ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE DEATH OF SUNSHINE

    ลำดับตอนที่ #5 : chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 48


    เซเรสใช้เวทย์เคลื่อนย้ายกลับมายังบ้านเพื่อมานำของสำหรับการเดินทาง  และใช้เวทย์เคลื่อนย้ายไปยังชายเมืองแห่งหนึ่งในจักรวรรดิโรจาฮาน  

    แว๊บ!.....  แสงหนึ่งสว่างขึ้นกลางป่าโปร่งแห่งหนึ่ง



    “เหนื่อยจริงๆ  คงต้องพักสักวันแล้ว”  เสียงหวานใสจากร่างสูงเพรียว  ใบหน้าสวยงามราวนางฟ้า  ในชุดคลุมดำกล่าวขึ้น  เธอมองสิ่งแวดล้อมรอบตัว  ป่ารึนี่.....  จากนั้นเธอก็เดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ  เหมือนรู้ทาง  จนพ้นเขตป่าเข้าสู่หมู่เล็กๆ  ที่การเป็นอยู่เรียบง่าย  ไม่มีตึกร้างสูงๆ เหมือนในเขตการปกครองพิเศษ  มีแต่บ้านหลังเล็กน่ารัก  ปลูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้  ดอกไม้สีสวย  เธอรู้สึกชอบที่นี่จริงๆ

    เซเรสเดินผ่านมาเรื่อยๆ  จนเข้าสู่เขตเมืองที่ใหญ่พอสมควร  มีทั้งร้านค้า  โรงแรม  ผู้คนเริ่มพลุกผ่านขึ้น  เธอเดินตรงเข้าสู่กลางใจเมือง  จัตุรัสน้ำพุใหญ่รูปเทพีกางปีกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว  มีถนนหลายสายอยู่รอบ  ทั้งเส้นเล็ก  เส้นใหญ่  เซเรสเลือกเดินตามถนนเส้นเล็กทางขวามือ  จนมาถึงโรงแรมที่ดูไม่ใหญ่มากแถมยังดูค่อนข้างเก่า  เธอเดินเข้าไปในโรงแรมนั้น   ชั้นล่างเป็นร้านดื่มเล็กๆ  ที่มีคนนั่งดื่มอยู่เกือบทุกโต๊ะ  เสียงเอะอะโวยวายดังลั่นร้าน



    “ขอห้อง 1  ห้อง”  เซเรสกล่าวกับเจ้าของร้าน  ที่เป็นชายแก่ร่างผอมสูง  ดูเป็นคนใจดี



    “โชคดีจริงๆครับ  เราเหลืออยู่  1  ห้องพอดี”  เขายิ้มออกมา



    “จะพักสักกี่คืนครับ”



    “คืนเดียว”  เขาจดรายการห้องพักของเซเรสลงในสมุด  



    “700  เซนี  ครับ”  ชายเจ้าของรับเงินจากเซเรส  และหันไปพูดกับเด็กสาวอายุประมาณ  14-15  ที่ยืนอยู่ข้างๆ  ให้พาเซเรสขึ้นไปยังห้องพัก  

    ห้องของเซเรสอยู่บนชั้น  5  ชั้นสุดท้ายของโรงแรม  เป็นห้องสุดท้ายอยู่ตรงทางเดินด้านซ้ายมือ  หันหน้าเข้าหาเมือง



    “ห้องนี้ค่ะ”  เด็กสาวเปิดห้องให้  ทันทีที่เซเรสก้าวเข้าไปในห้องเธอได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากแจกันดอกไม้สีขาวใบใหญ่ข้างเตียงไม้ที่น้ำตาลเข้มทันที



    “อืม...ขอบใจ”  เซเรสเปิดหมวกที่ปิดใบหน้าของตนเองออก  เด็กสาวถึงกับมองเธอตาไม่กระพริบ



    “พี่สวยจังเลยค่ะ…….”  เธอกล่าวออกมา  ดวงตายังจับจ้องที่ใบหน้าของเซเรส  เซเรสไม่แปลกใจกับอาการของเด็กสาวตรงหน้าแม้แต่น้อย   เธอชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว



    “ขอบใจจ๊ะ”  อาการซื่อๆของเด็กสาวตรงหน้าทำให้เธอนึกถึงมีน่าน้องสาวสุดที่รักของเธอ



    “ไปทำอะไรอย่างอื่นเถอะ  ส่งแค่นี้พอแล้ว”  เซเรสกล่าวอย่างใจดีกับเด็กสาว  



    “ค่ะพี่สาวคนสวย  อ้อ!  ลืมบอกอย่าลืมลงไปทานอาหารข้างล่างนะค่ะ  อาหารที่นี่อร่อยมาก”  พูดจบเด็กสาวค่อยๆเดินออกจากห้องไปด้วยความเสียดายที่อดมองหน้าพี่สาวคนสวยนานๆ  

    หลังจากเด็กสาวออกไปแล้วเธอก็ปิดประตูห้องเดินไปเปิดหน้าต่างบานสูงรับลมจากด้านนอกเข้ามา  ผ้าม่านสีฟ้าอ่อนถูกลมพัดปลิวไสว

