คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : โลกกลมๆ (35%)
ตอนที่ 2
เสียงฝีเท้าของใครบางคนวิ่งกระหืดกระหอบ
พร้อมกับแฟ้มงานเอกสารกองโตจนมิดหัว หญิงสาวมองไม่เห็นเส้นทางที่กำลังวิ่งอยู่นั้น
และเมื่อถึงทางแยกของตัวตึกอาคาร เสียงแฟ้มเอกสารกองเดิมก็ได้เปลี่ยนมาหล่นเกลื่อนกลาดบนพื้นแทน
พร้อมกับเสียงดังอึกกระทึกครึกโครม ทำเอาทุกสายตาที่อยู่บริเวณนั้น ต่างก็หันมองเป็นสายตาเดียวกัน
“ซุ่มซ่ามอีกแล้วนะยายแพร
บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ถือแต่พองาม แล้วนี่จะรีบไปไหนของเธอยะ”
เสียงมิรันตรี...
เพื่อนสนิทที่อยู่บริเวณนั้นพอดี อดที่จะบ่นเพื่อนสาวจอมโก๊ะคนนี้ไม่ได้
สวยแต่โก๊ะจนเพื่อนๆร่วมงานต่างก็พากันเหนื่อยและละเหี่ยใจ
ผิดกับเจ้าตัวที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
แพรธารา...
เลขาท่านประธานใหญ่ ของบริษัทเครือข่ายสัญญาณทางโทรคมนาคมที่มีชื่อเสียงภายในประเทศ
ไม่มีใครไม่รู้จักบริษัทนี้ เพราะประชาชนโดยส่วนมาก ต่างก็เป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัทแห่งนี้
“ก็ฉันรีบนี่ยัยตรี
มีนัดพี่อธิปไว้ช่วงเย็นเสียด้วยสิ”
แพรธาราพูด
พลางก้มเก็บเอกสาร พร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือเรือนสวยขึ้นมอง เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาใกล้เที่ยงของวันแล้ว
อดทำให้อีกคนต้องมองอย่างหมั่นไส้ พร้อมกับถลึงตาใส่ไม่ได้
ก็แพรธาราหญิงสาวที่เพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติ คุณสมบัติ และมีแฟนน่ารักอย่างอธิป ที่ดูจะเอาใจใส่หญิงสาวดี
จนเพื่อนๆ พากันอิจฉา ทั้งคู่คบหากันมานานเกิน 1 ปีแล้ว มิรันตรีจึงพบเจอกับอธิปบ่อยๆ
และก็ได้ชื่นชมพร้อมกับสนับสนุนเพื่อนมาโดยตลอด
แพรธารามีอายุห่างกับอธิปถึง
9 ปีเต็ม แต่เธอกับเขาก็เข้ากันได้ดีในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนิสัยหรือความชอบ คงเป็นเพราะหญิงสาวขาดบิดามาตั้งแต่เด็ก
เมื่อเจอคนที่อายุมากกว่าก็รู้สึกอบอุ่น และพร้อมจะเปิดใจกับอธิปถึงขั้นมีแพลนจะแต่งงานกันต้นปีหน้าเลยทีเดียว
“ยายแพร
แกลืมอะไรหรือเปล่า”
มิรันตรีเอ่ยถามขึ้น
เมื่อเห็นแพรธาราไม่ได้นึกถึงนัดสำคัญของท่านประธานบริษัท
และดูเหมือนหญิงสาวจะขี้ลืมอย่างที่ผ่านมา แต่ถึงกระนั้นแม้เพื่อนสนิทจะเตือนสติ แต่เธอก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี
“นัดอะไรเหรอยัยตรี”
“ โอ๊ย ยายแพร! แกเป็นเลขาท่านประธานประสาอะไร ทำไมถึงได้ขี้หลงขี้ลืมขนาดนี้
แล้วนี่ต่อไปไม่ต้องลืมพี่อธิปไปเลยเหรอ”
“ไม่มีทาง แกก็พูดเกินไป
พี่อธิปน่ะเขาแสนดีขนาดนั้น ถ้าฉันลืมเขาลงแสดงว่าโง่เต็มทนแล้วล่ะ”
แพรธาราแหวใส่เพื่อน
แต่ก็ไม่ได้จริงจังเป็นการหยอกล้อกันมากกว่า ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมจะตั้งท่าเดินไปขึ้นลิฟต์
เพื่อกลับห้องทำงานของตัวเอง มิรันตรีเดินตามมาติดๆ
เพราะแฟ้มงานบางส่วนที่เพื่อนสนิทถือไม่หมด กลัวว่ามันจะตกเกลื่อนกลาดอีก กว่าจะถึงห้องทำงานคงต้องทุลักทุเลพอสมควร
“ยายแพร
ฉันจะบอกแกให้เอาบุญนะ ว่าวันนี้ตอนเย็นแกต้องไปส่งท่านประธานที่สนามบิน
เพราะท่านจะบินไปต่างประเทศ ทีนี้แกนึกออกหรือยัง”
“ตายจริง!”
