คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 8 ❁ งานแต่งงาน 100% ❁
เสียงดนตรีดังคลอเบาๆ คลุกเคล้าบรรยากาศอันชวนฝัน
ซุ้มดอกไม้สีขาวนานาพันธุ์ส่งกลิ่นหอมคลุ้ง ห้องโถงประชุมของโรงแรมระดับ 8
ดาวในเครือ เทวะโรจนหิรัญ
ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวรรค์บนดิน ทั่วเพดานถูกประดับตกแต่งเป็นซุ้มขนาดใหญ่
ประดับด้วยดอกกุหลาบสีขาว ซึ่งถูกเหมาทั้งแทบทั้งทุ่ง ห้อยระย้าลงมาเหมือนเถาวัลย์
เชื่อเลยว่างานแต่งงานครั้งนี้คงกลายเป็นหัวข้อกล่าวถึงไปอีกนาน
ซิกเนเจอร์ของงานคงไม่ต้องเอ่ยบอก เมื่อลอดซุ้มประตูงานเข้ามาก็จะพบกับเค้กแต่งงานสีขาวนวลสูงเก้าชั้นตั้งอยู่ตรงกลาง ความอลังการของทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมาจากความตั้งใจของทั้งสองตระกูลดัง การดองกันระหว่างเทวะโรจนหิรัญและภูวกุลแทบจะถูกจดเป็นหน้าประวัติศาสตร์ของแคว้น
แขกเรื่อที่มาในงานล้วนแต่เป็นเชื้อพระวงศ์และเหล่าคนดังในสังคม ทั้งเพื่อพ้องและญาติพี่น้องต่างไม่พลาด ทุกคนต่างรอลุ้นยลโฉมเจ้าสาวตัวน้อยที่เป็นที่รักของวังภูวกุล ว่าที่คุณหมอตัวน้อยซึ่งวันนี้ถูกจับแปลงโฉมให้กลายเป็นเจ้าสาวแสนสวยของท่านชายมาร์ค
ร่างเล็กบอบบางบัดนี้ถูกจับให้สวมใส่ชุดเจ้าสาวยาวลากพื้น ใบหน้าน่ารักถูกช่างมืออาชีพระดับแนวหน้าจากฝรั่งเศส เดิมทีก็คุณชายตัวเล็กก็น่ารักน่าหยิกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเจ้าหญิงแสนสวย แม้ตอนนี้จะหน้าหงิกไปหน่อยก็ตาม...
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคุณแบม ยิ้มหน่อยสิลูก” ท่านชายภาษกรจ้องมองหน้าลูกชายคนเล็กก่อนจะยื่นมือไปดังแก้มย้วยซึ่งกำลังพองเพราะคนตัวเล็กกำลังงอนที่ถูกจับแต่งตัวเป็นผู้หญิง
คุณแบมรู้สึกประหม่าที่ต้องมาสวมใส่ชุดแต่งงานยาวอลังการนี่ โชคดีที่ไม่ต้องสวมใส่รองเท้าส้นสูงเพราะกระโปรงนั้นคลุมถึงพื้นแถมลากยาวแทบจะเป็นกิโล แต่การถูกจับใส่วิกผมยาวแล้วยังต้องแต่งหน้าเสียเยอะแยะแบบนี้มันอดไม่ได้ที่จะงอแง
“คุณแบมไม่อยากแต่งงานซะหน่อย” บ่นอู้อี้คนเดียว ก่อนจะยู่ปากจนคนเป็นพ่อยิ้มขำ ก็ดีอยู่ที่คุณแบมไม่ได้พยศอะไรแม้จะงอแงไปหน่อยก็ตาม
ตอนนี้เป็นเวลาที่คนเป็นพ่อต้องส่งตัวเจ้าสาวให้กับเจ้าบ่าวที่ยืนรออยู่ในงานตามแบบฉบับศาสนาคริสต์ ซึ่งคนตัวเล็กก็เกาะท่านพ่อเสียแน่นเพราะกำลังประหม่า เพราะแขกในงานมีเกือบห้าสิบคน คุณแบมกลัวทำอะไรผิดพลาดอย่างเช่นหกล้มหัวคะมำเพราะไอ้ชุดแต่งงานยาวๆ นี่ หรือไปทำอะไรเปิ่นจนเป็นเรื่อง
งื้อ... คนแบมกลัว!
