ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [END] [Mpreg] Royal Gentlemen #สุภาพบุรุษมบ (MarkBam)

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9 ❁ กลับวังภูวกุล 100% ❁

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 63



    ยังไม่ได้เช็คคำผิดนะคะ 




    ตอนที่ 9

    บรรยากาศอึกทึกบริเวณใต้ตึกคณะแพทย์เรียกความสนใจให้กับผู้สัญจรผ่าน สืบเนื่องมาจากกิจกรรมรับน้องได้ผ่านพ้นไปเกือบครึ่งปีจนย่างเข้าสู่เทอมที่สองของการเรียน เป็นไปได้ยากที่ตึกคณะว่าที่คุณหมอจะมีเสียงดังรบกวนการเรียนการสอน เพราะต่างรู้กันอยู่แล้วว่าคณะแพทย์นั้นค่อนข้างเก็บตัว มักจะไม่ค่อยมีกิจกรรมนันทนาการมากเท่าคณะอื่นๆ ในมหาวิทยาลัย หากแต่วันนี้กลับต่างออกไป


    กิจกรรมลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวเมืองชนบทที่ยังขาดแครนการช่วยเหลือทางแพทย์เป็นอีกกิจกรรมที่ปีหนึ่งคณะแพทย์จะได้เข้าร่วม สืบเนื่องมาจากการได้เรียนรู้จากเหตุการณ์จริงเพื่อเสริมสร้างทักษะพื้นฐานในการเตรียมตัวเรียนต่ออีก 5 ปีข้างหน้า


    แต่สำหรับคุณชายแบมแบมแล้ว กิจกรรมนี้ไม่ต่างอะไรกับค่ายอาสาที่พึ่งไปมากับชมรมแพทย์อาสาที่ตนกับคิมได้เข้าร่วมเลย แน่นอนว่าคุณแบมกับคิมก้าวนำเพื่อนระดับชั้นเดียวกันไปหนึ่งก้าว เพราะเขาได้เผชิญการทำงานเป็นแพทย์อาสามาก่อนแล้ว


    “ทำไมคนอื่นถึงพากันตื่นเต้นขนาดนี้ล่ะคิม”


    คุณชายตัวเล็กสมบัติของคณะเอ่ยถามเพื่อนสนิทอย่างฉงนใจ เมื่อหันไปมองเพื่อนคนอื่นๆ เพราะกำลังจับกลุ่มคุยกันถึงเรื่องนี้อย่างตื่นเต้น หลังจากรุ่นพี่ปีสองนัดรวมแล้วกล่าวแจ้งถึงกิจกรรมดังกล่าวก่อนหน้า แต่ตนติดคุยกับอาจารย์เกี่ยวกับวิชาที่เรียนไม่เข้าใจเลยมาช้ากว่าเพื่อนๆ


    “ก็ปีนี้จัดขึ้นที่เมืองวารีน่ะ... แถม...”


    “อะไรเหรอคิม”


    ร่างเล็กถามต่อในทันทีเมื่อเพื่อนเว้นวรรคเสียจนน่าสงสัย เมืองวารีเป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดของแคว้น เป็นเมืองเดียวที่มีทางออกทางทะเล เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของแคว้นเป็นเนินสูง 95% ส่วน 5 % ที่เหลือก็คือเมืองวารี


    แล้วมันน่าตื่นเต้นตรงไหน หรือว่าเพราะได้ไปทะเล?


    “กองทัพอากาศมีส่วนเข้าร่วมกิจกรรม พวกเขาจะเป็นสารถีให้คณะแพทย์ในครั้งนี้ล่ะ”


    “...”


    “ดีจัง ไม่ต้องนั่งรถแต่ได้นั่งเครื่องบินไป”


    กองทัพอากาศอย่างงั้นเหรอ นั่นแสดงว่า...


