ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #18 : ตอนที่ 18 ❁ บลูเบอรี่ชีสพาย 100% ❁

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 8.84K
      918
      11 มิ.ย. 63

    TB
    ตอนที่ 18

    ชวนทำบลูเบอรี่ชีสพาย ขนมไม่อบ สูตรนี้ครีมชีสเข้มข้นสุดๆ อธิบาย ...




        เสียงรองเท้าหนังราคาแพงกระทบพื้นสร้างจังหวะต่อเนื่องแต่หนักแน่น ร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์กำลังเดินตรงไปนั่งที่บริเวณที่นั่งซึ่งทางร้านเบเกอรี่แห่งนี้จัดทำขึ้นให้ลูกค้า คุณชายนายเรือตระกูลดังกลายเป็นลูกค้าที่เหล่าพนักงานจำหน้าได้เป็นอย่างดี พลางแอบมองอีกฝ่ายด้วยสายตากรุ่มกริ่ม ก็จะอะไรซะอีก คุณชายผู้นั้นเล่นมองคุณเจ้านายเขาจนใบหน้าสวยของเจ้านายเปลี่ยนสีแบบนั้นตลอด มันก็ทำให้คนอื่นที่แอบมองเขินตามกันไปเป็นแถบ

    ส่วนตัวต้นเหตุหรือได้แต่ยิ้มที่มุมปากยามเห็นคนสวยตรงนั้นแก้มแดงเป็นเชอรี่ คุณชายเจปคนดีคนเก่งของสหายหนีมาคลุกตัวอยู่ที่ร้านเบเกอรี่เป็นประจำนานนับเดือนแล้ว ด้วยเหตุผลว่าคุณแม่ตัดใจขนมจากร้านนี้ จำเป็นต้องแวะมาซื้อให้เป็นประจำ ถึงแม้ความจริงแล้วคนป้ายยาคุณแม่จะเป็นตัวเขาเองก็ตาม เพราะคุณชายเจปมักจะซื้อขนมไปฝากท่านเป็นประจำจนท่านติดใจให้ซื้อไปให้เรื่อย ๆ

    จนบางทีก็อยากจะซื้อขาดตัวคนทำไปไว้ที่บ้าน ติดว่าซื้อที่ว่าต้องให้ผู้ใหญ่เป็นฝ่ายจัดการให้

    จับแต่งเข้าวังเสียก็สิ้นเรื่อง จริงไหม?

    “วันนี้รับอะไรดีครับคุณชาย” เสียงหวานที่คุ้นเคยมักเอ่ยถามเขาเป็นประจำด้วยประโยคเดิม ๆ ซึ่งคำตอบจากปากเขาก็ไม่ต่างจากทุกวัน

    “วันนี้เธอทำอะไรก็เอาอันนั้น”

    อีกแล้ว คุณชายคนนี้มักทำให้จูเนียร์ไปไม่เป็นอยู่เรื่อย

    ก็ขนมที่เขาทำมันไม่ต่ำกว่าสิบอย่าง จะเอาทั้งหมดนั่นเลยหรืออย่างไร

    จูเนียร์ช้อนตามองชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเม้มปากแน่นและจำใจรับเมนูมากะว่าจะเดินออกไปอย่างเงียบ ๆ หากแต่กลับถูกคว้าข้อมือเอาไว้เสียก่อน

    เป็นอีกครั้งที่คุณชายเจบีทำให้เหล่าคนงานในร้านหลุบตาหนีด้วยสายตาเขินอายไม่กล้ามองมาที่ทั้งสองคน ขนาดเหล่าลูกจ้างของจูเนียร์ยังรู้สึก นับประสาอะไรกับเจ้าตัวเล่า

    “คุณแม่ฝากถาม... จะมีโอกาสไหมจะได้เจอตัวเชฟตัวเป็น ๆ”

    “...”

