ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] Yearbook! 2JAE (Ft.MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #2 : YEARBOOK! : Chapter2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.62K
      14
      23 ธ.ค. 57





     
    Yearbook! page.2















    “โอ้ย!

    ผมมองหน้าคนที่ร้องออกมาก่อนจะค้อนให้หนึ่งที สงสารก็สงสารแต่ความโมโหก็มีมากเสียเหลือเกิน ผ่านไปเกือบจะสี่เดือนแล้วกับผู้ชายที่ชื่อ บี นับจากวันนั้นที่เขาไปส่งผมที่บ้าน เราก็ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นจนตอนนี้ก็คงเรียกว่าแฟนกันได้เต็มปากแล้วล่ะ ทุกอย่างพัฒนาไปแต่มีสิ่งเดียวที่มันยังเหมือนเดิม คือการผมที่ต้องนั่งทำแผลให้พี่มันที่ไปตะลุมบอนกับอริต่างสถาบัน ทั้งๆที่ผมก็บอกแล้วว่า...

    “ไหนพี่สัญญากับผมแล้วไงว่าจะไม่มีเรื่องอีก” ผมโกรธนะ โกรธมาก ผมไม่ชอบเลยจริงๆ แต่ถึงจะโกรธยังไงก็ยังต้องมาทำแผลให้อยู่ดี ผมล่ะเบื่อตัวเองจริงๆ

    “พี่ไม่ได้ไปหาเรื่องเลยนะ แจก็รู้” ใช่! ผมรู้แต่ผมก็อดที่จะโกรธไม่ได้

    “ก็แค่เลี่ยง”

    “พี่เลี่ยงจนไม่รู้จะเลี่ยงยังไงแล้ว แค่พี่ยืนเฉยๆเรื่องมันก็มาหาพี่เองอ่ะ” พี่บีพูดแบบจริงจัง ผมถอนหายใจกับคำพูดเหล่านี้จนพี่มันทำหน้าหงอย “ไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่องแล้วจริงๆ” อะไรทำไมคนชิคถึงทำหน้าจะร้องไห้แบบนั้นล่ะ

    “ครับ รู้แล้วครับ”

    “เหนื่อยหรอแจ” พี่มันถามผมเสียงอ่อย

    “ใช่”

    “...” ไงล่ะ เจอผมตอบความจริงเข้าหน่อยทำกินจุดเลยนะครับ

     




     

    ก็เหนื่อยจริงๆนี่หน่า...

     





     

    “เหนื่อยที่ต้องนั่งห่วงพี่ทุกวัน เกรดผมจะตกก็เพราะพี่คนเดียวเลย!

    ดู ดูมันทำหน้า คนบ้าอะไรแผลแตกหน้ายับเยินขนาดนี้แล้วยังจะมายิ้มได้อีก ผมพูดเองก็เขินเองนะเว่ย! ยังจะมาทำกรุ้มกริ่มแบบนี้ ตบให้คว่ำอีกสักทีดีไหม แต่นี่ผมพูดจริงนะ เกรดผมจะย่อยยับเพราะไอ้พี่บ้านี่เลย ยังจะมาทำหน้าภาคภูมิใจแบบนี้อีก ชิ! หมันไส้จริงๆ กดแผลแม่ม!!

    “โอ้ยแจ!! พี่เจ็บนะ”

    “สม!” ผมแลบลิ้นใส่แต่ดันโดนพี่มันล๊อคคอซะก่อน “พี่บี! ผมเจ็บนะ!!” ผมทำท่าจะทุบให้แต่อีกคนไม่มีทีท่าจะหลบ ชิ! ทำเป็นซังนัมจาอีกละ ผมล่ะเบื่อ พี่มันหล่อได้ทุกเวลาจริงๆ

     




     

    ไอแอมอะกู๊ดบอย~!! ตีดีดิ๊ดติ๊ดตืดดดติ๊ดตืดดดด Wow เสียงโทรศัพท์ผมเองแหละ ผมมันสายแดนซ์นะรู้ยัง : ) หน้าจอขึ้นชื่อว่า แบมแบม

     





     

    “ไม่รับหรอ พี่รับให้เอาไหม?” พี่มันจะเอื้อมมือไปหยิบ ผมเลยฟาดให้หนึ่งที!

    “อย่า ปล่อยไปแบบนั้นแหละครับ”

    “ทำไมล่ะ” พี่บีถามผม ถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วนี่มันน่าโดนไหมครับ “เพราะพี่หรอ?”

    (_   _)(-    -)(_   _)(-    -)

    “อย่าให้แบมรู้นะว่าผมมาหาอ่ะ” ผมบอกกับพี่บี “ไม่งั้นแบมด่าผมตายเลย”

    “จะทำยังไงหนอให้เพื่อนแจชอบพวกพี่สักที”







    ทำอย่างกับเพื่อนพี่รักเพื่อนผมตายอ่ะ....

     






     

    พี่บีมันเหล่ผมครับ ทำเหมือนอ่านความคิดผมออกอีกแล้ว ผมก็ได้แต่นั่งนิ่งๆ ผมเองยังไม่รู้เลยว่าแบมมันไม่ชอบพวกอาชีวะเข้าเส้นเลือดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตั้งแต่ที่ผมบอกว่าผมเริ่มคุยๆกับพี่บี ท่าทีต่อต้านมันก็ออกขึ้นมาทันทีเลยครับ ห้ามผมเช้าเย็น ด่าผมตั้งแต่เข้าเรียนจนกลับบ้านยันเช้าอีกวัน มันยังแขวะผมไม่เลิก (T____T)

    แล้วเพื่อนพี่บีแต่ละคนก็ใช่ย่อยเหมือนกันเวลาเจอแบมแบมก็ตั้งกำแพงใส่กันเลยครับ ยิ่ง พี่มาร์ค ด้วยแล้วนี่ยิ่งใหญ่เลย เจอหน้ากันทีไรจะปล่อยของใส่กันตลอด นี่ถ้ามีปืนวางอยู่ข้างๆผมว่าต้องมีนองเลือดอ่ะ แบมก็ปากไวส่วนพี่มาร์คเองก็ไม่ยอม สาเหตุที่ไม่ชอบก็อาจจะมาจากพี่มาร์คสุดหล่อด้วยส่วนหนึ่งล่ะผมว่า...

