ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :.: SJ Short Fiction :.:

    ลำดับตอนที่ #4 : [SF] :::: Something That I've Lost ::::

    • อัปเดตล่าสุด 5 ม.ค. 56



    Title ::: The Lethal Room Project >>> Something That I've Lost...

    Paring ::: Kyuhyun x Sungmin

    Rate ::: ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน

    Note ::: ฟิคป่วงๆกะคนเปื่อยๆ ในเมื่อรำคาญกันนัก...ก็จะไปให้ไกลๆเลย ชิ!!!

     

     

     

     



    ถ้าเธอรำคาญกันขนาดนั้น...ฉันก็จะไม่ยุ่งวุ่นวาย


    ถ้าเธอเบื่อกันขนาดนั้น...ฉันก็จะไม่สนใจ


    และถ้าเธอหมดรักกันเมื่อไหร่...ฉันก็จะเป็นฝ่ายไปจากเธอเอง


    หวังว่าเธอ...คงจะเข้าใจนะ

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

    "โจคยูฮยอน!!!"

     

    เสียงเล็กตวาดแหวขึ้นทันทีที่ได้เห็นภาพอันแสนจะบาดตาบาดใจอยู่ห่างออกไปเพียงแค่สิบก้าว แขนเรียวของผู้หญิงที่ตัวเขาเองรู้จักฤทธิ์เดชกันดีพาดเกยอยู่ที่คอของพ่อพระเอกในหัวใจอีซองมินอย่างไม่มีทีท่าว่าจะผละออกง่ายๆ ยิ่งเห็นคนตัวเล็กยืนจังก้าทำท่าจะเอาเรื่องอยู่ร่ำๆ แม่สาวตัวดีก็ยิ่งแกล้งทำเป็นแข้งขาอ่อน มวลสารในกระดูกสันหลังดูเหมือนมันจะอันตธานหายไปหมดแล้วเมื่อเจ้าหล่อนดันเกาะเกี่ยวแนบชิดร่างสูงอย่างกับจะเลื้อยได้อยู่ทุกเมื่อ แถมไอ้เจ้าของชื่อที่มันถูกเรียกเมื่อตะกี๊ก็มีแค่การหันหน้ามามองทางคนเรียกแถมเสียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายให้อีกเฮือกหนึ่ง ไม่มีอาการสะดุ้งสะเทือน ไม่มีอาการสำนึกผิด ไม่มี...ไม่มีอะไรทั้งสิ้น

    คุณผู้ชายชะตาขาดคนนั้นจะรู้ตัวบ้างมั้ย...ว่าตอนนี้อีซองมินปรี๊ดแตกขนาดไหน

     

    อยากฆ่าคนว้อยยยยยย!!!!


     

    "ซองมิน...มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะ นี่ซองมิน...ฟังผมก่อนได้มั้ย"


    เสียงทุ้มเนือยของร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขาย่างสามขุมเข้ามาด้วยใบหน้าโกรธเคืองอย่างที่เจ้าตัวชอบทำเป็นประจำเมื่อเห็นตัวเขาเองอยู่กับผู้หญิงคนนี้ ไม่ว่าชายหนุ่มจะเคยอธิบายถึงความสัมพันระหว่างพวกเขาทั้งสองให้คนตัวเล็กฟังไปมากเท่าไหร่ แต่ก็ดูเหมือนเจ้าตัวไม่เคยคิดที่จะรับรู้หรือรับฟังพอๆกับปริมาณน้ำลายที่เขาเสียไป ชายหนุ่มอดที่จะขึ้นเสียงปรามไม่ได้เมื่อมือเล็กเริ่มฉุดกระชากให้แขนเรียวของเพื่อนร่วมงานสาวหลุดออกจากบ่าของเขาด้วยแรงที่มีอยู่ทั้งหมดนั่น


    คยูฮยอนไม่คิดว่านี่คืออาการธรรมดาทั่วไปของคนที่เป็นแฟนเขาทำกัน

    สิ่งที่ตาเขามองเห็น...คนตัวเล็กกำลังประทุษร้ายผู้หญิงตัวบางที่กำลังเมาไม่ได้สติอย่างน่าสงสาร

    ทำไมคนที่ได้ชื่อว่าเป็น 'แฟน' ของเขา...ถึงได้ใจร้ายขนาดนี้กัน!!!

