คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 18 ❁ บลูเบอรี่ชีสพาย 100% ❁
ส่วนตัวต้นเหตุหรือได้แต่ยิ้มที่มุมปากยามเห็นคนสวยตรงนั้นแก้มแดงเป็นเชอรี่
คุณชายเจปคนดีคนเก่งของสหายหนีมาคลุกตัวอยู่ที่ร้านเบเกอรี่เป็นประจำนานนับเดือนแล้ว
ด้วยเหตุผลว่าคุณแม่ตัดใจขนมจากร้านนี้ จำเป็นต้องแวะมาซื้อให้เป็นประจำ
ถึงแม้ความจริงแล้วคนป้ายยาคุณแม่จะเป็นตัวเขาเองก็ตาม เพราะคุณชายเจปมักจะซื้อขนมไปฝากท่านเป็นประจำจนท่านติดใจให้ซื้อไปให้เรื่อย
ๆ
จนบางทีก็อยากจะซื้อขาดตัวคนทำไปไว้ที่บ้าน
ติดว่าซื้อที่ว่าต้องให้ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายจัดการให้
จับแต่งเข้าวังเสียก็สิ้นเรื่อง
จริงไหม?
“วันนี้รับอะไรดีครับคุณชาย”
เสียงหวานที่คุ้นเคยมักเอ่ยถามเขาเป็นประจำด้วยประโยคเดิม ๆ ซึ่งคำตอบจากปากเขาก็ไม่ต่างจากทุกวัน
“วันนี้เธอทำอะไรก็เอาอันนั้น”
อีกแล้ว คุณชายคนนี้มักทำให้จูเนียร์ไปไม่เป็นอยู่เรื่อย
ก็ขนมที่เขาทำมันไม่ต่ำกว่าสิบอย่าง
จะเอาทั้งหมดนั่นเลยหรืออย่างไร
จูเนียร์ช้อนตามองชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเม้มปากแน่นและจำใจรับเมนูมากะว่าจะเดินออกไปอย่างเงียบ
ๆ หากแต่กลับถูกคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน
เป็นอีกครั้งที่คุณชายเจบีทำให้เหล่าคนงานในร้านหลุบตาหนีด้วยสายตาเขินอายไม่กล้ามองมาที่ทั้งสองคน
ขนาดเหล่าลูกจ้างของจูเนียร์ยังรู้สึก นับประสาอะไรกับเจ้าตัวเล่า
“คุณแม่ฝากถาม...
จะมีโอกาสไหมจะได้เจอตัวเชฟตัวเป็น ๆ”
“...”
“หรือต้องให้ไปเจอที่วังภูวกุลดี”
ใบหน้าสวยร้อนวูบจนแทบระเบิด
คำพูดสื่อความนัยของคุณชายคนนั้นเป็นสาเหตุ ใช่ว่าจูเนียร์จะไม่เคยฟังมาก่อน เพราะท่านพ่อเคยมาเกริ่นไว้แล้วช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาว่าได้รับการทาบทามจากตระกูลกิตติธนากุลด้วยเรื่อง...
‘สะใภ้ใหญ่’
หลายเดือนที่ผ่านมาใช่ไม่รู้ว่าถูกคุณชายผู้นั้นจีบอยู่
นับตั้งแต่การประชุมร่วมโครงการด้วยกันครั้งนั้น คุณชายเจบีก็แสดงตัวชัดเจนว่าเขามีเจตนาเช่นไรกับตน
ซึ่งจูเนียร์เองก็ไม่ปฏิเสธว่าตนก็รู้สึกดีกับอีกฝ่ายเช่นกัน
แต่ใครจะรู้ว่าคุณชายเจบีจะใจร้อนขนาดนี้
ทั้งที่ไม่เคยขอให้เป็นแฟนเสียด้วยซ้ำ... รู้ตัวอีกทีจะให้เขาแต่งงานเข้าบ้านตนซะได้
ทำมาบอกว่าจะให้คุณแม่ตนมาบ้าน...
เมื่อสามวันก่อนท่านพ่อของคุณชายก็มาแล้วไม่ใช่หรือไง
“คุณชายเจบีครับ...
ระ เรื่องแต่งงาน ผมเห็นว่ามันไม่เร็วไปหรือครับ”
“งั้นเหรอ
ฉันคิดว่าช้าไปซะอีก”
“...”
