คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Libido 1 : นอนไม่หลับ
it's not love not hate but it's just a Libido | Chapter1
- I -
ไอจากกาแฟที่เพิ่งชงมาเมื่อกี้สดๆร้อนๆลอยออกมาจากปากแก้วกระเบื้องเคลือบสีขาว ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนด์จ้องไปยังไอสีขาวที่ลอยม้วนตัวขึ้นมาในอากาศ หัวยังคงปวดระบมจากการกระทำเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
หลังจากเสร็จกิจธุระผู้ชายคนนั้นก็ไล่เขากลับมานอนที่บ้านโดยไม่ฟังคำอธิบายที่เขาพยายามจะพูดว่าเขานั้นเหนื่อยมากแค่ไหน ทั้งๆที่ตัวเองยังไม่มีแรงจะลุกขึ้นมานั่งได้แท้ๆ แต่ก็ยังมีหน้ามาปากเก่งบอกเขาว่า ‘ไร้น้ำยา’ แทนคำปฏิเสธไม่ให้เขาอยู่ต่อ
ได้ยินแบบนี้เลียมอยากจะจัดต่อให้อีกสักสองสามรอบ
แต่เท่าที่เขาพอจะทำได้มันก็แค่วางกระปุกพาราเซตามอลเอาไว้บนโต๊ะหัวเตียงแล้วเดินจากมาเท่านั้น
เลียมเหลือบมองนาฬิกาก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าเข็มสั้นยังคงชี้อยู่ที่เลขหนึ่ง ก็คิดอยู่หรอกนะว่าถ้ากลับมาถึงบ้านแล้วจะนอนเอาแรงให้หายเหนื่อย แต่น่าแปลกที่เมื่อเขาพยายามจะข่มตาลงนอนมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตาสว่างขึ้นมากเท่านั้น
ก็ภาพของลูอิสมันโผล่แทรกขึ้นมาทุกครั้งไป
เสียงครางของผู้ชายคนนั้น ...ที่ตอนนี้มันก็ยังคงดังติดหูเขาอยู่ไม่หาย
ราวกับว่าเขากำลังขยับอยู่เหนือร่างของผู้ชายคนนั้นอยู่อย่างไรอย่างนั้น
เขายกกาแฟขึ้นมาจิบเมื่อรู้สึกตัวว่าถ้าเขายังคิดถึงภาพเหตุการณ์นั้นอยู่ เขาจะต้องลงเอยในห้องน้ำแน่นอน ...ซึ่งมันก็แน่ว่าเขาไม่อยากมาตามทำความสะอาดคราบลูกๆของเขาทีหลัง
เท่าที่เขาจำได้คือลูอิสเป็นผู้ชายที่ปกติทุกอย่าง เพียงแต่ผู้ชายคนนั้นแค่มีนิสัยร่าเริง และชอบเข้าสังคม ตอนที่พวกเขาเข้าประกวดเดอะเอ็กซ์แฟคเตอร์ด้วยกัน เขายังจำได้อยู่เลยว่าที่ลูอิสกับแฮร์รี่สนิทกันก็เพราะสองคนนี้ชอบชวนกันไปเที่ยวผับอยู่บ่อยๆ
คืนที่พวกเขาสองคนริเริ่มเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเป็นคืนที่ลูอิสจัดปาร์ตี้ที่บ้านของตัวเอง เขานั่งอยู่ในสวนหลังบ้านของลูอิส ผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาหาเขาแล้วบอกว่าทุกคนกลับบ้านกันไปหมดแล้ว เขายังจำประกายในดวงตาสีฟ้าคู่นั้นได้เมื่อตอนที่ลูอิสเอ่ยชวนให้พวกเขาลองทำมันด้วยกัน เขาจำได้ว่าตัวเองในตอนนั้นเมาเละมากแค่ไหนเลยหลวมตัวปล่อยเลยตามเลย ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาทั้งคู่ก็มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว
นึกถึงแล้วก็หงุดหงิดตัวเองที่ยังจำได้ชัดเจนว่าจูบของลูอิสในตอนนั้นเป็นกลิ่นจินโทนิค
เลียมนับถอยหลังไปจนถึงคืนนั้น เขาก็พบว่าวงจรอุบาทนี่เริ่มมาได้สามเดือนแล้ว
ครั้งก่อนเขาจำได้ว่าลูอิสโทรเข้ามาในเบอร์มือถือแดเนียลแล้วขอสายเขาแต่พอรับโทรศัพท์จากอีกฝ่ายแล้วคุยด้วยกลับพบเพียงแต่เสียงเรียบๆของอีกฝ่ายที่ไม่มีความเดือดเนื้อร้อนใจอะไรเลย เขาแทบจะเป็นบ้าแล้วขว้างโทรศัพท์ในมือทิ้งซะเดี๋ยวนั้น ผู้ชายคนนี้ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ไม่ได้รู้เลยว่าเขาพยายามมากแค่ไหนที่ต้องมาคอยปิดบังเรื่องพวกนี้ออกห่างจากแดเนียล
แล้วเนื้อความที่โทรเข้ามาหามันก็เป็นเรื่องเดิมๆ
เรื่องสกปรกเดิมๆทุกครั้งไป
แต่ก็อย่างที่ลูอิสพูดทุกประการ ...เลียมไม่เคยปฏิเสธผู้ชายคนนั้นได้เลยทุกครั้งยามที่ลูอิสเอ่ยปากชวน
ว่าแต่กาแฟนี่มันจืดชะมัด เลียมเบ้หน้า ไม่เห็นเหมือนแก้วที่แดเนียลเคยชงให้ดื่มเลย
‘กิ๊งก่องง’ เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านดังขึ้น หลังจากเว้นช่วงไปไม่ถึงห้าวินาที มันก็ดังขึ้นอีก ... หลายครั้ง ‘กิ๊งก่องๆๆๆๆๆๆๆๆๆ’
กาแฟแทบจะพุ่งออกมาจากปาก ณ จุดนี้ เลียมวางแก้วในมือลงก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ถ้านาฬิกาบ้านเขามันไม่ตายตอนนี้ก็ตีหนึ่งกว่าๆแล้ว เขาพยายามนึกว่าตัวเองไปเผลอนัดใครเอาไว้หรือเปล่า และคำตอบที่เขาเค้นออกมาได้ก็คือไม่
เสียงรัวกริ่งดังก้องไปทั้งบ้าน จนกระทั่งโลกิ—หมาที่เขากับแดเนียลเลี้ยงไว้ด้วยกันส่งเสียงเห่าดังควบคู่ไปด้วย เลียมยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ ถ้าไม่ลุกขึ้นไปคุยกับบุคคลปริศนาที่รัวกดกริ่งหน้าบ้านเขาอย่างเมามันก็คงต้องเตรียมรับคำด่าจากเพื่อนข้างบ้านในตอนเช้าแทน
เลียมกระชากประตูเปิด เสียงหัวเราะของผู้ชายคนหนึ่งที่เขารู้จักดีดังขึ้น ดวงตาสีน้ำตาลอัลมอนด์มองไปยังภาพตรงหน้าเขม็ง ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังฟัดกับหมาของเขาอย่างสนุกสนานทำเอาเขาใบ้กินไปครู่หนึ่ง
“อ้าว เลียม ยอมมาเปิดประตูให้สักที” คู่สนทนาดันโลกิออกไปจากตัว ทั่วทั้งใบหน้าแฉะไปด้วยน้ำลายของลูกชายสุดที่รักของเขา “ฉันนึกว่านายจะให้ฉันนอนกับหมาซะแล้ว”
