ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7] Yearbook! 2JAE (Ft.MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #19 : YEARBOOK! : Chapter19

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 562
      2
      28 ม.ค. 60

















     
    Yearbook! page.19
























    หน้าบ้านยองแจ

     



    บีมาถึงสักพักแล้วแต่ได้แต่แอบด้อมๆมองๆอยู่หน้ารั้วบ้าน ตอนขับมาก็ใจนึกสู้อยู่หรอกแต่พอมาเห็นรถหลายคันแถมยังมีทหารเกาหลีเดินเพ่นพ่านก็ทำเอาขาก้าวไม่ออกเลย แต่ถามถึงใจที่ห่วงยองแจน่ะบีเกินร้อย ชะเง้อชะแง้อยู่สักพักก็ต้องตกใจเมื่อเห็นลุงลี พ่อบ้านและคนขับรถคนสนิทของยองแจเดินออกมา


    “ลุงคือ...”

    “กลับไปก่อนนะครับ” บีถึงกับต้องกลืนประโยคที่เตรียมมาลงคอ “ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาอยู่ที่นี่”

    “แต่ว่ายองแจ”

    “ถ้าคุณดึงดัน คนที่เจ็บปวดมากที่สุดคือคุณหนูนะครับ”

    “ลุง...”

    “ถือว่าผมขอร้อง” ไม่พูดเปล่าชายวัยกลางคนตรงหน้าทำจะลงไปคุกเข่า

    “เอ้ยๆ ลุงๆ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ครับ”



    บีรีบเข้าไปประคองคนแก่กว่าก่อนจะถอยออกมาหนึ่งก้าว ร่างสูงมองสลับไปมาระหว่างหน้าลุงกับหลังคาบ้านยองแจ บรรยากาศตอนนี้ดูน่ากลัวกว่าที่จินตนาการไว้มาก นี่ไม่ใช่ในละครที่ผมจะเข้าไปและทำตัวเป็นพระเอกและเรื่องจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งแน่นอน

     





    ผมควรเชื่อลุงลี

     





    “ผมขอเบอร์ลุงได้ไหมครับ”

    “...”

    “อย่างน้อยให้ผมได้รู้อะไรบ้างผ่านลุงก็ยังดี”

    “...”

    “นะครับ...”

     


    ท้ายที่สุดลูกตื้อของบีก็ได้เบอร์โทรลุงลีมาจนได้ เขาเดินกลับมาที่มอเตอร์ไซด์คู่ใจก่อนจะหยิบเครื่องสื่อสารออกมาพร้อมกับเปิดแอพฯสนทนาชื่อดัง นิ้วยาวพิมพ์ข้อความบางอย่างให้กับยองแจ เขาไม่รู้ว่าน้องจะได้อ่านมันในทันทีนี้ไหม แต่อย่างน้อยเขาก็อยากให้ยองแจยิ้มและรับรู้ถึงความรู้สึกของเขา

     





    mister.B

    ถ้ามันลำบากมากนัก พี่จะพาเราหนี มอไซด์พี่แรงมาก พ่อเราก็ตามไม่ทันหรอก : )’

     

     

     















     

     





     

     

     

      


    ในชีวิตเกิดมาสิบกว่าปีผมไม่เคยเจอช่วงเวลาที่ลำบากมากขนาดนี้ บรรยากาศที่สามารถฆ่าคนได้ แม้ว่าห้องโถงนี่จะกว้างขวางแค่ไหนก็เหมือนกับว่ากำลังหายใจไม่ออก เบื้องหน้ามีพ่อนั่งอยู่ส่วนแม่นั้นเธอนั่งข้างๆผม อีกทั้งเธอยังกอบกุมมือผมไว้หลวมๆ นั่นทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย



    “ฉันจะต้องรอคำตอบแกอีกนานแค่ไหน...” พ่อเอ่ยอีกครั้งเพราะผมไม่ยอมตอบคำถามพ่อเสียที จะให้ผมตอบว่าไง...กับคำถามนั้น

     





    จะเลิกกับมันไหม?

