ตอนที่ 36 : การเดินทาง Part 1
การเดินทางของมนุษย์ไปสู่โลกของเอลฟ์
--------------------------------------------------
มันเป็นเวลานานหลังจากแยกจากเดีย นานจนถึงเวลาอาหารรอบสองคือมื้อเย็น เฟยฉางก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาต้องไปบอกความคืบหน้ากับจิน แต่มันแปลกที่ในสองรอบมื้ออาหารเขาไม่เห็นจินเลย
เฟยฉางหยิบแซนวิชไว้ในมือและขึ้นไปชั้นบนเพื่อหาเขา เป็นเรื่องปกติที่จินจะไม่อยู่ที่ห้องตัวเองเพราะเขาชอบอยู่กับฮิวจ์มากกว่า เฟยฉางกดกริ่งที่หน้าห้องของฮิวจ์ไม่นาน ประตูก็ถูกแง้มออกมาทำให้เขาเห็นจินเพียงครึ่งเดียว
“มีไร?”
“...เอิ่ม.. ฉันคงมาขัดจังหวะสินะ”
“มันคือใคร?” เสียงดังลอดออกมาจากห้อง และมันไม่ใช่เสียงฮิวจ์!
“นายลักพาตัวใครมา?!”
ริมฝีปากของเผยอขึ้นโชว์เขี้ยวแหลมและดูคุกคาม “นายพูดอะไรนะ?”
มีคนที่ถูกเรียกว่าทัตแพทย์อยู่นะ นายรู้หรือเปล่า ถ้าฟันนายเจ็บนายก็ควรจะไปและบอกเขาว่าเจ็บตรงไหนไม่ใช่หรอ เขาไม่ใช่ทันตแพทย์เสียงหน่อย ไม่ควรมาแยกเขี้ยวโชว์กันอย่างนี้เลย
“นั่นใคร?”
จินเงียบไปครู่ก่อนตอบ “...ไม่มีใคร”
สรุปแล้วหมอนี่ลักพาตัวใครมาจริงหรอ ?! เสียงในหัวเริ่มตีกันระหว่างความยุติธรรมกับความจำเป็นที่ต้องเล่าเรื่องของเดีย เมื่อประตูเปิดกว้าง เฟยฉางรีบยกมือขึ้นสองข้างบ่งบอกว่าเขาไม่ได้เปิดนะ จินหันมองรอบๆ
เด็กหนุ่มที่สูงแทบไม่ถึงไหล่เขายืนอยู่หลังประตูและยิ้มแย้มแจ่มใสใส่เฟยฉาง “คุณกำลังมองหาผมอยู่หรือเปล่า”
“.......”
น...น...นั่นใช่ฮิวจ์ไหม? ทำไมเขาถึงตัวหดลงละ เฟยฉางเบิกตากว้างอย่างตกใจ จินไม่สนใจและหันไปลูบหัวฮิวจ์ลงหลัง
“หมอนี่ปลุกนายหรือเปล่า? ฉันจะได้เตะมันออกไป”
พี่ชาย.. เฟยฉางมองจินอย่างไม่พอใจในขณะที่ฮิวจ์หัวเราะคิกคัก
“ฉันนอนไม่หลับถ้าไม่มีนาย..”
หันไปมองที่เฟยฉางอีกครั้งที่ยังคงโดนทิ้งอยู่ จินถอนหายใจและหันกลับมาหาฮิวจ์
“เขามาหาฉัน ฉันจะรีบคุยให้เสร็จแล้วกลับไปหานายโอเคไหม?”
ฮิวจ์ดึงแขนเสื้อเขาไว้เล็กน้อยก่อนช้อนตามอง “ทำอย่างที่พูดด้วยนะ โอเคไหม?”
เฟยฉางยืนมองจินทำตัวอ่อนซุกไซร้ฮิวจ์เหมือนตัวเองเป็นหมาที่เหนือไหล่ เขากดจูบลงบนแก้ม เอาจริงดิ ฟาค นี่มันอย่างกับพ่อและลูกที่ โฮลี่ชิท.. เฟยฉางปล่อยมือที่ยกขึ้นมาขยี้หัวกับความคิดตัวเองทำให้เส้นผมฟูพันกันไม่เป็นทรง จินหันมาก็ทำหน้าเย็นชาใส่
“ทำอะไรน่ะ?”
“เออ.. ฉันทำอะไรอยู่” เฟยฉางถามออกมาโง่ๆ เกิดอะไรขึ้นกับเขา และทำไมเขาต้องมายืนดูอะไรแบบนี้ด้วย
“...” จินเดินออกมาและปิดประตูอย่างแผ่วเบา เฟยฉางคล้ายกับถูกกดดันให้เดินถอยหลังออกไปสองสามก้าว
จินจ้องหน้าเขานิ่งก่อนจะถอนลมหายใจออกมาอีก “ฮิวจ์กลับสู่ช่วงการเติบโต”
....
...แล้วสิ่งที่เฟยฉางเห็นมาตลอดบนเรือโนอาห์นั่นคือ... อะไร?