    คุณแบมถึงกับช็อกไปไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าทางคณะจะลงทุนให้ทางกองทัพเข้ามาช่วยขนาดนี้ ถึงแม้ระยะทางไปเมืองวารีจะค่อนข้างไกล หากนั่งรถคงได้นั่งกว่าสิบชั่วโมง แต่นั่นก็เป็นหนึ่งสีสันที่ของกิจกรรมไม่ใช่เหรอ ถึงจะสงสัยแค่ไหนแต่ก็คงได้แค่เก็บไว้คนเดียว เพราะถึงตนมียศเป็นหม่อมราชวงศ์ตระกูลใหญ่โต แต่ก็หาได้มีสิทธิมากกว่าเพื่อนคนอื่นในคณะ


    กว่าสองอาทิตย์แล้วสำหรับงานแต่งงานและคืนเข้าหอ นับว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นค่อนข้างค่อยเป็นค่อยไป ท่านชายมาร์ครักษาสัญญา แม้ว่าคืนนั้นตนจะถูกกอดตลอดทั้งคืน รวมถึงทุกคืนหลังจากนั้นก็ตาม สำหรับแรกๆ คนตัวเล็กแทบจะนอนไม่หลับ แต่ไม่รู้ทำไมว่าอ้อมแขนของท่านชายมาร์คถึงได้มีพลังบางอย่างที่ทำให้คนน้องผ่อนคลายจนคล้อยหลับได้ในเวลาต่อมา กลับกันเสียอีก หากวันไหนที่ท่านชายต้องประจำการอยู่ที่ฐานทัพแล้วกลับดึก ก็จะมีคนนอนไม่หลับเพราะไม่ชินที่ไร้อ้อมแขนแกร่งของผู้พี่ดังเช่นทุกวัน


    นึกแล้วก็ไร้อย่างอายซะจริง ทำไมถึงได้ใจแตกขนาดนี้นะคุณแบม... คิดแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจให้กับความใจง่ายของตัวเอง... เฮ้อ


    “เอาล่ะครับน้องๆ พวกพี่อยากให้น้องเตรียมตัวกันให้ดี เพราะครั้งนี้เราจะไปถึงหนึ่งอาทิตย์เต็ม ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยทั้งหมดพวกพี่จะแปะไว้ให้อ่านหน้าบอร์ดกิจกรรมนะครับ” รุ่นพี่ประธานรุ่นหนุ่มแว่นแต่ไม่ได้ดูเนิร์ทเอ่ยผ่านไมค์โคโฟน หลังจากนั้นก็ปล่อยให้น้องๆ กลับไปทำธุระตามอัธยาศัย


    ส่วนร่างเล็กของคุณชายแบมแบมกับเพื่อนสนิทตัวสูงก็ได้พากันนัดเข้าห้องสมุดของคณะ เพราะต้องทำรายงานในวิชาก่อนหน้าให้เสร็จ เนื่องจากกิจกรรมค่ายแพทย์อาสาจะมีขึ้นในอีกสองวัน ธรรมชาติของนักศึกษาดีเด่น มักจะทำงานล่วงหน้าให้เสร็จก่อนส่งเสมอ ยิ่งเป็นนักศึกษาแพทย์แล้ว ไม่แปลกที่จะเห็นภาพนี้


    “เดี๋ยวคิมไปค้นหนังสือนะ คุณแบมค้นในเว็บไซต์บางส่วนรอคิมไปก่อน” เพื่อนตัวสูงเอ่ยเมื่อส่งร่างน้อยที่โต๊ะ คุณแบมเองก็ไม่อิดออดพยักหน้าตกลงก่อนจะหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมาค้นหาข้อมูลของรายงานเพื่อไม่ให้เสียเวลา


    เขาใช้เวลาอยู่ไม่นานกับการหาข้อมูลและเริ่มทำรายงานโดยมีคิมช่วยอยู่ด้วย ว่าที่แพทย์ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ที่ห้องสมุดตั้งแต่แสงอาทิตย์ยังทอแสงอร่ามจบจนไร้แสงสวว่างของมัน ในที่สุดรายงานที่ทั้งคู่ตั้งใจทำก็เสร็จสิ้นลง


    “ให้คิมไปส่งที่วังเทวะไหมคุณแบม” เพื่อนตัวสูงเอ่ยพรางเก็บของลงกระเป๋า ทำให้เจ้าตัวเล็กขมวดคิ้วพลางคิดเกี่ยวกับข้อเสนอของเพื่อน


    “อืม... ได้เลย แต่วันนี้คุณแบมจะกลับไปวังภูวกุล”


    “หา? ทำไมล่ะ”


    อดสงสัยไม่ได้ พึ่งแต่งงานกับท่านชายท่านนั้นไม่นาน เพื่อนของเขาจะหนีกลับวังแล้วหรือเนี่ย


