ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #24 : ตอนที่ 23 ❁ หมื่นล้านคำพูด 100% ❁ แจ้งข่าว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 9.98K
      871
      4 ก.ค. 63

    ตอนที่ 23




    อาการของท่านชายเป็นอย่างไรอย่างนั้นเหรอหลังจากที่รู้เรื่อง คุณแบมไม่ทันได้สังเกตอะไรเพราะทันทีที่กล่าวข่าวดีออกไป ทุกคนในครอบครัวก็กรูกันมาที่เขากันหมด คุณแบมต้องตอบคำถามทุกคนเกี่ยวกับเรื่องลูก และเพราะแบบนั้นท่านชายถึงได้ถูกทิ้งไว้อยู่เบื้องหลัง

    คนตัวสูงมองไปยังภรรยาตัวเล็กด้วยหลากหลายความรู้สึก ทั้งตกใจ ตื่นเต้น และตื้นตัน เขาไม่รู้ว่าสื่อมันออกมาอย่างไร ภาพตรงหน้าพร่าลง ยามหยาดน้ำในดวงตาเริ่มบดบังทัศนียภาพเบื้องหน้า เพราะบางสิ่งกำลังไหลลงข้างแก้ม

    ลูกอย่างนั้นเหรอ ท่านชายไม่เคยคิดเรื่องนี้เอาไว้ก่อนเลย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกติดลบกับเรื่องนี้ กลับกัน ความปิติกลับเอ่อล้นออกมาเป็นหยดน้ำตา ผู้ชายอกสามซอกอย่างเขาหรือจะเคยเสียน้ำตาให้กับสิ่งใด

    นี่คือครั้งแรกจำความได้...

    พระองค์เจ้าเมทินลอบมองลูกชายเพียงคนเดียวพลางยิ้มบาง ๆ ท่านชายไม่ต่างอะไรกับพระองค์เลย เมื่อครั้งที่รู้ว่าท่านหญิงท้อง มกรธวัชนิสัยเหมือนเขาราวกับคนเดียวกัน เพราะอย่างนั้นจึงรู้ดีว่าบุตรชายรู้สึกอย่างไร และเจ้าคนนั้นคงจะไม่มีวันให้ใครได้เห็นน้ำตา เพราะฉะนั้นพระองค์จะไม่ทรงทักเรื่องนี้

    เป็นไปดังความคาดหมาย มือหนายกชัดเช็ดน้ำตาแห่งความสุขนั้นออก เหลือทิ้งไว้เพียงความบอบช้ำรอบดวงตาคมเข้ม คุณแบมถูกปล่อยตัวมาหาท่านชายอีกครั้ง รอยยิ้มยังประทับอยู่บนใบหน้าของคนตัวเล็ก และเป็นสิ่งที่สมควรแล้วหากเจ้าตัวจะได้รับรอยยิ้มเช่นกันกลับไป

    “เพราะคุณแบมแพ้ท้องกับเค้ก เลยทำเค้กให้พี่ชายมาร์คไม่ได้ แต่คุกกี้ชิ้นนี้ คุณแบมตั้งใจทำนะ”

    เจ้าตัวเล็กกล่าวพลางฉีกยิ้มกว้างอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ เรื่องนี้ท่านชายรู้ดี เพราะเจ้าตัวนั่งทำให้เขาเห็นตลอดช่วงบ่ายแล้ว ความจริงนึกว่าคุณแบมจะไม่มีการเซอร์ไซรส์เสียแล้วเสียอีก ใครจะไปคิดว่าสิ่งที่เตรียมไว้อย่างดีกลับเป็นเรื่องนี้

    “ขอบคุณนะคะคนดี นี่เป็นของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตพี่เลย” ท่านชายกล่าว เขารู้สึกเช่นนั้นจริง ๆ ท่านชายยังคงถือเค้กชิ้นสำคัญจากคนพิเศษเอาไว้ในมือ ในขณะที่มืออีกข้างเอื้อมไปสัมผัสที่หน้าท้องแบนราบของภรรยา ทั้งที่รู้ว่าคงไม่รับรู้ถึงคนข้างในนั้น