     


    "ซองมิน...หยุดก่อนได้มั้ย"

    "ไม่!!! ซองมินไม่หยุด ในเมื่อผู้หญิงคนนี้กำลังทำเรื่องน่าไม่อาย ซองมินก็ต้องสั่งสอนซะบ้าง"

    "ซองมิน...พอได้แล้ว เขากำลังเสียใจอยู่นะ ซองมิน...ขอร้องล่ะ"

    "ผู้หญิงคนนี้เสียใจ...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคยูฮยอนด้วยล่ะ หรือว่าคยูฮยอนไปทำให้เขาเสียใจ...ถึงต้องมานั่งปลอบกันในผับจนเมาเละเทะออกมาแบบนี้"

     

    พูดไปก็พาลแต่จะโมโห แรงมือที่บีบจับอยู่ตรงข้อแขนเล็กนั่นถึงได้แข็งขืนนัก ทำเอาเสียงแหลมหวีดร้องโอดโอยไม่ได้ขาด เรียกเลือดสุภาพบุรุษที่มันไหลเวียนอยู่ในกายของชายหนุ่มออกมาได้ดีแท้

     


    "อีซองมิน!!! หยุดซักที!!!"

    "คยูฮยอน..."


    เสียงหวานทำได้แค่ครางเครือเรียกชื่อของคนรัก เมื่อมือเรียวปัดเอามือขาวให้หลุดพ้นจากขอบเขตการทำร้ายร่างกายของเพื่อนร่วมงานคนสวย พร้อมทั้งยังโอบประคองรับเอาร่างบางที่ทั้งโอนอ่อนและสั่นเทาเข้าเต็มทั้งอ้อมแขน น้ำตาของผู้หญิงมันช่างมีฤทธิ์ร้ายกาจนัก หนึ่ง...มันช่วยให้คนในอ้อมกอดอุ่นยิ่งขึ้นเมื่อแขนทั้งสองข้างเพิ่มแรงรัดรึงมากกว่าเดิม สอง...มันมีคุณสมบัติคล้ายน้ำกรดที่กำลังกัดกร่อนก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายของอีซองมินให้เป็นแผลเหวอะและแสบร้อน


    ขนาดอยู่ต่อหน้าอีซองมินคนนี้...โจคยูฮยอนคนนั้นก็ยังจะกล้า!!!

     

    "พอซะทีได้มั้ย ไอ้อาการ 'หึง' ไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้น่ะซองมิน ช่วยเข้าใจที่ผมพร่ำบอกคุณไปหน่อยจะได้มั้ย ผมกับเขา...เป็นแค่เพื่อนกัน เป็นทั้งเพื่อนสมัยเด็กและเพื่อนที่ทำงาน ถ้าจะสนิทกันบ้าง...ก็คงจะไม่แปลกใช่มั้ย และถ้าคุณจะฟังผมบ้าง...ผมก็จะบอกคุณว่า วันนี้เขาทะเลาะกับแฟนและอยากได้คำปรึกษาจากผม เราก็เลยมานั่งดื่มกันที่นี่...ก็เท่านั้นเอง"


    "แล้วทำไมคยูจะต้องยอมให้มันทั้งโอบทั้งกอดแบบนั้นล่ะ คยูก็รู้ดีนี่ว่าซองมินก็ไม่ชอบเหมือนกัน"


    "แล้วซองมินไม่เห็นเหรอว่าเขาเมาขนาดไหน ขนาดจะยืนเองยังไม่ได้เลย ซองมินจะให้ผมทำยังไง...ไหนซองมินลองว่ามาซิ"


    "มันไม่ได้เมา!!! มันแค่แกล้งทำเป็นเมาไม่รู้เรื่องแล้วกะจะเนียนให้คยูไปส่งที่ห้อง อย่าคิดว่าแผนตื้นๆแค่นี้ซองมินจะไม่รู้"


    "ซองมิน!!! พูดจาอะไร ให้เกียรติคนอื่นเขาบ้าง เจ้าตัวเขายังยืนอยู่ต่อหน้าแท้ๆ ทำไมถึงพูดจาแบบนี้"


    "โจคยูฮยอน!!! ทำไมนายถึงกล้าว่าฉัน ทั้งๆที่นายก็รู้ว่ามันคิดยังไงกับนายงั้นเหรอ!!!"