    เธอทอดสายตามองลงไปยังเมืองเบื้องล่าง  เห็นทั้งจัตุรัสน้ำพุ  ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน  ไกลออกไปเป็นหมู่บ้านปลูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้  ดอกไม้  

    เธอมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างบานสูงอยู่ครู่หนึ่ง  ก็กลับมานั่งยังเตียงสีน้ำตาลเข้ม  นอนแผ่หลาลงไปบนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน  แค่ครู่เดียวเท่านั้นก็หลับไป





    “สวัสดี....ได้เจอกันอีกซะที”  เสียงผู้หญิง  ฟังดูมีอายุ  สวมเสื้อคลุมสีดำปิดปังใบหน้า  กล่าวขึ้นกับหญิงสาวตาสีฟ้าที่ยืนอยู่ตรงหน้า

    เซเรสกวาดสายตามองรอบตัว    รู้สึกเหมือนอยู่ในห้องที่ไหนสักแห่ง  คงเป็นห้องโถงในพระราชวัง  เพราะมีบัลลังก์สีทองสองตัววางอยู่คู่กันเบื้องหน้า  แต่ก็น่าแปลกที่บรรยากาศดูเหมือนจะมีคนย่างกรายเข้าน้อยครั้ง  พระราชวังร้าง.....เซเรสคิดในใจ  ถ้าร้างจริงทำไมยังมีคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้ได้  คงเป็นห้องที่ไม่ค่อยใช้งานมากกว่า



    “เจอ?.....เราเจอกันเมื่อไหร่”  คนตรงหน้าไม่ตอบกลับมา  แต่กลับหัวเราะในลำคอ



    “ไม่แปลกที่เจ้าจะไม่รู้จักข้า”  เสียงนั้นยังพูดเสียงเย็น  เรื่องที่เคยเจอกับคนตรงหน้าสร้างความสงสัยให้เซเรสเป็นอย่างมาก  เจอกัน?...เราเคยเจอกกันเมื่อไหร่?



    “นานมาแล้ว....เด็กน้อย”  เสียงสูงวัยตอบกลับมาเหมือนกับอ่านใจเซเรสได้  ยิ่งทำให้

    เซเรสไม่ไว้ใจคนตรงหน้า  เธอจึงถามออกไปตรงๆ



    “ท่านต้องการอะไร”  เสียงหัวเราะหึหึหึ.......  ดังจากร่างนั้น



    “ข้าไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว  ข้าแค่อยากคุยกับเจ้าเท่านั้น”



    “คุย?  ทำไมท่านถึงต้องการคุยกับข้า”  



    “อย่าระแวงข้าไปเลยเด็กน้อย  ข้าแค่อยากคุยกับเจ้าเท่านั้น”  คนตรงหน้าเลี่ยงที่จะตอบคำถาม  



    “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”  คนตรงหน้าเลือกถามคำถามกว้างๆ  เพื่อให้เซเรสเลือกตอบ  เซเรสเงียบไปสักครู่   หากเธอพูดอะไรโกหกคนคนนี้ย่อมรู้  เพราะฉะนั้นเลี่ยงเรื่องที่ไม่ยากตอบดีกว่า



    “เดินทางวันนี้เหนื่อยนิดหน่อย”



    “พรุ่งนี้คงไม่ต้องเหนื่อยมากแล้วล่ะ”  เสียงสูงวัยพูดขึ้นเบาๆ  เหมือนบ่นกับตัวเอง  แต่เจนตนาให้เซเรสได้ยิน  นั่นยิ่งทำให้เซเรสสงสัยเข้าไปใหญ่  ดูเหมือนคนคนนี้จะรู้เรื่องอะไรหลายๆอย่างที่เกี่ยวกับเธอเป็นอย่างดี  ไม่ว่าจะเป็นอดีต  หรือแม้แต่อนาคต  เธอจึงลองหยั่งเชิงดู



    “ดีเหมือนกัน  เมื่อวานเหนื่อยมามากพอแล้ว  ทั้งมีน่า  และ......ไอ้นั่น”  เซเรสจงใจไม่

    พูดอกไปตรงๆ  คนตรงหน้ายังไม่มีอาการเปลี่ยนแปลงยังยืนอย่างสงบ



        “หึหึหึ......รับรองพรุ่งนี้สบายกว่าเมื่อวานแน่  ไม่ต้องช่วยชีวิตใครให้เหนื่อย”   ใช่!  คนคนนี้รู้เรื่องเกี่ยวกับตัวเธอเป็นอย่างดี  แถมดูเหมือนจะอ่านใจเธอได้ด้วย  เธอตกใจกับความรู้ใหม่ที่ได้รับและค่อยๆยิ้มขึ้นที่มุมปาก

    ฉลาดมาก.......ทั้งที่รู้ว่าถูกทดสอบ  ยังยอมให้ทดสอบแถมยังบอกเป็นนัยๆอีกว่า  ข้ารู้เกี่ยวกับเจ้าทุกอย่างดี  เซเรสคิดในใจอย่างชื่นชมในความสามารถ  ทั้งที่เธอระวังตัวขนาดนี้แล้วคนคนนี้ยังรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอดี  เหนือกว่าเธอจริงๆ....