    “ตัดเค้กกันก่อนเถอะนะคะ เดี๋ยวเค้กที่ลูกสะใภ้แม่ทำมาจะเป็นหมัน” ท่านหญิงกล่าวแซว เพราะลูกชายของเธอกำลังเป็นคุณเห่อลูก

    ดูจากขอบตาที่ช้ำแดงนั้น คงจะแอบร้องไห้มาละสิ

    ท่านหญิงหันไปมองหน้าสามี ก่อนจะพบว่าพระองค์เองก็มองมาเช่นกัน ทั้งคู่ย่อมรู้ดีว่าเกิดสิ่งใดขึ้น เพราะนั่นคือลูกชายที่เลี้ยงมาเองกับมือ ลูกชายผู้ที่หลายคนมองว่าเป็นหนุ่มเข้มแข็งเย็นชา แต่ภายในกลับอบอุ่นยิ่งกว่าสิ่งใด ซึ่งคนที่จะได้รับความอ่อนโยนนี้ก็มีเพิ่มมาอีกคนแล้ว

    สุดท้าย ท่านชายก็ต้องตัดเค้กคุกกี้ที่ภรรยาตัวเล็กทำมาให้ก่อน ทุกคนในครอบครัวยืนล้อมเขาไว้ ทุกคนต่างร่วมทานเค้กของคุณแบมและชมกันอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะท่านชายภาษกรที่ไม่เคยคิดเคยฝันว่าเจ้าลูกชายตัวเล็กของเขาจะลงครัวทำอาหารได้สำเร็จ ด้วยเพราะกว่าเจ้าตัวจะโตมา ก็เสียห้องครัวไปไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง เหตุเกิดจากการอยากลองทำอาหารเองนั่นแหละ

    “ท่านพ่ออย่าร้องไห้สิครับ” คุณชายตัวเล็กกล่าวกับบิดาที่ยืนน้ำตาซึมอยู่ไม่ไกล ในขณะที่บรรดาแม่ ๆ ทั้งสามกลั้นยิ้มขำกับพฤติกรรมของประมุขของวัง

    “ลูกชายพ่อโตขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ท่านกว่างพลางยกมือปาดน้ำตาที่หางตา

    “คุณแบมของแม่จะกลายเป็นคุณมามี้แล้ว ดูแลตัวเองให้มากกว่าเดิมนะครับ” หม่อมแม่รสา มารดาบังเกิดเกล้าของคุณแบมกล่าวพลางลูบศีรษะกลมของบุตรชาย เธอภูมิใจเสมอกับลูกคนนี้ แม้จะดื้อซนตามวัย แต่กลับไม่เคยเป็นเด็กเอาแต่ใจทั้งที่ถูกคนในบ้านสปอยล์ขนาดนี้

    “หม่อมแม่... คุณแบมขอบคุณนะครับที่ทำให้คุณแบมได้เกิดมา” คุณชายตัวเล็กกล่าวกับมารดา เพราะตอนนี้ตัวเองทรางความรู้สึกของคนเป็นแม่แล้วว่ายามแพ้ท้องนั้นรู้สึกอย่างไร คุณแบมเคยได้ยินมาเหมือนกันว่า ในบรรดาหม่อมแม่ทุกคนนั้น หม่อมแม่รสาแพ้ท้องหนักที่สุด พอมาถึงตอนนี้ยิ่งรู้สึกรักมารดามากกว่าเดิม

    คนเป็นแม่นั้นยอมเสียสละตัวเองมากมายขนาดไหนเพื่อบุตรในครรภ์

    “คุณแบมตอบแทนแม่แล้วครับ การที่หนูเติบโตมาอย่างดี คือสิ่งที่แม่ปรารถนาที่สุดแล้ว”

    “...”

