คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : [ Mafia's Honeymoon ] Ch.5 : After Party
เวลาประมาณ 3 ทุ่ม
ห้องโถง ณ ปราสาทใจกลางเกาะมาเฟียแลนด์
เสียงไวโอลินขับขานไพเราะดังก้องกังวานไปทั่วงาน ผู้คนรายล้อมไปทั่วบริเวณพร้อมเสียงพูดคุยอื้ออึง ไม่ทำให้หญิงสาวผู้มีผมยาวสีครามสลวยที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะงานเลี้ยงขนาดยาวสนใจไปได้ เธอนั่งนิ่ง มองเหม่อไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ดั่งอยู่ในภวังค์ของตนเอง
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางผู้คนที่สนุกสนานกับงานเลี้ยง ยังมีเด็กทารกชุดทหารคนนึงคอยนั่งมองเธอคนนั้นอยู่ข้างๆ ด้วยความกังวลใจ
“รัล...” เขาเอ่ยชื่อพร้อมเอามือไปแตะแขนของเธอ “รัล!”
“หะ มะ มีอะไรโคโรเนโร่” รัลสะดุ้ง
“เหม่ออีกแล้วนะเว้ยเฮ้ย เลิกคิดถึงคำพูดเจ้ารีบอร์นได้แล้ว”
“ฉันไม่ได้คิดถึงซักหน่อย!”
รัลเบือนหน้าไปอีกทาง สีหน้าหม่นลง ในหัวของเธอมีแต่คำพูดของรีบอร์นเมื่อตอนบ่าย ทั้งที่เธอไม่ควรจะเก็บมาใส่ใจเลยแท้ๆ แต่กลับคิดถึงอยู่ตลอดเวลา
วันนั้นก็เป็นแบบนี้...
โคโรเนโร่แอบถอนหายใจ แล้วหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบริกร
ทำยังไงดี...
ราวกับทุกคนอ่านบรรยากาศของสองคนนี้ออก เลยไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งหรือแม้แต่จะทักทาย
“ดื่มอะไรหน่อยมั้ย”
โคโรเนโร่ถาม จังหวะพอดีกับที่บริกรนำเครื่องดื่มซึ่งก็คือน้ำเปล่ามาเสิร์ฟ พอเห็นดังนั้นเขาเลยหยุดรอคำสั่งแบบรู้งาน
“ไม่ล่ะ”
“สักนิดก็ได้... นะ”
“งั้นเอาน้ำผลไม้อะไรก็ได้...” พอรัลพูดจบ บริกรก็เดินออกไป
จะว่าไป
พวกรีบอร์นหายไปไหนกันนะ...
มีงานเลี้ยงครั้งใหญ่อยู่ใจกลางเกาะก็ต้องมาร่วมสิ!
ตัดภาพไปที่อีกมุมของห้องโถง
ยังมีแก๊งเด็กหนุ่มกับเด็กทารกยืนจับกลุ่มพูดคุยกัน ในมือของแต่ละคนมีเครื่องดื่มสีสันสดใส รอบข้างมีเด็กน้อยสองคนวิ่งแย่งขนม ดูเหมือนว่าจะห่างกับโต๊ะตัวยาวนั่นพอสมควร
“แกเห็นสีหน้าพวกเขามั้ย”
สึนะเอ่ยถามรีบอร์นที่นั่งอยู่บนไหล่ของเขา พลางจับจ้องไปที่สองคนที่โต๊ะยาวซึ่งรีบอร์นบอกไว้ว่าเป็นโต๊ะเฉพาะของวองโกเล่แฟมิลี่เท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์แตะต้องก่อนได้รับอนุญาต
“การพูดตรงๆ บางทีก็ไม่ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรอกนะรีบอร์น”
“ฉันสอนอยู่ต่างหาก” รีบอร์นเถียง
“เฮ้อ...”
สิ้นเสียงถอนหายใจ ยามาโมโตะก็สะกิดให้ดูแรมโบ้ที่วิ่งป่วนบนโต๊ะขนมหวาน และอี้ผิงที่ตามไปห้ามแต่ช่วยไรไม่ได้เลย ยิ่งกว่าเดิมอีก
เละเทะ...
