ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic khunwoo] Love is feeling

    ลำดับตอนที่ #1 : [fic khunwoo] Love is feeling 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 617
      5
      27 เม.ย. 60

    Title:Love is feeling

    Couple: KhunWoo

    Writer: ilovekw

    Rate : PG 

    Gente :  Romance

     

     

     

     

         “อูยองปีนี้ก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้วสิเรา  แล้วอยากเข้าคณะอะไรล่ะ


         “ยังไม่รู้เลยครับพี่แทคยอน ช่วยผมคิดหน่อยสิ


         “เอ้าไอ้เด็กนี่ เราเป็นคนเรียนนะไม่ใช่พี่ อยากเรียนอะไรก็ลองคิดดูสิ

        

         “ก็มันไม่รู้จะเรียนอะไรนี่ครับ แต่ผมจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับพี่แทคยอนให้ได้นะ แล้วผมจะไปอยู่กับพี่แทคยอน


          “พูดแล้วทำให้ได้ก็แล้วกัน

        

         “พี่แทคก็คอยดูแล้วกัน

     

      แทคยอนกับอูยองเป็นพี่น้องข้างบ้านที่สนิทกันมากราวกับเป็นพี่น้องกันจริงๆ ตอนเด็กๆอูยองมักจะตัวติดแทคยอนเป็นตังเม เดินตามพี่แทคยอนต้อยๆ ไม่ว่าจะไปไหนก็จะต้องคอยอ้อนให้พี่แทคยอนไปด้วยเสมอ  แม้กระทั่งตอนนอน บางวันอูยองงอแงไม่ยอมกลับไปนอนบ้านเลย เพราะจะเล่นกับพี่แทคยอนต่อ พ่อกับแม่ของแทคยอนก็เอ็นดูอูยองเหมือนลูกคนนึง ก็เลยเลี้ยงอูยองเป็นน้องชายของแทคยอนไปด้วยเลย ส่วนพ่อกับแม่ของอูยอง เห็นแทคยอนดูแลน้องดีมากๆ ก็เลยดูแลอูยองและแทคยอนให้เป็นพี่น้องกันมาตลอดเหมือนกัน 

     

              จนถึงตอนนี้..

     

              อูยองก็ยังคนทำตัวเป็นเด็กติดพี่ชายอยู่อย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยนเลย  แทคยอนสอบติดเรียนหมอที่มหาวิทยาลัยชั้นนำของเกาหลีได้ ทำให้นานๆทีจะมีเวลากลับบ้าน ซึ่งตอนแรกๆที่อูยองเข้าไปเรียนในโซล อูยองก็เอาแต่นั่งซึม บ่นงอแงคิดถึงพี่ชายทุกวัน     วันนี้แทคยอนมีเวลาได้กลับบ้านในช่วงปิดเทอม จึงรีบกลับมาหาพ่อกับแม่ แล้วก็น้องชายตัวแสบ    พอกลับมาบ้านทีเจ้าน้องตัวแสบก็อ้อนให้พาไปเที่ยวบ้างล่ะ ให้พาไปกินไอติมบ้าง ให้พาไปนู่นไปนี่บ้างล่ะ ยังตัวติดแทคยอนไม่เคยเปลี่ยน  

     

         “พี่แทคยอน....วันนี้เราจะไปไหนกันดีนน้า.....อูยองทำท่าคิด แก้มป่องๆพองขึ้นเล็กน้อย 

     

         “หยุดความคิดนั้นเลยนะอูยองวันนี้คุณแม่เราบอกว่าไง   บอกว่าให้พี่ติวภาษาอังกฤษให้ใช่ไหม เพราะงั้นวันนี้น้องก็ต้องตั้งใจเรียนกับพี่โอเคไหม”    แทคยอนแอบดุน้องแต่ไม่ได้จริงจังอะไร เพราะก็รู้อยู่ว่าน้องชายตัวเองนั้นดื้อนักยิ่งกว่าอะไรซักอีก คงไม่ฟังกันหรอก 

     

         “ก็ไปหาอะไรกินเติมพลังก่อนแล้วค่อยมาติวก็ได้นี่ครับพี่แทคยอน   น่า นะ ไปหาอะไรกินกัน  น้องหิว พี่แทคยองจะปล่อยให้น้องหิวจริงๆเหรอ ไม่สงสารน้องเหรอ น้องยังเด็กนะ น้องทนหิวไม่ได้หรอกนะ”


             "เด็กที่ไหน อีกไม่กี่เดือนก็จะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว"


