คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 7 ❁ พี่จะรับผิดชอบ 100% ❁
“คุณต้องลงสำรวจที่เหมืองโรเซล
เก็บรวบรวมตัวอย่างแร่และอัญมณีมาให้มากที่สุด และนี่คือ ร.อ. เจตนิพัทธ์ ไกรเลิศวาทิน นักบินและผู้ดูแลทุกอย่างในครั้งนี้”
เสียงของศาตราอาจารย์วัยชราเอ่ยจบ
ร่างบางของคุณชายคนของที่สองแห่งวังภูวกุลก็หันไปมองบุคคลที่สามที่ถูกกล่าวถึง
นักศึกษาฝึกสอนของคุณชายแจนจำเป็นต้องทำวิจัยก่อนจบ
ซึ่งหน้าที่ของนักศึกฝึกสอนในวิชาแร่และอัญมณีนั้นจำเป็นอย่างมากที่ต้องลงนอกสถานที่
ซึ่งการสำรวจเหมืองก็ถือว่าเป็นที่หลักๆ เลยก็ว่าได้
ร่างสันทัดของชายชาติชาตรียืนตรงเหมือนไม้กระดานทำเอาคนสวยนึกขำ
ความจริงคุณชายแจนลอบมองอีกคนมาสักพักแล้ว ร.อ.
แจ็คสันเคร่งครัดในระเบียบมากไปหรือเปล่า ตั้งแต่เข้ามาในห้องของอาศาสตราจารย์
เรายังไม่เห็นว่าชายคนนี้จะไหวติง หรือว่าเขาจะเป็นไม้กระดานจริงๆ
ส่วนคนที่ถูกมองขำก็รู้ตัว
คุณชายตัวเล็กชื่อเสียงเรื่องลือมาไกล หนึ่งในสามของคุณชายแห่งวังภูวกุล
เขายังไม่พบอีกสองคนหรอก เพราะวันๆ อยู่แต่กับการลาดตะเวน
แม้จะมีป๊าเป็นเจ้าสัวผู้ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ไม่ใช่คนเข้าสังคม นอกจากท่านชายมาร์คกับคุณชายเจปแล้ว
แจ็คสันก็ไม่ค่อยรู้จักใครเลย
ในทางกลับกัน ใครบ้างจะไม่รู้จักสิงห์แห่งท้องนภา
สามหนุ่มนายเรืออากาศผู้ที่ครอบครองใจหญิงสาวไปทั่วนคร
หนึ่งในนั้นคุณชายคนสวยได้พบแล้วในฐานะน้องเขยของตน ส่วนคนข้างๆ
นี้คือบุคคลเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบิดาเป็นถึงนายห้างเซนซิล่า
ห้องดังของแคว้น แน่ล่ะ ครอบครัวนี้รวยกว่าเชื้อพระวงศ์บางคนเสียอีก
ใครบ้างจะไม่อยากฝากตัวเป็นลูกสะใภ้
หลังจากพูดคุยกับศาสตราจารย์เรียบร้อย
คุณชายแจนก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับแจ็คสัน ทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยกันมาก มีรอยยิ้มทักทายจากคุณชายแจนเท่านั้น
ส่วนแจ็คสันก็ตีหน้านิ่ง
ตามนิสัยแล้วความห่ามที่มีสะสมมันอาจจะส่งผลต่อการสร้างไมตรีต่อผู้อื่น
แจ็คสันชินต่อการวางตัวในค่ายทหารมากกว่า
จึงไม่รู้วิธีการวางตัวนุ่มนวลอบอุ่นเหมือนใครๆ
แน่นอนว่าการถูกผู้บังคับบัญชาการสูงสุดสั่งตรงมาเพื่อคุ้มครองคุณชายคนสวยแห่งวังภูวกุล
กับการลงพื้นที่ ณ เหมืองแร่ติดชายแดน ซึ่งเป็นแหล่งของผู้ทรงอิทธิพล
แน่นอนว่าอันตรายรอบทิศแน่นอน แต่เมื่อเทียบกับข้อมูลที่จะไปศึกษาแล้วก็คงคุ้ม
ไม่อย่างนั้นคุณชายข้างๆ คงไม่ตกปากรับทำโดยง่ายเช่นนี้ ทั้งที่สามารถค้านได้
ก็ใครจะไปกล้าขัดใจคุณชายของวังภูวกุลได้ล่ะจริงไหม
“เอ่อ... เราต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ พี่ชาย”
ร่างเล็กฉีกยิ้มกว้างให้ รอยยิ้มสดใสของอีกฝ่ายทำเอาหัวใจแกร่งกระตุก
ดวงตาเรียวคมวูบไหวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปฏิกิริยาตรงหน้านั้นทำให้คุณชายแจนยิ้มขำ
“เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว” แจ็คสันตอบ
เจ้าของร่างหนาพยายามที่จะควบคุมสติให้คงที่หลังจากเจอแอคแทคเข้าไป
เขาต้องรักษามาดเอาไว้เพราะตนเป็นถึง ร.อ.
