ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] LOVE STORY เรื่อง ราว รัก เรา

    ลำดับตอนที่ #1 : SF คำถามอยู่ที่ฉัน... คำตอบอยู่ที่เธอ ( KrisLay feat. Hun )

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 63







     

    SF   คำถามอยู่ที่ฉัน...  คำตอบอยู่ที่เธอ   

    KrisLay feat. Hun

     

     

    สวัสดีครับ ผม “ จาง อี้ชิง ”

     

              ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องซ้อมเต้น ทุกๆคนไปพักกันหมดแล้วครับ เรามีเวลาพักแค่ครึ่งชั่วโมงเอง เหลือแต่ผมที่ยังนั่งอยู่ในห้องนี้...

              นั่งนึกถึงอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิตตอนนี้...

              หลายอย่าง...  ที่กำลังเปลี่ยนไปจากเดิม

     

              ผมไม่รู้ว่าคุณจะรู้รึเปล่า ว่าผมน่ะ เป็นคนที่ความรู้สึกอ่อนไหวมากๆ คิดมาก ขี้กังวล สารพัดจะเรื่องเยอะ

              ดูเหมือนผมจะเรื่องมาก คุณคิดอย่างนั้นใช่มั้ย?

              ใช่ จริงๆผมก็แค่ “ คนงี่เง่า ”

     

              น่าแปลกใจเหมือนกันนะ...

              ที่ผ่านมา มีผู้ชายคนนึงทนผมได้เสมอ เขาเข้าใจดีว่าผมอ่อนไหวแคไหน เขาคอยดูแลผมมาตลอด ยิ้มไปกับผม หัวเราะไปด้วยกัน ปลอบผมเวลาร้องไห้ ท้อแท้

              เราไม่เคยทะเลาะกันจริงๆจังๆซักครั้ง เพราะผมไม่ชอบมีเรื่อง และเขามักจะยอมผมเสมอ

              เขาอยู่ข้างๆผมมาตลอด เรามองเห็นกันและกันทุกเวลา ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์

              แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไป...

     

              เพราะอะไรน่ะเหรอ...

     

              ผมก็ไม่รู้หรอกครับ ผมก็สงสัยเหมือนกัน

     

     

              ถ้าเจอเขา คุณช่วยถามเหตุผลของเขาแทนผมหน่อยได้มั้ย?

     

              ทำไมต้องเดินจากผมไป

              ทำไมกัน... “ อู๋ อี้ฟาน ”

     

     

    ==================================================

     

     

    ซักพักแล้วล่ะ ที่คริสเปลี่ยนไป...

     

              เดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ ถึงจะเป็นรูมเมทกันก็เถอะ แต่คุณก็รู้ใช่มั้ยว่าเราต้องซ้อมเต้นกันจนดึกจนดื่นทุกคืน พอกลับไปถึงหอ พูดกันแค่ประโยคสองประโยคก็ต้องแยกกันไปนอนแล้ว

              อยู่ในงาน event   ในรายการโชว์ หรือรายการวิทยุ เราก็ไม่ค่อยได้นั่งใกล้กัน ไม่ได้คุยกันทั้งในเวลางานและเวลาส่วนตัว หรืออันที่จริงจะบอกว่าเราไม่มีเวลาแบบนั้นด้วยกันแล้วก็ได้

     

              ระยะห่างระหว่างเราเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

              มาก จนผมกลัว...

     

              แต่คริสคงไม่รู้สึกอย่างนั้นหรอก เพราะตอนนี้ข้างๆตัวเขามีคนอื่นอยู่แล้ว

              ข้างๆคริส มักจะมี “ จื่อเทา ” เสมอ

              ตอนนี้เทากับคริสตัวติดกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเวลาทำงาน หรือว่า

              เวลาส่วนตัว...

              เวลา ที่นักร้องแบบเราไม่ค่อยจะมี...

              โดยเฉพาะผมและคริส...  เวลาส่วนตัวของผมและเขามีไม่มากตั้งแต่เป็นเทรนนี่แล้วล่ะครับ

     

              เพราะอะไรรู้มั้ย?

