ลำดับตอนที่ #62
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #62 : บทความจากรุ่นพี่ม.6 :: คำเตือนสำหรับเด็กเอ็นทุกคน
ในตอนนี้ ก็ขอขอบพระคุณ พี่ ซาซ่าจัง < My.iD > ที่ได้กรุณาเขียนบทความมาเตือนสติเด็กเตรียมเอนท์อย่างพวกเรา...
ก็เชิญอ่านได้เลยค่ะ
คำเตือนสำหรับเด็กเอ็นทุกคน จากประสบการณ์ตรงของเด็กเอ็นผู้พ่ายแพ้ใจตัวเองคนหนึ่ง
สวัสดีค่ะ เด็กเอ็นทุกคน
ชีวิตเด็กเอ็นที่แสนลำบาก
ต้องตรากตรำเรียนพิเศษ
แต่มีใครรู้บ้างว่า
เวลาที่คิดว่ามากในชีวิตเด็กม.ปลาย
โดยไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้โดยอ้างว่ายังมีเวลาอีกมาก
สุดท้าย
เวลาก็จะผ่านไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ก็อยากจะฝากเด็กเอ็นทุกคนว่า
มีหนทางให้เลือกสองทางเลือกคือ ตรงและแอดมิชชั่น
ก็อยากจะเตือนน้องๆในบทความนี้ค่ะ
โดยเล่าจากประสบการณ์จริงของซาซ่าจังค่ะ
ตอนม.4ไม่อยากเรียนกวดวิชาเพราะอ้างว่า คนเยอะ เรียนไปทำไมขี้เกียจ
อยากอ่านนิยาย จะเล่นเอ็ม เล่นเนต บ้าดารา
ขอบอกว่าถ้าอยู่ในช่วงใกล้เอ็นเบาลงบ้างเถอะนะคะ
เพราะมันเป็นตัวบ่อนทำลายอนาคตอันรุ่งโรจน์ และสดใสของเราค่ะ
หากเราเอาเวลาวันละนิดมาทบทวนบทเรียนทั้งที่โรงเรียนและเอ็นก็จะทำให้เรา
พร้อมกว่าคนอื่นและสามารถเข้าสู่สนามสอบอย่างมั่นใจ
การเข้าจุฬา ธรรมศาสตร์ ทุน king
ไปเรียนOxford Harvard
ก็เป็นสิ่งที่ไม่ยากอย่างที่น้องๆคิด
พออยู่ม5ก็ต้องหมั่นทบทวนบทเรียนสม่ำเสมอ ทำตารางเพื่อควบคุมตัวเรา
ตอนแรกอาจจะทำไม่ได้
แต่ตอนหลังๆก็จะสามารถควบคุมตัวเองได้
พยายามบอกตัวเองเสมอเมื่อท้อว่า
คนอื่นอ่านเท่านี้
เราต้องอ่านให้มากกว่าคนอื่น100เท่าพันเท่า
หากเราอยากจะชนะคนอื่นได้
เรียนพิเศษเท่าที่จำเป็นอย่าเรียนจนหนักไป
แต่ก็ต้องเรียน
ซาซ่าจังคิดเสมอว่า
การเรียนพิเศษเป็นสิ่งสำคัญ
วิชาที่เราอ่อนเราควรเรียนพิเศษ
หลังเรียนพิเศษก็ควรทบทวนไม่ใช่โยนหนังสือทิ้งขว้างไม่สนใจ
พอถึงเวลาก็หยิบมาแล้วไปเรียน
ขอบอกว่าไร้ประโยชน์
เปลืองตังโดยเปล่าประโยชน์
ถ้าเราไม่ทำแบบฝึกหัด และใช้สมองคิดตามอย่างเป็นระบบ
ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะคะกับหนังสือที่อ่านไป
สิ่งบันเทิงเช่นทีวี เอมหรืออื่นๆ
ทำได้ค่ะ
แต่ต้องอยู่ในขอบเขต
กำหนดเคอร์ฟิวของตัวเอง
เมื่อถึงเวลาสอบก็จะได้มีความรู้แน่นและทำข้อสอบได้คะแนนมากๆ
นำไปยื่นในคณะที่ต้องการ
แต่ถ้าไม่อ่านหนังสือ
ไม่มีความมุ่งมั่นที่แท้จริง
ทุกอย่างจะสูญสลายไปอย่างไร้ประโยชน์
ไม่สามารถเอ็นติดได้ในคณะที่ต้องการ
ได้แต่เฝ้ามองคนที่ประสบความสำเร็จอย่างเศร้าหมอง
รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์
ว่าทำไมไม่พยายามให้มากกว่านี้
เพราะอีกนิดเดียวก็จะได้ตามที่หวังแล้วขาดไปเพียงไม่กี่คะแนน
ก็จะได้คณะ มหาลัยที่ต้องการ
เมื่อสอบเสร็จก็มานั่งร้องไห้เสียใจกับสิ่งล้มเหลวของตัวเอง
ต้องทนเรียนคณะ ที่ไม่ใช่ความฝันของตน
ต้องทนประกอบอาชีพที่ไม่ใช่ความต้องการของตน
สำหรับคนที่คิดได้เร็วก็ได้เปรียบคนอื่นมากเท่านั้น
มาคิดได้หลังเอ็นจะมีประโยชน์อันใด
สู้ลำบากในวันนี้เพียงสามปีเพื่อสบายในวันข้างหน้าซึ่งมากกว่า50ปีไม่ดีกว่าหรอ
ก็อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ คิดดูนะคะ
ว่า
อยากจะเป็นคนขี้แพ้ ที่ทำอะไรไม่สำเร็จหรือ อยากเอาชนะตัวเอง
ทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน
ที่สำคัญอย่าประมาทค่ะ
ก็คงจะฝากไว้เท่านี้นะคะ
แต่อยากจะบอกทุกๆคนว่า
มันเจ็บมากที่แพ้ใจตัวเอง
ไม่ได้เรียนจุฬา หรือธรรมศาสตร์ตามที่หวัง
เมื่อจบมาก็อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับ
เพราะคนสมัยนี้ยึดติดกับสถาบันกันไปหมดแล้ว
หางานยาก เงินเดือนน้อย
แล้วน้องๆ จะไม่พยายามไต่ความฝัน จะเป็นขี้แพ้ก็ตามใจน้องๆนะคะ
แต่อยากให้น้องๆทุกคนมีความฝันและเอาชนะมันให้ได้ค่ะ
แล้วน้องๆทุกคนก็จะไม่เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้กระทำไป
>>>
ถ้าใครสนใจคุยกับพี่เค้า ก็ไปที่ไอดีพี่แป้งเลยค่ะ
http://my.dek-d.com/sabrina_pang/
ก็เชิญอ่านได้เลยค่ะ
คำเตือนสำหรับเด็กเอ็นทุกคน จากประสบการณ์ตรงของเด็กเอ็นผู้พ่ายแพ้ใจตัวเองคนหนึ่ง
สวัสดีค่ะ เด็กเอ็นทุกคน
ชีวิตเด็กเอ็นที่แสนลำบาก
ต้องตรากตรำเรียนพิเศษ
แต่มีใครรู้บ้างว่า
เวลาที่คิดว่ามากในชีวิตเด็กม.ปลาย
โดยไม่สามารถควบคุมพฤติกรรมตัวเองได้โดยอ้างว่ายังมีเวลาอีกมาก
สุดท้าย
เวลาก็จะผ่านไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ก็อยากจะฝากเด็กเอ็นทุกคนว่า
มีหนทางให้เลือกสองทางเลือกคือ ตรงและแอดมิชชั่น
ก็อยากจะเตือนน้องๆในบทความนี้ค่ะ
โดยเล่าจากประสบการณ์จริงของซาซ่าจังค่ะ
ตอนม.4ไม่อยากเรียนกวดวิชาเพราะอ้างว่า คนเยอะ เรียนไปทำไมขี้เกียจ
อยากอ่านนิยาย จะเล่นเอ็ม เล่นเนต บ้าดารา
ขอบอกว่าถ้าอยู่ในช่วงใกล้เอ็นเบาลงบ้างเถอะนะคะ
เพราะมันเป็นตัวบ่อนทำลายอนาคตอันรุ่งโรจน์ และสดใสของเราค่ะ
หากเราเอาเวลาวันละนิดมาทบทวนบทเรียนทั้งที่โรงเรียนและเอ็นก็จะทำให้เรา
พร้อมกว่าคนอื่นและสามารถเข้าสู่สนามสอบอย่างมั่นใจ
การเข้าจุฬา ธรรมศาสตร์ ทุน king
ไปเรียนOxford Harvard
ก็เป็นสิ่งที่ไม่ยากอย่างที่น้องๆคิด
พออยู่ม5ก็ต้องหมั่นทบทวนบทเรียนสม่ำเสมอ ทำตารางเพื่อควบคุมตัวเรา