“เฮ้....” เลียมยังคงงุนงงกับภาพตรงหน้า ก่อนจะจัดระเบียบคำพูดในหัวแล้วพูดออกมา “ฉัน เอ่อ ฉันคิดว่านายบินไปไอร์แลนด์แล้วซะอีก”
“ฉันก็อยากจะทำแบบนั้นอยู่เหมือนกัน” อีกฝ่ายก้มลงไปหยิบกระเป๋าถือสีส้มแสบตาขึ้นมาถือเอาไว้ในมือ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มยิงฟันให้เขา
“อ้าว... แล้วทำไม” เลียมถามต่อ แต่ไนออล ฮอรานกลับมุดตัวเข้าไปในตัวบ้านผ่านทางช่องแขนของเขาเรียบร้อยแล้ว เขาออกปากจะทักท้วงแต่อีกฝ่ายกลับพูดขัดขึ้นมาก่อน
“ไม่ชวนแขกเข้าบ้านนี่ใช้ไม่ได้เลยนะเลียม” คู่สนทนายังคงพูดไปเรื่อยเปื่อยไม่สนใจสีหน้าของเจ้าของบ้าน “ขอโทษทีน้าที่มาขัดจังหวะนายกับแดเนียล คงกำลังสนุกกันอยู่อะดิ”
เลียมขมวดคิ้วอย่างงุนงง แต่เมื่อมองเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่มองมายังคอของเขาก็พอจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง เขารีบยกมือขึ้นมาปิดรอยแดงตรงซอกคอของตัวเองเอาไว้ แต่ก่อนที่จะพูดแก้ตัวอะไรอีกฝ่ายก็พูดเองเออเองขึ้นมาอีกครั้ง
“ช่างมันเถอะ ไม่ต้องเขินหรอก” อีกฝ่ายโบกมือปัดๆไปมา ดวงตาสีฟ้าสดใสเป็นประกายอย่างรู้ทัน ...ซึ่งรู้อะไรของมันนี่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่ก็ดี เขาเองก็ไม่ได้อยากบอกนักหรอกว่ารอยนี้แดเนียลไม่ได้เป็นคนทำเอาไว้
เลียมเอื้อมมือไปปิดประตูบ้านก่อนจะหันหน้ากลับมาหาชายหนุ่มอีกคน “ว่าแต่นายยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลย สรุปนายไม่ได้บินกลับไปบ้านที่ไอร์แลนด์หรอ?”
อีกฝ่ายหัวเราะเสียงใส “ตั๋วหายน่ะ”
ก็ดี เออ ช่างมันเถอะ กับผู้ชายคนนี้น่ะ
“แล้วทำไมไม่กลับไปนอนที่บ้าน?”
“คืนนี้ให้เพื่อนมันยืมไว้” เสียงของคู่สนทนาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย “ถ้าฉันรู้ว่าตั๋วมันจะหายตั้งแต่แรกก็คงไม่ให้ยืมหรอก น่าจะรู้ตัวว่าไอ้นี่มันชอบปาร์ตี้ขนาดไหน นี่ดูดิ กลับไปที่บ้านอีกทีมีแต่ศพนอนตายเกลื่อนอยู่หน้าบ้านเต็มไปหมด ฉันนี่ไม่กล้าเดินเข้าไปดูในห้องนอนของตัวเองเลย ไม่รู้ว่ามันจะมีสักกี่คู่กันที่กำลังเยิ้บกันอยู่ในนั้น”
เลียมถอนหายใจ “แล้วนายก็เลยตัดสินใจมานอนที่บ้านฉันเนี่ยนะ?”
“เออ ก็บ้านนายอยู่ใกล้นี่หว่า” คนตัวเล็กโยนกระเป๋าไปบนโซฟาก่อนจะยิ้มร่าแล้วหันมามองตาเลียม “นายก็รู้ว่าเซนไปเที่ยว แฮร์รี่ตอนนี้ก็คงไม่อยู่ห้อง บ้านลูอิสอยู่ใกล้กว่าก็จริงแต่เขาไม่อยู่บ้าน ไม่รู้ว่าหายไปไหนเหมือนกัน”
เลียมขมวดคิ้ว ก่อนจะทวนประโยคเมื่อครู่เบาๆ “ลูอิสไม่อยู่บ้าน?”