              มัน มักจะกลายเป็น เวลาของเรา ไง...   J

              เราใช้เวลาเหล่านั้นร่วมกัน จนไม่ค่อยจะเหลือเป็นของส่วนตัวของตัวเอง

     

              แต่มันคงไม่มีอีกแล้ว...

     

     

              ทั้งๆที่เมื่อก่อน... คนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาคือผมแท้ๆ

              คริสอาจจะลืมไปแล้วว่าผมเป็นคนคิดมาก...

     

              และกลัวการถูกแทนที่มากแค่ไหน

     

     

              ฮะๆ ฟังดูตลกจังนะ

              แต่ก็นั่นแหละ... ผมก็แค่ “ คนงี่เง่า ” เท่านั้นเอง

     

     

    ==================================================

     

     

              “ ตุ้ยจาง~ ตื่นได้แล้วววว ”

              ผมกำลังปลุกคริส เมมเบอร์ที่ลุกขึ้นจากเตียงยากที่สุด

              คริสปลุกยากจนคนอื่นๆเริ่มเอือม ดีโอเบื่อการเดินไปปลุกเขาเต็มทน จึงยกหน้าที่นั้นให้กับผมแทน

              ผมก็ปลุกของผมอย่างนี้ทุกวัน

              แล้วทำไม  วันนี้ถึงไม่เหมือนเดิม...

     

     

              “ คนอื่นเขาตื่นกันหมดแล้วนะ เป็นลีดเดอร์ตื่นสายกว่าคนอื่นได้ไงเนี่ย ”  เมื่อปลุกไม่ตื่น ผมก็ต้องใช้มาตรการสุดท้าย คือการดึงนวมออกมาจากร่างสูงที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียง

              “ โอ๊ยยยย นายปลุกฉันดีๆไม่ได้รึไง ” คริสตื่นแล้วลุกขึ้นมาบ่นอย่างหัวเสียเหมือนทุกวัน

              “ ปลุกดีๆแล้วเคยตื่นมั้ยล่ะ ”  ผมก็ตอบออกไปเหมือนทุกวัน

     
     

              “ ถ้ามันยากเย็นนัก งั้นวันหลังนายก็ไม่ต้องปลุกสิ! ”  คริสตะคอกใส่หน้าผมอย่างอารมณ์เสียแล้วเดินปึงปังเข้าห้องน้ำไป

     
     

              เขาไม่เคยตะคอกใส่หน้าผม

              เรารู้กันเสมอว่าคำพูดจิกกัดแบบนี้เป็นเพียงคำพูดหยอกล้อกันเท่านั้น

              ปกติคริสเป็นคนใจเย็น และหากเป็นเรื่องเล็กน้อย ก็มักจะยอมให้ผมเสมอ

     

     

              ทำไมมันถึงไม่เหมือนเดิม

              เพราะผมทำตัวเป็น “ คนงี่เง่า ” ใส่คริสรึเปล่านะ...

     

     

    ==================================================

     

     

              “ เลย์ ทำไมนายถึงทำแบบนี้ล่ะ!

              “ บอกไปหลายครั้งแล้วนะลู่หาน ว่าไม่ได้ตั้งใจ!

              “ นายไม่ควรมายุ่งกับของของฉัน!

              “ แต่ฉันแค่จัดของให้นายเองนะ นายจะปล่อยให้มันวางรกอยู่อย่างนั้นไปอีกนานเท่าไหร่กัน ไม่ใช่ว่านายควรจะขอบคุณฉันเหรอ ”

              “ จะมากไปแล้วนะเลย์! นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับของของฉัน  ”

              “ ผมก็ไม่ชอบให้ใครมาหาเรื่องผมแบบนี้เหมือนกัน ”

              “ เลย์!

     

              เสียงของผมกับลู่หานดังลั่นไปทั่วหอ...

              ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่ทะเลาะกับพี่ลู่หาน คนขี้หวงของ แค่นั้นเอง

              เราเคยทะเลาะกันรุนแรงแบบนี้มาแล้วครั้งนึง ผมถึงขั้นจับป๊อบคอร์นของเทามาสาดใส่ตัวเขา แต่สุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยการไปขอความช่วยเหลือจากคริส และแน่นอนว่าคริสยอมผม

     

              วันนี้ก็คงเป็นแบบนั้นอีกนั่นแหละ

              แต่ผมอาจคิดเข้าข้างตัวเองมากไป...

     

              “ พวกนายทำอะไรกันน่ะ ”  คริสเดินออกมาหาพวกเราที่เป็นต้นเสียงโวยวายอันน่ารำคาญ

              “ ก็ทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ! ” ผมกับลู่หานพูดออกมาพร้อมกัน

     

              คริสเป็นลีดเดอร์ที่ใจเย็น มีเหตุหล รู้จักประณีประนอมคน และเขาแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยความหนักแน่นแต่อ่อนโยนเสมอ...

     
     

    “ นายควรจะเลิกทำตัวแบบนี้ได้แล้วนะเลย์!

     

              นี่เป็นอีกครั้ง ที่คริสตะคอกใส่ผม...

              ทั้งหอถูกปกคลุมด้วยความเงียบทันที  ทุกๆคนที่นั่งอยู่รวมทั้งลู่หานต่างหน้าเหวอไปตามๆกันด้วยความตกใจ

     

     

              แหงล่ะ  คริสไม่เคยตวาดใส่ผมนี่นา

     

              “ ทำไม ฉันทำตัวยังไง ทำตัวแย่ขนาดนั้นเลยรึไง! ”  ไม่ผิดใช่มั้ย ที่ผมจะตวาดกลับบ้าง...

     

     

     

    “ เลิกทำตัวงี่เง่าได้แล้วเลย์!

              คริสตะโกนเสียงแข็งออกมาสุดเสียง และเอามือมาบีบข้อมือของผมไว้ด้วย

     

     

     

              “ เจ็บ ”

              ใช่...  เจ็บ.

     

     

              “ โตขนาดไหนแล้ว ยังทำตัวเป็นเด็กๆไปได้...  นายควรจะมีเหตุผลให้มากกว่านี้นะ ”

     
     

              เหตุผลเหรอ...

              นั่นสินะ  ผมก็แค่ “ คนงี่เง่า ”

     

              ผมผิดเองที่ไปยุ่งกับของของพี่ลู่หาน ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าเจ้าตัวขี้หวง

     

     

              แต่สิ่งที่ผมไม่เคยรู้เหตุผล  คือทำไมคริสถึงทำแบบนี้

              ผมผิดอะไร ทำไมต้องใจร้ายกับผม

              ผมผิดอะไรเหรอครับ...

     

     

     

              “ นายเครียดมาก็ไม่ควรจะมาลงกับฉันรึเปล่าคริส ”

     

              “ ... ”  เราสองคนมองสบตากันนิ่งๆ เหมือนคริสกำลังพยายามกลืนคำพูดร้ายกาจที่กำลังจะปล่อยออกมาลงคอ

     

              “ นายไม่เคยทำแบบนี้กับฉันเลยนะ ”

              “ ... ”  คริสยังคงเงียบ มีเพียงแววตาเท่านั้นที่ฉายออกมาแทนคำพูด

     

     

              แววตาว่างเปล่าที่ไร้ซึ่งความรู้สึกผิดและคำขอโทษ

     

     

              ผมสะบัดมือคริสออกอย่างแรง

              ตอนนี้สมองคิดได้เพียงอย่างเดียวว่าควรรีบเดินออกไปให้พ้นๆจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด

     

              รู้สึกเหมือนจะมีน้ำอุ่นๆ หยดลงมาบนแก้มของผมแล้วล่ะ

     

              ขืนให้คริสเห็น ผมก็กลายเป็น “ คนงี่เง่า ” อย่างสมบูรณ์น่ะสิ

     

     

              ผมเริ่มเหนื่อยแล้วล่ะครับ  ถ้าผมหาคำตอบของคำถามต่อไป ผมอาจจะช้ำตายก็ได้

              คำถามที่หาคำตอบยากที่สุด...