“เธอไม่อยาก...
แต่งงานกับฉัน?”
เสียงทุ้มเย็นลงเช่นดวงตา
จูเนียร์เชยตามองอีกฝ่าย ใบหน้าเรียบยามนี้หม่นลง แม้คนอื่นจะไม่ทันสังเกต แต่คนที่เคยพบเจอมาเป็นเดือนหรือจะไม่เอะใจ
แต่ใช่ว่าคุณชายใหญ่แห่งวังภูวกุลจะปฏิเสธฝ่ายนั้น หากแต่ระยะเวละที่เร็วและข้ามความสัมพันธ์มันอาจไม่ใช่เรื่องดี
สงสัยต้องคุยกับคุณชายเจบีให้เขาใจเสียแล้ว
ร่างบางของจูเนียร์ก้าวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างกายนายเรืออากาศ
พลางสบตาอีกฝ่ายไม่หลบสายตาอีกต่อไป ท่านพ่อมาถามความสมัครใจจูเนียร์ก่อนและให้เขาเป็นคนตัดสินใจเอง
กรณีนี้ต่างจากท่านชายและคุณแบม สองคนนั้นไม่อาจเลี่ยงคำสัตย์สาบานของผู้ใหญ่ได้
โชคดีที่ชีวิตคู่ของน้องชายเป็นในทิศทางที่ดีเพราะต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีให้กัน
เขาไม่ได้จะปฏิเสธ
แค่ต้องการเวลาศึกษาดูใจดท่านั้น...
“ผมแค่ต้องการเวลา
อยากเรียนรู้ซึ่งกันและกันใหม่มากกว่านี้ ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณชายชอบทานอะไรไม่ชอบอะไร
มันจะดีกว่าถ้าเราค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่เหรอครับ...”
“ฉันชอบทุกอย่างที่เธอทำ...
แม้ไม่ชอบทานของหวาน แต่ถ้าเป็นของเธอฉันจะทาน”
“...”
“ฉันไม่ชอบความวุ่นวาย
ไม่ชอบเมืองหลวง ชอบธรรมชาติ ความเงียบสงบ ก็มีเท่านี้คราวนี้เธอรู้หมดแล้ว”
“โธ่คุณชาย...
ไม่ใช่แบบนี้สิครับ”
จูเนียร์สีหน้าอ่อนลงไม่น้อย
เขาเอ็นดูความเอาแต่ใจและใจร้อนของฝ่ายนั้น แม้ภายนอกจะเย็นชา แต่ภายในไม่ต่างกับเด็กเลย
คนที่เป็นพี่มาตลอดชีวิตอย่างคุณชายจูเนียร์จึงมีวิธีรับมือคนประเภทนี้เสมอ
“คุณชายครับ
ผมไม่ได้จะปฏิเสธ แค่อยากเรียนรู้กันไปก่อน ผลลัพธ์มันก็ไม่ต่างกัน” แม้จะเขินอายอยู่บ้าง
หากแต่ปล่อยผ่านไปก็ไม่ได้ คนสวยลูกชายเจ้าของร้านจึงจำต้องอธิบายให้เข้าใจ
“...”
“คุณชายเจบีครับ”
“ถ้าเธอสัญญาว่าจะไม่ให้โอกาสใคร”
ใบหน้าขึงขังเหมือนเด็กกำลังเอาแต่ใจทำเอาคนถูกมองอยู่อย่างจูเนียร์ลอบยิ้ม
ซึ่งรอยยิ้มนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้หูทั้งสองข้างของคุณชายเจปเปลี่ยนสีไม่ต่างจากแก้มเดง
ๆ ของตนเลย
“ครับ...
ผมจะไม่ให้โอกาสใคร”
“...”