     





    คำถามปลายปิด! พ่อไม่มีระยะให้ผมทำใจเลย มันไม่ใช่คำถามที่ผมคาดคิด มันข้ามคำว่า ผู้ชายคนนี้เป็นใคร หรือว่า กับผู้ชายคนนี้อยู่ในสถานะไหนกัน แต่พ่อเปิดเรื่องมาด้วยคำว่าจะเลิกกันไหม นั่นหมายถึงว่าพ่อรู้มาสักระยะและมั่นใจมากโดยไม่คิดจะถามผมก่อนเลยด้วยซ้ำ



    “ที่พ่อมาถึงนี่...เพียงเพราะจะมาถามผม...แค่นี้หรอครับ...” อย่างน้อย...ผมแค่หวังว่าพ่อจะทักทายหรือแม้กระทั่งกอดผมบ้าง อย่างน้อย...แค่ถามผมว่า สบายดีไหม

    “ชเวยองแจ!

    “คุณคะ!

     





    ฟึ่บ!! ด้วยความไว คอเสื้อของยองแจตกอยู่ในกำมือของผู้เป็นบิดาเสียแล้ว

     





    “คุณคะ!! ปล่อยนะคะ!!! นั่นลูกนะ!!!!!!!” หญิงวัยกลางคนตัวเล็กๆที่พยายามร้องขอ

    “แกคิดว่าฉันใจเย็นแค่ไหนห๊ะ!!!” ปึ่ก! หลังเล็กๆของเด็กม.ปลายกระแทกเข้ากับกำแพงก่อนจะรู้สึกเจ็บตรงอกที่พ่อเป็นคนกดลงมา “ฉันถามว่าแกจะเลิกกับมันไหม!!!!!

    “คุณคะ!

    “หยุด!!!! พ่อตวาดแม่ นั่นเป็นครั้งแรกที่ยองแจรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว พ่อรักแม่มากและให้เกียรติมาเสมอ แต่นี่เพราะเรื่องของผมทำให้พ่อกับแม่ต้องทะเลาะกัน “คุณน่ะ เพราะคุณ!! ตามใจลูกเกินไป ถ้ามันเรียนที่เกาหลีมันคงไม่เป็นแบบนี้หรอก!!!

    “แบบผม อึ่ก...แบบผมมันยังไงครับ” เสียงเล็กที่เค้นออกมาอย่างยากลำบาก น้อยใจ เสียใจและสับสน ช่วงเวลาที่ยองแจไม่อาจสามารถรับมือกับมันได้ น้ำใสไหลออกมาไม่ขาดสาย

     





    เพี๊ยะ!!!!!

     





    “แกยังมีหน้ามาถามอีกหรอ!!!” ใบหน้าขาวของยองแจขึ้นรอยแดงนูนทันที บิดาคว้าเข้าที่ปกเสื้อก่อนจะเหวี่ยงยองแจลงกับพื้น

    “หยุดนะ!!! คุณมันแย่!!!” ร่างของพ่อเซเล็กน้อยเพราะแม่ผลักท่านก่อนที่แม่จะเข้ามากอดผมไว้แน่น “คุณมันไม่เคยเข้าใจอะไรลูกเลย!

    “เฮ้ย!” พ่อเท้าสะเอวก่อนจะหันไปเรียกลูกน้องของท่านที่ติดตามมาด้วย “มาจับตัวคุณหญิงหน่อย”

    “คุณ!!! นี่คุณ!!! นี่ ปล่อยนะ ย๊าห์!! บอกให้ปล่อยไง” มือเล็กตีไปที่คนที่จับตัวเธอ “อย่าทำลูก คุณอย่าทำลูก ลูกไม่ได้ผิดอะไร” น้ำตาของแม่ไหลอาบหน้า

