ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [WINNER iKON GOT7 : : SONGKIM] MAZE♂ FIRST STORY

    ลำดับตอนที่ #38 : MAZE : CHAPTERS 34

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 488
      3
      19 พ.ค. 58



     

    CHAPTERS 34

     

                การเดินทางได้เริ่มต้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่น เพราะสนามบินไม่ได้แน่นไปด้วยผู้คนเหมือนทุกครั้งที่ MAZE จะต้องออกเดินทาง เนื่องจากหลังเกิดเรื่อง ก็ไม่มีใคร แม้แต่ต้นสังกัดก็ไม่ออกมาพูดอะไรเลยถึงเหตุผลที่ยกเลิกคอนเสิร์ตครั้งก่อน พอรู้ข่าวกันว่าเวิร์ลทัวร์จะเริ่มเดินต่ออีกครั้ง ทั้งแฟนๆและนักข่าวย่อมอยากรู้เรื่องเป็นธรรมดา ด้วยความที่ไม่อยากให้สนามบินต้องวุ่นวาย เหล่า MAZE เลยออกเดินทางตั้งแต่ตีสี่โดยไม่ได้บอกไฟลท์บินกับแฟนๆ ซึ่งแฟนๆก็เข้าใจว่าเป็นรอบตอนสิบโมง ซึ่งนั่นเป็นรอบของทีมงาน แถมยังเข้าทางวีไอพี เลยไม่มีใครรู้ว่า ณ ตอนนี้ MAZE อยู่ที่สนามบินเพื่อเตรียมไปแอลเอกันแล้ว

                “เอาล่ะ มาๆ รวมตัวกันได้แล้ว”จินอูปรบมือเรียกทุกคนที่ยังง่วนอยู่มุมใครมุมมันให้มารวมกัน มองแจบอมที่เอาแต่ชะเง้อไปที่ประตู “รอจินยองหรือไง”

                “เนียร์ไปไหนอ่ะพี่จินอู”

                “ไปรอบพร้อมทีมงานนู่น”จินอูตอบ มองแจบอมที่ดูเป็นกังวลมากเมื่อได้ยิน “เฮ้ย ไม่เป็นไรหรอกน่า กับทางทีมงานก็ปลอดภัย อย่าเป็นห่วงนักเลย จินยองดูแลตัวเองได้ เขาฝากบอกมา”

                “แต่มันก็.. เฮ้อ อืมๆ”แจบอมจำใจพยักหน้ายอมรับทั้งที่ไม่อยากยอมรับเลย

                “จะได้เที่ยวแอลเอแล้วโว้ย”

                จินอูเหล่มองจุนฮเวที่โวยวายอยู่คนเดียว ก่อนจะเดินไปกอดคอไอ้ตัวสูงเอาไว้ “อย่าตื่นเต้นให้มากนักนะไอ้ตัวแสบ”

                “ไรล่ะจินอู พี่อย่ามาหาเรื่องผมดิ”

                “หึ! แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าเมื่อคืนแกแอบไปหาน้องชายฉันอีกแล้วน่ะ”

                “เอ่อ คือมัน..”

                “อาศัยตอนฉันยุ่งเข้าไปเต๊าะน้องฉันอยู่เรื่อย ทำตัวดีๆเถอะแก ฉันจับตาดูแกอยู่ทุกฝีก้าวนะ”

                “ครับ ._.

                จินอูยิ้มมุมปาก แล้วมองไปยังมักเน่ที่ไม่มารวมตัวกันสักที เขาเลยเดินไปหาแล้วก็เห็นว่าชานอูกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

                “อย่าดื้อกับอัปป้านะเด็กๆ”

                (คร้าบบบบบบบบ พี่ชานอูอย่าลืมขนมแทฮันนะ)

                (ของมินกุ๊กกี้ด้วย)

                (มันเซ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!)