หากลูกน้องมาเห็นคงได้หมดความน่าเชื่อถือ
ถ้าหากมีใครรู้ว่าเขามาเสียท่าเพียงเพราะผู้ชายตัวเล็กๆ คนเดียว
ส่วนคุณชายแจนก็นึกสนุก
แต่เพราะไม่อยากจะทำให้อีกคนอึดอัดจนเกินไปจึงเก็บไว้แกล้งทีหลัง
เพราะถึงยังไงก็คงได้เจอกันอีกแน่
อย่างน้อยการไปลงพื้นที่ในครั้งนี้ก็ไม่ได้น่าเบื่อจนเกินไปใช่ไหมล่ะ...
กลับมาอีกครั้งกับบรรยากาศที่แสนอึดอัด
เสียงถอนหายใจของท่านชายดังขึ้นมาอย่างอดไม่ได้เมื่อหันไปมองใบหน้าของคนน่ารักที่เขาหลงใหลมอบใจให้
คุณแบมนิ่งกว่าที่เขาคิด ร่างเล็กไม่ได้โวยวายที่ถูกฉุดออกมาตั้งแต่หน้างานจนมาถึงมุมหนึ่งของวังซึ่งท่านชายมั่นใจว่าปลอดคน
คุณแบมเอาแต่ยืนนิ่งและก้มหน้านิ่งหลบสายตาของเขา
แน่ล่ะนี่คือครั้งแรกที่เราสองคนทะเลาะกันหนักขนาดนี้
เพราะเหตุการณ์ที่ร้านของจูเนียร์ยังไม่ร้ายเท่านี้ ท่านชายยอมรับว่าเขาอารมณ์ร้อน
แต่เขาไม่รู้เหตุผลเลยว่าทำไมคุณแบมถึงได้ดื้อกับเขาโดยการเงียบไม่พูดไม่จาอะไรเลย
จนบางทีร่างสูงก็สงสัยว่าต้นเหตุของเรื่องมันคืออะไรกันแน่
“ไปรู้จักกับพี่ชายคุณได้ยังไงคะคุณแบม”
ท่านชายพยายามถามด้วยน้ำเสียงปกติ
ทั้งที่ในใจร้อนดั่งเปลวเพลิงเมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ก่อนหน้า
“...”
“คุณแบม...” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่พูดอะไรออกมา
ท่านชายจึงขานเรียกคนตัวเล็ก แต่คุณแบมก็ยังทำหน้านิ่งไม่สนใจ
แล้วยังเอาแต่มองนอกรถราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน
เสียงถอนหายใจของท่านชายทำเอาร่างเล็กอดเม้มปากไม่ได้ คุณแบมไม่ใช่คนอ่อนแอ
แต่ทำไมท่านชายต้องทำให้คุณแบมรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอด้วยนะ
“ถ้าคุณแบมยังเงียบแบบนี้
เรื่องมันจะไม่จบสักทีนะคะ”
“...”
“คุณแบมคะ...”