“นอกจากคุณชายคนเดียว”
วันเวลาผ่านพ้นไปหลายสัปดาห์
นับตั้งแต่วันสุดท้ายของการเข้าค่ายอาสา คุณแบมกลับมาเรียนตามปกติ
หากย้อนคิดถึงวันเข้าค่าย ในวันที่ 6
คนตัวเล็กตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยล้าจนเกือบป่วย แต่ภรรยาตัวน้อยของท่านชายก็ไม่ยอมนอนอยู่เฉย
ๆ เมื่อถึงเวลาก็ลุกขึ้นไปเข้าซุ้มต่อ ไม่ว่าท่านชายจะห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง
โชคดีที่น้องไม่ถูกพิษไข้เล่นงาน
ท่านชายอดคิดไม่ได้ว่าร่างกายคุณแบมคงเริ่มคุ้นชินแล้ว
ทุกอย่างล้วนหมุนไปตามกาลเวลาของมัน
ขับเคลื่อนตามครรลอง ท่านชายยังคงปฏิบัติหน้าที่ ทั้งทางราชการและเริ่มมีบทบาทภายในธนาคารเนื่องจากพระองค์เจ้าเมทินยังคงติดตามองค์กษัตริย์อยู่
คนที่ดูแลบริษัทแทนจึงเป็นลูกชายเพียงคนเดียว จึงทำให้ท่านชายแทบไม่มีเวลาพักผ่อน
พาลให้คนเป็นภรรยาเป็นห่วง
วันนี้เป็นวันหยุด
คุณชายตัวเล็กไม่มีเรียน แต่ท่านชายกลับไม่ว่างเพราะต้องเข้าไปกรมแต่เช้า ทำงานชดเชยวันที่ลาไปประชุมเมื่อวันก่อน
ท่านชายมาร์คต้องเข้าฝึกให้กับนายทหารฝึกหัด ทั้งที่ความจริงแล้วต้องฝึกเมื่อวานแต่ท่านชายกลับติดประชุมจึงเลื่อนมาวันนี้
คุณแบมอยากช่วยผ่อนคลายให้อีกฝ่ายบ้าง
แม้ว่าตอนกลางคืนจะมักถูกก่อกวนจากอีกคนแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่เหมือนกัน และด้วยความอยากส่วนตัวบวกผสมกับความห่วงใย
คนตัวเล็กจึงให้คนขับรถที่วังมาส่งที่ร้านขนมของหม่อมแม่นางน้อยเพื่อทำภารกิจอันยิ่งใหญ่
“พี่ชายเนียรรรรร์”
เสียงมาก่อนตัว แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นพี่อย่างชายเนียร์ก็จำได้
คุณชายใหญ่แห่งวังภูวกุลอ้าแขนรับน้องชายตัวเล็กที่พุ่งมากอด
จะว่าไปก็ไม่ได้เจอน้องเลยสงสัยท่านชายจะเลี้ยงดีถึงได้อวบอิ่มขนาดนี้ เมื่อกี้ตอนกอดรู้สึกเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“วิ่งมาเป็นเด็กเลยนะคุณแบม”
ถึงจะบ่นแต่กลับโยกตัวน้องไปมา
“งื้อออ
คุณแบมคิดถึง”
“ฮ่า ๆ ตัวแสบ
มาสิ วันนี้พี่อบพายองุ่นไว้ด้วย”
คุณแบมยิ้มร่าทันทีที่ได้ยินคำพูดหวานหู
คนชอบกินตาวาวเดินตามพี่ชายเข้าครัวไปอย่างเบิกบาน ลืมเจตนาสำคัญที่มาที่ยี่ไปชั่วครู่เมื่อถูกหลอกล่อด้วยของโปรด
ขวัญใจทุกที่อย่างคุณชายตัวน้อยถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากทุกคนภายในร้าน
น้องน้อยนั่งทานพายองุ่นและน้ำชามะลิสูตรเด็ดของพี่ชายไปด้วยจนเลอะมุมปาก
วุ่นวายให้พี่ชายคนโปรดเอื้อมมือไปเช็ดให้อย่างเอ็นดู ภาพความน่ารักของทั้งคู่อยู่ท่ามกลางสายตาพนักงาน
ช่วงเวลานี้ครอบครัวภูวกุลมีแต่เรื่องดีจริง ๆ
“อร่อยมากเลยยย
คุณแบมคิดถึงอาหารฝีมือพี่ชายเนียร์ที่สุด” คนตัวเล็กพูดเอาใจพี่ชาย
“ใช่หรือเปล่า
ไม่ใช่ติดฝีมือคนที่วังเทวะโรจนหิรัญแล้ว ดูสิ แก้มล้นไปหมดแล้ว”
ว่าพลางจิ้มแก้มน้อยน้องไปด้วย
กลมจริง ๆ นั่นแหละ
“แหะ ๆ”
“แล้วมาที่นี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า
ได้แวะไปที่วังบ้างหรือยังล่ะเรา”
“ยังเลยครับ จริงสิ
คุณแบมลืมไปเลย...” เมื่อถูกพี่ชายเตือนสติ คนตัวเล็กเลยรีบวางช้อนลงทันที
คุณแบมมีภารกิจใหญ่หลวงที่อยากทำ
และต้องให้พี่ชายของตนช่วย!!