    “หรือต้องให้ไปเจอที่วังภูวกุลดี”

    ใบหน้าสวยร้อนวูบจนแทบระเบิด คำพูดสื่อความนัยของคุณชายคนนั้นเป็นสาเหตุ ใช่ว่าจูเนียร์จะไม่เคยฟังมาก่อน เพราะท่านพ่อเคยมาเกริ่นไว้แล้วช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาว่าได้รับการทาบทามจากตระกูลกิตติธนากุลด้วยเรื่อง... สะใภ้ใหญ่

    หลายเดือนที่ผ่านมาใช่ไม่รู้ว่าถูกคุณชายผู้นั้นจีบอยู่ นับตั้งแต่การประชุมร่วมโครงการด้วยกันครั้งนั้น คุณชายเจบีก็แสดงตัวชัดเจนว่าเขามีเจตนาเช่นไรกับตน ซึ่งจูเนียร์เองก็ไม่ปฏิเสธว่าตนก็รู้สึกดีกับอีกฝ่ายเช่นกัน

    แต่ใครจะรู้ว่าคุณชายเจบีจะใจร้อนขนาดนี้ ทั้งที่ไม่เคยขอให้เป็นแฟนเสียด้วยซ้ำ... รู้ตัวอีกทีจะให้เขาแต่งงานเข้าบ้านตนซะได้

    ทำมาบอกว่าจะให้คุณแม่ตนมาบ้าน... เมื่อสามวันก่อนท่านพ่อของคุณชายก็มาแล้วไม่ใช่หรือไง

    “คุณชายเจบีครับ... ระ เรื่องแต่งงาน ผมเห็นว่ามันไม่เร็วไปหรือครับ”

    “งั้นเหรอ ฉันคิดว่าช้าไปซะอีก”

    “...”

    “เธอไม่อยาก... แต่งงานกับฉัน?”

    เสียงทุ้มเย็นลงเช่นดวงตา จูเนียร์เชยตามองอีกฝ่าย ใบหน้าเรียบยามนี้หม่นลง แม้คนอื่นจะไม่ทันสังเกต แต่คนที่เคยพบเจอมาเป็นเดือนหรือจะไม่เอะใจ แต่ใช่ว่าคุณชายใหญ่แห่งวังภูวกุลจะปฏิเสธฝ่ายนั้น หากแต่ระยะเวละที่เร็วและข้ามความสัมพันธ์มันอาจไม่ใช่เรื่องดี สงสัยต้องคุยกับคุณชายเจบีให้เขาใจเสียแล้ว

    ร่างบางของจูเนียร์ก้าวเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างกายนายเรืออากาศ พลางสบตาอีกฝ่ายไม่หลบสายตาอีกต่อไป ท่านพ่อมาถามความสมัครใจจูเนียร์ก่อนและให้เขาเป็นคนตัดสินใจเอง กรณีนี้ต่างจากท่านชายและคุณแบม สองคนนั้นไม่อาจเลี่ยงคำสัตย์สาบานของผู้ใหญ่ได้ โชคดีที่ชีวิตคู่ของน้องชายเป็นในทิศทางที่ดีเพราะต่างฝ่ายต่างรู้สึกดีให้กัน

    เขาไม่ได้จะปฏิเสธ แค่ต้องการเวลาศึกษาดูใจดท่านั้น...

    “ผมแค่ต้องการเวลา อยากเรียนรู้ซึ่งกันและกันใหม่มากกว่านี้ ผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณชายชอบทานอะไรไม่ชอบอะไร มันจะดีกว่าถ้าเราค่อยเป็นค่อยไปไม่ใช่เหรอครับ...”

    “ฉันชอบทุกอย่างที่เธอทำ... แม้ไม่ชอบทานของหวาน แต่ถ้าเป็นของเธอฉันจะทาน”

    “...”

