คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 5 ❁ คุณแบมถูกดุ 100% ❁
“งื้อ! ”บรรยากาศสีชมพูกำลังก่อตัวขึ้น
สำหรับพื้นที่เล็กๆ อย่างม้านั่งหินอ่อนของลานสวนของคณะแพทยศาสตร์
สถานที่สำหรับนั่งพักผ่อน สังสรรค์ หรือแม้แต่ทำงานของเหล่านักศึกษาแพทย์ทุกชั้นปี
คนที่น่าสงสารที่สุดคงหนีไม่พ้นหม่อมหลวงคิม
เพื่อนสนิทตัวโตของคุณชายตัวเล็กที่กำลังถูกนักบินหน่วยราดตระเวรของกองทัพอากาศแกล้งจนต้องส่งเสียงแง่วๆ
เหมือนลูกแมวขู่อยู่ ซึ่งหม่อมหลวงพอจะเดาออกว่า
ที่คุณแบมทำแบบนั้นเพราะคิดว่าตัวเองทำหน้าโหดที่สุดแล้ว... หึ...
โหดที่สุดสำหรับลูกแมวน่ะสิ
ก็ไม่รู้ว่าบรรยากาศมันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
แต่พอท่านชายมาร์ครับรู้ได้ว่าผู้ชายที่คุณแบมทำงานอยู่ด้วยคือตน
ใบหน้าเย็นชาก็คลี่คลายออกราวกับหนังคนละม้วน จากที่เดินปึงปังมาราวกับพายุ
ก็กลายเป็นสายลมมุ้งมิ้งกันอยู่สองคน ราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าท่านชายกับคิมนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดี
สืบเนื่องมาจากคิมเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ม.ร.ว เจบี
ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับท่านชายมาร์ค นั่นทำให้ท่านชายกับตนพาลสนิทกันไปด้วย
เขารู้จักกับท่านชายมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว
แม้ว่าเรื่องที่ท่านชายของตนกำลังจะกลายเป็นสามีของเพื่อนสนิทตัวเล็กอย่างคุณแบมนั้นจะมารู้เอาทีหลัง
แต่ว่าด้วยนิสัยแล้ว
ท่านชายน่าจะรู้ดีว่าคิมไม่ได้คิดเกินเลยกับคุณแบมเกินกว่าเพื่อนแน่ ก็นะ...
เขาเป็นคนค่อนข้างมีโลกส่วนตัวสูง เรียกได้ว่าหวงอิสระยิ่งกว่าอะไร
คงไม่มาคิดอะไรเกินเลยกับเพื่อนตัวแสบอย่างคุณแบมหรอก
“ยังเหลืองานอีกเยอะไหม พี่ว่ามันมืดแล้ว... คุณแบมไม่หิวเหรอคะ...”
เฮ้อ... อ้วกตรงนี้ได้ไหมนะ
คิมได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างหน่ายใจ
ก่อนจะวางปากกาลงอย่างช่วยไม่ได้
เพราะน้ำเสียงท่านชายบ่งบอกอย่างชัดเจนแบบเป็นนัยให้อยู่แล้วว่าเขาควรต้องตอบว่าอะไร
นักศึกษาแพทย์ตัวสูงเงยหน้าขึ้นไปมองเพื่อนตัวเล็กกับหม่อมเจ้าชายที่นั่งเบียดกันอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างสุดเซ็ง
คุณแบมเองก็ยู่ปากพลางลูบท้องปอยๆ เป็นสัญญาณว่าเจ้าท้องกลมเล็กๆ
นั่นกำลังประท้วงอยู่จริง ก็แหงล่ะ เพื่อนเขาน่ะเป็นพวกหิวตรงเวลา
แล้วไม่ต้องพูดถึงตอนโมโหหิวนะ... งอแงสุดๆ เลยล่ะ
ร่างสูงเจ้าของใบหน้าเรียบนิ่งเองก็ส่งสายตากดดันลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนสนิทกลายๆ
เช่นกัน เขาดูออกว่าคนตัวเล็กค่อนข้างเกรงใจเพื่อนของตัวเอง
ไม่อย่างนั้นคงจะงอแงไปแล้ว เพราะด้วยนิสัยของเจ้าตัวเวลาหิวนั้นเป็นยังไงเขารู้ดี
ฉะนั้นแล้วคงต้องให้คิมเป็นคนตัดสินเรื่องนี้เอง
“คุณแบมกลับก่อนเถอะ เหลืองานอีกไม่เยอะคิมทำเอง”
“ตะ แต่ว่าคุณแบมอยากช่วย ._. ”
ร่างเล็กเอ่ยพร้อมก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด
ด้วยนิสัยที่ไม่ชอบเอารัดเอาเปรียบใครของคุณแบม
ทำให้การทิ้งเพื่อให้นั่งทำงานอยู่คนเดียวแบบนี้เป็นเรื่องผิดแบบไม่น่าให้อภัย
ซึ่งคนพี่ที่ฟังอยู่รู้สึกเอ็นดู คนตัวเล็กของเขานี่ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง
“ไม่เป็นไร นี่ไง เหลือแค่หัวข้อเดียว
คุณแบมทำมาตั้งสามหัวข้อแล้ว”
“แต่ว่า...”