เพื่อพี่ชายมาร์ค
คุณแบมจะพยายาม!!
“คุณแบมอยากทำขนม
พี่ชายเนียร์ช่วยสอนคุณแบมน้า...”
....คุณแบมเนี่ยนะเหรอจะเข้าครัว...
คุณชายจูเนียร์ถึงกับลมแทบจับเมื่อน้องบอกแบบนั้น...
เห็นที... คงได้เวลาแต่งครัวใหม่เสียแล้วสินะ - -;;;
“...ไม่เป็นอะไรนะคุณแบม
พี่ว่ามันอร่อยแล้วนะ”
สองมือลูบหัวทุยของน้องชายเพื่อปลอบใจ
ใบหน้ากลมเศร้าหมองจนน่าสงสาร ดวงตาของทั้งคู่จ้องไปยังผลงานของเจ้าตัวเล็ก
ที่ให้ชื่อว่าบลูเบอรี่ชีทพายที่รูปร่างไม่ใกล้เคียงกับต้นฉบับ
ตัวเนื้อครีมไม่เซ็ตไหลออกมาไม่เข้าทรง เกล็ดแครกเกอร์ไม่ละเอียด
คนที่ตั้งใจทำกว่าสองชั่วโมงถึงกับซึมไปถนัดตา
“...
คุณแบมไม่ได้เรื่องเลย”
“อย่าคิดแบบนั้นสิคุณแบม
เราพยายามขนาดนี้มันดีมากแล้วครับตัวเล็ก”
พี่ชายคนโตพยายามปลอบเพราะเห็นใบหน้าเศร้าหมองนั่นแล้วก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก
น้องชายของเขาเป็นเจ้าของรอยยิ้มที่สุดใสเสมอมา แต่วันนี้กลับตรงกันข้าม คนเป็นพี่มีหรือจะไม่ปวดใจ
“แต่มันทานไม่ได้เลย”
“เอาอย่างนี้ไหม
พี่จะทำให้ใหม่ คราวนี้ให้คุณแบมเป็นคนใส่ส่วนผสมให้พี่”
“...”
“ถึงยังไงก็เป็นชีทพายที่คุณแบมทำอยู่ดีนะ
ไว้คราวหน้าเราค่อยมาฝึกกันใหม่เป็นไง”
คุณชายคนเล็กของวังมีสีหน้าที่ดีขึ้นหลังจากที่คิดตามในสิ่งที่พี่ชายพูด
ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนลงมือทำทั้งหมดคนเดียว แต่มันก็คงดีกว่าที่จะเอาของที่อยู่ตรงหน้านี้ไปให้พี่ชายมาร์คทาน
สุดท้ายคุณแบมก็ลุกขึ้นมาลงมือทำมันอีกครั้งโดยคราวนี้มีความช่วยเหลือจากคุณชายจูเนียร์ด้วย
ไม่นานจนเกินไป
บลูเบอรี่ชีทพายก็ที่สมบูรณ์แบบก็เสร็จ โดยคุณแบมและผู้ช่วยคนสำคัญอย่างพี่ชายคนโตที่ช่วยกว่า
70% ถึงอย่างนั้นคนคิดบวกอย่างคุณชายคนเล็กแห่งวังภูวกุลก็ภูมิใจเป็นอย่างมาก
ว่าที่คุณหมอมองผลงานชิ้นโบว์แดงของตัวเองอย่างภูมิใจ
คุณแบมตั้งใจจะไปหาพี่ชายมาร์คที่กรมเพราะเห็นว่าอีกคนน่าจะทำงานหนักไม่หยุดเลยแม้เสาร์อาทิตย์
แล้วคนตัวเล็กก็ไม่ได้บอกคนพี่อยากจะเซอร์ไพรซ์ ไม่รู้พี่ชายมาร์คจะชอบไหมนะ
“ท่านชายมาร์คนี่เก่งจังเลยนะ
ทำน้องชายพี่เข้าครัวทั้งที่ไม่ชอบได้”
คุณชายจูเนียร์ว่าพลางเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อถอดผ้ากันเปื้อนออก
รอยยิ้มกริ่มของพี่ชายทำเอาคนถูกแซวหน้าแดงไม่ต่างจากลูกสตอเบอรี่ในถาดเบื้องหน้า
เห็นทั้งคู่เข้ากันได้ดีกว่าที่คิดแบบนี้ก็ทำให้คนที่รู้สึกติดค้างเบาใจขึ้น
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณชายจูเนียร์รู้สึกว่าตนเห็นแก่ตัวผลักภาระให้น้องชายแต่งงานแทนตน
โชคดีที่ท่านชายเป็นสุภาพบุรุษสมฐานะเขาถึงสบายใจ
“พี่ชายเนียร์อ่า
อย่าล้อคุณแบมสิครับ”