แล้วไอ้ที่เขาไปหาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงมานี้จะให้บอกว่าเขาเข้าผิดบ้านหรือไง
คู่สนทนายักไหล่เล็กน้อย “ไม่รู้ดิ ก็กดกริ่งไปตั้งหลายรอบแล้วไม่เห็นออกมาเปิดประตูให้เลย โทรไปหาก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์”
คำพูดของอีกฝ่ายติดใจเลียมอยู่ลึกๆ แต่เขาก็พยายามที่จะบอกตัวเองว่าลูอิสคงนอนหลับลึกไปหน่อย เลียมยืนมองไนออลรื้อของออกมาจากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของตัวเองก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเมื่ออีกฝ่ายหยิบผ้าขนหนูของตัวเองออกมา
“นายจะเอาผ้าขนหนูออกมาทำไม” เขาถาม มองไปยังผ้าขนหนูสีขาวตุ่นๆของอีกฝ่าย
“อ้าว ก็จะอาบน้ำไง” อีกฝ่ายตอบด้วยน้ำเสียงปกติ ใบหน้าใสซื่อของอีกฝ่ายทำเอาเลียมใบ้กินไปชั่วครู่ “ฉันตะล่อนอยู่ข้างนอกตั้งนานยังไม่ได้แตะน้ำเลย นี่กะจะไปอาบที่ไอร์แลนด์เลยทีเดียว”
เลียมถอนหายใจก่อนจะชี้ไปยังห้องอาบน้ำที่อยู่ข้างล่าง “นายใช้ห้องนั้นไปก่อนแล้วกัน แล้วก็นอนมันตรงโซฟาเนี่ยแหละ” เลียมตั้งท่าจะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน “ถ้ามีปัญหาอะไรก็ขึ้นมาเรียกนะ ฉันจะนอนต่อแล้ว”
“อือ ฝันดีนะเลียม” ไนออลพูดแบบไม่ใส่ใจก่อนจะเดินฮัมเพลงเข้าห้องน้ำไป
เลียมยืนมองอีกฝ่ายเดินหายลับเข้าไปในห้องน้ำ เขาส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นบันไดไป
จบกันสักทีนะคืนนี้
.
.
.
.
.
.
แล้วนี่มันอะไรกัน
เลียมมองไปยังร่างของผู้ชายคนหนึ่งที่นอนเล่นสมาร์ทโฟนของตัวเองอยู่บนเตียงสุดที่รักของเขา--ที่ๆเขาควรจะได้ขึ้นไปนอนอย่างที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ทีแรก
ดวงตาสีน้ำตาลยังคงมองภาพตรงหน้าอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูกจนกระทั่งอีกฝ่ายเอะใจแล้วละสายตาออกมาจากโทรศัพท์มือถือในมือ คนตรงหน้าดันตัวขึ้นมานั่งแล้วยิ้มยิงฟันให้กับเลียมที่ยืนอึ้งอยู่หน้าประตูห้องนอนของตัวเอง “อ้าว หวัดดี”
เลียมหลับตาลงครู่หนึ่งก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ...เผื่อว่าบางทีภาพตรงหน้าจะหายไปอย่างที่เขาคิดเอาไว้ในหัว
ตาฝาด ... เขาคงตาฝาด
เขาคงนอนน้อยเกินไปอย่างที่แดเนียลเคยว่า
แต่เมื่อลืมตาขึ้นมา ภาพตรงหน้าก็ยังไม่จางหายไป ชายหนุ่มตรงหน้ามองเขามาอย่างไม่เข้าใจ “ทำบ้าอะไรของนายน่ะ”
โอ้ย ให้ตายเถอะพระเจ้า
“เปล่า” เลียมเค้นเสียงของตัวเองขึ้นมาจากลำคอ แทบจะถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าตัวเองไม่ได้เป็นใบ้ไปจริงๆ “ฉันต่างหากที่ควรจะถามว่านายมาที่นี่ทำบ้าอะไรและ... เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง”