พร้อมหรือยังครับตัวเล็กของพ่อ” ท่านชายภาษกรหันมาถามลูกชายเมื่อได้ยินเสียงเพลงซึ่งเป็นสัญญาณว่าเจ้าสาวของงานกำลังจะปรากฏตัวให้แขกเรื่อและเจ้าบ่าวได้ยลโฉม
“คะ คุณแบมกลัว... คุณแบมจะไม่ล้มใช่ไหมกระหม่อม(πーπ)”
“เชื่อใจพ่อสิ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ก็ทำให้หัวใจดวงน้อยคลายกังวลได้เปราะหนึ่ง คนตัวเล็กหันหน้าไปมองยังซุ้มประตูด้านหน้า เป็นประการแรกที่ต้องเดินเข้าไปก่อนจะสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด สองพ่อลูกค่อยๆ พากันเดินไปตามทางเดินซึ่งถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบสีชมพู ทันทีที่ย่างเข้าไปสูวิมานบนดิน ก็เรียกเสียงฮือฮาเซ็งแซ่ เพราะแขกทุกคนในงานล้วนพากันจับจ้องมายังเจ้าสาวตัวน้อยซึ่งบัดนี้ไม่ต่างอะไรกับเจ้าหญิงในเทพนิยาย
ร่างน้อยสั่นเกร็งเกาะแขนคนเป็นพ่อแน่น พยายามทรงตัวไม่ให้ล้มให้ขายหน้า แขกในงานล้วนแล้วแต่เป็นคนสำคัญ ตัวจะทำอะไรผิดพลาดไม่ได้ อีกคนก็ประหม่าจนจะเป็นตระคิว ส่วนอีกคนที่ยืนหล่อรอเฉยๆ นี่สิ...
ท่านชายนายเรือ บัดนี้สวมชุดทหารเต็มยศสำหรับงานแต่งงาน ซึ่งเป็นงานสำคัญที่เขาตั้งหน้าตั้งตารอ ความหล่อเหลาที่ไม่อาจจะปฏิเสธ ราวกับรูปปั้นของเทพเจ้า เจ้าบ่าวสุดหล่อของเจ้าสาวตัวน้อยไม่อาจละสายตาจากเจ้าหญิงของเขาได้ ท่านชายมาร์คได้หลุดไปอยู่ในบ่วงแห่งความรักอีกแล้ว
สายตาของท่านชายไม่อาจละไปจากน้องได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว คุณแบมในชุดเจ้าสาวช่างเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่เขาจะต้องไขว่คว้าเอาไว้แล้วเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี อาจจะแปลกไปเสียหน่อย แต่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวไม่เคยไปลองชุดแต่งงาน ทุกอย่างถูกผู้ใหญ่จัดเตรียมให้หมด และท่านแม่ของท่านชายนั้นไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเลย คุณแบมสวยมากจริงๆ
สวยจนท่านชายตกหลุมรักน้องอีกครั้ง
“เราฝากคุณแบมด้วยนะท่านชาย” เสียงของท่านชายภาษกรดังขึ้นเมื่อพาลูกชายตัวน้อยมาส่งถึงมือเจ้าบ่าว
“กระหม่อมจะดูแลคุณแบมยิ่งกว่าชีวิตของกระหม่อม” ท่านชายตอบรับอย่างฉะฉาน แววตาจริงจังนั่นทำให้ท่านชายภาษกรพอใจ เขาไว้ใจผู้ชายคนนี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย คุณแบมจะต้องปลอดภัยภายใต้อ้อมแขนของชายคนนี้ เมื่อได้คำตอบที่พอใจแล้ว คนเป็นพ่อก็ส่งมือเล็กของลูกชายที่เปรียบดั่งดวงหทัยของคนในวังส่งต่อให้ท่านชายตรงหน้า
หัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อถูกมือหนาของท่านชายกุมเอาไว้ คุณแบมไม่กล้าเงยหน้ามองท่านชายมาร์คด้วยอาการประหม่า รู้สึกจะร้องไห้ขึ้นมาเมื่อท่านพ่อเดินจากไป ราวกับลูกนกตัวน้อยถูกผลักออกจากรัง คนตัวเล็กพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้พร้อมเม้มปากแน่น ตอนนี้คุณแบมไร้ที่พึ่งอื่นนอกจากท่านชายมาร์คแล้ว
“ไม่ต้องกลัวนะคะ... เชื่อใจพี่” เสียงทุ้มมีเสน่ห์ของท่านชายกระซิบบอกคนน้อง
เพราะสัมผัสได้ถึงการบีบมือของคุณแบม ท่านชายเข้าใจดีว่าตอนนี้คุณแบมกำลังกลัวและประหม่าแค่ไหน
ซึ่งมันก็ได้ผล เสียงอบอุ่นของท่านชายเปรียบเสมือนน้ำเย็นที่คอยลูบหัวใจดวงน้อยให้คลายความร้อนลุ่ม
คุณแบมเชื่อใจท่านชายมาร์คได้ใช่ไหม...