                “โอเคๆ พี่จะซื้อกลับมาฝากทุกคนเลยนะ”

                จินอูอมยิ้ม เดินไปยืนด้านหลัง “ทำตัวอย่างกับเป็นพ่อ”

                “ตกใจหมดพี่!!!”ชานอูสะดุ้ง หันไปมองชานอูที่ยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ “ก็แหม มันก็ ..นะ”

                “อันยอง เด็กๆ”

                (อ๊ะ นั่นพี่สาวพี่จินฮวานนี่นา)

                จินอูขมวดคิ้วเมื่อเด็กตัวเล็กพูดเสียงตื่นเต้น ส่วนชานอูหัวเราะคิกคัก “มันเซย่า นี่พี่ชายพี่จินฮวานนะ ไม่ใช่พี่สาว”

                (ฮ่าๆๆ มันเซก็แบบนี้แหละ ขอโทษนะครับคุณจินอู)

                จินอูยิ้มแห้งๆให้ยุนฮยองที่แทรกหน้าเข้ามา “ไม่เป็นไรครับ ผมเริ่มจะชินแล้วล่ะที่มีคนบอกว่าผมเป็นผู้หญิง”

                (อัปป้าหลบฮะ)เสียงมันเซดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับที่ยุนฮยองถูกดันออกไป (พี่ชานอู พี่จุนฮเวอยู่ไหนฮะ)

                “อ่า แป็บนึงนะมันเซ”ชานอูตอบกับเด็กน้อยแล้วหันไปเรียกจุนฮเวที่นั่งง่วงอยู่ “พี่จุนฮเว มานี่หน่อย”

                “อะไรอีกอ่ะ”จุนฮเวย่นจมูกขัดใจแต่ก็ยอมเดินไปหาชานอู “มีอะ.. เฮ้ย ไอ้ตัวแสบ!!!

                (พี่จุนฮเวรีบกลับมาเล่นกับมันเซนะ)

                “โอเค อย่าดื้อล่ะ ดูพี่จินฮ.. เอ้อ อย่าดื้อนะมันเซย่า”จุนฮเวกลับคำแทบไม่ทันเมื่อลืมนึกไปว่าจินอูอยู่ตรงนี้ “แหะๆ”

                จินอูไม่ได้พูดอะไร แต่ทำท่าว่าเขาจับตาดูจุนฮเวอยู่ แล้วสะกิดชานอู “ไปๆ เตรียมตัวกันได้แล้ว จะขึ้นเครื่องแล้ว”

                ชานอูพยักหน้ารับ หันไปที่หน้าจออีกครั้ง “เดี๋ยวรีบกลับนะเด็กๆ”

                (ครับ!!!!!!!!!!!)ทั้งสามเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง แต่มินกุ๊กที่วิ่งไปแล้ววิ่งย้อนกลับมาอีกครั้ง (พี่ชานอู บอกคุณลุงด้วย ว่ารีบกลับมาเล่นกับมินกุ๊กกี้นะ)

                “บอกเองเลยก็ได้”

                “...”

                จินอูยืนนิ่งอยู่กับที่ เมื่อจู่ๆมินโฮก็โผล่มา ไม่พอแขนใหญ่ยังพาดอยู่ที่ไหล่ของเขากับชานอู ร่างกายที่เบียดเข้ามาใกล้จนแทบไม่มีช่องว่างทำให้จินอูแทบหยุดหายใจ

                (คุณลุง มินกุ๊กกี้คิดถึงนะ)

                “อ่าฮะ คิดถึงเหมือนกันเจ้าอ้วน ไว้เจอกันนะ”

                (ฮะ!!!)

                (มินกุ๊ก วิ๊งค์ด้วยสิ)เสียงของยุนฮยองดังเข้ามา ก่อนที่มินกุ๊กจะวิ๊งค์ให้แล้ววิ่งหนีไป ยุนฮยองเลยหันมาก้มหัวให้มินโฮแล้วมองชานอู (ตั้งใจทำงานล่ะ)

                “พี่ดูแลตัวเองดีๆนะพี่ยุน”

                (เออ ฉันไม่ใช่เด็กนะ)

                แล้วสายก็ถูกตัดไป ชานอูเลยยิ้มแล้วเดินออกมาจากอ้อมแขนของมินโฮ ในขณะที่จินอูยังคงตกอยู่ในภวังค์ ไม่ได้ขยับตัวไปไหน จนมินโฮที่ยืนโอบอยู่ยิ้มบางๆ แล้วเขย่าไหล่บางเบาๆ “เฮ้”