“เอาน่า เชื่อเพื่อนเถอะคุณแบม พี่จะพาคุณแบมแวะร้านของจูเนียร์ด้วยนะคะ”
“...ლ(o-o ლ)”
แค่มองตาก็รู้ใจ
คิมส่ายหน้าเมื่อเห็นอาการดีใจออกหน้าออกตาของเพื่อนสนิท
ท่านชายรู้วิธีหลอกล่อคุณแบมดีเสียจริง แค่ยกชื่อร้านของพี่จูเนียร์ขึ้นมา
คุณแบมก็แทบจะลืมอาการรู้สึกผิดของตัวเองไปเสียสนิทเลยสินะ...
ภายในรถ BMW I8 คันหรู
มีเสียงของตุ๊กตาหน้ารถฮัมเพลงแสนโปรดของเจ้าตัวชวนรื่นหู
ส่วนคนขับรถส่วนตัวของร่างเล็กก็พลอยมีความสุขไปด้วย
ตั้งแต่ที่รู้ว่าพี่ชายมาร์คจะพาไปหาพี่ชายเนียร์ เด็กน้อยของท่านชายก็กลายเป็นแมวน้อยผู้ร่าเริงชวนให้หัวใจแกร่งกระชุ่มกระชวยตามๆ
กันไป
ท่ามกลางเมืองกรุงศรีวิไล
ถนนเต็มไปด้วยรถราคับคั่ง ด้วยตัวแคว้นที่อุดมสมบูรณ์
ประชากรล้วนส่วนใหญ่ฐานะปานกลางจนถึงร่ำรวยมีทรัพย์สิน เช่นเดียวกับชายหนุ่มรูปร่างต่างกันทั้งสองคน
ซึ่งอีกคนนั้นน่ารักน่าเอ็นดูอย่างกับหนูน้อย ราชตระกูลสูงศักดิ์ที่เกิดมาคู่ควรกันอย่างไม่ต้องสงสัย
ความจริงแล้วชายมาร์คอยากจะจับคนตัวเล็กมาเป็นเจ้าสาวเสียตอนนี้
เพราะเขารู้ว่าคนตัวเล็กมีเสน่ห์ดึงดูดคนรอบข้างมากเกินจับตาดู เขาไม่ได้มีเวลาตลอดเวลาที่จะดูแลควบคุมสอดส่อง
ลำพังงานราชการที่รับผิดชอบก็หนักหนา หากร่างเล็กข้างๆ
จดทะเบียนตรึงตราเป็นคนในครอบครัว เขาก็คงเบาใจยิ่งขึ้น
ส่วนถามในเรื่องความรู้สึก
หม่อมเจ้าชายนั้นมั่นใจแล้วว่าเขารู้สึกยังไง ตอนนี้อาจจะพูดคำว่ารักได้ไม่เต็มปาก
เพราะความรู้สึกที่มีคือความประทับใจแรกเริ่มที่มันก่อตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
เขาอยากครอบครอง อยากตรึงตราคุณแบมเอาไว้
ซึ่งไม่รู้ว่าน้องนั้นจะไร้เดียงสาเกินกว่าจะรับรู้ความรู้สึกของเขาได้หรือไม่ แต่เขาก็จะไม่ยอมเสียคนตัวเล็กให้ใครเช่นกัน
ล้อทั้งสี่ถูกหยุดเคลื่อนเมื่อถึงจุดจอด
หน้าร้านเบเกอรี่ขนาดใหญ่พอควร เพราะเป็นร้านของคุณชายเนียร์ของวังภูวกุล
คนตัวเล็กรีบลงจากรถคันหรูไปอย่างไม่รอคนพี่เมื่อสิ่งล่อตาล่อใจอยู่ตรงหน้า
ว่าที่คุณหมอตัวเล็กยิ้มจนเห็นฟันครบทุกซี่ ในขณะที่หม่อมเจ้าชายมาร์คก็เดินตาม
ท่ามกลางสายตาของลูกค้าในร้าน
ซึ่งส่วนหนึ่งแล้วมาเพื่อรอชมโฉมของคุณชายคนโตของวังภูวกุล
คราวนี้ยังมาได้เจอคุณชายคนเล็กอีก ย่อมพากันมองอย่างอดไม่ได้
หนึ่งคนก็สวย... อีกคนก็น่ารัก...
