเลยเหรอ” เจสสิก้า หญิงสาวผู้ที่ได้รับหน้าที่ให้มาตามหา มาเรีย สคราฟ ลูกสาวของประธานาธิปดี เดินมาจากซอยเล็กๆ แต่เธอยังไม่กล้าโผล่ไป กลัวโดนลูกหลง เพราะตอนนี้กระสุนสาดไปมาเหมือนกับสายฝน
‘อ้อมไปหา น่าจะปลอดภัยกว่าแฮะ’ หญิงสาวคิด ก่อนจะเดินอ้อมถนนไปด้วยความว่องไวและเงียบกริบ หลบหลีกซอมบี้ที่เดินอยู่ถนนหนทาง
และแล้วเธอก็มาถึงด้านหลังของทีมจากรัฐบาลทั้งสอง
เจสสิก้ารีบเดินไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกดึงตัวทหารคนหนึ่งออกไปเสียก่อน
“รีบไปกับประชาชนคนอื่นสิครับ อย่ามาอยู่แถวนี้มันอันตราย” ฟอร์สตี้นั้นเองที่เป็นคนลากตัวหญิงสาวออกไป
“อ๊ะ เดี๋ยวก่อน ฉันเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากรัฐบาลนะ”
“อะไรนะ” ชายหนุ่มกรามใหญ่เอ่ยถาม
“ฉันเป็นเจ้าหน้าที่จากรัฐบาล” สาวเกาหลีใต้รีบโชว์บัตรประจำตัวให้ฟอร์สตี้ดู ชายหนุ่มรับมันมาตรวจดูและพบว่ามันเป็นบัตรจริง
“แล้ว...เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เจสสิก้า จัง มีธุระอะไรกับพวกเราละ”
“คนไหนหัวหน้าทีม ฉันอยากจะปรึกษาด้วยหน่อย”
ฟอร์สตี้หันไปเรียกหัวหน้าทีมทั้งสองมาทันที
ครูซและแพทริกซ์เดินมาหาตามคำเรียก ด้วยสีหน้างุนงง
“มีอะไร” หัวหน้าทีม Delta ถาม
“คือ...เธอคนนี้อยากจะคุยด้วยครับ”
และเจสสิก้าก็เล่าเรื่องราวและหน้าที่ของตัวเองให้ชายหนุ่มทั้งสามฟัง
15 มิถุนายน 2020
เวลา 20.30 น.
สักแห่งใน Los Angeles
ชายคนหนึ่งนั่งดูจอทีวีที่ห้องกว้าง ด้านหลังกำแพงของเขาเป็นกระจกใหญ่ ซึ่งตอนนี้ฝนตกหนัก ฟ้าผ่าเสียงดัง แสงจากฟ้าผ่าส่องเข้ามาในห้อง ในจอนั้นฉายภาพเหตุการณ์ร้ายที่ห้องแลปใต้ดิน ณ ตึก HFE
เมื่อจอจากทีวีดับลง ชายผู้นี้ก็หยิบโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะโทรหาใครคนหนึ่ง
“ครับ ท่าน วินซ์ โคลแมน” เสียงโทรศัพท์จากอีกฝ่ายดังขึ้น
“ส่งหน่วย TAMADO ไปที่ HFE สาขา Manhuttun เดี๋ยวนี้ และข้อมูลภารกิจจะตามไปทีหลัง”
“ครับท่าน”
กริ้ก เสียงโทรศัพท์วางลง เปรี้ยง! เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง ประกายแสงสาดส่องเข้ามา เผยถึงรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่ม นาม วินซ์ โคลแมน
15 มิถุนายน 2020
เวลา 20.40 น.