คราวนี้ น้ำเสียงของท่านชายดูอ่อนลงกว่าเดิมอีกครั้ง
พี่ชายมาร์คคนเดิมของคุณชายตัวเล็กกลับมาในเวลาที่คุณแบมเสียความรู้สึกเพราะเจ้าตัวไปแล้ว
มือหนาคว้ามือบางที่กำแน่นที่หน้าตักเล็กมาไว้พร้อมบีบเบาๆ ถึงแม้คุณแบมจะไม่ตอบ
แต่การที่น้องไม่ปฏิเสธสัมผัสของเขานั้น ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี
“คุณแบมง่วง... พาคุณแบมกลับวังภูวกุลเถอะครับ”
เสียงใสๆ ในครั้งก่อนกลับกลายเป็นน้ำเสียงเย็นชาราวกับคนไม่รู้จักกัน
มันช่างทำให้หัวใจแกร่งสั่นสะท้าน ทั้งชีวิตนี้ท่านชายผ่านการทหารมาอย่างหนักหน่วง
แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะทำให้ทรงเจ็บถึงขนาดนี้
“พี่ไม่ให้กลับค่ะ ถ้าจะกลับก็กลับวังเทวะฯ”
“...”
“คุณแบม... นี่เราจะเป็นแบบนี้กันจริงๆ เหรอคะ
หันมาพูดกับพี่ดีๆ ไม่ได้เหรอ”
ร่างเล็กเม้มปากแน่นอีกครั้งเมื่อได้ยินน้ำเสียงเว้าวอนของพี่ชายมาร์ค
ยอมรับเลยว่ามันส่งผลต่อหัวใจดวงน้อย แต่ความรู้สึกน้อยใจมันควบคุมทั้งหมด
ภาพที่ท่านชายทิ้งตนไปกับคนอื่นแล้วยังไม่ให้เกียรติ์คุณแบมต่อหน้าอื่น
มันทำให้คุณแบมไม่สามารถฝืนทำตัวปกติได้ในตอนนี้
“ท่านชายอย่าพยายามอะไรตอนนี้เลยกระหม่อม
คุณแบมง่วงจริงๆ”
คราวนี้กลายเป็นท่านชายมาร์คที่ชะงักค้าง
ความรู้สึกขุ่นมัวในหัวใจมันถาโถมเข้าใส่เมื่อได้ยินสรรพนามที่น้องเรียกตน
คราวนี้ท่านชายรู้ซึ้งแล้วว่าคุณชายตัวเล็กของวังภูวกุลเป็นคนใจแข็งและใจร้ายแค่ไหน
คนตัวเล็กไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่าท่าทางเย็นชาแบบนั้นมันทำให้เขาเจ็บขนาดไหน
“ทำไมเรียกพี่อย่างนั้น”
“...”
“คุณแบมเป็นอะไรคะ ทำไมไม่บอกพี่
อย่าเอาแต่เงียบแล้วให้พี่เดาได้ไหมคะ” ท่านชายถามด้วยเสียงที่แข็งขึ้นตามอารมณ์
“คุณแบมไม่ได้เป็นอะ...”
“หยุดโกหกสักที!!”
ท่านชายเผลอขึ้นเสียงออกไปจนร่างเล็กสะดุ้ง จู่ๆ น้ำในตาก็เอ่อล้นที่ดวงตากลมโต
ท่านชายมาร์ครับรู้ได้ถึงอาการสั่นของร่างกายเล็ก และเริ่มได้สติ
คุณแบมขืนมือออกจากมือหนาแต่ท่านชายก็ไม่ยอมปล่อย
นั่นทำให้คุณแบมก้มหน้านิ่งพยายามสะกดอารมณ์เสียขวัญของตัวเองเอาไว้
ท่าทางของน้องทำให้คนพี่รู้สึกผิด
ทั้งชีวิตทำผิดมากมายแต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาอยากจะชกตัวเองสักหมัดแบบครั้งนี้
ทั้งที่บอกว่าอยากทะนุถนอมอีกคนไว้ให้มากที่สุด แต่ก็เผลอทำให้น้องกลัวเข้าจนได้
“ฮึก... ปล่อยคุณแบม... คุณแบมเกลีย...”
หมับ!!
“พี่ขอโทษ... พี่ชายมาร์คขอโทษนะคะคุณแบม...”
ร่างเล็กถูกคว้าไปกอดจนจมอกหนา
พร้อมกับน้ำเสียงของเจ้าของอ้อมแขนที่กล่าวอย่างรู้สึกผิด
ท่านชายมาร์ครับรู้ได้ถึงสัมผัสที่สั่นระริกของน้องได้เป็นอย่างดีเมื่อกอดอีกคนไว้แบบนี้
คุณแบมสะอื้นออกมาอย่างน่าสงสาร มันเล่นงานหัวใจแกร่งเหมือนถูกกรีดแทง
เพราะอารมณ์ของเขาถึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้
ตุบ ตุบ
“ฮืออ จะ ใจร้าย... พี่ชายมาร์คใจร้าย ฮืออออ”
“ค่ะ พี่มันใจร้าย... พี่ขอโทษ...”