    “ผมว่าผมกลับดีกว่า” ผมพูดก่อนจะยัดพวกยาลงกล่อง แต่ก็โดนไอ้คุณพี่ตัวดีจับไว้ก่อน

    “ดึกแล้ว นอนนี่เหอะ พี่ขับรถไปส่งไม่ไหว”

    “ไม่เอาอ่ะ ผมกลับได้ไม่เป็นไร พี่ก็พักผ่อนซะจะได้หายไวๆ”

    “ก็บอกว่าให้นอนนี่!” พี่บีทำเสียงดุใส่ผม ผมนี่ถึงกับหันควับเลย “ปล่อยกลับคนเดียว ขืนแจเป็นอะไรขึ้นมาพี่จะทำไง” เอาจริงก็อย่างที่พี่มันบอกแหละ ช่วงสามเดือนที่ผ่านมามีหลายครั้งที่ผมเสี่ยงชีวิตกับไอ้ผู้ชายตรงหน้านี้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามผมไม่เคยค้างบ้านพี่เขาเลยตั้งแต่คบกันมา อีกอย่าง...บ้านนี้ก็มีแค่พี่เขากับผม สองต่อสองเลยนะครับ!

     





     

    พี่มันเจ็บอยู่ก็จริงแต่ใครจะไปไว้ใจวะ

     






     

    “แจไปนอนในห้องพี่ เดี๋ยวพี่นอนข้างนอกเอง” เอาอีกละ หน้าผมนี่มันมีตัวอักษรวิ่งหรอ? ทำไมพี่มันรู้ความคิดผมตลอดเลย หรือพี่มันมีองค์วะ????? “แบบนั้นสบายใจกว่าไหม?”

    (-  -    )(    -  -)(-  -    )(    -  -)

    “งั้นก็นี่” เขาโยนกุญแจห้องนอนเขาให้ผม “พอไหม? เอาไปทั้งหมดเลยก็ได้” พี่มันหยิบพวงกุญแจทั้งหมดมาให้ผม มีทั้งกุญแจรถ ประตูหลังบ้าน ประตูห้องครัว บลาๆๆๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งกุญแจหน้าบ้าน

     





     

    เอ่อ...

     






     

    “เชื่อใจพี่ได้หรือยัง?”

    “ครับๆ” สุดท้ายก็ต้องยอมจนได้ “นอนก็นอน”

    ในที่สุดก็ต้องเดินคอตกเข้าห้องนอนพี่บีจนได้ ผมมาบ้านพี่คนนี้บ่อยครับแต่ก็อย่างที่บอกว่าไม่เคยนอนค้างที่นี่เลย พ่อกับแม่พี่มันอยู่ต่างจังหวัด เห็นว่ามีไร่มีสวนด้วยครับ ส่วนพี่มันกระแดะอยากมาเรียนที่กรุงเทพฯ ฟังจากที่เล่าครอบครัวพี่บีก็รวยนะครับ พ่อเป็นถึงกำนันแน่ะ ส่วนแม่ก็เป็นคุณครู

    “อะไรอ่ะ” ผมจะปิดประตูแต่พี่มันกลับดันไว้ไม่ให้ปิด

    “ภูมิใจนะ” มันพูดก่อนจะอมยิ้มน้อยๆ ภูมิใจ? ภูมิใจอะไรคุณมึงครับ!? แล้วมายงมายิ้มเพื่อ? โอ้ยย ใจผมนี่โคตรเต้นแรงเลยเวลาเห็นไอ้พี่บ้านี่ยิ้ม ตาเตอนี่เป็นสระอิเลยครับ มีคนบอกมันไว้ใช่ไหมว่ารอยยิ้มมันคืออาวุธ! มันถึงได้ปล่อยอาวุธมาทำร้ายใจดวงน้อยๆของผมจัง

    “ภูมิจงภูมิใจอะไร” แน่ะๆ มือไม้อยู่ไม่สุขยังมาลูบหัวผมอีก ผมเลยต้องดันมือออกไปก่อนจะทำหน้ายุ่ง

    “หวงตัวดี พี่ชอบ” พูดจบพี่มันก็ปิดประตูห้องนอนทันที ผมได้แต่ยืนเอ๋ออยู่ในห้อง

     





     

    ใช่ดิ่! ผมต้องหวงตัวไว้ก่อนอยู่แล้ว!! ด...เดี๋ยวนะ ไม่ได้ด่าอะไรกูทางอ้อมใช่ป่ะ?

     






     

    “ไอ้พี่บี!!! หลอกด่ากันป่ะเนี่ย!! ผมไม่ได้ง่ายนะเว้ยแม่ ง!” ผมบ่นป่อดแป่ดอยู่ตรงประตู แต่ไม่รู้เลยว่าคนพี่มันยังไม่ได้เดินไปไหน จู่ๆเขาก็พูดผ่านประตูมาพอให้ผมได้ยิน

    “รู้แล้วครับว่าไม่ง่าย”

     





     

    ฉ่า~!!! จู่ๆก็เหมือนควันออกมาจากใบหน้ายังไงไม่รู้สิครับ

     





     

    “ฝันดีนะ ยองแจ...”