              “ ทำไม ถึงไม่เหมือนเดิม ”

     

              ผมเริ่มกลัวการค้นหาคำตอบต่อไปแล้วล่ะ

              มันอาจจะ  แย่กว่านี้ก็ได้นะ...

     

     

     

    ผิดตรงไหนไม่รู้ ทำไม เหตุใด

    หรือเพราะอะไร ที่ยังคงเป็นคำถาม

    เหมือนไม่มีเหตุผลที่คิดแยกทาง

     

    ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไง

    ฉันสงสัยเหมือนกับเขาคนที่ถาม

    ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนเธออย่างไร

     

    คำถามนั้นอยู่ที่ฉัน คำตอบอยู่ที่เธอ

    อยากบอกว่ามีแค่เธอ คนเดียวเท่านั้นที่รู้

     

    เพราะคือเธอที่เดินจากไป เมื่อวันนี้ไม่มีเธออยู่

    จะให้ฉันนั้นตอบว่าไง จะให้ฉันนั้นตอบเช่นไร

     

    เมื่อเฉลยคำตอบนั้นอยู่ ที่เธอ

     

     

    ==================================================

     

     

    “ เลย์ฮยอง!

     

              “ เฮ้ยยย ”  ผมสะดุ้ง เป็นใครก็ตกใจ เล่นมาตะโกนเรียกกันข้างหูแบบนี้

     

              “ ทำอะไรเนี่ยเซฮุน  พี่ตกใจหมด ” 

              อยู่ๆ มักเน่ตัวแสบ “ โอ เซฮุน ” ก็มานั่งข้างๆผมซะงั้น

     

              “ พี่นั่นแหละ นั่งทำอะไรอยู่ คนอื่นเค้าไปพักกันหมดแล้วนะ ”

              “ ก็เหลือนายไง ”  ผมหันไปมองหน้าเซฮุนนิ่งๆ

     

              “ พี่คริสกับเทาออกไปซื้อของด้วยกัน ผมฝากเค้าซื้อไปแล้วล่ะ ”

              “ ... ”   

              นายไม่สนใจฉันเลยสินะ... คริส

     

     

              “ ฝากซื้อเผื่อคนที่สติไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวแถวนี้ด้วยนะ ”  เซฮุนพูดเสียงเรียบ แล้วหันมายิ้มบางๆให้ผมเหมือนทุกครั้ง

     

              คงจะฟังดูน่าตลกใช่มั้ยครับ ถ้าผมจะบอกว่าหลังจากที่ผมกับคริสทะเลาะกันจนไม่ได้พูดกันอีกเลย คนที่มาคอยดูแลผม มาอยู่ข้างๆผม ก็กลับกลายเป็นมักเน่คนนี้...  ไม่ใช่คริสอีกต่อไปแล้ว

     

              ฮะๆ  ผมต้องให้เด็กมาดูแลล่ะครับ   งี่เง่าชะมัดเลย

     

     

              “ พี่มีอะไรพี่บอกผมได้นะ เห็นเป็นเด็กน้อยน่ารักอย่างนี้ แต่ผมก็มีวุฒิภาวะพอนะพี่  มักเน่เซฮุนยินดีรับฟังปัญหาของฮยองเสมอครับผม!

              เซฮุนพูดทีเล่นทีจริง  แต่ในน้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความหนักแน่นอยู่ตลอดเวลา

     

     

              “ ถ้า สมมติว่า... ”  ผมตัดสินใจพูดออกมา  อย่างน้อยมีใครซักคนรับฟังก็น่าจะดี

              “ ... ” เซฮุนมองหน้าผม ตั้งใจฟังสิ่งที่ผมจะพูด

     