    “ฉันไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบเมืองหลวง ชอบธรรมชาติ ความเงียบสงบ ก็มีเท่านี้คราวนี้เธอรู้หมดแล้ว”

    “โธ่คุณชาย... ไม่ใช่แบบนี้สิครับ”

    จูเนียร์สีหน้าอ่อนลงไม่น้อย เขาเอ็นดูความเอาแต่ใจและใจร้อนของฝ่ายนั้น แม้ภายนอกจะเย็นชา แต่ภายในไม่ต่างกับเด็กเลย คนที่เป็นพี่มาตลอดชีวิตอย่างคุณชายจูเนียร์จึงมีวิธีรับมือคนประเภทนี้เสมอ

    “คุณชายครับ ผมไม่ได้จะปฏิเสธ แค่อยากเรียนรู้กันไปก่อน ผลลัพธ์มันก็ไม่ต่างกัน” แม้จะเขินอายอยู่บ้าง หากแต่ปล่อยผ่านไปก็ไม่ได้ คนสวยลูกชายเจ้าของร้านจึงจำต้องอธิบายให้เข้าใจ

    “...”

    “คุณชายเจบีครับ”

    “ถ้าเธอสัญญาว่าจะไม่ให้โอกาสใคร”

    ใบหน้าขึงขังเหมือนเด็กกำลังเอาแต่ใจทำเอาคนถูกมองอยู่อย่างจูเนียร์ลอบยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มนั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้หูทั้งสองข้างของคุณชายเจปเปลี่ยนสีไม่ต่างจากแก้มเดง ๆ ของตนเลย

    “ครับ... ผมจะไม่ให้โอกาสใคร”

    “...”

    “นอกจากคุณชายคนเดียว”

     

     

    วันเวลาผ่านพ้นไปหลายสัปดาห์ นับตั้งแต่วันสุดท้ายของการเข้าค่ายอาสา คุณแบมกลับมาเรียนตามปกติ หากย้อนคิดถึงวันเข้าค่าย ในวันที่ 6 คนตัวเล็กตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยล้าจนเกือบป่วย แต่ภรรยาตัวน้อยของท่านชายก็ไม่ยอมนอนอยู่เฉย ๆ เมื่อถึงเวลาก็ลุกขึ้นไปเข้าซุ้มต่อ ไม่ว่าท่านชายจะห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง

    โชคดีที่น้องไม่ถูกพิษไข้เล่นงาน ท่านชายอดคิดไม่ได้ว่าร่างกายคุณแบมคงเริ่มคุ้นชินแล้ว

    ทุกอย่างล้วนหมุนไปตามกาลเวลาของมัน ขับเคลื่อนตามครรลอง ท่านชายยังคงปฏิบัติหน้าที่ ทั้งทางราชการและเริ่มมีบทบาทภายในธนาคารเนื่องจากพระองค์เจ้าเมทินยังคงติดตามองค์กษัตริย์อยู่ คนที่ดูแลบริษัทแทนจึงเป็นลูกชายเพียงคนเดียว จึงทำให้ท่านชายแทบไม่มีเวลาพักผ่อน พาลให้คนเป็นภรรยาเป็นห่วง

    วันนี้เป็นวันหยุด คุณชายตัวเล็กไม่มีเรียน แต่ท่านชายกลับไม่ว่างเพราะต้องเข้าไปกรมแต่เช้า ทำงานชดเชยวันที่ลาไปประชุมเมื่อวันก่อน ท่านชายมาร์คต้องเข้าฝึกให้กับนายทหารฝึกหัด ทั้งที่ความจริงแล้วต้องฝึกเมื่อวานแต่ท่านชายกลับติดประชุมจึงเลื่อนมาวันนี้

    คุณแบมอยากช่วยผ่อนคลายให้อีกฝ่ายบ้าง แม้ว่าตอนกลางคืนจะมักถูกก่อกวนจากอีกคนแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่เหมือนกัน และด้วยความอยากส่วนตัวบวกผสมกับความห่วงใย คนตัวเล็กจึงให้คนขับรถที่วังมาส่งที่ร้านขนมของหม่อมแม่นางน้อยเพื่อทำภารกิจอันยิ่งใหญ่

    “พี่ชายเนียรรรรร์”