    “ท่านชายเพคะ... แม่ฝากลูกและหลานของแม่ด้วยนนะคะ”

    เธอเคยฝากลูกชายของเธอกับร่างสูงตรงหน้าแล้วหนึ่งครั้งครั้นงานแต่งงานของคนทั้งคู่ แต่ครั้งนี้มีหลานของเธออีกหนึ่งคน ซึ่งหม่อมรสาเชื่อใจในท่านชายมาร์คว่าพระองค์จะทรงเป็นสามีและบิดาได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นโชคดีของบุตรชายของเธอจริง ๆ

    “ผมสาบานครับ ผมจะดูแลทั้งคู่ให้ดีที่สุดเทาที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้”

    คำกล่าวสัตย์สาบานจากปากของราชนิกุลคือสิ่งที่ต้องทำให้ได้อย่างใจพูด เพราะเป็นการเอาศักดิ์ศรีของวงค์ตระกูลมาค้ำประกัน และท่านชายยินยอมทำเพื่อเป็นเครื่องยืนยันต่อทุกคน คุณแบมมองไปยังสามีที่ยืนกล่าวคำนั้นกับทั้งบิดาและมารดาของเขาอย่างปลื้มปิติ

    เจ้าตัวเล็ก... หนูจะต้องเกิดมาเป็นเด็กที่โชคดีที่สุดในโลก เขาจะได้รับความรักอย่างมากมาย และเติบโตขึ้นอย่างดีงามแน่ ๆ

     

     

    เสร็จสิ้นงานธรรมเนียมเป่าเทียนวันเกิด ทุกคนก็มารวมตัวกันที่โต๊ะอาหาร ร่วมรับประทานอาหารกัน ซึ่งวันนี้แม่ครัวลงทำอย่างสุดฝีมือ หัวข้อบทสนทนาก็หนีไม่พ้นเรื่องคุณแม่คนใหม่ที่ไม่ใช่แค่เซอร์ไพรส์เพียงสามี แต่บรรดาพ่อแม่ก็ต่างล้วนไม่ได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้าเช่นกัน

    แต่ถึงอย่างนั้นพวกท่านก็เตรียมตัวไว้หมดแล้วสำหรับการรับขวัญหลาน โดยเฉพาะพระองค์เจ้าเมทินที่ทุ่มสุดตัว

    “หุ้น 20 % ของ TWR พ่อจะยกให้เป็นชื่อของคุณแบม”

    คนถูกมอบของขวัญให้ถึงกับตาโตทำอะไรไม่ถูก 20 % ไม่ใช่น้อย ๆ เลยสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ขนาดนี้ คนตัวเล็กหันไปมองหน้าสามีที่นั่งกุมมืออยู่ข้างกายเพื่อขอความเห็น แต่ก็ได้รับเพียงรอยยิ้มบาง ๆ ตอบกลับมา

    “ขะ ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ตะ แต่ว่า....”

    “ไม่ต้องแต่หรอกลูก นี่เป็นสิ่งที่หนูควรได้รับแล้วนะคะ”

    ท่านหญิงม่านฟ้ารีบกล่าวสวนขึ้นมา เพราะรู้ว่าลูกสะใภ้จะต้องลำบากใจมากแน่ ๆ กับสิ่งที่พระองค์ท่านหมอบให้ ถึงแม้หลายคนอาจมองว่ามันมหาศาลมาก แต่ความจริงนั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่คนตัวเล็กกำลังมอบให้ตระกูลเทวะโรจนหิรัญ

    “คราวนี้น้องแบมรวยกว่าพี่แล้วนะ แบบนี้พี่คงต้องเอาใจเพิ่มซะแล้วสิ” ท่านชายกล่าวเย้า เรียกเสียงหัวเราะให้ทุกคนภายในโต๊ะอาหาร ในขณะที่คนแก้มแดงกลับทำหน้าฉงน คุณแบมจะรวยกว่าพี่ชายมาร์คได้อย่างไร ในเมื่อตัวเองเป็นถึงบุตรชายของท่านประธานใหญ่น่ะ