อีกฝ่ายหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะวางสมาร์ทโฟนของตัวเองลงข้างๆตัว “ฉันแค่อยากมาดูให้แน่ใจเท่านั้นแหละว่านายไม่ได้นอนตายอยู่ระหว่างทาง ความจริงแล้วพอมานึกดูดีๆฉันว่าฉันก็ค่อนข้างจะใจร้ายเกินไปหน่อยนะที่ปล่อยให้นายนั่งแท็กซี่กลับบ้านมาตอนดึกๆทั้งๆที่เพิ่งออกกำลังกายมาเหนื่อยแทบตาย”
เลียมแทบอยากจะพุ่งตัวใส่คู่สนทนาเมื่อได้ยินเหตุผลงี่เง่านั้น เขาอยากจะบอกอีกฝ่ายเสียเหลือเกินว่าเขาก็บอกไปแล้วว่าเขาต้องการอย่างนั้นตั้งแต่ทีแรก แต่เขาก็ทำได้แต่นิ่งเงียบเพราะรู้สึกว่าตัวเองชักจะใบ้กินอีกรอบ
ดวงตาสีฟ้าทอแสงเป็นประกายใต้ความมืดสนิทของกลางคืน ลูอิสมองไปยังหน้าต่างที่เปิดอ้าเอาไว้อยู่ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “แล้วนั่น ฉันก็เข้ามาทางนั้นแหละ”
เลียมยกมือขึ้นมากุมขมับของตัวเอง โอเค เขาคงประเมิณความถึกของผู้ชายคนนี้ต่ำไปและคงจะประมาทเกินไปที่เปิดกระจกทิ้งไว้แบบนี้ นับว่าดีที่คนที่บุกเข้ามาในห้องของเขาเป็นลูอิส (ถึงแม้ว่าถ้าเป็นคนรู้จักคนอื่นคงจะดีกว่านี้)ไม่ใช่ขโมยหรืออะไรเทือกนั้น
แสงสว่างสาดส่องไปทั่วทั้งห้องเมื่อลูอิสเอื้อมมือไปเปิดสวิตช์ไฟ “นี่ตั้งใจปิดไฟเอาไว้รอนายเปิดมาเซอร์ไพรส์เลยนะ”
ใช่ใช่ เซอร์ไพรส์จนเขาหัวใจจะวายตาย
“ทำไมไม่เข้ามาทางประตูบ้าน....” เลียมพูดเสียงเบา
ลูอิสยักไหล่ “ฉันมาถึงที่นี่หลังไนออล”
เลียมนึก งั้นที่ไนออลไปบ้านลูอิสแล้วบอกว่าลูอิสไม่อยู่บ้านก็คงจะเป็นเพราะเรื่องนี้ “แล้วทำไมนายถึงมาหลังไนออลได้ เขาบอกฉันว่าไปหาที่บ้านนายแล้วไม่เจอนาย แสดงว่านายก็ต้องออกมาก่อนที่เขาจะไปถึงบ้านนายสิ?”
“ฉันแวะซื้อไอ้นี่ระหว่างทางมาบ้านนาย ยังดีที่ฉันขับรถของเอลิเนอร์ออกมามันเลยจำไม่ได้” ลูอิสยกถุงขนมปังข้างๆตัวขึ้นมาถือให้เลียมดู
“งั้นนายก็กลับบ้านไปได้แล้ว นายก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันยังไม่ตาย” เลียมเดินตรงมานั่งลงบนเตียงข้างๆลูอิส คว้าหมับไปที่ผ้าห่มผืนหนาที่กองอยู่บนปลายเตียง
ทั้งๆที่เปลือกตาทั้งสองข้างหนักมากเสียจนจะปิดลงไปอยู่แล้วแต่เลียมไม่รู้สึกง่วงเลยสักนิด กาแฟเมื่อกี้คงออกฤทธิ์ถ่วงเขาเอาไว้ แต่อย่างน้อยก็ต้องนอน
เผื่อว่าถ้าเขาตั้งใจจะนอนผู้ชายคนนี้จะได้ไสหัวกลับไปสักที
แต่เมื่อเลียมกำลังจะคว้าผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว มืออุ่นๆของอีกฝ่ายก็จับหมับอยู่ที่แขนเขา เลียมเลิกคิ้วก่อนจะมองขึ้นไปตามมือของอีกฝ่ายแล้วหยุดอยู่ที่ดวงตาสีฟ้าคู่นั้น “อะไร?” เขาถาม
“นายง่วงแล้วหรอ?” ลูอิสถามกลับเสียงนิ่ง
เลียมมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจคำถาม แต่ก่อนที่เขาจะทันได้ซักไซ้อะไรต่อ อีกฝ่ายก็รั้งคอเขาลงมา เลียมเบิกตามองอีกฝ่ายกว้างเมื่อโดนริมฝีปากของอีกฝ่ายจู่โจมแบบที่เขายังไม่ทันตั้งตัว กลิ่นของขนมปังยังปนอยู่ในช่องปากของอีกฝ่าย
‘นายง่วงแล้วหรอ?’ เนี่ยนะ?
