คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ๔
“เจอกันอีกแล้วนะ”
“…ใช่ เจอกันอีกแล้ว…”
“เอ๋ ท่านพี่รู้จักด้วยหรอเจ้าคะ”
“เดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟังทีหลังนะ”
“ถ้างั้น เริ่มเลย ใครตอบได้เยอะสุดคนนั้นชนะ โคมไฟอันแรก คือสัตว์อะไร”
“กระต่าย”ไป๋เฟิ่งตอบอย่างเร็วไว
“โห เก่งมาก ข้ายังมองไม่ออกเลยว่าคืออะไร”
“คิดจะเล่นกับข้า รู้จักข้าน้อยไปซะแล้ว”หนิงเฟยพูดอยู่ในใจ
“ต่อไป อันที่2 สัตว์อะไร”
“ลา”หนิงเฟยตอบพร้อมหันไปมองหน้าไป๋เฟิ่งแล้วยิ้มมุมปาก
“หึ อย่าคิดว่าจะชนะข้าได้”
“เจ้าก็อย่ามั่นไปหน่อยเลย”
“อุ๊บ ฮ่าๆๆ”เฉินหลงได้ยินจึงหลุดขำออกมา
“เงียบไปเฉินหลง”
ผ่านไป1เค่อไป๋เฟิ่งและหนิงเฟยแข่งกันมาจนถึงโคมไฟอันสุดท้าย
“ต่อไปอันสุดท้าย อันนี้ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นดอกไม้พร้อมบอกความหมาย”
“ดอกหล-”ไป๋เฟิ่งที่กำลังจะเอ่ยปากพูดแต่มีเสียงเอ่ยแทรกขึ้นมา
“ดอกหลันฮวา หมายถึง มิตรภาพที่สูงส่ง หลันฮวาที่เลื้อยเกี่ยวกันเปรียบเสมือนความรักใคร่ พอใจซึ่งกันและกัน”หนิงเฟยตอบอย่างมั่นใจ
“ท่านพี่เก่งมากเลยเจ้าค่ะ”ซูเหนียนชื่นชมหนิงเฟย
“ถูกต้อง เจ้าบอกความหมายของดอกนี้ได้ดีมาก เจ้าเป็นผู้ชนะ”
“ฮู่ๆๆๆ สุดยอดเลยแม่นาง”
เสียงผู้คนฮือฮากันใหญ่และต่างชื่นชมหญิงสาวกันเป็นอย่างมาก
“รางวัลที่ข้าจะให้ก็คือเงินจำนวน5ตำลึงทอง เจ้าเก่งมากนะข้าขอชื่นชม”
“ขอบคุณนะเจ้าคะ”
“ได้เยอะมากเลยเจ้าท่านพี่”
“นั่นสิ ข้าก็ไม่คิดว่าจะได้เยอะขนาดนี้”
“เก็บไว้เป็นทุนเข้าไปเมืองใหญ่นะเจ้าคะ”
“อื้ม”
“ดีใจด้วยนะ แม่นางปากร้าย”ไป๋เฟิ่งเดินมาแสดงความยินดีกับหนิงเฟย
“นี่!ข้าไม่ใช่คนปากร้ายนะ อย่ามาใส่ร้ายกันแบบนี้”
“คำก็ใส่ร้ายสองคำก็ใส่ร้าย”
“แล้วมันจริงหรือไม่เล่า”
“ไม่จริงสักนิด ครานั้นเจ้าเดินชนข้าเจ้ายังไม่ขอโทษข้า”
“เขาเป็นใครหรือเจ้าคะท่านพี่”
“เป็นคนอันธพาลน่ะ”
“เอ้า แม่นาง เหตุใดจึงว่าสหายข้าเป็นคนอันธพาลเช่นนี้ล่ะ”
“แล้วมิใช่หรือไง”
“แต่ข้าว่าก็ดูเหมือนๆอยู่นะ ฮ่าๆๆ”
“นี่ เฉินหลง เจ้าก็ว่าข้างั้นรึ”
“ข้าล้อเล่นเองน่า เจ้าอย่าหัวเสียสิ”
“เจ้าจะไปไหนก็ไปเลยนะ ไม่ต้องมาใกล้ข้า”ไป๋เฟิ่งหัวเสียและเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
“อ้าว ไป๋เฟิ่ง! รอข้าด้วย ข้าผิดไปแล้ววว”
“ไป๋เฟิ่งงั้นรึ…”
“ท่านพี่เรารีบไปปล่อยโคมไฟกันเถอะเจ้าค่ะ”
“อื้ม”
จากนั้นหนิงเฟยและซูเหนียนก็ได้เดินไปยังสถานที่ปล่อยโคมไฟ
“เขียนสิ่งที่ท่านพี่ปรารถนาลงโคมไฟสิเจ้าคะ”
“ในชีวิตใหม่ของข้านี้คือข้ายังหาครอบครัวไม่เจอ งั้นก็คงต้องขอให้ข้าเจอครอบครัว”
หญิงสาวถอนหายใจเบาๆและเขียนลงไปช้าๆ
“ถ้าเขียนเสร็จแล้วเราไปปล่อยโคมกันเถอะเจ้าค่ะ”
“อื้ม ไปสิ”
“แล้วท่านพี่เขียนอะไรลงไปล่ะเจ้าคะ”
“แหนะ อย่ามาหลอกถามข้านะ บอกไม่ได้เดี๋ยวมันไม่เป็นตามที่ขอ คิคิ แล้วเจ้าล่ะเขียนว่าอะไร”
“ข้าก็ไม่บอกเหมือนกันแหละเจ้าค่ะ ฮ่าๆๆ”