    “พี่ชายมาร์คหลอกคุณแบม”

    “พี่ไม่ได้หลอกค่ะ ถามเด็จพ่อเด็จแม่สิ พี่มีหุ้นในบริษัทแค่ 10 % เอง”

    แค่ 10 % คงใช้คำว่าแค่ไม่ได้หรอกเพราะตัวเลขมันเยอะมหาศาลขนาดนั้น แต่ท่านชายมองว่ายังไงซะหุ้นส่วนนั้นก็คงจะตกเป็นชื่อของลูกชายพระองค์ เพราะตัวเองนั้นคงเอาดีด้านทหารต่อไป จะเป็นเพียงที่ปรึกษาอยู่ข้างหลังเท่านั้น

    เรื่องนี้พระองค์เจ้าเมทินไม่ได้คาดหวังหรือบังคับอะไรบุตรชาย เพราะรู้ดีว่าลูกชายตัวเองสนใจที่จะรับใช้ชาติมากกว่างานส่วนตัว แต่เมื่อถึงคราวจำเป็น ท่านชายมาร์คก็ทำหน้าที่ผู้สำเร็จการแทนบิดาเสมอ เขาถึงพูดกันอย่างไรว่า ถึงไม่ได้เป็นเจ้าของ แต่ก็เหมือนเป็นนั่นแหละ

    “แต่คุณแบมได้รับมาก็ช่วยอะไรไม่ได้ คุณแบมยังเรียนอยู่เลย เอาอย่างนี้ไหมครับ ให้เป็นชื่อพี่ชายมาร์คแทน” คนตัวเล็กเสนอเพราะถึงอย่างก็ไม่กล้ารับเอาไว้อยู่ดี ทำเอาเหล่าผู้ใหญ่ต่างยิ้มเอ็นดูกับความขี้เกรงอกเกรงใจคนอื่นของเจ้าตัวเล็ก แต่ถึงอย่างนั้นกลับผลักทุกอย่างให้สามีรับไว้แทน

    “พี่ดูแลให้ไม่ไหวหรอกค่ะ พี่เป็นแค่ทหารคนหนึ่งเท่านั้น”

    ทหารธรรมดาที่ไหน ทั้งที่เป็นถึงเรืออากาศเอกเลยไม่ใช่หรือ ใครมองก็รู้ว่าท่านชายแสร้งทำเพื่อเย้าภรรยาเท่านั้น

    “ให้เป็นชื่อคุณแบมน่ะถูกแล้ว เวลาชายมาร์คออกนอกลู่นอกทางคุณแบมจะได้ไม่ลำบาก” พระองค์เจ้าเพื่อโน้มน้าวความสนใจของลูกสะใภ้ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าจะไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น

    “รับไปเถอะค่ะ ถึงอย่างไรพี่ก็จะช่วยคุณแบมดูแลเอง”

    เมื่อไม่มีใครช่วยรับแล้ว คุณแบมจึงต้องจำใจรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ตัดภาพมาที่ท่านชายภาษกรบิดาของคุณแบมก็ส่งยิ้มให้ลูกชาย ถึงแม้จะรู้สึกไม่ต่างกันถึงความมากมายที่ได้รับ แต่เมื่อพระองค์เจ้าเมทินทรงตัดสินใจแล้ว จากประสบการณ์ที่คบกันมาอย่างยาวนานก็ต้องยอมรับ เพราะพระองค์ไม่เปลี่ยนใจแน่ ๆ

    “แล้วเรื่องเรียนคุณแบมล่ะครับ จะเอายังไงกันดี” จูเนียร์กล่าวขึ้น เพราะเป็นเรื่องของน้องจึงได้เป็นห่วง ยิ่งเกี่ยวกับเรื่องของน้องชายเขายิ่งเป็นห่วง ขึ้นแบมอายุเพียงเท่านี้ ทั้งที่เรียนอยู่เพียงชั้นปีที่หนึ่งเท่านั้น

