ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kiss 5 minute จุ๊บกันวันล่ะ 5 นาที[Junseob]

    ลำดับตอนที่ #6 : Kiss 5 minute [ ขอโทษ ] (RTP.)

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 54


     Kiss 5 minute

    5

    วันที่ 28 ของการทดลอง

    ระหว่างทางเดินมาบ้านของฮยอนซึงที่ไม่ไกลจากบ้านของโยซอบซักเท่าไหร่ ร่างเล็กๆค่อยเดินมาเหมือนทุกๆวันแต่ว่าพอคิดว่าจะได้เจอหน้าผู้ร่วมทดลองคนนั้นมันกลับทำให้หัวใจดวงน้อยๆของโยซอบเจ็บปวดเหลือเกิน

    ...พี่ฮยอนซึงเปลี่ยนคนได้มั้ยเนี่ย...

    เมื่อมาถึงหน้าบ้านของฮยอนซึง โยซอบก็ได้เห็นหน้าคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุด

    ...เวรกรรมอะไรของโยซอบเนี่ยยยยยยยย... ได้แต่คร่ำครวญในใจ -..-

    และไวเท่าความคิดในเมื่อโยซอบตัดสินใจจะไม่คุยกับนายผู้ร่วมทดลองสิ่งที่ทำได้คือ อย่าเจอหน้าให้ได้มากที่สุด เพราะกลัวจะหวั่นไหวกับสายตาแบบนั้น แต่

    “นี่ นายตัวเล็ก” จุนฮยองกลับรีบมาคว้าแขนของคนตัวเล็กที่พยายามวิ่งดุ๊กๆเข้าไปในบ้าน

    “อะ...เอ่อ มีอะไรหรอ?” โยซอบถามกลับไปแต่ว่าไม่กล้าสบตากับคนตรงหน้าจริงๆ

    “ทำไมไม่ทักทายกันบ้าง?” จุนฮยองถามไป แล้วก็ไม่เข้าใจทำไมต้องถาม - -‘’

    “กะ...ก็ เอ่อ ลืม น่ะ” โยซอบพูดออกไป ใครฟังก็รู้ว่าโกหก -0-

    “อืมมมม งั้นต้องทำยังไงนายจะไม่ลืมทักทายชั้น?” ร่างสูงถามพร้อมกับพยายามก้มมองหน้าคนตัวเล็กที่ตนจับแขนไว้ แต่ว่าคนตัวเล็กนั้นกลับพยายามหลบหน้าอย่างมาก

    “จะหลบหน้าชั้นทำไม?” จุนฮยองเริ่มถามด้วยน้ำเสียงที่ปนไปด้วยความโมโหนิดหน่อย

    “ก็มันไม่จำเป็นต้องมองหน้านี่นา”โยซอบบ่นกับตัวเองแต่ว่า จุนฮยองได้ยินนะ -.-

    “หือ? ถามนายจริงๆนะ เมื่อวานอ่ะ วิ่งกลับเข้าบ้านพี่ฮยอนซึงไปอีกทำไม?” จุนฮยองถามไป เพราะเค้ารู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกจึง หันกลับมามองที่บ้านของฮยอนซึงตลอด แล้วภาพที่ได้เห็นก็คือคนตัวเล็กของเค้า(????) วิ่งเข้าไปแบบไม่คิดชีวิตในบ้านของฮยอนซึง

    ...จะโกหกอีกหรอ นายตัวเล็ก อึดอัดนะแบบนี้...

