ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE DEATH OF SUNSHINE

    ลำดับตอนที่ #4 : chapter 3

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 48


    มีน่าตื่นเช้าขึ้นมากระวีกระวาดยกใหญ่  เมื่อพบว่าชายหนุ่มหน้าตาคมคายหายไปจากบ้าน  แต่เซเรสกลับไม่สนใจ  ใช้ชีวิตอย่างปกติสุขเหมือนทุกวัน  มองดูมีน่าที่วิ่งร่อนไปรอบบ้านหลายรอบ  เพื่อตามหาชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง  แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา  จนในที่สุดก็ต้องตัดใจเลิกตามหา  เพราะคิดว่าเขาคงแอบออกจากบ้านไปเอง



    “ไม่เจอใช่มั้ย  ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอกมีน่า  มันมีแรงลุกออกจากบ้านไปได้คงยังไม่ตายง่ายๆหรอก”  เซเรสพูดประชดประชัน  ยกชาขึ้นดื่ม



    “พี่ค่ะ  แต่เค้ายังไม่หายดีนะค่ะ  อาจมีใครจับตัวเค้าไปก็ได้”  มีน่านั่งลงยังโซฟาข้างๆตัวพี่สาว



    “แล้วไง  มันไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย  มีน่าฟังพี่นะ  เราช่วยทุกคนไม่ได้หรอก  เมื่อวานนี้เราทำดีที่สุดแล้ว”  เซเรสพูดเบาๆ กับน้องสาว  ในใจพลางคิดว่าชายแปลกหน้าคนนั้นหายไปอย่างไม่เหลือร่องรอยได้อย่างไร  หึ....แกแน่มาก......  แล้วถ้าหากมีคนลอบเข้ามาบ้านเธอจริง  มันผ่านเขตคุ้มกันอันหนาแน่นของเธอได้อย่างไร  แล้วทำไม....เธอถึงไม่รู้สึกตัว  แน่มาก......แน่จริงๆ......  



    “แต่พี่ค่ะ......”  มีน่าแย้ง  น้ำใสๆ เม็ดน้อยๆ  ไหลออกมาจากตาของเธอ  หยดลงสู่โซฟาสีเหลืองอ่อน



    “อย่าร้องให้.......  มันไม่ตายหรอก  เดี๋ยวพี่จะไปขอให้มาจาช่วยดูว่ามันยังอยู่ดีหรือเปล่า  เอาล่ะเลิกร้องให้ได้แล้ว”  เซเรสพูดเสียงแผ่วกอดปลอบน้องสาวเบาๆ  ทั้งมีน่าและเธอต่างมีแผลในใจอันเดียวกัน  แผลที่ทำให้ทั้งคู่กลัวการลาจากชั่วนิจนิรันด์  แผลที่ทำให้เธอต้องเป็นนักฆ่า.......  



    ทั้งคู่หวนนึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น  กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง  ร่างไร้วิญญาณของคนหลายคน  ทั้งผู้ชาย.....ผู้หญิง......เด็กหญิง......เด็กชาย.......นอนจมกองเลือด  



    เด็กหญิงน้อยๆ  สองคนนั่งกอดร่างไร้วิญญาณชายคนหนึ่งแน่น   เรียกขานชื่อเขาไม่หยุดหย่อน  ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย  น้ำใสๆไหลนองหน้า   ทั้งคู่มองไปรอบๆตัวเห็นแต่ร่างคนรู้จักแดงฉานไปด้วยเลือดนอนแน่นิ่ง  เรียกขานก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆกลับมา



    เด็กหญิงตัวสั่นด้วยความกลัว  กลัวที่ต้องอยู่คนเดียว  กลัวที่ต้องจากลาใครสักคนไปด้วยวิธีที่โหดร้าย  