    เสียงมาก่อนตัว แต่ถึงอย่างนั้นคนเป็นพี่อย่างชายเนียร์ก็จำได้ คุณชายใหญ่แห่งวังภูวกุลอ้าแขนรับน้องชายตัวเล็กที่พุ่งมากอด จะว่าไปก็ไม่ได้เจอน้องเลยสงสัยท่านชายจะเลี้ยงดีถึงได้อวบอิ่มขนาดนี้ เมื่อกี้ตอนกอดรู้สึกเต็มไม้เต็มมือไปหมด

    “วิ่งมาเป็นเด็กเลยนะคุณแบม” ถึงจะบ่นแต่กลับโยกตัวน้องไปมา

    “งื้อออ คุณแบมคิดถึง”

    “ฮ่า ๆ ตัวแสบ มาสิ วันนี้พี่อบพายองุ่นไว้ด้วย”

    คุณแบมยิ้มร่าทันทีที่ได้ยินคำพูดหวานหู คนชอบกินตาวาวเดินตามพี่ชายเข้าครัวไปอย่างเบิกบาน ลืมเจตนาสำคัญที่มาที่ยี่ไปชั่วครู่เมื่อถูกหลอกล่อด้วยของโปรด

    ขวัญใจทุกที่อย่างคุณชายตัวน้อยถูกต้อนรับเป็นอย่างดีจากทุกคนภายในร้าน น้องน้อยนั่งทานพายองุ่นและน้ำชามะลิสูตรเด็ดของพี่ชายไปด้วยจนเลอะมุมปาก วุ่นวายให้พี่ชายคนโปรดเอื้อมมือไปเช็ดให้อย่างเอ็นดู ภาพความน่ารักของทั้งคู่อยู่ท่ามกลางสายตาพนักงาน ช่วงเวลานี้ครอบครัวภูวกุลมีแต่เรื่องดีจริง ๆ

    “อร่อยมากเลยยย คุณแบมคิดถึงอาหารฝีมือพี่ชายเนียร์ที่สุด” คนตัวเล็กพูดเอาใจพี่ชาย

    “ใช่หรือเปล่า ไม่ใช่ติดฝีมือคนที่วังเทวะโรจนหิรัญแล้ว ดูสิ แก้มล้นไปหมดแล้ว”

    ว่าพลางจิ้มแก้มน้อยน้องไปด้วย กลมจริง ๆ นั่นแหละ

    “แหะ ๆ”

    “แล้วมาที่นี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า ได้แวะไปที่วังบ้างหรือยังล่ะเรา”

    “ยังเลยครับ จริงสิ คุณแบมลืมไปเลย...” เมื่อถูกพี่ชายเตือนสติ คนตัวเล็กเลยรีบวางช้อนลงทันที

    คุณแบมมีภารกิจใหญ่หลวงที่อยากทำ และต้องให้พี่ชายของตนช่วย!!

    เพื่อพี่ชายมาร์ค คุณแบมจะพยายาม!!

     

    “คุณแบมอยากทำขนม พี่ชายเนียร์ช่วยสอนคุณแบมน้า...”

    ....คุณแบมเนี่ยนะเหรอจะเข้าครัว...

    คุณชายจูเนียร์ถึงกับลมแทบจับเมื่อน้องบอกแบบนั้น... เห็นที... คงได้เวลาแต่งครัวใหม่เสียแล้วสินะ - -;;;





    .....................


    “...ไม่เป็นอะไรนะคุณแบม พี่ว่ามันอร่อยแล้วนะ”

    สองมือลูบหัวทุยของน้องชายเพื่อปลอบใจ ใบหน้ากลมเศร้าหมองจนน่าสงสาร ดวงตาของทั้งคู่จ้องไปยังผลงานของเจ้าตัวเล็ก ที่ให้ชื่อว่าบลูเบอรี่ชีทพายที่รูปร่างไม่ใกล้เคียงกับต้นฉบับ ตัวเนื้อครีมไม่เซ็ตไหลออกมาไม่เข้าทรง เกล็ดแครกเกอร์ไม่ละเอียด คนที่ตั้งใจทำกว่าสองชั่วโมงถึงกับซึมไปถนัดตา

