ตอนที่ 27 : Finale
Finale
10.45 PM
บาร์เฮียเม้ง
พีทเดินสะพายกระเป๋ากีตาร์เข้าทางหลังร้าน ก่อนจะเข้าห้องพักนักดนตรี แล้วปลดกระเป๋ากีตาร์วางลง มือของนักร้องหนุ่มแกะยางรัดผมออก และสางผมยุ่งๆ ของตัวเองอันเกิดใช้บริการพี่วินแว้นมาทำงานด้วยความเร่งรีบ
“พีท” มือกลองอายุมากสุดที่นั่งคุยอยู่กับคนในวงคนอื่นๆ หันมาเรียกชื่อเขา พีทเลิกคิ้วถาม
“โจ๊กมันเดินมาบอกมีคนมาถามหาพี่แหนะ” เป็นมือเบสที่พูดขึ้นมาแทน
“อ้อ...” พีทร้องอ้อพลางจับผมขมวดขึ้นไปบนหัว “ใครอะ รู้ไหม?”
“ไม่รู้อะ โจ๊กมันบอกแค่มีคนมารอเจอพี่” พีทขมวดคิ้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงระแวงว่าไปยุ่งกับเมียใคร หรือไปเหยียบหางแมวตัวไหนให้มันยั้วะหรือเปล่า แต่ช่วงนี้พีทไม่ได้ยุ่งกับลูกค้าหน้าไหนเลย แล้วใครมารอเจอวะ ไม่ได้มารอกระทืบอะไรใช่ไหม
“รอตรงไหน?”
“มันไม่บอกอะพี่” มือเบสรุ่นน้องคนเดิมยังคงเป็นคนตอบ พีทเขกหัวเจ้าตัวไปทีนึง
“แล้วมึงไม่ถามไว้วะไอ้อาร์ม” พีทส่ายหน้า คนในวงคนอื่นที่หัวเราะ
“ไอ้โจ๊กมันอยู่บนโซนวีไอพีอะ ลองขึ้นไปถามมันดู” สุดท้ายคนโตสุดตรงนั้นเลยต้องเข้ามาไกล่เกลี่ย พีทพยักหน้าก่อนจะเปิดประตูออกไป เสียงตะโกนดังไล่หลังมาจากมือกีตาร์อีกคน
“อย่าโดนตื้บก่อนขึ้นเวทีนะไอ้พีท!!”
เออ รู้แล้วโว้ย
ในความมืดของบาร์มีเพียงแสงสลัวนวลๆ เปิดอยู่เป็นหย่อมๆ ความสว่างไม่พอให้มองเห็นว่าใครกำลังทำอะไรถ้าไม่จ้องและสังเกตดีๆ ซึ่งแปลได้ว่าคุณต้องอยากรู้พอสมควร เสียงเพลงอัลเทอร์เนทีฟ ร็อคที่มิกซ์โดยดีเจมันช่างโดนใจเสียนี่กระไร พีทจับราวบันได ก้าวแต่ละก้าวด้วยความระวังเพราะไม่ค่อยได้ขึ้นไปบนโซนวีไอพีชั้นสองเท่าไร
“เฮ!!” เสียงเฮดังมาจากโต๊ะบิลเลียด คงมีใครแทงลงหลุมหรืออะไรก็แล้วแต่ พีทกวาดตาหาคนที่ตามหา หางตาสะดุดกับร่างที่กำลังเสิร์ฟเครื่องดื่มอยู่
“โจ๊ก”
“เหี้ย!” บริกรรุ่นน้องที่เดินหนีบถาดมากับรักแร้ถอยหลังหนีทันทีที่พีทโผล่มาขวางตรงหน้า พอตั้งสติได้ว่าเป็นเขา เจ้าตัวก็ถอนหายใจออกมา “โธ่ พี่ ตกใจหมด”
“ใครมารอเจอฉัน” พีทถามเพื่อประเมินสถานการณ์ว่าควรไปพบใครคนนั้นหรือไม่ เขาไม่อยากหน้าบวมเขียวขึ้นไปร้องเพลงให้แขกในร้านตกใจเล่นน่ะสิ
“ผู้ชาย ใครไม่รู้อะ ไม่คุ้นหน้า”
“...” พีทเม้มปาก แล้วผละออก “แล้วเขารออยู่ไหน?”