              “ ถ้านายมีคำถามมากมายอยู่ในสมอง  คำถามที่หาคำตอบยากที่สุด เพราะคำตอบพวกนั้นมันไม่ได้อยู่ที่นาย นายไม่มีวันรู้เฉลยของคำถามพวกนั้นได้เองเลย นายจะทำยังไงต่อไป... จะทำยังไง กับคำถามพวกนั้น... ”  ผมพูดจบแล้วหันไปมองเซฮุนที่กำลังครุ่นคิดตามผมอยู่

     

              “ ถ้าผมเป็นพี่...  ผมจะเลิกหาคำตอบ แล้วโยนคำถามพวกนั้นทิ้งไปซะ ”

              “ ... ”

             

     

     

              “ คำถามพวกนั้น...  จำเป็นต้องได้คำตอบด้วยเหรอพี่เลย์ ”

     

     

     

              นั่นสินะ...

              ผมจะต้องการมันไปทำไมกัน  รู้ไปก็ทำอะไรไม่ได้แท้ๆ

     

              “ อย่าเก็บมาคิดให้หนักหัวเลยพี่  ในเมื่อต้องการเหตุผล ต้องการคำตอบเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ  ก็ถึงเวลาตอบคำถามพวกนั้นด้วยตัวเองแล้วล่ะ

              “ ... ”

     

     

              “ ผมเชื่อว่า... พี่เลย์ที่ร่าเริงและมีรอยยิ้มตลอดเวลาของผม มีค่ามากกว่าคำตอบพวกนั้นนะครับ ”

     

              ฮะๆ นั่นสิ

              ผมก็ยัง “ งี่เง่า ” จนถึงนาทีสุดท้ายอยู่ดีสินะ

              ใช่ครับ  นาทีสุดท้าย...

     

     

              ผมอาจจะลืมนับไป ว่าที่ผ่านมา โอเซฮุน ยิ้มให้ผมมาแล้วกี่ครั้ง

     

     

              “ พี่งี่เง่าจริงๆเลยเนอะ ”   ผมพูดแล้วยิ้มออกมานิดๆ  สายตายังทอดออกไปอย่างไร้จุดหมาย... แต่ไม่ไร้ความหมายอีกต่อไป

     

              “ พี่มีเหตุผลของพี่ต่างหาก ”  เซฮุนเลื่อนมือมาจับมือของผมไว้เบาๆ

     

              “ ต่อไปนี้ให้ผมเป็นคนรับฟังเหตุผลของพี่นะครับ J

              เราหันมามองหน้ากันอัตโนมัติ  แววตาของเซฮุนดูจริงจัง...  เขาเป็นที่พึ่งของผมได้เสมอเลย

     

              “ อืม ”  ผมตอบไปสั้นๆ  แต่กลับเรียกรอยยิ้มของเราทั้งสองฝ่ายออกมาได้อีกครั้ง

     

     

     

    คำตอบนั้น  ผมคงไม่ต้องการมันแล้วล่ะครับ

    โอ เซฮุน  ตอบคำถามของผมแล้วล่ะ

    ^_^

     

     

    Rotten Apple

    16 / 08 / 2013

     

     

     

     

     

    # ทอร์คคคคคคค  >.<

    ฮัลโหล เทสสสสส  สวัสดีฮะ

    แวะเอา SF มาเสริฟก่อนจ้า รีดเดอร์ 

    เป็นไงบ้าง นี่เรื่องแรกเลยนะ  คือเราตั้งใจจะให้มันดราม่า มันไม่ฮาใช่ป่ะ 555555

    กังวลมากเลย กว่าจะแต่งเสร็จ กว่าจะพิมพ์เสร็จตั้งนานแน่ะ

    คนอ่านจะเข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อไหมหนอ =..=

    ก่อนอื่น ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าเราเป็นคริสเลย์ชิปเปอร์

    แต่เราหมั่นไส้พี่คริสอ่ะแก อยากแกล้งมัน จับมาเป็นตัวร้ายซะเลย 55555555

    ฟิคเราโอเคใช่ป่ะ ;____;

    ผิดพลาดหรือควรปรับปรุงตรงไหนเม้นท์บอกกันได้น้าาาาา


     

     

     

    cinna mon

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×