    “... คุณแบมไม่ได้เรื่องเลย”

    “อย่าคิดแบบนั้นสิคุณแบม เราพยายามขนาดนี้มันดีมากแล้วครับตัวเล็ก”

    พี่ชายคนโตพยายามปลอบเพราะเห็นใบหน้าเศร้าหมองนั่นแล้วก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก น้องชายของเขาเป็นเจ้าของรอยยิ้มที่สุดใสเสมอมา แต่วันนี้กลับตรงกันข้าม คนเป็นพี่มีหรือจะไม่ปวดใจ

    “แต่มันทานไม่ได้เลย”

    “เอาอย่างนี้ไหม พี่จะทำให้ใหม่ คราวนี้ให้คุณแบมเป็นคนใส่ส่วนผสมให้พี่”

    “...”

    “ถึงยังไงก็เป็นชีทพายที่คุณแบมทำอยู่ดีนะ ไว้คราวหน้าเราค่อยมาฝึกกันใหม่เป็นไง”

    คุณชายคนเล็กของวังมีสีหน้าที่ดีขึ้นหลังจากที่คิดตามในสิ่งที่พี่ชายพูด ถึงแม้จะไม่ได้เป็นคนลงมือทำทั้งหมดคนเดียว แต่มันก็คงดีกว่าที่จะเอาของที่อยู่ตรงหน้านี้ไปให้พี่ชายมาร์คทาน สุดท้ายคุณแบมก็ลุกขึ้นมาลงมือทำมันอีกครั้งโดยคราวนี้มีความช่วยเหลือจากคุณชายจูเนียร์ด้วย

    ไม่นานจนเกินไป บลูเบอรี่ชีทพายก็ที่สมบูรณ์แบบก็เสร็จ โดยคุณแบมและผู้ช่วยคนสำคัญอย่างพี่ชายคนโตที่ช่วยกว่า 70% ถึงอย่างนั้นคนคิดบวกอย่างคุณชายคนเล็กแห่งวังภูวกุลก็ภูมิใจเป็นอย่างมาก

    ว่าที่คุณหมอมองผลงานชิ้นโบว์แดงของตัวเองอย่างภูมิใจ คุณแบมตั้งใจจะไปหาพี่ชายมาร์คที่กรมเพราะเห็นว่าอีกคนน่าจะทำงานหนักไม่หยุดเลยแม้เสาร์อาทิตย์ แล้วคนตัวเล็กก็ไม่ได้บอกคนพี่อยากจะเซอร์ไพรซ์ ไม่รู้พี่ชายมาร์คจะชอบไหมนะ

    “ท่านชายมาร์คนี่เก่งจังเลยนะ ทำน้องชายพี่เข้าครัวทั้งที่ไม่ชอบได้”

    คุณชายจูเนียร์ว่าพลางเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อถอดผ้ากันเปื้อนออก รอยยิ้มกริ่มของพี่ชายทำเอาคนถูกแซวหน้าแดงไม่ต่างจากลูกสตอเบอรี่ในถาดเบื้องหน้า เห็นทั้งคู่เข้ากันได้ดีกว่าที่คิดแบบนี้ก็ทำให้คนที่รู้สึกติดค้างเบาใจขึ้น เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณชายจูเนียร์รู้สึกว่าตนเห็นแก่ตัวผลักภาระให้น้องชายแต่งงานแทนตน โชคดีที่ท่านชายเป็นสุภาพบุรุษสมฐานะเขาถึงสบายใจ

    “พี่ชายเนียร์อ่า อย่าล้อคุณแบมสิครับ”

    “ฮ่า ๆ โอเคครับ แล้วนี่จะกลับเลยไหม เดี๋ยวพี่จะได้จัดของฝากไปให้พระองค์เจ้ากับท่านหญิงม่านฟ้าด้วย”

    “ของคุณแบมด้วยน้า”