บนฟากฟ้า ใกล้ตัวเมือง Manhuttun
บนเครื่องบิน c-130 ของ HFE ข้างในนั้นมีชาย 3 คน และผู้หญิง 2 คน นั่งอยู่ ทั้งห้าคนสวมชุดเครื่องแบบสีดำทั้งตัว มีอาวุธต่างๆ ตามร่างกาย อาวุธของทั้งห้าล้วนแตกต่างกันตามความถนัดของตัวเองและเป็นอาวุธที่ไฮเทค ไม่เคยเห็นมาก่อน
ทันใดนั้นเอง ชายคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืน
“เอาละทุกคน ฉันจะอธิบายภารกิจให้ฟัง แต่ก่อนอื่นขอให้แนะนำตัวเองกันก่อน ฉัน วอลเตอร์ ฟราเรล จะเป็นหัวหน้าภารกิจนี้” วอลเตอร์ ชายผู้มีผมสีขาวสั้นเอ่ย เขามีร่างกายที่สูงใหญ่ ใบหน้าดูน่าเกรงขาม
“ฉัน นิโคไลน์ สลาวิกซ์ ยินดีที่ได้รู้จัก” ชายรูปร่างผอม หัวโล้น มีแผลเป็นที่ตาซ้ายยาวไปถึงปากเอ่ยด้วยเสียงเยือกเย็นและสำเนียงคนรัสเซีย แกว่งมีดพับเล่นไปมาอย่างคล่องแคล่ว
“ฉัน บูรโน ไฮเกนส์เบิร์ก” ชายหนุ่มหน้าหล่อร่างสูง ผมสีดอกเลา แต่ที่โดดเด่นคือ ดวงตาสีฟ้าคมกริบเหมือนเหยี่ยว เอ่ยด้วยเสียงอันเบา
“ฉัน อลิซาเบท ยินดีรับใช้” หญิงสาวผมสีบรอนส์ยาว หน้าสวย หุ่นเพรียว รูปร่างโดยรวมแล้วน่าจะไปเป็นนางแบบมากกว่าจะมาถือปืนแนะนำตัว
“แอนนาเบ็ต สมิธ” หญิงสาวอีกคน ที่หน้าตามีกระที่แก้มทั้งสองข้าง ดวงตาสีดำและผมสีดำเหมือนสีตา มีรอยแผลที่คอด้านขวา เอ่ยแนะนำตัวเองสั้นๆ
“พวกนายจะเป็นใคร หรือทำอะไรมาก่อน ฉันไม่สนใจ แต่ตอนนี้พวกนายทุกคนคือ TOMADO และภารกิจของพวกนายคือไปเอา ไรรัสที่มีรหัสคือ 3R2ESUCT ที่ตึกอาคาร HFE” วอลเตอร์ หัวหน้าทีมอธิบายภารกิจ และฉายรูปหลอดไวรัส ที่เป็นตัวการของทุกอย่างให้ทุกคนดูด้วยเครื่องฉายภาพที่อยู่บนเครื่องบิน
“สถานการณ์ในตอนนี้ที่ Manhuttun ได้กลายเป็นนรกไปแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำภารกิจนี้ให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ขึ้น และไม่ให้ใครเห็นหรือรู้ตัวตนของพวกเรา” สิ้นเสียงก็มีเสียงออดดังขึ้น พร้อมกับประตูเครื่องบินด้านหลังเปิดออก ลมแรงพัดเข้ามาในเครื่องบิน
“อีก 2 นาที จะถึงอาคาร HFE” เสียงนักบินดังจากลำโพง
“แล้วถ้ามีใครมาขัดขวางภารกิจละ” แอนนาเบ็ตถามในขณะที่หยิบปืน FN P90 มาแขวนข้างลำตัว หยิบร่มชูชีพมาสะพายหลัง
“ไม่เห็นจะต้องถามเลยนิ ฮี่ๆ” นิโคไลน์บอก ก่อนจะมีเสียงออดดังเป็นครั้งที่สอง แล้วชายหัวโล้นก็กระโดดลงไปก่อนเป็นคนแรก
“ฆ่าให้หมด” วอลเตอร์ตอบ
และหน่วย TAMADO ก็กระโดดลงจากเครื่องบิน เข้าสู่เมือง Manhuttun
Event!!! 3.2
สำหรับ TAMADO ทุกคนนะครับ จะต้องคิดแล้วครับว่าจะเข้าตึกอาคาร HFE ยังไง
1. เข้าทางดาดฟ้า
2. เข้าทางด้านหน้าประตูอาคาร
3. เข้าทางหน้าต่างซักชั้นของอาคาร
และต้องตอบด้วยนะครับว่า จะแยกย้ายกันไป หรือจะกันเป็นทีม
Deadline วันพุธนะครับ
15 มิถุนายน 2020
เวลา 20.35 น.