    ทันใดนั้น!  ทั้งคู่รู้สึกถึงการมาของบุคคลที่สาม  ชายผู้ไร้การรับเชิญ   เด็กหญิงผมสีดำตาสีฟ้าสดใสที่บัดนี้ถูกบดบังด้วยน้ำตารีบตวัดมองไปยังร่างสูงตระง่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าทันที  เธอมองชายผู้ไร้การรับเชิญ   ด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง  แต่ชายผู้ไร้การรับเชิญเพียงแค่มองเด็กหญิงกลับด้วยสายตาไร้ความรู้สึก  เด็กหญิงสู้ตาตอบไม่มีแววเกรงกลัวแม้แต่น้อย



    “สายตาดีนี่”  เขากล่าวกับเด็กหญิงด้วยน้ำเสียงเย็นชา   รู้สึกชอบในความกล้า  หยิ่งทะนงที่ฉายออกมาจากสายตาคู่สีฟ้างามนั้นมาก  เด็กหญิงไม่ตอบอะไรกลับไปทั้งสิ้น  ยังคงจ้องมองชายตรงหน้าด้วยสายตาเคียดแค้น  ชิงชัง  อยากฆ่าให้ตาย  เช่นเดิม  นั่นยิ่งทำให้ชายผู้ไร้การรับเชิญถูกใจเข้าไปใหญ่   ครู่หนึ่งเขาก็เบือนสายตามาทางเด็กหญิงผมสีน้ำตาล  ที่นั่งตัวสั่นพยายามแอบอยู่ด้านหลังเด็กหญิงตาสีฟ้า



    “ถอยออกไป!”  เด็กหญิงตาสีฟ้าตวาดลั่น  ด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว  ไร้แววเกรงกลัว  ชายผู้ไร้การรับเชิญแทบอยากหัวเราะออกมา



        “หนูน้อย  เจ้าไม่รู้หรือว่าไม่ไม่ได้อยู่ในฐานะที่สั่งข้าได้!”  แต่เด็กหญิงตาสีฟ้ายังคงจ้องชายตรงหน้าไม่วาง

        เอาเรื่องดี!  ข้าชักชอบเจ้าแล้วสิ  หึ......อยากรู้จริงว่าโตขึ้นมาจะเป็นยังไง  หึหึหึ....



        “สักวันเราคงได้เจอกัน”  เขากล่าวสั้นๆ  และเขาก็กลืนหายไปกับความมืดต่อหน้าต่อตาเด็กหญิงทั้งสองโดยไร้ร่องรอย  ปล่อยให้เด็กทั้งสองงุนงงกับการปรากฏตัวและจากไปของชายผู้ไร้การรับเชิญ  และความตาย.......ที่เขามอบให้หมู่บ้านของเธอ



    จนวันนั้นมาถึงวันนี้คำถามนั้นยังติดอยู่ในใจของเธอกับมีน่า  และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เซเรสเป็นนักฆ่า  เพราะเธอต้องการตามหาชายผู้ไร้การรับเชิญและให้การตอบแทนเขาอย่างสาสม   แต่ในบางครั้งเธอก็สับสนกับตัวเอง  ถ้าเจอเขาแล้วเธอจะฆ่าเขาจริงหรือ  เธอไม่เคยให้คำตอบกับคำถามของเธอได้เลย  



    “มีน่า......  เสื้อพี่เปียกแล้ว”  เซเรสพูดกับน้องสาว  มีน่าเพิ่งรู้สึกตัวว่าร้องให้อยู่รีบเช็ดน้ำตายกใหญ่



    “ขอโทษค่ะ  ขอโทษ  เดี๋ยวมีน่าซักให้นะค่ะพี่”  



    “ไม่เป็นไร  เอาล่ะเลิกร้องให้แล้วนะ  เดี๋ยวพี่จะถามมาจาเรื่องมันให้”  เซเรสยังคงปลอบมีน่าอยู่



    “ถามจริงๆนะ”



    “จริง  เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปถามพร้อมกันเลย”   มีน่ายิ้มออกทันที