                “ฮะ อ่า”เมื่อสติกลับเข้าร่างจินอูก็เดินหลบออกมา แล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าทุกคน “เอาล่ะ ครั้งนี้จะพูดครั้งเดียวและช่วยปฏิบัติตามกันให้ดีด้วย”

                “ว่ามาเลย”จุนฮเวพยักหน้าเช่นเดียวกันกับคนอื่นๆ

                “อย่าก่อเรื่อง และตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด ห้ามหนีเที่ยว ห้ามสร้างปัญหา ถ้าฉันรู้ว่ามีใครทำทั้งหมดที่ห้ามมาล่ะก็ ฉันจะจัดการขั้นเด็ดขาด”

                “...”

                “และครั้งนี้ฉันเอาจริง พวกแกสร้างปัญหากันมามากพอแล้ว”จินอูพูดก่อนจะหันไปชี้ลีดเดอร์ที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “โดยเฉพาะนาย ซงมินโฮ”

                “นึกว่าจะไม่โดนซะอีก”มินโฮพูดกลั้วหัวเราะ

                “เฮียน่ะตัวต้องโดนเลยเหอะ”แจบอมพูด “โอเค ผมจะไม่ทำทั้งหมดที่ห้าม”

                “ผมด้วย ผมจะไม่สร้างปัญหาแน่นอน”ชานอูรับคำ

                “จะพยายามแล้วกันนะพี่”

                “ไม่ใช่แค่พยายาม แต่แกต้องทำให้ได้ จุนฮเว”

                “อ่า โอเคๆๆๆ ก็ได้”         

                “...”

                จินอูหันไปมองมินโฮอีกครั้งอย่างรอคำตอบ “นี่จะไม่รับปากใช่ไหมมินโฮ”

                “อ้าว ต้องรับปากด้วยเหรอ”

                “ก็ใช่น่ะสิ”

                “โอเค ฉันจะไม่ทำอะไรก็ตามที่ทำให้นายปวดหัว โอเคมะ”

                “ดี”จินอูยิ้มอย่างพึงพอใจ “เอาล่ะ เตรียมตัวไปขึ้นเครื่องกันได้แล้ว”

                สิ้นคำสั่งของผู้จัดการ ทุกคนก็แยกย้ายไปเตรียมของของตัวเองเพื่อเตรียมขึ้นเครื่อง จินอูเองก็เดินไปหยิบกระเป๋ามาสะพาย และจะเอื้อมไปหยิบกระเป๋าอีกใบ แต่..

                “เดี๋ยวฉันถือให้”

                “ไม่เป็นไรหรอก”จินอูปฏิเสธและพยายามแย่งกระเป๋าคืน แต่มินโฮเบี่ยงหลบ เขาเลยได้แต่ถอนหายใจ “งั้นก็ตามใจ”

                “ดีแล้ว อย่าขัดขืนนักเลยเน๊อะจิน..”

                “จินอู!!!!!!

                “อ้าว ซึงยูน”

                มินโฮเผลอขบริมฝีปากเข้าหากันเมื่อจู่ๆซึงยูนก็โผล่เข้ามาขัดจังหวะ และดูเหมือนจินอูเองก็พร้อมจะเดินจากเขาไปหาซึงยูนด้วย

                “อ่ะ ของนาย พอดีฮันบินมันต้องรีบไปบริษัทก่อนเลยฝากฉันมา”

                จินอูรับกระเป๋าใบเล็กที่ซึงยูนส่งให้แล้วยิ้มกว้าง “เฮ้ย ขอบใจมากนะ เกรงใจนายแย่เลย”

                “ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันก็ตั้งใจมาส่งอยู่แล้ว”ซึงยูนยิ้มจนตาปิด ก่อนจะหันไปมองทุกคน “ตั้งใจทำเต็มที่นะทุกคน”

                “ครับพี่”

                “ขอบคุณครับ”

                “แน่นอนอยู่แล้วลูกพี่”

                ซึงยูนยิ้มก่อนจะมองไปยังเพื่อนอีกคนที่ยืนด้านหลังจินอู “มึงด้วยนะ.. อย่าก่อเรื่องอีกล่ะ”

                “เออ กูรู้หรอกน่า”

                “เออ แล้วกูจะคอยดู”ซึงยูนพูดยิ้มๆแล้วหันมาหาจินอูอีกครั้ง “นายก็ดูแลตัวเองดีๆนะจินอู”

                “อือฮึ”   

                “แล้วฉันจะรอนายกลับมานะ”

                “อื้ม”

                มินโฮขมวดคิ้ว มือเผลอกำสายกระเป๋าแน่น รอเพื่อ?