    “คุณแบมอยากเรียนต่อหรืออยากดรอปไว้ก่อนรอคลอดล่ะ” พระองค์เจ้าเมทินตรัสถาม เพราะเรื่องนี้มีทางออกอยู่แล้ว

    “คุณแบม... เรียนต่อได้ใช่ไหมครับ”

    “ได้สิ หากคุณแบมอยากเรียน พ่อก็จะจัดการให้”

    สำหรับพระองค์เจ้าเมทินแล้วไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรที่ทรงทำไม่ได้ กับทางมหาวิทยาลัยที่คุณแบมเรียนอยู่ พระองค์ก็บริจาคไปหลายภาคส่วน หากจะขออะไรก็คงไม่ว่า อีกอย่างกฎหมายของบ้านเมืองก็ไม่ได้จำกัดสิทธิคนมีครรภ์ในการศึกษาเล่าเรียน แค่ต้องเฝ้าระวังไว้เท่านั้น ยิ่งกับคุณแบมแล้ว เจ้าตัวเป็นชายต้องดูแลอย่างเป็นพิเศษ ควบคุมความเครียดให้คงที่ไม่มากจนเกินไป

    “ขอบพระทัยเด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ”

    คุณแบมกล่าวอีกครั้ง หากมีใครถามว่าสะใภ้บ้านไหนโชคดีที่สุด คุณแบมก็จะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า

    สะใภ้เทวะโรจนหิรัญนี้คือสะใภ้ที่โชคดีที่สุดในโลกแล้ว



    จบสิ้นวันเกิด คราวนี้ก็ถึงช่วงใช้เวลาร่วมกันของสองสามีภรรยา ท่านชายมาร์ครอให้คนตัวเล็กอาบน้ำอยู่ภายในห้องนอน และเริ่มวางแผนการใช้ชีวิตเสียทั้งหมด คนพ่อจอมเห่อนั่งกอดอกคิดถึงอนาคตข้างหน้าสำหรับลูกแล้ว ท่านชายวางแผนว่าจะโอนหุ้นส่วนของตัวเองให้เป็นชื่อของลูก ถึงแม้ตัวเขาจะไม่เหลือสิ่งใดเลยติดตัว แต่ลูกจะต้องอยู่ดีมีสุขทุกอย่าง

    ส่วนตอนนี้ เขาจะขอรับเพียงงานภายในกรมทหาร ไม่ออกบินภารกิจใด ๆ และคงต้องส่งมอบให้ผู้อื่นจัดการ แม้การบินสู่น่านฟ้าคือสิ่งที่ทรงรัก แต่ตอนนี้ท่านชายมีสิ่งที่เขารักมากกว่าท้องฟ้าแล้ว นั่นคือคุณแบมและลูก ภารกิจการบินขึ้นฟ้าแต่ละครั้งใช่ว่าจะกินเวลาน้อย ๆ เขาไม่อยากทิ้งคนตัวเล็กไปไหนได้อีก

    และความคิดของคนหล่อก็ต้องหยุดลง เมื่อภรรยาตัวเล็กควบตำแหน่งคุณแม่มือใหม่เดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมชุดนอนลายเป็ดที่คุ้นเคย ดูสิ คุณแม่ยังใส่ชุดนอนน่ารักน่าชังอยู่เลย แบบนี้คุณพ่อจะกล้าทิ้งไปไหนไกล ไม่วายอยู่ใกล้เพื่อดูแล 24 ชั่วโมงหรอกหรือ

    “นั่งคิดอะไรอยู่ครับ คิ้วขมวดเป็นปมเชียว”

    “มานั่งตรงนี้สิคะ”

    ท่านชายไม่ได้ตอบ แต่กลับเรียกให้คุณชายตัวเล็กมานั่งที่ตักแทน แม้จะขัดเขินบ้างแต่ก็ยอมทำตามเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ส่วนตัวสำหรับคุณแบมเพียงคนเดียว