    ขาผมเหมือนโดนแช่แข็งเลยครับ แถมหน้านี่ก็ร้อนขึ้นมาแบบหาสาเหตุไม่ได้อย่างกับโรคประจำตัวแน่ะเวลาพี่มันพูดอะไรแบบนี้ มันไม่ได้เป็นประโยคหวานเลี่ยนชวนให้นิ้วหงิกงอนะ แต่สำหรับผมเวลาพี่บีพูดคำธรรมดาๆออกมามันทำให้ใจเต้นแรงมากกว่า แล้ว....พี่มันจะเป็นเหมือนกันกับผมบ้างไหมนะ

    “ฝันดีเหมือนกันครับ พี่บี”

     





     

    มีคนเคยบอกว่าประโยคนั้นจะมีความหมายมากขึ้นก็ต่อเมื่อเขาตอบกลับมาเหมือนกันกับเรา...

     







     

     









     

    “พี่บี ส่งผมตรงนี้แหละฮะ” ชายหนุ่มจอดรถมอเตอร์ไซด์ตามคำบอกของผม ตอนนี้ผมอยู่ในชุดนักเรียนของเมื่อวานแต่พี่บีเอาไปซักพร้อมรีดให้แล้วครับ ผมไม่รู้ว่าเขาเอาไปซักตอนไหนแต่ว่าพอตื่นมาก็เห็นแขวนอยู่หน้าห้องนอน จากที่ผมมาดูแลเขาก็กลายเป็นว่าเขาต้องมาดูแลผมซะเอง ผมถอดหมวกกันน๊อคคืนซึ่งพี่เขาก็เอาไปแขวนไว้ท้ายรถ

    “อ่ะ ตั้งใจเรียนล่ะ” พี่มันส่งกระเป๋ามาให้แล้วขยี้หัวผมแบบที่มันชอบทำก่อนจะอมยิ้ม

    “อือ~” ผมตอบรับเสียงยานๆ “พี่อย่าลืมทายานะ”

    “ครับ” เขายิ้มเหมือนเคยก่อนจะขับรถออกไป

     






     

    อ่า~ พี่บีเป็นคนที่มีมารยาทกับผมเสมอ แม้ว่าบางครั้งจะชอบดุก็ตาม

     





     

    ผมละสายตาจากพี่บีแล้วก็เดินเข้าโรงเรียนแบบโคตรอบอุ่นหัวใจเลยครับ เกือบจะสี่เดือนที่ผ่านมาแม้ว่าจะต้องวิ่งหนีหลบคู่อริของพี่มันแต่ว่า... ผมก็ยังยินดีที่จะทำแบบนั้นเพียงแค่ได้จับมือกันไว้แน่นๆ ผมไม่เคยมีความรักหรอกครับ ไอ้ผู้ชายสุดโหดนี่คนแรกเลย แล้วก็ไม่เคยคิดด้วยว่าตัวเองจะมาชอบผู้ชายด้วยกัน จริงๆแล้วพี่บีเป็นฝ่ายเริ่มเข้ามาหาผมก่อน

     

    อาทิตย์นี้ว่างไหมไปกินข้าวกัน

    เอ่อ...

    นะ

    ก็ได้ครับ

     

    ตอนแรกผมพยายามปฏิเสธว่ามันคงไม่ใช่อะไรแบบนั้น พี่เขาคงเอ็นดูผมแบบน้องชายตัวไปเพราะพี่มันเป็นผู้ชายที่ดูแมนมาก แมนไปซะทุกอย่างใครจะไปคิดว่าจะ....อ่ะนะ ผมบอกแล้วตั้งแต่กรณีของแบมแบม ผมไม่ได้รังเกียจแต่ผมก็ไม่คิดว่าผมจะชอบอะไรแบบนี้ ถึงผมจะบอกตัวเองว่าผมดีใจและอุ่นใจมากก็ตามแต่ถามว่าหนักใจไหมทุกวันนี้ หนักมากครับ โคตรแน่นทุกครั้งเวลาที่พี่บีไปรับผมที่หน้าบ้าน ผมเป็นถึงลูกนายทหารเป็นหน้าเป็นตามากที่เกาหลีแต่กลับมีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันเองเนี่ยนะ! (_  _) คนอื่นรู้อายเขาตายเลย อีกอย่าง...ถ้าพ่อรู้ ผมตายแน่นอน!

     





     

    ผมรู้ว่าไม่ควรจะให้เกิดขึ้น แต่พี่บีเขาพังทลายกำแพงที่ผมสร้างขึ้นมาพังหมดเลย

     





     

    “เฮ่อ~” เนี่ย พอคิดถึงพี่มันก็ลามคิดถึงหน้าพ่อขึ้นมาเชียว เข้าใจป่ะครับ! คือมันจะสุขใจแต่มันก็สุขใจแบบไม่เต็มปอดอ่ะครับ ผมไม่กลัวเรื่องแม่เลย...ผมรู้ว่าแม่ต้องเข้าใจ แต่กับพ่อ...มันมืดแปดด้านจริงๆที่จะทำให้พ่อรับได้

    “อะไรวะ มาถึงก็ถอนหายใจรดหัวกันเลย”

    “อ่าว~ แล้วมานอนไรตรงนี้วะแบม โทษๆ” ผมไม่เห็นเลยว่ามันฟุบโต๊ะอยู่ (-___-)

    “กูนอนอยู่นานละครับ คุณมึงเลยครับ! มัวแต่ใจลอยไปหาไอ้เหยินนั่นอยู่อ่ะดิ่”

    “แขวะอีกแล้วนะ!” ผมดึงคอเสื้อมันให้พ้นทางก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งที่โต๊ะเรียน แบมทำร้องโวยวาย นี่ด่าแฟนกูไง ไม่ตบปากก็ดีแค่ไหนแล้ว ไอ้ตัวแสบนี่!! (- ‘’ -) “เมื่อไหร่มึงจะเลิกรังเกียจพี่บีสักทีวะ”

    “จนกว่ามึงจะเลิกกันอ่ะ”

     





     

    ห่าน!! ความมุ่งมั่นมึงเนี่ยน่ากลัวมากแบม

     





     

    “...” ผมส่งสายตาแต่ดูมันไม่สนใจครับแถมยังเบ้ปากใส่ผมอีก เอากับมันสิ่!