ใครเขาจะไปรู้วะว่ามันหมายถึงเรื่องนี้
โอเค เลียมคิดในใจเมื่อมองไปยังใบหน้าของอีกฝ่าย ขนตางอนยาวเกลี่ยไปที่แก้มของเขา ลมหายใจร้อนระอุของอีกฝ่ายรดอยู่บนลมหายใจของเขา ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านมาทางปลายนิ้วทำเอาเขาแทบจะละลายลงไปกองอยู่บนเตียง
ไม่นงไม่นอนมันแล้ว
.
.
.
.
.
ไนออล ฮอรานเคาะขวดแชมพูที่อยู่ในห้องน้ำ พยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ของเหลวภายในไหลออกมาให้ได้ เขาส่งเสียงจิ๊จ๊ะในคออย่างหงุดหงิดเมื่อผ่านไปนานค่อนนาทีแล้วมันก็ยังคงดื้อด้านไม่ยอมไหลออกมาเสียที
บ้านก็กว้างเสียเปล่า กะอีกแค่แชมพูขวดนึงดันไม่มีปัญญาจะซื้อใหม่
ไนออลกดปิดฝาขวดในมือก่อนจะโยนลงไปในอ่างล้างหน้าอย่างหงุดหงิด เขาคว้าหมับไปยังผ้าขนหนูสีตุ่นที่พกมาเองก่อนจะเอามันมาพันเอาไว้รอบๆเอวของตัวเอง หยดน้ำกลมๆยังคงเกาะอยู่บนผิวขาวฝาดอย่างที่เจ้าตัวไม่ได้สนใจจะเช็ดก่อน
ประตูห้องน้ำเปิดออก เขาเดินไปขึ้นตามบันไดไม้วินเทจที่แปะวอลเปเปอร์ลายดอกไม้สีขาวไว้ตามกำแพงก่อนที่ลายจะหยุดลงเมื่อถึงบันไดขั้นสุดท้าย ไนออลเดินไปหน้าประตูไม้บานที่ใหญ่ที่สุด เขาเคยมาที่บ้านเลียมเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ก็จำได้ว่าเคยขึ้นมาหาเลียมเพื่อที่จะถามว่าตู้เย็นบ้านเลียมอยู่ตรงไหนของบ้านในคืนที่เขาขอมาค้างด้วยครั้งแรก
ไนออล ฮอรานตั้งท่าจะเปิดประตูทันทีที่เดินมาหยุดอยู่หน้าห้อง แต่เสียงที่ดังออกมาจากข้างในห้องทำเอาเขาชะงักไปครู่หนึ่ง
ไหนเลียมบอกเขาว่าจะขึ้นมานอนไง
แต่นี่มันฉากต่อจากตอนที่ถูกเขาขัดจังหวะชัดๆ !