         "ก็เด็กกว่าพี่แล้วกันน่า นะ พาน้องไปหาอะไรกินก่อน ตกลงไหม"


              “อ่าๆ  ก็ได้ๆ  งั้นไปกินไอติมกัน พอกลับถึงบ้านต้องตั้งใจเรียนห้ามหลับ ห้ามงอแง ห้ามบ่นว่าเบื่อ โอเคไหม พี่ถือว่าพี่ตามใจน้องแล้วนะ”    แทคยอนก็เป็นซะอย่างงี้ตามใจอูยองมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต แทคยอน เองก็ม่มีพี่ไม่มีน้อง อูยองก็เช่นกัน สองคนนี้ถูกเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ แทคยอนก็รักอูยองเหมือนน้องจริงๆ อูยองก็รักพี่แทคยอนแบบพี่จริงๆ

     

    .

    .

    .

    .

    .

    ร้านไอติมร้านหนึง ณ ปูซาน

     

         “นี่อูยองกินให้มันน้อยๆหน่อยเราหน่ะ ดูสิสั่งอะไรมาเยอะแยะขนาดนี้”  อูยอเล่นสั่งไอติมมาแทบจะทุกรสของร้านนี้ ร้านนี้เป็นร้านโปรดของอูยองกับพี่แทคยอนตั้งแต่เด็กๆ

     

         “ก็วันนี้พี่แทคเลี้ยง น้องก็เลยขอจัดเต็มหน่อย”  อูยองพูดพร้อมหัวเราะอย่างสดใส

     

         “หืม? อะไรนะ ว่าไงนะเมื่อกี้คนเป็นพี่ถึงกับฟังไม่ถนัดหู

     

         “ก็พี่แทคยอนเลี้ยงไง ทำตัวเป็นคนแก่หูตึงไปได้พี่เรา

     

         “พี่ยังไม่ได้บอกเลยว่าจะเลี้ยง


         “ก็พี่แทคยอนไปเรียนตั้งในกรุงโซลอ่ะ  พี่แทคยอนไม่ค่อยได้กลับมาหาน้องเลย ตั้งหลายปี่แล้วนะพี่แทคยอน เลี้ยงหน่อย นะ นะ" 

     

    แทคยอนพยักหน้ารับอย่างเอือมๆให้กับน้องชายตัวเอง ก็จะไปขัดใจอะไรได้ล่ะ ถ้าขัดใจมีหวังร้องไห้ลั่นร้านไอติม

     

         “น้ำหนักขึ้นกี่โลแล้วเราอะ พี่ไม่ได้กลับมาไม่กี่ปี น้องดูบวมขึ้นเยอะเลย

     

         “อะไรของพี่แทคยอน ผมก็เป็นแบบนี้นานแล้วแหละ พี่นั่นแหละที่ไม่ได้กลับมาหลายปีแล้วก็มาหาว่าผมอ้วนขึ้น

     

         “อื้มๆ โอเคๆพี่ผิดเองๆที่หาว่าน้องอ้วนขึ้น รีบกินเถอะ กลับไปพี่จะได้ไปติวหนังสือให้

     

         “เฮ้อ ติว ติว ติว อูยองเบื่อ

     

         “แล้วไหนบอกจะเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ไง ถ้าขี้เกียจก็เข้าไม่ได้  แล้วอยากเข้าคณะอะไรล่ะ

     

      พี่แทคยอนก็เคยถามผมแล้วไง ก็จะตอบคำเดิมว่า ไม่รู้ครับ ไม่ได้อยากเรียนคณะอะไรไปเป็นพิเศษแค่อยากเข้ามหาลัยเดียวกับพี่แทคยอนเฉยๆ

     

         “เฮ้อ  เรานี่จริงๆเลย  โตแล้วนะ ยังจะติดพี่อีกเหรอหึ้ม”  แทคยอนพูดพร้อมกับยิ้มให้กับน้องชายตัวเอง


         “ก็ผมไม่มีใครนี่ครับ ไม่มีใครตามใจผมได้เท่าพี่ชายของผมหรอก”  อูยองพูดพร้อมตักไอติมเข้าปาก

     มันก็แน่ล่ะไอ้เรื่องตามใจ แทคยอนขี้เกียจจะโอ๋เวลาเด็กมันงอแงเหนื่อยจะตาย สู้ตามใจตั้งแต่แรกแล้วก็จบแล้ว

        

         แทคยอนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจว่าจะเอายังไงกับน้องชายตัวเองดี จะให้เลือกคณะเรียนให้ด้วยเลยไหม ถ้าเลือกให้แล้วอูยองไม่ชอบเรียน หรือเรียนไม่ไหวมันจะส่งผลกับตัวอูยองเอง  จะว่าไปก็เครียดนะเนี่ยจะเอายังไงก็น้องดี