ทำไมวังนี้ถึงได้น่าอิจฉาแบบนี้นะ
ชิ้ง!!
หนุ่มน้อยใหญ่ที่เอี้ยวตามองคุณชายหมอตัวเล็กต่างพากันสะดุ้งกันทั่วหน้า
ก่อนจะพากันก้มหน้านิ่งทานขนมที่มาเสิร์ฟด้วยความหวาดวิตก เมื่อสบเข้ากับนัยน์ตาเพชฌฆาตของนายเรือทหารเจ้าของใบหน้าเย็นชาซึ่งเดินตามหลังคนน่ารักเข้าร้านมา
เมื่อเจ้าของตัวจริงเขามาแล้วจะทำอะไรได้ แม้แต่มองยังไม่มีสิทธิ์มองเลยด้วยซ้ำ
เป็นอีกครั้งที่ท่านชายรู้สึกหงุดหงิด
พยายามเตือนตัวเองว่าคนเหล่านั้นก็แค่มอง
แต่แม้แต่มองก็ทำให้คนใจแคบหวงไปหมดเสียทุกอย่าง แม้คนตัวเล็กจะไม่ได้สนใจคนรอบข้างนอกเสียจากขนมในตู้โชว์เท่านั้น
เพราะถ้าคุณแบมหันมาสนใจบรรยากาศชวนอึดอัดในร้านสักนิด จะได้เห็นว่ามีสิ่งผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
เพราะยักษ์ตัวโตที่เดินคุมคุณหนูตัวเล็กนั่นเอง
“อ้าว คุณแบม มาไงครับเนี่ย”
พนักงานที่แคชเชียร์เอ่ยทักร่างเล็กอย่างสนิทสนม
เพราะคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าของร้านตัวเล็กที่มักจะเข้ามาแอบกินขนมของร้านบ่อยๆ
ชายหนุ่มพนักงานคนซึ่งหน้าตาหล่อเหลาไม่หยอกได้รับรอยยิ้มจนตาหยีเจ้าของแก้มกลมไปอย่างเต็มที่
ในขณะที่ร่างเล็กเดินเข้าไปเกาะตู้กระจกที่โชว์ขนมต่างๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ
“ว้าววว (╯°0°)╯”
รัมเรซิ่นชีสพาย ช็อกโกแลตมูสเค้ก ชีสเค้ก...
อยากกิน คุณแบมอยากกินทุกอย่างเลย!!
แต่ดูเหมือนอีกคนนี่พร้อมกินหัวทุกคนเลย ให้ตายสิ
(눈‸눈)
ท่านชายตัวสูงนั่งทำหน้าเรียบนิ่งอยู่ที่โต๊ะรับรอง
โดยมีคนคุณชายตัวเล็กนั่งทานรัมเรซิ่นชีสพายอย่างสงบเสงี่ยม
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ท่านชายมาร์คเงียบใส่คุณแบม
ซึ่งคนตัวเล็กที่ไม่รู้สาเหตุก็ได้แต่ก้มหน้างุดเพราะในใจก็หวาดกลัวคนพี่ จู่ๆ
ก็มาเงียบใส่ๆ ใครจะไปตามอารมณ์ทันกัน
สงสัยเข้าสู่ยุควัยทองแล้วละมั้ง ._.