    “หม่อมยายไม่ค่อยสบาย คุณแบมเป็นห่วงหม่อมยายอยากไปดูแล” ร่างเล็กเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล เมื่อนึกถึงเรื่องหม่อมยาย เมื่อเช้าพี่ชายเนียร์โทรมาบอกว่าหม่อมยายหน้ามืดเป็นลมไปช่วงเช้า ด้วยความร้อนใจของคนตัวเล็กก็แทบจะนั่งรถกลับวังภูวกุลตั้งแต่ได้ยินข่าว แต่ถูกห้ามไว้เพราะรู้ว่าวันนี้มีแลปสำคัญ แต่อีกส่วนหนึ่งเพราะพี่ชายคนโตบอกอีกว่าตอนนี้หม่อมยายปลอดภัยแล้ว ถึงอย่างนั้นตัวเล็กก็อยากกลับไปดูแลหม่อมยายอยู่ดี


    ก่อนออกมาเรียนได้แจ้งพระองค์ท่านและท่านหญิงม่านฟ้าไว้แล้วเรื่องจะกลับมานอนเฝ้าดูอาการหม่อมยายสักหนึ่งวัน พวกท่านทั้งสองใจดีกับคุณแบมไม่ได้ว่าอะไรแถมยังฝากความห่วงใยต่อหม่อมยายผ่านคุณแบมอีกด้วย ยกเว้นก็แต่ท่านชายมาร์ค เพราะรายนั้นออกไปกองทัพตั้งแต่เช้าด้วยธุระสำคัญ พักนี้คนๆ นั้นค่อนข้างยุ่งทีเดียว


    แต่ถ้าจะไม่ให้บอกเลย เดี๋ยวก็พาลงอนคุณแบมอีก


    คิดได้ดังนั้น ระหว่างที่เดินตามเพื่อนตัวสูงไปยังรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถ ตัวเล็กของท่านชายนายเรืออากาศเอกก็หยิบเครื่องมือสื่อสารออกมากดโทรหาคนที่คะนึงถึง


    ตู๊ด ตู๊ด...


    หืม... ทำไมไม่รับนะ ยุ่งอยู่เหรอ?


    คิ้วเรียวขมวดอย่างฉงน เมื่อเสียงรอสายสุดท้ายตัดลงทั้งที่ไร้เสียงตอบกลับจากปลายสาย คุณแบมก้มมองโทรศัพท์ของตัวเองและนึกคิด เขาไม่กล้าโทรย้ำอีกครั้งเพราะกลัวว่าพี่ชายมาร์คอาจติดงานสำคัญอยู่ มันจะเป็นการรบกวนอีกฝ่ายเสียมากกว่า แต่นี่มันก็หกโมงเย็นแล้วนี่นา ช่วงนี้คงงานเยอะจริงๆ ถึงได้ทำงานเลยเวลาบ่อยขนาดนี้


    คิดได้ดังนั้นก็กดส่งข้อความบอกคนพี่ไว้ เผื่ออีกคนจะว่างแล้วมากดอ่าน ถึงอย่างไรเขาก็ต้องแจ้งไว้ มันเป็นมารยาทที่ดีของภรรยาที่ดี... 


    มะ หม่อมยายสอนสั่งไว้ตลอดนั่นแหละน่า


    คุณแบมจะกลับไปเยี่ยมหม่อมยาย และค้างที่วังเลยนะกระหม่อม


    เมื่อตรงเช็คตัวอักษรทุกตัวว่าเหมาะสมหรือยังก็กดส่งไปในทันที ถือว่าเขาบอกแล้ว แถมโทรหาด้วยแต่ตัวไม่รับเอง จะมางอนทีหลังคุณแบมไม่ง้อหรอกนะ... 


    “ร้านหม่อมนางน้อยปิดหรือยังคุณแบม คิมจะแวะซื้อขนมให้คุณแม่เสียหน่อย” 


    ร่างสูงสารถีจำเป็นเอ่ยถามเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ ไหนๆ ก็ผ่านร้านขนมของหม่อมนางน้อยแล้วก็ต้องแวะซื้อเสียหน่อย เพราะขนมร้านนี้ชื่อเสียงเรื่องลืออย่างบอกใครด้านความอร่อย


    รวมถึงจะไปส่งของให้ หมอนั่นด้วย... เบื่อจริงๆ ลูกพี่ลูกน้องเขาเนี่ย จะจีบก็ไม่จีบตรงๆ อ้อมโลกอยู่นั่น ยังมาลำบากเขาอีก