    “แม่! ผมตะโกนก่อนจะพยายามจะจับแม่ไว้ “อย่านะ อย่าทำอะไรแม่ พ่อ! อ๊า!!!!” ผลั่ก!!! ยองแจโดนตบอีกครั้ง และอีกครั้งท่ามกลางเสียงกรีดร้องของผู้เป็นแม่ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้คนในบ้านถึงกับเบือนหน้าหนี ในใจอยากจะช่วยใจแทบขาดแต่ก็ไม่มีใครสามารถช่วยได้ ตอนนี้นายท่านของบ้านร้อนเกินกว่าจะเข้าไปขวาง

    “เพราะแกมันอยู่ดีกินดีเกินไป! เลยทำให้แกเป็นแบบนี้!!!

    ทุกประโยคของพ่อยองแจได้ยินชัดเจนแต่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ นอกจากร้องไห้และยอมรับบทลงโทษที่เขาควรจะได้รับมัน เจ็บ...เจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ เจ็บที่ไม่สามารถทำให้พ่อเข้าใจและเจ็บที่ทำให้แม่ต้องร้องไห้ ผมมันเป็นลูก...ที่แย่จริงๆ

    “ฉันให้อิสระแกมากไป”

     


    ผลั่ก!

     


    “แกไม่เคยโดนเลี้ยงมาแบบเด็กผู้ชาย เพราะแกโดนทนุถนอมมาตลอด แกไม่เคยเจ็บตัว!!!

     


    ผลั่ก!!!!!

     


    “แกถึงได้เป็นตุ๊ดเป็นแต๊วแบบนี้!!!!!!!

     


     ผลั่ก!!!!!  น้ำคำที่บาดลึกพร้อมกับแรงกระแทกที่มาพร้อมกับคำเหล่านั้น บทลงโทษของพ่อช่างโหดร้ายและทารุณ ร่างกายผมไม่เคยบาดเจ็บเลยสักครั้งอย่างที่พ่อบอก เพียงแค่อะไรมาสะกิดผิวนิดเดียวคนที่บ้านก็แตกตื่นยกใหญ่แล้ว

     


    “รู้ไหม!! แกรู้ไหมยองแจ...” พ่อดึงเสื้อผมขึ้นก่อนจะย่อตัวลงนั่งตรงหน้าผม ใบหน้าของพ่อที่เรียบเฉย น้ำเสียงของพ่อยังทรงอำนาจ แต่นัยน์แววตาที่ส่งมาผมรับรู้ได้ว่าพ่อผิดหวัง ผิดหวังมากกับลูกคนนี้ “ฉันคาดหวังว่าแกจะเป็นลูกที่ฉันภูมิใจกว่านี้”

    “ฮึ่ก!

     





    ผมรู้...

     





    “ฉันไม่เคยอยากให้แกเจ็บ...” พ่อพูดเรียบแต่ผมกลับรู้สึกได้ว่าพ่อกำลังอดทน ”แต่วันนี้...ฉันกลับเป็นคนที่ทำให้แกต้องเจ็บซะเอง!

     





    ผมผิดเองครับ...

     





    “พ่อ...” ฟึ่บ! พ่อสะบัดตัวผมให้ออกจากสายตาก่อนท่านจะยืนขึ้นเต็มความสูง

    “ฉันจะเอาแกกลับเกาหลี ไม่ว่าใครจะคัดค้าน!” จังหวะนี้พ่อปลายตามองไปที่แม่ เสี้ยววินาทีที่ท่านวูบไหว “ผมให้คุณทำเรื่องลาออกให้มันไม่เกิน 1 อาทิตย์ หลังจากทำเรื่องเสร็จแล้วคุณต้องพาลูกกลับทันทีไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม”


    นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมรับรู้ได้ ตอนนี้รู้สึกว่าโลกกำลังเล่นตลกกับผมด้วยการแกว่งคลอน กลิ่นคาวเลือดกับภาพทุกอย่างตรงหน้าผมเลือนไปหมด ผมรู้สึกว่าตัวเองเอียงลงเรื่อยๆจนหัวกระทบกับพื้นพรม หลังของพ่อค่อยๆห่างออกไป ความรู้สึกสุดท้ายที่ผมรู้สึกได้ก็คือ...