ที่หน้าโรงยิงธนู
อเลนและมาติน หยิบธนูของตัวเองขึ้นมา พวกเขาตัดสินใจที่จะสู้กับพวกมัน และแหวกพวกมันไปขอความช่วยเหลือ เพราะเข้าไปหลบข้างในก็ดีแต่จะปิดขังตัวเองเอาไว้เท่านั้น
“พวกเราจะต้องแหวกพวกมันไปขอความช่วยเหลือ” อเลนบอก ง้างธนูค้างไว้
“หวังว่านั้นเป็นความคิดที่ดีนะ” มาตินพูด ทั้งสองคนหลังชนกัน และค่อยๆเดินไปที่ถนน ซอมบี้ในตอนนี้เดินโซเซมาหาชายหนุ่มทั้งสอง
“ลุยมันเลย!” อเลนยิงธนูไปที่ซอมบี้ตัวที่อยู่ใกล้สุด เข้าที่หัวอย่างแม่นยำ
เฟี้ยว! มาตินยิงธนูใส่ซอมบี้ที่กำลังมาโจมตีเขาและหยิบลูกธนูดอกต่อไป ยิงไปที่หัวอีกตัว
ทั้งสองคนรีบวิ่งหนีไปพลาง ยิงธนูไปพลาง วิ่งไปตามถนน ซึ่งซอมบี้นั้นเดินมาอย่างไม่ขาดสาย
“เยอะชะมัด” มาตินบ่น เพราะธนูของพวกเขาเริ่มจะหมดแล้ว
ระหว่างที่หนุ่มนักศึกษาทั้งสองวิ่งหนีมา ก็พบกับบันไดหนีไฟที่ขึ้นไปสู่ตึกสูง
“เราหนีไปทางนั้นเถอะ วิ่งหนีไปตามถนนดูท่าทางจะไม่มีใครที่จะช่วยเราได้เลย” อเลนบอก ซึ่งมาตินก็เห็นด้วย เพราะในตอนนี้เขาเห็นแต่ผีดิบทั้งนั้น
อเลนวิ่งนำไปก่อน จัดการซอมบี้ที่ขวางทางเขา เด็กหนุ่มเอาคันธนูฟาดไปที่หัวซอมบี้ตัวสุดท้ายจนหัวมันแบะและกระโดดวิ่งบันไดหนีไปให้มันลงมา
“นายขึ้นไปก่อนเลย” ชายหนุ่มบอกเพื่อนชายของเขา มาตินรีบกระโจนขึ้นปีนบันไดนำไปก่อน
อเลนก็รีบปีนตามขึ้นไป แต่แล้วเขาก็ถูกซอมบี้ตัวหนึ่งดึงขาเอาไว้ และกัดไปเต็มน่อง
“โอ้ยยยยย” ชายหนุ่มนักศึกษาร้องด้วยความเจ็บปวด เขาสะบัดซอมบี้ที่กัดขาออกไป และใช้ขาอีกข้างเตะหัวมันจนกระเด็น แล้วจึงรีบปีนบันไดตามเพื่อนไป
เมื่อขึ้นมาถึงดาดฟ้า มาตินก็รีบช่วยดึงเพื่อนชายและดูอาการ
“อเลน! เป็นอะไรไหม”
อเลนกัดฟันกรอด กุมขาข้างที่โดนกัด ใบหน้าเหงื่อแตก เขารีบฉีกกางเกงออกเพื่อดูบาดแผล เลือดไหลออกมาจากบาดแผลเป็นทาง
“ตัวร้อนไปหมด แฮ่กๆ” ชายหนุ่มผมน้ำตาลเทาหอบหายใจอย่างรุนแรง เนื้อตัวสั่น นัยน์ตาเปลี่ยนเป็นสีแดง
“เฮ้! เกิดอะไรขึ้นนะ ทำใจดีๆไว้” มาตินรีบเข้าไปดูอาการเพื่อนชาย แต่เขากลับโดนอเลนปัดกระเด็นออกไปด้วยแรงที่ไม่ใช่ธรรมดา
ร่างกายของนักศึกษา NYU ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เสื้อผ้าฉีกขาดออก มาตินถอยหลังกรูดด้วยความตกใจ
“อ้ากกกกกกกกกกกกกกกก” อเลนร้องเสียงดังลั่น ผมยาวขึ้นปกปิดใบหน้า กล้ามขยายใหญ่เป็นมัดๆ
ในตอนนี้อเลนได้เปลี่ยนเป็นซอมบี้ร่างใหญ่โต สูงราว 3 เมตร ลำแขนกว้างเท่าเสาไฟฟ้า ดวงตาสีแดงก่ำ ผมยาวจนถึงกลางหลัง น้ำลายไหลย้อยจากปากไปถึงคาง เส้นเลือดปูดจนเห็นได้ชัด
“กรรรรรรร” ซอมบี้อเลนคำรามในลำคอ และเหลือบไปเห็นมาตินที่นั่งอยู่ที่พื้นตัวสั่นเหมือนลูกนก น้ำตาคลอเบ้าด้วยความหวาดกลัว
“ย้ากกกกกกกก” ซอมบี้ยักษ์พุ่งเข้าโจมตีทันทีที่เห็นเหยื่อ เอาแขนตบมาตินจนปลิวไปที่ตึกอีกฝั่ง กลิ้งสองสามตลบ ก่อนจะนอนแน่นิ่งตาย
ซอมบี้อเลนกระโดดลงมาจากตึกสูง จนพื้นกระเทือนไปทั่ว หันหน้าไปทาง Time Square เพราะได้ยินเสียงปืนดังมาแต่ไกลและเสียงระเบิด C4 ของแพทริกซ์ ทำให้ดึงความสนใจจากซอมบี้ยักษ์
และมันก็มุ่งหน้าไปทันที
15 มิถุนายน 2020
เวลา 21.05 น.