“สวัสดีครับท่านชาย
ไม่รู้เลยว่าจะมาที่นี่เลยไม่ได้จัดเตรียมอะไรไว้ให้ ขออภัยด้วยนะครับกระหม่อม”
ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมองพี่ชายแท้ๆ
ของตัวเองอย่างหาที่พึ่งพิง เพราะก่อนหน้านี้อยู่เหมือนคนกำลังถูกดุอยู่เลย
พี่ชายเนียร์เดินมานั่งฝั่งเดียวกับคุณแบม พร้อมทั้งลูบหัวน้องชายอย่างเอ็นดู
ในขณะที่ท่านชายมาร์คก็เริ่มปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วส่งยิ้มทักทายน้องชายอีกคนของเขา
ความจริงแล้วชายหนุ่มนั้นไม่อยากจะทำตัวงี่เง่าเป็นเด็กอมมือแบบนี้
แต่เพราะเขาไม่อยากจะทำตัวไม่ดี
เพราะด้วยนิสัยของท่านชายแล้วค่อนข้างเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่ง
ด้วยหน้าที่การงานและฐานันดร
แต่ไม่รู้ทำไมพอเป็นเรื่องนี้เขาถึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่เก่งแบบนี้
ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าคนตัวเล็กของเขาเงียบรู้สึกเกร็งแค่ไหน
จากเด็กที่ร่าเริงสดใสกลายเป็นนั่งทานสิ่งที่ชอบอย่างเงียบๆ
นึกรู้สึกผิดที่ต้องทำให้คุณแบมต้องรู้สึกอึดอัด
แต่เพราะก่อนหน้านี้เขายังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ให้คงที่ได้
“ไม่ต้องพิธีรีตองมากหรอกจูเนียร์
พี่แค่พาคุณแบมมาทานเค้กเท่านั้น” ท่านชายตอบกลับไปเสียงนุ่มตามแบบฉบับ
นั่นทำให้ร่างเล็กที่กำลังเป็นแมวน้อยให้ชายเนียร์ลูบหัวอยู่รู้สึกเคืองจนอดยู่ปากอวบอิ่มไม่ได้
ทีกับตนล่ะทำเย็นชา ทีกับพี่ชายเนียร์ล่ะเสียงอ่อนเสียงหวาน สองมาตรฐาน!
ไปแต่งงานกับพี่ชายเนียร์เลยไหมล่ะ! ( ˵•`⌒`•)
“เป็นอะไรครับคุณแบม เค้กฝีมือพี่ไม่อร่อยเหรอ
ทำไมทำหน้ามู่ทู่แบบนี้ล่ะ” ชายเนียร์เอ่ยถามน้องชาย
เมื่อเห็นสีหน้าของคนน่ารักเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
คุณแบมหลบสายตาของทุกคนแล้วก้มหน้างุดพร้อมเม้มปากแน่น
นั่นเป็นพฤติกรรมปกติสำหรับคนในครอบครัว คุณแบมมักแสดงอาการแบบนี้เมื่อรู้สึกน้อยใจหรืองอนอะไรใครอยู่
ซึ่งถ้าเดาไม่ผิด...
อา...
นั่งมองคนตัวเล็กอย่างอาลัยอาวรณ์แบบนี้... คงเดาได้ไม่อยากหรอก
ชายเนียร์เงยหน้ามองท่านชายมาร์คก่อนจะแอบขำ
ร่างสูงถอนหายใจออกมา
พร้อมแสดงสีหน้ารู้สึกผิดยามมองมาที่ร่างเล็กของคุณแบมตลอดเวลา ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้ลูกแมวตัวน้อยของวังภูวกุลงอนเข้า
“คุณแบมคะ พี่...”