    เจ้าตัวยุ่งอ้อนทำตาปริบ ๆ ท่านรองประธานบริษัทอย่างชายเนียร์จึงหยิกแก้มกลม ๆ นั่นสักทีอย่างหมั่นเขี้ยว เมื่อได้รับของฝากมาเต็มไม้เต็มมือ คุณชายตัวเล็กก็มุ่งหน้าไปยังกรมทหารอากาศโดยคนขับรถที่จอดรออยู่ คนตัวเล็กไม่ส่งกล่องบลูเบอรี่ชีทพายให้ใครถือเฉกเช่นของอย่างอื่น คุณแบมวางไว้บนตักอย่างหวงแหนรอให้เจ้าของที่แท้จริง

    กว่าหนึ่งชั่วโมงด้วยระยะทางและการจารจร สุดท้ายรถยนต์คันหรูของวังเทวะโรจนหิริญก็เข้าสู่รั่วกรมทหารอากาศ คุณแบมตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศภายนอกรถเอามาก ๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ได้มายังสถานที่แห่งนี้

    ชายฉกรรจ์นับสิบนับร้อยต่างฝึกร่างกายกันอย่างไม่หยุดพัก บ้างก็วิ่ง บ้างก็ซ้อมการทหาร บ้างก็ซ้อมบิน เรียกได้ว่าคุณชายที่อยู่สถานะภรรยาอย่างคุณแบมไม่เคยเฉียดเข้าใกล้สถานที่เหล่านี้เลยสักครั้ง

    รถยนต์แปลกตาเรียกสายตาของเหล่านายทหารได้เป็นอย่างดี ต่างพากันเหลียวมองตามเพราะสงสัยว่าเวลานี้ใครกันที่มาเยือน จนกระทั่งรถคันดังกล่าวจอดลงที่อาคารศูนย์กลางของค่ายจึงได้พบบุคคลที่ก้าวลงมา เป็นคนที่ไม่ว่าใครก็ต่างสนใจ ยิ่งกับเหล่าทหารซึ่งไม่ได้ออกไปพบกับคนภายนอกยิ่งดึงดูดเมื่อคนน่ารัก ๆ มาเยือนถึงที่ขนาดนี้

    เจ้าของแก้มกลมผมชมพูผู้ครอบครองรอยยิ้มเต็มแก้มตกอยู่ในสายตาของคนทั้งกรมอย่างไม่ต้องสงสัย ตัวแสบของท่านชายโอบกล่องบลูเบอรี่ชีทพายไว้แน่นพลางสอดสายตาไปทั่วบริเวณเพื่อส่องหาสามีของตน แต่จนแล้วจนรอดก็มองไม่เห็น เลยตัดสินใจเดินไปถามใครบางคนที่อยู่ใกล้ที่สุด และนั่นก็คือเหล่านายทหารชั้นผู้น้อยซึ่งกำลังอยู่ในช่วงพักแล้วนั่งจับกลุ่นสนทนากันอยู่

    “รบกวนสักครู่นะครับ” เสียงใสเอ่ยขึ้นอย่างขลาดเขิน คุณชายตัวน้อยเจ้าของแก้มใสแจ๋วเดินเข้ามาถาม ทำเอาเหล่านายทหารพากันเลิกลักไปไม่ถูก แต่ถึงอย่างนั้นก็มีผู้กล้าที่เสนอตัวเข้ามาช่วยเหลือคนสวยตรงหน้า

    “มีอะไรให้ช่วยหรือครับ” หนุ่มตัวสูงทรงผมสกินเฮดเอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ้าชู้ส่งมาให้ คุณชายผู้นี้ดูแล้วเป็นราชนิกุลสูงส่งแน่นอน จากเสื้อผ้าหน้าผมคนติดตาม แล้วยังรถที่ราคาสูงทะลุขนาดนั้นอีก ใครบ้างจะไม่สนใจ

    หากแต่หากสังเกตอีกสักนิดจะเห็นตราศัญลักษณ์ส่วนท้ายของรถคันนั้นว่ามาจากที่ใด ครานั้นคนเหล่านี้คงปฏิบัติต่อคุณชายแบมแบมต่างออกไปแน่นอน

    “คือ... อะ เอ่อ พอรู้ไหมครับว่าท่านชายมกรธวัชอยู่ที่ใด”

    “...”