“ฮ่า ๆ โอเคครับ
แล้วนี่จะกลับเลยไหม เดี๋ยวพี่จะได้จัดของฝากไปให้พระองค์เจ้ากับท่านหญิงม่านฟ้าด้วย”
“ของคุณแบมด้วยน้า”
เจ้าตัวยุ่งอ้อนทำตาปริบ
ๆ ท่านรองประธานบริษัทอย่างชายเนียร์จึงหยิกแก้มกลม ๆ นั่นสักทีอย่างหมั่นเขี้ยว เมื่อได้รับของฝากมาเต็มไม้เต็มมือ
คุณชายตัวเล็กก็มุ่งหน้าไปยังกรมทหารอากาศโดยคนขับรถที่จอดรออยู่ คนตัวเล็กไม่ส่งกล่องบลูเบอรี่ชีทพายให้ใครถือเฉกเช่นของอย่างอื่น
คุณแบมวางไว้บนตักอย่างหวงแหนรอให้เจ้าของที่แท้จริง
กว่าหนึ่งชั่วโมงด้วยระยะทางและการจารจร
สุดท้ายรถยนต์คันหรูของวังเทวะโรจนหิริญก็เข้าสู่รั่วกรมทหารอากาศ
คุณแบมตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศภายนอกรถเอามาก ๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ได้มายังสถานที่แห่งนี้
ชายฉกรรจ์นับสิบนับร้อยต่างฝึกร่างกายกันอย่างไม่หยุดพัก
บ้างก็วิ่ง บ้างก็ซ้อมการทหาร บ้างก็ซ้อมบิน เรียกได้ว่าคุณชายที่อยู่สถานะภรรยาอย่างคุณแบมไม่เคยเฉียดเข้าใกล้สถานที่เหล่านี้เลยสักครั้ง
รถยนต์แปลกตาเรียกสายตาของเหล่านายทหารได้เป็นอย่างดี
ต่างพากันเหลียวมองตามเพราะสงสัยว่าเวลานี้ใครกันที่มาเยือน จนกระทั่งรถคันดังกล่าวจอดลงที่อาคารศูนย์กลางของค่ายจึงได้พบบุคคลที่ก้าวลงมา
เป็นคนที่ไม่ว่าใครก็ต่างสนใจ ยิ่งกับเหล่าทหารซึ่งไม่ได้ออกไปพบกับคนภายนอกยิ่งดึงดูดเมื่อคนน่ารัก
ๆ มาเยือนถึงที่ขนาดนี้
เจ้าของแก้มกลมผมชมพูผู้ครอบครองรอยยิ้มเต็มแก้มตกอยู่ในสายตาของคนทั้งกรมอย่างไม่ต้องสงสัย
ตัวแสบของท่านชายโอบกล่องบลูเบอรี่ชีทพายไว้แน่นพลางสอดสายตาไปทั่วบริเวณเพื่อส่องหาสามีของตน
แต่จนแล้วจนรอดก็มองไม่เห็น เลยตัดสินใจเดินไปถามใครบางคนที่อยู่ใกล้ที่สุด และนั่นก็คือเหล่านายทหารชั้นผู้น้อยซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพักแล้วนั่งจับกลุ่นสนทนากันอยู่
“รบกวนสักครู่นะครับ”
เสียงใสเอ่ยขึ้นอย่างขลาดเขิน คุณชายตัวน้อยเจ้าของแก้มใสแจ๋วเดินเข้ามาถาม ทำเอาเหล่านายทหารพากันเลิกลักไปไม่ถูก
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผู้กล้าที่เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือคนสวยตรงหน้า
“มีอะไรให้ช่วยหรือครับ”
หนุ่มตัวสูงทรงผมสกินเฮดเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าชู้ส่งมาให้ คุณชายผู้นี้ดูแล้วเป็นราชนิกุลสูงส่งแน่นอน
จากเสื้อผ้าหน้าผมคนติดตาม แล้วยังรถที่ราคาสูงทะลุขนาดนั้นอีก ใครบ้างจะไม่สนใจ
หากแต่หากสังเกตอีกสักนิดจะเห็นตราศัญลักษณ์ส่วนท้ายของรถคันนั้นว่ามาจากที่ใด
ครานั้นคนเหล่านี้คงปฏิบัติต่อคุณชายแบมแบมต่างออกไปแน่นอน
“คือ... อะ เอ่อ
พอรู้ไหมครับว่าท่านชายมกรธวัชอยู่ที่ใด”
“...”