“คุณแบมอยากเข้าไปช่วยพี่ชายเนียร์ข้างใน”
คนตัวเล็กจงใจพูดแทรกเสียงทุ้มขึ้นมา
นั่นทำให้คนตัวโตกว่ากลืนคำพูดที่พยายามจะง้อคนตัวเล็กไปเสียสนิท
ชายเนียร์หน้าเจื่อนลงทันทีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพลางมองไปยังท่านชายมาร์คที่มองมาที่น้องชายของเขาอย่างไม่วางตา
ซึ่งแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เป็นแบบนี้คงต้องเคลียร์กันยาว
ภายในห้องครัวสำหรับทำเค้ก
มีเด็กแก้มตุ่ยคนหนึ่งกำลังนั่งหน้ามุ่ยกอดอกเชิดหน้าอยู่ที่เก้าอี้หน้าเคาท์เตอร์
สำหรับห้องจะให้คนทำขนมเท่านั้นที่มา
ซึ่งส่วนใหญ่ก็มีชายเนียร์กับคุณแม่ของพี่จูเนียร์
แต่วันนี้คุณแม่ท่านตามท่านพ่อไปออกงานที่ต่างจังหวัด
ซึ่งท่านแม่ของคุณแบมก็ไปด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ภายในครับจึงมีเพียงคุณชายขี้งอนกับชายเนียร์เท่านั้น
“เป็นอะไรครับคุณแบม
งอนอะไรท่านชายเหรอ” จูเนียร์เอ่ยถามน้องชาย
หลังจากที่สถานการณ์มันตึงเครียดจนเขาต้องเข้ามาช่วย
ถึงแม้ว่าคุณแบมจะเป็นคนโกรธง่ายแต่ก็หายเร็วเช่นกัน
ร่างเล็กซึ่งถูกถามก้มหน้างุดพร้อมทั้งอมลมจนแก้มป่อง
“คุณแบมเปล่า...”
“โกหกพี่เหรอครับ...
กลายเป็นเด็กขี้โกหกอย่างนี้ได้ยังไง” แม้จะดุ แต่ก็เอื้อมมือไปบีบแก้มนิ่มอย่างเอ็นดู
จนคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้าพร้อมเบะปาก
ดวงตากลมไหวสั่นคล้ายมีน้ำตากำลังเอ่อ
ทำเอาชายเนียร์ตกใจเพราะน้องครั้งนักที่จะเห็นคนร่าเริงแบบคุณแบมจะอยู่ในสถานการณ์นี้
เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเอาแต่หัวเราะและป่วนคนอื่นๆ ไปเรื่อยเท่านั้น
“คุณแบมไม่อยากแต่งงานแล้ว”
คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นเสียงสั่น แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมา
เพราะเป็นเรื่องยากที่คุณชายคนเล็กของวังภูวกุลจะเสียน้ำตา เท่าที่จำความได้
เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่คุณแบมร้องไห้
เห็นตัวเล็กแบบนี้แต่จิตใจกลับเข้มแข็งอย่างกับหิน ครั้งล่าสุดที่คุณแบมร้องไห้คือตอนที่เด็จปู่สิ้นพระชนม์
ซึ่งนั่นก็เกือบเจ็ดปีมาแล้ว
“พี่ว่า...”
ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยปากถาม สายตาของจูเนียร์ก็เลยไปเห็นใบหน้าคมทางประตูเสียก่อน
ประตูไม้แบบครึ่งอันสามารถมองเห็นว่ามีคนกำลังยืนอยู่
ซึ่งประจวบเหมาะที่ร่างสูงของท่านชายเปิดประตูเข้ามาพอดี ใบหน้าท่านชายเรียบนิ่งจนน่ากลัว
ซึ่งน่าจะเป็นเพราะประโยคที่คุณแบมพูด ความจริงตนก็อยากจะเข้าไปช่วยคุณแบมเหมือนกัน
แต่เพราะมันเป็นเรื่องระหว่างสองคนนั้น จูเนียร์จึงคิดว่าตนควรถอยออกมาดูห่างๆ
ดีกว่า อีกอย่างนี่อาจจะช่วยสอนให้คุณแบมโตขึ้นก็ได้
“พี่ต้องออกไปดูลูกค้า...