    “...”

    สถานการณ์เปลี่ยนไปทันทีที่เอ่ยนามของบุคคลทรงอิทธิพลในกรมขึ้นมา กองทัพอากาศแห่งแคว้นนี้มีใครไม่รู้จักท่านชายมาร์คบ้าง เกียรติศัพท์ลือก้องเต็มไปด้วยความเย็นชาและเคร่งครัด เป็นทหารชั้นผู้นำที่เหล่าทหารชั้นน้อยต่างยำเกรงด้วยกันทั้งนั้น

    ตอนนี้นายทหารกลุ่มนี้เริ่มพากับเหงื่อไหลไคลย้อยเมื่อรู้สึกพึงรางสังหรณ์ประหลาดเกี่ยวกับคุณชายผู้นี้เสียแล้ว

    ร่ำลือกันว่าท่านชายแต่งงานกับคุณชายตระกูลดัง ถึงแม้จะเป็นเพศชายด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ไม่มีใครกล้าเถียงเลยว่าภรรยาของท่านชายหน้าตาไม่น่าหลงใหล ว่ากันว่าท่านชายหลงภรรยาขนาดไหน ถึงขั้นยอมเปลี่ยนตัวลงไปเป็นนักบินให้มหาวิทยาลัยเพื่อตามเฝ้าภรรยาตัวเอง

    ชัดเจนขนาดนี้... จากที่ได้เห็นคุณชายตรงหน้านี้แล้ว ไม่เถียงเลยว่าทำไมท่านชายถึง ติดเมียขนาดนี้

    “เอ่อ... ไม่รู้จักพี่ชายมาร์คหรอกเหรอเนี่ย...”

    เมื่อเห็นว่าพวกพี่ทหารเหล่านั้นไม่ตอบ คนตัวเล็กเลยสรุปเอาเอง แถมพวกพี่เขายังดูหน้าซีดลงเหมือนกับว่าคุณแบมพาความลำบากใจมาให้อย่างนั้น คุณแบมรู้สึกผิดจัง...

    “ปะ เปล่าครับ ไม่ทราบว่านัดไว้หรือเปล่าครับ เพราะถ้าไม่นัดไว้ท่านชายไม่รับแขกจากภายนอก”

    นี่เป็นเรื่องจริง ท่านชายไม่เคยรับแขกที่ไม่รู้จักหรือไม่นัดไว้มาก่อน ยิ่งพักหลังมายิ่งเคร่งครัดเป็นพิเศษ นี่ก็เป็นข่าวลือที่พูดกันหนาหูว่าท่านนายพลพยายามส่งตัวลูกสาวให้ท่านชายรับไว้ดูแลเป็นภรรยาอีกคน ซึ่งฝ่ายหญิงก็เทียวมาเทียวไปเสมอ แต่ติดที่ว่าท่านชายไม่เคยพบเลยสักครั้งเดียว ตอนแรกคนในกรมก็พากันสงสัยว่าทำไมท่านชายถึงได้ปฏิเสธหญิงงามล่มเมืองขนาดนั้น แต่ถ้าคุณชายผู้นี้เป็นภรรยาของท่านชายจริงอย่างที่พากันตั้งข้อสันนิษฐาน ก็ไม่แปลกหรอกที่ท่านชายจะรักเดียวใจเดียว

    “เอ่อ... ต้องนัดด้วยหรือครับ” คนตัวเล็กถามไม่เต็มเสียงนัก

    “ครับ ท่านชายสั่งไว้ ว่าถ้าหากไม่ได้นัดไว้ห้ามเข้าพบเด็ดขาด”

    “...แย่แล้วสิ”

