ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Sunday]หนุ่มหล่อร้ายขอมัดใจยัยพริกขี้หนูอัพตอนที่17 100%จ้า

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่9 ไม่เหมือนเดิม

    • อัปเดตล่าสุด 16 ม.ค. 53


    ตอนที่ 9 ไม่เหมือนเดิม

                “ริบบิ้นตื่นเต้นรึเปล่า?”เสียงของเยียร์ถามฉันเบาๆแบบกระซิบมากกว่าอ่านะ เท่าที่รู้สึก

    “อื้อ”ไม่รู้จะพูดอะไรแล้วอ่ะ  ตื่นเต้นจนพูดไม่ออกแล้ว

    “จับมือฉันไว้นะ จะได้ไม่ตื่นเต้นมาก” เขาเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด รู้สึกดีจังแฮะ

    “ริบบิ้น กาวน์ขอคุยด้วยหน่อย” เสียงที่ไม่พึงประสงค์ขัดขึ้น ฉันนะไม่อยากจะได้ยินสุดๆเลย

    เยียร์ทำท่าจะพูด แต่ฉันก็เอื้อมมือไปสะกิดเขาเบาๆเป็นเชิงปราม ก่อนจะ

    “ไปคุยกันข้างนอกนะคะ” ฉันตอบกาวน์ไป

    เยียร์มองมาอย่างห่วงใย แล้วฉันก็หันไปมองหน้าเขาแล้วส่งสายตาประมาณว่าไม่เป็นไร กลับไปให้เขาซึ่งเขาเองก็พยักหน้ากลับมาอย่างเข้าใจ เขาเป็นคนดีจัง ดีกว่าที่ฉันหวังให้เขาเป็นซะอีก

    ฉันเองเดินนำกาวน์ออกมาจากห้องหลังเวที เราเดินไปจนลับตาคนในระยะหนึ่งพอที่จะได้ยินเสียงว่าบนเวที เขากำลังทำอะไรอยู่บ้าง

    “ริ้บบิ้น กาวน์ขอโทษ” เขามองมา ซึ่งฉันเองก็ไม่แน่ใจนักในสายตานั้นของเขาเองว่าเขาเสแสร้งหรือเสียใจจริงๆกับสิ่งที่เขาทำกับฉันแม้ภายในใจของฉันเอง จะสับสนอยู่บ้าง และ เหมือนว่ายังคงเจ็บกับความหลังครั้งเก่าที่เขาเคยสร้างบาดแผลไว้ให้ฉันมากมาย จนบางทีอาจเกินให้อภัย หากเกิดกับใครบางคน แต่กับตอนนี้ ฉันเองไม่ได้รู้สึกว่ามันร้ายแรงเหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว

    “ริบบิ้นยกโทษให้นะกาวน์” ฉันตอบกาวน์กลับไป และยิ้มให้กับเขาอย่างเป็นมิตร เหมือนที่ฉันเคยยิ้มให้อย่างเสมอมา ใบหน้าของเขาเองก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันทีที่ได้ยินฉันพูด

    “แปลว่าริบบิ้นจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมกับกาวน์แล้วใช่ไหม?”

    ฉันส่ายหน้าให้เขาอย่างช้าๆ และฉันเองก็ต้องยอมรับว่า เกิดอะไรขึ้นภายในใจ ของฉัน ที่แปลกไปจากเมื่อก่อนแล้วล่ะ

    “ทำใมล่ะริบบิ้น หรือว่าริบบิ้นยังไม่อภัยให้กาวน์ จะให้กาวน์ทำอะไรก็ได้นะ” เขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เลย

    “ไม่หรอกกาวน์ ริบบิ้นอภัยให้กาวน์เสมอ เพียงแต่ ตอนนี้ ริบบิ้นไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับกาวน์ได้อีกแล้ว”

    เขามองหน้าฉันนิ่ง เราสองคนยืนเงียบมองหน้ากัน ค่อนข้างนานพอสมควรก่อนที่ฉันจะตัดสินใจพูดคำสุดท้ายออกไป

    “และตลอดไป”

    เขาชะงักทันที ที่ได้ยินฉันพูดคำนั้น

    “ริบบิ้น!!” เขาอุทานออกมาอย่างตกใจมาก  สักครู่แววตาก็เปลี่ยนเป็นเศร้าหมองลงทันตา

    “กาวน์เองรู้มาตลอดว่ากาวน์ผิด กาวน์เป็นคนทำให้ริบบิ้นต้องเจ็บมากถึงขนาดนี้ ทุกวัน กาวน์ก็เฝ้าแต่โทษตัวเอง ว่าทำใม หากกาวน์รู้ใจตัวเองมากกว่านี้ เปิดใจรับฟังเสียงของใจตัวเองให้มากกว่านี้ เรื่องของเราคงไม่จบแบบนี้ กาวน์เองก็ยังคงได้ดูแลริบบิ้นเหมือนเดิม และยังคงได้รักริบบิ้นเหมือนเดิม”