    “คือว่า แบบว่า แบบ อืมมมมมมม ลืมของไว้น่ะ” โยซอบยังคงไม่พัฒนาฝีมือการโกหกของตัวเอง -*-

    “อ๋อ งั้นเข้าใจล่ะหมดคำถาม” แต่ว่าจุนฮยองก็ยังทำเชื่อและปล่อยแขนของโยซอบ

    “ไปนะ” โยซอบพูดแล้ววิ่งดุ๊กดิ๊กๆ(?)เข้าบ้านของฮยอนซึง และจุนฮยองก็เดินตามไป

     

    ในห้องทดลองก่อนทำการทดลอง~

    “นี่ นายตัวเล็กเป็นไรไปทำไมไม่ค่อยพูดเลย” จุนฮยองถามขณะที่กำลังลากเก้าอี้เพื่อไปนั่งตรงข้ามกับร่างเล็กนั้น

    “....”แล้วก็ได้คำตอบมาเพียงความว่างเปล่า

    ติ๊ด

    เมื่อฮยอนซึงกดปุ่มควบคุมการทำงานของนาฬิกาเสร็จ จุนฮยองก็จัดการจูบคนตัวเล็กเหมือนทุกๆวันแต่วันนี้

    ...นายตัวเล็กไม่ยอมให้จับมือ???...

    เมื่อจุนฮยองพยายามยื่นมือออกไปเพื่อจับมือของโยซอบไว้เหมือนที่ทำทุกวัน แต่วันนี้มือน้อยๆนั้นกลับเลือกที่จะเอาไขว้หลังตัวเองไว้

    ...มันแปลกๆ...

     

    เมื่อทดลองเสร็จ ถ้าเป็นปกติทุกวันทั้งสามจะนั่งโม้กันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ไม่ก็เล่นวิ่งไล่จับ หรือหาเกมอื่นๆเล่นๆ แต่ว่าวันนี้เจ้าของบ้านแสนใจดีจะพาทั้งสองไปเที่ยว

    “วันนี้พี่จะพาไปเที่ยวแหละ” ฮยอนซึงพูดพร้อมกับมองหน้าทั้งสองคน

    “จริงอ่ะ?” จุนฮยองถามด้วยความตกใจนิดนึง(?) - -‘’

    “อืม  แน่นอน เราสามคนจะไปเที่ยวกัน”พูดเสร็จก็จัดการไปกอดคอทั้งสองไว้

    - -‘’ <<< โยซอบ

    ...พี่ฮยอนซึงเนี่ยนะจะพาไปเที่ยว?...

    *0*<<< จุนฮยอง

    ...จะได้ไปเที่ยวจริงดิ...

    “เอาล่ะเดินทางได้ๆ ^^” ฮยอนซึงพูดพร้อมกับยิ้มให้เด็กๆทั้งสองอย่างเคย

    “ไปไหนอ่ะพี่” โยซอบถามขึ้นมาขณะที่เดินตามหลังของฮยอนซึงอยู่ติดๆ

    “ไม่รู้ดิ -0-

     

     

     

    ตึง!!  เหมือนโลกหยุดหมุนสำหรับจุนฮยองที่อุตส่าห์คาดหวังไว้สูง แต่สำหรับโยซอบแล้วมันชิวๆ และสถานที่ที่ทั้งสามมาถึงคือ สวนสาธารณะ แถวบ้านของฮยอนซึง แต่เมื่อทั้งสามมาถึงมันก็ไม่ค่อยมีใครแล้วเนื่องจากมันเย็นมากซึ่งคนแถวนั้นไม่ค่อยชอบออกมาพบปะกันเท่าไหร่ สภาพมันจึงคล้ายสวนสาธารณะร้างเบาๆ

    “พี่จะพามาแค่นี้จริงๆอ่ะ” จุนฮยองถามขึ้นมา

    “ก็แค่นี้แหละ จะไปไหนอีก?” ฮยอนซึงหันหน้ามาตอบจุนฮยองแล้วจัดการเดินไปนั่งที่ม้านั่งที่ใกล้ที่สุด

    “มานั่งกะพี่ม่ะเด็กน้อย”ฮยอนซึงพูดขึ้นมาพร้อมกับนั่งกางแขนกางขา(?)อยู่บนม้านั่งตัวนั้นเรียกรอยยิ้มน้อยๆของโยซอบได้ แล้วเจ้าตัวเล็กก็จัดการวิ่งดุ๊ดดิ๊กไปนั่งกับฮยอนซึง ทิ้งจุนฮยองยืนเอ๋ออยู่คนเดียว