“อ๋อ นั่นไง โต๊ะนั้น” พีทมองตามมือบริกรหนุ่มไปยังโต๊ะริมราวบันไดที่มุมในสุดของชั้นนี้ ร่างของผู้ชายนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวตัวใหญ่ที่หันหลังให้ทางขึ้น มีเพียงหัวของเจ้าตัวที่โผล่พ้นพนักพิงของโซฟา
“...” พีทหันกลับมามองหน้าเด็กในร้าน เจ้าตัวยักไหล่ ก่อนจะเดินเบี่ยงหลบตัวพีทลงไปข้างล่าง
ตึก ตึก ตึก
พีทได้ยินเสียงฝีเท้าตัวเองกระทบกับพื้นชัดขึ้นมาถนัดหู เป็นเพราะคนไม่กี่คนที่เล่นบิลเลียดอยู่เงียบเสียงกันลงงั้นเหรอ หรือเป็นเพราะข้างบนนี้มันเงียบแบบนี้อยู่แล้ว
บรรยากาศรอบตัวสงบผิดปกติ คล้ายกับเวลาเดินช้าลง พีทสังหรณ์ใจบางอย่างระหว่างระยะทางสั้นๆ ที่จะเดินไปหาคนๆ นั้น
11.11 PM
“...” ร่างของนักดนตรีหนุ่มทรุดนั่งลงบนโซฟาตัวตรงข้าม สายตาของพีทค่อยๆ ไล่จากขาที่ไขว่ห้างของคนที่นั่งอยู่อยู่ตรงข้าม ในขณะที่คนๆ นั้นก็เบนหน้ากลับมาจากการจ้องมองไปยังชั้นล่างของร้าน
ดวงตาเรียวของพีทสบกับดวงตาคมของคนๆ นั้นเข้าพอดี มุมปากของพีทค่อยๆ ยกขึ้น นักดนตรีหนุ่มยิ้มออกมาทีละนิด ทีละนิด จนกลายเป็นรอยยิ้มกว้าง
ราวกับเวลาหยุดเดินไปเลยล่ะทีนี้
“...” คำถามมากมายเต็มไปหมดในหัว แต่พีทกลับไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
“...” กรเองก็ไม่พูดอะไรออกมาเหมือนกัน
พีทมองตามฝ่ามือใหญ่ที่ยกขึ้นล้วงเข้าไปในกระเป๋าด้านในของเสื้อสูท มันกำของบางอย่างออกมา ผ่านเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมเม็ดบนเผยให้เห็นกล้ามเนื้อแน่น และกำมาจนถึงปากแก้ววิสกี้เปล่าที่วางอยู่บนโต๊ะ
แกร๊ง!
ของที่อยู่ในกำมือถูกปล่อยลงไปในแก้วเสียงดังแกร๊ง มันกลิ้งวนอยู่พักหนึ่ง แล้วก็หยุดนิ่งอยู่ก้นแก้วทรงกระเตี้ยนั้น
พีทมองแหวนที่อยู่ในแก้ว ก่อนจะสบตากร ใบหน้าคมยิ้มให้เขา และเอียงคอไปพร้อมๆ กับการยักไหล่ “...ก็แค่คิดว่าให้ค่าสินสอดแล้วแต่ลืมให้แหวนหมั้น”
“...” พีทหยิบมันขึ้นมาพลิกดู แหวนเกลี้ยงสีเงินแบบผู้ชาย และด้วยสถานภาพทางการเงินของคนตรงหน้า พีทเชื่อว่ามันคือแหวนเงินแท้
“...” กรมองพีทยกแหวนขึ้นส่องตรงระดับสายตา แววตาของคนตรงหน้ากำลังใช้ความคิด และกรก็คิดว่าเขารู้ว่าพีทกำลังคิดอะไร
“นายอาจจะโกรธที่ฉันหายไป แต่...” กรสบตาพีท จ้องลึกเข้าไปในแววตานั้น “พีท เราเสียเวลาเพราะยึดติดกับอดีตกันมากพอแล้ว”
“...” พีทมองหน้ากรนิ่ง ก่อนจะเบะปาก และเบนสายตามายังแหวนที่ถืออยู่
ก็จริงที่ว่ามันไม่สำคัญหรอกว่าที่ผ่านมากรหายไปไหน เพราะปัจจุบันคนๆ นี้ กำลังอยู่ตรงหน้าเขา...
“...” กรมองคนตรงหน้าสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายของตัวเอง พีทยิ้มเย็นออกมาให้เขา
“รู้อะไรไหมเสี่ยกร...” พีทกรีดมือนิดๆ และคว่ำมือลง พลางหลุบตามองแหวนเงินบนนิ้วมือตัวเอง แล้วเงยหน้าจ้องงลึกไปในดวงตาของเสี่ยใหญ่ “สินสอดห้าแสนน่ะ มันน้อยไปนะครับ”
“หึ... ฮ่าๆๆ ได้ๆ” กรหัวเราะ ก่อนจะหุบลงเหลือแค่ยิ้มมุมปาก
“ฉันจะจ่ายส่วนที่เหลือให้นายทั้งชีวิตเลย”
FIN.
หั่นโล่ ย่องมาอัพแล้วในส่วนของตอนจบ และคาดว่าคงผิดหวังกันไปตามๆ กันในส่วนคนอ่าน (อิอิ)
อย่าเพิ่งงอแงไปนะคะ เดี๋ยวเย็นๆ มาอัพตอนพิเศษให้ ส่วนใครที่รู้สึกว่า เฮ้ย มันยังไม่คอมพลีทเลย ยังไม่หวานกันเลย ลองรีเควสดูนะคะ เผื่อเขียนภาค 2 ออกมา อาจจะเป็นภาคของเสี่ยกรก็ได้ (เนื่องจากเสี่ยโดนด่าเยอะมาก สงสารเสี่ยจัง)
ไปแล้วค่ะ เย็นๆ เจอกันเนาะ
โอเค ตอนจบก็มึนเหมือนเดิม55555 ดีนะที่กลับมา
ถ้าไม่มีอดีตพวกนั่นสองคนนี้คือคู่ผัวเมียที่หวานเรี่ยราด
ที่สุดคู่นึงนะ ชอบคาแรกเตอร์ของทั้งคู่มาก
มันเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่ออ่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
ภาคสองของเสี่ยเชียร์ให้มีค่าาเพราะเราแม่ยกเสี่ย เห็นใจเสี่ยเสมอมา เสี่ยก็น่าสงสารน้า