    “วันนี้ไม่ได้หรอค่ะ”  เธอยังต่อรองเพราะร้อนใจเหลือเกิน



    “พี่จะนอน”  คำตอบนั้นทำเอามีน่ารู้สึกเคืองทันที



    “มันยังไม่ตายหรอก  พี่ยังรู้สึกถึงมันได้อยู่เลย”  คำพูดนั้นทำให้มีน่ายิ้มออกทันที  เธอรู้ว่าพี่สาวของเธอมีความสามารถพิเศษอีกอย่างคือการรับรู้ถึงการมีชีวิตอยู่ของคน  ถึงจะเป็นแค่ความรู้สึกแต่ก็ไม่เคยพลาดแม้ครั้งเดียว



    “จริงหรอค่ะ  งั้นได้ค่ะพรุ่งนี้ก็ได้”



    “อืม......เดี๋ยวพี่จะเข้าไปนอนต่อในห้องก่อนนะ”  เซเรสเตรียมตัวจะลุกจากโซฟาสีเหลืองอ่อน  แต่ยังไม่ทันได้ลุกเสียงมีน่าก็เอ่ยขึ้นมาว่า



    “พี่ค่ะ  พี่สวมสร้อยเส้นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  สวยจังนะค่ะ”  มีน่าชี้ไปยังสร้อยหินสีฟ้าสดใสที่ห้อยอยู่บนคอสีครีมของเซเรส



    “หืม?”  เซเรสกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงงุนงง  ก้มลงไปดูยังคอของตน  และถึงกับแปลกใจว่าเธอสวมมันตั้งแต่เมื่อไหร่   เธอจับมันขึ้นมาดูใกล้ๆ  พยายามจะถอดออกมาดู  ทั้งพยายามด้วยมือเปล่า  และเวทย์แต่ก็ไร้ผล  เธอไม่สามารถถอกมันออกมาได้



    “บ้าจริงถอดไม่ออก”  เธอสบถเบาๆ  มีน่าเห็นความพยายามของพี่สาวก็ไม่เข้าใจว่าพี่จะพยายามถอดมันออกทำไม  สวยดีแท้ๆ



    “ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ค่ะ  สวยดีออก”  มีน่ากล่าวด้วยน้ำเสียงชื่นชม  ตาเป็นประกาย  แต่เซเรสกลับไม่สนใจกับคำชมนั้น  ในใจมัวแต่คิดว่าเธอสวมมันเมื่อไหร่  มันมาจากไหน  แล้วทำไมถึงถอดไม่ออกเหมือนกับถูกร่ายด้วยเวทย์ที่แข็งแกร่งไว้

    ถ้าเวทย์ไม่แน่จริง  ก็คงเป็นเจ้าของเวทย์สินะที่แน่จริง  มีน่าคิดในใจ  และพยายามคิดว่าใครเป็นคนให้สร้อยเส้นสวยนี่แก่เธอ  เธอนั่งคิดอยู่หลายรอบและได้คำตอบเดียวกันทุกครั้ง.........ชายแปลกหน้าคนนั้นแน่!  คนที่หายไปจากบ้านเธอตอนเช้าอย่างไร้ร่องรอย

    แกแน่มาก..................  



                ---------------------------



    เช้าวันต่อมาเซเรสพามีน่าไปยังร้านของมาจาตามคำสัญญา  ดูมีน่าจะตื่นเต้นและกังวลเป็นพิเศษ  เห็นได้จากที่ทำหน้ากลุ้มไปตลอดทาง  เซเรสเข้าใจมีน่าดีว่าเธอห่วงชายคนนั้นมากถึงดูกังวลไปตลอดทาง  แต่อยู่ๆ  ความรู้หนึ่งก็วิ่งเข้าประทะตัวเธออย่างจัง  เธอถึงกับตกใจไปกับและความรู้สึกเธอเลยทีเดียว

    หวังว่า......มีน่าคงจะไม่รู้สึกชอบมันขึ้นมานะ  เซเรสได้แต่ภวนาในใจ



    เมื่อมาถึงร้านเซเรสก็เล่าเหตุการณ์เกี่ยวกับชายแปลกหน้าเมื่อวานให้มาจาฟังอย่างละเอียดด้วยความไว้ใจ   เพราะมาจาเป็นคนดูแลหญิงสาวทั้งคู่มาตั้งแต่เด็ก  