    “พี่ฮยอนซึง” โยซอบเอ่ยเบาๆขณะที่ไปนั่งข้างๆฮยอนซึง แล้วกอดเข้าที่เอวของฮยอนซึงอย่างแน่นเหมือนลูกลิงไม่มีผิด -0-

    “เป็นอะไรไปคนดีของพี่?” ฮยอนซึงถามพร้อมกับเอามือจับหัวของโยซอบแล้วลากมาใกล้ๆ

    “โยซอบ ยังทำใจไม่ได้”โยซอบกระซิบบอกฮยอนซึงเบาๆ แล้วเริ่มน้ำตาคลออีกครั้ง

    “ร้องไห้ง่ายจังนะเรา” ว่าแล้วฮยอนซึงก็จัดการเช็ดน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาจากตาของคนตัวเล็กนั้นอย่างเบามือ

    แต่เราตัดมาดูอีกคนที่ยืนเอ๋ออยู่เมื่อซักครู่ จุนฮยองที่ยืนมองสองคนนั้นจู๋จี๋(??) กันอยู่มัน

    ...อะไรกัน ทำไมนายตัวเล็กกับไอ้พี่ฮยอนซึงถึงสนิทกันขนาดนั้น...

    ...แล้วทำไมต้องกระซิบกันใกล้ขนาดนั้นด้วย...

    ...ทำแบบนั้นมันทำให้ หึง อุ๊บ ไม่ใช่ความจริงนะครับ -0-...

    ...แต่ไม่ว่ามันจะเป็นความรู้สึกแบบไหนเราก็ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว...

    เมื่อคิดเองเออเองได้แบบนั้นแล้วจุนฮยองก็ลงมือทำในสิ่งที่ตนเองคิดออกทันที

    “พี่ฮยอนซึง ขอตัวนายตัวเล็กแปบนึงได้มั้ย?” จุนฮยองถามขึ้น ทำให้ทั้งสองคลายออกมาจากกันทันที เพราะว่าตอนนี้ลืมไปแล้วว่ามีนายนี่อีกคน

    “เอาไปทำอะไรล่ะ?” ฮยอนซึงถามได้แบบ...เอ่อ... มากอ่ะ - -‘’

    ...พี่ฮยอนซึงทำเหมือนโยซอบเป็นอะไรซักอย่างเลยนะครับ -*-...

    “ก็มีเรื่องจะคุยด้วย สอง ต่อ สอง” ประโยคแรกของธรรมดาอยู่แหละที่พอประโยคหลงจุนฮยองก็เน้นซะ

    “ก็ได้” ฮยอนซึงพูดแล้วก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นก็เดินไปเต้นไป และหยุดดมดอกไม้หอมบ้างอะไรบ้างตามข้างทาง -0-

    เมื่อจุนฮยองเห็นว่าฮยอนซึงเดินไปได้ไกลพอสมควรแล้วก็ จัดการเดินมานั่งข้างๆโยซอบทันที

    “มีเรื่องอะไรหรอ?” โยซอบถามขึ้นแต่ว่าก็ยังไม่กล้าสบตากับจุนฮยองเหมือนเดิม

    “ป่าว แค่อยากอยู่ด้วยแบบสองคน” จุนฮยองพูดพร้อมกับทำเนียนยืดแขน บิดขี้เกียจแล้ววางแขนของตัวเองไว้บนไหล่ของโยซอบ

    โยซอบเมื่อรู้สึกถึงการสัมผัสแบบนั้นก็หันหน้าไปมองหน้าผู้ร่วมทดลองที่มานั่งข้างๆ ในใจก็คิดว่าหนึ่งอยากจะจับมือนั้นแล้วกระชากออกไปและวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุด แต่ว่าโยซอบขอเลือกตัวเลือกข้อที่สองที่กำลังคิดดีกว่า คือ นั่งนิ่งๆเนียนๆไป เพราะแบบนี้มันก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกและเนื่องจากเมื่อกี้ที่โยซอบหันไปมองหน้าจุนฮยอง เลยเกิดคำถามจากจุนฮยองว่า

    “ตาเป็นอะไรไป ดูบวมๆนะนายตัวเล็ก?”