    "อีซองมิน!!! เมื่อไหร่คุณจะเลิกนิสัยขี้หึงงี่เง่านี่ซักที หัดเชื่อใจกันบ้างได้มั้ย ถ้าผมรักซองมิน...ต่อให้มีใครที่สวยและดีกว่านี้อีกร้อยเท่าเข้ามาหา ผมก็ยังยืนยันที่จะรักซองมินเหมือนเดิม แต่นี่...คุณกำลังจะทำให้ผมลำบากใจ ผมขอถามคุณแบบจริงจังนะ นอกจากความรักแล้ว...คุณเคยให้ความเชื่อใจกับผมบ้างมั้ย"

     

    ไร้ซึ่งคำตอบ... น้ำตาเม็ดโตมันรื้นขึ้นมาตามขอบตาจนหนักพร้อมๆกับรอยยิ้มร้ายที่ผุดขึ้นบนใบหน้าสวยของคนในอ้อมกอดตรงหน้า เสียดายนัก...รอยยิ้มแบบนี้ ไม่มีวันที่คนอย่างโจคยูฮยอนจะได้เห็น หากแต่เป็นอีซองมินที่ได้รับมันไปตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากัน คนตัวเล็กทำได้แค่กลั้นน้ำตาภายใต้สีหน้าตัดพ้อ ร่างบางสั่นเทิ้มเมื่อนึกไปถึงคำพูดต่างๆนานาที่ร่างสูงหยิบยื่นให้ มันทั้งปกป้องคนที่เป็นแค่เพื่อนและด่าว่าคนที่เป็นแฟนในเวลาเดียวกัน มือเล็กกำแน่นจนเจ็บจี๊ด ดวงตาคู่หวานที่บัดนี้กลับแข็งกร้าวกำลังจ้องมองคนรักด้วยตั้งใจจะฟังคำกล่าวหาและข้อแก้ตัวที่ใครคนนั้นขว้างใส่กลางหน้าเขาเต็มๆ


    เชื่อใจงั้นเหรอ...แล้วที่เขากำลังเห็นนี่มันคืออะไรกัน!!!

     

    "ซองมิน...คุณรู้บ้างมั้ย สิ่งที่คุณทำอยู่ทุกวัน มันเริ่มจะทำให้ผมรำคาญในความไม่เคยฟังใครของคุณ ผมเคยบอกคุณไปตั้งหลายครั้งแล้ว แต่คุณก็ไม่เคยใส่ใจ คุณไม่เคยคิดจะเชื่อใจผมเลยซักครั้ง คุณผูกนาฬิกาชีวิตของคุณไว้กับผมจนผมแทบจะกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ ผมเบื่อที่จะต้องมานั่งรายงานคุณว่าวันนี้ไปไหน ไปกับใคร หรือว่าทำอะไรบ้าง ผมขอร้องล่ะนะ...ซองมิน ช่วยเป็น 'คนรัก' ของผมให้เหมือนกับคนอื่นๆบ้างได้มั้ย"


    "....."


    "เลิกวุ่นวายกับชีวิตของผมตลอด 24 ชั่วโมงซักที..."


    "....."


    "เชื่อใจกันบ้าง...มันคงไม่มากเกินไปใช่มั้ย...ซองมิน"

     

    น้ำตาของคนเจ้ากี้เจ้าการอย่างเขาคงจะไหลลงมาแล้ว ถ้าไม่ติดที่รอยยิ้มหยันของนางมารร้ายและอ้อมแขนที่ยังคงโอบร่างอ่อนนั่นอยู่ ฟังคำพูดแต่ละคำของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของตัวเองก็ให้เจ็บปวดเกินกว่าจะทนอยู่เฉย ทั้งความรู้สึกเบื่อและรำคาญมันมากองกันอยู่ตรงหน้าอีซองมินคนนี้แล้ว มีอีกกี่ทางเลือกกันที่ตัวเขาเองจะทำได้


    ขอร้อง...โจคยูฮยอนขอร้องให้อีซองมินเลิกยุ่งและวุ่นวาย


    เชื่อใจ...คำๆเดียวที่โจคยูฮยอนอยากให้อีซองมินมีมากกว่าความรักที่เคยหยิบยื่น

     




    ถึงแม้เขาจะเสียใจและเจ็บปวด แต่คนอย่างอีซองมิน...ก็ไม่เคยก้มหัวให้ใคร


    คนอย่างอีซองมิน...ไม่เคยทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ


    ในเมื่อคยูฮยอนเห็นว่าเรื่องที่ซองมินทำเป็นแค่สิ่งงี่เง่าที่เขาแสดงออก


    ซองมินก็คงต้องทำตามที่ 'คนรัก' ขอมา

     


    "ได้สิคยู ถ้าคยูอยากให้ซองมินเชื่อใจ...ซองมินก็จะเชื่อใจ ถ้าคยูอยากให้ซองมินเลิกเจ้ากี้เจ้าการ...ซองมินก็จะไม่สนใจ และถ้าคยูอยากให้ซองมินเลิกวุ่นวายกับคยูตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง...ซองมินก็จะไม่ยุ่ง"


    "แค่นี้...หวังว่าคยูคงจะพอใจนะ"


    เสียงหวานที่ตอนนี้กลับแข็งทื่อเอ่ยพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉยราวกับสิ่งเหล่านี้คือเรื่องปกติที่เกิดขึ้นทั่วไป สองมือของคนตัวเล็กก็ยังคงกำแน่นเหมือนเดิม สองตาของซองมินก็ยังคงจ้องมองใบหน้าคุ้นเคยในองศาเดิม หากแต่หัวใจของซองมิน...มันกลับไม่เหมือนเดิม...