“มันเป็นประเภทของชนเผ่าที่มองไม่เห็น พวกเขาเป็นอมตะ” จินอธิบายต่อ
“พวกเขาอาจจะอาศัยอยู่เป็นเวลานาน แต่จริงๆแล้วก็มีขีดจำกัด อายุเพิ่มขึ้นแต่ร่างกายคงที่ พอถึงจุดหนึ่งก็จะกลับกลายเป็นเด็กอีกครั้ง ส่วนระยะเวลาบางทีก็สองสามชั่วโมง แต่บางกรณีมันก็นานถึงสองหรือสามศตวรรษ”
“สิ่งที่นายพูดคือ” เขาสรุปหลังจากฟังทั้งหมดแล้ว ..
“ในเผ่าพันธุ์ของพวกเขา ไม่มีวัยเด็กงั้นหรอ?” เฟยฉางเลือกที่จะกลืนประโยคที่ว่า ‘จินเป็นโชตะคอน’ ลงไป แต่มันก็แปลกที่จินไม่มีทีท่าตกใจมากที่ควร
“จิน..อย่าบอกนะว่านายเป็น..”
“ไม่ใช่!” จินปฏิเสธก่อนมีใบหน้าอ่อนโยนผิดกับทุกที “ฉันชอบฮิวจ์มาก ตอนนี้นายอาจจะไม่เชื่อว่ามันมากขนาดไหน มันเหมือนกับว่าฉันไม่อยากให้เขาอยู่ห่างฉัน และไม่อยากเห็นน้ำตาของเขาด้วย ฉันทำให้เขาได้ทุกอย่าง”
แล้วนายจะให้อะไรหรอ? นายจะมอบของขวัญหรือโอนอะไรให้เขาหรอ
“นายกำลังพยายามที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ฮิวจ์อยู่กับตัวเองในแบบที่เขาเป็นนี้?” จินพยักหน้า
นี่มันไม่ใช่แค่ โชตะคอนแล้ว! นี่มันเป็นคนเป็นอนาจารโดยตรง! เฟยฉางแสดงความเห็นอกเห็นใจผ่านประตูไปให้ฮิวจ์ แย่มากที่เขาต้องอยู่คนเดียวในถ้ำสิงโต
“แต่ยังไงก็ตามเรื่องที่สำคัญสุดคือเรื่องโอเมดันโด้ นายจะจัดการไม่ให้เขาทำลายชีวิตของฉัน” เฟยฉางได้ยินจินพูดก็กรอกตา
“ที่จริงฉันก็ตั้งใจจะมาคุยเรื่องนี้แหละ”
“เป็นยังไง?” จินรีบเร่ง
“กฎของเมอร์ฟี่”
“มันหมายถึงอะไร?”
“ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้”
“....แล้วสิ่งที่จะเกิดขึ้นหมายถึงอะไร?”
เฟยฉางยักไหล่ “เรื่องไม่ดี” ทุกอย่างเป็นไปได้หมดแหละหากเรื่องของเดียไปถึงหูโอเมดันโด้ จินทุบผนังเสสียงดังแสดงที่ท่าคุกคามอย่างเห็นได้ฉัน แต่เฟยฉางยังคงเฉยชา เขาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ต่อจากนี้ไม่ใช่ธุระของเขาอีกต่อไป
--------------------------------------------------
เขาไม่ได้มีช่วงผูกพันกับสหายเลย์ตันมาซักพักใหญ่แล้วจึงตัดสินใจที่จะไปก่อกวนซักหน่อย แต่รู้สึกได้ว่าช่วงนี้เลย์ตันจะยุ่งพอสมควร ขณะที่กำลังสรุปเรื่องของเลย์ตันเขาก็ชะงักนึกอะไรได้ขึ้นมา
แม้อาซาจะมีน้ำลายเยอะเพียงไหนแต่ในเวลาสำคัญก็น่าเชื่อถืออยู่มากไม่ควรละเลยและเขาควรดึงเข้าพวก เฟยฉางรีบวิ่งไปที่ห้องอาซาและเคาะรัวด้วยความเร่งรีบ
ประตูไม่เปิด เมื่อเทียบกับการกรนที่ดังสนั่นการเคาะของเขาก็คงเหมือนเสียงยุง เฟยฉางเตะประตู
“ตื่น! มีพายุอยู่ข้างนอก รีบเก็บเสื้อผ้าของนายเดี๋ยวนี้!”
การตอบสนองยังคงเป็นเสียงกรนอยู่เช่นเคย
“ถ้านายไม่ลุกตอนนี้ ฉันจะวางสายไฟไว้บนหัวนายและโยนออกไปข้างนอกให้ไฟดูดตายที่ฟ้าร้อง!”
“คร่อก....ฮูลูลู่...”
ไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่กลัวแม้แต่สายฟ้า เฟยฉางหันหลังและเดินกลับมา พูดตรงๆเขาชอบการซุบซิบ และเขาก็ชอบคิดถึงความบันเทิงจากในที่ที่จากมา หากไม่มีความบันเทิงเขาก็ยังสามารถสร้างความบันเทิงกับคนได้
เขาถอนหายใจและได้ยินเสียงน้ำ ทำให้นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงตรงขึ้นไปสระว่ายน้ำของอิเซเฟล อิเซเฟลกระโดดโค้งลงในน้ำอย่างสวยงาม พื้นผิวสีฟ้าใสสั่นกระเพื่อมก่อนที่ใบหน้าของอิเซเฟลจะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ เส้นผมที่สยายมีสีดำคล้ายกับปี เฟยฉางไม่สามารถบังคับสายตาให้มองไปทางอื่นได้นอกจากกล้ามเนื้อบนหน้าท้องที่สวยงามนั่น อิเซเฟลเปิดเปลือกตาและหันมามองราวกับรู้ว่าถูกจ้องอยู่
“ไง” เฟยฉางพูดขึ้น
อิเซเฟลลอยขึ้นจากน้ำ หยดน้ำไหลผ่านร่างกายกำยำลงไปสู่พื้นผิว เฟยฉางได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นกระหน่ำ ตัวแข็งทื่อก้าวขาไม่ออก ครั้งสุดท้ายที่เจออิเซเฟลเขาก็ได้คำเตือนในหัวตัวเองมากมาย แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ราวกับได้ยินเสียงไซเรนในหัว นี่มัน...แย่แน่ๆ!
“เดียเพิ่งมาที่นี่”
“อ้อ..” เฟยฉางรีบละสายตาออกจากร่างของเขาไปมองไปทางอื่น “แล้ว..เดียมาทำอะไร?”
“ขอลา”
สิ่งที่ยินทำให้เฟยฉางละความสนใจของอิเซเฟลทันที “ไปไหน?”
“โลกเอลฟ์”
นั่นมัน...โฮลิ่ชิท เฟยฉางไม่สามารถบังคับหน้าตาตัวเองไม่ให้แสดงความยินดีออกมาได้เลย มันสุดยอดมากที่เห็นว่าแผนของตัวเองได้ผล
“เขายังขอเผื่อนายด้วย”
“รอ – อะไรนะ?”
“ดังนั้น นายไปกับเขาได้”
“นายทำอย่างนั้นได้ยังไง?!”
“แล้วนายจะไม่ไปหรอ?”
อิเซเฟลไม่เคยพูดเกี่ยวกับการไปโลกอื่น นอกจากกลับโลกของตัวเอง เมื่อพิจารณาจากจำนวนผู้เข้าพักที่นี่ในแต่ละวันแล้ว โลกอาจเชื่อมต่อกันมากกว่าที่คิด
“ฉันหมายความว่า” เฟยฉางอธิบาย “มีมนุษย์เคยไปที่นั่นมาก่อนไหม?”
“ไม่” เฟยฉางทำสีหน้าแบบสงสัย อิเซเฟลเลยพูดต่อ
“เพราะไม่มีใครขอไป”
“งั้น นายมีหนังสือพวกคู่มือหรือหนังสือเกี่ยวกับสวัสดิการไหม?”
“เพื่ออะไร?”
“ก็.. ฉันจะได้เห็นว่ามีผลประโยชน์อันไหนที่ฉันพลาดไปอีก”
พระเจ้า เขากำลังจะไปท่องเที่ยวต่างโลก ถ้าสิ่งที่อิเซเฟลบอกมาเป็นเรื่องจริง เขาเป็นคนแรกที่ได้ไปเยือน เหมือนกับการไปเยือนดวงจันทร์ เฟยฉางกำลังจินตนาการถึงตัวเองตอนปักธงอยู่บนยอดเขาสูงสุดที่โลกของเอลฟ์ และฝูงชนที่แห่กันมาร้องเพลงสรรเสริญ
“ไม่มีหนังสือคู่มือ แต่มีบางอย่างที่นายต้องรู้”
“อะไร?” มันมีอะไรจำเป็นที่ต้องรู้หรือ?”
“นายจะนำเงินที่ได้จากที่นี่ไปใช้ที่โลกของนายไม่ได้”
“อะไรนะ! ทำไมละ!”
“เพราะไม่ได้ไงละ” เฟยฉางทึ้งหัว
“แล้วนายจะให้ฉันทำไม!”
“นายใช้ที่นี่ได้”
“ฉันจะใช้มันกับอะไร?” ที่พักและอาหารทั้งหมดก็ฟรี
“นายสามารถซื้อกางเกงว่ายน้ำได้”
--------------------------------------------------
บอกข้าน้อยสิขอรับว่าท่านอิเซเฟลมิได้กวนบาทาแต่อย่างใด......
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แงงง รอเลยเจ้าค่ะะ เอาที่ผู้แปลสะดวกน้าา ทางนี้รอได้เสมอค่ะะ >_< เป็นกำลังใจให้นะคะ!!
อยากให้ไรต์กลับมาแปลต่อจัง ฮื่ออออ ;^;