ตอนแรกอาจจะทำไม่ได้
แต่ตอนหลังๆก็จะสามารถควบคุมตัวเองได้
พยายามบอกตัวเองเสมอเมื่อท้อว่า
คนอื่นอ่านเท่านี้
เราต้องอ่านให้มากกว่าคนอื่น100เท่าพันเท่า
หากเราอยากจะชนะคนอื่นได้
เรียนพิเศษเท่าที่จำเป็นอย่าเรียนจนหนักไป
แต่ก็ต้องเรียน
ซาซ่าจังคิดเสมอว่า
การเรียนพิเศษเป็นสิ่งสำคัญ
วิชาที่เราอ่อนเราควรเรียนพิเศษ
หลังเรียนพิเศษก็ควรทบทวนไม่ใช่โยนหนังสือทิ้งขว้างไม่สนใจ
พอถึงเวลาก็หยิบมาแล้วไปเรียน
ขอบอกว่าไร้ประโยชน์
เปลืองตังโดยเปล่าประโยชน์
ถ้าเราไม่ทำแบบฝึกหัด และใช้สมองคิดตามอย่างเป็นระบบ
ก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะคะกับหนังสือที่อ่านไป
สิ่งบันเทิงเช่นทีวี เอมหรืออื่นๆ
ทำได้ค่ะ
แต่ต้องอยู่ในขอบเขต
กำหนดเคอร์ฟิวของตัวเอง
เมื่อถึงเวลาสอบก็จะได้มีความรู้แน่นและทำข้อสอบได้คะแนนมากๆ
นำไปยื่นในคณะที่ต้องการ
แต่ถ้าไม่อ่านหนังสือ
ไม่มีความมุ่งมั่นที่แท้จริง
ทุกอย่างจะสูญสลายไปอย่างไร้ประโยชน์
ไม่สามารถเอ็นติดได้ในคณะที่ต้องการ
ได้แต่เฝ้ามองคนที่ประสบความสำเร็จอย่างเศร้าหมอง
รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์
ว่าทำไมไม่พยายามให้มากกว่านี้
เพราะอีกนิดเดียวก็จะได้ตามที่หวังแล้วขาดไปเพียงไม่กี่คะแนน
ก็จะได้คณะ มหาลัยที่ต้องการ
เมื่อสอบเสร็จก็มานั่งร้องไห้เสียใจกับสิ่งล้มเหลวของตัวเอง
ต้องทนเรียนคณะ ที่ไม่ใช่ความฝันของตน
ต้องทนประกอบอาชีพที่ไม่ใช่ความต้องการของตน
สำหรับคนที่คิดได้เร็วก็ได้เปรียบคนอื่นมากเท่านั้น
มาคิดได้หลังเอ็นจะมีประโยชน์อันใด
สู้ลำบากในวันนี้เพียงสามปีเพื่อสบายในวันข้างหน้าซึ่งมากกว่า50ปีไม่ดีกว่าหรอ
ก็อยากให้เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ คิดดูนะคะ
ว่า
อยากจะเป็นคนขี้แพ้ ที่ทำอะไรไม่สำเร็จหรือ อยากเอาชนะตัวเอง
ทำในสิ่งที่ตัวเองฝัน
ที่สำคัญอย่าประมาทค่ะ
ก็คงจะฝากไว้เท่านี้นะคะ
แต่อยากจะบอกทุกๆคนว่า
มันเจ็บมากที่แพ้ใจตัวเอง
ไม่ได้เรียนจุฬา หรือธรรมศาสตร์ตามที่หวัง
เมื่อจบมาก็อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับ
เพราะคนสมัยนี้ยึดติดกับสถาบันกันไปหมดแล้ว
หางานยาก เงินเดือนน้อย
แล้วน้องๆ จะไม่พยายามไต่ความฝัน จะเป็นขี้แพ้ก็ตามใจน้องๆนะคะ
แต่อยากให้น้องๆทุกคนมีความฝันและเอาชนะมันให้ได้ค่ะ
แล้วน้องๆทุกคนก็จะไม่เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้กระทำไป
>>>
ถ้าใครสนใจคุยกับพี่เค้า ก็ไปที่ไอดีพี่แป้งเลยค่ะ
http://my.dek-d.com/sabrina_pang/
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น