    “ท่านรู้มั้ย  ว่าท่านกำลังทำให้ข้ากลัว”  เสียงตอบกลับมามีเพียงเสียงหัวเราะเบาๆเท่านั้น



    “ไม่ต้องกลัวข้าหรอก  ถ้าข้าจะฆ่าเจ้าข้าไม่ยืนคุยกับเจ้าให้เสียเวลาหรอก  เพราะยิ่งคุยกับเจ้าข้าจะยิ่งเสียพลัง”  คงใช่  เพราะดูเหมือนเธอจะถูกคนคนนี้เรียกมา  งั้นตอนนี้เขาคงไม่มีเจตนาร้ายต่อเธอ  อย่างน้อยก็ตอนนี้!



    “ท่านจะไม่แนะนำตัวหน่อยหรอ”



    “มันไม่สำคัญหรอก....เด็กน้อย   ถึงบอกไป  สักวันเจ้าอาจจะลืม  พอถึงตอนนั้นเจ้าก็ไม่รู้จักข้าอยู่ดี”  



    “ท่านยิ่งทำให้ข้าระแวงเพิ่มขึ้นนะ”  เสียงหัวเราะตอบกลับมา



    “ระแวงไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก  เพราข้าไม่คิดจะทำร้ายเจ้า”



    “แค่ตอนนี้เท่านั้น!…….รึเปล่า”  เสียงหัวเราะหึหึหึ.....เดาความหมายไม่ออกตอบกลับมา  และพูดต่อไปว่า



    “พรุ่งนี้เจ้าต้องเดินทางอีก  ข้าคงต้องให้เจ้าพักผ่อนได้แล้วล่ะ”



    “ท่านจะพูดกับข้าแค่นี่เนี๊ยะนะ!”  เซเรสยังไม่ได้ถามถึงปัญหาที่ค้างคาใจเกี่ยวกับคนคนนี้เลย  บุคคลที่เป็นปริศนาไปซะทุกอย่าง



    “ออ...ลืมไปข้าจะบอกเจ้าอีกอย่าง  เร็วๆนี้เจ้าจะพบกับคนคนหนึ่ง”  ใคร?  เซเรสตั้งคำถามขึ้นทันที  แต่ไม่ทันที่จะถามร่างของคนคนนั้นก็กลายเป็นควันระเหยไป  เหลือไว้แต่เสียง



    “ถ้าเจอกันแล้ว  อย่าลืมมาเล่าให้ข้าฟังบ้างล่ะว่าเป็นยังไงบ้าง”



    เซเรสลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึก   สายตามองเบื้องหน้า.....เพดานสีดำมืด  และค่อยๆมองสำรวจรอบๆตัว  เห็นผนังห้องไม้สีน้ำตาล    ประตูสีน้ำตาลปิดสนิท  แสงจากข้างนอกลอดเข้ามาทางหน้าต่างหัวเตียงทำให้เกิดเงาตะคุ่มๆเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา  ทุกอย่างยังอยู่ในสภาพปกติ  ไม่มีสิ่งใดหลุดลอดเข้ามาในเขตอาคม



    เซเรสค่อยๆลุกลงมาจากเตียง  เดินผ่านหน้าต่างบานสูงออกไปนอกระเบียง  สายลมเย็นพัดเข้าปะทะตัวเธอ   ทำให้เธอขนลุกซู่!   เธอสูดอากาศสดชื่นข้างนอกเข้าไปเต็มปอด  สายตามองลงไปยังเมืองเบื่องล่าง  ที่สว่างไสวด้วยดวงไฟ   ผู้คนยังมากมายเหมือนตอนกลางวัน

    ครู่หนึ่งเซเรสก็เบือนสายตาออกจากภาพนั้น  กลับเข้ามานั่งบนเตียงในห้อง   คิดทบทวนความฝัน  ใครกัน.....มีจุดประสงค์อะไร  เธอนั่งคิดอยู่นาน  แต่ก็ไร้คำตอบ  รู้เพียงแต่ว่ารู้สึกคุ้นเคยกับคนคนนั้น   เมื่อไร้คำตอบเซเรสก็คิดจะหลับต่อ  แต่ก็หลับไม่ลง  อาจเป็นเพราะแปลกที่  หรือมีเรื่องให้คิด  หรืออาจเพราะ.......เหนียวตัว  สงสัยเป็นข้อสุดท้าย  เพราะตั้งแต่เมื่อวานเธอยังไม่ได้แตะน้ำเลย  

    เซเรสลุกจากเตียงเตรียมจะเดินเข้าห้องน้ำ   แต่แสงสลัวๆจากข้างนอกส่องเข้ามาพอดี

    อ๊าก!!!!   ให้ตายเถอะจะไม่ให้นอนเลยหรอนี่!







                                                                           ------------>>>@_@<<<---------------



































        







        

        







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×