sorry, i'm sad - sorry, i'm sad นิยาย sorry, i'm sad : Dek-D.com - Writer

    sorry, i'm sad

    เรื่องสั้นครับ (:

    ผู้เข้าชมรวม

    192

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    192

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ธ.ค. 54 / 20:03 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
     นักเขียนน้องใหม่ครับ (กล้ามากกกกก ที่ใช้คำว่านักเขียน -0-)

    ถ้าอ่านแล้วชอบก็คอมเม้นให้กำลังใจ หรือถ้าจะแชร์ก็ขอบคุณมากๆ ครับ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
       “ถ้าหากฉันไม่มีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้...

      เธอจะคิดถึงฉันไหม...”

       

       

                  ผมกับเธอพบกันโดยบังเอิญ...

                  เราสองคนตกลงเป็นแฟนกันหลังจากคุยกันได้สองเดือนกว่าๆ

                  ผมรักเธอ...

                  และผมคิดว่าเธอก็รักผมเหมือนกัน...

       

                  ใบไม้สีเขียวปลิวลู่กับสายลมเย็นๆ ผมไกวชิงช้าให้กับเธอ เสียงเพลงรักที่คลอเบาๆ ทำให้บรรยากาศที่เราสองคนอยู่ร่วมกันดูมีความหมายและเป็นความทรงจำ

                  เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น...

                  เธอรับโทรศัพท์แล้วเดินเลี่ยงไปคุยเพียงลำพัง

                  ผมได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ

                  สักครู่เธอเดินกลับพร้อมกับขอตัวไปทำธุระ

       

                  ตอนนี้ผมนั่งอยู่บนชิงช้าเพียงลำพัง...

       

                  ผมเดินผ่านร้านอาหารแห่งหนึ่ง...

                  เมื่อมองเข้าไปในร้านมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หัวใจผมเกือบสลาย...

                  ผมเห็นเธอ...ผู้หญิงที่ผมรัก นั่งกินข้าวอยู่กับผู้ชายที่ผมไม่รู้จัก

                  มันปวดเข้าไปข้างในหัวใจลึกๆ

       

                  ผมรีบเดินหนีไปให้ไกลจากร้านนั้น...

                  ภาพบาดตามันใจมันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่ยอมลบเลือน...

                  เธอกำลังจะนอกใจผมงั้นเหรอ...

       

                  ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมฟุตบาท เธอโทรฯ มา

                  เธอถามว่าผมอยู่ไหน...

       

                  ไม่นานเธอก็มาหาผม ผมลุกขึ้นยืนแล้วทำหน้าบึ้ง...

                  “ทำไมทำหน้าแบบนั้น...”

                  “แล้วไปไหนมาล่ะ”

                  “ไปทำงานมา”

                  เธอส่งยิ้มให้ผม...

                  ทำงานงั้นเหรอ? ก็ในเมื่อเมื่อกี้ผมพึ่งเห็นเธอนั่งกินข้าวกับผู้ชายคนอื่น

                  โกหก!!

                  “ไปกินข้าวกับผู้ชายเนี่ยนะ ทำงาน!!

                  “ฮะ...”

                  “ทำอะไรอย่าคิดว่าผมไม่รู้นะ!!

                  “เข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว...”

                  “สิ่งที่ผมเห็นมันก็บอกหมดแล้วว่ามันหมายความว่ายังไง จะนอกใจกันหรือไง”

                  “หยุดพูดแบบนั้นนะ”

                  “จะบอกเลิกกันก็พูดมาตรงๆ”

                  “หยุด!!

                  ผมเริ่มเห็นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากหางตาของเธอ...

                  ผมรู้สึกสงสารยังไงอย่างบอกไม่ถูก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะเอื้อมมือไปเช็ด

                  แต่ในเวลานี้...ผมทำไมลง ผมเช็ดน้ำตาให้กับผู้หญิงที่ทรยศผมไม่ได้

                  “ถ้าจะบอกเลิกกันก็พูดมาตรงๆ งั้นเหรอ”

                  เธอพูดออกมาเบาๆ ในขณะเดียวกันเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น

                  ผมรีบคว้าโทรศัพท์มาทันที เห็นรูปที่โชว์ขึ้นมาเป็นคนเดียวกับผู้ชายคนที่กินข้าวกับเธอเมื่อกี้แล้วยิ่งปวดใจ

                  แต่ผมก็กดรับ...

                  “...”

                  “ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยจัดงานให้กับผม มันดูดีจริงๆ ข้าวมื้อนี้เป็นค่าตอบแทนที่ช่วยผม”

                  โครม!!

                  โทรศัพท์หลุดจากมือผมพร้อมๆ กับที่ผมเห็นภาพผู้หญิงที่ผมรักนอนกองอยู่บนพื้นถนน

                  เธอวิ่งออกไปตอนที่ผมรับโทรศัพท์...

                  ขอโทษ...