                “รีบกลับมาหาฉันล่ะ”

                “ย๊า คังซึงยูน นายนี่ก็..”

                มินโฮมองจินอูกับซึงยูนที่คุยกันไปด้วยหัวเราะคิกคักกันไปด้วย สุดท้ายก็ทนมองไม่ไหวเลยต้องหันกลับมา ถอนหายใจเฮือกใหญ่

                “เฮ้อ..”

                ถ้าต้องเสียจินอูไปจริงจะทำยังไง..

              ..ไม่มีทางหรอก ฮึดเข้าไว้ดิวะซงมินโฮ



















     

                แม้จะไม่ได้ตั้งใจแต่มันก็เกิดขึ้นราวกับเป็นเรื่องที่มีใครตั้งใจให้มันเกิดซะแล้ว จินอูได้นั่งริมหน้าต่างสมใจอยาก แต่ที่นั่งว่างข้างเขากลับเป็นคนที่พยายามออกห่างมาตลอดอย่างมินโฮ ตอนแรกก็คิดว่ามินโฮคงขอแลกที่นั่งกับใครสักคน และเหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าถูกสงสัยเลยโชว์ตั๋วเครื่องบินให้เขาดูด้วยสีหน้านิ่งๆ

                “นายก็รู้ว่าตั๋วระบุชื่อ”มินโฮพูดเสียงเรียบแล้วนั่งลงบนที่ของตัวเอง

                “ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนายนี่”จินอูตอบขณะมองออกไปข้างนอก

                “แต่นายแสดงออกทางสีหน้าหมดละ”มินโฮพูดกลั้วหัวเราะแล้วยีผมจินอูอย่างเคยชิน

                และจินอูก็เบี่ยงหลบทันทีตามสัญชาตญาณ นั่นทำให้มินโฮดึงมือกลับมา แล้วกำเข้าหากันแน่น แล้วคลายออกเมื่อรับรู้ในความเป็นจริง

                ก็เป็นคนทำผิดกับจินอูก่อน จะไปเรียกร้องอะไรได้ล่ะ

                “อื้อหือ นี่บอสทำโทษกันหรือไงวะ”

                จินอูเหล่มองคนข้างๆที่เริ่มโวยวาย “อะไรอะ..”

                เพราะเป็นที่นั่งแบบธรรมดา แน่นอนว่าขายาวๆอย่างมินโฮก็ต้องนั่งลำบากอยู่แล้ว เหมือนครั้งที่แล้วไม่มีผิดเลย จนอูเลยแอบหัวเราะเบาๆแล้วแสร้งทำเป็นไม่สนใจมินโฮที่บ่นไม่หยุด จนสุดท้ายก็ทนรำคาญไม่ไหวเลยหันไปมอง

                “ถ้าเมื่อยขนาดนั้น เอาขาวางนี่ไหม”

                มินโฮมองจินอูที่ตบขาตัวเอง “ดะ ได้เหรอ”

                “ก็ฉันรำคาญ บ่นอยูได้”

                “ให้ฉันวางขาพาดนายอ่ะนะ แล้วนาย..”

                “อย่ามาทำแอ๊บเป็นห่วงเป็นใยเว้ย ครั้งที่แล้วนายก็ทำ”

                ก็ครั้งที่แล้วนายยอมฉันทุกอย่างนี่จินอู

                “จะไม่วางใช่ปะ งั้นก็เลิกบะ..”