    “ปิดสามทุ่ม ดีเลย คุณแบมคิดถึงชิฟฟ่อนเค้ก”


    “หึ” เขาหัวเราะในลำคอระคนเอ็นดูเพื่อนสนิทตัวเล็ก หม่อมหลวงคิมปล่อยให้เพื่อนตนอยู่ในภวังค์แห่งความสุขของรสชาติในอุดมคติ ก่อนจะเคลื่อนรถออกจากลานจอดรถของคณะไปยังจุดหมาย

     



    “คุณแบมอยากกินอะไรเพิ่มไหมคะเดี๋ยวแม่ตักให้เพิ่ม”


    เสียงหวานแสนอบอุ่นดังขึ้นจากริมฝีปากสวยสีชมพูของหม่อมนางน้อย ภริยาคนที่สองของท่านชายภาษกร ร่างเพรียวบางสมเป็นกุลสัตรี กาลเวลามิสามารถพรากความงดงามไปจากท่านได้เลย


    คุณชายคนเล็กของวังฉีกยิ้มจนเห็นฟันครบทุกซี่ให้กับหม่อมแม่อีกคน สำหรับวังภูวกุล แม้บิดาจะมีมากภรรยา แต่ทุกคนล้วนรักและผูกพันกันเป็นอย่างดี คงเป็นโชคดีของท่านชายที่มีภริยาดีถึงสามคน ยิ่งกับคุณชายแบม คนโปรดคนสำคัญของที่บ้านแล้ว ย่อมได้รับความเอ็นดูเป็นพิเศษ


    ภายในร้านยามใกล้ปิดยังคงมีลูกค้าประปราย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีพายแอปเปิ้ลและชิฟฟ่อนเค้กสิ่งที่คุณแบมอยากกินเหลืออยู่ แน่นอนว่าคุณแบมไม่มีทางเลือกกินอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงอย่างเดียว เขาจะกินมันทั้งสองอย่างและอย่างละสองชิ้นเลย!


    “คุณแบม วันนี้คุณชายจูเนียร์ไม่อยู่เหรอ”


    หม่อมหลวงคิมเอ่ยถามเพื่อนตัวเล็ก หลังจากที่สำรวจถี่ถ้วนแล้วว่าคนที่เป็นเป้าหมายไม่อยู่ในร้าน ซึ่งเรียกความสงสัยให้คนช่างจ้อในทันที


    “พี่ชายเนียร์ดูแลหม่อมยายอยู่ที่วัง ทำไมเหรอคิม” ดวงตากลมโตหรี่ลงจ้องเพื่อนอย่างจับผิด ในขณะที่ร่างสูงของหม่อมหลวงคิมต้องพยายามเก็บอาการไม่เลิกลักให้หม่อมราชวงศ์ตรงหน้าสงสัย เห็นหงุมหงิมแบบนี้แต่ฉลาดเป็นกรดเลยนะเพื่อนเขาน่ะ อย่าลืมสิ นักศึกษาแพทย์ดีเด่นประจำคณะเลยนะ


    “อะ อ๋อ เปล่าหรอก เห็นปกติอยู่ที่ร้านไงเลยถาม”


    “ไม่จริงซะหน่อย พี่ชายเนียร์อยู่ที่ร้านเฉพาะช่วงเย็นๆ หลังจากกลับจากบริษัทกับวันอาทิตย์ทั้งวันเท่านั้นแหละ”


    “อาหะ...”


    หม่อมหลวงหนุ่มหล่อเอ่ยตอบรับด้วยรอยยิ้มมุมปาก ข้อมูลที่หลุดออกมาจากคุณแบมแม้จะไม่ใช้ความลับอะไรแต่มันคงมีประโยชน์สำหรับใครบางคน เขาคงต้องรีบเอาสิ่งนี้ไปแลกค่ารองเท้ารุ่นลิมิตเต็ดที่เล็งไว้อยู่เสียหน่อย ขอบใจมากนะคุณแบมเพื่อนรัก ทำให้คิมสบายไปอีกพักใหญ่เลยล่ะ


    ส่วนคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับการเผยข้อมูลพี่ชายออกไปก็ลงมือกินพายแอปเปิ้ลต่ออย่างมีความสุข เขาลืมเรื่องที่สงสัยคิมไปเสียสนิทเมื่อของโปรดเข้าปาก เช่นเดียวกับใครบางคนที่ถูกลืมไปจากความคิด ท่านชายที่พึ่งลงมาจากเรืออากาศยักษ์ คนซึ่งกำลังคะนึงหาน้องแทบขาดใจ