    อีซองมินรักโจคยูฮยอนมาก...


    ถ้าคยูอยากได้...ซองมินก็จะจัดให้



     

    "คืนนี้ผมว่ายังไงเราคงพูดกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ผมโทรหาก็แล้วกันนะ"


    "ยังไงก็ได้...แล้วแต่คยูเถอะ"


    "งั้น...ผมพาเพื่อนไปส่งที่บ้านก่อนนะ ซองมินกลับบ้านเองได้ใช่มั้ย"


    "ได้สิ...ซองมินมาเองได้ ก็กลับเองได้ ถึงยังไง...พี่จงอุนก็ไม่ปล่อยให้ซองมินกลับคนเดียวแน่ๆ"


    "งั้น....พรุ่งนี้เจอกันนะ"


    "อือ"

     

    รถยนต์คันหรูที่คนตัวเล็กคุ้นเคยแล่นออกไปแล้วพร้อมกับน้ำตาเม็ดโตที่เริ่มร่วงหล่นจากดวงตาคู่ใสอย่างเงียบๆ มือน้อยยกขึ้นมาป้องปากเอาไว้หวังเพียงจะเก็บกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้ดังไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ร่างกายที่ถูกคลุมทับด้วยเสื้อโค้ทเนื้อดีกำลังสั่นเทาเพราะความเหน็บหนาวที่ลามเลยมาจากข้างในอก หากเขาเป็นอย่างที่คนรักกล่าวหา...หัวใจมันอาจเจ็บปวดน้อยกว่านี้อยู่หลายขุม แต่นี่...มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย


    ในเมื่อคยูฮยอนไม่เคยเห็น...แววตาของผู้หญิงคนนั้นเวลาที่ใช้มองซองมิน

    ทั้งๆที่คยูฮยอนก็รู้...ว่าผู้หญิงคนนั้นคิดยังไงกับตัวเอง ก็ยังจะใจดีให้เป็นเพื่อนต่อไป

    คยูฮยอนบอก...พร่ำบอกให้ซองมินเชื่อใจ

    แต่มันยากนะ ที่จะทำให้ได้ตามที่บอก

    ในเมื่อคนอย่างอีซองมินไม่ได้ใจกว้างมากพอ และทุกการกระทำของซองมินก็มีเหตุผล


    เหตุผล...ที่คนรักอย่างโคยูฮยอนไม่เคยคิดจะเข้าใจ

     


    "กลับบ้านกันเถอะครับคุณหนู...อากาศเย็นแบบนี้ เดี๋ยวจะไม่สบายเอาง่ายๆนะครับ"


    "ครับ!!! ซองมินจะกลับบ้าน รบกวนพี่จงอุนหน่อยนะครับ"


    "งั้น...ขึ้นรถกันเถอะครับ ถ้าช้ากว่านี้ เกรงว่าคุณพ่อท่านจะเป็นห่วงครับ"

     

    คุณหนูคนเก่งของบอร์ดี้การ์ดร่างสูงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะพาตัวเองเข้าไปนั่งยังเบาะหลังของรถคาดิแล็คสีดำที่จอดรอมาพักหนึ่งด้วยอาการสงบนิ่ง เพียงแค่ตัวรถเริ่มเคลื่อนตัวไปตามถนนสายหลัก ดวงตาหวานเหม่อมองออกไปนอกกระจกใสหากแต่ในหัวสมองกลับคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งจะจบลงไปไม่นาน


    ถ้านายต้องการแบบนั้น...ฉันก็ทำให้ได้อยู่แล้วล่ะ...


    งั้นก็...

     


    จัดไป!!!

     


    ทั้งหมดนี้ นายเป็นคนขอร้องฉันเองนะ...คยูฮยอน




     
     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -




     

     

    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     

     

    "ว้อยยยยยยยยยยยยย!!! แก้วหูจะแตกอยู่แล้ว!!!"