แพรธาราอุทานเสียงหลง
เธอลืมเรื่องนี้ไปเลยทีเดียว หน้าตาเหลอหลาอย่างเห็นได้ชัด สร้างความขบขันให้คนมองยิ่งนัก
แต่บางครั้งมิรันตรีก็เริ่มจะชินชากับความเปิ่นของเพื่อนแล้ว เพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี
1 จนมาทำงานที่เดียวกันอีก
“ตอนนี้แกยังไม่ตายหรอก
แต่ถ้าเย็นนี้แกลืม แกอาจจะได้ตายแบบศพไม่สวยด้วยนะยายแพร”
“ขอบใจแกมากเลยนะยัยตรี
นี่ถ้าแกไม่เตือนความจำฉันคงลืม ไม่อยากนึกเลยว่าจะเจออะไรบ้าง คิดแล้วสยอง”
แพรธาราห่อไหล่ทำท่าสยองพองขน
เมื่อนึกจินตการพี่สมรเลขามือหนึ่งของท่านประธาน อาจจะกินเลือดกินเนื้อเธอได้ ที่ผ่านมาตนเองก็รอดปลอยภัยอย่างหวุดหวิดมาหลายครั้งแล้ว
“ฉันต้องรีบโทร. ไปเลื่อนนัดพี่อธิปก่อนดีกว่า
เดี๋ยวเขาจะรอ”
“ก็รีบๆ เข้า เผื่อเขายังไม่เข้ามากรุงเทพฯ
จะได้เปลี่ยนแผนทันท่วงที”
ทั้งสองวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะเมื่อถึงจุดหมาย
แพรธารารีบหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าด้านข้างของตัวเสื้อ เพื่อจะกดโทร. ออกหาใครบางคนด้วยความร้อนใจ
“ถามจริงเหรอยายแพร
เคยไปบ้านพี่อธิปบ้างมั้ย เคยไปไหว้คุณพ่อคุณแม่เขาหรือเปล่า”
หญิงสาวส่ายหน้าโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดนาน
คนอย่างแพรธาราไม่เคยมีความลับ หรือต้องคิดอะไรหลายชั้นหลายซอก
คงเป็นเพราะเหตุนี้ทั้งคู่จึงได้คบเป็นเพื่อนรักกันมานาน เพราะนิสัยคล้ายๆ กันนี่เอง
ต่างก็แสดงความจริงใจไม่มีคำว่าปิดบัง หรือซ่อนเร้นเรื่องส่วนตัว
“พี่อธิปไม่ชวนแกบ้างเหรอ”
“คุณพ่อคุณแม่ของพี่อธิปไปรับราชการอยู่ที่ใต้น่ะแกเลยไม่ค่อยสะดวก
อีกอย่างแกก็รู้ว่านอกจากคอนโดของแกแล้ว คุณแม่และคุณยายไม่เคยให้ฉันไปค้างแรมที่ไหนเลย”
มิรันตรีพยักหน้ารับรู้
เพราะเธอสนิทกับคนในครอบครัวของเพื่อนเป็นอย่างดี
และแพรธาราก็เข้าใจในความหวังดีของเพื่อนดีเช่นกัน
หญิงสาวเคยถามคำถามนี้กับคนรักเหมือนกัน แต่ด้วยความเชื่อใจจึงทำให้เธอไม่เคยคิดระแวง
หรือสงสัยอะไรในตัวอธิปอีกเลย คงเป็นเพราะที่ผ่านมาชายหนุ่มเสมอต้นเสมอปลาย กับตนเองและครอบครัวมาตลอด
คำถามที่คอยกัดกินใจพวกนั้นจึงตกไป ไม่สามารถทำให้ความมั่นคง และศรัทธาในตัวเขาลดลงไปได้
“ฉันเชื่อใจพี่อธิปน่ะตรี
แกไม่เคยมีความรักแกไม่เข้าใจหรอก ลองหาสักคนสิ แล้วแกจะรู้ว่ามันรู้สึกดีและอบอุ่นหัวใจเพียงใด”
“ไม่ไหวนะแก
ฉันว่าอยู่คนเดียวก็มีความสุขดี และสุขมากกก”
มิรันตรีลากเสียงยาว
จนแพรธาราต้องหยิกต้นแขน เพื่อให้เสียงนั้นเงียบลง แต่กลายเป็นเสียงร้องหลงทำนองมาแทน
จากอาการปวดแสบปวดร้อนของนิ้วเรียว ที่ปะทะเข้าที่ต้นแขนของตนเข้านั่นเอง หญิงสาวผู้ถูกกระทำรีบปัดมือสวยนั้นออก
แล้วลูบไล้บริเวณต้นแขนของตัวเอง พร้อมกับมองตามเพื่อนสายตาตั้งคำถาม
“ฉันกลัวแกขึ้นคาน
เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะติดต่อเพื่อนพี่อธิปให้สักคน แกสนใจมั้ย”
ฝากผลงานหนี้รักทาสหัวใจ By ไอลดาด้วยนะคร้า ^^
|
ความคิดเห็น