    “เอ่อ ปะ...ป่าว ไม่เป็นไรๆ” โยซอบพูดแล้วรีบหนีสายตานั้นอย่างเร็วที่สุด

    “ร้องไห้ใช่มั้ย?” จุนฮยองเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

    “ไม่ได้ร้อง” โยซอบก็ตอบไปแบบจริงจังไม่แพ้กัน

    “แต่ตานายบวม ใครทำนายร้องไห้?” จุนฮยองถามไป

    ...ถ้ารู้นะว่าใครทำนายตัวเล็กร้องไห้ จะเอาโค้กไปบึ้มบ้านเลยคอยดู -0-...

    “ก็บอกว่าไม่ได้ร้องไห้ไงเล่า” โยซอบยังคงเถียงไปก้มหน้าไป

    “งั้นหันหน้ามาดิ” จุนฮยองพูดด้วยน้ำเสียงแกมบังคับนิดๆ

    “ไม่เอา” โยซอบพูด

    “จะดื้อใช่มั้ย”จุนฮยองพูดแล้วก็จัดการเข้าไปนั่งใกล้ๆโยซอบอีกนิดแล้วใช้มือของตัวเองจับหน้าของคนตัวเล็กไว้เบาๆ

    “นายต้องการอะไรกัน?” โยซอบพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังที่จุนฮยองไม่เคยได้ยินมาก่อน จุนฮยองจึงปล่อยมือที่จับหน้าของโยซอบไว้

    “ก็แค่อยากรู้ว่านายร้องไห้รึป่าว”จุนฮยองตอบไป

    “ก็บอกว่าไม่ได้ร้องๆ จะเอาอะไรนักหนา” โยซอบยังคงใช้น้ำเสียงจริงจังเหมือนเดิม

    ...มันต้องเกิดอะไรขึ้นแน่ๆ...

    “งั้นก็หันหน้ามาหน่อย” จุนฮยองพูดไป แล้วโยซอบก็หันหน้ามาพร้อมกับน้ำตาไหลมาเป็นสาย มันไม่น่ามีน้ำตาแบบนี้บนใบหน้าน่ารักๆเลยนะ

    “อ่ะ แล้วจะเอาอะไรอีก บอกแล้วว่าไม่ได้ร้องๆ” โยซอบพูดไปก็น้ำตาไหลไป ตอนนี้คงจะไม่รู้ตัวว่าน้ำตามันไหลมามากแค่ไหน คงเพราะ ความเสียใจมันคงบังไว้

    “นายร้องไห้” จุนฮยองเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง

    “ไม่ได้ร้อง” โยซอบยังคงเถียงต่อไปทั้งๆที่หลักฐานมันมัดตัวขนาดนั้น

    “มันเพราะเรื่องเมื่อวานรึเปล่า?” จุนฮยองถามไปด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเหมือนเดิม

    “ไม่ใช่ มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น แล้วถ้าเราจะร้องไห้มันเกี่ยวกับนายด้วยหรอ?” โยซอบพูดมันออกมาเหมือนอัดอั้นเหลือเกิน เค้าคงจะเหนื่อยกับมันมามากพอแล้ว

    “เกี่ยวซิ” จุนฮยองเริ่มขึ้นเสียงกับคนตัวเล็กตรงหน้า

    “มันจะเกี่ยวได้ยังไง”โยซอบก็เลยขึ้นเสียงกลับไปบ้าง

    “ก็ชั้นแคร์นายมากเลยน่ะซิ”และก็ยังไม่ลดระดับเสียงลด

    “แคร์ แคร์แล้วยังไง?” โยซอบเริ่มทดไม่ไหวกับการกระทำที่เค้าขอเรียกมันเองว่า หลอกให้รัก เขาจึงลุกขึ้นยืน

    “ก็แคร์น่ะซิแคร์มากด้วย” จุนฮยองก็ลุกขึ้นมาตาม

    ...ไม่รู้ทำไมต้องแคร์เด็กคนนี้ขนาดนี้นะ...