คุณแบมไม่แน่ใจเลยว่าชีวิตของคุณแบมจะสามารถมอบให้ชายคนนี้ได้จริงๆ
ไหม...
พี่ชายมาร์คจะรักษาสิ่งสำคัญของคุณแบมไว้ได้นานแค่ไหน
การแต่งงานไม่ใช่บทสรุปของชีวิตคู่
แต่มันคือการเริ่มต้นต่างหาก...
ทุกอย่างมันได้เริ่มต้นขึ้นแล้วหลังจากที่ทั้งสองคนได้เอ่ยคำนั้นออกไป
คำสัตย์สาบานต่อหน้าตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า...
คำสั้นๆ แต่ความหมายครอบคลุมทุกสรรพสิ่งบนโลกา
....
“เรืออากาศเอก หม่อมเจ้าชายมกรธวัช เทวะโรจนหิรัญ
พระองค์จะทรงรับหม่อมราชวงศ์กันต์พิมุก ภูวกุล เป็นภรรยาหรือไหม”
“รับครับ...”
“หม่อมราชวงศ์กันต์พิมุก ภูวกุล คุณจะรับเรืออากาศเอก
หม่อมเจ้าชายมกรธวัช เทวะโรจนหิรัญ เป็นสามีหรือไม่”
“...”
“...”
“รับครับ...”
ผ่านไปแล้วกับงานแต่งงานที่แสนจะอยากลำบาก คุณแบมต้องทนฝืนอยู่ในร่างของเด็กสาวตัวน้อย นั่นเพราะเป็นความฝันของหม่อมแม่ หม่อมแม่ของคุณแบมเคยฝันว่าอยากได้ลูกสาวและอยากเห็นลูกสาวสวมชุดแต่งงาน ถึงแม้คุณแบมจะไม่ได้เป็นลูกสาวให้หม่อมแม่ได้ แต่คุณแบมก็สามารถทำตามความฝันให้ได้ แม้จะดูขัดเขินกับการที่ต้องมาแต่งชุดเจ้าสาวแบบนี้
อีกหนึ่งอย่างคือยุคสมัย ด้วยการแพทย์ที่ล้ำหน้า ร่างกายของคุณแบมและพี่ชายคนอื่นๆ ต่างพัฒนาต่างออกไป ยุคสมัยนี้ผู้ชายสามารถท้องได้ แต่ก็ไม่ได้พบแพร่หลาย ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่เป็นแบบพวกเขา ซึ่งเพราะอย่างนี้ การแต่งงานของท่านชายและคุณแบมจึงไร้ข้อกังขาใดๆ
และเมื่อเข้าพิธีแล้ว ต่อจากนั้นจะอะไรล่ะ
งื้อ!! (ಠ⌣ಠ)
คุณแบมรู้สึกคันยับยิบไปทั้งตัวเพราะชุดเจ้าสาวที่หม่อมแม่ภูมิใจหนักหนา
อยากจะถอดก็ไม่ได้เพราะมีใครบางคนอยู่ด้วย คุณแบมไม่ชอบบรรยากาศในห้องหอเลยสักนิด ต้องโทษคิมที่พูดกรอกหูเขาจนหลอนเก็บเอามาคิด
‘แหม... คุณแบมของคิมจะเป็นฝั่งเป็นฝาเสียแล้ว เด็กน้อยในวันนั้นจะกลายเป็นภรรยาแล้วหรือนี่’ หม่อมหลวงคิมเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อที่มองดูจากดาวศุกร์ยังรู้เลยว่าเล่นละครอยู่
ซ้ำยังใช้นิ้วเขี่ยหลอดสีใสในแก้วน้ำตรงหน้าตนไปมาอีก
‘อย่าเวอร์ไปหน่อยเลยคิม กะ ก็แค่แต่งงานเอง’ แม้จะเถียงเพื่อนตัวสูงไป แต่อีกใจคุณแบมก็แอบตื่นเต้นไม่น้อย ซึ่งมีเหรอคนหูตาว่องไวอย่างหม่อมหลวงว่าที่นายแพทย์จะมองไม่ออก
เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะแกล้ง
เพื่อนตัวเล็กแสนใสซื่อของตนน่ะน่าแกล้งจะตาย
‘แล้วคุณแบมรู้ไหมว่าแต่งงานแล้วเขาทำอะไรกัน’ คิมถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
‘ทะ ทำอะไรล่ะ’
‘เห... นี่เพื่อนของคิมไม่รู้เลยว่าเป็นภรรยาจะต้องทำยังไง’
‘…’
‘ก็ต้องทำ....’