    คิดถึงอยากกลับไปกอดจะแย่แล้วครับคนดีของพี่



     

    “เป็นอะไรเหรอท่านชาย หน้านิ่วคิ้วขมวดตั้งนานแล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยขัดขึ้น เมื่อเหลือบมอบใบหน้าหล่อเหลาของท่านชายข้างๆ ทั้งคู่ลงมาเก็บข้าวของที่ล็อกเกอร์ประจำตนก่อนจะกลับบ้านพักผ่อนเฉกเช่นทุกวัน หากแต่วันนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไป แจ็คสันเห็นว่าตั้งแต่เพื่อนของตนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากล็อกเกอร์พลางก้มมอง ก่อนจะเป็นเช่นดังที่กล่าว


    “เฮ้อ... ฉันคิดว่าช่วงนี้คงต้องบินน้อยลง” ท่านชายกล่าวตอบ แต่สีหน้าไม่ได้แปรเปลี่ยนจากเดิมสักเท่าไหร่ ทำให้หม่อมราชวงศ์ที่ยืนอยู่อีกคนอดสงสัยตามแจ็คสันไม่ได้ มันเป็นเรื่องน่าแปลกที่ท่านกล่าวอย่างนั้นมันผิดวิสัยของสหายตน เพราะหากจะถามว่าใครเป็นคนที่รักในการบินที่สุด คุณชายเจบีคงตอบได้แบบไม่ต้องคิดเลยว่าใคร


    แต่ถึงอย่างนั้นคนพูดน้อยอย่างคุณชายเจปก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกมา หน้าที่เลยตกเป็นของแจ็คสันแทน


    “ทำไมล่ะท่านชาย มีเรื่องทุกข์ใจกับการบินแล้วเหรอ”


    “...”


    “ไม่ตอบ แสดงว่าคงจริง แบบนี้ก็แย่น่ะสิ อีกสองวันกองทัพจะจัดคนไปบินให้กับคณะแพทย์ของมหาลัยหลวง เล็งเป็นท่านชายให้เป็นกัปตันนำ คงจะต้องเปลี่ยนคน”


    แจ็คสันเอ่ยหยั่งเชิง ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกแล้วว่าไม่มีทางที่ท่านชายมาร์คจะปฏิเสธงานนี้ เท่าที่จำได้ตอนเข้าประชุม ท่านชายเองนั่นแหละที่ทรงอยากจะสารถีให้เหล่าว่าที่แพทย์เอง ด้วยเหตุผลอันใดก็ย่อมรู้ดี


    ภริยาท่านชายไปด้วยมีเหตุอะไรจะไม่ตามไปดูแล


    และมันก็ได้ผล เมื่อสีหน้าของท่านชายเปลี่ยนไปจากเดิมทันที ทรงจ้องเนตรมายังเพื่อนสนิทราวกับจะฆ่าแกงกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้ เรืออากาศเอกแจ็คสันจะรู้สึกรู้สาอะไร


    “ฉันว่านายเตรียมตัวไปเมืองโรเซลดีกว่า เห็นว่าอีกไม่นานแล้วไม่ใช่เหรอ” ท่านชายเอ่ยเสียงเรียบ พลางปรายตามองเพื่อนของตนอย่างมีเลศนัย


    “มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้เหรอแจ็คสัน ไปเมืองโรเซลมันมีอะไรเหรอ” อดไม่ได้ที่จะถาม คุณชายเจบีเดินขนาบข้างเพื่อนไปพลางถามพลาง ทั้งสองคนนี้ดูมีเรื่องให้น่าสงสัยซะจริง โดยเฉพาะแจ็คสัน ผู้ชายห่ามที่สุดในสิงห์หนุ่มแห่งท่าอากาศของแคว้นแสดงท่าทางอึกอักเสียอาการจนมองออก


    “อย่าไปสนใจเลยคุณชาย รีบกลับบ้านดีกว่า โดยเฉพาะท่านชายน่ะ คิดถึงเมียเด็กจะแย่แล้วมั้ง”


    ว่าจบก็ยิ้มที่มุมปากอย่างหยอกล้อกับคุณชายเจบี เพราะต่างก็รู้ว่าท่านชายมาร์คน่ะหลงภรรยามากแค่ไหน นี่ลำพังคงอยากกลับบ้านไปหาเมียรักจะขาดแล้ว


    “อืม กลับบ้าน...”


