ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตายแล้วแต่ดันมาเกิดใหม่ในยุคโบราณซะงั้น

    ลำดับตอนที่ #4 : ๔

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 66


    “เจอกันอีกแล้วนะ”

    “…ใช่ เจอกันอีกแล้ว…”

    “เอ๋ ท่านพี่รู้จักด้วยหรอเจ้าคะ”

    “เดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ”

    “ถ้างั้น เริ่มเลย ใครตอบได้เยอะสุดคนนั้นชนะ โคมไฟอันแรก คือสัตว์อะไร”

    “กระต่าย”ไป๋เฟิ่งตอบอย่างเร็วไว

    “โห เก่งมาก ข้ายังมองไม่ออกเลยว่าคืออะไร”

    “คิดจะเล่นกับข้า รู้จักข้าน้อยไปซะแล้ว”หนิงเฟยพูดอยู่ในใจ

    “ต่อไป อันที่2 สัตว์อะไร”

    “ลา”หนิงเฟยตอบพร้อมหันไปมองหน้าไป๋เฟิ่งแล้วยิ้มมุมปาก

    “หึ อย่าคิดว่าจะชนะข้าได้”

    “เจ้าก็อย่ามั่นไปหน่อยเลย”

    “อุ๊บ ฮ่าๆๆ”เฉินหลงได้ยินจึงหลุดขำออกมา

    “เงียบไปเฉินหลง”

    ผ่านไป1เค่อไป๋เฟิ่งและหนิงเฟยแข่งกันมาจนถึงโคมไฟอันสุดท้าย

    “ต่อไปอันสุดท้าย อันนี้ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นดอกไม้พร้อมบอกความหมาย”

    “ดอกหล-”ไป๋เฟิ่งที่กำลังจะเอ่ยปากพูดแต่มีเสียงเอ่ยแทรกขึ้นมา

    “ดอกหลันฮวา หมายถึง มิตรภาพที่สูงส่ง หลันฮวาที่เลื้อยเกี่ยวกันเปรียบเสมือนความรักใคร่ พอใจซึ่งกันและกัน”หนิงเฟยตอบอย่างมั่นใจ

    “ท่านพี่เก่งมากเลยเจ้าค่ะ”ซูเหนียนชื่นชมหนิงเฟย

    “ถูกต้อง เจ้าบอกความหมายของดอกนี้ได้ดีมาก เจ้าเป็นผู้ชนะ”

    “ฮู่ๆๆๆ สุดยอดเลยแม่นาง”

    เสียงผู้คนฮือฮากันใหญ่และต่างชื่นชมหญิงสาวกันเป็นอย่างมาก

    “รางวัลที่ข้าจะให้ก็คือเงินจำนวน5ตำลึงทอง เจ้าเก่งมากนะข้าขอชื่นชม”

    “ขอบคุณนะเจ้าคะ”

    “ได้เยอะมากเลยเจ้าท่านพี่”

    “นั่นสิ ข้าก็ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้”

    “เก็บไว้เป็นทุนเข้าไปเมืองใหญ่นะเจ้าคะ”

    “อื้ม”

    “ดีใจด้วยนะ แม่นางปากร้าย”ไป๋เฟิ่งเดินมาแสดงความยินดีกับหนิงเฟย

    “นี่!ข้าไม่ใช่คนปากร้ายนะ อย่ามาใส่ร้ายกันแบบนี้”

    “คำก็ใส่ร้ายสองคำก็ใส่ร้าย”

    “แล้วมันจริงหรือไม่เล่า”

    “ไม่จริงสักนิด ครานั้นเจ้าเดินชนข้าเจ้ายังไม่ขอโทษข้า”

    “เขาเป็นใครหรือเจ้าคะท่านพี่”

    “เป็นคนอันธพาลน่ะ”

    “เอ้า แม่นาง เหตุใดจึงว่าสหายข้าเป็นคนอันธพาลเช่นนี้ล่ะ”

    “แล้วมิใช่หรือไง”