                จินอูยิ้มมุมปากเมื่อขายาวๆของมินโฮวางพาดอยู่บนตักตัวเอง “โอ๊ยยย ค่อยยังชั่วหน่อย”

                “หึ”

                “ขอบใจนะจินอู”

                “คราวนี้ก็เลิกบ่นสักที ฉันจะนอน”

                “อืม”

                มินโฮพยักหน้า ส่วนจินอูก็เอาหัวพิงกับกระจกแล้วหลับตาเพราะตื่นเช้ามาก ก็เลยง่วงแบบนี้ มันก็เหมือนกับครั้งที่แล้วที่มินโฮได้แต่ยิ้ม เวลาที่ได้มองหน้าจินอูแบบนี้

                พอจะมีความหวังขึ้นมาแล้วสิ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

                ใช้เวลาไปเกือบจะครึ่งวัน ในที่สุดทุกคนก็เดินทางมาถึงโดยสวัสดิภาพ จินอูเป็นคนไปจัดการเรื่องเช็คอิน เมื่อเรียบร้อยก็เดินกลับมาหาอีก 4 คนที่ยังสะลืมสะลือไม่หาย

                “ตื่นๆๆๆๆๆๆๆๆ ตื่นตั้งสติกันได้แล้วพวกแก ถ้าจะหลับค่อยขึ้นไปหลับบนห้องนู่น”

                “ง่า ก็มันง่วงอ่ะพี่”ชานอูพูด แล้วบิดขี้เกียจ “โคตรจะเมื่อยเลย เบาะโคตรแคบ เน๊อะพี่แจบอม”

                “- - ก็ไม่เห็นจะรู้สึกเมื่อยอะไรสักเท่าไหร่นะ”

                “ชานอู อย่าไปพูดกับคนเตี้ยดิ มันจะไปรู้สกอะไร ฮ่าๆๆๆ”

                “ไอ้จุนฮเว กูเตี้ยกว่ามึงแค่สามเซนปะ อย่ามาเยอะ”

                “ฮ่าๆๆๆๆ”

                “ย๊า อย่าเพิ่งมาตีกัน”จินอูรีบปราม กลัวจะเกิดสงครามขึ้นอีก มองคีย์การ์ดกับกระดาษในมือ “โรงแรมนี้เป็นโรงแรมระดับเจ็ดดาว และขึ้นชื่อว่าดีที่สุดของเมืองนี้ เพราะงั้นพวกแกไม่ต้องกังวลเรื่องความสะดวกสบาย บอสไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น”

                “ให้มันจริงเหอะ แค่เครื่องบินก็แทบแย่แล้ว”จุนฮเวพึมพำ นึกเคืองตาแก่ลงพุงนั่นไม่หาย อย่าให้ได้เจอเชียว

                “อันนี้ของแกแจบอม”จินอูยื่นคีย์การ์ดที่มีเลขห้องติดอยู่ให้แจบอม “กับชานอู”

                “ให้เดาอันนั้นคงเป็นของผมกับเฮียสินะ”

                “เก่งมากไอ้ลูกหมา”จินอูพูดยิ้มๆ ก่อนโยนให้จุนฮเว “ไปๆ เอาของไปเก็บแล้วจะนอน จะเล่นอะไรก็เรื่องของพวกแก แต่ห้ามออกมาจากห้องจนกว่าทีมงานจะมา เข้าใจไหม”

                “รับทราบ”ชานอูพยักหน้าก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าล็กมาสะพาย ในขณะที่พวกกระเป๋าเสื้อผ้าก็ให้พนักงานเขาจัดการไป

                “พี่จินอู”

                “ว่าไงแจบอม”

                “แล้วเนียร์นอนไหนอ่ะ”

                จินอูยิ้ม ส่ายหน้าเบาๆ “เป็นห่วงจริงจริ๊งจินยองเนี่ย”

                “ก็..”

                “ไม่ต้องห่วงหรอกน่า จินยองนอนกับฉัน”

                “แล้วไป แบบนั้นค่อยหายห่วง ผมฝากด้วยนะพี่”

                “เออ ขึ้นไปพักได้แล้วไป”

                “เฮีย”

                “ฮะ อะไร”มินโฮหันไปหาจุนฮเวที่เรียก เมื่ออีกฝ่ายทำท่าว่าจะขึ้นห้องเขาก็โบกมือ “มึงขึ้นไปก่อนเลย”

                “อ่า อืมๆๆๆ เจอกันบนห้อง”

                มินโฮยักคิ้ว มองทั้งสามคนที่เดินไปกันแล้ว ก่อนที่ร่างสูงจะปราดเข้าไปคว้ากระเป๋าที่จินอูกำลังจะถือขึ้นมาถือเอง “ฉันถือให้”