    “อืม..........   แป็ปนะ”  มาจากล่าว  และหลับตาลง มีน่าตั้งใจรอด้วยความระทึก  ส่วนเซเรสนั่งรอด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์   ครู่หนึ่งมาจาก็ลืมตาขึ้นยิ้มกว้าง



    “ไม่น่าเป็นห่วงอยู่สุขสบายดีถึงขั้นดีมากๆเลยล่ะ”  เท่านั้นมีน่าก็ยิ้มกว้าง  เซเรสตาเป็นประกายด้วยความโล่งอก  มาจาเหลือบไปเห็นสายตาโล่งอกของเซเรส  ก็แอบคิดในใจเงียบๆ

    ยังไม่ชอบแสดงความรู้สึกเหมือนเดิม....



    “มาจา  ฝากมีน่าด้วยนะ  จะออกเดินทางวันนี้แล้ว”  เซเรสกล่าวขึ้นเหมือนเป็นเรื่องธรรมดามาก  มีน่าถึงกับหันควับมาทันที



    “อะไรนะค่ะ  พี่จะไปไหน”  เธอถามด้วยน้ำเสียงตกใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมาก่อน   ที่แท้ที่พี่ของเธอพาเธอมาพบมาจาวันนี้ก็เพราะจะพาเธอมาฝากไว้กับมาจานี่เอง

    “ภารกิจ  คงนานหน่อยกว่าจะกลับ”  



    “อีกแล้วหรอค่ะ  แล้วนานแค่ไน”



    “คงสักสองสามเดือน”  มีน่าแทบอยากร้องให้ตั้งสองสามเดียวเชียวหรือ  ครั้งที่เซเรสไปนานที่สุดยังแค่อาทิตย์เดียวเอง



    “เอาหน่า.....  มาจาคนนี้รับรองได้ว่าเซเรสพี่เจ้ากลับมาโดยปลอดภัยแน่”  มาจาขัดขึ้นเพื่อให้มีน่าดูสบายใจขึ้น



    “จริงนะ”



    “ข้าเคยโกหกเมื่อไหร่ล่ะ”



    “เคยสิแต่เราไม่รู้แค่นั้นเอง”  เซเรสขัดขึ้น  มาจาส่งตาเขียวมาทันที    มีน่าดูเชื่อใจมาจาน้อยลง



    “ไม่ต้องห่วงพี่กลับมาแน่  อย่าลืมทำเค้กอร่อยๆไว้รอล่ะ”  มีน่ายิ้มขึ้นมานิดๆ  แต่ยังติดกังวลใจอยู่  



    “เอาล่ะได้เวลาแล้วพี่ต้องไปก่อนนะ  มาจาอย่าลืมดูแลมีน่าดีๆล่ะ”  เซเรสสั่งเสียงเข้มมา  มาจาพยักหน้ารับแววตาบ่งบอกว่าถึงไม่บอกก็จะทำอยู่แล้ว   มีน่าสวมกอดพี่สาวแน่น  ราวกับกลัวว่าเซเรสจะจางหายไปต่อหน้า



    “ไม่เอาหน่า.....เดี๋ยวพี่จะกลับมา”  



    “พี่ต้องกลับมานะ  ไม่กลับโดนแน่”  มีน่าขู่ไปลอยๆ  ค่อยๆคลายวงแขนออก  



    “กลับมาแน่  จะมาชิมว่าเค้กน้องสาวสุดที่รักจะพัฒนาขึ้นหรือเปล่า”  มีน่าค้อนวงโตใส่พี่สาว  พี่สาวตัวดีและมาจาก็ได้แต่หัวเราะกับความน่ารักของมีน่า



    “เดี๋ยวพี่ต้องไปแล้ว  เดี๋ยวกลับมา”  เซเรสพูดประโยคหลังอย่างมีความหวัง  มีน่าและมาจาออกมาส่งเธอที่นอกร้าน  มีน่ายืนรอจนพี่สาวใช้เวทย์เคลื่อนย้ายหายตัวลับไปจากสายตา  ดูเธอเป็นห่วงพี่สาวมาก  มาจาเห็นก็เดินมาโอบไหล่ปลอบเธอเบาๆ



            



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×