เดี๋ยวพี่กลับมานะครับ”
คุณแบมต้องนั่งหงอยอยู่ในห้องครัวเพียงคนเดียวหลังจากที่พี่ชายเนียร์ออกไป
ร่างเล็กเอาแต่ก้มหน้ามองมือของตัวเองที่วางของที่หน้าขา โดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูสายตาคมของคนที่ตนไม่อยากเจอที่สุดมองอยู่ตลอดเวลา
ท่านชายมาร์คกำลังสะกดกลั้นอารมณ์อยู่ เขายอมรับว่าค่อนข้างเสียความรู้สึกและใจหล่นวูบลงเหมือนตกลงจากที่สูงเมื่อได้ยินสิ่งคุณแบมพูด
แต่เพราะรู้ว่าตัวเองที่เป็นฝ่ายผิดที่ไม่รู้จักมีเหตุผลมากกว่านี้ ความจริงเขาไม่ควรหวงหึงกับเรื่องแค่นี้เลยด้วยซ้ำ
เพราะความงี่เง่านี้เองถึงได้ทำให้คุณแบมโกรธ
ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าอย่าเกลียดกันก็พอ
ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงรองเท้าหนักๆ
ซึ่งมันไม่ใช่เสียงรองเท้าปกติแต่หากเป็นรองเท้าคอมแบท รองเท้าของทหาร
ซึ่งมีคนเดียวเท่านั้นที่ใส่ในเวลานี้
เมื่อเห็นคนที่คนที่เคยทำหน้าเย็นชาใส่ตัวเองคุณแบมก็สะบัดหน้าหนีทันที
ถึงแม้ว่าใบหน้าของท่านชายตอนนี้จะดูสำนึกมากก็เถอะ
แต่คนนิสัยไม่ดีแบบนั้นคุณแบมไม่ยอมคืนดีด้วยหรอกนะ
“อย่างอนกันเลยนะคะคนดี...
พี่ขอโทษ...”
งื้อ!... ไม่ต้องมาทำเสียงอ่อนเสียงหวานเลย
._.
ร่างสูงพยายามใช้ไม้อ่อนเข้าสู้
ทั้งเดินมาคุกเข่านั่งตรงหน้าคนตัวเล็กอย่างไม่สนใจเชื้อตระกูลที่สูงศักดิ์ของตัวเอง
แล้วยังฉวยโอกาสคว้ามือเล็กนุ่มนิ่มไว้ก่อนจะบีบมันเบาๆ คนตัวเล็กเผลอชำเลืองหน้าคนพี่เล็กน้อย
ก่อนจะก้มหน้างุดลงและเม้มปากแน่น แก้มกลมบ่อกทั้งสองแดงระเรื่อเหมือนสีเชอรี่ ปฏิกิริยาของคุณแบมทำให้ท่านชายใจชื้นขึ้นมา
แม้ว่าตัวเล็กจำกำมือตัวเองไว้แน่น ไม่ยอมให้เขาจับได้ง่ายๆ ก็ตาม
“ปล่อยมือคุณแบมเลย...”
“จนกว่าคุณแบมจะหายโกรธพี่ค่ะ...”
ท่านชายสวนกลับอย่างเอาแต่ใจ แม้คนตัวเล็กอยากจะเถียงแต่ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา
เพราะดาเมทที่ท่านชายกำลังโจมตีมานั้นมันมากเกินห้ามใจ หัวใจดวงน้อยไม่อาจสู้ไหวหรอก
“งื้อ!... คุณแบมไม่อยากคุยด้วย...
ปะ ปล่อย...”
“แต่พี่อยากคุยด้วยนี่คะ...
พี่เสียใจนะคะที่คนดีเมินกันแบบนี้...”
“ก็พี่ชายมาร์คทำหน้าดุใส่คุณแบมทำไมล่ะ”
คุณแบมเงยหน้าถาม จ้องคนตรงหน้าเขม็ง
ยิ่งพอนึกถึงเรื่องที่ตัวเองโดนก่อนหน้ายิ่งอยากจะกระโดดทับคนตรงหน้าให้แบนเลยให้รู้แล้วรู้รอด
“ก็พี่หึง... พี่ไม่ชอบให้คุณแบมยิ้มให้ใคร”
“...”
“พี่อยากเก็บรอยยิ้มคุณแบมไว้คนเดียวนี่คะ...”
พี่ชายมาร์ค... บะ บ้าที่สุดเลย (˵` ^ `˵)
ความคิดเห็น