ท่านชายมาร์คยอมรับคำด่าทอและไม่โวยวายเมื่อถูกมือเล็กทุบที่อก มันน้อยไปด้วยซ้ำที่เขาควรโดน เขาทำให้คุณแบมร้องไห้ น้ำตาของคนตัวเล็กมันมีค่าเกินกว่าจะมาเสียเพราะนิสัยไม่ดีของเขา ท่านชายมาร์คอยากจะต่อยตัวเองเสียด้วยซ้ำ ถ้าคนที่วังภูวกุลรู้เขาอาจจะไม่ได้คุณแบมมาเป็นภรรยาแน่ ที่มาทำให้แก้วตาดวงใจของคนในวังร้องไห้แบบนี้
หากคำขอโทษมันช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของน้องได้ ให้พูดเป็นพันครั้งเขาก็จะทำ
เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงที่คุณแบมร้องไห้
ใบหน้าน่ารักแดงก่ำไปทั่วทั้งใบหน้า ซุกอยู่ที่อกแกร่งของพี่ชายมาร์คอย่างไม่ขัดขืน
ท่านชายปล่อยให้คนตัวเล็กนิ่งไปสักพักก่อนจะผลักร่างคุณแบมออกอย่างแผ่วเบาเมื่อเสียงสะอื้นเริ่มจางหายไป
คุณชายคนเล็กแห่งวังภูวกุลก้มหน้าไม่ยอมสบตาคนพี่ ซึ่งท่านชายมาร์ครู้ดีว่าต้องทำยังไง
“เงยหน้ามองพี่หน่อยสิคะคนดี”
“...งื้อ!”
คุณแบมไม่ชอบเสียงของพี่ชายมาร์คตอนนี้เลย
มันทำให้หัวใจของคุณแบมเต้นรัวเหมือนแผ่นริกเตอร์โชว์อัตราการสั่นไหวของแผ่นเปลือกโลก
นี่คงผลข้างเคียงที่ต้องจดบันทึกเอาไว้บอกอาจารย์หมอคือใบหน้าของคุณแบมร้อนวูบด้วย
ถึงเวลาที่คุณแบมต้องเข้าไปปรึกษาอาจารย์หมออย่างจริงจังแล้วล่ะ
อาการครุ่นคิดของคนตรงทำเอาท่านชายนายเรือยิ้มเอ็นดู
ดวงตาเรียวคมอดไม่ได้ที่จับจ้องที่ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูสด
ความนุ่มนิ่มชวนให้นึกถึงเยลลี่ที่ตอนสมัยเด็กของทาน คล้ายกับต้องเสน่หา
ใบหน้าหล่อย่ามกลายเข้าใกล้จนลมหายใจแลกผ่านกัน
การกระทำที่เผลอไผลของท่านชายทำให้ร่างน้อยเบิกตากว้าง
“พี่ขอจูบได้ไหมคะ...”
“...”
“พี่อดใจไม่ไหวแล้วค่ะคนดี”
“พะ พี่ชายมะ... อื้อ!”