“สนุกกันจังนะ”
“ไม่ตลกนะเฟ้ย! เละไปหมดแล้ว” โกคุเดระตวาดใส่หน้า แล้วหันไปอี๋อ๋อ เอ้ย พูดกับสึนะ “ให้ผมจัดการเจ้าวัวบ้าดีมั้ยครับรุ่นที่สิบ”
“มันจะยิ่งไปกันใหญ่สิ”
เขาส่ายหน้าแรง รู้ดีว่า (ว่าที่) มือขวาเนี่ยเกลียดแรมโบ้อย่างกับอะไรดี แล้วยังจะมาทำให้รุ่นที่สิบของเขาต้องเสียหน้าและเดือดร้อน จะอยู่เฉยได้อย่างไร แต่เห็นจากที่ผ่านมาแล้วว่ายิ่งช่วย ยิ่งวุ่นวายกว่าเดิม
ทันใดนั้น
เจ้าวัวบ้าก็กระโดดจากโต๊ะ แล้วบังเอิญมาปะทะกับตัวโกคุเดระเข้าให้
ตายแน่...
“ดับไปซะ!!!”
“โกคุเดระคุง!”
รีบห้ามซะนะสึนะ... ก่อนที่ระเบิดโกคุเดระจะทำงาน!
“พรุ่งนี้เราจะทำอะไรกันดีรัล”
“ฉันไม่รู้”
สถานการณ์ทางนี้โอเคแล้วสินะ...
ดูเหมือนว่ารัลจะมีสีหน้าท่าทางดีขึ้น เพราะโคโรเนโร่ชวนคุยไม่ก็ป่วนซะจนเธอไม่มีเวลาไปคิดถึงคำพูดแสนจี้จุดนั่น
“ไป ‘มาเฟียแลนด์เบื้องหลัง’ กับฉันมั้ยเว้ยเฮ้ย”
“คะ คุณผู้หญิงครับ”
ยังไม่ทันที่รัลจะให้คำตอบ บริกรก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟพอดี เธอเลยคว้าแก้วไปดื่มเสียก่อน
“เฮ้ย!!!” เสียงตะโกนของใครสักคนดังขึ้น “ ชื่ออะไรนะแกน่ะ เฟไรสักอย่าง แกหยิบผิดแก้วแล้ว!!!”
แล้วเจ้าของเสียงก็เดินมายังจุดเกิดเหตุ เขาโมโหและก็รู้สึกผิดด้วย ดูจากท่าทางแล้ว เขาคงจะเป็นระดับหัวหน้าของพวกนี้ล่ะมั้ง
“นี่มันโมฮิโต้ของท่านเอสเทอร์ ส่วนของคุณรัลน่ะน้ำมะนาวสูตรพิเศษต่างหาก สะเพร่า!!!”
คนที่คาดว่าจะเป็นหัวหน้าตวาดใส่ อีกฝ่ายหน้าซีดเป็นไก่ต้ม งานนี้จบสิ้นชีวิตแน่ๆ โคโรเนโร่ที่พอรู้ว่ามันคือเครื่องดื่มอะไรก็อ้าปากต่อว่าตาม
“นี่แก...”
ตุ้บ!!!
“รัล!!!”
โคโรเนโร่พุ่งไปเขย่าตัวรัลที่จู่ๆ ก็นอนฟุบอยู่กับโต๊ะ หน้าแดงระเรื่อ ตาปรือๆ
แย่แล้ว...
เธอผงกหัวและส่ายหน้าไปมา สภาพเริ่มเหมือนคนเมานิดๆ เขาหันขวับไปมองแก้วโมฮิโต้ แล้วเอามือกุมขมับ
และด้วยชื่อรัลที่ถูกเรียกออกมาด้วยความตกใจลั่นห้องโถง ทำให้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนไปเสียแล้ว...
“รัล... แย่ละ...”
เขารู้สาเหตุแล้วว่าทำไมรัลถึงเป็นแบบนี้
“แกน่ะ!” ผู้ทำผิดสะดุ้ง ใจหายวาบเมื่อปะทะกับสายตาของโคโรเนโร่ “พายัยรัลไปที่บ้านพักฉันทีเว้ยเฮ้ย!”