    “ดูปากกันต์พิมุกนะคะ” ทำดัดเสียงอ่อนน่าหมันไส้ “กู-ไม่-ชอบ-และ-จะ-ไม่-มี-วัน-ชอบ!!!

    “ดูปากชเวยองแจนะคะ” ผมดัดเสียงเหมือนมันแล้วก็ชี้นิ้วมาที่ปากตัวเองด้วย แต่เอาจริงๆต้นฉบับเขาทำน่ารักกว่าพวกผมเยอะ “มึงไม่ชอบพี่บีจริงๆหรือว่ากำลังต่อต้านพี่มาร์คกันแน่วะ”

    “ไอ้แจ!!

    “นั่นไง!” ผมตบเข่าฉาด “กูว่าแล้ว!

    “มึงอย่าพูดถึงมันนะ พูดชื่อมันทีไรกระดากหูกูมากกกกกกกกกกก!! กอ.ไก่ยาวไปเบตง!” ผมล่ะขำกับท่าทางที่โคตรรังเกียจของมันจริงๆครับ ถ้าพี่มาร์คมาเห็นคงมีได้ใส่กับยับแน่ๆ “ในบรรดาเพื่อนแฟนมึงเนี่ย กูอ่ะเกลียดมันที่สุดแล้ว”

    “ระวังเหอะ”

    “อะไรมึงแจ อะไรพูดดีๆนะ” มันชี้หน้าผม หึ! ผมตระครุบนิ้วมันก่อนจะกดลงแล้วจ้องหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง

    “คนไทยพูดว่าอะไรนะ?” ผมนึกก่อน “อ๋อออ~~

    “ไอ้แจ! มึงหยุดเลยๆ” เหมือนแบมมันรู้แล้วนะครับว่าผมจะพูดว่าอะไร มันพยายามจะตะครุบปากผมมาก

    “เกลียดกันมากระวังจะรักกันม๊ากมากนะครับ!

    “อี๋! ไม่มีทางเว้ย!!” มันยืนยันเสียงหนักแน่น เออ กูจะคอยจับหนังตาดูเลยจริงๆกันต์พิมุก อย่าพลาดมาแล้วกันกูจะใส่มึงไม่ยั้ง ผมนี่จะยิงเป็นลูกกระสุนเอ็มสิบหกไม่ให้ขาดตอนเลย!! “ต่อให้เหลือมันคนเดียวกูก็ไม่มีทางชอบมัน พูดเลย!

     





     

    ชิ! ผมเบ้ปากใส่มันหนึ่งที หมันไส้มันจริงๆ

     






     

    “ถามจริงเหอะ ไม่ชอบอะไรพี่เขานักหนาวะ” ผมถามในขณะที่หยิบกระเป๋าปากกาออกมาวางบนโต๊ะ อันนี้ผมเข้าโหมดจริงจัง ไม่ได้จริงจังขนาดนั้นหรอกก็แค่อยากรู้ว่าทำไมเพื่อนผมมันถึงกางแข้งกางขากีดกันขนาดนี้ “มีปมกับเด็กอาชีวะมาก่อนหรอไงเราอ่ะ?”

    “ป...ป่าว” ผมหรี่ตามอง เมื่อกี้มันหลบตา! ตอบแบบไม่มั่นใจอีก!! แน่ะ!! ต้องมี! มันต้องมีเหตุครับเรื่องนี้ ชเวยองแจขอคอนเฟิร์มเลย มันกำลังมีเรื่องปิดบังผมอยู่แน่ๆ “โอ้ย! เลิกมองกูแบบนั้นได้ละแจ”

    “เอออ อย่าให้กูรู้แล้วกัน”

    “รู้บ้ารู้บอไรของมึง ไร้สาระ!” นี่ไง อารมณ์เสียใส่กลบเกลื่อนล่ะกันต์พิมุกเลยครับ

     






     

    กูต้องรู้เรื่องที่มึงปิดอยู่ให้ได้ ฮึ่ม...!

     








     

     









     

    “โดนเยอะเหมือนกันนี่หว่า แบบนี้มันหมาหมู่ชัดๆ” แจ็คเดินเข้าไปจับหน้าบีหมุนไปหมุนมาก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม จริงๆตอนนี้มันเป็นเวลาเรียนวิชาเกี่ยวกับคุณสมบัติของเชื้อเพลิงแต่อาจารย์ติดประชุมเลยต้องเลื่อนไปเรียนตอนบ่ายแทน หนุ่มช่างยนต์ทั้งหลายจึงมาจับกลุ่มคุยกันเรื่องที่ประธานรุ่นไปโดนกระทืบมาเมื่อวาน

    “มันไปดักรอมึงตรงไหนวะ” มาร์คเอ่ยบ้าง

    “ซอยแถวบ้านกู”

    “แต่อย่าเลย แผลดีขนาดนี้เมื่อวานได้นางฟ้าไปดูแลอ่ะดิ่” ถามสารทุกข์ไม่เท่าไหร่ก็เข้าประเด็นแซวกันซะแล้ว พอแจ็คเปิดประเด็กเท่านั้นแหละ เพื่อนๆต่างก็ส่งเสียงฮือฮากันยกใหญ่เลยเอาเสือหนุ่มต้องกระตุกยิ้มเบาๆ

    “พอๆ พอเลยพวกมึง”