ริมฝีปากของท่านชายจู่โจมที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างโหยหา
ความปรารถนาทั้งหมดของท่านดั่งพายุในมหาสมุทร
เขาจู่โจมคนตัวเล็กด้วยความหอมหวานปานฮันนี่โทสต์
ปฏิกิริยาตอบสนองของคนตัวเล็กยิ่งชวนให้หัวใจชายชาตรีฮึกเหิม
ความไม่ประสีประสาของคุณแบมช่างเป็นเสน่ห์อีกอย่างซึ่งเขาไม่อาจปฏิเสธได้เลยสักครั้ง
เสียงจ๊วบจ๊าบของบทจูบที่แสนหอมหวานดังไปทั่วรถคันหรู
คุณชายคนเล็กแห่งวังภูวกุลถูกดูดกลืนสติไปเสียแล้ว
ร่างน้อยไร้เรี่ยวแรงจนคนพี่ต้องใช้สองแขนประครองใบหน้าน่ารักเอาไว้เพื่อปรับองศาจูบให้พอดี
กว่าห้านาทีกับการลุกล้ำของท่านชาย ก่อนที่ใบหน้าคมจะค่อยถอนออกไป
คละเสียงหอบแฮกของคุณชายตัวเล็กผู้น่าสงสาร
ใบหน้าเล็กเปลี่ยนสีเป็นสีแดงจัด
ไม่แน่ใจว่าเพราะเหนื่อยเหลือเพราะเขินกันแน่
ยิ่งน้ำนัยน์ตาที่เอ่อคลออยู่เหมือนการ์ตูนตาหวานที่เขาเคยเห็นท่านแม่อ่าน
ถึงแม้น้องจะน่าสงสารที่ถูกเขาลวนลาม
แต่เชื่อเถอะว่าคุณแบมทำตัวน่าสงสารได้ยั่วจริงๆ
เฮ้อ... ใจเย็นสิ...
ยังไม่ถึงเวลาท่านชาย
ได้แต่ข่มความรู้สึกของตัวเอง
ในขณะที่ร่างน้อยเริ่มสั่นระริกคลุกเคล้าเสียงสะอื้นอีกละลอก ทำให้ท่านชายละความส่วนใจจากความรู้สึกตัวเองเพื่อหันไปสนใจคุณแบม
น้องร้องไห้อีกแล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นความผิดของเขาอีกเช่นเคย
เพราะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แท้ๆ
“อย่าร้องเลยนะคะ พี่จะขาดใจอยู่แล้ว”
“ฮือออ”
“พี่ขอโทษ”
โอบกอดร่างเล็กพร้อมข่มอารมณ์ตัวเอง
ท่านชายมาร์ครู้สึกผิดอย่างไม่ต้องสงสัย เขาปวดใจทุกครั้งราวกับว่าเสียงร้องไห้ของคุณแบมมันเคลือบยาพิษ
มันส่งผลตรงต่อหัวใจของเขาเลยสิ
“ฮึก...”
เสียงร้องไห้เริ่มจางหายไปหลังจากนั้นครู่ใหญ่
อีกครั้งที่คุณแบมซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของท่านชายนายเรือที่ตะกองกอดน้องอย่างปลอบโยน
อาการเสียใจที่ถูกขโมยจูบอย่างอุกอาจเริ่มแปรเปลี่ยน
บัดนี้ใบหน้าน่ารักเพิ่มระดับความแดงก่ำอย่างไม่ต้องสงสัย หัวใจดวงน้อยเต้นรัว
จู่ๆ ก็ไม่กล้าสู้หน้าอีกฝ่ายเสียอย่างนั้น
“อย่าโกรธพี่เลยนะคะ พี่ขอโทษทุกๆ เรื่อง
แต่เรื่องจูบ... พี่ตั้งใจนะ”
“...”
หงึ!! ใช่เรื่องนั้นเรื่องเดียวซะที่ไหนกัน
ก็ใช่อยู่หรอกเรื่องที่ถูกพี่ชายจะ... นั่นแหละ! แต่ที่สำคัญกว่านั้น
พี่ชายมาร์คคงลืมไปแล้วใช่ไหมว่าทำอะไรกับคุณแบมไว้
ความจริงตัวเองก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องรู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจเหมือนถูกมดกัดเวลาเห็นพี่ชายมาร์คสนใจคนอื่นมากกว่า
แต่พี่ชายมาร์คเองก็นิสัยไม่ดี
คุณแบมไม่อยากแต่งงานด้วยหรอกヾ( ・`⌓´・)ノ゙
“คราวนี้เรามาพูดกันดีๆ ได้ไหมคะ”
“...”
“นะคะ...”
สุดท้าย คุณแบมก็ตายน้ำตื้น
เมื่อท่านชายส่งเสียงเว้าวอนมาขนาดนั้น ที่สุดก็ยอมโอนอ่อนให้ คุณแบมถูกดันให้ออกห่างอ้อมอกอุ่น
ก่อนจะถูกสายตาเหยี่ยวร้ายจ้องมองมาอย่างระยิบระยับ
ไม่รู้ว่าท่านชายรู้สึกผิดจริงๆ ไหว
ทำไมคุณแบมถึงรู้สึกว่าแววตานั้นมันช่างดูอันตรายแปลกๆ
“พี่ชายมาร์คไม่ต้องมามองคุณแบมแบบนั้นเลยนะ”
“หืม... พี่มองยังไงเลยเหรอคะ?”