“...”
สถานการณ์เปลี่ยนไปทันทีที่เอ่ยนามของบุคคลทรงอิทธิพลในกรมขึ้นมา
กองทัพอากาศแห่งแคว้นนี้มีใครไม่รู้จักท่านชายมาร์คบ้าง เกียรติศัพท์ลือก้องเต็มไปด้วยความเย็นชาและเคร่งครัด
เป็นทหารชั้นผู้นำที่เหล่าทหารชั้นน้อยต่างยำเกรงด้วยกันทั้งนั้น
ตอนนี้นายทหารกลุ่มนี้เริ่มพากับเหงื่อไหลไคลย้อยเมื่อรู้สึกพึงรางสังหรณ์ประหลาดเกี่ยวกับคุณชายผู้นี้เสียแล้ว
ร่ำลือกันว่าท่านชายแต่งงานกับคุณชายตระกูลดัง
ถึงแม้จะเป็นเพศชายด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ไม่มีใครกล้าเถียงเลยว่าภรรยาของท่านชายหน้าตาไม่น่าหลงใหล
ว่ากันว่าท่านชายหลงภรรยาขนาดไหน ถึงขั้นยอมเปลี่ยนตัวลงไปเป็นนักบินให้มหาวิทยาลัยเพื่อตามเฝ้าภรรยาตัวเอง
ชัดเจนขนาดนี้...
จากที่ได้เห็นคุณชายตรงหน้านี้แล้ว ไม่เถียงเลยว่าทำไมท่านชายถึง ‘ติดเมีย’ ขนาดนี้
“เอ่อ... ไม่รู้จักพี่ชายมาร์คหรอกเหรอเนี่ย...”
เมื่อเห็นว่าพวกพี่ทหารเหล่านั้นไม่ตอบ
คนตัวเล็กเลยสรุปเอาเอง แถมพวกพี่เขายังดูหน้าซีดลงเหมือนกับว่าคุณแบมพาความลำบากใจมาให้อย่างนั้น
คุณแบมรู้สึกผิดจัง...
“ปะ เปล่าครับ
ไม่ทราบว่านัดไว้หรือเปล่าครับ เพราะถ้าไม่นัดไว้ท่านชายไม่รับแขกจากภายนอก”
นี่เป็นเรื่องจริง
ท่านชายไม่เคยรับแขกที่ไม่รู้จักหรือไม่นัดไว้มาก่อน ยิ่งพักหลังมายิ่งเคร่งครัดเป็นพิเศษ
นี่ก็เป็นข่าวลือที่พูดกันหนาหูว่าท่านนายพลพยายามส่งตัวลูกสาวให้ท่านชายรับไว้ดูแลเป็นภรรยาอีกคน
ซึ่งฝ่ายหญิงก็เทียวมาเทียวไปเสมอ แต่ติดที่ว่าท่านชายไม่เคยพบเลยสักครั้งเดียว
ตอนแรกคนในกรมก็พากันสงสัยว่าทำไมท่านชายถึงได้ปฏิเสธหญิงงามล่มเมืองขนาดนั้น
แต่ถ้าคุณชายผู้นี้เป็นภรรยาของท่านชายจริงอย่างที่พากันตั้งข้อสันนิษฐาน
ก็ไม่แปลกหรอกที่ท่านชายจะรักเดียวใจเดียว
“เอ่อ...