     





    การถูกซ้อมด้วยรองเท้าคอมแบทมันรู้สึกยังงี้เองสินะ

     

     

     















     

     





     

     

     

      

    “เฮ้ย เป็นไรเนี่ย กูเห็นมึงเงียบมานานละนะ” แจ็คดันไหล่เพื่อนเบาๆ บีเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะภาค “ตื่นเต้นหน่อยดิ่วะ ดูดิ่ ไอ้ปีหนึ่งที่จะมาเป็นรุ่นน้องเราอ่ะ ดูตัวเด็ดๆทั้งนั้น ไม่รู้ไอ้ยุคจะเอาอยู่ป่าว”

    “เรื่องของแม่งเหอะ!!!!” ผมพูดกับไอ้แจ็คในชนิดที่แบบโคตรรรำคาญ


    นี่มันวันห่าไร! ผมลืมไปเลยว่าวันนี้มีปฐมนิเทศปีหนึ่งก่อนเปิดภาคเรียน แล้วยังไง ผมก็กำลังวุ่นวายใจกับเรื่องน้องอยู่ๆก็มีโทรศัพท์จากไอ้แจ็คบอกให้ผมรีบมาที่สาขา มันใช่เรื่องไหม!?!!! วู้!! หงุดหงิดเว้ยยยย!!!!!!


    “โอ้วววววววววว ดูดิ่ใครมา ฮู้วๆๆ ยังไงวะหน่ะ”


    ในขณะที่บีฟุบหน้ากับโต๊ะและสงบสติอารมณ์อยู่นั้นก็ดั๊นมีคนผิวปากโหวกเหวกโวยวาย เสียงแซวใครสักคนเนี่ยแหละไม่ได้ฟังและก็ไม่ได้อยากฟังด้วย แค่เสียงปีหนึ่งกับการประชุมห่าเหวไรนี่ก็ปวดหัวจะแย่แล้วยังจะเสียงผีห่าพวกนี้อีก

     





    ปัง!!

     





    “พวกมึงจะหยุดแหกปากกันได้ยัง!” ทุกอย่างอยู่ในความสงบทันทีสายตาทุกคนจดจ้องไปยังบี ในสายตารุ่นน้องตอนนี้บีคงเป็นรุ่นพี่ต้องห้ามไปซะแล้ว

    “เอ่อะ... เอ่อ ฮ่าๆๆ ไม่มีไรครับน้องๆ พี่บีมันแค่ลองเสียงเฉยๆ ไม่ต้องตกใจน้า” แจ็คกู้สถานการณ์กลับมาได้อย่างไวก่อนจะดันตัวเพื่อนให้นั่งลง พร้อมกับบุ้ยปากไปทางยุคให้อธิบายเกี่ยวกับสาขาต่อ “เป็นเชี่ยไรเนี่ย วันนี้ทำไมหงุดหงิดจังวะ!

    “ก็พวกมึงจะแหกปากทำเชี่ยไร” บีบอกแจ็คแบบคิ้วโคตรรขมวด ตาคมเกรี้ยวกราดเกินกว่าจะหาคำมาอธิบาย ร่างสูงจดจ้องไปยังต้นเหตุที่ทำให้ทุกคนแหกปากลั่นเมื่อสักครู่ “ก็แค่ไอ้มาร์คกับแบมเดินมาด้วยกันก็แค่นั้น จะตกอกตกใจอะไรหนักหนาวะ”

     





    เดี๋ยวนะ...

     





    แบม...แบมแบมนี่หว่า!