    เสียงถอนหายใจของท่านชายมกรธวัชดังขึ้นหลังจากนั้น ก่อนที่ทั้งสามคนจะแยกย้ายกันตรงไปที่รถของตนเอง และจุดหมายที่ต่างกัน ท่านชายมาร์คก้มอ่านข้อความจากคุณแบมอีกครั้งพลางนึกคิด เล่นหนีไปนอนที่วังภูวกุลแบบนี้มันน่าจับตีซะจริง เห็นทีคืนนี้เราเองคงต้องย้ายสถานที่นอน เพราะไม่มีทางที่ท่านชายจะห่างจากคุณแบมแน่ เตรียมตัวไว้เลยตัวแสบ พี่จะจับตีก้นซะให้เข็ด

     


    “ยายบอกแล้วว่ายายไม่เป็นไร ก็รั้นจะมาให้ได้นะเรา” มือเหี่ยวตามอายุลูบลงที่ศรีษะกลมของหลานรัก แม้จะเหมือนดุแต่ความจริงกลับเอ็นดูหลานคนนี้มากทีเดียว


    คุณแบมได้ทีก็ซุกตัวเข้าไปกอดหม่อมยายอย่างคิดถึง เพราะจากบ้านไปหลายวันทำให้อดคิดถึงคนที่บ้านไม่ได้ โดยเฉพาะหม่อมยาย คนที่คุณแบมมักอ้อนเสมอ


    “คุณแบมเป็นห่วงหม่อมยายนี่ครับ แล้วทำไมหม่อมยายถึงได้เป็นลมไปล่ะ อย่าบอกนะว่าออกไปที่สวนอีกแล้ว”


    ว่าที่นายแพทย์ตัวน้อยเอ่ยดักทาง เพราะส่วนตัวก็รู้อยู่แล้วว่าหม่อมยายของตนโปรดปรานที่สวนดอกไม้เพียงไหน แต่ด้วยเพราะอายุอานามที่มากแล้ว การไปตากแดดนานๆ ไม่แปลกที่จะเป็นลมเป็นแร้งแบบนี้


    “จะให้ยายนั่งๆ นอนๆ มันก็เบื่อนะคุณแบม” หม่อมยายเอ่ยตอบหลานรัก พรางมองไปยังหลานชายอีกหนึ่งคนซึ่งอยู่ดูแลตั้งแต่ต้น คุณชายจูเนียร์นั่งอยู่ยังโซฟาตัวถัดไป มองดูน้องชายอ้อนหม่อมยายก็อดยิ้มตามไม่ได้  


    “แล้วมานี่ บอกทางนั้นบ้างหรือยังล่ะเรา” คุณชายจูเนียร์เอ่ยถามน้องชาย เกรงว่าหากน้องไม่แจ้งทางวังเทวะฯ อาจจะเป็นการเสียมารยาท


    “เรียบร้อยครับพี่ชายเนียร์ สมเด็กท่านกับท่านหญิงม่านฟ้าใจดี” คนน้องตอบพี่ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังจากผละออกจากอ้อมแขนของผู้เป็นยาย แต่ถึงอย่างนั้นชายเนียร์ก็ยังไม่ลดความแครงใจ เมื่อน้องไม่ได้เอ่ยนามของอีกผู้ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับคนในครอบครัว


    “รวมถึงท่านชายใช่ไหม”


    “แน่นอน!


    เมื่อเห็นน้องยิ้มร่าแล้วตอบอย่างเต็มเสียงอย่างนั้น คนคิดมากอย่างพี่ชายก็อุ่นใจขึ้น เป็นเพราะน้องพึ่งออกเรือนได้ไม่นาน ไม่อยากให้เป็นข้อครหาว่าไม่ทันไรก็หนีสามีกลับวังเสียแล้ว หากแต่ภายใต้รอยยิ้มบนใบหน้าสวย ชายเนียร์อาจไม่เห็นความลังเลภายในนัยน์ตากลมคู่นั้น เพราะคุณแบมเองก็คิดไม่ตกเลยว่า การแจ้งท่านชายผ่านข้อความแบบที่ทำ ใช่เป็นการขออนุญาตไหม ก็ได้แต่ติต่างเอาเองว่ามันคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ก็คุณแบมบอกแล้วนี่นา...