Time Square
เจสสิก้าเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับหัวหน้าทีม Delta และ Charlie ฟัง
“เอาไงดีละ ไปช่วยกันตามหาดีไหม ยังไงที่นี้ก็คุมสถานการณ์ไว้ได้อยู่แล้ว” ครูซหันไปคุยกับแพทริกซ์
“งั้นทีมนายคุมที่นี้ไว้ก็แล้วกัน เดี๋ยวทีมฉันจะไปตามหามาเรียกับเจสสิก้า แล้วค่อย....” หัวหน้าทีม Delta ยังพูดไม่ทันจบ เสียงเอรีนก็ดังมาจากวิทยุที่หน้าอก
“หัวหน้า! มีอะไรบางอย่างมุ่งหน้ามาที่นี้!”
เมื่อเสียงของหญิงสาวพูดจบ รถติดไฟคันหนึ่งก็พุ่งตรงกระแทกฮ.ที่บินอยู่อย่างรุนแรง จนฮ.หมุนคว้างอยู่บนอากาศและร่วงหล่นมาทางแพทริกซ์และครูซ
“หลบเร็ว!” ครูซรีบออกตัววิ่งหนี ผลักหลังเจสสิก้าให้รีบวิ่งหนี ส่วนแพทริกซ์กระโดดหลบไปอีกทาง
ตูม!!!!
ฮอ ระเบิดเสียงก้อง เปลวเพลิงกระจายไปทั่ว เศษซากฮอปลิวว่อน
“หัวหน้า เป็นอะไรไหมครับ” ฟอร์สตี้รีบวิ่งมาหาหัวหน้าทีม ที่ตอนนี้นอนคว่ำหน้า เอามือปิดหัวไว้
“ไม่เป็นไรหรอก แค่โดนอะไรเฉี่ยวหน้านะ” ชายหนุ่มหน้าคม ซึ่งตอนนี้มีรอยแผลที่แก้มเลือดไหลซิบๆ บอก
ส่วนครูซพยุงตัวเจสสิก้าให้ลุกขึ้น ทั้งสองคนปลอดภัยดี อาจจะมีแผลถลอกเล็กน้อยเท่านั้น เจสสิก้าในตอนนี้เสื้อผ้าขาดวิ่น กางเกงขาดยาว
“เกิดอะไรขึ้นเนี้ย ไอ้รถคันนั้นมันมาจากไหนกัน” ครูซพูดยังไม่ทันขาดคำ เสียงของนางิ ลูกทีมของเขาก็ดังมาจากด้านหน้า
“นั้นมันตัวอะไรเนี้ย” นางิชี้ไปทางข้างหน้าถนน ทุกคนรีบหันไปมองตามทันที
ซอมบี้อเลนเดินหน้าฝ่าดงซอมบี้ มุ่งหน้ามาทางพวกเขา ใบหน้าบ้าคลั่งและกระหายเลือดเต็มที่
“หัวหน้าครับ...คำสั่ง?” ฟอร์สตี้เอ่ย กลืนน้ำลายเสียงดัง
Event 3.3
ทีม Delta และ Charlie จะต้องช่วยเหลือกันซะแล้วละครับ ตอนนี้พวกเขาเผชิญหน้ากับ ซอมบี้อเลน หรือ Whopper (ชื่อที่ผมตั้งเอง อิอิ) พวกเขาจะทำเช่นไรดี
1. เผ่นไปตั้งหลักก่อน
2. สู้กับมัน!
Deadline คือวันพุธนะครับ
Event 3.4
เจสสิก้า จัง จะทำเช่นไรดี เมื่อเจอสถานการณ์ที่แสนอันตราย
1. ช่วยสู้กับ Delta และ Charlie
2. หนีไปและตามหามาเรียคนเดียว
Deadline คือวันพุธเช่นเดียวกันนะครับ
ความคิดเห็น