    เอวบางถูกรวบไว้ทันทีที่กายเล็กหย่อนลงบนตักแกร่ง สองมือโอบรอบคอของสามีเอาไว้อย่างเคยชิน ใบหน้าหล่อเหลาของสามีซบลงที่ซอกคอหอมของคุณแบมก่อนจะเลื่อนไปที่ไหล่แคบ ส่วนมือก็ยังลูบที่หน้าท้องแบนนั้นเพื่อสัมผัสบุตรของตัวเอง

    มีประโยคมากมายที่อยู่ในหัว แต่ไม่รู้จะเรียบเรียงมันออกมาอย่างไร และเหมือนคนตัวเล็กจะเข้าใจท่านชายมาร์คจึงนั่งเป็นตุ๊กตาให้ท่านชายกอดอยู่อย่างนั้น

    คุณแบมบอกเลยว่าท่านชายผู้นี้จะต้องดีใจมากแน่ ๆ

    สัมผัสอุ่นวาบเปียกชื้นอยู่บริเวณไหล่ข้างขวาก็พอจะรู้ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดตอนนี้กำลังรู้สึกอย่างไร แม้ท่านชายจะร้องไห้ แต่คุณแบมเชื่อว่ามันคือน้ำตาแห่งความสุข เมื่อครั้งที่คุณแบมรู้ คุณแบมเองก็อยากร้องไห้เช่นกัน สิ่งวิเศษเช่นลูกคือสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่คุณแบมไม่สามารถหาคำจำกัดความได้

    นานกว่านาทีที่ท่านชายเงียบลงพร้อมกับซุกหน้าอยู่ที่เดิม ก่อนที่กายหนาจะหยุดสั่นไหวเพราะสะอื้น ก่อนหน้านี้ในงานวันเกิด คุณแบมเองก็เห็นว่ารอบดวงตาของท่านชายแดงช้ำ คงจะแอบร้องไห้มาล่ะซิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่านชายของคุณแบมจะเจ้าน้ำตาขนาดนี้

    “พี่น่าอายจัง” ท่านชายกล่าวเสียงแหบ นั่นเพราะผ่านการร้องไห้มาหมาด ๆ

    “ไม่ใช่สักหน่อย คนที่ร้องไห้ไม่ใช่คนที่น่าอายเลยครับ”

    “พี่ดีใจ ดีใจมาก ๆ ...หัวใจของพี่พองโตไปหมดแล้ว”

    ไม่ต้องบอกคุณแบมก็รู้ดี เพราะท่านชายนั้นเป็นคนที่พูดน้อยเป็นทุนเดิม แต่มาพูดเยอะเพราะคุณแบมทั้งนั้น เรื่องนี้เขารู้มาพักหนึ่งแล้วจากคนรอบตัว คนที่มีโลกส่วนตัวสูงเช่นท่านชาย ภายในใจของเขามักกว้างใหญ่กว่าคนปกติ ขนาดด้านในนั้นยังล้นทะลักออกมา คุณแบมเชื่อว่าพี่ชายมาร์คนั้นมีความสุขแค่ไหน

    “คุณแบมเก่งใช่ไหม คุณแบมให้ของขวัญที่ดีที่สุดกับพี่ชายมาร์คเลยนะ” คุณแบมกล่าวเย้า เพราะอยากได้เสียงหัวเราะจากคนที่ตัวเองรักมากกว่าน้ำตา แม้น้ำตานั้นจะมาจากความสุขก็ตาม ซึ่งมันก็ได้ผล

    “ฮึฮึ เก่งสิคะ น้องแบมเก่งที่สุดอยู่แล้ว”

    ท่านชายหัวเราะในลำคอ นั่งเป็นเก้าอี้นวมหัวขโมยปล้นแก้มกลมของคุณแบมนับครั้งไม่ถ้วน กลิ่นกายหอมจากการอาบน้ำมาหมาด ๆ ยิ่งทำให้ว่าที่คุณพ่อชอบ จนอยากจับจองไปทุกที่ของร่างกายนี้

    “อื้อ พี่ชายมาร์คครับ วันนี้ไม่ได้นะ...”