    หลังจากคุยกับหม่อมยายกับพี่ชายเนียร์จนดึก ก็ถูกไล่ให้ขึ้นห้องนอน แม้พรุ่งนี้จะมีเรียนบ่ายแต่เพราะคนที่วังภูวกุลค่อนข้างนอนเป็นเวลา ไม่เกินสี่ทุ่มทุกผู้ก็ขึ้นห้องนอนกันหมดแล้ว คุณแบมอาบน้ำชำระกายเสร็จจึงเดินตรงมายังเตียงนอนขนาดคิงไซต์ ห้องของคุณแบมตกแต่งด้วยสีฟ้าและขาวดูน่ารักไม่ต่างจากเจ้าของ ภายในห้องมีชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ไม่ไกลนัก ด้วยเพราะตัวเล็กของวังภูวกุลค่อนข้างเป็นเด็กเฉลียวฉลาด มักชอบอ่านหนังสือเป็นทุนเดิม


    คนตัวเล็กคิดว่าจะอ่านทวนบทเรียนสักบทสองบทแล้วค่อยหลับ นึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกไม่ชินกับการนอนที่ห้องของตัวเอง ทั้งที่ตลอด 18 ปีก็อยู่ห้องนี้มาตลอด เหตุใดถึงได้นึกถึงอ้อมแขนของใครบางคนก็ไม่รู้


    พูดแล้วก็ร้อนวูบที่ใบหน้าพิกล...


    ก๊อก ก๊อก


    เสียงประตูถูกเคาะทำให้คนที่อ่านหนังสืออยู่รีบวางมันลงก่อนจะเดินไปยังประตูโดยไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อย คงเพราะคิดว่าน่าจะเป็นพี่ชายคนใดคนหนึ่งของตน หากยามประตูบานใหญ่เปิดออก บุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับไม่ใช่พี่ชายเนียร์หรือพี่ชายแจนแต่อย่างใด


    “พี่ชายมาร์ค!


    เสียงหวานกล่าวอุทานด้วยความตกใจ ดวงตากลมเบิกกว้างมองไปยังร่างสูงโปร่งภายใต้ชุดทรงงานสีเขียวเข้ม ใบหน้าหล่อเหลาของท่านชายเรียบนิ่งเสียจนคุณแบมเผลอเม้มปาก เพราะแต่เดิมทีท่านชายไม่เคยเพิกเฉยเย็นชาใส่ตนบ่อยนัก ส่วนใหญ่จะอบอุ่นใจดีเสียมากกว่าบึ้งตึงเช่นตอนนี้


    “เรานี่มันน่าตีจริงๆ คุณแบม ท่านชายจะมานอนด้วยทำไมไม่บอกก่อน” เสียงของพี่ชายเนียร์ดังขึ้น ทำให้คุณแบมรู้ว่านอกจากท่านชายแล้วยังมีพี่ของตนยืนอยู่ด้วย คนน่ารักยิ้มเจื่อนให้พี่ชายก่อนจะหลุบตามองคนที่มีชื่อเป็นสามีตรงหน้าด้วย


    “ไม่เป็นไรหรอกครับคุณชาย พี่ผิดเองที่ตามมาโดยไม่ได้บอกก่อน” ท่านชายกล่าวกับคุณชายจูเนียร์ด้วยน้ำเสียงนุ่ม แต่สีหน้ากลับเรียบตึงกลับมองคุณแบมเสียจนทำตัวไม่ถูก ปากบอกไม่เป็นไรไฉนมองจากดาวอังคารคุณแบมยังรู้เลยว่าโกรธน่ะ


    “ถ้าอย่างนั้นพักผ่อนเถิดกระหม่อม ทรงอยากเสวยสิ่งใดหรือไม่ กระหม่อมจะได้ให้คนเตรียมไว้” คุณชายจูเนียร์เอ่ยถาม


    “ไม่เป็นไร พี่กินมาบ้างแล้ว คุณชายไปพักผ่อนเถอะนะ ไม่ต้องห่วงอะไร”