ทั้งสองหัวเราะกันเสียงดังแต่แล้วเสียงหัวเราะของซูเหนียนก็เบาลงและกลายเป็นทำหน้าเศร้าจนหนิงเฟยสังเกตเห็น
“เจ้าเป็นอะไรหรือซูเหนียนทำไมเจ้าดูเศร้าล่ะ”
“ข้ามีความสุขเจ้าค่ะ แต่ที่ข้าเศร้าเพราะอีกไม่นานท่านพี่ก็ต้องไปจากข้า”
"เด็กน้อยเอ้ย เราพึ่งเจอกันได้ไม่นานเจ้าติดข้าถึงเพียงนี้เลยรึ
“ข้าบอกไปแล้วนี่เจ้าคะว่่าท่านทำให้ข้าไม่เหงา ท่านคอยคุยคอยเล่นกับข้าข้าก็เลยผูกพันธ์กับท่านมาก”
“ข้ามีสิ่งที่ข้าต้องทำ เจ้าเองก็เช่นกัน เราทุกคนต่างมีหน้าที่ ข้าอยู่ที่นี่ตลอดไปไม่ได้อยู่แล้ว เจ้าอย่าพึ่งเศร้าไปเลย ยังไงข้าก็ต้องอยู่กับเจ้าอีกหลายวันกว่าข้าจะไป”
“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
“ดีมาก งั้นเราไปกินเกี๊ยวน้ำร้านที่เจ้าเคยพาข้าไปกินกันนะ เดี๋ยวข้าเลี้ยงเจ้าเอง”
“ไปกันเจ้าค่ะ ข้าหิ๊ววว”
“ฮ่าๆๆ”หนิงเฟยหัวเราะให้กับความทะเล้นของซูเหนียน
1ชั่วยามผ่านไป
ยามห้าย
“ซูเหนียน เรากลับโรงเตี้ยมกันเถอะ ดึกแล้วเดี๋ยวจะอันตราย”
“เจ้าค่ะ”
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเดินกลับโรงเตี้ยมจู่ๆชายแปลกหน้าสองคนก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าหญิงสาวทั้งสอง
“พ..พวกเจ้าเป็นใคร”
“เป็นใครไม่สำคัญหรอก แต่ตอนนี้เนี่ยข้าร้อนเงินมากเลย เจ้าพอจะมีให้ข้ารีดค่าไถ่หรือไม่ ฮ่าๆๆ”
“น้องสาว เจ้าหน้าตาสวยจังเลยนะ สนใจมาเป็นเมียพี่รึป่าวจ๊ะ”
“ทุเรศ พวกสถุน”
“อ้าวเห้ย ปากดีนักนะ อย่างนี้มันต้องโดนแทงซักสองสามครั้ง”ชายแปลกหน้าชักมีดออกมา
!!!
“ท่านพี่..ข้ากลัว ฮึก..”
“ไม่ต้องกลัวนะ”
“เอาเงินมาสิวะ!”
“ถ้าพวกมึงไม่อยากตาย ก็เอาเงินมาให้พวกข้า”
“ไอ้ชาติชัว ไม่มีปัญญาหาเงินหรอ ถึงได้เป็นโจรมาปล้นผู้คนแบบนี้”
“นี่! กูทนไม่ไหวแล้วนะ งั้นมึงก็ตายซะ!!”
!!!!
ชั๊วะ!
“อึก!”
“อึก!”
ชายแปลกหน้าทั้งสองล้มลงไปนอนแน่นิ่งแทบเท้าของหนิงเฟย
“หึ คนชั่วๆแบบนี้มันไม่สมควรอยู่บนแผ่นดินนี้”
“…”
“น..นี่เป็นพวกเจ้าเองรึ”
“ใช่แล้วแม่นาง พอดีข้ากับไป๋เฟิ่งมาเดินเล่นแถวนี้แล้วได้ยินเสียงเอะอะอยู่ตรงนี้ก็เลยเจอพวกเจ้า”
“ขอบใจนะที่ช่วยพวกข้า แล้วเจ้า ข้าขอโทษเรื่องวันนั้นด้วย” หนิงเฟยพูดพร้อมหันหน้าไปหาไป๋เฟิ่ง
“อืม”
“พวกเจ้าพักอยู่ที่ใดเดี๋ยวข้าสองคนจักเดินไปส่ง”
“อย่าเอาข้าไปรวม”
“เห็นใจแม่นางสองคนนั้นเถอะน่า นางเป็นหญิงนะเดินทางเปลี่ยวๆแบบนี้มันไม่ปลอดภัย”
“ไม่เป็นไร ข้าสองคนเดินไปเองได้ ไม่ลำบากพวกเจ้าหรอก”
“ไปส่งเถอะเจ้าค่ะ ข้ากลัวจะแย่”ซูเหนียนเอ่ยขึ้นมา
“แล้วพวกเจ้ามีนามว่ากระไรกันรึ”
“ข้าซูเหนียนเจ้าค่ะ”
“ข้าหนิงเฟย พวกเจ้าล่ะ”
“ข้าเฉินหลงผู้หล่อเหลาที่สุดในปฐพี”
“…”
“เอ่อนี่ ไป๋เฟิ่ง สหายข้า”
“พวกท่านมาจากที่ใด ข้าไม่คุ้นหน้าพวกท่านเลย”
“พวกข้ามาจากเมืองหล-”
“ข้าทั้งสองเป็นต่างเมือง ผ่านมาเมืองนี้ก็เลยแวะเที่ยวที่นี่”ไป๋เฟิ่งรีบพูดแทรกเฉินหลง
“…”
“ถึงโรงเตี้ยมแล้วพวกข้าขอตัว”
“ไว้เจอกันใหม่นะ เหนียนเหนียน เฟยเฟย”
“อย่าให้มันมากนัก”
ความคิดเห็น