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

             หลังจากติวหนังสือเสร็จ อูยองก็รีบวิ่งเข้าครัวเพื่อช่วยคุณแม่ทำอาหารเย็นทันที   อูยองหยิบจับอุปกรณ์มาทำอาหารอย่างคล่องแคล่ว อูยองก็พอจะทำอาหารเป็นอยู่หลายอย่างเพราะเข้าครัวกับคุณแม่แทบทุกวัน คุณแม่คุณพ่อก็เคยชมว่า ฝีมือการทำอาหารก็ใช้ได้พอสมควร

     

              “แม่ครับวันนี้ทำอาหารเยอะเป็นพิเศษหน่อยแล้วกันเนอะ เพราะเราก็ไม่ได้ทานข้าวพร้อมกับบ้านของพี่แทคยอนนานแล้วเหมือนกัน

     

         “จ้ะ ตามใจเลยลูก แล้วบอกคุณป้าคุณลุงแล้วก็พี่แทคยอนเขารึยังว่าให้มาทานข้าวบ้านเรา

     

         “บอกแล้วคร๊าบบบ”  อูยองตอบเสียงใส 

     

    .

    .

    .

    .

              หลังจากทำกับข้าวเสร็จทั้งสองบ้านก็มานั่งทานข้าวร่วมกันเสมือนเป็นญาติสนิทกัน ถึงจะเป็นแค่เพื่อนบ้านกัน แต่ทั้งสองครอบครัวก็เป็นเหมือนญาติๆกันนั่นแหละเพราะต่างคนต่างพึ่งพาอาศัยกันยามยากลำบาก ทางพ่อแม่ของอูยองก็รักแทคยอนเหมือนลูกชายคนนึง ทางพ่อแม่ของแทคยอนก็เช่นกัน

     

         “แทคยอนเรียนเป็นไงบ้างล่ะลูก เรียนหนักรึเปล่า”  แม่ของอูยองเอ่นถามแทคยอน

        

         “ใกล้จะปีสุดท้ายแล้วก็หนักอยู่พอสมควรครับคุณน้า

     

         “พยายามเข้านะแทคยอน ยังไงน้าก็ฝากน้องด้วย  กลับมาเมื่อไหร่ก็มาติวให้น้องบ้าง น้ายังไม่รู้เลยว่าอูยองอยากเรียนคณะอะไร อยากเป็นอะไร


         “ผมว่าผมพอจะเห็นแววน้องแล้วล่ะครับคุณน้า

    พอแทคยอนพูดจบทุกคนในบ้านก็จับจ้องมาที่แทคยอน

     

         “แววอะไรเหรอครับพี่แทคยอน”  อูยองถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

     

           “ก็แววที่เราจะเรียนอะไร ประมาณนี้แหละ พี่เห็นว่าเราชอบทำอาหารชอบเข้าครัวบ่อยๆ เรียนด้านทำอาหารดีไหม ที่มหาลัยพี่ก็มีคณะเกี่ยวกับด้านนี้

     

         “อูยองว่าไงลูกสนใจอย่างที่พี่เขาบอกไหม”  พ่ออูยองเอ่ยขึ้น

     

         “ก็น่าสนใจดีนะครับ ก็ดีมั้งครับ มันมีคณะแบบนี้ด้วยเหรอครับพี่แทคยอน

     

         “อึ้มมีสิ ถ้าอยากเรียนก็ตั้งใจอ่านหนังสือเข้านะน้องพี่


         “ถ้าอย่างนั้นอูยองจะตั้งใจอ่านหนังสือนะครับทุกคน”  อูยองพูดอย่างตั้งใจ

    ทุกคนก็พลอยดีใจไปด้วยที่เห็นอูยองตั้งใจจะเข้าคณะนั้น

     

    ****put your hands up put put put put put เสียงโทรศัพท์แทคยอนเข้า***

    เออว่าไงไอ่คุณ มีอะไรรึเปล่า

    ..............

    พรุ่งนี้เลยเหรอ

    …………..