     


    ผมไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปหาเป้าหมายที่ผมไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอ ผมลืมไอ้เด็กแสบนี่ไปได้ไง ใช่! ใช่แล้ว แบมแบมเนี่ยแหละที่ผมจะอาศัยเรื่องยองแจได้

    “เฮ้ยๆ ไรมึงเนี่ย” มาร์คเกี่ยวตัวแบมแบมเอาไปไว้ด้านหลังตนก่อนจะชี้หน้าเพื่อนรักทันที “จะทำเหี้ยไร” ใครจะไปรู้เมื่อกี้แม่งโคตรรฉุนเฉียวเลย จะวิ่งมาต่อยแบมหรือเปล่า ใครจะไปยอมวะ!

    ”กูไม่ทำไรเมียมึงหรอก”

     





    ห่ะ!

     





    “ออกมาคุยกันหน่อย”

    “ผมไม่ได้เป็นเมียพี่มาร์คซะหน่อย พี่พูดให้ดีๆนะเว้ย!” แบมแบมโผล่หน้าออกมาจากหลังไอ้มาร์ค ไอ้เด็กนี่ต้องตัวเล็กแค่ไหนนะถึงไปหลบหลังไอ้มาร์คแล้วมิดขนาดนี้ ผมขำเล็กน้อยก่อนจะดึงข้อมือคนเด็กกว่าให้เดินกลับไปที่โต๊ะภาค

    “เออ! อีกไม่นานหรอก” ผมพูดส่งๆ แต่รู้ดีว่าไอ้เด็กข้างๆนี่เขินไปยันหูแล้ว ก็ดูดิ่ หน้าตาโคตรรเลิ่กลั่กเลย อาการเดียวกันกับยองแจเปี๊ยบ

    “เฮ้ยๆๆ เบาๆหน่อย” ไอ้มาร์คดันผมออกก่อนจะแย่งข้อมือแบมแบมไปจับไว้เอง

    “หวงจังนะ”

    ”เออสัด! แฟนกูไง”

    “อู้ววววว~~ เอาละเว้ยๆ” เริ่มแหกปากแหกคอกันอีกละครับ แน่นอนว่าผมไม่ใช่หนึ่งในนั้นหรอกแแค่นี้แบมแบมก็เขินแทบจะเอาหน้ามุดซีเมนต์ได้อยู่แล้ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักมันอยู่ตรงนี้

    “แบม โทรหายองแจให้หน่อย”

    “เห?” แบมทำหน้างง ไม่ใช่แค่น้อง ไอ้มาร์คกับไอ้แจ็คนี่ทำหน้าปนสงสัยและอยากรู้มากกว่าอีก (=  = ;; ) “ทะเลาะกันอีกแล้วหรอฮะ”

    “เปล่า”

    “อ่าว~

    “เออหน่า อย่าพึ่งถาม โทรให้ก่อน นะ...”



    แบมแบมทำอะไรไม่ได้นอกจากกดโทรออกหาเพื่อนตัวขาว ทุกคนให้ความสนใจกับปลายสายเสียเกินโดยเฉพาะบี แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครรับจนสายตัดไป แบมแบมพยายามโทรหาเป็นห้าหกรอบแต่ก็ไม่มีใครรับสาย



    “เกิดอะไรขึ้นฮะ?”

    “...”

    “ไอ้บี บอกพวกกูดิ่วะ” มาร์คเอ่ย

    “เออได้ช่วยกัน” และแจ็คเสริมต่อ

    “พ่อน้องรู้เรื่องกูกับน้องแล้ว”

    “ว่าไงนะ!! เป็นแบมแบมเองที่แหกปากดังลั่น “จบเห่แล้วพี่!