“คะ คะ ครับ”
เขาพยักหน้ารัวๆ แล้วรีบมาจัดการอุ้มรัลพาออกไปจากที่นี่ เจ้านกฟัลโก้ก็บินตรงดิ่งมาหาเจ้าของอย่างรู้ใจ ก่อนจะพาบินตามพนักงานคนนั้นไป ทิ้งความสงสัย ความตกใจ ไว้กับผู้คนที่อยู่ในงานเลี้ยง
โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า...
มีใครบางคนกำลังคอยแอบมองพวกเขามาตั้งแต่งานเริ่ม!
“ไหวมั้ยเว้ยเฮ้ย”
พวกเขาเดินออกมาจากปราสาทแล้ว
ตอนนี้กำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านพักของโคโรเนโร่กับรัล ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทพอสมควร
ร่างบางในอ้อมแขนของบริกรหน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ มือไม้แดงขยับปัดป่ายไปมา สร้างความลำบากให้กับผู้ที่อุ้มอยู่ไม่น้อย ด้านโคโรเนโร่ก็กอดอกมองรัลด้วยความเป็นห่วงมาก
“ไหวครับ!”
“ยัยรัลน่ะแพ้แอลกอฮอล์เว้ยเฮ้ย...” โคโรเนโร่เอ่ย “แต่โชคดีที่ไม่ถึงขั้นรุนแรง กินเข้าไปก็จะสลบ หน้าแดง มือแดง หัวใจเต้นแรง หนักหน่อยก็ผื่นขึ้นตามตัว โชคดีที่จิบไปนิดเดียว”
“ผะ ผมไม่รู้มาก่อนเลย ผมผิดไปแล้ว ขอโทษครับ”
“เรื่องนี้น้อยคนที่จะรู้เว้ยเฮ้ย”
ใช่แล้ว...
ด้วยเหตุนี้รัลถึงไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถ้าไม่จำเป็น
แล้วเรื่องในอดีตก็หวนกลับเข้ามาในความทรงจำ... เมื่อตอนที่เขายังเป็นทหารหนุ่มรูปหล่อศิษย์เจ๊รัล...
เรื่องมีอยู่ว่า... โคโรเนโร่กับรัลได้รับเชิญให้ไปงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของนายพลใหญ่สังกัดกองทัพเดียวกับทั้งคู่ รัลซึ่งรู้ตัวว่าตัวเองแพ้แอลกอฮอล์ก็พยายามหลีกเลี่ยงผู้คนที่คอยชวนเธอดื่ม แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้กับท่านนายพล ซึ่งเธอไม่สามารถขัดคำสั่งได้จริงๆ เลยต้องจำใจดื่ม แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที อาการก็แสดงออกมาให้เห็น และเพราะครั้งนั้นเธอดื่มไปเป็นแก้ว จึงมีผื่นขึ้นด้วย โคโรเนโร่ที่อยู่ใกล้พอดีเลยรีบนำตัวเธอไปที่ห้องพยาบาล
และเขาก็จดจำมาจนถึงทุกวันนี้...
“ท่านโคโรเนโร่ ถึงบ้านพักแล้วครับ”
“ห๊ะ... ถึงแล้วเหรอเว้ยเฮ้ย”
“ครับ”
ดูเหมือนจะมัวแต่คิดถึงอดีตไปหน่อยแฮะ...
กว่าทั้งคู่จะจัดการพารัลไปนอนที่เตียงแล้วเคลียร์ข้าวของก็เล่นเอาหมดแรงเหมือนกัน
“ผมน่ะแอบสังเกตมาตลอดงานเลยครับ” ก่อนที่จะแยกย้านกันไป บริกรหนุ่มที่ล้าเต็มทีก็ได้เอ่ยขึ้น “ขอโทษที่ละลาบละล้วง แต่พวกท่านมีปัญหากันใช่มั้ยครับ”
ถามบ้าไรเนี่ย...
“...”
“อะ เอ่อ... ไม่ได้สินะครับ”
“ก็ไม่ใช่ปัญหาไรหรอก ก็แค่รัลคิดมากนิดหน่อยน่ะเว้ยเฮ้ย”
เขาทนความอึดอัดในใจไม่ไหว ในที่สุดก็หลุดปากออกมา
“...”
“ทำไมยัยนั่นต้องทำเป็นเข้มแข็งด้วย ฉันไม่ชอบเลยสักนิด ไอ้ท่าทางปกปิดความรู้สึกตัวเองน่ะ ทำไมเว้ยเฮ้ย”
“เธอคงมีเหตุผลของเธอน่ะครับ...” ผู้รับฟังความในใจยิ้มให้ “ท่านอย่าเครียดไปเลยครับ ยังไงผมก็ดูออกว่าเธอรักท่านแค่ไหน”
“...”