    ท่านชายมาร์คกล่าวตอบอย่างสุภาพ ชายเนียร์เห็นดังนั้นจึงไม่เซ้าซี้เพิ่ม และเดินเลี่ยงออกไปถึงในใจจะอดห่วงทั้งคู่ไม่ได้ เนื่องจากสีหน้าของท่านชายแล้ว จูเนียร์คิดว่าเจ้าตัวแสบคงทำเรื่องอะไรอีกแน่ ก็หวังว่าท่านชายจะปราณีน้องชายของตนบ้างก็เท่านั้น


    กลับมาที่สองคู่สมรส ซึ่งยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ เนื่องจากคุณชายตัวน้อยไม่กล้าขยับกายไปไหน นอกเสียงจากหลุบสายตาไม่กล้าสบเข้ากับนัยน์ตาเรียวคมของสิงห์อากาศเอก ราวกับตนมีความผิดติดตัว ทั้งที่แอบคิดอยู่เหมือนกันว่าตนไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย


    “จะให้พี่เข้าไปได้หรือยัง หรือต้องให้ยืนหลับกันตรงนี้” สุรเสียงทุ้มดังขึ้นอย่างราบเรียบ ส่งผลให้คนฟังเม้มปากแน่นทั้งนัยน์ตากลมยังสั่นระริก แต่ไม่ได้มีน้ำตาออกมาเพราะคุณแบมไม่ได้เสียใจหากแต่กังวลใจอยู่ต่างหาก


    ถึงอย่างนั้นคุณชายคนเล็กของวังก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดตอบ นอกเสียจากถอยออกให้คนพี่เดินเข้ามาในห้องจึงได้เห็นว่าท่านชายไม่ได้มาเพียงตัวเปล่า หากแต่มีกระเป๋าติดมือมาด้วยหนึ่งใบ


    “พะ พี่ชายมาร์ค”


    เสียงหวานเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าท่านชายเดินเงียบเข้าไปโดยไม่เอ่ยสิ่งใดอีก ทำให้ร่างสูงของท่านชายหยุดชะงักอยู่กับที่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดตอบภรรยาของตน แต่เดิมทียอมรับว่าน้อยใจที่น้องละเลยตน ทั้งที่จะกลับมานอนที่วังภูวกุลแต่กลับเพียงส่งข้อความบอกกันเท่านั้น ถึงแม้จะเห็นว่าอีกฝ่ายพยายามโทรหาแล้วแต่เพราะตนติดบินอยู่จึงไม่ได้พกโทรศัพท์ไปด้วย ถึงอย่างนั้นก็เห็นเพียงสายเดียว จึงทำให้ท่านชายคิดว่าน้องคงไม่ได้แคร์สิ่งใดตนเท่าที่ควรนัก เป็นธรรมดาหากคนที่นึกคะนึงหาน้องทุกวินาทีจะน้อยใจ


    ส่วนคุณแบม เมื่อเห็นว่าท่านชายไม่เอ่ยสิ่งใดตอบกลับจึงไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดด้วยทั้งประหม่าไม่ตก คนน้องถึงได้จ้องมองแผ่นหลังกว้างของพี่ชายมาร์คพลางคิดว่าทำไมต้องทำท่าทางเหมือนโกรธขนาดนั้นด้วย คนตัวเล็กที่ไม่รู้ความรู้สึกแท้จริงของคนพี่จึงได้แต่คิดสับสนกับตัวเองเท่านั้น


    แล้วแบบนี้จะให้คุณแบมทำอย่างไรล่ะ เฮ้อ!





     LOADING.... 100%
    24/11/62

     พยายามจะอัพให้เร็วแล้ว แต่ไม่รับปากนะคะว่าจะเร็วได้ขนาดไหน 
    แต่ถึงอย่างนั้นก็รออ่านเม้นจากทุกคนนะคะ ^^ ขอบคุณที่ยังติดตามกันอยู่ค่ะ
    คิดถึงนักอ่านที่น่ารักนะ 

    ปล.อีกครั้ง นิยายเรื่องนี้ดราม่าไม่เยอะนะ ไม่ต้องกังวลใจไปดอกหนา



    21/11/62

    อัพต่อเนื่อง ไฟแรงมาก ฝากกดแชร์ให้คนอื่นๆ มาอ่านด้วยนะคะ
    อ่านเม้นทุกคนแล้วชื่นใจ มีกำลังใจแต่งต่อมากเลยค่ะ เม้นให้อ่านอีกเยอะๆ นะคะ

    ปล. ยังไม่เช็กคำผิดนะคะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×