    “ทำไมอ่ะ” แจ็คเอ่ยต่อ “คงไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกมั้ง”

    “พ่อยองแจเป็นทหาร ผมไม่เคยเจอหรอกนะ แต่เท่าที่ได้ยิน รู้แค่ว่าโหดมาก” แบมแบมขนลุกขนชันขึ้นมาแทบจะในทันที ผมว่าผมเข้าใจในอาการนั้นนะ “ตอนแรกๆที่คบกับพี่ ยองแจก็เอาแต่บ่นว่ากลัวพ่อจะรู้ตลอดเลย”

    “น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอวะ” มาร์คเอ่ย

    “อือ เมื่อเช้ากูไปบ้านน้องมา ลูกน้องพ่อเขาเต็มไปหมด”

    “พ่อยองแจมาหรอฮะ!!!!

    (_   _)(-    -)(_   _)(-    -)

    “แบมลองโทรเข้าบ้านแจให้หน่อยได้ไหม” ผมพูดเชิงขอร้อง “อย่างน้อยถ้าเป็นแบม อาจจะติดต่อกับยองแจได้มากกว่าพี่”

    “อื้อ~



    จากที่มีแค่บีที่เป็นห่วงยองแจตอนนี้กลับมีอีกสามชีวิตที่เป็นห่วงยองแจเพิ่มมาอีก ทั้งหมดย้ายเข้าไปในห้องภาคที่ไม่มีใครเพื่อไม่ให้มีเสียงอื่นๆมารบกวน แบมแบมกดเบอร์บ้านของเพื่อนรักก่อนจะเปิดลำโพงเพื่อให้พี่ๆที่เหลือช่วยกันลุ้นอีกแรง ต่อสายกันอยู่สักพักจนกระทั่งมีคนรับ



    (สวัสดีค่ะ บ้านตระกูลชเวค่ะ ไม่ทราบต้องการเรียนสายกับใครคะ?)

    “เอ่อะ คือ ผม แบมแบมนะครับ”

    (อ๋อ ค่ะคุณแบมแบม)

    “ผมขอคุยกับยองแจหน่อยครับ”

    (เอ่อ...)

    “...” พวกบีมองหน้ากันเชิงรู้แล้วว่าคงไม่ได้คุยกับยองแจแน่นอน ถ้ามาสภาพนี้

    (ตอนนี้คุณหนูยองแจไม่สะดวกคุยน่ะค่ะ ยังไงรบกวนคุณแบมแบมโทรมาใหม่อีกทีนะคะ)

    “อ่อ...งั้นหรอครับ งั้นก็...ขอบคุณครับ”

    “เชี่ยเอ้ย ว่าละ ซื้อหวยไม่ถูก” แจ็คสบทหยาบแทบจะในทันทีที่วางสาย

    “เหมือนเขาจะพยายามไม่ให้ยองแจติดต่อกับใคร”

    “ผมเห็นด้วยกับพี่มาร์ค”

    “มึงทำได้แค่รอว่ะ บางทีน้องอาจจะติดต่อมาเอง” แจ็คเอ่ยพลางตบไหล่เพื่อน “สู้ๆมึง”

    “หรือว่า...”

    “ว่าอะไร?”

    กูจะปืนเข้าหาน้องดีวะ”

    “พ่องหรอ!!! มึงพอเลย ทำแบบนั้นยังช่วยยองแจไม่ได้มึงยังจะติดคุกอีก”

    “คุกทหารด้วยเผลอๆ”

    “เออเชี่ย! พอๆ มึงสองคนนี่แม่ง!!” ผมตบหัวมันไปคนละที แม่ง ก็แค่คิดไง จะมาแช่งกันเพื่อ “กูก็แค่คิด มึงคิดว่ากูจะทำจริงหรอ”

    “เอออ!!!” มันสองคนประสานเสียงกัน (-[ ]-)

    “มึงมันพวกบ้าระห่ำอยู่แล้ว อย่าทำนะมึง ตายนะมึง”

    “เออๆๆ รู้แล้วหน่า~~

    “พี่ต้องสู้นะ”