    ฉันเข้าใจเขา  และ  ความจริงที่ฉันเองควรรู้ก็คือ เขาเองก็ไม่ได้ผิด พ่อกับแม่ของฉันเองที่ไปขอร้องให้เขามาทำดีกับฉัน แต่เรื่องก็กัปตาลปัตร กลายเป็นว่าฉันเอง กลับมีชีวิตรอดจากโรคร้ายเมื่อปีก่อน ทั้งที่ความจริงฉันเองอาจจะไม่มีตัวตนบนโลกใบนี้ด้วยซ้ำ หากไม่มีเขา “อัศวิน” คนนั้น

    “รู้อะไรไหมกาวน์ บางที หากไม่เกิดเรื่องขึ้น กาวน์เองก็อาจจะไม่รู้ใจตัวเองนะ” ฉํนยิ้มให้กับเขา

    “จริงของริบบิ้นนะ”

    “ริบบิ้น อยากขอให้กาวน์เก็บไว้เป็นบทเรียนนะ ว่าต่อไป ก็อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของใครอีก และเมื่อรักใคร ก็ควรจะซื่อสัตย์กับเขาเสมอนะ” นางเอก ก็ ต้องพูดแบบนี้ จริงไหมคะ

    “ริบบิ้น กาวน์ขอโทษนะ” เขาพูด แต่ต่อนนี้ฉันกลับรู้สึกได้ว่า เขาขอโทษออกมาจากใจจริงของเขาเอง

    “ริบบิ้นไม่โกรธกาวน์เลย” ฉันยิ้มให้เขา

    “ริบบิ้น รู้ไว้นะ ว่ากาวน์รักริบบิ้นเสมอ และกาวน์คนนี้ ก็จะขอดูแลริบบิ้นเสมอไปนะ เหมือนที่เคยสัญญา....”

    ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

    “พี่ชายได้ไหม”

    “ขอแค่พี่ชายได้ไหมริบบิ้น?” เขาเอ่ยถามฉัน

    ฉันพยักหน้าให้เขา แล้วยิ้มอย่างมีความสุข

    “แค่นี้ก็พอแล้ว กาวน์อยากดูแลนางฟ้าตัวน้อยๆของกาวน์ ให้ดีที่สุด”

    เขาคว้าตัวฉันไปกอด ฉันเองก็ไม่ขัดขืนอะไร และยังรู้สึกอบอุ่นมากด้วย แต่ไม่ใช่ความรู้สึกแบบเดิมที่ฉันเองมีให้เขา แต่เป็นความรู้สึก ทีน้องสาวตื้นตันในความรักของพี่ชาย ที่มอบให้

    “เราเข้าไปข้างในเถอะค่ะ” ฉันเอ่ยบอกในเมื่อ มองที่นาฬิกาแล้ว มันล่วงเวลามา ประมาณกว่าสิบนาทีได้

    เขาพยักหน้าก่อนจะเดินนำฉันกลับเข้าไป ตอนที่ฉันเองไปหยุดยืนที่ข้างๆเยียร์ เขาเองก็หันมายิ้มให้ฉัน และฉันเองก็ยิ้มตอบ เขามองหน้าเยียร์ แล้วก้มหัวให้นิดนึ่ง แล้วเยียร์เองก็ก้มตาม แน่นอนว่าอีตานี่จะต้องงงแน่ๆว่าเกิดอะไรขึ้น ปล่อยให้งงต่อไปค่ะ

    “มีอะไรรึเปล่า ยัยแคระ” แหม ยังไม่ลืมนะคำนี้อ่ะ

    “เปล่า”ฉันตอบ พลางยิ้มแป้น

    เขาเอากำปั้นโขกลงมาที่หัวฉันทีนึง ก่อนจะ พูดอย่างเบาๆ แต่ฉํนได้ยินอ่าว่า หมันไส้

    “ก็คนมีความสุขนี่” ฉันหัวเราะ และ ตอบกลับเขาไป ฮ่าๆๆ มีความสุข จริงๆนี่นา

     

    ต่อไป...เชิญเดือนคณะนิเทศศาสตร์ ออกมาโชว์ความสามารถได้เลยครับ

    เสียงผู้ประกาศเชิญแล้ว เขาหันมายิ้มให้ฉันก่อนจะ ก้มลงมากระซิบที่ข้างหู

    “ฟังนะ ฉันตั้งใจ ทำให้เธอ” แล้วเขาก็เดินไป ทิ้งให้ฉันงงอยู่กับที่คนเดียว

    ทุกคนคะ ขอโทษนะคะ ที่เฟรนด์ลงช้า เพราะช่วงนี้กำลังยุ่งๆอยู่กับงานที่อาจารย์มอบหมายให้มากมายก่ายกอง เต็มสมองและสองมืออ่าค่ะ  ยังไงๆ เฟรนด์จะมาลงให้เรื่อยๆนะคะ อย่าเพิ่ง จากกันไปไหนน้า  ฮือๆๆ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×