    คนตัวเล็กส่งเสียงห้ามเมื่อถูกซุกไซ้ที่ซอกคอ เพราะคุ้นชินสัมผัสของท่านชายเป็นอย่างดี จึงรู้ว่าหลังจากวินาทีนี้ไป เก้าอี้จอมลวนลามตัวนี้จะต้องทำอะไรเขาแน่ ด้วยเพราะเรียนหมอมาจึงรู้ข้อมูลเบื้องต้น ครรภ์อ่อนคือครรภ์ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ

    ท่านชายเอง เมื่อถูกน้องห้ามก็ขมวดคิ้วฉงนใจ เพราะแต่เดิมทีคุณแบมไม่เคยห้ามเขาเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ภรรยาของเขาตามใจเสมอมา

    “ทำไมคะ พี่คิดถึงน้องแบม เราไม่ได้ทำกันมานานแล้วนะ”

    คุณแบมถึงกับหน้าร้อนวูบเมื่อถูกถามด้วยประโยคแสนลามก แต่คนถามกลับทำหน้าตายไร้ยางอายเสียจริง

    “เดือนสองเดือนแรกของการตั้งครรภ์คือช่วงเฝ้าระวังครับ”

    อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ท่านชายลบความรู้สึกนั้นออกในทันทีเมื่อได้ยินเหตุผล เสียงถอนหายใจดังขึ้นหลังจากนั้น ก่อนที่ท่านชายจะยอมผละตัวออกจากร่างเล็กเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง

    “พี่ขอโทษนะคะ” ท่านชายกล่าวอย่างรู้สึกผิด

    สีหน้าของท่านชาย ทำให้คุณชายแบมแบมยิ้มบางให้ก่อนจะก้าวตามยืนตรงหน้าสามี

    “ให้คุณแบมช่วยไหมครับ” แม้จะขลาดเขิน แต่คุณชายก็เต็มใจหากท่านชายต้องการให้ช่วย แม้จะไม่สมบูรณ์แต่ถ้าหากเป็นทำให้ท่านชายเขาก็ยอม เมื่อเห็นถึงความหวังดีของภรรยา ท่านชายจึงส่งยิ้มละมุนกลับมาพลางลูบศีรษะกลมอย่างเอ็นดู

    “ไม่เป็นไรค่ะ พี่ทนไหว รอพี่อาบน้ำเสร็จแล้วเรานอนกันนะ”

    “แต่ว่า..”

    “ไม่ค่ะ... ความปลอดภัยของลูกสำคัญที่สุดนะ”

    ท่านชายตัดสินใจแล้ว และจะควบคุมมันเอาไว้ เมื่อเช็กแล้วว่าเป็นอย่างนั้น คุณชายตัวเล็กจึงเคารพในการตัดสินใจของสามีปล่อยให้ท่านชายไปอาบน้ำในขณะที่ตัวเองก็มานั่งรอท่านชายที่เตียงพร้อมหนังสือสำหรับเนื้อหาบทเรียนของวันพรุ่งนี้อย่างเช่นทุกวัน

    ไม่นานเกินรอท่านชายก็ออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพผมที่เปียกลู่ตามใบหน้าคม คุณแบมจึงวางหนังสือในมือลงแล้วอย่างรู้งาน เมื่อสามีตัวสูงเดินเข้ามานั่งที่ตรงหน้าพลางยื่นผ้าเช็ดหัวให้โดยไม่ต้องขอ ท่านชายมักสระผมทุกครั้งยามอาบน้ำ และคุณแบมก็มักจะทำหน้าที่เช็ดผมให้กับเขาเสมอแม้ไม่ขอ จนถึงตอนนี้ทุกอย่างก็กลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว

    “นอกจากเค้ก น้องแบมแพ้ท้องอย่างอื่นไหม ทานอะไรไม่ได้บ้างคะ” ท่านชายกล่าวถาม

    “อืม... ยังไม่แพ้อย่างอื่นนะครับ ถ้าไม่ใช่แป้งเค้กรวมกับครีมก็ทานได้หมดเลย”