“มะ ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เลย! ( 〃¬_¬)”
ร่างเล็กเผลอหลุบตามองต่ำเมื่อถูกจ้องมากๆ
ท่านชายเองก็ขบขันอาการรนรานของน้องเหลือเกิน
ทั้งที่บอกตัวเองว่าจะไม่แกล้งเพราะอยากจะเคลียร์ให้จบก็เถอะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ
เมื่อเห็นแก้มย้วยๆ นั่นเปลี่ยนสีไม่ต่างจากลูกพรีชที่เขาชอบ
“เอาล่ะ เรามาคุยกันดีกว่านะคะ...
พี่ขอโทษที่ทำรุนแรงกับคุณแบม แต่นั่นเพราะพี่ไม่ชอบที่คุณแบมอยู่ใกล้คุณชายคุณ”
ท่านชายเอ่ยออกมาเสียงเข้ม
เขารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่นึกถึงภาพของคุณแบมกับผู้ชายคนนั้น
“ก็พี่ชายมาร์คปล่อยคุณแบมไว้นี่.... ตัวเองหนีไปอยู่กับผู้หญิงแท้ๆ
ยังจะมาโทษ”
ประโยคหลังเป็นเสียงบ่นงึมงำ
ไม่เท่าปากอวบอิ่มที่เขามองแล้วอยากฟัดจูบนั่นก็เบะโค้งเพราะหมั่นไส้เขา
แล้วอย่าคิดนะว่าการที่คุณแบมพูดเสียงเบาเท่าเป่าสากแบบนี้มันจะทำให้ท่านชายมาร์คไม่ได้ยิน
เขาได้ยินมันชัดเจนทั้งหมดนั่นแหละ
อ๋อ... ที่แท้ก็งอนที่เขาไปอยู่กับหญิงโชอานี่เอง
“หึงพี่เหรอคะ?”
“ปะ เปล่านะ!”
“หือออ... ที่แท้ก็หึงพี่นี่เอง พี่ดีใจนะเนี่ย”
“คุณแบมไม่ได้หึง”
ไม่ใช่นะ คุณแบมไม่มีทางหึงหรอก... ใช่ไหม...
“หึหึ... เด็กอะไรทำไมน่ารักแบบนี้เนี่ย”
ท่านชายฉีกยิ้มกว้างราวกับโลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู
ยิ่งเห็นท่าทางของคุณแบมเขายิ่งชอบใจ น้องกำลังหึงเขาอยู่ อาการก็ไม่ต่างจากที่เขาหึงเจ้าตัวกับคุณชายคุณ
อย่างนี้มันไม่ผิดเลยใช่ไหมที่ท่านชายจะแอบหวังว่าน้องเริ่มมีใจให้กับตนแล้ว
“พี่ชายมาร์คนิสัยไม่ดีเลย ชอบแกล้งคุณแบม”
ยิ่งน้องทำปากยื่นใส่อยากจะบีบปากนิ่มๆ นั่นสักที
“ก็คุณแบมน่าแกล้งนี่คะ
แบบนี้เรารีบไปเร่งวันแต่งงานเลยดีไหมเนี่ย”
“(゚Д゚)”
ละ เลื่อน...
“ยิ่งพี่จูบไปแล้วด้วย ผิดผีเห็นๆ เลย...
ไม่ได้แล้วล่ะ ต้องรีบแล้ว”
เหมือนคุณแบมจะช็อกและกลายเป็นกองอะไรสักอย่างไปเรียบร้อยแล้ว
ถ้านึกภาพไม่ออกล่ะก็... ลองคิดถึงภาพการ์ตูนที่ช็อกจนกลายเป็นกระดาษนั่นแหละ...
ฮึฮึ... นิ่งแบบนี้ยิ่งเข้าทางเสือเลยสิเหยื่อตัวน้อย...
“ไม่ต้องห่วงนะคะ... พี่จะรับผิดชอบเราเอง”
ความคิดเห็น