    “เอ้อ! เย็นนี้มีงานแฮนด์เมดที่สยามอ่ะ ไปป่ะ? เห็นว่ามีดนตรีด้วย” เพื่อนในกลุ่มเอ่ยเรื่องเที่ยว แต่ละคนนี่ตาลุกวาวขึ้นมาเชียว “ชวนเด็กอินเตอร์มึงไปด้วยไงไอ้บี น้องเขาอาจจะไม่เคยไปงานแบบนี้ก็ได้นะเว่ย” ข้อเสนอน่าสนใจ ร่างสูงพยักหน้าน้อยๆพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะส่งข้อความไปหาเด็กอินเตอร์ที่ว่า

    “กูว่าเคย! ชัวร์!! ลำพังน้องแจอ่ะกูเชื่อว่าไม่เคยไปแต่ถ้ามีเพื่อนแบบไอ้เด็กนั่นกูว่าคงไปทุกงานอ่ะ” เดือนประจำโรงเรียนพูดแบบจริงจังสุดๆทำเอาเพื่อนถึงกับขำ “โน่น! ติดขอบเวทีเลยกูว่า” ดูมัน มันยังไม่จบ

    “มึงนี่จริงๆเลยนะไอ้มาร์ค ดูมึงจะไม่ชอบน้องเขามาก” ร่างสูงผิวเข้มเอ่ยแหย่เพื่อน บางทีก็ไม่เข้าใจว่าเพื่อนเขาไปจงเกลียดจงชังอะไรขนาดนั้น

    “กูพูดเรื่องจริงอ่ะ”

    “แล้วมึงไปรู้ได้ไง”

    “โหยยย ดูก็รู้” มาร์คทำหน้าทำตา ปกติไอ้หน้าหล่อนี่จะไม่แสดงอารมณ์ด้านมืดออกมาเท่าไหร่แต่ถ้าอยากเห็นก็แค่พูดว่า แบมแบม เท่านั้นเอง ไอ้นี่จะมาเต็มมากครับ! “ก๋ากั่นขนาดนั้น ปากก็ดีที่หนึ่ง นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนแฟนมึงนะ มาเรียกกูไอ้ๆกูต่อยปากแตกไปนานละ”

    “เฮ้ย ใจเย็น มึงก็คิดมากไปป่าววะ” แจ็คเอ่ยปรามเพื่อน

    “มึงหุบปากเลยไอ้แจ็ค!” ชายหนุ่มชี้หน้าเพื่อนรักแบบโคตรเอาเรื่องทำเอาต้องสงบปากสงบคำแทบไม่ทัน “เห็นน่ารักหน่อยไม่ได้นะมึงอ่ะ เอะอะเข้าข้างตลอด เดี๋ยวมึงจะโดนอีกคน!

    “แหม~ กูล่ะอยากให้สาวๆมาเห็นมึงลุคนี้จังเลย เทพบุตรของพวกน้องกลายเป็นซาตานแล้วไป” แจ็คเอ่ยแซวเล่นเอาขามาร์คกระตุก กลายเป็นว่าตอนนี้สองคนกำลังวิ่งไล่เตะกันทั่วห้อง บีได้แต่ส่ายหน้าขำน้อยๆกับท่าทางปัญญาอ่อนของเพื่อน

     



     

    mister.B

    เย็นนี้ไปงานแฮนด์เมดที่สยามกันไหม?

     




     

    ชายหนุ่มมองนาฬิกาตอนนี้ยองแจก็คงเรียนอยู่ซึ่งไม่แปลกที่จะตอบข้อความของเขาช้า แต่ตาคมก็ไม่อาจละสายตาออกไปจากหน้าจอมือถือได้เลย รูปดิสเพลย์ของคนที่เขาพึ่งส่งข้อความไปหาช่างน่ารักน่าชังเสียเหลือเกิน แก้มขาวอมลมทำหน้ายู่นิดๆกับท่าวีที่เจ้าตัวชอบทำประจำนั่นมัน....น่าจับหยิกแก้มสักที

    บีขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อข้อความของเขาขึ้นว่าอ่านแล้ว ดีใจนิดๆแต่ก็ต้องหุบยิ้มลงเมื่อเห็นสติ๊กเกอร์ที่ส่งมาเป็นโคนี่น้ำตาไหลพราก พร้อมกับข้อความที่ดับฝันเขาลงอย่างไร้เยื่อใย (T_______T)

     




     


    แบมมัน....พึ่งจะชวนผมเอง

     

    mister.B

    ไม่เป็นไร


    พี่บีอ่าาาา~’


     




     

    ตอนนี้คงจะทำหน้างอแงน่าดู...

     





     

    mister.B




    งื้ออออ ไม่เอาสิ่ อย่าทำหน้าแบบนั้น

    พี่บี

     




     

    ผมทำแกล้งไม่ตอบ เห็นน้องรัวข้อความมาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ

     





     

    ตอบผมสิ่ อ่านแล้วไม่ตอบนี่ใจร้ายนะ!!!

    ~~~형형~형형~~

     




     

    เป็นแบบนี้ตลอดพอเริ่มไม่พอใจ ไม่ได้ดั่งใจจะรัวภาษาถิ่นใส่ผมเสมอ ถามว่าผมเข้าใจหรอ? ไม่นะ! 55 แต่ตอนนี้ก็พอจะเข้าใจบ้างแล้วแหละครับ นี่ก็คงจะเป็น ฮยองๆๆ สินะ





     

    mister.B

    555555

    พี่รู้แล้วทำไมผู้หญิงถึงชอบให้แฟนง้อ






     

    mister.B

    เพราะมันน่ารักไง

     


     

    น้องเงียบไปเลยครับ สงสัยไปนั่งหน้าแดงอยู่แน่ๆ : ) ถามว่าน้อยใจไหมก็มีครับ ก็แหม~ แฟนทั้งคนนะครับแต่ถ้าให้เลือกไม่ว่ายังไงแบมแบมก็ต้องมาก่อน ผมเข้าใจครับ ผมไม่โกรธหรอก ถ้าผมงี่เง่าเดี๋ยวยองแจจะลำบากใจแล้วมันก็คงพาลให้เราต้องทะเลาะกัน เป็นแบบนี้แหละดีแล้วครับ เอาที่น้องมันสบายใจ ผมโอเค ฮึ้ยยยย~ พระเอกสึดอ่ะ!