    “แล้วจะยังไงต่อล่ะ” โยซอบยังคงเสียดังเหมือนเดิม

    “ก็.....”จุนฮยองพูดได้แค่นั้นก็เงียบไป ก็ไม่กล้าบอกนี่นา ว่า ทั้งหวง ทั้งห่วง และคิดถึงตลอดเวลา

    “เหอะ แล้วก็หาคำพูดไม่ได้” โยซอบพูดออกมาเบาๆแต่ว่ามันก็ได้ยินกันทั้งสองคนแหละ -0-

    แต่ว่าคำพูดของโยซอบเมื่อกี้มัน มันตรงเกินไป ตรงเกินกว่าที่จุนฮยองจะรับไหว แล้วตอนนี้ทั้งหัวใจและสมองก็สั่งงานเป็นเสียงเดียวกัน จุนฮยองเลยทำตามที่มันเรียกร้องซะเลย และนั้นก็คือ การที่จุนฮยองใช้มือของเค้าทั้งสองข้างจับไปที่แก้มของคนตัวเล็กนั้นแล้ว จัดการประกอบปากเข้าไปและรุกล้ำเข้าไปในโพรงปากหวานอย่างดุดันและเต็มไปด้วยความรู้สึกของเค้า แต่ไม่รู้ว่าคนตัวเล็กจะรับรู้ถึงมันหรือเปล่า

    หมับ!

    โยซอบจัดการจับมือของจุนฮยองที่จับใบหน้าของตนไว้แล้วจัดการทำตามสิ่งที่เราเรียกๆกันว่า ตบหน้า จุนฮยองไปหนึ่งที ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ความตกใจและอะไรต่างๆที่มารุมเร้าในตอนนี้มันทำให้จุนฮยองที่ทั้งเจ็บทั้งห่วง และหวง แต่ก็โกรธคนตัวเล็กตรงหน้าไม่ลงจริงๆ

    ...ขอโทษนะ นายตัวเล็ก...

    “นาย นาย ทำเกินไปจริงๆ”โยซอบพูดแล้ว เหมือนว่าร่างกายเล็กๆนั้นมันจะไม่มีแรงเอาเสียเลย ร่างเล็กเสียหลักเซเล็กน้อย

    “แล้ว ถ้าพี่ฮยอนซึงกลับมาบอกพี่ฮยอนซึงด้วยว่า เราจะกลับบ้านก่อน”โยซอบพูดพร้อมกับแววตาที่ดูโกรธเคืองมากจริงๆ แต่ว่ามันก็ยังคงมีน้ำตาบนใบหน้านั้น ร่างเล็กๆเดินกลับไปพร้อมกับอาการสั่นไปทั้งตัว

    ...ร้องไห้หนักมาเลยซินะ นายตัวเล็ก...

    ...ชั้นขอโทษจริงๆ...
    ...ถึงจะไม่เข้าใจสาเหตุของนายแต่ชั้นทำเกินไปจริงๆ...

    จุนฮยองที่ยืนมองการจากไปของร่างเล็กๆนั้นได้ซักพักก็กลับมานั่งที่ม้านั่งตัวเดิม

    “ขอโทษ” เขาพูดกับตัวเองเบาๆ


    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    จบแล้วจ้าตอนนี้ เหนื่อยโฮก *ปาดเหงื่อ* แบบว่ามันต้องนั่งบิ้วตัวเองนิดนึงๆ
    ตอนนี้ถ้าใครเข้าใจไรท์เตอร์จะเช้าใจว่าห้อยมันต้องการอะไร และโยมันยังไงกันแน่
    หุหุ อ่า~ แต่ว่าถ้าโม้เยอะไปรีดเดอร์คงจะเบื่อกันงั้น ไรท์เตอร์ไปนะ เจอกันตอนหน้าจ้า

    รักรีดเดอร์นะ ทุกคนเลย ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×