                “ไม่ต้องก็ได้ มันเบา”

                “เอาน่า ถือว่าตอบแทนที่นายให้ฉันไม่เมื่อยขา”

                “หึ ก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นบุญคุณขนาดนั้นหรอก”จินอูพูดแล้วยักไหล่ “แต่ถ้าอยากจะถือก็ตามใจ”

                มินโฮยิ้มตาหยีแล้วเดินตามจินอูไปขึ้นลิฟต์ ขึ้นไปบนห้องของตัวเอง

                “คนละชั้นกับที่พวกฉันอยู่เหรอ”

                “อืม ของพวกนายน่ะหรูกว่าเยอะ”

                “ก็แน่นอน”

                “เออ ห้องสำหรับวงมั่นหน้าโดยเฉพาะเลย”

                “ฮ่ะๆๆๆๆ”

                มินโฮเดินตามหลังจินอู มองคนตรงหน้าแล้วก็ยิ้มแต่เป็นยิ้มที่ไม่เต็มยิ้ม จินอูเหมือนจะทำตัวปกติ เหมือนอะไรๆก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ ว่ามันไม่ได้เหมือนเดิมเลย

                ไม่รู้ว่าจินอูสร้างกำแพงกั้นไม่ให้เขาเข้าไปใกล้สูงแค่ไหนแล้ว..

                “เอาวางไว้บนเตียงแหละ ขอบใจมาก”จินอูพูด บุ้ยปากให้มินโฮเอากระเป๋าไปวางบนเตียง ก่อนที่ตัวเขาจะเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ

                แต่เมื่อออกมาจากห้องน้ำ จากที่คิดว่ามินโฮกลับออกไปแล้วมันไม่ใช่ เพราะมินโฮยังอยู่ แถมยังนอนแผ่เต็มเตียงอีกต่างหาก

                “นี่ ทำอะไรของนาย”

                “ฉันง่วงอ่ะ”

                “ก็กลับไปนอนที่ห้องนายดิ ฉันก็ง่วง จะนอนเหมือนกัน”

                “ขี้เกียจเดินกลับแล้ว”

                “แต่..”จินอูกลอกตาอย่างเซ็งๆ รู้ดีว่าไล่ยังไงก็ไม่มีทางไปหรอก ลองได้นอนแบบนั้นแล้วน่ะ “งั้นก็เขยิบไป”

                มินโฮเขยิบไปชิดอีกฝั่งของเตียงตามที่จินอูบอกว่าอย่างว่าง่าย แล้วหลับตาพริ้มด้วยความเพลีย จินอูเลยยักไหล่ แล้วเดินไปอีกฝั่งของเตียง

                ห้องของเขาและทีมงานคนอื่นๆไม่ใช่ห้องเตียงเดี่ยวอย่างของพวกเมมเบอร์ มันเป็นเตียงคู่ แถมโซฟาก็ยังเป็นแบบนั่งเดี่ยว จะให้นอนโซฟาก็เมื่อยตาย จะนอนับพื้นก็ไม่ไหว เพราะแบบนั้นเลยต้องนอนบนเตียงเดียวกัน

                มินโฮหลับไปแล้วล่ะ.. คงไม่ตื่นมาแผลงฤทธิ์อะไรกับเขาอีก

                คิดแบบนั้นจินอูก็เลยหลับตาลง ไม่ช้าก็เข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความอ่อนเพลีย เมื่อรับรู้ถึงลมหายใจที่สม่ำเสมอแล้ว คนที่ชิงหลับไปก่อนก็ค่อยๆลืมตาขึ้น

                มินโฮหันกลับมาทางจินอู แล้วตะแคงมองใบหน้าหวานยามหลับอย่างแสนคิดถึง.. นิ้วเรียวยกขึ้นไล้ไปที่ใบหน้าเนียนเบาๆ ไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้เพราะกลัวจินอูจะโกรธ สุดท้ายก็ได้แต่มองอยู่แบบนี้เท่านั้น

                “เมื่อไหร่นายจะให้อภัยฉัน..”

                ...

                คิดถึงนายแทบบ้าแล้วนะจินอู


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×