    ปากเล็กเบะลงจนคนมองเผลอกลืนน้ำลายลงคอกับภาพความน่ารักน่าเอ็นดูของคุณตัวขาวตรงหน้า ให้ตาย ทำไมน่ารักน่ามองขนาดนี้นะตัวแค่นี้ แต่เสี่ยงตายมากเกินไปหน่อย เพราะถ้าคุณเขาเป็นคนที่สงสัยจริงคงโดนซ่อมเช้ากลางวันเย็นสามเวลาหลังอาหารเลยก็ว่าได้

    คนตัวเล็กที่ไม่รู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่ก้มมองบลูเบอรี่ชีทพายในอ้อมแขนด้วยสีหน้าหงอยเหงา เหล่าพี่ชายนายทหารก็รู้สึกเห็นใจไม่น้อย ก็คุณชายผู้นี้นี่สิ ทำไมถึงได้หงอยได้น่ารักขนาดนี้ก็ไม่รู้

    “คุณแบมครับ” ลุงคนขับรถที่ยืนสงบอยู่ด้านหลังเอ่ยเรียกคนตัวเล็กด้วยความนอบน้อม

    “คุณแบมมาเสียเที่ยวแล้วครับคุณลุง”

    “ลองโทรแจ้งท่านชายไหมครับ”

    “...คุณแบมอยากเซอร์ไพรซ์นี่นา...”

    คนตัวเล็กตอบเสียงจ๋อย ความจริงก็อยากทำอย่างที่คุณลุงเอ่ยแนะนำ แต่เพราะเหตุผลอยากจะเซอร์ไพรซ์จึงไม่อาจทำได้... อีกอย่าง ถ้าพี่ชายมาร์คยุ่งอยู่ล่ะ ถึงอีกคนบอกว่าให้โทรหาเมื่อไหร่ก็ได้ก็เถอะ แต่มันก็มากล้าอยู่ดี

    ส่วนนายทหารชั้นผู้น้อยก็พากันฟังบทสนทนาของทั้งคู่กันเงียบ ๆ และมองตากันไปมาว่าจะเอายังไงดี กรณีนี้พวกเขาไม่กล้าตัดสินใจเลยว่าควรทำยังไง ถ้าให้พบเลยแล้วถ้าคุณชายผู้นี้ไม่ใช่ภรรยาท่านชายจะไม่โดนสั่งซ่อมยับเหรอ แล้วถ้าคนผู้นี้ใช่แล้วพวกเขาไม่ให้พบล่ะ...

    อย่างไหนก็โดนทำโทษทั้งนั้น สุดท้ายคนใจกล้าที่สุดในนั้นก็อดใจไม่ไหวตัดสินใจถามออกไปตามตรง

    “ขออนุญาติถามหน่อยได้ไหมครับว่าคุณชายเป็นอะไรกับท่านชาย” เสียงของพี่ชายคนนั้นเอ่ยถาม ทำเอาคนตัวเล็กเม้มปากแน่นกับสถานะของตัวเอง เพราะเขินจนแก้มแดงจนแทบระเบิดทุกครั้งที่ประกาศฐานะของตัวเองที่มีกับพี่ชายมาร์ค

    แต่ในขณะที่กำลังจะตอบออกไป กลับถูกเสียงหนึ่งขัดขึ้นเสียก่อน...

    เป็นเสียงที่ทำให้เหล่านายทหารเหล่านั้นขนลุกขนพองกันเป็นแถบ

    “ผมให้พวกคุณพักคงไม่ชอบ สงสัยอยากเหนื่อยกันมากกว่าสินะ”

     


    ชัดเจน...

    ไม่ต้องถามก็รู้คำตอบแล้วว่า...

    เมียท่านชัดๆ T_T






    --------

    ชื่อพี่ชายมาร์ค = มะ - กอน - ทะ - วัด
    น้อนนนนนน ทำพวกพี่ทหารเขาเดือดร้อนแล้วลูกกกก
    หายไปไม่ได้หายนานน้า เม้นก็น้อยลงด้วย อยากอ่านเม้นน้าาา

    เหมือนเดิมค่ะ ยังไม่เช็คคำผิดเลยเด้อ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×