สับสนไปหมดแล้ว...
“ผมคงต้องขอตัวก่อน โชคดีนะครับ” บริกรหนุ่มโค้งลา
“แต๊งกิ้วนะเว้ยเฮ้ย”
“เช่นกัน”
แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้องนอน
ทิ้งความค้างคาในคำตอบไว้ให้กับหัวใจของเด็กทารกตัวน้อย...
โคโรเนโร่กระโดดขึ้นไปนั่งอยู่ข้างๆ ร่างบางที่เหงื่อออกเต็มตัว นัยน์ตาสีฟ้าแสดงความห่วงใยออกมาชัดเจน
“โคโรเนโร่...”
เสียงครางจากตัวรัลทำให้เขาดีใจ นึกว่าเธอรู้สึกตัวแล้ว
“ไอ้บ้าเอ้ย.. @#$%^@%^&^#$%”
พูดไม่เป็นภาษาคนละนั่น...
“ละเมอนี่หว่า...”
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ตั้งใจฟังทุกคำที่ออกมาจากปากของเธอ เผื่อจะหลุดคำที่เขาเฝ้ารอคอยมานานแสนนาน...
“ทำไมฉันต้องเป็นคนแบบนี้ด้วย...”
“...”
“คิดแต่เรื่องนายอยู่ได้...”
คนฟังถึงกับตัวชา...
เขารู้สึกดีมากที่ได้ยินประโยคนี้จากปากของรัล และเขาเชื่อว่านี่ความรู้สึกจากใจจริงๆ ไม่มีการปกปิดซ่อนเร้นเอาไว้แบบในยามปกติ
ตึกๆๆ
เสียงหัวใจของทั้งคู่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน...
พ้องกับความรู้สึกลึกๆ ของทั้งคู่...
“เขินน้า...” รัลยังไม่หยุดเพ้อ
“...”
“เกลียดๆๆ”
“ขอบคุณนะรัล..” โคโรเนโร่กุมมือเธอไว้แน่น “อยากให้เธอตอนปกติพูดแบบนี้จังเลยนะเว้ยเฮ้ย”
“ง่า...”
“ฉันขอโทษที่ทำให้เธอแบบนี้ ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว จะดูแลเธอให้ดีกว่าเดิมนะเว้ยเฮ้ย...”
“คร่อกกก!”
เงยหน้าจากมือที่กุมไว้ขึ้นมาอีกที เธอก็หลับไปซะแล้ว เขาหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเอนกายลงนอนตรงนั้น หลับตาลงไปพร้อมกับภาพความทรงจำแสนหวาน...
“ฉันรักเธอนะเว้ยเฮ้ย...”
--------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ต้องขอโทษจริงๆ ที่หายไปนานเลย เนื่องจากคอมไรท์เสียค่ะ เพิ่งซ่อมเสร็จไม่กี่วันเอง T-T
ตอนแรกนึกว่าจะได้ล้างเครื่อง ลงวินใหม่ แต่โชคดีที่ไม่ต้องทำแบบนั้น ไรท์แทบร้องเลยค่ะ
รู้สึกเม้นจะหายเงียบไปเลยน้า แต่ก็ไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้เท่าไรนะ แฮ่
ตอนนี้แต่งไปรู้สึกเมาไป 5555555 คิดไว้หลายแบบแต่ก็มาลงเอยที่แบบนี้ซะงั้น
แต่งหวา่นๆ ไม่ได้จริงๆ ค่ะ T^T ขออภัยอย่างสูง เพิ่งมาถึงเกาะต้องอยู่กันธรรมดาๆ ไปก่อน กร๊าก
และผลจากการแต่งเรื่องนี้ ทำให้โคโร่จังกลายเป็นบุคคลเหนือเมน (เมนคือสึนะ) ไปซะแล้ว
ไม่ขอสปอยตอนหน้าแล้ว เพราะเดี๋ยวไม่เป็นอย่างที่บอก 555555
ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยน้า ติชมกันเข้ามาได้เสมอ เลิฟฟฟ ♥
ความคิดเห็น