เขากัดริมฝีปากอย่างลังเลใจ ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเสียงดังแล้วตะโกนเข้าไปพร้อมๆกัน “เฮ้ เลียม มีปัญหานิดหน่อย”
แหม โดนขัดไปแล้วขัดอีกครั้งจะเป็นอะไรไป ยังไงๆก็มีเวลาให้ทำมันทุกคืนอยู่แล้วนี่หว่า
เสียงในห้องเงียบไปพักใหญ่ แต่ไนออลก็ยังคงเคาะประตูต่อไปเรื่อยๆนึกในใจว่าสองคนนั้นคงรู้สึกตัวแล้ว เขาเงี่ยหูไปฟังเสียงในห้องก็ได้ยินเสียงดังกุกกักมาจากข้างใน ไนออลเลิกคิ้วข้างหนึ่ง ...สรุปสองคนนั้นทำอะไรอยู่กันแน่
เขาได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตรงมาที่ประตู ตามคาด เลียมเป็นคนเดินมาเปิดประตูให้เขา ไนออลฉีกยิ้มกว้างให้เมื่อเห็นคนตรงหน้าใช้มือปาดเหงื่อออก “...มีอะไร?” เสียงของอีกฝ่ายเค้นออกมาอย่างยากลำบาก ไนออลได้ยินเสียงหายใจหนักอยู่ในนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะพยายามปกปิดมันแค่ไหนก็ตาม
“แชมพูนายหมดน่ะ” ไนออลตีหน้าใสซื่อ ดวงตาสีฟ้าแอบเหลือบมองไปยังภายในห้องจากช่องว่างระหว่างประตูกับแขนของเลียม ร่างของคนที่นอนอยู่บนเตียงทำเอาเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “เอ่อ ฉันแค่อยากจะรู้ว่านายมีสำรองเอาไว้บ้างหรือเปล่า”
เลียมขยับตัวมาปิดช่องว่างตรงนั้นเอาไว้เมื่อเห็นว่าตาของเขามองเข้าไปยังภาพข้างในตัวห้อง “มีๆ อยู่ในตู้ใต้อ่างล้างหน้า สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน มีสำรองอยู่ในนั้นหมดเลย”
โอเค เขาคงมาขัดจังหวะสำคัญจริงๆ
“อ่า ขอบคุณนะ ฉันต้องการแค่แชมพูก็พอ” ไนออลยิ้มแหยๆ ถ้าเมื่อกี้เขามองไม่ผิด รู้สึกว่าเลียมจะแอบถอนหายใจออกมานิดนึงด้วย “งั้น เอ่อ ฝันดีนะ”
“ราตรีสวัสดิ์” เลียมพึมพำก่อนจะรีบปิดประตูอย่างเงียบเชียบ
ดวงตาสีฟ้ายังคงจ้องประตูที่ปิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะที่เขายักไหล่แล้วเดินลงบันไดไป ความคิดเกี่ยวกับภาพภายในห้องนอนของเลียมยังคงติดใจเขาอยู่เล็กๆ
ว่าแต่แดเนียลนี่สะโพกสะบึมขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?
ฮ่าจบแล้วตอนแรก
ข้ามไปเลยไม่ต้องอ่านก็ได้นะ ดูท่าว่ามันจะยาว 555555555555555
คือจะบอกว่าตอนนี้ไม่มีอะไร แค่คิดถึงไนออล อยากให้มันเข้ามาอยู่ในเรื่องด้วย -..-
บทนำนี่พอมาอ่านอีกทีช่างกากมากอะไรมาก ฮรือ ไว้จะรีไรท์วันหลังเนอะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ขอบคุณจริงๆ คือเปิดเรื่องนี้มาไม่ได้คิดเลยว่าจะมีคนเข้ามาอ่าน
บทแรกนี่อิ่มว่ามันดูฮาๆนะ หรือคิดไปเอง ? มันดูแตกต่างจากบทนำมากเลย
น้องคนนึงในทวิตเตอร์บอกว่าเรื่องมันจะแรงๆหรือเปล่า ตอบไม่ได้อะ สารภาพไม่ได้วางโครงเอาไว้
แต่ก็คงจะต้องแรงบ้างแหละแหม ......
ตอนนี้เป็นตอนที่ยาวที่สุดที่เคยเขียนมาเลย 16 หน้าเวิร์ด คือมันยาวตรงไหนวะ 5555555555555
แต่ปกตินี่ยอมรับว่านิยายที่ผ่านๆมาไม่เคยถึงสิบหน้าสักที....
ไปแล้ว ขอบคุณที่ติดตามค่ะ จุ๊บๆ
ความคิดเห็น