“คิมบ้า!!!” เมื่อนึกสิ่งที่เพื่อนสนิทพูด
ใบหน้าหวานสวยก็เปลี่ยนสี ถึงกระนั้นก็ทำได้เพียงร้องต่อว่าและทุบลงที่หมอนข้างข้างตัวผู้เคราะห์ร้ายกลายเป็นตัวระบายอารมณ์ร่างน้อยเท่านั้น
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณแบม” เสียงทุ้มเจ้าของเอกลักษณ์ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงโปร่งสมชายชาตรีที่เดินออกมาจากห้องอาบน้ำ
คุณแบมเผลอมองภาพตรงอย่างตะลึงงันเมื่อหม่อมเจ้ามกรธวัชออกมาด้วยสภาพนี้ ดวงเนตรกลมคู่สวยเลื่อนมองตั้งแต่
ผมสีน้ำตาลเข้มเปียกลู่เข้ารูปหน้าหล่อเหลาที่เปียกชุ่มด้วยเม็ดธาราเกาะกุม
เลื่อนสายตาลงมาต้องกับลำคอแกร่ง ก่อนจะเจอกับแผงอกล่ำสันที่อยู่เหนือซิกแพกเป็นชั้นสวยตระหง่านตา
และนั่น... วะ วีเชฟใช่ไหม
ละ.... ลามก!!
“งื้อ!! ทะ ทำไมพี่ชายมาร์คไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนออกมาเล่า”
น้องพูดออกมาอย่างเสียตัวตน ร่างน้อยยกมือเล็กขึ้นมาปิดใบหน้าตัวเองทั้งยังหันหลังให้คนพี่อีก
การกระทำที่แสนน่ารักทำเอาคนมองหลุดขำออกมาเสียไม่ได้
ท่านชายนายเรืออากาศย่างก้าวเข้าใกล้ภรรยาตัวน้อยอย่างไม่รีบนัก
ความจริงเขาก็ไม่ได้โป๊เสียจนน่าเกลียดเพราะได้นุ่งผ้าขนหนูปกปิดเอาไว้แล้ว
แต่ดูเหมือนน้องจะยังไม่ชินถึงได้ตัวสั่นขนาดนั้นยามเห็นเขาออกมาจากห้องน้ำ แถมตัวน้อยๆ
ยังเปลี่ยนสีกลายเป็นมะเขือเทศทั้งตัวแบบนั้นอีก เห็นแล้วมันก็อดใจไม่ไหวอยากจะแกล้งสักที
เห็นไหม ผิดกับที่คิมพูดเสียที่ไหน คุณแบมน่ะน่าแกล้งอย่างกับอะไรดี
“ปกติพี่ก็ทำแบบนี้นี่คะ... แล้วทำไมต้องยกมือปิดหน้าแบบนั้นล่ะ เดี๋ยวหายใจไม่ออกนะคะคนดี”
ท่านชายเอ่ยเสียงนุ่ม ทั้งยังอุตส่าห์เอื้อมมือไปดึงมือนุ่มออกให้ราวกับหวังดี
หากนั่นเป็นเพียงการแกล้งน้องให้เขินเท่านั้น
“คุณแบมไม่เป็นอะไร!”