    “เอ่าๆ กูว่าอากาศมันท่าจะร้อนเกินไป ดูประธานรุ่นเราสิครับถึงกับนั่งยิ้มคนเดียวแล้วช่วงนี้” ไม่วายจะโดนเพื่อนแซวอีก บีส่งเท้าไปหาต้นตออย่างไอ้แจ็คเพื่อนตัวดีแต่ดั๊นหลบทัน

    “ถ้าแม่ งมุดเข้าไปในมือถือได้มันทำแล้วเชื่อกู” มาร์คก็เล่นกับเขาด้วย

    ยังไม่ทันที่เหล่าช่างยนต์สุดต๊องจะได้ปล่อยอาวุธใส่กันก็ต้องหันไปสนใจรุ่นน้องปีสองที่วิ่งกระหืดกระหอบมาที่หน้าห้องเรียนของพวกเขา ไอ้เด็กนั่นดูท่าจะวิ่งมาไกลพอควรดูได้จากเหงื่อที่ผุดออกมาตามไรผม ไหนจะคำพูดมันที่ติดๆขัดๆนั่นอีก

    “เออ หายใจก่อนไอ้คิว! ค่อยๆพูด”

    “มีไรวะ?” บีเอ่ยถามรุ่นน้อง

    “ไอ้....ไอ้ยุค! ไอ้ยุคมันโดนพวกพี่แอลเด็กอิเล็กฯรุมกระทืบอยู่หลังโรงอาหารอ่ะพี่!!!

    “เฮ้ย! ไอ้มาร์ค!!

    ไม่ทันรอจบประโยคมาร์คเดือนสุดหล่อก็วิ่งออกจากโต๊ะเรียนทันทีที่ได้ยินว่าน้องรหัสตัวเองโดนรุมกระทืบจากเด็กต่างสาขา แน่นอนว่าพวกของบีก็รีบวิ่งตามไปเช่นกัน

     





     

    แอลแม่ งวอนตายนะ!

     





     

    ผลั่ก! พอมาถึงที่เกิดเหตุมาร์คก็จัดลูกถีบทันที แอลที่หันหลังอยู่นั้นถึงกับกระเด็นไปติดกับกำแพงโรงอาหารทันทีและเท่านั้นก็เกิดการประจันหน้ากันขึ้นระหว่างแอลและมาร์ค ใครๆก็รู้ว่าสองคนนี้ไม่ถูกกันมาก สาเหตุก็มาจากแอลคนนี้เป็นคนแย่งผู้หญิงของมาร์คไปแบบหน้าด้านๆแถมยังรวมหัวกันหลอกเดือนพยับหมอกชนิดที่โคตรร้ายกาจ! หญิงร้ายชายเลว เพราะแบบนั้นไอ้มาร์คเลยไม่ค่อยจะไว้ใจใครที่เข้ามาจีบมันสักคน ไอ้นี่หน้าตาดีแต่มีปม

    “เฮ้ยมึง!” ร่างสูงดึงแขนเพื่อนไว้ซึ่งทางฝั่งของแอลก็โดนห้ามไว้เช่นกัน บีที่รู้ถึงสถานการณ์ถ้าปล่อยให้สองคนนี้ตะลุมบอนกันมีหวังได้ยกแผงกันเข้าห้องปกครองแน่นอน ช่วงนี้พวกเขาก็มีทัณฑ์บนกับฝ่ายปกครองอยู่ยังไม่หมดคดีเลยนี่จะเอาอีกแล้ว ถ้าเข้าอีกมีหวังโดนพักการเรียนกันหมดแน่ “ไอ้ยุคมานี่”

    “มึงบอกน้องมึงก่อนนะว่าอย่ามาหือกับพวกกู” แอลจงใจส่งข้อความไปหามาร์คล้วนๆ

    “ก็ถ้ามึงทำตัวให้เด็กมันเคารพก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอกไอ้สัด!

     





     

    ทั้งสองพยายามจะพุ่งเข้าหากันอีกครั้ง

     





     

    “น้องมันไม่รู้เรื่อง มึงอย่าถือสาเลยแอล”

    “เชี่ยบี! ชายหนุ่มผิวขาวจัดหันไปมองหน้าเพื่อนอย่างเอาเรื่อง ตาคมเหลือบมามองก่อนจะส่งความนัยไปว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมามีเรื่องกันในโรงเรียน

    “รีบไปเหอะก่อนจารย์จะมา” แจ็คเอ่ยเตือน

    มาร์คกับแอลไม่วายจะชี้หน้ากันก่อนแยก ก่อนหน้านี้มันไม่เป็นจุดสนใจเท่าไหร่ตอนที่มีแค่พวกของแอลกับไอ้ยุคแต่พอพวกของบีมาสมทบมันเลยเป็นคณะใหญ่ซึ่งมันล่อตาล่อใจฝ่ายปกครองแน่นอน จมูกอาจารย์ที่นี่ยิ่งไวอยู่ ไหนจะมีไอ้พวกขี้ฟ้องประจำโรงเรียนอีก พวกเขาควรเซฟตัวเองก่อนจะโดนพักการเรียน

    “พี่กับน้องนี่มันเหมือนกันจริงๆ” แจ็คเอ่ยก่อนจะมองหน้ามาร์คและยุครุ่นน้องสลับกัน ไอ้นิสัยมุทะลุนี่พอกันเลย “ไอ้ห่ า! พวกกูบอกแล้วไงว่าที่นั่งตรงนั้นมันของพวกเด็กอิเล็กฯ มึ๊งงงงงก็ยังจะไปนั่ง”

    “...” ยุคไม่พูดได้แต่ก้มหน้า

    “ช่างแม่ งดิ่! ที่นั่งที่ไหนก็เหมือนกัน” ไอ้มาร์ค ไอ้นี่แทนที่จะห้ามน้อง เปล่า...ส่งเสริมกันจัง!