    ท่านชายคิดตามในสิ่งที่น้องเอ่ย คุณแบมทานเค้กไม่ได้ทั้งที่เจ้าตัวนั้นชอบทานเค้กเป็นของว่างแค่ไหน แต่จะว่าไปพักนี้กลายเป็นท่านชายเองที่ทานเค้กในเวลาว่างแทนจนต้องเร่งออกกำลังกายหนักขึ้นเพราะอาจเป็นผลกระทบต่อหน้าที่การงานของตน

    “ส่วนพี่พักนี้ก็ทานแต่เค้ก มันเป็นไปได้หรือเปล่าคะที่พี่อาจจะแพ้ท้องแทนน้องแบม”

    “อ่า... นั่นนะสิครับ หรือว่าจะเป็นเรื่องจริงนะ” คนตัวเล็กทำหน้าฉงนครุ่นคิดตาม เรื่องแบบนี้ก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าสามีอาจแพ้ท้องแทนภรรยา แต่ส่วนมากก็มักจะอาเจียนเหม็นอาหาร สำหรับคู่ของเราถือว่าแปลกมาก ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเล็กของคุณแบมคงจะไม่ธรรมดาซะแล้ว

    “แต่เขาว่ากันว่า สามีที่แพ้ท้องแทนภรรยาก็เพราะว่ารักมากพี่ว่าทฤษฎีนี้น่าจะจริง” ทานชายมาร์คว่าพลางยิ้มกริ่มเมื่อเห็นใบหน้าของน้องเปลี่ยนสี ท่านชายยอมรับว่าตัวเองนั้นเสพติดใบหน้านี้ของน้อง ถ้าไม่ได้เห็นคงนอนไม่หลับ สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวหัวแก้มภรรยาตนสักที

    “ผมแห้งแล้วครับ นอนได้แล้ว” คุณแบมเฉไฉ ก่อนจะส่งผ้าขนหนูให้ท่านชายแล้วมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มเหลือไว้เพียงดวงตากลมที่จับจ้องสามี

    ท่านชายเองก็เห็นว่ามันดึกมากแล้วไม่อยากรบกวนว่าที่คุณแม่เพราะอาจส่งผลต่อสุขภาพของเจ้าตัวน้อยของพระองค์ด้วย เมื่อเดินไปตากผ้าเช็ดหัวเสร็จร่างสูงจึงเดินเข้ามานอนอีกฝั่ง ก่อนจะคว้าร่างเล็กของคุณแม่มาในอ้อมกอด

    พร้อมกับคำพูดประจำวันระหว่างทั้งคู่

    “ฝันดีค่ะที่รัก”

    “ฝันดีครับ”

    คืนนั้นคุณแบมหวังเหลือเกินว่าเจ้าตัวเล็กเองจะฝันดีเฉกเช่นพ่อแม่ของเขา ขอบคุณที่เกิดมานะครับคนเก่งของแม่..





    ปก by @morairart 

    อวดรูปร่างปกนิยายก่อน ไว้นักวาดวาดเสร็จจะเปิดให้ลงชื่อจองน้า จะทำจำนวนจำกัดเท่านั้นค่ะ



    เม้นให้หน่อยน้า อยากอ่านเม้น 


    ช่วงนี้จะไม่อัพทุกวันเพราะขอเคลียร์เล่มยาว ๆ เลย ตอนนี้ก็แต่งเกือบ 80% แล้ว  

    ขอให้รอกันอย่างใจเย็นนะคะ

    ฝากแชร์นิยายให้ไรท์เตอร์ด้วยน้า หรือพูดคุยกันในแท็ก #สุภาพบุรุษมบ ในทวิตเตอร์ได้ค่ะ

    ยังไม่เช็คคำผิดนะ ใครเจอเม้นบอกไว้ได้เลยค่ะ 







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×