    แบมแบมพูดพร้อมกับจ้องหน้าผมเขม็ง น้อยครั้งที่จะเห็นแบมมองหน้าผมตรงๆและพูดเรื่องยองแจออกมาเต็มปากแบบนี้ ถ้าเป็นแต่ก่อนคงมีแต่คำสาปแช่งให้ผมเลิกกับยองแจเช้าเย็น หึ! ตลกไหมล่ะครับ ก็ไอ้เด็กตรงหน้านี้เกลียดผมอย่างกับอะไร แต่วันนี้กลับบอกให้ผมสู้ซะหนักแน่นเลย

    “พี่ห้ามปล่อยมือยองแจเด็ดขาดเลยนะ!

     

     

     















     

     





     

     

     

      


    ผมรู้สึกได้ถึงกลิ่นแอลกอฮอลล์ที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในตอนนี้ มันทำให้ผมเริ่มแสบจมูกจนจะทนไม่ไหวจึงต้องค่อยๆเปิดเปลือกตาออก เพียงแค่กระพริบตาก็รู้สึกเจ็บจี๊ดไปทั้งใบหน้า ผมย่นคิ้วเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆปรับโฟกัสให้ชัดขึ้น

     





    เพดานนี่...มันห้องนอนผม

     





    ผมไอออกมาเล็กน้อยและแทบจะในทันทีที่มีคนพุ่งตัวเข้ามาหา

     





    “ยองแจ เป็นยังไงบ้างลูก~” นั่นก็คือแม่...

    “แม่...”

    “ไม่ต้องพูดนะๆ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว” แม่เข้ามาประคองผมที่พยายามลุกขึ้น “ค่อยๆลูก ค่อยๆ”

    “อ้ะ!

     





    เพราะว่าขยับเร็วเกินไปเลยรู้สึกเจ็บ






     

    “เจ็บตรงไหน หื้อ บอกแม่เร็ว” ท่าทางร้อนรนทำให้ผมต้องดึงเธอมากอดไว้หลวมๆ

    “แค่เห็นหน้าแม่ก็ไม่เป็นไรแล้วฮะ”

     





    ผมกับแม่สนิทกันมาก ไม่ว่าเมื่อไหร่...

     





    “ฮึ่ก!” เธอกลั้นสะอื้นก่อนจะกอดผมตอบ ผมได้แต่ตบมือเบาๆที่หลังของแม่

    “อะไรกันฮะ คนที่ต้องโดนปลอบคือผมนะ”

    “ยองแจอ่า~

    “ผมไม่เป็นไร”



    เจ็บแค่นี้ ผมถือว่าพ่อยังออมมือออมเท้า ถ้าพ่อเอาจริงๆจังๆผมไม่ได้นอนอยู่ที่นี่หรอก ผมมองตัวเองในกระจกที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแตก ตรงมุมปากมียาป้ายไว้ ตามแขนที่มีรอยถูกทำแผลไว้แล้ว ช่างน่าขันนัก...

     





    จริงๆแล้วผมอ่อนแอ ผมไม่มีทักษะเรื่องการต่อสู้หรือแม้กระทั่ง...วิธีป้องกันตัวเอง

     





    “ผมอ่อนแอกว่าที่ตัวเองรู้ซะอีกฮะ”

    “...”

    “อย่างที่พ่อบอก...” ผมเอ่ยเว้นระยะ “สมควรแล้วที่พ่อจะผิดหวัง ฮึ่ก!” ผมปล่อยโฮออกมาก้อนใหญ่เลย รู้สึกอัดอั้นตันใจเหลือเกิน ผมรู้สึกท้อแท้ หมดแรง จนไม่อยากจะเจอใครเลย

    “ยองแจ...”

    “แม่...”

    “...”

    “ผมผิดมากใช่ไหม” ผมไม่ได้อยากเป็นแบบนี้ ไม่ได้อยากขึ้นชื่อว่าผิดเพศหรืออะไร “ผม...ฮึ่ก ผมก็แค่รักใครคนนึงอย่างจริงใจ แต่เขา...เขาก็แค่เป็นผู้ชาย เขา...ฮึ่กๆๆ เขา...ผม...”