เมื่อเห็นท่าไม่ดี คนน้องก็ลุกพรวดยืนขึ้นเพื่อหลบหนีภัยที่ท่านชายเป็นต้นเหตุ
หากแต่การกระทำในทันที บวกกับชุดเจ้าสวยที่รุ่มร่ามอยู่ จึงทำให้ร่างเล็กเสียการทรงตัวล้มลงกลางอกเปลือยเปล่าที่ยังเปียกชุ่มด้วยหยาดน้ำอยู่
กลิ่นหอมของครีมอาบน้ำที่แปลกจากตนทำเอาคุณแบมร้อนวูบไปทั้งใบหน้า
มันเป็นกลิ่นของบุรุษต่างจากตนที่มักใช้ครีมอาบน้ำกลิ่นเด็กเสียมากกว่า แรกเริ่มหลังจากสัมผัสร่างกายพี่
คนน้องก็รีบไสกายออกในทันที หากทว่ากลับถูกแขนแกร่งตวัดโอบล้อมกายไว้เสียก่อน
อ้อยเข้าปากช้างแล้วใยจะปล่อยให้หลุดไปง่ายๆ ล่ะ
“จะรีบไปไหนล่ะคะ ชุดนี่ดูเกะกะรุ่มร่าม ให้พี่ช่วยถอดไหม” คนพี่แสดงความหวังดี
ปากก็หยิบยื่นราวกับอยากช่วยเหลือ หากตานัยน์ตาคมกลับเจ้าเล่ห์เสียจนคุณแบมใจเต้นตุบตับ
“พี่ชายมาร์คปล่อยคุณแบมได้ไหม คุณแบมอึดอัด” น้องเอ่ยพูดเสียงเบา
ทั้งยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคนเป็นพี่ แต่ดวงตาก็หลบไม่พ้นแผงอกเปลือยเปล่าอีก
สุดท้ายจึงทำได้แค่ปิดตาไปพูดกับพี่ไป
“หืม... ทำไมล่ะ พี่อยาก ‘กอด’
ภรรยาของพี่นี่คะ” ท่านชายเอ่ยตอบ ทั้งยังก้มหน้าลงยังซอกคอสวยเพื่อสูดกลิ่นกายหอมประจำตัวอย่างหลงใหล
จะว่าเขาเป็นเฒ่าหัวงูล่อลวงเด็กก็เถอะ... แต่มันอดใจไม่ไหวจริงๆ “ว่ายังไงคะ
ให้พี่ช่วยถอดชุดดีไหม”
ครืดดดด
การกระทำนำสุรเสียงไปไกลเสียแล้ว ทั้งที่ปากยังพูดไม่ทันจบดี
เสียงซิบจากชุดเจ้าสาวก็ถูกรูดลงจนกายเล็กโหวงในทันที คุณชายตัวน้อยหน้าตื่นเพราะตั้งตัวไม่ทัน
ไม่คิดเลยว่าท่านชายมาร์คจะมือไวถึงเพียงนี้
“ปล่อยคุณแบม คะ คุณแบมอยากอาบน้ำ” คุณชายตัวน้อยพยายามเอาตัวรอด
ยิ่งรับรู้ถึงสัมผัสบริเวณสะโพกมน ยิ่งทำให้กายน้องสั่นสะท้านไปทั้งตัว ทั้งยังต้องพยายามเบี่ยงคอออกจากปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียไม่ห่างอีก
“อาบทำไมคะ ตัวยังหอมอยู่แท้ๆ”
“อือออ พี่ชายมะ มาร์ค ปล่อยคุณแบมเถอะนะ” ฮือออ ไม่งั้นคุณแบมจะร้องไห้จริงๆ
นะ ทำไมมันรู้สึกแปลกขนาดนี้กัน
แต่แทนที่ท่านชายนายเรืออากาศจะเห็นใจ กลับย่ามใจเข้าไปใหญ่
เพราะตอนนี้สติของท่านชายแทบหายไปสิ้น จากเดิมที่เพียงแค่ต้องการแกล้งให้น้องเขิน
แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่คุมตนเองไม่ได้ กลิ่นกายประจำตัวของคุณแบมหอมเสียจนเขาอยากจะจับน้องขย้ำเสียตรงนี้
ถึงแม้จะรู้ว่าน้องไม่พร้อมด้วยทั้งอายุที่ยังน้อยแต่ต้องถูกจับแต่งงานด้วยความต้องการของผู้ใหญ่และความเอาแต่ใจของตนเอง
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่อาจจะทนต่อการสอนน้องให้เรียนรู้ไปทีละขั้นตอน
ใช่ แต่เริ่มแล้วท่านชายมาร์คอยากให้น้องพร้อมมากกว่านี้
เพราะเขาไม่อยากบังคับคุณแบมทั้งที่น้องไม่เต็มใจ หากแต่บัดนี้มันกำลังจะสายไปเสียแล้ว
นายพรานกำลังตกหลุมที่ตัวเองขุดเอาไว้
“อืมม... หอมจังเลยค่ะคนดีของพี่”
“ฮึก... พะ พี่ชายมาร์ค...”