       

                  วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์...

                  ผมเข็นรถเข็นไปตามทางฟุตบาทของค่ำคืนอันโรแมนติกนี้

                  ต้องขอบคุณพระเจ้าที่ยังไม่พรากเธอไปจากผม

                  หลังจากวันนั้นผมสาบานกับตัวเองว่าจะเชื่อใจเธอตลอดไป...

                  และวันนี้...ผมจะขอเธอแต่งงาน

                  “ถ้าวันนั้น...ผมไม่เข้าใจผิด ทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้”

                  เมื่อผมพูดจบ ทุกอย่างเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่เธอจะพูดขึ้นมา

                  “ฉันทิ้งมันไปตอนที่ถูกรถชนแล้วล่ะ”

                  เธอทำให้ผมรักจนแทบถอนตัวไม่ขึ้น ก็เพราะเธอเป็นแบบนี้ล่ะ

                  “เมื่อไหร่จะหายนะ...”

                  “ฉันเริ่มขยับเท้าได้แล้วล่ะ”

                  เธอยิ้มให้ผมจังหวะเดียวกับที่ช่องสัญญาณไฟเปลี่ยนให้คนเดินสว่างขึ้นพอดี

                  ผมเข็นเธอข้ามไปอีกฝากหนึ่ง...

                  เมื่อถึงตรงนี้ผมพึ่งนึกได้ว่าลืมกระเป๋าไว้ฝั่งนู้น

                  ผมย่อตัวลงนั่งบนส้นเท้าเพื่อให้หน้าของเราสองคนอยู่ในระดับเดียวกัน...

                  “ผมลืมของไว้ฝั่งตรงข้าม ผมขอตัวเดี๋ยวนะ”

                  “รีบๆ”

                  “ถ้าผมไม่อยู่คุณต้องอยู่คนเดียวได้นะ”

                  พูดจบผมก็วิ่งข้ามถนนโดยไม่สนใจสัญญาณไฟ

                  โครม!!

       

                  สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมๆ กับที่ร่างของผู้ชายที่ฉันรักนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน

                  เลือด!!

                  ฉันอยากจะลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหาเขา แต่เพราะขา... ฉันอยากร้องไห้

                  ผลัก!

                  ไม่รู้ฉันไปทำอีท่าไหน...ตอนนี้ฉันนอนกองอยู่กับพื้น

                  มีเพียงร่างกายท่อนบนเท่านั้นที่ขยับได้...

                  ฉันค่อยๆ คลานไปตามพื้น...

                  สิ่งเดียวในตอนนี้ที่ฉันต้องการคือ...ไปถึงตัวเขาให้ได้

                  ถึงแล้ว...

                  ไม่รู้น้ำตามาจากไหน ไม่รู้ความเสียใจมาจากไหน มันมากมายจนแทบไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้มันหมดไป

                  ฉันค่อยๆ ประคองร่างของเขาขึ้นมา เขายังลืมตาและพยายามจะขยับปากพูดอะไรสักอย่าง

                  “ถะ...ถ้าผม มะ...ไม่อยู่ คะ...คุณต้องอยู่ คะ...คนเดียวได้”

                  “อย่าพูดแบบนั้นสิ!!

                  เขาเอื้อมมือไปหยิบอะไรสักอย่างในถุงเสื้อออกมา มันเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดงเล็กๆ

                  เขาพยายามเปิดมันออก...

                  ฉันเห็นแหวนสีเงินรูปดาว...

                  “แต่งงาน...กับผมนะ...”

                  “...”

                  “อย่ามัวแต่ร้องไห้สิ... สัญญากับผมว่าถ้าผมไม่อยู่ คุณต้องอยู่คนเดียวได้”

                  “...”

                  “สัญญา ดะ...ได้มั๊ย”

                  “...”

                  “สัญญา”

                  “ค่ะ...สัญญา”

                  ฉันพูดออกไปทั้งที่รู้ว่ามัน...ทรมานแค่ไหน...

                  ทันทีที่ฉันพูดจบแหวนในมือเขาก็ร่วงลงกระทบพื้น...

                  เหมือนมีอะไรสักอย่างแหลมๆ กรีดแทงลงบนใจฉัน...

                  มันทั้งปวดและทรมาน...เกินกว่าที่ฉันจะยอมรับและเผชิญกับมันได้

                  โลกความจริงที่โหดร้าย...

                  “ไม่!!

                  นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ฉันเปล่งออกไปก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป...

                  ฉันได้แต่ภาวนาให้นี้เป็นเพียงแค่ความฝัน...

                  ฉันได้แต่ภาวนาว่าพอตื่นขึ้นมาจะได้พบเจอกับเขาอีก...

                  ฉันได้แต่ภาวนาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องจริง...

                  และฉันก็ได้แต่ภาวนาว่าฉันจะยอมรับเรื่องที่สุดแสนจะเลวร้ายนี้ได้...

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×