     





    สวบ...

     





    หญิงวัยกลางคนดึงยองแจเข้าไปกอดเพื่อให้เจ้าตัวกลมสงบสติลง เธอไม่รู้ว่ายองแจกำลังสับสนแค่ไหนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันหนักหนาสาหัสสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเช่นนี้ ยองแจแค่ต้องก้าวผ่านมันไปด้วยอ้อมแขนและกำลังใจของครอบครัว แม้ว่า...เธอจะเป็นคนเดียวในครอบครัวนั้นก็ตาม

    “มันไม่ได้ผิดเลยลูก”

    “...”

    “ใครเป็นคนคิดกฎเกณฑ์ว่ารักเพศเดียวกันมันผิด” เธอค่อยๆโยกยองแจเบาๆเหมือนที่เธอทำตอนเด็กๆ “ที่บอกว่ามันผิดมันก็เป็นแค่กฎหมายทางสังคม พวกเขาแค่ไม่ได้นิยมและยอมรับมัน เขาก็เลยมองว่ามันผิด”

    “...”

    “จุดเริ่มต้นของโลกมีเพียงแค่ความรักเท่านั้นแหละ”

    “แม่ผิดหวังไหม”

    “ผิดหวัง...” เธอเอ่ยเว้นระยะ “ถ้าลูกทรยศความรู้สึกตัวเอง” แม่ระบายยิ้มอ่อนๆให้กับผม

    “...”

    “ตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้”

    “...”

    “แม่ไม่เคยรู้สึกผิดหวังในตัวลูกชายคนนี้ของแม่เลยนะ” แม่ลูบหัวผมเบาๆ “ชเวยองแจ เป็นลูกชายที่แม่ภาคภูมิใจอยู่เสมอ”


    น้ำตาผมไหลจนรู้สึกได้ว่าตามันบวมไปหมด ผมโผเข้ากอดแม่แน่น แม่เป็นผู้หญิงที่วิเศษที่สุดในโลก ผมอิจฉาพ่อที่มีผู้หญิงคนนี้ร่วมชีวิต ผมรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอที่ผมเกิดมาเป็นลูกแม่ สำหรับผมแม่คือแรงผลักดันที่ดี


    “โอเคๆ ไม่เอาแล้ว ไม่ร้องแล้วเนอะ” เธอดันตัวผมก่อนจะปาดน้ำตาออกให้ “เดี๋ยวแม่จะไปดูข้างล่าง พวกพี่ๆเขาเตรียมข้าวไว้ลูกกันอยู่ด้วยนะ”

    “ครับ”

    “อ่อ...แล้วก็นี่...”

     





    แม่วางโทรศัพท์ไว้บนหน้าตักของผม

     





    “ดูท่าเขาจะเป็นห่วงมากนะ ระดมส่งข้อความไม่หยุดเลย”

    “...”






    “คนที่หนูเมมชื่อไว้ว่า มิสเตอร์บี น่ะ”





     

     
     
     
     









     

    to be continued.









     

    #ฟยบ

    มาแล้วเด้อๆๆๆ มาแล้วววว : )  มาช้าอีกเช่นเคยยยย T^T  ขอโต๊ดก๊าบบบบบ

    ฟิคเรื่องนี้เหลืออีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วนะคะ #รีดคงแบบมึงรีบๆจบเถอะใช่ม่ะ ฮ่าๆๆ นานเหลือเกิ่น!! เอาเป็นว่า

    อย่าลืมมาให้กำลังใจพี่บีและน้องแจน้าา ว่าบทสรุปแล้วจะเป็นยังไง


    สอบถามนะคะ

    ถ้าเค้ารวมเล่ม มีคนสนใจไหมเอ่ย ? 

    >m<


    im'choi


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×