    โอเค ขอบใจมาก

    ………………

     

    พอวางสายจากโทรศัพท์เพื่อนที่คณะแล้ว แทคยองก็บอกกับทุกคนว่าพรุ่งนี้ต้องกลับโซลแล้ว

     

         “อะไรกันพี่แทคยอนไหนบอกน้องว่ากลับบ้านอาทิตย์นึงไง นี่เพิ่งสามวันเองนะ”    เสียงอูยองประท้วงคนพี่ที่ผิดคำพูด

        

         “นั่นสิลูกทำไมถึงได้กลับปุ๊บปั๊บแบบนี้ล่ะแม่แทคยอนเสริมขึ้น


         “พอดีว่าอาจารย์หมอมีผ่าตัดเคสพิเศษก็เลยจะให้เข้าร่วมไปศึกษาดูหน่ะครับ

     

    อูยองถอนหายใจยาวๆ ทำหน้าเซ็งๆ   

    ตั้งแต่ที่แทคยอนไปเรียนหมอในกรุงโซลแทคยอนก็แทบจะไม่ได้กลับบ้านเลย

     

         “อูยองยังเล่นกับพี่แทคยอนได้ไม่กี่วันเองยังไม่หายคิดถึงเลยนะ”  อูยองทำหน้าเบะก่อนจะวางช้อนกับส้อมลงบนจานข้าว  ทุกคนในบ้านเดาว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ต้องได้เห็นเด็กขี้เอาแต่ใจงอแงแน่ๆ  ทุกคนต่างเหนื่อยใจกับอูยองโตป่านนี้แล้วนิสัยเอาแต่ใจยังไม่หายอีก

     

              “เอาไว้เมื่อไหร่ที่พี่ว่างพี่จะกลับมาหาโอเคไหม”  แทคยอนมองหน้าน้องอย่างเหนื่อยอ่อนไม่รู้จะพูดยังไงดี งอแงตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยจะมีใครปลอบได้หรอกถ้าไม่ได้ดั่งใจจริงๆอูยองก็จะงอแงอยู่แบบนั้น

     

              “อูยองจะไปโซลกับพี่แทคยอน!!


    งานเข้าแล้ว แทคยอนคิดในใจ


              “ไม่เอาน่าอูยอง อย่าเป็นแบบนี้สิลูก พี่แทคยอนไปเรียนหนังสือ แล้วลูกจะไปอยู่ยังไง แม่ไม่ให้ไปหรอกนะ

     

    อูยองครุ่นคิดอยู่พักนึงก่อนจะได้คำตอบที่สวยหรูมาเป็นข้ออ้าง


         “ก็ตามพี่แทคยอนไปเรียนด้วยสิครับ ไหนๆอูยองก็อยากจะเข้ามหาลัยนั้นอยู่แล้ว ก็ถือโอกาสนี้เดินสำรวจมหาลัยเลยแล้วกัน

     

    คำตอบของอูยองทำเอาทุกคนในบ้านต่างถอนหายใจ

     

         “อูยองโตแล้ว 19 ปีแล้วนะครับให้อูยองไปนะ นะครับแม่ นะครับป๊า นะพี่แทคยอนนะ นะครับคุณลุงคุณป้า ให้อูยองไปนะ”  อูยองเล่นอ้อนทุกคนในบ้าน


         "ไม่ได้ลูก ลำบากพี่แทคยอนเขา"   คุณแม่ของอูยองปรามขึ้นอีกครั้ง 


         "นะครับแม่ อูยองอยากไป ปิดเทอมแล้วมันเหงา"


         “งั้นเดี๋ยวผมดูแลน้องเองครับ พอโรงเรียนเปิดเมื่อไหร่ถ้าผมว่าผมจะมาส่งน้อง แต่ถ้าไม่ว่าง ผมจะส่งน้องขึ้นเครื่องบินมากลับเองครับ

     

         “เอางั้นเลยเหรอแทค ลำบากรึเปล่าลูก"


         "ไม่น่าลำบากสักเท่าไหร่นะครับคุณน้า ผมว่าผมดูแลน้องได้"


         "ถ้าแทคบอกไหว ก็ไหว  งั้นก็ถือซะว่าให้น้องไปเที่ยวโซลด้วยแล้วกัน น้องยังไม่เคยไปโซลเลยนี่”  แม่อูยองเอ่ย


          "ครับคุณน้า ผมจะดูแลน้องให้เอง"


    พอได้ยินคำตอบที่พอใจอูยองยิ้มจนแก้มปริ

     

         “เฮ้อจริงๆเลยนะเราอย่าไปรบกวนพี่เขามากล่ะเจ้าเด็กดื้อ”  พ่ออูยองดุเข้าให้

     

    แทคยอนแอบคิดในใจ เหมือนงานจะเข้า........... รึเปล่านะ  ถ้าไม่ตอบไปแบบนั้น อูยองคงนั่งร้องไห้น้ำตาหยดแหมะๆ แน่ๆ

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×