ซวยแล้ว...
ใบหน้าหล่อชะงักกึกเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นของน้อง สติที่รวยรินก่อนหน้ากลับคืนอย่างไม่ต้องเรียกหา
เมื่อกายเล็กสั่นสะท้านภายในอ้อมแขนจนน่าสงสาร ทำเอาท่านชายอยากทุบหัวตัวเองที่เผลอทำอะไรไม่ดีเพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง
น้ำตาของคุณแบมส่งผลต่อตัวท่านชายอย่างมาก แต่พิศวาสก็ไม่ได้หายไป มันย้อนแย้งสำหรับเขา
แต่จะให้ทำอย่างไร ในเมื่อคนตรงหน้านี้คือคุณแบม บุคคลที่ส่งผลต่อหัวใจของเขา
“อย่าร้องเลยนะคะ พี่ขอโทษ พี่ไม่ทำแล้ว” สุดท้ายคุณแบมก็ชนะอย่างไม่ต้องสงสัย
หม่อมเจ้าหนุ่มต้องกัดฟันทนต่อความรู้สึกกำนัดของตนไว้ลำพัง เพราะน้องกำลังเสียขวัญหนัก
ทั้งที่รู้ว่าน้องคงเด็กไปสำหรับเรื่องพวกนี้ แต่อย่างไรใจชั่วอีกซีกหนึ่งกลับเถียงว่าเราแต่งงานกันแล้ว
ทำไมจะทำไม่ได้
แต่ถ้ามันต้องแลกมากับความเสียใจของคนตรงหน้าแล้ว เขาคงไม่ยอม
“ระ รอก่อนได้ไหม... ฮึก... คะ คุณแบมยังไม่พร้อม” ใช่ว่าคนเป็นน้องจะไม่รู้ความต้องการของพี่เขา
แต่เพราะตนไม่ได้เตรียมรับมือมาขนาดนั้น คุณแบมตัวน้อยเงยหน้าสบตาเรียวคมทั้งที่ตาพร่าไปด้วยน้ำตาจนแทบมองไม่เห็น
ใบหน้าแดงก่ำของน้องเล่นงานท่านชายอย่างไม่ต้องสืบ อดสงสารไม่ได้จนต้องกอดปลอบ
ทำไมเขามันชั่วได้ขนาดนี้ ถึงได้ทำให้น้องร้องไห้อีกแล้ว
“พี่รอได้ค่ะ เมื่อไหร่พี่ก็จะรอ หยุดร้องนะคะ พี่ใจจะขาดแล้ว”
และนี่สินะ คืนเข้าหอคืนแรกของเรา ท่านชายมาร์คคิดแล้วอยากจะร้องไห้ตามน้องไป
ส่วนสงสารเห็นใจก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคงเป็นตัวเองนี่แหละ เอาเถอะ... ถึงไม่ได้กอดแบบนั้น
แต่อย่างน้อยคืนนี้น้องก็นอนอยู่ในอ้อมแขนเขาทั้งคืน เพียงได้กอดร่างนุ่มนิ่มนั่นคงเพียงพอต่อการปลอบใจชายหนุ่มได้ไปหน่อยนึงล่ะนะ...
ความคิดเห็น