ต้องนัดด้วยหรือครับ” คนตัวเล็กถามไม่เต็มเสียงนัก
“ครับ
ท่านชายสั่งไว้ ว่าถ้าหากไม่ได้นัดไว้ห้ามเข้าพบเด็ดขาด”
“...แย่แล้วสิ”
ปากเล็กเบะลงจนคนมองเผลอกลืนน้ำลายลงคอกับภาพความน่ารักน่าเอ็นดูของคุณตัวขาวตรงหน้า
ให้ตาย ทำไมน่ารักน่ามองขนาดนี้นะตัวแค่นี้ แต่เสี่ยงตายมากเกินไปหน่อย เพราะถ้าคุณเขาเป็นคนที่สงสัยจริงคงโดนซ่อมเช้ากลางวันเย็นสามเวลาหลังอาหารเลยก็ว่าได้
คนตัวเล็กที่ไม่รู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ก้มมองบลูเบอรี่ชีทพายในอ้อมแขนด้วยสีหน้าหงอยเหงา
เหล่าพี่ชายนายทหารก็รู้สึกเห็นใจไม่น้อย ก็คุณชายผู้นี้นี่สิ ทำไมถึงได้หงอยได้น่ารักขนาดนี้ก็ไม่รู้
“คุณแบมครับ” ลุงคนขับรถที่ยืนสงบอยู่ด้านหลังเอ่ยเรียกคนตัวเล็กด้วยความนอบน้อม
“คุณแบมมาเสียเที่ยวแล้วครับคุณลุง”
“ลองโทรแจ้งท่านชายไหมครับ”
“...คุณแบมอยากเซอร์ไพรซ์นี่นา...”
คนตัวเล็กตอบเสียงจ๋อย
ความจริงก็อยากทำอย่างที่คุณลุงเอ่ยแนะนำ แต่เพราะเหตุผลอยากจะเซอร์ไพรซ์จึงไม่อาจทำได้...
อีกอย่าง ถ้าพี่ชายมาร์คยุ่งอยู่ล่ะ ถึงอีกคนบอกว่าให้โทรหาเมื่อไหร่ก็ได้ก็เถอะ
แต่มันก็มากล้าอยู่ดี
ส่วนนายทหารชั้นผู้น้อยก็พากันฟังบทสนทนาของทั้งคู่กันเงียบ
ๆ และมองตากันไปมาว่าจะเอายังไงดี กรณีนี้พวกเขาไม่กล้าตัดสินใจเลยว่าควรทำยังไง ถ้าให้พบเลยแล้วถ้าคุณชายผู้นี้ไม่ใช่ภรรยาท่านชายจะไม่โดนสั่งซ่อมยับเหรอ
แล้วถ้าคนผู้นี้ใช่แล้วพวกเขาไม่ให้พบล่ะ...
อย่างไหนก็โดนทำโทษทั้งนั้น
สุดท้ายคนใจกล้าที่สุดในนั้นก็อดใจไม่ไหวตัดสินใจถามออกไปตามตรง
“ขออนุญาติถามหน่อยได้ไหมครับว่าคุณชายเป็นอะไรกับท่านชาย”
เสียงของพี่ชายคนนั้นเอ่ยถาม ทำเอาคนตัวเล็กเม้มปากแน่นกับสถานะของตัวเอง
เพราะเขินจนแก้มแดงจนแทบระเบิดทุกครั้งที่ประกาศฐานะของตัวเองที่มีกับพี่ชายมาร์ค
แต่ในขณะที่กำลังจะตอบออกไป
กลับถูกเสียงหนึ่งขัดขึ้นเสียก่อน...
เป็นเสียงที่ทำให้เหล่านายทหารเหล่านั้นขนลุกขนพองกันเป็นแถบ
“ผมให้พวกคุณพักคงไม่ชอบ
สงสัยอยากเหนื่อยกันมากกว่าสินะ”
ชัดเจน...
ไม่ต้องถามก็รู้คำตอบแล้วว่า...
เมียท่านชัดๆ T_T
ความคิดเห็น