    “มึงพอเลยมาร์ค” ประธานรุ่นเอ่ยปรามซึ่งผิดกับแต่ก่อน เขาใจร้อน ร้อนมากด้วย ถ้าเป็นเหตุการณ์เมื่อกี้เขาคงนำทีมเขาไปคลุกวงในแล้วไม่ต้องรีรออะไรทั้งนั้น แต่นี่พวกเขาก็ปีสุดท้ายแล้วอีกอย่างสงสัยจะติดการรักสงบมากจากยองแจด้วยส่วนหนึ่ง “ไอ้ยุคหลังจากนี้มึงห้ามไปนั่งตรงนั้น ที่นั่งโรงอาหารออกจะกว้างมึงนี่หาเรื่องนะ”

    “...”

    “กูพูดเนี่ยรู้เรื่องไหม”

    “ครับ”

    “รับปากกูแล้ว! เดี๋ยวถ้ามีปัญหามาอีกกูนี่แหละจะกระทืบมึงเอง”

    “คร้าบบ รู้แล้วครับ” ยุคเป็นน้องในปีสองคนเดียวที่ดูจะสนิทกับกลุ่มบีมากที่สุด อาจจะเป็นเพราะไอ้มาร์คมันปั้นไอ้เด็กนี่ให้เป็นนักสู้ด้วยมั้งก็เลยพาลสนิทกันไปหมด “แล้วนี่ไม่ต้องไปห้องพยาบาลอ่ะเดี๋ยวก็มีปัญหาอีก มึงปืนออกไปหลังโรงเรียนเลย ไปคลีนิคหมออ้อมอ่ะ” เด็กน้อยพยักหน้า

    “เดี๋ยวกูไปบอกจารย์ให้เองว่ามึงมีธุระกระทันหัน” มาร์คเอ่ย

    “ขอบคุณครับ” หลังจากนั้นทั้งหมดก็แยกกันก่อนเหล่ารุ่นพี่จะกลับไปห้องเรียนตามเดิม

    “น้องมึงนี่ดื้อฉิบหาย” บีบ่นมาร์ค

    “พอกันทั้งพี่ทั้งน้อง นี่ถ้าไม่บอกว่าคนละนามสกุลนี่กูคงเชื่อไปแล้วว่าน้องชายมันจริงๆ โคลนนิ่งกันออกมาชัดๆ” แจ็คเสริม คนโดนแขวะก็ได้แต่ทำปากมุบมิบก่อนจะสะบัดแขนเพื่อนออกจากบ่าตัวเองแล้วก็รีบเดินนำออกไปทันที งี้แหละโดนขัดใจ ก็เข้าใจมันว่ามันกะมาเล่นไอ้แอลเต็มที่แต่โดนเพื่อนๆเบรกไว้เป็นธรรมดาที่จะเสียอารมณ์











     

     

     







     

    ผู้คนเริ่มขวักไขว่มากขึ้นไม่ว่าจะเด็กวัยรุ่นหรือกระทั้งคนทำงานในระแหวกนั้นก็เริ่มทยอยมาในงานแม้ว่าท้องฟ้าจะค่อยๆมืดลงก็ตาม แสงไฟสีสันหลากหลายที่ประดับไว้ตามต้นไม้เอย หน้าร้านเอย หรือแม้กระทั่งริมทางเดินก็เริ่มเปิดขึ้นและแน่นอนต้องมีคนไปถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกรวมไปถึงยอดเช็คอินที่สยามสแคว์วันคงพุ่งติดอันดับชัวร์!

    ร้านหลายร้านก็ต่างเรียกลูกค้ากันสุดพลัง ไหนจะเสียงดนตรีที่เริ่มเปิดขึ้นตามซุ้มต่างๆยิ่งทำให้งานหน้าเดินขึ้นไปอีก ตรอกซอกซอยทั้งหลายต่างหนาแน่นไปด้วยผู้คน งานสตรีทครั้งนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะมีการดึงดูดใจลูกค้าด้วยการลดราคา แบรนด์เครื่องหนังก็มี แถมวันนี้ประมาณสองทุ่มครึ่งจะมีนักร้องขวัญใจวัยรุ่นที่ไม่มีใครไม่รู้จักเขา ถ้าพูดถึงเพลง ความคิด ก็ต้องร้องอ๋อแน่นอนจะมาโชว์มินิคอนเสิร์ตอีกด้วย

    “อ่ะมึง” แบมแบมมันรับน้ำอัดลมแจกฟรีหน้างานมาก่อนจะส่งให้ผมครับ “มึงบอกลุงลียัง”

    “บอกเรื่อง?”

    “เอ้า! ก็บอกว่าจะกลับดึกนิดนึงไง โห รอดูพี่แตมป์เป็นเพื่อนกูก่อนนะ” ไอ้นี่แฟนคลับครับ “นะๆๆ” แหน่ะ! ทำอ้อนผมยกใหญ่ ไอ้ห่ านี่เกาะแข้งเกาะขาเป็นลิงเลย ดูมัน... (=____=;;;)

    “เออออออออออออออ~~~” ผมลากเสียงยาว จริงๆผมบอกลุงลีตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วครับ ว่าให้มารับประมาณเกือบสี่ทุ่ม “สี่ทุ่มพอไหม ถ้าหลังจากนี้มึงก็นอนนี่คนเดียวเลยแบม หรือจะรอพี่แตมป์เก็บเวทีด้วยอ่ะ?”

    “กวนตีน!