    “แต่ข้าว่าก็ดูเหมือนๆอยู่นะ ฮ่าๆๆ”

    “นี่ เฉินหลง เจ้าก็ว่าข้างั้นรึ”

    “ข้าล้อเล่นเองน่า เจ้าอย่าหัวเสียสิ”

    “เจ้าจะไปไหนก็ไปเลยนะ ไม่ต้องมาใกล้ข้า”ไป๋เฟิ่งหัวเสียและเดินออกไปจากตรงนั้นทันที

    “อ้าว ไป๋เฟิ่ง! รอข้าด้วย ข้าผิดไปแล้ววว”

    “ไป๋เฟิ่งงั้นรึ…”

    “ท่านพี่เรารีบไปปล่อยโคมไฟกันเถอะเจ้าค่ะ”

    “อื้ม”

    จากนั้นหนิงเฟยและซูเหนียนก็ได้เดินไปยังสถานที่ปล่อยโคมไฟ

    “เขียนสิ่งที่ท่านพี่ปรารถนาลงโคมไฟสิเจ้าคะ”

    “ในชีวิตใหม่ของข้านี้คือข้ายังหาครอบครัวไม่เจอ งั้นก็คงต้องขอให้ข้าเจอครอบครัว”

    หญิงสาวถอนหายใจเบาๆและเขียนลงไปช้าๆ

    “ถ้าเขียนเสร็จแล้วเราไปปล่อยโคมกันเถอะเจ้าค่ะ”

    “อื้ม ไปสิ”

    “แล้วท่านพี่เขียนอะไรลงไปล่ะเจ้าคะ”

    “แหนะ อย่ามาหลอกถามข้านะ บอกไม่ได้เดี๋ยวมันไม่เป็นตามที่ขอ คิคิ แล้วเจ้าล่ะเขียนว่าอะไร”

    “ข้าก็ไม่บอกเหมือนกันแหละเจ้าค่ะ ฮ่าๆๆ”

    ทั้งสองหัวเราะกันเสียงดังแต่แล้วเสียงหัวเราะของซูเหนียนก็เบาลงและกลายเป็นทำหน้าเศร้าจนหนิงเฟยสังเกตเห็น

    “เจ้าเป็นอะไรหรือซูเหนียนทำไมเจ้าดูเศร้าล่ะ”

    “ข้ามีความสุขเจ้าค่ะ แต่ที่ข้าเศร้าเพราะอีกไม่นานท่านพี่ก็ต้องไปจากข้า”

    "เด็กน้อยเอ้ย เราพึ่งเจอกันได้ไม่นานเจ้าติดข้าถึงเพียงนี้เลยรึ

    “ข้าบอกไปแล้วนี่เจ้าคะว่่าท่านทำให้ข้าไม่เหงา ท่านคอยคุยคอยเล่นกับข้าข้าก็เลยผูกพันธ์กับท่านมาก”

    “ข้ามีสิ่งที่ข้าต้องทำ เจ้าเองก็เช่นกัน เราทุกคนต่างมีหน้าที่ ข้าอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้อยู่แล้ว เจ้าอย่าพึ่งเศร้าไปเลย ยังไงข้าก็ต้องอยู่กับเจ้าอีกหลายวันกว่าข้าจะไป”

    “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”

    “ดีมาก งั้นเราไปกินเกี๊ยวน้ำร้านที่เจ้าเคยพาข้าไปกินกันนะ เดี๋ยวข้าเลี้ยงเจ้าเอง”

    “ไปกันเจ้าค่ะ ข้าหิ๊ววว”

    “ฮ่าๆๆ”หนิงเฟยหัวเราะให้กับความทะเล้นของซูเหนียน

    1ชั่วยามผ่านไป

    ยามห้าย

    “ซูเหนียน เรากลับโรงเตี้ยมกันเถอะ ดึกแล้วเดี๋ยวจะอันตราย”

    “เจ้าค่ะ”

    ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินกลับโรงเตี้ยมจู่ๆชายแปลกหน้าสองคนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหญิงสาวทั้งสอง

    “พ..พวกเจ้าเป็นใคร”

    “เป็นใครไม่สำคัญหรอก แต่ตอนนี้เนี่ยข้าร้อนเงินมากเลย เจ้าพอจะมีให้ข้ารีดค่าไถ่หรือไม่ ฮ่าๆๆ”

    “น้องสาว เจ้าหน้าตาสวยจังเลยนะ สนใจมาเป็นเมียพี่รึป่าวจ๊ะ”

    “ทุเรศ พวกสถุน”

    “อ้าวเห้ย ปากดีนักนะ อย่างนี้มันต้องโดนแทงซักสองสามครั้ง”ชายแปลกหน้าชักมีดออกมา

    !!!

    “ท่านพี่..ข้ากลัว ฮึก..”

    “ไม่ต้องกลัวนะ”

    “เอาเงินมาสิวะ!”

    “ถ้าพวกมึงไม่อยากตาย ก็เอาเงินมาให้พวกข้า”

    “ไอ้ชาติชัว ไม่มีปัญญาหาเงินหรอ ถึงได้เป็นโจรมาปล้นผู้คนแบบนี้”

    “นี่! กูทนไม่ไหวแล้วนะ งั้นมึงก็ตายซะ!!”

    !!!!

    ชั๊วะ!

    “อึก!”

    “อึก!”

    ชายแปลกหน้าทั้งสองล้มลงไปนอนแน่นิ่งแทบเท้าของหนิงเฟย

    “หึ คนชั่วๆแบบนี้มันไม่สมควรอยู่บนแผ่นดินนี้”

    “…”

    “น..นี่เป็นพวกเจ้าเองรึ”

    “ใช่แล้วแม่นาง พอดีข้ากับไป๋เฟิ่งมาเดินเล่นแถวนี้แล้วได้ยินเสียงเอะอะอยู่ตรงนี้ก็เลยเจอพวกเจ้า”

     “ขอบใจนะที่ช่วยพวกข้า แล้วเจ้า ข้าขอโทษเรื่องวันนั้นด้วย” หนิงเฟยพูดพร้อมหันหน้าไปหาไป๋เฟิ่ง

    “อืม”

    “พวกเจ้าพักอยู่ที่ใดเดี๋ยวข้าสองคนจักเดินไปส่ง”

    “อย่าเอาข้าไปรวม”

    “เห็นใจแม่นางสองคนนั้นเถอะน่า นางเป็นหญิงนะเดินทางเปลี่ยวๆแบบนี้มันไม่ปลอดภัย”

    “ไม่เป็นไร ข้าสองคนเดินไปเองได้ ไม่ลำบากพวกเจ้าหรอก”

    “ไปส่งเถอะเจ้าค่ะ ข้ากลัวจะแย่”ซูเหนียนเอ่ยขึ้นมา

    “แล้วพวกเจ้ามีนามว่ากระไรกันรึ”

    “ข้าซูเหนียนเจ้าค่ะ”

    “ข้าหนิงเฟย พวกเจ้าล่ะ”

    “ข้าเฉินหลงผู้หล่อเหลาที่สุดในปฐพี”

    “…”

    “เอ่อนี่ ไป๋เฟิ่ง สหายข้า”

    “พวกท่านมาจากที่ใด ข้าไม่คุ้นหน้าพวกท่านเลย”

    “พวกข้ามาจากเมืองหล-”

    “ข้าทั้งสองเป็นต่างเมือง ผ่านมาเมืองนี้ก็เลยแวะเที่ยวที่นี่”ไป๋เฟิ่งรีบพูดแทรกเฉินหลง

    “…”

    “ถึงโรงเตี้ยมแล้วพวกข้าขอตัว”

    “ไว้เจอกันใหม่นะ เหนียนเหนียน เฟยเฟย”

    “อย่าให้มันมากนัก”


     


     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×