     

    เสียงกริ่งนาฬิกาที่กรีดร้องดังขึ้นในตอนเช้าตรู่เป็นสัญญาณของการเริ่มต้นชีวิตในวันใหม่ หากแต่ดูจากคำโวยวายของชายหนุ่มผู้รับเคราะห์แล้ว มันช่างเป็นเสียงที่ไม่น่าพิศสมัยเอาซะเลย มือเรียวปัดป่ายไปตามโต๊ะไม้ข้างเตียงนอนหมายจะหาเจ้าตัวต้นเหตุวางอยู่ใกล้ๆ แต่สิ่งที่เจอกลับมีเพียงเครื่องมือสื่อสารที่ยังคงวางอยู่ที่เดิมเหมือนทุกเช้าที่มันต้องอยู่


    แต่สิ่งที่หายไป...มันช่างทำให้หัวใจสั่นไหวอย่างน่าประหลาด



    ร่างสูงลุกขึ้นบิดขี้เกียจเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อยก่อนที่มือใหญ่จะหยิบเอามือถือเครื่องเก่าขึ้นมาเพ่งดูหน้าจอจนแทบทะลุไปถึงแผงวงจรข้างใน ถึงแม้ว่าเสียงกริ่งของนาฬิกาปลุกตัวเดิมจะยังคงดังต่อเนื่องไม่หยุด หากแต่สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มหน้าคมต้องมานั่งครุ่นคิดและให้ความสนใจกลับเป็นเจ้ามือถือสีดำที่กำลังทำหน้าที่เป็นสากเบืออยู่ในมือของเขา


    ไม่ว่านิ้วเรียวจะกดดูรายการโทรเข้าออกจนปุ่มแทบจะพังคามืออยู่รอมร่อ ก็ไม่มีแม้แต่ miss called ของคนคุ้นเคยให้ได้เห็น อันที่จริง...ทุกวันธรรมดาในตอนเช้า ว่าที่รองประธานบริษัทอย่างเขาไม่จำเป็นต้องอาศัยเสียงน่ารำคาญจากเจ้าเครื่องบอกเวลาอัจฉริยะเกินเหตุที่นั่งตัวดำอยู่บนชุดเครื่องเสียงตรงปลายเตียงแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่จะปลุกให้คนขี้เซาอย่างเขาตื่นได้อย่างเต็มตาและสดชื่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเสียงหวานๆของใครบางคนที่มักจะโทรมาอรุณสวัสดิ์กันทุกเช้าแทนเสียงหลอนประสาทนั่น


    คนตัวเล็กรู้ใจ...ความจริงที่ตัวเขาเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้


    แต่ทำไมเช้านี้กลับเงียบหาย...


    สงสัยคงจะงอนอยู่ล่ะมั้ง

     


    มือเรียวคว้าจับเอาผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่กับราวตากผ้ามาพาดบ่าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป สายน้ำเย็นฉ่ำที่ราดรดร่างกายช่วยปลุกทุกโสตประสาทของชายหนุ่มให้กลับมาทำงานอย่างเต็มที่อีกครั้ง สมองอันชาญฉลาดคิดไปถึงงานที่ตัวเองจะต้องเข้าไปทำในบริษัทวันนี้ รอยยิ้มกว้างเผลอคลายออกมาเมื่อคิดได้ว่าช่วงบ่ายของวันไม่น่าจะมีนัดที่อื่นอีก เพราะฉะนั้น...เหมาะนักสำหรับการง้อคนขี้งอนด้วยอาหารว่างหนึ่งมื้ออย่างที่คนน่ารักชอบ


    เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว ร่างสูงโปร่งก็ฮัมเพลงออกมาอย่างสบายใจพร้อมๆไปกับการเลือกเสื้อผ้าที่คิดว่าคนตัวเล็กจะชอบมัน

     


    แต่...โจคยูฮยอนคิดอะไรผิดไปรึเปล่า


    ในเมื่อการทะเลาะกันครั้งนี้ ชายหนุ่มเป็นคนออกปากเอง


    คยูฮยอนขอร้องไม่ให้ยุ่ง...ไม่ให้สนใจ


    และคิดว่าอีกไม่นาน...คนรักของเขาก็จะหายโกรธและกลับมาเข้าใจกันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา


    คยูฮยอนใช้ความเคยชินเป็นตัวตัดสินเหตุการณ์ที่กำลังดำเนินอยู่โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว่า...


    หัวใจของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น 'แฟน' ของโจคยูฮยอน...มันได้ชาชินและเปลี่ยนไป

     



    ในครั้งนี้...คำขอของโจคยูฮยอน...คงจะสัมฤทธิ์ผลอย่างสมบูรณ์ซะที

     
     

    .
     

    .
     

    .



    [TBC]





    ชอบคนอ่าน...รักคนเม้นค่ะ >w<*

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×