    “มากกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้วไม่ชินหรอวะ?” ผมยักคิ้วให้ไอ้เพื่อนตัวดีก่อนจะดื่มน้ำอย่างสบายอารมณ์ ฮ่าๆ แกล้งแบมสนุกครับเวลามันโมโหสีหน้ามันจะเก็บไม่มิด รีแอ๊คชั่นมันจะเยอะกว่าคนปกติ แบบนี้ไงผมถึงชอบยั่วมัน ก็หน้ามันฮานิหน่า อิอิ : ))

    ผมสองคนเดินเข้าซอยนั้นออกซอยนี้กันอย่างสนุกสนานก่อนผมจะได้รับข้อความจากหนุ่มพยับหมอกคนชิคว่าพี่เขาเองก็ถึงแล้วเหมือนกัน แต่ผมกับพี่เขาไม่ได้นัดเจอกันหรอกครับ ไม่อยากมีปัญหา เดี๋ยวแบมเจอพี่มาร์คได้ทะเลาะกันงานแตกอีก (=____=) คิดแล้วหนักใจจริงๆ

    “มึง น้องหมีกูมันเริ่มจะขาดแล้วว่ะ” แบมมันมีพวงกุญแจสุดรักสุดหวงของมันครับ มันซื้อมาก็หลายปีแล้วนะเป็นรูปน้องหมีสีขาวหน้าตายุ่งๆแต่ดูแล้วน่ารักดี แต่ก็อย่างที่มันบอกครับว่าน้องหมีมันเริ่มจะหมดอายุขัยซะแล้ว “กูว่ากูควรให้น้องหมีกูพักผ่อนซะที” นัยยะที่แอบแฝงคือได้ฤกษ์ซื้อใหม่นั่นแหละครับ (= o =)

    “เออ ตั้งโลงให้ด้วยนะ กูว่าคงต้องสวดหลายวัน” ไม่รอให้จบประโยคมันก็เล่นฟาดลงมาที่แขนผมอย่างแรง ไอ้นี่!! แม่ งโหดร้าย อิพวกชอบใช้ความรุนแรง “ไอ้เชี่ยแบม!

    “ไมมึง ไมๆ”

    “กูกลับแม่ ง”

    “เฮ้ยยยยยยยย~~~~!!! ไรวะ” มันรีบดึงกระเป๋าผมไว้เลยครับ ฮ่าๆๆ “มึงอ่ะ”

    “ฮ่าๆๆๆ”

    “เออๆๆ ยอมมึงก็ได้” มันต้องยอมครับไม่ว่ายังไง ผมรู้ว่าตอนนี้ผมมาเหนือไงเพราะเดี๋ยวมันไม่มีเพื่อนดูพี่แตมป์ของมันไงฮะ “มึงไปร้าน บ้านพี่มีหนัง กันกูจะไปซื้อพวงกุญแจ” มันคล้องแขนผมก่อนจะทำหน้าอ้อนๆ เวลาอยากให้ผมตามใจมันจะเป็นคนดีศรีสยามขึ้นมาเลยครับ

    “อยากได้ไรล่ะทีนี้ เหมือนตัวเดิมป่ะ?” บ้านพี่มีหนัง ที่ว่าคือร้านขายเครื่องหนังทั้งหมดทุกอย่างเน้นไปทางแฮนด์เมดซะส่วนใหญ่ครับ อีกอย่างงานแต่ละชิ้นมีจำนวนของมันหรือบางทีก็มีเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ผมกับไอ้กันต์พิมุกชอบมาซื้อของร้านนี้บ่อยเพราะเขาทำของใช้ด้วย สร้อย ข้อมือ อะไรจิปาถะก็มีฮะ

    (-  -   )(   -  -)(-  -   )(   -  -) มันส่ายหน้า “กูอยากได้มังกร กูเห็นพี่เขาอัพรูปในเฟสฯเมื่อหลายวันก่อน โคตรน่ารักอ่ะ วันนี้กูจะต้องไปสอยมันมาให้ได้!!” ท่าทางมั่นอกมั่นใจที่สุด

    “แล้วร้านจัดอยู่ซุ้มไหน?”

    “เดินตามกูมาเลยครับคุณหนูชเว”

     





     

    ในที่สุดก็มาถึงร้านจนได้...

     






     

    ไอ้มังกรที่แบมแบมว่ามันเด่นสุดเลยครับ น่ารักอย่างที่มันบอกจริงๆ ทั้งตัวมันเป็นหนังสีแดงตรงหูเป็นสีเหลืองเบาๆ พุ่งป่องพอน่าหยิกไหนจะเขาเล็กๆนั่นอีกที่สำคัญมีหนวดด้วย พี่เขาเอาเจ้ามังกรสีแดงแขวนไว้ด้านบนสุดแต่ดูจากตรงนี้ดูเหมือนจะเหลือแค่ตัวเดียวแล้วด้วยนะ

    กันต์พิมุกไม่รอช้า มันอาศัยรูปร่างบางๆของมันเบียดผู้คนก่อนจะพุ่งทะยานไปคว้าเจ้ามังกรตัวน้อยนั่นทันที แต่ทว่ามือของเพื่อนผมมันซ้อนทับกับมืออีกคนเนี่ยสิ่! ผมกับแบมหันไปมองอีกคนที่หมายตาเจ้าพวงกุญแจสุดน่ารักนี้ทันที แล้วผมนี่แทบจะถลนตาออกมานอกเบ้าเลยก็ว่าได้ ทำไม๊ ทำไม...







    (O[___________]O) บรรลัยละไง!!!











    “ไอ้มาร์ค!!!




     

    to be continued.



     




     

    #ฟยบ

    อย่าลืมติชมกันได้เน้ออออ สองวันนี้ทูแจฆ่าเราสุดๆเลย ฮืออ >/////<
    ขอบคุณทุกคอมเม้นจริงๆ ตอนหน้าเป็นยังไงอย่าลืมติดตามนะคะ


    im'choi


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×